ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทัณฑ์อสูร

    ลำดับตอนที่ #2 : ทัณฑ์อสูร 2

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 51


                       แสงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้าบ่งบอกให้รู้ว่าเวลาล่วงเลยมานานเท่าไรแล้ว    จากตอนเช้าที่เธอถูกจับมาที่นี่    แสงสีทองเริ่มเลือนหายให้ความมืดเริ่มคืบคลานผ่านเข้ามา    อากาศจากภายนอกโชยพัดต้องผิวเนื้อบางละเอียดของหล่อนทำให้ความหนาวเย็นผ่านไปถึงความรู้สึกข้างใน   ตั้งแต่เช้ามาหล่อนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท้องของเธอไม่มีอะไรเลยนอกเหนือจากน้ำเท่านั้น    แต่หล่อนเองก็ไม่มีความหิวเลยเพราะความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้มีอะไรที่ร้ายกาจกว่าความหิวรออยู่แล้ว      เขาตะโกนต่อหน้าของเธอว่า   "เธออยู่ที่นี่ในฐานะนางบำเรอของเขา"  แล้วคืนนี้  เขาก็อาจจะทวงสิทธ์นั้นก็ได้   แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ใครเล่าจะช่วยเธอได้  โธ่....นี่มันอะไรกันแน่  ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ไปได้    หล่อนได้แต่ถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ก็ไม่ได้คำตอบเลยสักครั้ง   ทิชาเธอยังคงนั่งกอดเข่าตัวเอง  ปล่อยให้สายตาเหม่อมองออกไปข้างนอกอย่างไร้ชีวิต    ผมที่แสนจะดำขลับของเธอถูกปล่อยอย่างเป็นอิสระ   เหมือนกับว่าเจ้าของผมงามนั้นไม่สนใจใยดีอีกแล้ว       แต่....เธอไม่รู้หรอกว่าในขณะที่เธอยังนั่งกอดเข่า  ปล่อยผมยาวลงระบ่าขาวเนียนอย่างนั้นมันช่างเป็นภาพที่งามตาสำหรับบุรูษที่เข้ามานานแล้ว หากแต่ไม่ประสงค์จะแสดงตัว........เขายังคงยืนกอดอกเพ่งสายตามองไปที่สาวน้อยร่างบางผู้ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างอย่างไม่วางตา    เขามองอยู่อย่างนั้นด้วยความสับสนบางอย่างในตัวเองหากแต่เขาก็ตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร.......จนในที่สุดเขาต้องสลัดความคิดบางอย่างออกจากสมองแล้วก้าวขายาวๆ เพียงไม่กี่ก้าว ก็สามารถมาถึงตัวของหล่อนได้.......กรวินธ์เอื้อมมือไปคว้าตัวของเธอให้ลุกขึ้นประจันหน้ากับเขาในระดับเดียวกัน  
      
            "
    คิดว่ามาทำหน้าเศร้าแบบนี้ ฉันจะใจอ่อนหรือไง ห๊า...แม่ตัวดี "    พูดพร้อมกับเพ่งมองสายตาของเธอ  หากแต่เธอก็ไม่ได้หลบแต่อย่างใด  
            "
    น่าเสียใจหน่อยนะที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่  แต่เธอก็ควรโทษพ่อเฮ็งซวยของเธอเอง...ใครบอกให้มันอยากเลวก่อนทำไมล่ะ "  ไม่ทันสิ้นคำพูดดี  ทิชาก็สะบัดตัวเต็มแรงเพื่อที่จะให้พ้นจากการเกาะกุมนั้น  หล่อนพยายามสบัดตัว หากแต่ไร้ผล เพราะมือของเขาแข็งแรงราวเหล็กกล้า  ที่หนีบมายังแขนของเธอมันช่างสร้างความปวดแสบปวดร้อนได้ดีซะนี่   
       
              "
    ทำสะดีดสะดิ้ง   หวงเนื้อหวงตัว  ทุเรศ!  ผ่านมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร....แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อมันเป็นเกมฉันก็จะเล่นให้จบ แม้ต้องอดทนที่ต้องนอนกับเธอก็ตาม "   เขาพูดทีล่ะคำอย่างชัดเจน เหมือนว่าเธอเป็นไวรัสโรคที่น่ารังเกลียดเต็มที   จนทิชาลืมความกลัวแล้วปะทะคารมกับเขาจนได้
       
              "
    ไอ้เลวระยำ...อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันนะ   นายไม่สิทธิ์ที่จะมาดูถูกฉันแบบนี้ น่ะ...."  ไม่ทันที่จะสิ้นคำพูด  ทิชาก็ถูกปิดปาก จนคำพูดของเธอขาดหายไป   เขาปิดปากของเธอด้วยริมฝีปากของเขาเอง....  

                                              .......................................................................

              
    ทิชาตกใจจนแทบจะเป็นลมดีที่ว่าเขากอดเธอไว้ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มไปกองกับพื้นแล้ว   เขาจูบอย่างรุนแรงเหมือนจะเป็นการลงโทษที่เธอปากดีเสียมากกว่าความพิศวาส   ก็แน่ล่ะซิ  เขาจะมาพิศวาสเธอได้อย่างไร ในเมื่อเขาเกียดเธอมากจะตายอย่างนี้   ทิชาใช้มือทั้งสองข้างยันอกเขาเอาไว้  แต่ก็เหมือนกับการยกหินก้อนใหญ่ที่ไร้ความหมาย   ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดมากขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก      หล่อนพยายามเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากอันดุดันของเขา   แต่เขาก็ใช้มือีกข้างมากดท้ายศีรษะเธอไว้อย่างรู้ทัน   ในขณะที่มืออีกข้างของเขายังคงลูบคลำที่สะโพกกลมมนของเธออย่างมันมือ
    ............เขาจูบแล้วจูบอีกจนหล่อนรู้สึกว่าริมฝีปากของเธอปวดแสบไปหมด   แต่เขาก็ยังคงดำเดินต่อไป   หล่อนดิ้นจนแทบหมดแรงที่จะต่อท้านเขา    เธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ยที่เธอแพ้เขาจนได้    .........หล่อนรู้สึกว่าเขาก้าวเท้าไปข้างหน้าในขณะที่เธอเองถอยหลัง    จนเธอรับรู้ถึงความนุ่มของที่นอน  หล่อนดีดตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่เขาก็ไม่ปล่อยโอกาสเพราะเมื่อแผ่นหลังของเธอถึงที่นอนเขาก็ทิ้งตัวลงทับตัวของหล่อนโดยทันที    
             
                 "
    หึ...ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าผู้หญิงอย่างเธอจะจูบไม่เป็นสัปะรดเอาเสีย  " เขาพูดอยู่เหนือร่างของทันทีที่ถอดริมฝีปากจากหล่อน ในขณะที่หล่อนเองอยู่ใต้ร่างของเขา   ใบหน้าของเขาห่างออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น   
            
               "
    ปล่อนนะ    "  หล่อนดิ้นและเบี่ยงหน้าหนีสายตาเขา     " หูแตกรึไง   ฉันบอกให้ปล่อย  ปล่อยเดี๋ยวนี้ "  ทิชาตะโกนออกไปจนแทบไร้เสียง  
                "
    หึ..ปล่อยก็โง่สิ....ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอ...คือนางบำเรอของฉัน   และตอนนี้ต่อมเพศของฉันมันก็เริ่มจะทำงานซะแล้วซิ "    เขาพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้   ในยามนี้ถึงเธอตะโกนให้ใครช่วยก็คงไม่มีแน่  เพราะที่นี่เป็นอาณาจักรเขานี่นา  และนี่ก็มืดมากแล้ว  เธอคงหมดหวังแน่  นี่เธอต้องเป็นนางบำเรอของเขาจริงๆ หรือนี่  ....ทิชารวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อจะทุบตีเขาแต่ดูกลับกลายเป็นว่า เขายิ่งอารมณ์ดีขึ้นมากเท่านั้นที่เห็นเธอดิ้นรนเหมือนคนจนตรอก    เขาโน้มใบหน้าเข้ามาจูบเธออีกครั้งอย่างรุนแรง   และทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดมาที่เธอ  เพื่อให้เธอรู้สึกเจ็บ   ทิชาถูกรวบมือทั้งสองข้างเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา  ส่วนมืออีกข้างเขาใช้สำหรับกระชากเสื้อของเธอจนขาดวิ่นไปหมด  ยามนี้เธอจึงมีเพียงบราตัวจิ๋วเท่านั้น   เขาใช้มือลูบคลำเนินเนื้ออวบขาวของหล่อนอย่างหิวกระหาย     กิริยาที่เขาแสดงออกเหมือนว่าเขาเดินทางในทะเลทรายแล้วเพิ่งพบเจอกับแหล่งน้ำก็ไม่ปาน   ทิชารู้สึกทรมานเหมือนใจจะขาด เขาทำกับเธอเยียงซาตาน  หรือสัตว์ป่าก็ไม่ปาน  ไม่มีความปราณี  หรือสงสารแม้แต่น้อย   เขาระดมจูบไปทั่วใบหน้าอย่างคนขาดหายไปนานปี   เขาทั้งบีบทั้งเค้นอกของเธออย่างมันมือ  ขณะที่เธอรู้สึกปวดร้าวจนน้ำตาไหล    กรวินธ์ปล่อยมือจากมือเธอเหนือศีรษะ มาวนเวียนที่สะโพกของเธอแทน  เขาปลุกปล้ำถอดเสื้อผ้าของเธอจนหมด  เหลือเพียงชั้นในเท่านั้นที่เขาจ้องมองขณะนี้   เขาถอดริมฝีปากจากเธอเพื่อที่จะมองใบหน้าที่เบื้อนครบน้ำตาของเธออย่างสะใจ   เขายิ้มอย่างผู้มีชัย  ในขณะที่เธอร้องไห้   
                
                 "
    นายมันสารเลว   ไอ้ซาตาน  ออกไปจากชีวิตฉันเดี๋ยวนี้นะ  "  หล่อนพูดทั้งน้ำตาที่เอ่อนองหน้า   แต่เขาได้เพียงมองเท่านั้น  " สักวัน ฉันจะทำให้คุณทรมาน และสูญเสียมากว่าฉันเป็นร้อยเท่านั้น "  หล่อนพูดทั้งที่เสียงเครือ 
             
                "
    ฉันจะจำไว้แล้วกันนะ  แต่ตอนนี้ คนที่ต้องเสียคือคุณ ไม่ใช่ผม   อย่างน้อยก็....พรมจารี ..เอ๊! หรือว่าเธอไม่มี  "  เขาพูดอย่างเข่นเขี้ยวเหมือนจะบีบเธอให้ตายคามือไปเสียเลย   หล่อนอยากตบหน้าเขานัก  แต่ทำไมสิ่งที่ทำได้คือร้องไห้เท่านั้น แต่อย่างน้อยก็เพื่อระบายความเจ็บปวดจากน้ำมือของเขา ที่ยังลูบไล้ไปทั้งเนื้อตัวของเธอแทบจะทุกส่วนสัดหรือแทบทุกอณูของร่างกาย   
               "
    พ่อขา.....ช่วยทิชาด้วย ..พ่อขา   " หล่อนสะอื้น และร้องหาพ่อ  ในขณะที่เขายังคงดำเนินการต่อไป  เขาถอดริมฝีปากและเคลื่อนลงมายังคองามระหงส์ของเธอ ระมาจนถึงเนินเนื้อสาวสร่างตา  เขาหยุดอยู่ที่ทรวงอกงาม และดูดกลืนมันอย่างหลงลืม  .......
                                                                       ..............โปรดติดตามตอนต่อไป....................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×