คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สายที่ 2.5
“…”
ปัง : ไม่ลำบากใจเหรอ ที่ได้คู่กับเรา
เจมส์ : ทำไมวะ เราจะคู่กับใครมันต้องถามคนอื่นด้วยเหรอ
ปัง : ไม่มีอะไร ถามเฉยๆ คนในห้องเขาไม่โอเคกับเราอยู่แล้ว กลัวพามาลำบาก
เจมส์ : ช่างเหอะ ไม่ได้สนใจ
ปัง : อืม งั้นวันเสาร์นี้เดี๋ยวเรานัดละกัน
(ล็อคโทรศัพท์)
เอาจริงดิ ไอ้นี่เดายากจริงๆ ตอนเย็นยังด่าเราอยู่หยกๆ พอค่ำๆ มากลับจะช่วยงานซะงั้น คงจะเป็นงานนั้นแหละ ไม่ทำก็ไม่ได้คะแนนไง เข้าข้างตัวเองอยุ่ได้ไอ้ปังเอ้ยยย ผมลงมากินข้าวกับแม่ข้างล่าง ผมไม่พูดอะไรมาก จนแม่สงสัยผมเพราะปกติผมกับแม่จะมีบทสนทนาทุกครั้งเวลาที่กินข้าว
“ปัง กับข้าวไม่อร่อยเหรอลูก”
“อ๋อ เปล่าแม่ ปังแค่ยังไม่หิวมาก”
“ไม่หิวก็ยังไม่ต้องกินนะลูก เดี๋ยวแม่เก็บกับข้าวในตู้เย็นแล้วดึกๆปังหิวก็เอามาอุ่นไมโครเวฟเอา ไปทำการบ้านเถอะลูก”
“งั้นปังทำการบ้านนะแม่” ผมเดินเอาจานมาล้างที่อ่างล้างจาน ก่อนจะขึ้นไปห้องนอน พอถึงโต๊ะทำงานในห้อง ผมก็หยิบการบ้านขึ้นมาทำ เผื่อมันทำให้ผมหยุดคิดเรื่องต่าง
ๆ ที่มันเกิดขึ้นวันนี้
(เสียงแจ้งเตือนแอพแชท)
แยม : กินข้าวนานจังปัง
“…” เลิกให้เขาวอแวได้น่าปัง เลิกสนใจแล้ว
ผมทำการบ้านมาเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจโทรศัพท์เลยซักนิดอยู่นานเหมือนกัน
(เสียงแจ้งเตือนแอพแชท)
แยม : ทำการบ้านอยู่เหรอ ขอโทษนะ เราไม่กวนแล้ว
แยม : ตั้งใจทำการบ้านอ่านหนังสือนะ
ปัง : เราทำการบ้านเสร็จแล้ว เมื่อกี้ทำจนไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนเฉยๆ 5555
สุดท้ายผมก็พ่ายแพ้ให้กับเขา ผมรู้สึกอดตอบเขาไม่ได้เลย รู้สึกที่ทำให้เขารอโคตรๆ
แยม : นึกว่าไม่อยากคุยกับเราซะอีก เห็นหายไปนานตั้งแต่กินข้าว 555
ปัง : ขอโทษนะ ตอนนี้คุยได้แล้ว
ผมคุยกับเขาผ่านแอพแชทกับแยมอยู่นานๆมาก เราคุยกันแทบทุกเรื่อง แยมเป็นคนตลกตอบยิงมุกตลกใส่ผมอยูเรื่อยๆ
แยม : วันนั้นนะ เราไปกินปิ้งย่างกับเพื่อน เพื่อนเราอ่ะสั่งเห็ดมา แล้วก็เอามาย่าง แล้วบอกเราว่า ถ้าเห็ดสลดเมื่อไหร่บอกด้วยนะ
เดี๋ยวจะไปปิ้งอย่างอื่นเพิ่มก่อน แล้วเราก็ทำหน้าเศร้าๆ ใส่เพื่อน จนเพื่อนถามว่าเป็นอะไร
ปัง : ทำไมอ่ะ เป็นไรอ่ะตอนนั้น
แยม : ก็เห็ดสลดไง
ปัง : … ถ้าเราเป็นเพื่อนแยม เห็ดคงไม่ได้อยู่บนเตา คงจะอยู่บนหน้าแยมแทน 55555
แยม : ถถถถ อย่าทำผมเลยค้าบบบบ
ถึงมุกของแยมมันจะน่าเตะไปบ้างก็ตาม แต่มันทำให้ผมลืมทุกเรื่องที่ผ่านมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมถือโอกาสระบายถึงเรื่องที่ผ่านมาด้วย ไม่ใช่แค่ตอนเย็น
แยม : เราคอลกันมั้ย เราว่าเรื่องแบบนี้ อยากให้ปังพูดออกมามากกว่า เราคิดว่าปังจะได้ระบายมาทั้งใจเลยนะ
“….”
ปัง : [เริ่มการสนทนา]
ผมเล่าทุกอย่างให้เขาฟังทุกอย่าง ที่ผมเจอมาทั้งหมด ผมแค่แสดงสีหน้าไม่เก่ง พอมีคนอยากรู้จักผมดันแสดงด้านและใบหน้าที่มันไม่อยากต้อนรับใคร เพราะเรื่องแค่นี้เลยทำให้ผมถูกเพื่อนๆเกลียด สร้างเรื่องต่าง ๆ นาๆ ใส่ร้ายผม ผมอยากเลิกนิสัยนี้แต่กลับทำไม่ได้เลยซักนิด ผมเล่าทุกอย่างให้เขาฟังทั้งน้ำตา ผมร้องไห้ สะอึกสะอื้นไปหมด ตอนนี้เขาคงรำคาญผมแล้วละมั้ง
เขาคงจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม
คนที่พูดเรื่องไร้สาระอะไรก็ไม่รู้ให้เขาฟัง
แยม : ‘ปังฟังเรานะ ปังลองยิ้มดูสิ’
“ทำไมเหรอ” ผมสูดจมูกพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด ให้เมื่อเมื่อกี้ไม่ได้ร้องไห้
แยม : ‘ เราคิดว่ารอยยิ้มอ่ะ มันเปลี่ยนโลกได้เลยนะ จากคนที่หน้าตาดูหมองๆเศร้าๆ พอยิ้มออกมา อย่างกับคนละคนเลย
ปังลองยิ้มดูสิ’
“ถ้าเรายิ้มแล้ว ทุกอย่างจะดีจริง ๆ เหรอ”
แยม : ‘ใช่ เราคิดว่าเวลาปังยิ้มแล้วอ่ะ ซักวันเพื่อน ๆ
ของปัง ต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับปังแน่ๆ’
“ขอบใจมากนะ แล้วก็ขอโทษที่ไปร้องไห้ใส่แยมด้วย”
แยม : ‘ไม่เป็นไรๆ เราเป็นเพื่อนกันนี่เนอะ’
“…”
แยม : ‘ฮัลโหล ปังอยู่มั้ย’
“เราอยู่ๆ เราขอบใจจริงๆนะแยม ตอนนี้ดึกแล้ว เราไปนอนก่อนนะ แยมก็อย่าดึกมากนะ”
แยม : ‘โอเคๆ งั้นปังนอนเลยนะ เราไม่กวนแล้ว ฝันดีนะ’
ปัง : [เลิกการสนทนา] เวลาสนทนา 1:06:11
รู้สึกดีมาก ๆ ผมรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้พูดอะไรออกไปแล้วมีคนรับฟัง มันรู้สึกดีแบบนี้เองเหรอ ผมอยากรู้ตัวเองจังว่าผมจะรักษาเพื่อนคนนี้ได้นานแค่ไหน ผมรู้สึกว่าตอนนี้แยมคือเพื่อนคนแรกที่สามารถรับฟังทุกเรื่องของผมได้ แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้ากันเลยด้วยซ้ำ ขอบคุณทุกๆอย่างที่ส่งให้เขามาเป็นเพื่อนกับผมนะครับ
(เสียงแจ้งเตือนแอพแชท)
“?”
เจมส์ : ปังพรุ่งนี้ว่างมั้ย ช่วยติวสังคมให้หน่อยดิ
ปัง : ก็ว่างมั้ง
เจมส์ : สรุปว่างไม่ว่าง ติวให้หน่อยดิ
มีแยมเป็นเพื่อนนี่ดีจังเลยเนอะ เป็นกำลังใจให้นุ้งปังด้วยน้า อยากให้นุ้งมีเพื่อนๆเยอะๆ ติชมช่วยเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ
ความคิดเห็น