คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สะกดรอย
หลังจากที่ทั้ง3สาวตามพี่ชีวอนกับผู้หญิงนิรนามมาแล้วก็เจอเข้ากับเหตุการณ์ที่ช๊อคกันไปชั่วขณะโดยไม่คิดเลยว่าพี่ชีวอนที่แสนดี เป็นสุภาพบุรุษจะเป็นคนแบบนี้เธอได้แต่ตั้งคำถามว่าผู้หญิงคนนั้นคือใครแล้วจะเป็นอย่างที่เธอคิดหรือไม่ เธอมีคำถามเต็มไปหมดแต่เธอว่าเธอเข้มแข็งพอที่จะตามดูคนทั้งคู่ต่อให้รูไปเลยว่า แฟนที่แสนดีของเธอจะนอกใจจริงหรือป่าว
“ฟานี่ แกเห็นเหมือนที่ชั้น2คนเห็นเมื่อกี้มั้ย?” เจสสิก้าหันไปถามเพื่อนสาวตายิ้มเพราะเห็นว่าเมื่อเจอภาพบาดตาถึงกับเงียบไม่ปริปากพูดอะไรสักคำเลย ทิฟฟานี่ได้แต่พยักหน้าบอกว่าเธอเห็น
“แล้วจะเอาไงต่อ จะตามมั้ยจะได้รู้ๆกันไปเลยว่าเขาเป็นอะไรกันเจ็บหนักครั้งเดียวแล้วฉลาด ดีกว่าเจ็บหลายๆครั้งแล้วเป็นคนโง่ให้เขาหลอกสวมเขานะฟานี่” ซันนี่พูดเตือนสติเพื่อนเมื่อเห็นทิฟฟานี่เริ่มจะไม่ตามต่อเธอไม่อยากให้เพื่อนโดนหลอกถ้าชีวอนนอกใจเพื่อนเธอจริง แต่ถ้าไม่เธอก็ยอมให้เพื่อนโกรธเพราะเธอหวังดีกับเพื่อนเธอจริงๆ ทิฟฟานี่เห็นถึงความหวังดีของเพื่อนทั้ง2จึงยอมตกลงเดินตามคนทั้งคู่ไปต่อจนถึงร้านอาหารทั้งคู่จึงเดินเข้าไป พวกเธอเดินมาถึงก็หาทางเพื่อจะได้เห็นภาพการกระทำของคนทั้งคู่ให้ชัดเจนจึงเลือกเข้าร้านไอศกรีมที่อยู่เยื้องตรงข้ามกันเล็กน้อย โชคดีที่คนทั้งคู่นั้นเลือกที่นั่งใกล้บริเวณกระจกร้านจึงสะดวกที่พวกเธอจะมองเห็นได้ไม่ยาก พวกเธอเลยเลือกที่นั่งเข้าไปในร้านหน่อยแต่ก็ยังสามารถมองเห็นคนทั้งคู่ได้แต่ก็ก็จะเป็นการยากอยู่ที่คนคู่นั้นจะเห็นพวกเธอ
“ฟานี่แกเห็นเหมือนที่ฉันเห็นมั้ย?” ซันนีเริ่มเปิดประเด็นเมื่อเห็นชีวอนคอยเทแคร์ตักนู่นนี่นั่นให้ผู้หญิงคนนั้น
“เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ อย่าเพิ่งคิดไปไกลซิ” ทิฟฟานี่ยังมองโลกในแง่ดีอยู่เธอยังไม่อยากจะเชื่อสายตาซักเท่าไหร่
“แสดงว่าแกต้องเห็นเขาจูบ พากันเข้าม่านรูดซินะแกถึงเชื่อว่าเขานอกใจแก” เจสสิก้าเริ่มระอาในการมองโลกในแง่ดีของเพื่อนสาวตายิ้ม ยังพูดไม่ทันจบดีก็เห็นคนคู่นั้นพลัดกันป้อนมันดูหวานมากมันต้องไม่ใช่เพื่อน ลูกค้าแน่นอน(ในความคิด)
“ชั้นว่าแกควรทำอะไรสักอย่างนะฟานี่” เจสสิก้าหันมาพูดต่อ “แล้วจะให้ฉันทำยังไงหล่ะเจสซี่” อยู่ๆซันนี่ก็พูดออกมา
“เอางี้ซิ แกลองโทร.หาพี่เค้าถามว่าเขาทำอะไรอยู่แบบถามสารทุกข์สุขดิบแต่เอาแบบเนียนๆนะ เดี๋ยวเขาจะรู้ตัวก่อน”
สาวหน้าหวานราวกับนางฟ้าก็ได้แต่พยักหน้าแต่ใจเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแฟนที่แสนดีของเธอจะพูดความจริงหรือว่าจะโกหก เพราะเธอก็นั่งมองคนทั้งคู่อยู่ตลอดเวลาคิดได้ดังนั้นก็หยิบเครื่องมือสื่อสารโทร.หาเขาคนนั้น
…ครืดๆๆๆ ครืดๆๆๆ… “(เรียนเสร็จแล้วหรอค่ะน้องฟานี่)” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงปลายสายให้เป็นปกติมากที่สุด
“ค่ะพี่ชีวอน คิดถึงพี่จังพี่ทำอะไรอยู่หรอค่ะ” เธอก็ไม่แพ้กันแสร้งถามกลับด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนทุครั้งให้เขาตายใจ
“(แล้วมีแพลนจะไปไหนต่อหรือป่าวคับ ถ้าพี่ว่างก็ดีจะได้รีบตามไปด้วยคิดถึงฟานี่จังเลยคับ น่าเสียดายจังที่เย็นนี้พี่เลื่อนประชุมไม่ได้ด้วย แล้วกว่าจะเสร็จก็คงจะดึกมากแน่ๆเลย เฮ้อ!คิดถึงแฟนจังคับ)” ยังหยอดคำหวานให้คนปลายสาย
“ฟานี่ก็คิดถึงพี่ค่ะงานพี่ยุ่งมาก งั้นฟานี่ไม่กวนแล้วนะค่ะพี่จะได้ทำงาน เดี๋ยวฟานี่ก็จะไปเที่ยวกับเจสซี่และก็ซันนี่ แล้วค่ะ”
”(งั้นดูแลตัวเองดีๆนะคับพี่เป็นห่วง พรุ่งนี้เจอกันตอนเช้าเดี๋ยวพี่ไปรับนะคับงั้นคืนนี้ฝันดีนะคับ พี่รักฟานี่มากๆนะคับ)”
เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้ถึงการกระทำของตนก็วางใจ แล้วทำให้ดูเหมือนตัวเองยุ่งมากเพื่อที่จะได้รีบวางสายกลัวโดนจับได้
“ค่ะฟานี่ก็รักพี่เหมือนกัน อย่าเครียดมากนะคะเป็นห่วงพี่นะคะงั้นแค่นี้นะค่ะ Bye” สาวตายิ้มก็แกล้งพูดให้เหมือนปกติที่สุดทั้งที่อยากจะบอกให้หยุดโกหกได้แล้วเพราะเธอเห็นมันหมดแล้ว เขาโกหกเธอทุกอย่างเพื่อหลอกเธอ
“บอกว่างานยุ่งมากเย็นนี้ติดประชุมอีก ไม่งั้นจะรีบตามพวกเรามา” ได้แต่ระบายในสิ่งที่ได้ยินเขาโกหกใส่เธอให้เพื่อนฟัง
“เขาบอกแกมั้ย?ว่าที่งานยุ่งนี่ใช่การมากนั่งป้อนข้าวผู้หญิง2ต่อ2หรือป่าว” ซันนี่ได้แต่ประชดประชันในคำโกหกชายหนุ่ม
“งั้นก็เหลือแต่ประชุมตอนเย็นซินะไม่รู้จะประชุมเรื่องอะไรแล้วประชุมที่ไหนกัน” เจสสิก้าแค่พูดตามคำโกหกปนขำเล็กน้อยแต่อาการของเพื่อนสาวตายิ้มก็ไม่พ้นสายตาเพื่อนสนิททั้ง2 เพราะเธอน่าจะเสียใจมากกว่านี้แต่ทำไมแทบไม่มีอาการเลย
“ฟานี่ชั้นถามแกจริงซิ นี่แกไม่เสียใจร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอื่นหรอที่แฟนแกโกหกแก นอกใจแกแบบนี้อ่ะ”
ซันนี่ถามเมื่อไม่เข้าใจในอาการของเพื่อนสาวเลยซักนิด ไม่มีอาการใดๆที่ดูน่าเป็นห่วงเลย
“ไม่รู้ซิถามว่าเสียใจมั้ย แน่นอว่าทั้งเสียใจทั้งผิดหวังมากๆแต่ไม่รู้ซิเหมือนมันยังไม่เจ็บถึงกับต้องร้องไห้ฟูมฟายอ่ะ แต่ก็เจ็บเหมือนกันนะ แต่ฉันก็ยังอยากรู้ว่าเขาจะโกหกอะไรฉันอีกจะให้พูดยังไงดี น้ำตาฉันมันไม่ยอมไหลอ่ะแก”
เพื่อนทั้ง2ได้แต่ งง?กับอาการของทิฟฟานี่ แต่อยู่เจสสิก้าก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทิฟฟานี่ได้คิด
“งั้นมันก็มีแค่2ทางเลือก 1.แกรักเค้ามากเลยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติสำหับผู้ชายแค่เขายังรักแกเหมือนเดิมเห็นแกเป็นที่สุด แกก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาทันทีที่เขาขอโทษเพื่อจะรักษาความรักเอาไว้ ประมาณรักคือการให้อภัย”
“อี๊…เลี่ยนอ่ะนังเจส รักคือการให้อภัย ฟานี่ชั้นไม่ว่าอะไรแกหรอกนะถ้าแกจะมองโลกในแง่ดี แต่นี่มันดีเกินไปแล้วถ้าแกไม่ได้บ้า หรือ เสียใจจนเพี้ยนไปแล้วนะ” ซันนี่รับไม่ได้อย่างแรงกับตัวเลือกแรกของเจสสิก้า
“อย่าเพิ่งขัดได้ป่ะแกต่อๆข้อ 2.แกไม่ได้รักพี่เค้าเลยแค่รู้สึกดีด้วยได้ใกล้ชิดกันจนผูกพันกันจนคิดว่ารักแต่ไม่ได้รักอีกอย่างนะเขาทำดีกับแกซะ แกอาจจะสับสนรู้สึกดีผูกพันกับรักมมันต่างกันแต่นิดเดียวนะแกลองดูดีๆ ถามใจตัวเองให้แน่นอนว่ารู้สึกยังจะได้ตัดสินใจว่าจะเอายัไงต่อ” เจสสิก้าเตือนสติเพื่อนสาวให้คิดดีๆถึงเรื่องความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มพวกเธอเคารพในการตัดสินใจของเพื่อนเสมอเพื่อนว่าไงพวกเธอก็ว่าอย่างนั้น แต่พวกเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนถูกหลอกเหมือนคนโง่ที่โดนเขาหลอกอยู่เรื่อยไป
“ฉันไม่รู้เหมือนกันแกแต่ที่รู้ฉันเสียใจเจ็บที่โดนเขาหลอก และไม่พร้อมให้อภัยเขาแน่นอนถึงให้ก็ไม่ใช่แฟนคงเปลี่ยนเป็นแค่พี่ที่รู้จักกันที่เคยรู้สึกดีด้วย ความรู้สึกใจฉันบอกแบบนี้ และที่สำคัญฉันอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อจะโกหกอะไรอีก”
“แสดงว่าแกอยู่ในข้อ2ของยัยเจสซี่ซินะถึงว่าแกไม่เห็นร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอื่นที่โดแฟนนอกใจ”
“คงอย่างนั้นมั้ง ฮึๆๆๆ” สาวตายิ้มขำในลำคอเล็กน้อยพร้อมหันออกไปมองทางที่คนทั้งคู่ที่ยังคงผลัดกันป้อนข้าวกันเหมือนอร่อย พวกเธอก็นั่งกินไอติมกันแบบชิวๆพลางมองทั้งคู่บ้างเป็นครั้งคราว จนสักพักก็เหมือนเห็นทั้งคู่กินเสร็จแล้วเหมือนจะพากันไปที่ไหนต่อพวกเธอเลยรีบเช็คบิลแล้วรีบตามไปโดยเว้นระยะห่างพอควรที่จะตามทัน และไม่ไห้คนทั้งคู่สงเกตุเห็นพวกเธอได้จนมาถึงลานจอดรถของห้างฯ พอเห็นทั้งคู่เข้าไปในรถกันพวกเธอก็จะรีบขึ้นรถเหมือนกันแต่ก็ต้องชะงักเมื่อภาพที่พวกเธอเห็นคือ ชีวอนกำลังจูบกับผู้หญิงคนนั้นอย่างดูดดื่มและเหมือนจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พวกเธอได้แต่มองอย่างอึ้งๆไม่คิดเลยว่าพี่ชีวอนที่แสนดีของพวกเธอจะหื่นได้แบบนี้เมื่อเห็นชีวอนจับและบีบหน้าอกผู้หญิงคนนั้น
“ฟานี่แกว่ามั้ยเพื่อนกันเขาคงทำแบบนี้หรอก” ซันนี่หันไปพูดกับเพื่อนสาว “ฉันว่าก็คงไม่ใช่เพื่อนอย่างที่แกบอกหรอก”
“นี่ไม่ต้องบอกก็พอเดาออกเลยว่าไอที่ติดประชุมตอนเย็นมันคืออะไร?” ปากพูดแต่มือดันถ่ายวิดีโอของทั้งคู่อยู่ขณะจูบกัน
“นี่นังเจสแกจะถ่ายให้ไปเป็นเสนียดมือถือทำไมย่ะ?” ซันนี่ไม่เข้าใจเพื่อนสาวผมบลอนซ์เลยซักนิดว่าจะถ่ายไปทำไม
“หลักฐานนะรู้จักมั้ย จะได้มัดตัวดิ้นไม่หลุดเวลาฟานี่บอกเลิกไงหัดฉลาดบ้างซิ” หันไปไขข้อสงสัยให้เพื่อนสาวทั้ง2
“ขอบใจมากนะเจสซี่” ทิฟฟานี่หันไปยิ้มขอบใจให้เพื่อนแล้วพวกเธอก็รีบขับรถและขับออกไปตามทางที่รถของชีวอนขับไปตลอดทาง
“คอยดูนะชั้นจะถ่ายให้ดิ้นไม่หลุดเลย อุ๊ย!เข้าม่านรูดด้วยถ่ายให้หมดชื่อม่านรูดด้วย” ทั้งรถได้แต่ยิ้มให้กับความตั้งใจถ่ายของเจสสิก้า “แกตามไปถ่ายในห้องด้วยก็ดีนะย่ะเจสซี่” ซันนี่แซวเมื่อยังเห็นเจสสิก้ายังถ่ายอยู่ทั้งๆที่รถของชีวอนก็เลี้ยวเข้าไปจอดในห้องทีม่านรูดเตรียมไว้
“เอาไงต่อดีละแก” ซันนี่ถามความเห็น “เลี้ยวเข้าห้องข้างๆเลยแกจะได้จับผิดได้ชัดเจน” ทิฟฟานี่เลี้ยวรถจอดที่ห้องข้างๆตามที่เจสสิก้าบอกแล้วทั้งหมดก็พากันเพื่อที่จะเข้าห้องแต่ก่อนจะเข้าห้อง เจสสิก้าไม่วายที่จะไปถ่ายเลขหน้าห้องของชีวอนรวมถึงป้ายทะเบียนรถเพื่อให้เจ้าของรถดิ้นไม่หลุด และทั้งหมดพากันเข้าห้องไป
“ชั้นเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเรียกว่าม่านรูด ดูซิมีแต่ม่านเต็มไปหมดม่านปิดรถ ม่านปิดห้องน้ำ ม่านปิดหน้าต่าง” ซันนี่เพิ่งรู้
“แล้วเอาไงต่อดีหล่ะทีนี้ เฮ้อ!ตื่นเต้นเหมือนกันเน้อเหมือนพวกเราเป็นนักสืบเลยอ่ะแก” หัวเราะออกมาเล็กน้อย
“นี่ฟานี่แกเปลี่ยนโหมดเร็วไปมั้ยแทนที่แกจะเสียใจกลับตื่นเต้นซะงั้น” ทิฟฟานี่ไหวไหล่ประมาณว่าเธอไม่ได้รู้สึกอย่าที่เพื่อนพูดเท่าไหร่เลยหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดทีวีดูเพื่อฆ่าเวลารอคนทั้งคู่ออกมา
“อ๊าๆๆ… อื้มๆๆ… โอ้วๆๆ… อ๊าๆๆ…” ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างและหันกลับมาทางต้นเสียงต่างคนต่างหน้าแดงต่างเริ่มมองหน้ากัน พอเปลี่ยนไปกี่ช่องก็มีแต่หนังแบบนั้นให้ดู มันเป็นที่สำหรับทำเรื่องแบบนี้จริงๆ
…ก๊อกๆๆ… จนมีเสียงเคาะประตูทำให้ทั้งหมดหลุดจากภวังค์ ทิฟฟานี่จะปิดแต่ซันนี่ไม่ให้ปิดเปิดไว้เพื่อความเนียน ตอนนี้เจสสิก้าอยู่ใกล้ประตูสุดจึงรีบไปเปิดประตูทั้งๆที่ยังคงมีเสียง “อ๊าๆๆ… อื้มๆๆ… โอ้วๆๆ… อ๊าๆๆ…” ของทีวีดังอยู่เรื่อยๆ
“สวัสดีครับ ผมเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟครับ” เด็กเสิร์ฟมองหน้าพวกเธอก็งง?ผู้หญิง3คนในที่แบบนี้ คงจะอย่างว่าแน่นอนเขามองพวกเธออย่างน่าเสียดายจริงๆ คนหนึ่งสวยมาก อีกคนก็หน้าหวานน่ารักมาก อีกคนก็ตัวเล็กหุ่นเซ็กซี่ ขาวๆเนื้อนวลๆสวยทุกคนมันน่าเสียดาวของจริงๆในความคิดของเด็กเสิร์ฟตอนนี้ เจสสิก้าเหมือนจะอ่านความคิดได้ก็เลยบอกไปให้เด็กเสิร์ฟคลายความสงสัยในตัวพวกเธอแบบให้เลิกถามไปเลย เพราะเธอเริ่มรำคาญแล้วไหนจะเสียงทีวีที่เปิดอีกมันส่อ
“ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ พวกเราเป็นแฟนกันทำเรื่องแบบนี้เป็นประจำค่ะถ้าให้พูดง่ายๆพอดีพวกเราเป็น เลสเบี้ยน พลัดกันทำค่ะ มีอะไรสงสัยอีกป่าวค่ะ นี่ค่ะทิปอาจเสียงดังหน่อยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอเวลาส่วนตัวให้เรา3คนก่อนนะคะ”
ทันทีที่พูดเจสสิก้าก็ปิดประตูใส่หน้าเด็กเสิร์ฟแล้วเดินไปวางเครื่องดื่มที่โต๊ะแล้วเดินกลับมาเร่งเสียงทีวีให้ดังขึ้นกว่าเดิม
“เจสซี่แกพูดถูกใจฉันมากเลยอ่ะ” ซันนี่เริ่มเปิดประเด็นแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทุกคน
“ก็ตอนนั้นไม่รู้จะตอบยังไงแกไม่เห็นสายตาที่มันมองเราหรอฉันรำคาญเลยบอกไปแบบนั้น แต่ก็นะมันก็น่าลองเหมือนกัน”
“บ้า” ทั้งทิฟฟานี่และซันนี่ต่างประสานเสียงด้วยความตกใจในคำพูดของเพื่อนสาวที่พูดออกมา
“ชั้นล้อเล่น พวกแกอย่าคิดมากได้มั้ยชั้นก็พวกเดียวกับแกนั่นแหล่ะจะทำได้ไง 555” พูดความจริงแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“แล้วอีกนานมั้ยแกกว่าเขาจะเสร็จกันนะ” ทิฟฟานี่ถามเพื่อนเพราะเธออยากจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบซักทีไม่อยากค้างคาเอาไว้และอีกอย่างเธออยากออกไปจากที่แบบนี้ซะเต็มทีแล้ว
“ชั้นก็ไม่รู้ว่าอีกนานมั้ยแต่ที่แน่ๆนะเค้าเสร็จกันแล้วๆคงจะเสร็จกันมานานแล้วด้วย” พอซันนี่พูดเสร็จทุกคนก็หัวเราะกัน
“นี่แกปิดทีวีก่อนชั้นได้ยินเสียงอะไรแว่วจากห้องพี่ชีวอนไม่รู้พวกแกมาฟังซิ” เมื่อได้ยินที่เจสสิก้าพูดดังนั้นทุกคนก็ลุกขึ้น
มาเอาหูแนบฝาผนังฟังเสียงจากห้องชีวอนกันด้วยความอยากรู้
“ อ๊าๆๆๆ … อื้มๆๆๆ … อ๊าส์ๆๆๆ คุณยังลีลาดีไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ”
“ โอ้วๆๆๆ …อื้มๆๆๆ … โอ้วๆๆๆ คุณก็ยังลีลาดี เซ็กซี่ ร้อนแรงไม่เปลี่ยนเลย มีอะไรกับคุณทีไรผมมีความสุขทุกที ”
ทั้ง2คุยกันด้วยน้ำเสียงแหบพล่าเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีความสัมพันธ์สวาทกันอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีใครแอบฟังพวกเขาอยู่
“ อ๊าๆๆๆ … อ๊าๆๆๆ … อ๊าส์ๆๆๆ……… ”
“ โอ้วๆๆๆ … อื้มๆๆๆ… โอ้วๆๆๆ……… ”
… … …
… … … ทุกอย่างดำเนินไปตามแรงสวาทของทั้ง2
… … …
“ อ๊าๆๆ อ๊าๆๆ อ๊าๆๆ อ๊าส์…… ”
“ โอ้วๆๆ อื้มๆๆ อ๊าๆๆ อ๊าส์…… “ เมื่อเสียงครางสุดท้ายสิ้นสุดลงชีวอนก็ลงมานอนข้างๆหญิงสาวอย่างหมดแรง
แล้วหลับไปในที่สุดเพราะเพลียจากบทรักสวาทเมื่อกี้ที่เขาใส่ไม่ยั้ง
ฝากผู้ที่แอบฟังผู้อื่นร่วมรักกัน
“พวกเขาจัดเต็มกันเลยนะเนี่ยะ” ซันนี่เริ่มเปิดประเด็นตามด้วยทิฟฟานี่ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชีวอนจะเป็นคนแบบนี้”
“ก็อ่ะนะเรื่องอย่างว่าห้ามกันไม่ได้ร้อนแรงซะ” พร้อมกับดูโทรศัพท์ที่อัดเสียงร่วมรักของพวกเขาทั้ง2ไว้เป็นหลักฐานเพื่อที่จะได้ดิ้นไม่หลุดเพราะเธอถ่ายคลิปวีดีโอไว้ตั้งแต่จูบกันในรถ ขับเข้าม่านรูดชื่อม่านรูด ห้องที่ทั้ง2ใช้ร่วมรักและบวกกับเวลาตรงกันหมดทุกอย่างเป็นเรื่องจริงแล้วไหนจะเสียงคลิปที่ร่วมรักกันอีก คราวนี้ไม่มีข้อแก้ตัวให้หลุดพ้นจากความผิดไปได้แน่นอน
จบตอนแล้ว...To Be Continue … ^
ความคิดเห็น