ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO MINI SEREIES : รัก โลภ โกรธ หลง - KRISYEOL

    ลำดับตอนที่ #1 : 0.5 :: Greed Chanyeol Ver.

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 56




     

     

    0.5 GREED (โลภ) : CHANYEOL Ver. 



     

                ปาร์คชานยอลเป็นเด็กหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง มีใบหน้าที่หากจะมองว่าหล่อก็หล่อ ว่าจะสวยหวานหรือน่ารักก็ได้ การศึกษาดี และที่สำคัญคือมีฐานะที่ไม่ธรรมดา

     

    ครอบครัวที่จัดว่าร่ำรวยติด 1 ใน 3 ของเกาหลี แน่นอนว่าทุกย่างก้าวของชีวิตนั้นโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ  

     

    หากแต่มนุษย์ทุกคนนั้นมีกิเลส อยากได้ อยากมี และไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีอยู่

     

    ชานยอลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

    อยากได้สิ่งมีค่าที่แสนท้าทาย

     

     

     

     

     

    เสียงของอาจารย์ประจำวิชายังคงดังต่อเนื่องพร้อมกับสไลด์ที่เปลี่ยนไปตามเนื้อหาการบรรยาย ภายในห้องเลคเชอร์นี้มีนักศึกษาที่หายไปกว่าครึ่งเนื่องจากวิชานี้ไม่มีการเช็คชื่อ ดวงตาคู่หวานจ้องมองไปยังร่างสูงด้านหน้าที่กำลังตั้งอกตั้งใจจดเนื้อหา อีกทั้งยังพยายามทำความเข้าใจกับมัน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่ได้เรียนคณะนี้เสียด้วยซ้ำ  

     

     

    เป็นเรื่องที่เห็นจนเกือบชินตลอดเทอมนี้ที่อู๋อี้ฝานจะเข้ามานั่งเรียนแทนคิมจงอินที่ตอนนี้คงกำลังนอนแฮงค์อยู่ที่ใดที่หนึ่งกับคู่นอน

     

     

    และเป็นอีกครั้งที่ปาร์คชานยอลนั่งมองแผ่นหลังกว้างนั้นจนหมดชั่วโมง

     

     

                หลังจากที่อาจารย์ปล่อย นักศึกษาทั้งหลายก็รีบเก็บของใส่กระเป๋า บ้างก็รีบกลับบ้าน บ้างก็ไปกินข้าว บ้างก็นัดกันไปเที่ยว ชานยอลเองก็ได้รับคำชวนไปกินข้าวจากกลุ่มเพื่อน ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบรับก่อนเก็บของแล้วลุกขึ้นตามไป   

     

     

                วันนี้กินอะไรดีโอเซฮุน ลูกชายท่านรัฐมนตรีถามขึ้น หากดวงตากลับมองมาที่ชานยอลเป็นอันรู้กันว่าให้ร่างโปร่งเป็นคนตัดสินใจ

     

     

                โรงอาหารคณะเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำออกไป

     

     

    ขาเรียวยาวก้าวเดินอย่างไม่เร่งรีบตามแผ่นหลังที่แสนคุ้นเคย เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายมักจะมาฝากท้องไว้ที่นี่ยามเมื่อต้องมาเรียนแทนชายหนุ่มผิวเข้มอย่างจงอินเสมอ

     

     

     

    โรงอาหารของคณะไม่ใช่สถานที่ที่คุณหนูอย่างชานยอลโปรดปรานสักเท่าไหร่ เพราะมีผู้คนมากมายจึงทำให้ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด เสียงก็ดังจนน่ารำคาญ อากาศก็ร้อนชวนพาลให้รู้สึกหงุดหงิดได้ง่ายๆ  ถ้าไม่เป็นเพราะอู๋อี้ฝานที่นั่งกินข้าวเงียบๆ อยู่คนเดียวบริเวณโต๊ะถัดไป ผู้คนในโรงอาหารแห่งนี้ก็ยากที่จะได้เห็นหน้ากลุ่มคนดังของคณะนิเทศศาสตร์

     

     

    มาทีไรก็ไม่ได้กินข้าว มัวแต่นั่งมองอยู่ได้ พยอนแพคฮยอนแขวะขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้

     

     

    เรื่องของฉันหน่า แพคฮยอน

     

     

    เอออๆ นั่งมองคริสให้อิ่มทิพย์ไปเลยแล้วกันนะอดไม่ได้ที่จะแขวะเพื่อนตัวดีอีกครั้ง ปกติชานยอลจัดว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง หากเจอคนที่ถูกใจก็จะเข้าไปทำความรู้จักอย่างเปิดเผย ผิดกับคนคนนี้ คนที่เพื่อนของเขาได้แต่เฝ้ามองโดยไม่คิดที่จะเข้าไปทักทาย

     

     

     

                ไม่เกินครึ่งชั่วโมงคริสก็ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายถึงระฆังบอกเวลาสำหรับวันนี้

     

     

                ชานยอลลุกขึ้นเดินไปยังรถคันหรูของตัวเอง หลังจากที่นั่งคอยจนแผ่นหลังแกร่งนั้นหายไปกับฝูงชน

     

     

                ยังมีคนอีกคนที่เขาต้องไปจัดการ

     

     

     

     

     

    ร่างสูงโปร่งหากแต่บอบบางของชานยอลนั่งเอนตัวพิงหมอนนุ่มใบใหญ่อยู่บนเตียง นิ้วเรียวสไลด์หน้าจอไอแพดท่องโลกอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจสิ่งรอบกาย รวมถึงสายตาของคิมจงอินที่นอนมองใบหน้าหวานอยู่ข้างกัน 

     

     

    ชานยอลอา มานอนกันเถอะนะเสียงบ่นอู้อี้ดังขึ้น เพราะอาการแฮงค์ที่ยังไม่หายดี มือหนาคว้าเอาไอแพดของชานยอลไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงฝั่งตนเอง หวังให้อีกคนทอดกายลงมานอนข้างกัน

     

     

    แต่ก็ได้แค่หวังเพราะที่อีกคนยอมมาหาถึงขนาดนี้ก็เป็นเพราะคนอื่นไม่ใช่จงอินคนนี้

     

     

    จะกลับ

     

     

    อย่าใจร้ายกันแบบนี้สิชานยอล

     

     

    อีกสามวัน

     

     

    ทำไม อีกสามวันมีอะไร

     

     

    ฉันจะมาเอาคำตอบจากนาย ถึงเวลานั้นก็อย่ามาลีลาแบบนี้ เตรียมคำตอบไว้ด้วยล่ะ คิมจงอิน

     

     

     
     

     

     
     

     
     

                ในระหว่างเฝ้ารอเวลาที่กำหนดไว้ ชานยอลยังคงใช้สายตามองหาร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาชวนหลงใหลของคริสไม่ได้เปลี่ยน เฝ้าดูสีหน้าของอีกคนที่ฉายแววความตึงเครียดอยู่ไม่น้อย เพียงเห็นแค่เท่านี้ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

     

     

                แสดงว่าคิมจงอินคงจะตัดสินใจได้แล้ว

     

     

              ดวงตากลมโตทอประกายความยินดีอย่างปิดไม่มิดยามที่มองเห็นคนหน้าคมนั่งกุมขมับอยู่บริเวณม้าหินใต้อาคารคณะนิเทศศาสตร์

     

                วันนี้ก็เป็นอีกวันที่คริสต้องมาเข้าเลคเชอร์แทนคิมจงอิน ชานยอลยืนมองคนตัวสูงอยู่อีกพักจึงเดินออกไปยังห้องเรียน เหลือเวลาอีก 10 นาทีก่อนอาจารย์จะเริ่มคลาส คาดว่าอีกคนคงจะตามเข้ามาในอีกไม่ช้า

     

     

              เมื่อเข้ามานั่งประจำที่ของตัวเองตามที่เพื่อนได้จองไว้ให้ เซฮุนที่มักจะสังเกตคนอื่นอยู่เสมอจึงอดไม่ได้ที่จะถามถึงสาเหตุที่ทำให้ชานยอลเดินอารมณ์ดีเข้ามาแบบนี้

     

     

                มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นรึไง

     

     

              “มากเลยล่ะ

     

     

              “เรื่อง…?”

     

     

              “คนนั้นไง

     

     

                ….อู๋อี้ฝาน….

     

     

             

     
     

              นิ้วเรียวกดส่งข้อความหาจงอินถึงสถานที่นัดหมายในเย็นนี้ ถึงกำหนดที่คนผิวเข้มจะต้องให้คำตอบกับเขาเสียที หลังจากที่อีกฝ่ายพยายามถ่วงเวลาเอาไว้ตลอด หากคนอย่างชานยอลอยากได้อะไรแล้วก็จะพยายามจนถึงที่สุดเพื่อให้ได้มา ไม่ได้สนใจวิธีการเท่าไหร่ เพราะเขาสนใจที่ผลลัพธ์สุดท้าย

     

     

                คนหน้าหวานเข้ามานั่งรอภายในร้านอาหารระดับภัตราคารก่อนเวลาที่นัดไว้ครึ่งชั่วโมง ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อบอกถึงความต้องการห้องวีไอพีเป็นการส่วนตัวกับพนักงาน แล้วจึงกดข้อความส่งหาจงอินอีกครั้งถึงหมายเลขห้องที่ตนรออยู่

     

     

                รอเพียงไม่นานนัก ประตูห้องอาหารวีไอพีก็ถูกเปิดออก ชานยอลส่งยิ้มให้แก่จงอินอย่างอารมณ์ดี ผิดกับอีกคนที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา

     

     

                ฉันสั่งอาหารไว้ให้แล้วล่ะ

     

     

                ตกลง

     

     

            “หืมอะไรกันจงอินใบหน้าน่ารักแสร้งทำฉงนกับคำพูดนั้น ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องอะไร

     

     

                ฉันตกลงรับข้อเสนอของนาย

     

     

                รู้สึกดีแฮะที่ได้ยินคำตอบนี้ นึกว่าจะปฏิเสธซะอีก หึ

     

     

              “ฉันคงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก แต่เรื่องของพ่อฉัน นายก็ต้องสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ

     

     

              “แน่นอน ตราบใดที่นายไม่ผิดสัญญา เรื่องที่พ่อนายแอบทำอะไรลับหลังคุณลุงอยู่ก็จะไม่ถูกเปิดเผย เพราะยังไงเร็วๆ นี้คุณลุงก็คงต้องรู้อยู่ดีว่าถูกฉ้อโกงโดยฝีมือของลูกน้องคนสนิท ถึงเวลานั้นเขาก็คงได้สิ่งที่ต้องการไปเรียบร้อยแล้ว

     

     

                ได้ ส่วนเรื่องคริสฉันจะพูดกับมันภายในสองสามวันนี้แค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มหวานให้กับร่างบางได้ จงอินได้แต่มองรอยยิ้มนั้นอย่างทำอะไรไม่ได้ รู้ดีว่าคนตรงหน้าเขาอันตรายแค่ไหน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหลงไปกับมัน

     

     

                ทั้งคู่นั่งทานอาหารด้วยกันอีกพักใหญ่ สีหน้าของจงอินผ่อนคลายลงไม่เหมือนกับตอนแรกที่เข้ามา หลังจากเสร็จสิ้นธุระต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป  แต่ก่อนที่แยกกันชานยอลก็ไม่ลืมที่จะพูดเสียงนุ่มกับอีกฝ่าย นี่จงอิน อย่าให้รุนแรงมากนักล่ะ ฉันไม่อยากเห็นคริสเครียดตายหรอกนะเป็นอันรู้ดีว่านี่คือประโยคคำสั่งที่ต้องทำตาม จงอินเพียงพยักหน้ารับคำพูดนั้น

     

     

     

     

     

     

                ไม่นานเกินรอ สองวันให้หลังคิมจงอินก็ส่งข้อความมาหาชานยอลว่าได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตอนนี้สถานะของคริสจึงเหมือนคนไร้ญาติขาดมิตรอย่างสมบูรณ์

     

     

                ไร้ที่พึ่งพึงที่พักอาศัย ไร้ที่พึ่งการเงิน ไร้ซึ่งทุกสิ่งที่เคยมีมา

     

     

                แต่รอเพียงไม่นานเท่านั้น ปาร์คชานยอลจะเป็นคนเดินเข้าไปมอบส่วนที่ขาดหายไปให้แก่ร่างสูงเอง

     

     

     

                รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันเลวสิ้นดี แต่ถ้าหากอยากได้เขามาอยู่ด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากปลดเชือกที่ผูกมัดอยู่ของคนอื่นออก แล้วมัดใหม่ด้วยเชือกของเขาเอง

     

     

     

              และตอนนี้ก็คงถึงเวลาที่ชานยอลจะเข้าไปหาอู๋อี้ฝานสักที

     

     

     

     

     

               

                  ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่ง มีเพียงแววตาคู่คมเท่านั้นที่ฉายออกมาถึงความเครียดและเสียใจ ร่างสูงนั่งอยู่บริเวณตึกคณะของคิมจงอินตั้งแต่ฟ้าสาง ด้วยเพราะนอนไม่หลับจึงเลือกที่จะมาเฝ้ารออีกคนหวังจะได้พูดคุยอีกครั้งถึงสิ่งที่จงอินได้บอก

     

     

                เสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาเรื่อยๆ เรียกให้คริสหันไปมอง ความประหลาดใจเต็มอยู่ใบหน้าเมื่อเห็นว่าใครที่เดินเข้ามาใกล้ ร่างสูงโปร่งของคนหน้าหวานนั่งลงข้างกัน ใบหน้างดงามพร้อมดวงตาคู่ใสมองที่คริสอย่างเป็นมิตร

     

     

                ทำไมถึงมานั่งทำอะไรที่นี่ในเวลานี้เนี่ยริมฝีปากอิ่มเอ่ยถาม ก่อนจะพูดประโยคถัดไปให้คนที่ฟังอยู่ต้องตกใจ โดนทิ้งล่ะสิ

     

     

              “คุณรู้ได้ยังไงเสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้น เป็นครั้งแรกที่ชานยอลได้ยินเสียงของคนที่แอบเฝ้ามองมานานชัดแบบนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นเมื่ออีกคนหันมามองสบตา

     

     

                จงอินเล่าให้ฟังน่ะ ว่าคุณอาไม่สามารถรับอุปการะนายได้อีกต่อไปหลังไขข้อข้องใจเสร็จก็เกิดความเงียบ คนตัวสูงกว่านั่งนิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง ชานยอลจึงใช้นิ้วสะกิดที่ไหล่หนาเบาๆ ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้อีกคนตกใจยิ่งกว่าเก่า มาอยู่กับฉัน คิ้วเข้มเลิกขึ้น คนหน้าหวานจึงพูดย้ำอีกรอบ มาอยู่กับฉันให้เวลานายคิดสามนาที จับเวลา!” ข้อมือบางยกขึ้นมาดูเวลาตามที่พูด

     

     

                ดวงตาคู่สวยทอดมองใบหน้าของคริสอย่างอ่อนหวาน เพียงเท่านี้อีกฝ่ายก็รับรู้ถึงความรู้สึกที่มี

     

     

                ต่างฝ่ายต่างมองกัน สำรวจใบหน้าของอีกคนอย่างละเอียด

     

     

                เวลาสามนาทีหมดไปกับการถ่ายทอดอารมณ์ที่อยู่ภายในใจ

     

     

                ริมฝีปากบางสีระเรื่อเคลื่อนเข้าใกล้กับริมฝีปากหนา ก่อนที่จะประกบลงไปอย่างอ่อนโยน ไม่มีการรุกล้ำเกิดขึ้น มีเพียงความรู้สึกดีที่ชานยอลตั้งใจมอบให้ รวมถึงคำพูดที่อู๋อี้ฝานไม่มีทางปฏิเสธได้

     

     

                อยู่กับฉันนะอี้ฝาน  

     

     

     

     




     

    End. 0.5 Greed Chanyeol  Ver.

    Next

    TBC.  1.0 Greed Kris Ver.
     




    หากพูดถึงเรื่องนี้หรือสกรีมฟิครบกวนติดแท็ก #ฟิคกิเลส นะคะ จะตามไปอ่าน 
    ขอบคุณค่ะ 




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×