ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic snsd] ღ.Yes! It's fate.ღ {TaeNy}

    ลำดับตอนที่ #5 : สะกดรอย

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 56


    หลังจากที่ทั้ง3สาวตามพี่ชีวอนกับผู้หญิงนิรนามมาแล้วก็เจอเข้ากับเหตุการณ์ที่ช๊อคกันไปชั่วขณะโดยไม่คิดเลยว่าพี่ชีวอนที่แสนดี  เป็นสุภาพบุรุษจะเป็นคนแบบนี้เธอได้แต่ตั้งคำถามว่าผู้หญิงคนนั้นคือใครแล้วจะเป็นอย่างที่เธอคิดหรือไม่  เธอมีคำถามเต็มไปหมดแต่เธอว่าเธอเข้มแข็งพอที่จะตามดูคนทั้งคู่ต่อให้รูไปเลยว่า  แฟนที่แสนดีของเธอจะนอกใจจริงหรือป่าว

    “ฟานี่  แกเห็นเหมือนที่ชั้น2คนเห็นเมื่อกี้มั้ย?”  เจสสิก้าหันไปถามเพื่อนสาวตายิ้มเพราะเห็นว่าเมื่อเจอภาพบาดตาถึงกับเงียบไม่ปริปากพูดอะไรสักคำเลย  ทิฟฟานี่ได้แต่พยักหน้าบอกว่าเธอเห็น

    “แล้วจะเอาไงต่อ  จะตามมั้ยจะได้รู้ๆกันไปเลยว่าเขาเป็นอะไรกันเจ็บหนักครั้งเดียวแล้วฉลาด  ดีกว่าเจ็บหลายๆครั้งแล้วเป็นคนโง่ให้เขาหลอกสวมเขานะฟานี่”  ซันนี่พูดเตือนสติเพื่อนเมื่อเห็นทิฟฟานี่เริ่มจะไม่ตามต่อเธอไม่อยากให้เพื่อนโดนหลอกถ้าชีวอนนอกใจเพื่อนเธอจริง  แต่ถ้าไม่เธอก็ยอมให้เพื่อนโกรธเพราะเธอหวังดีกับเพื่อนเธอจริงๆ  ทิฟฟานี่เห็นถึงความหวังดีของเพื่อนทั้ง2จึงยอมตกลงเดินตามคนทั้งคู่ไปต่อจนถึงร้านอาหารทั้งคู่จึงเดินเข้าไป  พวกเธอเดินมาถึงก็หาทางเพื่อจะได้เห็นภาพการกระทำของคนทั้งคู่ให้ชัดเจนจึงเลือกเข้าร้านไอศกรีมที่อยู่เยื้องตรงข้ามกันเล็กน้อย  โชคดีที่คนทั้งคู่นั้นเลือกที่นั่งใกล้บริเวณกระจกร้านจึงสะดวกที่พวกเธอจะมองเห็นได้ไม่ยาก  พวกเธอเลยเลือกที่นั่งเข้าไปในร้านหน่อยแต่ก็ยังสามารถมองเห็นคนทั้งคู่ได้แต่ก็ก็จะเป็นการยากอยู่ที่คนคู่นั้นจะเห็นพวกเธอ

    “ฟานี่แกเห็นเหมือนที่ฉันเห็นมั้ย?”  ซันนีเริ่มเปิดประเด็นเมื่อเห็นชีวอนคอยเทแคร์ตักนู่นนี่นั่นให้ผู้หญิงคนนั้น

    “เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้  อย่าเพิ่งคิดไปไกลซิ”  ทิฟฟานี่ยังมองโลกในแง่ดีอยู่เธอยังไม่อยากจะเชื่อสายตาซักเท่าไหร่

    “แสดงว่าแกต้องเห็นเขาจูบ  พากันเข้าม่านรูดซินะแกถึงเชื่อว่าเขานอกใจแก”  เจสสิก้าเริ่มระอาในการมองโลกในแง่ดีของเพื่อนสาวตายิ้ม  ยังพูดไม่ทันจบดีก็เห็นคนคู่นั้นพลัดกันป้อนมันดูหวานมากมันต้องไม่ใช่เพื่อน  ลูกค้าแน่นอน(ในความคิด)

    “ชั้นว่าแกควรทำอะไรสักอย่างนะฟานี่”  เจสสิก้าหันมาพูดต่อ  “แล้วจะให้ฉันทำยังไงหล่ะเจสซี่”  อยู่ๆซันนี่ก็พูดออกมา

    “เอางี้ซิ  แกลองโทร.หาพี่เค้าถามว่าเขาทำอะไรอยู่แบบถามสารทุกข์สุขดิบแต่เอาแบบเนียนๆนะ   เดี๋ยวเขาจะรู้ตัวก่อน”

    สาวหน้าหวานราวกับนางฟ้าก็ได้แต่พยักหน้าแต่ใจเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแฟนที่แสนดีของเธอจะพูดความจริงหรือว่าจะโกหก  เพราะเธอก็นั่งมองคนทั้งคู่อยู่ตลอดเวลาคิดได้ดังนั้นก็หยิบเครื่องมือสื่อสารโทร.หาเขาคนนั้น

    ครืดๆๆๆ ครืดๆๆๆ     “(เรียนเสร็จแล้วหรอค่ะน้องฟานี่)”  ชายหนุ่มตอบกลับเสียงปลายสายให้เป็นปกติมากที่สุด

    “ค่ะพี่ชีวอน  คิดถึงพี่จังพี่ทำอะไรอยู่หรอค่ะ”  เธอก็ไม่แพ้กันแสร้งถามกลับด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนทุครั้งให้เขาตายใจ

    “(แล้วมีแพลนจะไปไหนต่อหรือป่าวคับ  ถ้าพี่ว่างก็ดีจะได้รีบตามไปด้วยคิดถึงฟานี่จังเลยคับ  น่าเสียดายจังที่เย็นนี้พี่เลื่อนประชุมไม่ได้ด้วย  แล้วกว่าจะเสร็จก็คงจะดึกมากแน่ๆเลย  เฮ้อ!คิดถึงแฟนจังคับ)”  ยังหยอดคำหวานให้คนปลายสาย

    “ฟานี่ก็คิดถึงพี่ค่ะงานพี่ยุ่งมาก  งั้นฟานี่ไม่กวนแล้วนะค่ะพี่จะได้ทำงาน  เดี๋ยวฟานี่ก็จะไปเที่ยวกับเจสซี่และก็ซันนี่ แล้วค่ะ”

    ”(งั้นดูแลตัวเองดีๆนะคับพี่เป็นห่วง  พรุ่งนี้เจอกันตอนเช้าเดี๋ยวพี่ไปรับนะคับงั้นคืนนี้ฝันดีนะคับ  พี่รักฟานี่มากๆนะคับ)”

    เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้ถึงการกระทำของตนก็วางใจ  แล้วทำให้ดูเหมือนตัวเองยุ่งมากเพื่อที่จะได้รีบวางสายกลัวโดนจับได้

     “ค่ะฟานี่ก็รักพี่เหมือนกัน  อย่าเครียดมากนะคะเป็นห่วงพี่นะคะงั้นแค่นี้นะค่ะ  Bye”  สาวตายิ้มก็แกล้งพูดให้เหมือนปกติที่สุดทั้งที่อยากจะบอกให้หยุดโกหกได้แล้วเพราะเธอเห็นมันหมดแล้ว  เขาโกหกเธอทุกอย่างเพื่อหลอกเธอ

    “บอกว่างานยุ่งมากเย็นนี้ติดประชุมอีก  ไม่งั้นจะรีบตามพวกเรามา”  ได้แต่ระบายในสิ่งที่ได้ยินเขาโกหกใส่เธอให้เพื่อนฟัง

    “เขาบอกแกมั้ย?ว่าที่งานยุ่งนี่ใช่การมากนั่งป้อนข้าวผู้หญิง2ต่อ2หรือป่าว”  ซันนี่ได้แต่ประชดประชันในคำโกหกชายหนุ่ม

    “งั้นก็เหลือแต่ประชุมตอนเย็นซินะไม่รู้จะประชุมเรื่องอะไรแล้วประชุมที่ไหนกัน”  เจสสิก้าแค่พูดตามคำโกหกปนขำเล็กน้อยแต่อาการของเพื่อนสาวตายิ้มก็ไม่พ้นสายตาเพื่อนสนิททั้งเพราะเธอน่าจะเสียใจมากกว่านี้แต่ทำไมแทบไม่มีอาการเลย

    “ฟานี่ชั้นถามแกจริงซิ  นี่แกไม่เสียใจร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอื่นหรอที่แฟนแกโกหกแก  นอกใจแกแบบนี้อ่ะ” 

    ซันนี่ถามเมื่อไม่เข้าใจในอาการของเพื่อนสาวเลยซักนิด  ไม่มีอาการใดๆที่ดูน่าเป็นห่วงเลย

    “ไม่รู้ซิถามว่าเสียใจมั้ย  แน่นอว่าทั้งเสียใจทั้งผิดหวังมากๆแต่ไม่รู้ซิเหมือนมันยังไม่เจ็บถึงกับต้องร้องไห้ฟูมฟายอ่ะ  แต่ก็เจ็บเหมือนกันนะ  แต่ฉันก็ยังอยากรู้ว่าเขาจะโกหกอะไรฉันอีกจะให้พูดยังไงดี  น้ำตาฉันมันไม่ยอมไหลอ่ะแก”

    เพื่อนทั้ง2ได้แต่ งง?กับอาการของทิฟฟานี่  แต่อยู่เจสสิก้าก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทิฟฟานี่ได้คิด

    “งั้นมันก็มีแค่2ทางเลือก  1.แกรักเค้ามากเลยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติสำหับผู้ชายแค่เขายังรักแกเหมือนเดิมเห็นแกเป็นที่สุด  แกก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาทันทีที่เขาขอโทษเพื่อจะรักษาความรักเอาไว้  ประมาณรักคือการให้อภัย”

    “อี๊เลี่ยนอ่ะนังเจส  รักคือการให้อภัย  ฟานี่ชั้นไม่ว่าอะไรแกหรอกนะถ้าแกจะมองโลกในแง่ดี  แต่นี่มันดีเกินไปแล้วถ้าแกไม่ได้บ้า หรือ เสียใจจนเพี้ยนไปแล้วนะ”  ซันนี่รับไม่ได้อย่างแรงกับตัวเลือกแรกของเจสสิก้า

    “อย่าเพิ่งขัดได้ป่ะแกต่อๆข้อ  2.แกไม่ได้รักพี่เค้าเลยแค่รู้สึกดีด้วยได้ใกล้ชิดกันจนผูกพันกันจนคิดว่ารักแต่ไม่ได้รักอีกอย่างนะเขาทำดีกับแกซะ  แกอาจจะสับสนรู้สึกดีผูกพันกับรักมมันต่างกันแต่นิดเดียวนะแกลองดูดีๆ  ถามใจตัวเองให้แน่นอนว่ารู้สึกยังจะได้ตัดสินใจว่าจะเอายัไงต่อ”  เจสสิก้าเตือนสติเพื่อนสาวให้คิดดีๆถึงเรื่องความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มพวกเธอเคารพในการตัดสินใจของเพื่อนเสมอเพื่อนว่าไงพวกเธอก็ว่าอย่างนั้น  แต่พวกเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนถูกหลอกเหมือนคนโง่ที่โดนเขาหลอกอยู่เรื่อยไป 

    “ฉันไม่รู้เหมือนกันแกแต่ที่รู้ฉันเสียใจเจ็บที่โดนเขาหลอก  และไม่พร้อมให้อภัยเขาแน่นอนถึงให้ก็ไม่ใช่แฟนคงเปลี่ยนเป็นแค่พี่ที่รู้จักกันที่เคยรู้สึกดีด้วย  ความรู้สึกใจฉันบอกแบบนี้  และที่สำคัญฉันอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อจะโกหกอะไรอีก”

    “แสดงว่าแกอยู่ในข้อ2ของยัยเจสซี่ซินะถึงว่าแกไม่เห็นร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอื่นที่โดแฟนนอกใจ”

    “คงอย่างนั้นมั้ง  ฮึๆๆๆ”  สาวตายิ้มขำในลำคอเล็กน้อยพร้อมหันออกไปมองทางที่คนทั้งคู่ที่ยังคงผลัดกันป้อนข้าวกันเหมือนอร่อย  พวกเธอก็นั่งกินไอติมกันแบบชิวๆพลางมองทั้งคู่บ้างเป็นครั้งคราว  จนสักพักก็เหมือนเห็นทั้งคู่กินเสร็จแล้วเหมือนจะพากันไปที่ไหนต่อพวกเธอเลยรีบเช็คบิลแล้วรีบตามไปโดยเว้นระยะห่างพอควรที่จะตามทัน  และไม่ไห้คนทั้งคู่สงเกตุเห็นพวกเธอได้จนมาถึงลานจอดรถของห้างฯ  พอเห็นทั้งคู่เข้าไปในรถกันพวกเธอก็จะรีบขึ้นรถเหมือนกันแต่ก็ต้องชะงักเมื่อภาพที่พวกเธอเห็นคือ  ชีวอนกำลังจูบกับผู้หญิงคนนั้นอย่างดูดดื่มและเหมือนจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ  พวกเธอได้แต่มองอย่างอึ้งๆไม่คิดเลยว่าพี่ชีวอนที่แสนดีของพวกเธอจะหื่นได้แบบนี้เมื่อเห็นชีวอนจับและบีบหน้าอกผู้หญิงคนนั้น

    “ฟานี่แกว่ามั้ยเพื่อนกันเขาคงทำแบบนี้หรอก”  ซันนี่หันไปพูดกับเพื่อนสาว  “ฉันว่าก็คงไม่ใช่เพื่อนอย่างที่แกบอกหรอก”

    “นี่ไม่ต้องบอกก็พอเดาออกเลยว่าไอที่ติดประชุมตอนเย็นมันคืออะไร?”  ปากพูดแต่มือดันถ่ายวิดีโอของทั้งคู่อยู่ขณะจูบกัน

    “นี่นังเจสแกจะถ่ายให้ไปเป็นเสนียดมือถือทำไมย่ะ?”  ซันนี่ไม่เข้าใจเพื่อนสาวผมบลอนซ์เลยซักนิดว่าจะถ่ายไปทำไม

    “หลักฐานนะรู้จักมั้ย  จะได้มัดตัวดิ้นไม่หลุดเวลาฟานี่บอกเลิกไงหัดฉลาดบ้างซิ”  หันไปไขข้อสงสัยให้เพื่อนสาวทั้ง2

    “ขอบใจมากนะเจสซี่”  ทิฟฟานี่หันไปยิ้มขอบใจให้เพื่อนแล้วพวกเธอก็รีบขับรถและขับออกไปตามทางที่รถของชีวอนขับไปตลอดทาง 

    “คอยดูนะชั้นจะถ่ายให้ดิ้นไม่หลุดเลย  อุ๊ย!เข้าม่านรูดด้วยถ่ายให้หมดชื่อม่านรูดด้วย”  ทั้งรถได้แต่ยิ้มให้กับความตั้งใจถ่ายของเจสสิก้า  “แกตามไปถ่ายในห้องด้วยก็ดีนะย่ะเจสซี่”  ซันนี่แซวเมื่อยังเห็นเจสสิก้ายังถ่ายอยู่ทั้งๆที่รถของชีวอนก็เลี้ยวเข้าไปจอดในห้องทีม่านรูดเตรียมไว้

    “เอาไงต่อดีละแก”  ซันนี่ถามความเห็น  “เลี้ยวเข้าห้องข้างๆเลยแกจะได้จับผิดได้ชัดเจน”  ทิฟฟานี่เลี้ยวรถจอดที่ห้องข้างๆตามที่เจสสิก้าบอกแล้วทั้งหมดก็พากันเพื่อที่จะเข้าห้องแต่ก่อนจะเข้าห้อง  เจสสิก้าไม่วายที่จะไปถ่ายเลขหน้าห้องของชีวอนรวมถึงป้ายทะเบียนรถเพื่อให้เจ้าของรถดิ้นไม่หลุด  และทั้งหมดพากันเข้าห้องไป

    “ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเรียกว่าม่านรูด  ดูซิมีแต่ม่านเต็มไปหมดม่านปิดรถ  ม่านปิดห้องน้ำ  ม่านปิดหน้าต่าง”  ซันนี่เพิ่งรู้

    “แล้วเอาไงต่อดีหล่ะทีนี้  เฮ้อ!ตื่นเต้นเหมือนกันเน้อเหมือนพวกเราเป็นนักสืบเลยอ่ะแก”  หัวเราะออกมาเล็กน้อย

    “นี่ฟานี่แกเปลี่ยนโหมดเร็วไปมั้ยแทนที่แกจะเสียใจกลับตื่นเต้นซะงั้น”  ทิฟฟานี่ไหวไหล่ประมาณว่าเธอไม่ได้รู้สึกอย่าที่เพื่อนพูดเท่าไหร่เลยหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดทีวีดูเพื่อฆ่าเวลารอคนทั้งคู่ออกมา

    “อ๊าๆๆ  อื้มๆๆ…  โอ้วๆๆ…  อ๊าๆๆ”  ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างและหันกลับมาทางต้นเสียงต่างคนต่างหน้าแดงต่างเริ่มมองหน้ากัน  พอเปลี่ยนไปกี่ช่องก็มีแต่หนังแบบนั้นให้ดู  มันเป็นที่สำหรับทำเรื่องแบบนี้จริงๆ 

    ก๊อกๆๆ  จนมีเสียงเคาะประตูทำให้ทั้งหมดหลุดจากภวังค์  ทิฟฟานี่จะปิดแต่ซันนี่ไม่ให้ปิดเปิดไว้เพื่อความเนียน  ตอนนี้เจสสิก้าอยู่ใกล้ประตูสุดจึงรีบไปเปิดประตูทั้งๆที่ยังคงมีเสียง  “อ๊าๆๆ  อื้มๆๆ…  โอ้วๆๆ…  อ๊าๆๆ”  ของทีวีดังอยู่เรื่อยๆ

    “สวัสดีครับ  ผมเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟครับ”  เด็กเสิร์ฟมองหน้าพวกเธอก็งง?ผู้หญิง3คนในที่แบบนี้  คงจะอย่างว่าแน่นอนเขามองพวกเธออย่างน่าเสียดายจริงๆ  คนหนึ่งสวยมาก  อีกคนก็หน้าหวานน่ารักมาก  อีกคนก็ตัวเล็กหุ่นเซ็กซี่  ขาวๆเนื้อนวลๆสวยทุกคนมันน่าเสียดาวของจริงๆในความคิดของเด็กเสิร์ฟตอนนี้   เจสสิก้าเหมือนจะอ่านความคิดได้ก็เลยบอกไปให้เด็กเสิร์ฟคลายความสงสัยในตัวพวกเธอแบบให้เลิกถามไปเลย  เพราะเธอเริ่มรำคาญแล้วไหนจะเสียงทีวีที่เปิดอีกมันส่อ

    “ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ  พวกเราเป็นแฟนกันทำเรื่องแบบนี้เป็นประจำค่ะถ้าให้พูดง่ายๆพอดีพวกเราเป็น เลสเบี้ยน พลัดกันทำค่ะ  มีอะไรสงสัยอีกป่าวค่ะ  นี่ค่ะทิปอาจเสียงดังหน่อยนะคะ  ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอเวลาส่วนตัวให้เรา3คนก่อนนะคะ”

    ทันทีที่พูดเจสสิก้าก็ปิดประตูใส่หน้าเด็กเสิร์ฟแล้วเดินไปวางเครื่องดื่มที่โต๊ะแล้วเดินกลับมาเร่งเสียงทีวีให้ดังขึ้นกว่าเดิม

    “เจสซี่แกพูดถูกใจฉันมากเลยอ่ะ”  ซันนี่เริ่มเปิดประเด็นแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทุกคน

    “ก็ตอนนั้นไม่รู้จะตอบยังไงแกไม่เห็นสายตาที่มันมองเราหรอฉันรำคาญเลยบอกไปแบบนั้น  แต่ก็นะมันก็น่าลองเหมือนกัน”

    “บ้า”  ทั้งทิฟฟานี่และซันนี่ต่างประสานเสียงด้วยความตกใจในคำพูดของเพื่อนสาวที่พูดออกมา  

     “ชั้นล้อเล่น  พวกแกอย่าคิดมากได้มั้ยชั้นก็พวกเดียวกับแกนั่นแหล่ะจะทำได้ไง  555”  พูดความจริงแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่

    “แล้วอีกนานมั้ยแกกว่าเขาจะเสร็จกันนะ”  ทิฟฟานี่ถามเพื่อนเพราะเธออยากจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบซักทีไม่อยากค้างคาเอาไว้และอีกอย่างเธออยากออกไปจากที่แบบนี้ซะเต็มทีแล้ว

    “ชั้นก็ไม่รู้ว่าอีกนานมั้ยแต่ที่แน่ๆนะเค้าเสร็จกันแล้วๆคงจะเสร็จกันมานานแล้วด้วย”  พอซันนี่พูดเสร็จทุกคนก็หัวเราะกัน

    “นี่แกปิดทีวีก่อนชั้นได้ยินเสียงอะไรแว่วจากห้องพี่ชีวอนไม่รู้พวกแกมาฟังซิ”  เมื่อได้ยินที่เจสสิก้าพูดดังนั้นทุกคนก็ลุกขึ้น

    มาเอาหูแนบฝาผนังฟังเสียงจากห้องชีวอนกันด้วยความอยากรู้

    “  อ๊าๆๆๆ  …  อื้มๆๆๆ  …  อ๊าส์ๆๆๆ  คุณยังลีลาดีไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ”

    “  โอ้วๆๆๆ  อื้มๆๆๆ    โอ้วๆๆๆ  คุณก็ยังลีลาดี  เซ็กซี่  ร้อนแรงไม่เปลี่ยนเลย  มีอะไรกับคุณทีไรผมมีความสุขทุกที ”

    ทั้ง2คุยกันด้วยน้ำเสียงแหบพล่าเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีความสัมพันธ์สวาทกันอยู่  โดยไม่รู้ว่ามีใครแอบฟังพวกเขาอยู่

    “  อ๊าๆๆๆ  …  อ๊าๆๆๆ    อ๊าส์ๆๆๆ……… 

    “  โอ้วๆๆๆ  อื้มๆๆๆ…  โอ้วๆๆๆ………  ”

    … … …

    … … …  ทุกอย่างดำเนินไปตามแรงสวาทของทั้ง2

    … … …

    “  อ๊าๆๆ   อ๊าๆๆ   อ๊าๆๆ  อ๊าส์……  ”

    “  โอ้วๆๆ  อื้มๆๆ  อ๊าๆๆ  อ๊าส์……  “  เมื่อเสียงครางสุดท้ายสิ้นสุดลงชีวอนก็ลงมานอนข้างๆหญิงสาวอย่างหมดแรง

    แล้วหลับไปในที่สุดเพราะเพลียจากบทรักสวาทเมื่อกี้ที่เขาใส่ไม่ยั้ง

     

    ฝากผู้ที่แอบฟังผู้อื่นร่วมรักกัน

    “พวกเขาจัดเต็มกันเลยนะเนี่ยะ”  ซันนี่เริ่มเปิดประเด็นตามด้วยทิฟฟานี่  “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชีวอนจะเป็นคนแบบนี้”

    “ก็อ่ะนะเรื่องอย่างว่าห้ามกันไม่ได้ร้อนแรงซะ”  พร้อมกับดูโทรศัพท์ที่อัดเสียงร่วมรักของพวกเขาทั้ง2ไว้เป็นหลักฐานเพื่อที่จะได้ดิ้นไม่หลุดเพราะเธอถ่ายคลิปวีดีโอไว้ตั้งแต่จูบกันในรถ  ขับเข้าม่านรูดชื่อม่านรูด  ห้องที่ทั้ง2ใช้ร่วมรักและบวกกับเวลาตรงกันหมดทุกอย่างเป็นเรื่องจริงแล้วไหนจะเสียงคลิปที่ร่วมรักกันอีก  คราวนี้ไม่มีข้อแก้ตัวให้หลุดพ้นจากความผิดไปได้แน่นอน


    จบตอนแล้ว...To Be Continue  ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×