GreenRed - นิยาย GreenRed : Dek-D.com - Writer
×

    GreenRed

    FIC TaoKacha Story : GreenRed เรื่องราวในรั้วโรงเรียนมัธยมปลาย

    ผู้เข้าชมรวม

    402

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    402

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 56 / 00:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    FIC TaoKacha

    Story : GreenRed

    บทนำคร่าวๆ : เป็นเรื่องเกี่ยวกับภายในรั้วโรงเรียนมัธยมปลาย มีทั้งเพื่อน ความรัก มิตรภาพ ดราม่า โหด และ ???

    ขอเกริ่นนิดนึงนะจ๊ะ : เพิ่งเคยแต่งฟิคเป็นครั้งแรก แล้วก็เพิ่งสมัครเด็กดีด้วย อ่อนด๋อยเรื่องเทคโนโลยีมาก Y_Y


    GreenRed

    Intro

    ทุกคนเงียบๆหน่อย วันนี้ครูมีอะไรพิเศษจะมาประกาศให้ทราบกัน

    จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!

    ทุกคนจ๊ะ หยุดคุยและเบาเสียงกันได้แล้ว

    จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!

    บอกว่าให้เงียบ !!!!!!!



    --------------- เ ------------ งี ------------ ย ----------- บ ------------ กริบบบบ -------


    เฮ้อ... ขอบใจ เอาล่ะ ก็อย่างที่บอกวันนี้ครูมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้งให้นักเรียนทุกคนทราบ ตอนนี้ห้องเราจะมีนักเรียนใหม่เพิ่มมาอีกหนี่งคน

    จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!

    เอาล่ะๆ ทุกคน เงียบๆ ก่อน ครูยังพูดไม่จบเลยนะ ช่วยฟังกันก่อนสิ นี่ๆๆๆ......

    จะมีใครเข้ามาใหม่ตอนเทอมสองแบบนี้อีกเหรอเนี่ย ? เรานึกว่าเราแปลกกว่าชาวบ้านแล้วนะที่ย้ายเข้ามาเรียนใหม่ตอนเทอมแรกของ ม. 5 เนี่ยเนอะคชา

    ผมสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้กับแรงมือที่เข้ามากระทุ้งตรงข้างเอว จนทำให้ต้องหันหน้ามามองเพื่อนที่นั่งข้างๆกัน

    อืม นั่นสินะ... ผมรีบตอบกลับไปเพียงสั้นๆ เพราะตอนนี้คุณครูประจำชั้นเริ่มจะมีอาการโมโหขั้นรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นนักเรียนทั้งห้องเอาแต่ส่งเสียงดัง โดยไม่ยอมฟังคุณครูพูดให้จบเรื่องเสียก่อน

    เงียบบบบบ!!!!!!!!

    และแล้วก็ได้ผล เสียงที่เคยดังทั่วทั้งห้องเมื่อครู่ที่ผ่านมาเงียบสงัดลงทันที ไม่น่าเชื่อว่าคุณครูประจำชั้นคนนี้ที่ใครๆก็เอาแต่คอยแกล้ง ทำเป็นเมิน และไม่สนใจอยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร... ทำไมใครๆในห้องต่างก็พากันทำตัวเมินใส่หรือคอยแกล้งคุณครูประจำชั้นแบบนี้
    อืม... เหมือนจะเคยได้ยินมาบ้างว่าอาจเป็นเพราะคุณครูคนนี้ดูอายุยังน้อย หน้าตาน่ารัก ดูใสซื่อ เลยทำให้ดูน่ากลั่นแกล้งเล่นล่ะมั้ง ??? แต่ก็อย่างว่าล่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณครูโกรธขึ้นมาล่ะก็ จะดูน่ากลัวขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผลเลยทีเดียว มันเลยทำให้ตอนนี้ทั้งห้องตกอยู่ในสภาวะเงียบ......


    ขอบใจ พร้อมจะฟังกันต่อรึยัง ? นักเรียนที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของห้องเราคือ นายเศรษฐพงศ์ เพียงพอ เอ้าเข้ามาได้แล้วจ้ะ มาทักทายเพื่อนๆหน่อยเร็ว

    ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!!!

    เฮ้ย ทำไมมันขาวจังวะ

    เออ ทำไมมันดูเหมือนลูกครึ่งจังฟะ

    นั่นดิ หล่อกว่าพวกมึงทั้งหมดอีกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า

    ผมหันไปมองรอบๆ เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนๆในห้องต่างก็ตะโกนวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนใหม่ทันทีเมื่อเห็นเขาเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องเพียงแค่ไม่ถึงสามก้าวเท่านั้น เสียงก็เริ่มดังระงมขึ้นมาโดยไม่ต้องนัดหมายกันเลย ไม่ว่าจะกลุ่มเล็กตรงโน้น กลุ่มใหญ่ตรงนี้ก็เม้าท์กันอย่างสนุกปาก

    เขาดูดีจังเลยเนอะคชา

    ห๊ะ อะอืม... ผมก็ได้แต่ตอบกลับไปเพียงเล็กน้อยเช่นเคย จากนั้นสายตาผมก็มองตรงไปยังหน้าห้องอีกครั้ง เขาหรือตอนนี้ก็คงเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนใหม่... เขาตัวค่อนข้างสูง ใบหน้าดูนิ่งเฉย ไม่แสดงอาการใดๆออกมา ทำให้ดูไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่... แต่ที่รู้ชัดๆเลยก็คือ ขาวมาก!!!

    นี่แนะนำตัวสิจ๊ะ เธอยังไม่ได้แนะนำเลยนะ เอาสิ เพื่อนๆคงอยากรู้จักเธอแล้วล่ะ คุณครูประจำชั้นหันหน้าไปบอกนักเรียนใหม่ เมื่อเห็นเจ้าตัวเอาแต่ยืนนิ่งเฉย

    เศรษฐพงศ์ เพียงพอ เพื่อนใหม่เอ่ยปากพูดเพียงเท่านั้นก็นิ่งเงียบลงไปอีกเหมือนเคย

    แต่ไม่นานก็เริ่มมีเสียงดังแทรกขึ้นมาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนานาถึงเพื่อนใหม่คนนี้

    เอาล่ะๆๆ เงียบก่อนๆๆๆ นี่เศรษฐพงศ์เธออยากมีโต๊ะประจำตัวแล้วใช่ไหม ? อยากนั่งแล้วล่ะสินะ งั้น... อ้อ! ข้างหลังคชาแล้วกันนะ ว่างพอดี

    ผมสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคุณครูประจำชั้นเอ่ยชื่อตัวเองออกมา แล้วก็ได้แต่มองตามเพื่อนใหม่ที่เดินก้าวเข้ามาใกล้ และหยุดลงนั่งอยู่ข้างหลังของตัวเอง... โต๊ะของผมจะอยู่ตรงแถวหน้าฝั่งขวาที่อยู่ติดกับหน้าต่าง ส่วนถัดไปข้างหลังก็จะเป็นโต๊ะตัวที่เพื่อนใหม่กำลังนั่งอยู่ มันเป็นโต๊ะที่ว่างเปล่ามาตั้งแต่เทอมแรกแล้วล่ะ เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนสนใจจะมานั่งที่โต๊ะตัวนั้นเลย.....


    กริ๊งงงงง!!!! กริ๊งงงงง!!!! กริ๊งงงงง!!!!


    เอ้า หมดคาบประจำชั้นแล้ว ต่อไปเป็นคาบของครูเมย์สินะ แต่ว่าวันนี้ครูเมย์ลาหยุด งั้นเอาเป็นว่าในคาบนี้ก็ให้ทุกคนอยู่ในความสงบ อ่านหนังสือไปเงียบๆล่ะกัน หรือว่าจะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ก็ได้ จะได้สนิทกันเร็วๆ เนอะ เอาล่ะคชาครูฝากด้วยนะ

    ครับ นักเรียนทำความเคารพ ผมรับคำพร้อมกับพูดประโยคประจำของหัวหน้าห้องออกมา จากนั้นคุณครูประจำชั้นก็เดินออกไป....

    เฮ้ย พวกมึงดูดิ ทำไมมันดูหยิ่งจังวะ

    เออดิ รึมันจะเป็นชาวต่างชาติจริงๆวะ พูดไทยไม่ค่อยได้ไรเงี้ย

    จริงดิ งั้นมึงลองไปสปีกกับมันดูดิ๊

    เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ กูตกอิ๊งค์เว้ย ยังไม่ได้ไปซ่อมเลยเนี่ย

    ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นเสียงของเพื่อนๆในห้องที่ต่างพูดคุยแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมากันเสียงดัง สงสัยก็คงอยากให้ดังพอที่จะถึงหูของเพื่อนใหม่นั่นแหละนะ....

    หวัดดี เราชื่อต้นนะ นายชื่อเล่นว่าอะไรเหรอ ? จะได้เอาไว้เรียกกันง่ายๆ ดูสนิทกันดีไงเนอะ

    ......................

    คชา... เขาเงียบอ่ะ เขาไม่ตอบกลับเราเลย ต้นเพื่อนที่นั่งข้างๆผมพูดกระซิบกระซาบให้ผมได้ยินพร้อมกับพยายามจับตัวผมให้ลองหันหลังไปคุยกับเพื่อนใหม่ดูบ้าง

    สวัสดี ส่วนเราชื่อคชานะ ยินดีที่ได้รู้จัก

    ......................

    คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ เงียบเท่านั้น... ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับกรณีของต้นที่ได้รับกลับมาเลย ผมจึงหันกลับไปมองหน้าต้นว่าเราควรจะทำยังไงกันต่อดี แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรกันมากไปกว่านั้นก็มีเสียงตะโกนดังแทรกขึ้นมาจากโต๊ะแถวกลางหลังห้องเรียน...

    เฮ้ย ดูไอ้คู่หูเพื่อนไม่คบดิ ขนาดไอ้คนมาใหม่มันยังไม่อยากจะพูดด้วยเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    เออดิ โคตรน่าสงสาร ฮ่าฮ่าฮ่า ว่าไหมอ้น ?

    อืม...

    ผมกับต้นหันไปมองยังต้นเสียงหลังห้อง ประโยคแรกเป็นของเพื่อนในห้องที่ชื่อตั้ม ประโยคที่สองเป็นของเพื่อนในห้องที่ชื่อเบียร์ และคำพูดสุดท้ายเป็นของเพื่อนที่ชื่ออ้น... ผมกับต้นก็ได้แต่เงียบเท่านั้น ไม่มีใครคิดที่อยากจะพูดอะไรโต้ตอบกลับไปทั้งสิ้น แต่ว่าเสียงตะโกนพูดถึงเราสองคนจากปากของตั้มกับเบียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่ยอมจบ พูดแดกดันเราสองคนให้เพื่อนๆในห้องฟังอย่างสนุกปากเช่นทุกครั้งที่เคยทำมา แต่อ้นที่พูดไปคำเดียวก่อนหน้านั้นตอนนี้เอาแต่นั่งฟังเพื่อนทั้งสองของตัวเองพูดเหน็บแนมอยู่เงียบๆ....

    เวลาที่น่าอึดอัดก็ได้ผ่านล่วงเลยมาจนถึงตอนช่วงพักกลางวันเสียที

    ป๊ะคชา เราลงไปนั่งกินข้าวให้สบายใจกันเหอะ

    อืม อ๊ะเดี๋ยวนะ...ผมเอ่ยตอบ แต่ก็รีบพูดออกมาทันทีเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันหลังกลับไปมองยังโต๊ะตัวที่เคยว่างเปล่าแต่ตอนนี้มันมีเจ้าของของมันแล้วล่ะ...

    เอ่อ... มากินข้าวด้วยกันกับเราสองคนไหม ? อร่อยนะ ฉันทำข้าวกล่องมาเอ...งผมยังพูดไม่ทันได้จบประโยค เพื่อนใหม่ก็ลุกขึ้นเดินทิ้งโต๊ะตัวนั้นแล้วออกนอกห้องไปเลย...

    ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกพวกหน้าแตกว่ะ

    คบกันไปสองคนเถอะ อย่าหาพวกเลย ไม่มีใครยอมคบด้วยหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า

    ไปเหอะคชา เดี๋ยวกินข้าวไม่อร่อยนะต้นพูดพร้อมกับรีบดึงตัวผมออกมาเร็วๆจากเสียงที่ชวนให้รู้สึกพะอืดพะอมตรงนั้น

    ผมกับต้นเดินลงมาจนถึงที่ประจำของเราสองคนในช่วงพักกลางวันแล้ว มันเป็นสถานที่ที่เหมือนกับสวรรค์เลยล่ะ ช่างเงียบ สงบ และปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เล็กรอบด้าน ข้างหน้าเป็นคลองน้ำที่มีปลาเล็กๆแวกว่ายอยู่ ส่วนข้างๆที่ถัดไปไม่ไกลนักจะถูกจัดให้เป็นสวนน้ำตกน้อยๆ ดูน่ารื่นรมย์ สถานที่แห่งนี้มันตั้งอยู่หลังห้องพยาบาล ซึ่งเป็นที่ที่น้อยคนนักจะมาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ เคยได้ยินบางคนบอกกันว่ามันดูเงียบเกิน แลดูน่ากลัว น่าขนลุก แต่เราสองคนกลับชอบมันมาก สงบดีเหลือเกิน กินข้าวได้อร่อยมากๆเลยล่ะ

    ชา ขอบคุณนะ ทำข้าวกล่องมาให้เราทุกวันเลยต้นพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ

    ไม่ต้องพูดขอบคุณอีกแล้วนะ ต้นก็พูดทุกวันเลยผมพูดตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

    ก็แหม มันก็ดูน่าเกรงใจเหมือนกันนี่น่า ต้นรู้นะว่าคชารู้ว่าต้นกินอาหารของทางโรงเรียนไม่ค่อยได้ ต้นต้องคอยควบคุมเรื่องอาหารการกินอ่ะ ชาก็ทำข้าวกล่องมาให้อย่างดีทุกวัน อย่างกับเป็นนักโภชนาการของทางโรงพยาบาลเลยอ่ะ

    ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ต้นก็รู้นี่ว่ายังไงชาก็ต้องตื่นมาทำให้น้องๆทุกเช้าอยู่แล้ว ทำเผื่อใส่กล่องให้ต้นอีกแค่กล่องเดียวจะเป็นไรไป ใช่ม้า ?

    อื้อ ไม่พูดขอบคุณอีกต่อไปล่ะ เดี๋ยวชารำคาญต้นพูดด้วยรอยยิ้มน่ารักแล้วตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

    เอ่อ ต้น...

    ว่าไง มีไรเหรอต้นพูดทั้งๆที่ข้าวยังอยู่เต็มปาก

    คือว่า... ไม่เป็นไรแน่เหรอที่....

    หยุดเลยคชา ต้นก็บอกแล้วไงว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก

    แต่ชา...

    ต้นไม่ได้อยากมีเพื่อนเยอะเต็มห้องหรอกนะ แค่มีเพื่อนที่ดีอย่างคชาคนเดียวก็พอแล้ว อย่าคิดมากเลยน่า กินข้าวเหอะ คชาทำอร่อยมาก โอ้ย สวรรค์ตอนกลางวันของฉ้านนนต้นพูดด้วยสีหน้าจริงจังในตอนแรก จากนั้นก็ตะโกนออมาด้วยสีหน้าที่ต่างออกไป ดูก็รู้ว่ามันเป็นสีหน้าของความสุข

    ชาขอบคุณนะต้นสำหรับทุกอย่าง

    ต้นต่างหากที่ควรจะพูดคำนั้น ชาก็รู้นี่ว่าต้นเป็นอะไร... ต้นเป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เด็กๆ ต้นต้องหยุดเรียนไปหนึ่งปี แล้วกลับเข้ามาเรียนใหม่ในโรงเรียนแห่งใหม่ที่พ่อบอกให้มา แถมเข้ามาตอน ม.5 ซะด้วย เพื่อนสักคนของที่นี่ก็ไม่รู้จัก แต่อยู่ดีๆก็มีผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารัก ฮ่าฮ่าฮ่า มากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม รู้ไหมว่าต้นดีใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนเก่าหรือหลายๆโรงเรียนที่ต้องย้ายไปย้ายมาอยู่บ่อยๆ ด้วยเรื่องของโรคประจำตัว ต้นไม่เคยมีเพื่อนจริงๆเลยนะ แต่ตั้งแต่ได้มารู้จักคชาที่นี่ ต้นมีความสุขมากๆเลยล่ะต้นบรรยายความในใจออกมาด้วยน้ำตาคลอหน่วย ซึ่งผมเองก็เช่นกัน...

    ต้น... แล้วเรื่องเพื่อนในห้อง...

    อย่าไปคิดถึงมันเลยชา ต้นรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จากที่ต้นได้ยินมา ยังไงต้นก็ขออยู่เคียงข้างคชาแบบนี้ตลอดไป

    ต้น....

    ไม่เอาน่า คนน่ารักที่มีแต่รอยยิ้มจะมีคราบน้ำตาได้ไงต้นพูดพร้อมกับรีบเอามือมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของผมทันที ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไปอย่างเต็มที่เช่นกัน

    ช่วงเวลาสวรรค์ของพักกลางวันได้หมดลงอีกแล้ว

    เออ เดี๋ยวต้นขึ้นห้องเรียนไปก่อนได้เลยนะ เพราะเดี๋ยวชาจะต้องไปที่ห้องพักครู จำได้ว่าครูแนนนัดคชาให้ไปหาเพื่อเตรียมงานวันกีฬาสีที่กำลังจะถึงน่ะผมพูดเมื่อนึกขึ้นได้ตอนที่กำลังจะเดินออกจากสรวงสวรรค์แห่งนี้

    อ้าวเหรอ โอเคๆ งั้นต้นไปก่อนนะ แล้วเจอกันต้นพูดพร้อมกับโบกมือบ๊ายบ๊าย แล้วเดินแยกออกไปอีกทาง

    ผมตอนนี้ที่เหลืออยู่คนเดียวก็รีบเดินลัดเลาะออกไปตรงข้างหลังห้องพยาบาล จนเดินมาโผล่ตรงข้างหลังของห้องดนตรี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินต่อก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังพูดกับตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

    ฮึ้ยยย พ่อบ้าอำนาจ ทำกับเมียรักเราแบบนี้ได้ไง!!!

    ผมยืนงงๆนิดหน่อย แต่ก็ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้

    เอ่อ... ขอโทษนะ แต่เรามีให้ยืมเอาไหม ?ผมเอ่ยออกไปเบาๆ และดูเหมือนคนที่กำลังลูบไล้กีตาร์ด้วยความรักคนนั้นจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย

    ........................

    แต่ว่าตอนนี้เรากำลังรีบไปที่อื่นต่อน่ะ ยังไงพรุ่งนี้หลังโรงเรียนเลิกก็มาหาเราได้นะที่หลังห้องพยาบาล เราให้ยืมได้นะ เรามีซ่อนไว้ผมพูดด้วยรอยยิ้มแล้วรีบเดินมุ่งหน้าออกไปยังเป้าหมายตอนแรกที่ห้องพักครู

    ดะ เดี๋ยวเซ่... อะไรวะ ?? ที่โรงเรียนนี้มีผู้หญิงปลอมตัวมาเรียนด้วยเหรอวะเนี่ย!!!

    -----------------------------

    TBC.

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น