GreenRed
FIC TaoKacha Story : GreenRed เรื่องราวในรั้วโรงเรียนมัธยมปลาย
ผู้เข้าชมรวม
432
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
GreenRed
Intro
ทุกคนเงียบๆหน่อย วันนี้ครูมีอะไรพิเศษจะมาประกาศให้ทราบกัน
จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!
ทุกคนจ๊ะ หยุดคุยและเบาเสียงกันได้แล้ว
จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!
บอกว่าให้เงียบ !!!!!!!
--------------- เ ------------ งี ------------ ย ----------- บ ------------ กริบบบบ -------
เฮ้อ... ขอบใจ เอาล่ะ ก็อย่างที่บอกวันนี้ครูมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้งให้นักเรียนทุกคนทราบ ตอนนี้ห้องเราจะมีนักเรียนใหม่เพิ่มมาอีกหนี่งคน
จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!! จ้อกแจ้ก !!!!
เอาล่ะๆ ทุกคน เงียบๆ ก่อน ครูยังพูดไม่จบเลยนะ ช่วยฟังกันก่อนสิ นี่ๆๆๆ......
จะมีใครเข้ามาใหม่ตอนเทอมสองแบบนี้อีกเหรอเนี่ย ? เรานึกว่าเราแปลกกว่าชาวบ้านแล้วนะที่ย้ายเข้ามาเรียนใหม่ตอนเทอมแรกของ ม. 5 เนี่ยเนอะคชา
ผมสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้กับแรงมือที่เข้ามากระทุ้งตรงข้างเอว จนทำให้ต้องหันหน้ามามองเพื่อนที่นั่งข้างๆกัน
อืม นั่นสินะ... ผมรีบตอบกลับไปเพียงสั้นๆ เพราะตอนนี้คุณครูประจำชั้นเริ่มจะมีอาการโมโหขั้นรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นนักเรียนทั้งห้องเอาแต่ส่งเสียงดัง โดยไม่ยอมฟังคุณครูพูดให้จบเรื่องเสียก่อน
เงียบบบบบ!!!!!!!!
และแล้วก็ได้ผล เสียงที่เคยดังทั่วทั้งห้องเมื่อครู่ที่ผ่านมาเงียบสงัดลงทันที ไม่น่าเชื่อว่าคุณครูประจำชั้นคนนี้ที่ใครๆก็เอาแต่คอยแกล้ง ทำเป็นเมิน และไม่สนใจอยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร... ทำไมใครๆในห้องต่างก็พากันทำตัวเมินใส่หรือคอยแกล้งคุณครูประจำชั้นแบบนี้
อืม... เหมือนจะเคยได้ยินมาบ้างว่าอาจเป็นเพราะคุณครูคนนี้ดูอายุยังน้อย หน้าตาน่ารัก ดูใสซื่อ เลยทำให้ดูน่ากลั่นแกล้งเล่นล่ะมั้ง ??? แต่ก็อย่างว่าล่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณครูโกรธขึ้นมาล่ะก็ จะดูน่ากลัวขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผลเลยทีเดียว มันเลยทำให้ตอนนี้ทั้งห้องตกอยู่ในสภาวะเงียบ......
ขอบใจ พร้อมจะฟังกันต่อรึยัง ? นักเรียนที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของห้องเราคือ นายเศรษฐพงศ์ เพียงพอ เอ้าเข้ามาได้แล้วจ้ะ มาทักทายเพื่อนๆหน่อยเร็ว
ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!! ฮือฮา !!!!
เฮ้ย ทำไมมันขาวจังวะ
เออ ทำไมมันดูเหมือนลูกครึ่งจังฟะ
นั่นดิ หล่อกว่าพวกมึงทั้งหมดอีกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า
ผมหันไปมองรอบๆ เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนๆในห้องต่างก็ตะโกนวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนใหม่ทันทีเมื่อเห็นเขาเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องเพียงแค่ไม่ถึงสามก้าวเท่านั้น เสียงก็เริ่มดังระงมขึ้นมาโดยไม่ต้องนัดหมายกันเลย ไม่ว่าจะกลุ่มเล็กตรงโน้น กลุ่มใหญ่ตรงนี้ก็เม้าท์กันอย่างสนุกปาก
เขาดูดีจังเลยเนอะคชา
ห๊ะ อะอืม... ผมก็ได้แต่ตอบกลับไปเพียงเล็กน้อยเช่นเคย จากนั้นสายตาผมก็มองตรงไปยังหน้าห้องอีกครั้ง เขาหรือตอนนี้ก็คงเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนใหม่... เขาตัวค่อนข้างสูง ใบหน้าดูนิ่งเฉย ไม่แสดงอาการใดๆออกมา ทำให้ดูไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่... แต่ที่รู้ชัดๆเลยก็คือ ขาวมาก!!!
นี่แนะนำตัวสิจ๊ะ เธอยังไม่ได้แนะนำเลยนะ เอาสิ เพื่อนๆคงอยากรู้จักเธอแล้วล่ะ คุณครูประจำชั้นหันหน้าไปบอกนักเรียนใหม่ เมื่อเห็นเจ้าตัวเอาแต่ยืนนิ่งเฉย
เศรษฐพงศ์ เพียงพอ เพื่อนใหม่เอ่ยปากพูดเพียงเท่านั้นก็นิ่งเงียบลงไปอีกเหมือนเคย
แต่ไม่นานก็เริ่มมีเสียงดังแทรกขึ้นมาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนานาถึงเพื่อนใหม่คนนี้
เอาล่ะๆๆ เงียบก่อนๆๆๆ นี่เศรษฐพงศ์เธออยากมีโต๊ะประจำตัวแล้วใช่ไหม ? อยากนั่งแล้วล่ะสินะ งั้น... อ้อ! ข้างหลังคชาแล้วกันนะ ว่างพอดี
ผมสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคุณครูประจำชั้นเอ่ยชื่อตัวเองออกมา แล้วก็ได้แต่มองตามเพื่อนใหม่ที่เดินก้าวเข้ามาใกล้ และหยุดลงนั่งอยู่ข้างหลังของตัวเอง... โต๊ะของผมจะอยู่ตรงแถวหน้าฝั่งขวาที่อยู่ติดกับหน้าต่าง ส่วนถัดไปข้างหลังก็จะเป็นโต๊ะตัวที่เพื่อนใหม่กำลังนั่งอยู่ มันเป็นโต๊ะที่ว่างเปล่ามาตั้งแต่เทอมแรกแล้วล่ะ เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนสนใจจะมานั่งที่โต๊ะตัวนั้นเลย.....
กริ๊งงงงง!!!! กริ๊งงงงง!!!! กริ๊งงงงง!!!!
เอ้า หมดคาบประจำชั้นแล้ว ต่อไปเป็นคาบของครูเมย์สินะ แต่ว่าวันนี้ครูเมย์ลาหยุด งั้นเอาเป็นว่าในคาบนี้ก็ให้ทุกคนอยู่ในความสงบ อ่านหนังสือไปเงียบๆล่ะกัน หรือว่าจะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ก็ได้ จะได้สนิทกันเร็วๆ เนอะ เอาล่ะคชาครูฝากด้วยนะ
ครับ นักเรียนทำความเคารพ ผมรับคำพร้อมกับพูดประโยคประจำของหัวหน้าห้องออกมา จากนั้นคุณครูประจำชั้นก็เดินออกไป....
เฮ้ย พวกมึงดูดิ ทำไมมันดูหยิ่งจังวะ
เออดิ รึมันจะเป็นชาวต่างชาติจริงๆวะ พูดไทยไม่ค่อยได้ไรเงี้ย
จริงดิ งั้นมึงลองไปสปีกกับมันดูดิ๊
เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ กูตกอิ๊งค์เว้ย ยังไม่ได้ไปซ่อมเลยเนี่ย
ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นเสียงของเพื่อนๆในห้องที่ต่างพูดคุยแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมากันเสียงดัง สงสัยก็คงอยากให้ดังพอที่จะถึงหูของเพื่อนใหม่นั่นแหละนะ....
หวัดดี เราชื่อต้นนะ นายชื่อเล่นว่าอะไรเหรอ ? จะได้เอาไว้เรียกกันง่ายๆ ดูสนิทกันดีไงเนอะ
......................
คชา... เขาเงียบอ่ะ เขาไม่ตอบกลับเราเลย ต้นเพื่อนที่นั่งข้างๆผมพูดกระซิบกระซาบให้ผมได้ยินพร้อมกับพยายามจับตัวผมให้ลองหันหลังไปคุยกับเพื่อนใหม่ดูบ้าง
สวัสดี ส่วนเราชื่อคชานะ ยินดีที่ได้รู้จัก
......................
คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ เงียบเท่านั้น... ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับกรณีของต้นที่ได้รับกลับมาเลย ผมจึงหันกลับไปมองหน้าต้นว่าเราควรจะทำยังไงกันต่อดี แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรกันมากไปกว่านั้นก็มีเสียงตะโกนดังแทรกขึ้นมาจากโต๊ะแถวกลางหลังห้องเรียน...
เฮ้ย ดูไอ้คู่หูเพื่อนไม่คบดิ ขนาดไอ้คนมาใหม่มันยังไม่อยากจะพูดด้วยเลยว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
เออดิ โคตรน่าสงสาร ฮ่าฮ่าฮ่า ว่าไหมอ้น ?
อืม...
ผมกับต้นหันไปมองยังต้นเสียงหลังห้อง ประโยคแรกเป็นของเพื่อนในห้องที่ชื่อตั้ม ประโยคที่สองเป็นของเพื่อนในห้องที่ชื่อเบียร์ และคำพูดสุดท้ายเป็นของเพื่อนที่ชื่ออ้น... ผมกับต้นก็ได้แต่เงียบเท่านั้น ไม่มีใครคิดที่อยากจะพูดอะไรโต้ตอบกลับไปทั้งสิ้น แต่ว่าเสียงตะโกนพูดถึงเราสองคนจากปากของตั้มกับเบียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่ยอมจบ พูดแดกดันเราสองคนให้เพื่อนๆในห้องฟังอย่างสนุกปากเช่นทุกครั้งที่เคยทำมา แต่อ้นที่พูดไปคำเดียวก่อนหน้านั้นตอนนี้เอาแต่นั่งฟังเพื่อนทั้งสองของตัวเองพูดเหน็บแนมอยู่เงียบๆ....
เวลาที่น่าอึดอัดก็ได้ผ่านล่วงเลยมาจนถึงตอนช่วงพักกลางวันเสียที
ป๊ะคชา เราลงไปนั่งกินข้าวให้สบายใจกันเหอะ
อืม อ๊ะเดี๋ยวนะ...ผมเอ่ยตอบ แต่ก็รีบพูดออกมาทันทีเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันหลังกลับไปมองยังโต๊ะตัวที่เคยว่างเปล่าแต่ตอนนี้มันมีเจ้าของของมันแล้วล่ะ...
เอ่อ... มากินข้าวด้วยกันกับเราสองคนไหม ? อร่อยนะ ฉันทำข้าวกล่องมาเอ...งผมยังพูดไม่ทันได้จบประโยค เพื่อนใหม่ก็ลุกขึ้นเดินทิ้งโต๊ะตัวนั้นแล้วออกนอกห้องไปเลย...
ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกพวกหน้าแตกว่ะ
คบกันไปสองคนเถอะ อย่าหาพวกเลย ไม่มีใครยอมคบด้วยหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า
ไปเหอะคชา เดี๋ยวกินข้าวไม่อร่อยนะต้นพูดพร้อมกับรีบดึงตัวผมออกมาเร็วๆจากเสียงที่ชวนให้รู้สึกพะอืดพะอมตรงนั้น
ผมกับต้นเดินลงมาจนถึงที่ประจำของเราสองคนในช่วงพักกลางวันแล้ว มันเป็นสถานที่ที่เหมือนกับสวรรค์เลยล่ะ ช่างเงียบ สงบ และปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เล็กรอบด้าน ข้างหน้าเป็นคลองน้ำที่มีปลาเล็กๆแวกว่ายอยู่ ส่วนข้างๆที่ถัดไปไม่ไกลนักจะถูกจัดให้เป็นสวนน้ำตกน้อยๆ ดูน่ารื่นรมย์ สถานที่แห่งนี้มันตั้งอยู่หลังห้องพยาบาล ซึ่งเป็นที่ที่น้อยคนนักจะมาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ เคยได้ยินบางคนบอกกันว่ามันดูเงียบเกิน แลดูน่ากลัว น่าขนลุก แต่เราสองคนกลับชอบมันมาก สงบดีเหลือเกิน กินข้าวได้อร่อยมากๆเลยล่ะ
ชา ขอบคุณนะ ทำข้าวกล่องมาให้เราทุกวันเลยต้นพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ
ไม่ต้องพูดขอบคุณอีกแล้วนะ ต้นก็พูดทุกวันเลยผมพูดตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ก็แหม มันก็ดูน่าเกรงใจเหมือนกันนี่น่า ต้นรู้นะว่าคชารู้ว่าต้นกินอาหารของทางโรงเรียนไม่ค่อยได้ ต้นต้องคอยควบคุมเรื่องอาหารการกินอ่ะ ชาก็ทำข้าวกล่องมาให้อย่างดีทุกวัน อย่างกับเป็นนักโภชนาการของทางโรงพยาบาลเลยอ่ะ
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ต้นก็รู้นี่ว่ายังไงชาก็ต้องตื่นมาทำให้น้องๆทุกเช้าอยู่แล้ว ทำเผื่อใส่กล่องให้ต้นอีกแค่กล่องเดียวจะเป็นไรไป ใช่ม้า ?
อื้อ ไม่พูดขอบคุณอีกต่อไปล่ะ เดี๋ยวชารำคาญต้นพูดด้วยรอยยิ้มน่ารักแล้วตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
เอ่อ ต้น...
ว่าไง มีไรเหรอต้นพูดทั้งๆที่ข้าวยังอยู่เต็มปาก
คือว่า... ไม่เป็นไรแน่เหรอที่....
หยุดเลยคชา ต้นก็บอกแล้วไงว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก
แต่ชา...
ต้นไม่ได้อยากมีเพื่อนเยอะเต็มห้องหรอกนะ แค่มีเพื่อนที่ดีอย่างคชาคนเดียวก็พอแล้ว อย่าคิดมากเลยน่า กินข้าวเหอะ คชาทำอร่อยมาก โอ้ย สวรรค์ตอนกลางวันของฉ้านนนต้นพูดด้วยสีหน้าจริงจังในตอนแรก จากนั้นก็ตะโกนออมาด้วยสีหน้าที่ต่างออกไป ดูก็รู้ว่ามันเป็นสีหน้าของความสุข
ชาขอบคุณนะต้นสำหรับทุกอย่าง
ต้นต่างหากที่ควรจะพูดคำนั้น ชาก็รู้นี่ว่าต้นเป็นอะไร... ต้นเป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เด็กๆ ต้นต้องหยุดเรียนไปหนึ่งปี แล้วกลับเข้ามาเรียนใหม่ในโรงเรียนแห่งใหม่ที่พ่อบอกให้มา แถมเข้ามาตอน ม.5 ซะด้วย เพื่อนสักคนของที่นี่ก็ไม่รู้จัก แต่อยู่ดีๆก็มีผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารัก ฮ่าฮ่าฮ่า มากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม รู้ไหมว่าต้นดีใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนเก่าหรือหลายๆโรงเรียนที่ต้องย้ายไปย้ายมาอยู่บ่อยๆ ด้วยเรื่องของโรคประจำตัว ต้นไม่เคยมีเพื่อนจริงๆเลยนะ แต่ตั้งแต่ได้มารู้จักคชาที่นี่ ต้นมีความสุขมากๆเลยล่ะต้นบรรยายความในใจออกมาด้วยน้ำตาคลอหน่วย ซึ่งผมเองก็เช่นกัน...
ต้น... แล้วเรื่องเพื่อนในห้อง...
อย่าไปคิดถึงมันเลยชา ต้นรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จากที่ต้นได้ยินมา ยังไงต้นก็ขออยู่เคียงข้างคชาแบบนี้ตลอดไป
ต้น....
ไม่เอาน่า คนน่ารักที่มีแต่รอยยิ้มจะมีคราบน้ำตาได้ไงต้นพูดพร้อมกับรีบเอามือมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของผมทันที ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไปอย่างเต็มที่เช่นกัน
ช่วงเวลาสวรรค์ของพักกลางวันได้หมดลงอีกแล้ว
เออ เดี๋ยวต้นขึ้นห้องเรียนไปก่อนได้เลยนะ เพราะเดี๋ยวชาจะต้องไปที่ห้องพักครู จำได้ว่าครูแนนนัดคชาให้ไปหาเพื่อเตรียมงานวันกีฬาสีที่กำลังจะถึงน่ะผมพูดเมื่อนึกขึ้นได้ตอนที่กำลังจะเดินออกจากสรวงสวรรค์แห่งนี้
อ้าวเหรอ โอเคๆ งั้นต้นไปก่อนนะ แล้วเจอกันต้นพูดพร้อมกับโบกมือบ๊ายบ๊าย แล้วเดินแยกออกไปอีกทาง
ผมตอนนี้ที่เหลืออยู่คนเดียวก็รีบเดินลัดเลาะออกไปตรงข้างหลังห้องพยาบาล จนเดินมาโผล่ตรงข้างหลังของห้องดนตรี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดินต่อก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังพูดกับตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ฮึ้ยยย พ่อบ้าอำนาจ ทำกับเมียรักเราแบบนี้ได้ไง!!!
ผมยืนงงๆนิดหน่อย แต่ก็ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้
เอ่อ... ขอโทษนะ แต่เรามีให้ยืมเอาไหม ?ผมเอ่ยออกไปเบาๆ และดูเหมือนคนที่กำลังลูบไล้กีตาร์ด้วยความรักคนนั้นจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
........................
แต่ว่าตอนนี้เรากำลังรีบไปที่อื่นต่อน่ะ ยังไงพรุ่งนี้หลังโรงเรียนเลิกก็มาหาเราได้นะที่หลังห้องพยาบาล เราให้ยืมได้นะ เรามีซ่อนไว้ผมพูดด้วยรอยยิ้มแล้วรีบเดินมุ่งหน้าออกไปยังเป้าหมายตอนแรกที่ห้องพักครู
ดะ เดี๋ยวเซ่... อะไรวะ ?? ที่โรงเรียนนี้มีผู้หญิงปลอมตัวมาเรียนด้วยเหรอวะเนี่ย!!!
-----------------------------
TBC.
ผลงานอื่นๆ ของ แมวเหมียวเมี๊ยววว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ แมวเหมียวเมี๊ยววว
ความคิดเห็น