คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ตามหาจนเจอ
บทที่ 5 ตามหาจนเจอ
หลังจากที่อ่านนิยายจบไปบนเก้าอี้ เธอก็นึกถึง คำพูดของคนในเมืองที่บอกว่ามีคนมาตามหาเธอ เธอหวังว่าเขาคนนั้นจะไม่ใช่อลัน แต่ในส่วนที่ลึกๆของใจเธอก็หวัง ว่าจะได้เธอเขาสักครั้งก่อน คลอด
เหมือน พระเจ้าจะรับฟังคำขอของเจนิเฟอร์ ขณะที่เธอนั่งฟังพยากรณ์อากาศอยู่บนโซฟา คนที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเวลาแทบจะทุกลมหายใจที่เขาออก ก็มาหาเธอถึงที่บ้าน ในวันที่ฝนตกหนัก เหมือนวันที่พวกเขาเจอกันครั้ง
ก๊อกๆๆๆ
“เจนิเฟอร์ เจนิเฟอร์ได้ยินผมไหม ได้โปรดเถอะขอให้ผมเจ้าไปหน่อย แค่หลบฝนก็ยังดี”
อลันพูดผ่านเข้ามาทางประตูหน้าที่ถูกล็อคเอาไว้ เจนิเฟอร์ทนคำขอร้องของเขาไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องการเปิดขนาดไหน แต่ถ้าฝนตกหนักขนาดนี้เขาคงไม่มีที่ไปที่ไหน บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็อยู่ห่างไปเกือบไมล์ เธอเลยจำต้องเปิดประตูให้เขาเข้ามา
“ขอบคุณ ผมมารอหน้าบ้านคุณได้สักพักแล้ว ขอโทษนะ ผมไม่กล้าเข้ามา แต่จะกลับก็ไม่มีรถแล้ว ผมขอพักที่นี้สักคืนแล้วพรุ่งนี้ผมจะรีบออกไปทันที” เขาพูดหลังจากที่เขามาในบ้านได้แล้ว
เจนิเฟอร์มองหน้าของอลันที่เปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ยังคงความหล่อไว้เหมือนเดิม
“รออยู่นี้ก่อนนะ เดียวฉันจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน”
เธอเดินกลับไปยังห้องนอน พร้อมผ้าขนหนูสองผืน
“เอาเสื้อโค้ชมาสิ เดียวเอาไปซักให้” เธอคว้าเสื้อโค้ชที่เปียกฝนจากเขามาแล้ว ส่งผ้าขนหนูแห้งๆ ให้แทน
“คุณคงต้องอยู่ที่นี้อีกหลายวัน เพราะพายุเข้าหนักขนาดนี้ไม่มีรถแท็กซี่มารับคุณหรอก”
เธอพยายามที่จะมองหน้าเขาอย่างเฉยเมย แต่ก็ยากที่จะทำได้ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังว่างท่าได้
“คุณคงจะพอใส่เสื้อผ้าของเทอร์เนอร์ได้ คุณไปอาบน้ำก่อนแล้วกันเกิดเป็นปอดบวมตาย คุณป้าคงไม่เอาฉันไว้แน่ เดียวฉันจะหาเสื้อผ้าของเทอร์เนอร์ไปให้คุณเปลี่ยนในห้องน้ำนะ ส่วนเสื้อผ้าที่เปียกว่าไว้หน้าห้องน้ำแหละ เดียวฉันไปเก็บเอง ห้องน้ำอยู่สุดทางเดิน”
เธอรีบเดินจากเขาก่อนที่เขาจะได้ถามหรือมีโอกาสพูดอะไร เธอเดินเอาเสื้อผ้าไปวางไว้หน้าห้องน้ำตอนที่เขากำลังอาบน้ำอยู่
“เสื้อผ้าฉันวางเอาไว้ตรงนี้นะ” เธอก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าของเขาที่เปียกไปหมด ก่อนจะเอามันไปไว้ในเครื่องสักผ้า
เธอต้องหยิบไม้ถูพื้นขึ้นมาทำความสะอาดพื้นบ้านที่เปียก เพราะแขกไม่ได้รับเชิญที่เปียกปอนไปทั้งตัว เธอต้องคำความสะอาดก่อนที่มันจะทำให้ใครหัวร้างข้างแตก
“สโนไวร์ วิ่งหนีนายพราน ที่ตามล่าเธอเข้าไปในป่าลึก ลึกจนน้อยคนนักที่จะเคยไปแถวนั้น แม้แต่นายพรานเองก็ยังไม่กล้าที่จะกล่ำกลายเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของผืนป่า มีเรื่องเล่าขานกันมาแสนนาน ถึงที่ผืนดินที่ลึกที่สุดของป่า ที่ดินผืนนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของมีภูตผีปีศาจมากมาย มีภูตแคระกินคน ที่ทำงานในเหมืองทอง คอยทำร้ายใครก็ตาที่หาญกล้าไปยังเหมืองทองของพวกเขา” เจนิเฟอร์กำลังอ่านนิทานให้ลูกน้อยของเธอฟังอยู่หน้าเตาผิงที่ตอนนี้ไฟกำลังลุกโชน ตอนที่อลันเดินเข้า
“คุณทานอะไรมารึยัง” เธอปิดหนังสือนิทานที่กำลังอย่าอยู่ก่อนที่จะถามเขาด้วยเสียงเย็นชา
น้ำเสียงที่เย็นชาของเจนิเฟอร์ค่อยๆ แทรกซึมไปยังส่วนรับรู้ความรู้สึกของอลัน ในใจของเขาเหมือนโดนเข็มมากมายทิ่มแทง มันไม่อาจทำให้ถึงตายได้ แต่ก็สร้างความเจ็บปวดยิ่งความตายให้แก่ผู้ได้รับ อลันทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ กับคำถามของเจนิเฟอร์
เจนิเฟอร์ลุกจากเก้าอี้หน้าเตาผิง เดินไปในครัว เพื่อทำอาหารให้อลันทานก่อนที่เขาจะหิวตายต่อหน้าเธอ
“นี้โกโก้ร้อน กินลองท้องซะ มันช่วยทำให้อุ่นขึ้นด้วย เดียวฉันจะทำอาหาร” เธอวางแล้วโกโก้ร้อนลงตรงเคาเตอร์ในครัว
หลังจากที่ทำอาหารให้อลันเสร็จเธอก็เดินไปนั่งยังเก้าอี้หน้าเตาผิง อ่านนิทานให้ลูกฟังต่อ โดนมีสายตาของอลันค่อยเฝ้ามองทุกกริยาที่เธอทำ คืนนั้นทั้งคู่แทบจะไม่ได้คุยกันเลย
เกือบสี่ทุ่มแล้ว เมื่อเจนิเฟอร์อ่านนิทานให้ลูกฟังจบ
“อลัน คืนนี้คุณนอนที่ห้องนอนเล็กแล้วกัน เดียวฉันจะไปจัดห้องให้ พอดีว่าฉันไม่คิดว่าจะมีใครมาค้างด้วยนะน๊า” เจนิเฟอร์บอกด้วยเสียงเย็นชาอีกครั้ง
“ผม นอนที่ไหนก็ได้ที่มีคุณอยู่ด้วย” แทบจะไม่หน้าเชื่อว่านี้เป็นคำพูดของว่าที่ประธานบริษัทPk Cos ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก
เธอลุกจากเก้าอี้หน้าเตาผิงอีกครั้ง แล้วเดินไปที่ห้องนอนเล็กที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่ที่ตอนนี้เป็นห้องนอนของเธอไปแล้ว เธอพยายาที่จะไม่บอกหน้าอลันเพราะคำพูดของเขาแทบทำให้ไฟในตัวของเธอลุกขึ้นมาอีกครั้ง
กว่าที่เธอจะจัดที่นอนเสร็จก็เป็นชั่วโมงทีเดียว มันคงจะเสร็จเร็วกว่านี้ ถ้าอลันไม่ต้องการที่จะมาช่วย เขาไม่อยากให้เจนิเฟอร์งานอะไรหนักๆ ประเภทนี้ เขาเลยคิดที่จะทำเองทั้งหมด แต่สุดท้ายเจนิเฟอร์ก็ต้องเป็นคนจัดการกับที่นอนทั้งหมดอยู่ดี
เช้าวันใหม่........
กินอาหายโชยมาตามทางเดิน เจนิเฟอร์ค่อยๆ ลืมตา เธอเดินตามกลิ่นมาจนถึงห้องครัว สิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นคือ อลันกำลังทำอาหารเช้า
“ตื่นแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ ผมกำลังทำอาหารเช้าอยู่พอดี ไข่ดาวกับ เบคอนแล้วก็แฮมนะ ทานนี้ก่อนเลย นมร้อนๆ ไม่มีคาเฟอีนผสม ผมรู้ว่าคุณไม่ดื่มกาแฟ” อลันบอกอย่างร่าเริง พร้อมกับส่งแล้วนมอุ่นๆ ไปให้เธอ
“ขอบคุณนะ” เจนิเฟอร์ตอบอย่างงงๆ รับแก้วที่อลันส่งมาให้เธอ
มื้อเช้ามื้อนี้เป็นมื้อที่มีความสุขที่สุดตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี้ พวกเขาคุยกันมากขึ้น ทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน ถึงจะไม่มีอะไรให้ทำมากหนัก เพราะ ไฟฟ้าถูกตัดพ่อพายุ
“แล้วนี้ทิ้งงานมาเหรอ คุณลุงจะไม่ว่าเอารึไง” เจนิเฟอร์ถามอลันหลังจากที่ทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว
“ไม่หรอก ผมบอกคุณพ่อว่า จะพามือดีกลับไปด้วยคุณพ่อเลยให้ผมมา” เขาตอบอย่าร่าเริง
“แล้วนี้คุณ คิดที่จะกลับไปทำงานอีกไหมละ คุณพ่อท่านเสียดายฝีมือของคุณ” เขาถามบ้าง
“ในเมื่อคุณลุงต้องการมือดีทำงาน ฉันก็คงต้องไป แต่คงทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้หรอก เดียวลูกๆจะว่าเอา จริงไหมจ้า” เธอพูดพลางรูปท้องไป
เวลาเป็นเครื่องเยียวยาทุกสิ่งได้เสมอ พวกเขาคุยกันสนิทสนมเหมือนคู่รัก มีสวีทเล็กๆ เป็นบ้างครั้ง มีจูบอรุณสวัส ค่ำแล้วเป็นเวลาปกติที่เจนิเฟอร์จะต้องอ่านนิทานต่างๆ ให้ลูกฟังก่อนเข้านอน แต่วันนี้ทั้งสองคนกินดินเนอร์ใต้แสงเทียนสุดหรู โดยมีเสียงฝนเป็นเสมือนดนตรีที่ไพเราะดังอยู่ คืนนั้นพวกเรานอนกอดกันจนเช้าภายใต้ผ้าห่มพื้นเดียวกัน
“อรุณสวัสดิ์ ที่รัก” อลันพูดทักทายหลังจากที่เจนิเฟอร์ตื่น มันเหมือนฝันที่เป็นจริงของเธอในที่สุดเธอก็ได้อยู่กับคนที่เธอรัก พร้อมมีพยานรักของทั้งสองอยู่ในท้อง มันชักเหมือนฝันที่เป็นจริง เสียเหลือเกิน แต่ความฝันนี้จะอยู่ได้นานสักเท่าไรก็ไม่อาจที่จะบอกได้
ในตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว อลันต้องการกลับไปทำงานเพราะเขาหยุดมาหลายวันแล้ว แล้วก็ไม่ได้บอกใครไว้ว่าจะไปไหน กลัวว่าคนอื่นจะเป็นห่วง โดยเฉพาะพ่อกับแม่ที่ชอบเป็นห่วงมากจนเกินเหตุประจำ
“ไว้สุดสัปดาห์ผมจะมาหานะถ้าคุณยังไม่อยากกลับไปทำงานตอนนี้” อลันบอกกับเจนิเฟอร์ที่มายืนส่งที่หน้าประตูบ้านพร้อมกับจูบที่ซาบซึ้ง
“พ่อไปก่อนนะลูก เดียวพ่อจะมาหาใหม่นะ อย่าแกล้งแม่มากนักละ แล้วก็อย่าทะเลาะด้วย ต้องรักกันเข้าไว้นะ พ่อไปแล้ว” อลันกอดเจนิเฟอร์อีกครั้งแล้วก็เดินไปขึ้นแท็กซี่ที่จอดรออยู่
**********************************************
แม้ๆๆ มีคนอ่านของเราด้วย หุหุ
สองสามวันก่อนไปซื้อหนังสือ เกี่ยวกะคอมมา 4 เล่มยังไม่ได้เปิดอ่านเลย
เมื่อวานซื้อหนังสือเกมส์มา 2 เล่น เปิดอ่านทันที่ทันใด
แต่เป็นหนังสือนิยาย รักแล้วก็ห่วงสุดชีวิต
แต่หนังสือเรียนชังหัวมาน เหอะๆๆ
เพื่อนๆ เป็นแบบเราอะเปล่านี้
ความคิดเห็น