คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มต้น(แก้ไข)
พิสูจน์รักวัดใจ นายเทพบุตรคลาสโนว่า
ตอนที่1
“ไงคนสวยแต่งตัวเสร็จแล้วหรอเรา มาทานข้าวก่อนสิ แม่เตรียมไว้ให้แล้ว”เหอะๆเสียงแม่ผมทักผมเมื่อผมแต่งตัวเสร็จลงมาครับ 555 งงละสิทำไมแทนตัวเองว่า “ผม” แล้วมีหางเสียงว่า “ครับ” ทั้งที่คุณแม่ทักว่า “คนสวย” ไม่บอกหรอกเดี๋ยวรู้เอง
“แม่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ อย่าทักลูกชายแบบนั้นสิครับ” ครับผมเป็นผู้ชาย ชายแท้ๆ100%ด้วย แต่ทำไมคุณแม่ท่านถึงทักว่าคนสวยนะหรอ 555 ไม่บอกอีกนั่นแหละ มันจี๊ดใจลูกผู้ชายอย่างผมครับ
“จะให้แม่บอกว่าแกหล่อหรอ ไม่มีทางหรอก หน้าแกน่ะยังไงก็สวย สวยจนผู้หญิงยังอิจฉา รูปร่างแกอีก นี่ถ้าแม่ไม่เป็นแม่แกนะ ยังไงก็ไม่คิดว่าแกเป็นผู้ชายหรอก หรือแกจะเถียงห๊ะ” น่านมาเป็นชุดเลยครับแม่ผม จี๊ดใจผมเป็นที่สุดอ่ะ
“ครับๆ ไม่เถียงครับ ถึงไม่อยากยอมรับก็เถอะ แต่คุณแม่ครับเลิกทักแบบนั้นเถอะน้า ฟังแล้วมันจี๊ดใจลูกผู้ชายอ่ะ” เหอะๆ เถียงไม่ออกอ่ะครับ ที่คุณแม่พูดมานั่นถูกทุกอย่างแหละครับ
“คงยากนะ ไอ้ลูกชาย เพราะแม่เรียกของแม่อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว อีกอย่างพอเห็นหน้าแกแล้วมันอดไม่ได้อะ อ่อแล้วผมแกนะอย่าคิดที่จะไปตัดอีกหละ คงรู้นะว่าจะเจออะไร” น่าน ดูแม่ครับ ขอร้องก็ไม่รับปากยังมีขู่ไม่ให้ผมไปตัดผมอีก ฮือๆ จะตัดน่ะได้ครับ แต่ตัดสั้นคุณแม่ไม่ปลื้ม ชอบให้ผมไว้ผมถึงกลางหลัง บังคับให้ผมบำรุงผิวและผมอย่างดี ทำเหมือนผมเป็นลูกสาว ใช่ครับแม่ผมอยากให้ผมเป็นลูกสาว ก็บ้านผม มีพี่ชาย2คน แล้วแม่อยากได้ลูกสาวอีกหนึ่งคนจึงพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วได้ผมมาเป็นลูกคนสุดท้อง ก็ดันเป็นผู้ชาย แต่ดันมีแววจะสวยตั้งแต่เด็ก แม่เลยเลี้ยงผมเหมือนเลี้ยงลูกสาวเลยครับ ไม่เคยยอมให้ผมตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายทั่วๆไปแต่ดันชอบให้ผมไว้ผมยาวถึงกลางหลังนี่สิ ผมเลยผิวสวยหน้าสวยผมสวย จนถึงขนาดถ้าคนไม่รู้จักกันจริงๆจะไม่รู้เลยว่าผมน่ะ ผู้ชายทั้งแท่ง
“ครับๆ ยอมแล้วครับไม่ทำ ไม่คิดจะทำแล้วครับ เข็ดตลอดชีวิตเลยครับ” เหอะๆจะไม่ให้เข็ดได้ไงครับ ครั้งนึงเคยไปตัดผมสั้นมา คุณแม่เห็น อึ้งค้างเลยครับ แล้วหาเรื่องสวดผมยับตั้งแต่เช้ายันเย็น จนแม่ไม่สบาย ผมนี่หูชาแล้วชาอีก แถมสวดไปหยิกไป พอหยิกก็บ่นอีกว่า “ฉันหยิกแก ผิวแกก็เป็นรอยอีก เห็นแล้ว ช้ำใจ” เอากับแม่ผมสิครับ ห่วงความสวยของผมที่เป็นผู้ชายมากกว่าตัวเองที่เป็นผู้หญิงซะอีก แล้วอย่าคิดนะว่าจะเลิกหยิกน่ะ ไม่เลิกหรอกคับของกำลังขึ้น หยิกต่อแต่เปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆคับ นี่แหละที่ทำให้ผมเข็ดหละ คือหยิกที่เดียวเป็นรอยที่เดียวเจ็บที่เดียวครับแต่นี่ เล่นซะ ผมไม่กล้าออกนอกบ้านเลยครับ ตัวมีแต่รอยหยิก แล้วเช้ามาต้องโดนบ่นอีกหนึ่งชุดที่ทำให้คุณแม่หยิกจนเป็นรอย ท้วงติงอะไรก็ไม่ได้ เศร้าไปเลยครับผมผิดทุกทาง
“ก็ดีถ้าแกจำได้ อ่อแล้วก็นะ กินเสร็จแล้วก็รีบๆไปได้แล้วเดี๋ยวสาย” ไล่แล้วครับแม่ผม แต่ไม่ว่าอะไรหรอกครับวันนี้ผมรีบจริงๆ เพราะตอนนี้ 7.30น. เค้านัดปฐมนิเทศ 8.30น. มีเวลา1ชั่วโมง ครับแต่ทำไมต้องรีบหรอครับแหะๆ กลัวรถติดไงครับ อีกอย่างนัดเพื่อนไว้ แล้วก็ต้องหาโต๊ะสาขาของตัวเองเพื่อที่จะลงทะเบียนอีก เดี๋ยวจะสายแล้วโดนรุ่นพี่ซ่อมตั้งแต่วันแรกอ่ะ
“ครับ ไปแล้วนะครับ ฟอดดดด” 555 ผมลาคุณแม่ก่อนที่จะหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่แล้ววิ่งไปที่รถเลยครับเดี๋ยวความเขินของคุณแม่ทำอันตรายผม
ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปมหาวิทยาลัยที่ผมสอบติด คณะวิศวะครับ สาขาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่ใครๆหลายคนก็หมายตานั่นแหละครับ มาถึงตรงนี้ผมก็จะกล่าวแนะนำตัวให้ฟังละกันนะครับ คงมีคนอยากจะรู้อยู่บ้างแหละ เพราะดูเหมือนว่า ยังไม่มีใครรู้ชื่อผมเลย ผมชื่อเพลงครับ ชื่อจริงว่าภูมินทร์ นามสกุลไม่ขอบอกนะครับ แต่ก็ขอบอกแค่ว่าผมน่ะฐานะปานกลางครับ (แหม ถ้าคนไทยฐานะปานกลางแบบแกทุกคน ประเทศเราคงไม่มีคนจนแล้วหละ : คนแต่ง) แล้วก็รูปร่างหน้าตาหรอ เหอะๆไม่บอกหรอกครับมันจี๊ดใจที่จะอธิบายหน้าตาตัวเอง(จะไม่ให้แกจี๊ดใจได้ไง ก็แกน่ะมัน ตากลมโตสวย สีหน้าเงินเข้ม ใครได้มองคงตกอยู่ในภวังค์ ขนตาเป็นแพรยาว รูปปากบางอิ่ม เย้ายวน ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผมดำยาวถึงกลางหลังถูกสไลด์รับกับรูปหน้า หุ่นเพียวสมส่วน สวยราวกับภาพวาด ถึงจะสูงถึง176ซม.ก็เถอะ น้ำหนักไม่ขอบอกนะไปคิดกันเอาเอง : คนแต่ง) (ง่ะ เค้าอุตส่าห์ไม่บอก ตัวเองมาบอกคนอ่านเค้าทำไมอ่ะ งอน : เพลง) (ก็บอกๆเค้าไปเหอะที่รักสงสารคนที่เค้าอยากรู้อ่ะ อย่ามาทำงอน รู้หน่าว่าที่รักเขิน ที่บรรยายออกมาแล้วเหมือนผู้หญิงมากกว่า : คนแต่ง) (ครับๆยอมแล้วครับ ไม่ยอมเดี๋ยวจะยาว : เพลง) (รู้ตัวก็ดีแล้วจ้าที่รัก : คนแต่ง)
และแล้วตอนนี้ผมก็มาถึงมหา’ลัยแล้วครับ แล้วก็กำลังเดินไปที่หอประชุมพร้อมกับโทรหาเพื่อนรักไปด้วย แต่ทำไมมันรับช้าก็ไม่รู้ครับ ผมเลยเดินมาจนถึงหอประชุมแล้วครับ แล้วผมก็โทรติดสักที
[ว่าไงเพื่อนรักถึงแล้วหรอวะ] เหอะๆดูมันครับไม่มีความสำนึกว่าผมโทรหามันมือหงิกแล้ว
“เออ ทำไรของมึงนักหน้าวะ โทรกว่าจะรับ เจอจะตบหัวทิ่มดินเลยมึง” โมโหครับ มันบอกว่ามาถึงให้รีบโทรหาเดี๋ยวจะเดินไปรับ แต่พอถึงดันต้องเดินมาเองเพราะโทรหามันไม่ติด
[โห คนสวยอย่าโมโหสิครับ เพื่อนคนนี้ไปเข้าห้องน้ำมาครับ] หน้าเชื่อมากเลยมันทำมาเป็นเสียงหวานพูดเพราะ อย่างมัน ต้องเจอเหยื่อนอีกแน่ๆ
“กูไม่เชื่อมึงหรอก แล้วเหยื่อมึงอ่ะ หน้าตาเป็นไง พามาให้กูยลเลยหน้าหอประชุม”
[โห มึงนี่รู้ทันกูหมดเซ็งเลย เออๆเดี๋ยวกูพาไปหา] นั่นครับพอผมรู้ทันก็มาเลยครับสันดารจริงของมัน รอไม่นานผมก็เห็นเดินมากับหนุ่มหน้าหวานครับ น่ารักมากๆด้วย ย้ำครับว่าหนุ่ม ไม่ผิดหรอก เพื่อนผมอ่ะ ไบครับ หญิงก็ได้ชายก็ดี แต่ต้องชายหน้ารักๆออกหวานๆเหมือนผู้หญิงเท่านั้นนะครับ เพราะมันอ่ะ รุก แล้วก็จะถามหรอครับว่าทำไมผมรอดจากมัน ก็เพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กความลับของกันและกันรู้หมดไส้หมดพุง แล้วก็ถึงผมจะสวยอะนะแต่มันรู้ครับว่าอย่างผมชายแท้แน่นอน เหอะๆ เรื่องนี้มีมันรู้คนเดียวและไม่มีใครได้รู้ เพราะผมไม่เคยที่จะให้ใครได้รับรู้ ไม่เคยที่จะทำตัวให้เด่น แต่ที่เด่นตลอดก็เพราะไอ้หน้าสวยๆของผมนี่แหละครับ ผมยอมรับแหละครับว่าผมสวยจริง ส่องกระจกยังอยากจีบตัวเองเลยครับ ไม่ได้อยากยอมรับและอยากให้คนอื่นชมผมว่าสวยนะครับ แต่มันชินจนไม่คิดอะไรมากแล้ว แต่ถ้ามีผู้ชายคิดจะมาจีบผมหละก็ เห็นดีกันคับ ผมไม่ได้บอบบางอย่างที่คิดหรอกนะครับ หึหึ
“ไงมึง บอกจะไปรับกุ แต่ดันต้องให้กุมารอมึงเนี่ย แล้วคนข้างๆอ่ะใครว่ะ” เอ่อเนียนครับเนียนเดี๋ยวเด็กมันตื่น 555 ไม่ค่อยสนับสนุนเลยครับ ผมอ่ะ แต่จะว่าไปผมเห็นเด็กมันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนที่เห็นหน้าผมแล้วล่ะครับ เหอะๆ
“อ๋อโทษทีหวะไม่ได้ตั้งใจ พอดีกุเจอกับนิคเค้าน่ะ เลยคุยกันเพลินไปหน่อย” พูดพร้อมกับเดินมาโอบไหล่ผมครับ นิคก้มหน้าหงุดเลยครับทีนี้ ผมเลยจัดการตบหัวมันครับ มันร้องลั่นเลยครับ จนคนหันมามองกันหมด ผมเลยต้องแจกยิ้มให้คนพวกนั้นไปแก้อาย แล้วดึงหูมันมากระซิบ
“มึงหัดดูหน้าเด็กมึงบ้าง ร้องไห้แล้วมั้งนั่นมึงก็รูว่าหน้าตากูเป็นไง เข้าใจผิดหมดแล้วมั้งนั่นหน่ะ”มันเลยรีบวิ่งกลับไปดูแล้วแนะนำผมทันทีเลยครับ
“นิคครับ นั่นเพลงนะครับ เพื่อนสมัยเด็กของเอกเองครับ อย่าไปหลงกลโดนความสวยของมันหลอกเอานะครับ เดี๋ยวจะหาว่าเอกไม่เตือน” น่านครับแนะนำเฉยๆไม่ได้ ถลกหนังผมอีก เดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะเลยนี่
“ดีครับนิค เพลงนะครับ ยินดีรู้จัก คนน่ารักเสมอครับ” หยอดครับ555 นิคจะได้คลายเครียด
“เอ่อ ดีครับเพลง ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันครับ” ว่าแล้วยิ้มให้ผมแต่เหมือนจะยังซึมๆอยู่ ผมเลยต้องยิ้มกลับแล้วรีบอธิบายเลยครับ
“ครับแล้วก็ ไม่ต้องกลัวนะครับนิค ผมน่ะเพื่อนไอ้เอกมันไม่มีการเป็นอื่น รู้ไส้รู้พุงกันจนชอบกันไม่ลงแล้วหละ555 แล้วก็ผมชายแท้น่ะครับ ถามเอกได้เลย ถึงหน้าตาจะไม่ให้ก็เถอะ” พูดแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายยิ้มแล้วรับคำทันที
“เอ่อครับ ขอโทษครับที่เข้าใจผิด แต่เพลงสวยจริงๆนะครับ” อ่าวชมกันซะงั้น ไอ้เอกเลยทำหน้างอใส่ผมกับนิคแล้วเข้าไปอ้อนทันทีเลยครับดูมันขนาดพึ่งเจอกัน
“โถ่ นิคครับ อย่าไปชมมันเลยนะครับ ชมเอกคนเดียวก็พอแล้วนะครับ” เหอะๆดูมันครับดูมัน นิคหน้าแดงเลย
แล้วการหยอกล้อก็จบลงครับเพราะพวกพี่ๆเค้าเรียกพวกเราไปลงทะเบียนแล้วต้อนเข้าหอประชุมแล้วครับและความบังเอิญมันคงมีจริงเพราะพวกผม3คนเรียนสาขาเดียวกันครับเลยนั่งด้วยดัน แล้วไอ้เอกมันก็นั่งหม้อนิคไปเรื่อยไม่สนใจจะดูจะฟังอะไร ส่วนผมก็ต้องนั่งดูนั่งฟังต่อไปเรื่อยๆมันก็เรื่องประวัติความเป็นมาของสถานศึกษากลับการแนะนำคณะต่างๆและการให้โอวาทนั่นแหละครับ แต่สิ่งที่ผมสนใจที่สุดคือ จบจากการปฐมนิเทศนี้ออกไปก็จะเริ่มการรับน้องทันทีเลยครับแล้วก็จะรับไปอีก1อาทิตย์ที่มหา’ลัยแล้วอีก1อาทิตย์ไปทะเลทางตะวันออกครับ นี่สิที่หน้าสนครับ รับน้องนอกสถานที่ที่ทุกคนอยากจะไป แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีมหา’ลัยไหนจัดแล้ว แต่ที่นี่ยืนยันที่จะมีครับ เพราะไม่อยากให้นักศึกษาไปแอบจัดกันเอง ทำแบบนี้ทางมหา’ลัย รับรู้ และส่งอาจารย์มาคอยดูแลและรับรู้ด้วย แล้วหากเกิดอะไรขึ้นทางมหา’ลัยก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเต็มที่ครับ เพราะเชื่อมั่นในตัวนักศึกษาว่ามีความเป็นผู้ใหญ่พอมีวุฒิภาวะแล้วและยังเชื่อมั่นในบุคลากรของทางมหา’ลัยว่าจะสามารถดูแลลูกศิษย์ได้เป็นอย่างดี
ผมว่ามันเป็นความเชื่อมั่นที่จะทำให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบที่เหมาะสมไม่มีความรุนแรงในการรับน้อง แล้วไม่น่าจะมีการแอบพาน้องไปรับน้องกันเองนะครับ ผมว่าเวลา1อาทิตย์ที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยก็ทำให้เราสนิทกับเพื่อนและรู้จักสถานที่แล้วแถมยังมีความสามัคคีกันแล้วด้วย แล้วเวลาอีก1อาทิตย์นอกสถานที่คงจะสร้างความผูกพันให้พวกเราในฐานะเพื่อนพ้องและพี่น้องได้เป็นอย่างดี ถึงพวกเราจะโดนรุ่นพี่แกล้งบ้างอะไรบ้าง แต่ผมว่าทุกคนรู้ครับว่า เกิดจากความหวังดี ที่อยากให้เรารักและสามัคคีกัน เอาหละตอนนี้การปฐมนิเทศจบแล้ว ต่อไปคงจะเริ่มแล้วสินะการรับน้องที่ผมรอคอย
พอไปถึงพวกพี่ๆเค้าก็เตรียมข้าวเตรียมน้ำให้ทานกันครับเพราะว่าเที่ยงแล้ว พวกพี่ๆดูแลดีมากครับ ข้าวกล่องนี่ผมถือว่ารสชาติดีผิดคาดเลยครับ พวกพี่เค้าบอกกันมาว่าพวกพี่เค้าร่วมแรงกันทำเองครับ โหน่ารักมากๆเลยครับรุ่นพี่อ่ะ แล้วเดี๋ยวพอทานเสร็จพี่เค้าจะพาไปที่ซุ้มสาขาครับ เพื่อที่จะเริ่มกิจกรรมรับน้อง
“เอาหละน้อง เดี๋ยวน้องนั่งกันตามสบายนะครับ แต่ให้มันดูเป็นระเบียบนะ เพราะว่าจะมีอาจารย์คอยเช็คคะแนนกิจกรรม แล้วก็เดี๋ยวพี่จะเอากระดาษให้น้องแผ่นนึงนะ ให้น้องๆเขียนชื่อเล่นกับวันเดือนปีเกิดของน้องๆนะครับ เขียนเสร็จแล้วก็ยื่นกับมาให้พี่ด้วยนะครับ แล้วเขียนกันทุกคนนะครับเพราะพี่จะนำไปทำป้ายชื่อให้ แล้วป้ายชื่อเนี่ยสำคัญนะครับ เพราะแต่ละคณะแต่ละสาขา จะทำออกมาไม่เหมือนกัน ทำให้เราสามารถรู้ว่า เพื่อนคนไหนอยู่คณะหรือสาขาอะไรนะครับ” เหอะๆพี่เค้าร่ายยาวเลยครับ พี่คนที่พูดอยู่เนี่ย ผมว่าคงเป็นประธานรุ่นนะครับ พี่เค้าหน้าตาดีนะครับ จัดว่าหล่อเลยแหละ เห็นพวกสาวๆแอบชมกันใหญ่ แต่พี่เค้าดูเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงครับ แล้วก็ เอาน้องๆอยู่ด้วย ไม่ได้ใช้เสียงดังขู่ แต่พูดจาดี แล้วเป็นกันเองครับ ดูใจดี แต่แฝงไปด้วย อำนาจของผู้นำ ตอนนี้เขียนชื่ออะไรกันเสร็จ ส่งกระดาษกับคืนไปให้พี่เค้าแล้วครับ แล้วทีนี้พี่เค้าจะให้แนะนำตัวให้พวกเรารู้จักครับ
“เอาหละครับ พวกพี่จะแนะนำตัวให้น้องๆรู้จักนะครับ จะได้รู้จักกันไว้ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันนะครับ เริ่มจากพี่ก่อนเลย พี่ชื่อ ตาร์ครับ ปี2 เป็นประธานรุ่นนะครับ มีอะไรปรึกษาได้ทุกเรื่องนะครับ ยกเว้นเรื่องเงิน พี่คงให้ไม่ได้เพราะพี่ก็มีปัญหาเรื่องนั้นเหมือนกัน” เหอะๆ พี่เค้าเป็นประธานรุ่นจริงๆด้วยครับ แต่ไอปัญหาเรื่องเงินที่พี่แกพูดอ่ะ ดูแล้วผมว่า มันมีปัญหาตรงที่ว่าไม่รู้จะเอาไปใช้อะไรให้มันหมดมากกว่า
“ส่วนพี่ชื่อฟ้านะค่ะ ปี2เหมือนกัน รองประธานรุ่นค่ะ มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ ส่วนเรื่องเงินปรึกษาพี่ตาร์เลยค่ะเพราะปัญหาเรื่องเงินที่มันบอกคือ ไม่รู้จะใช้ยังไงให้เงินหมด” น่าน อย่างที่ผมพูดจริงด้วยครับ พี่ฟ้านี่ออกแนวน่ารักครับ แล้วก็กัดพี่ตาร์แบบนิ่มๆ ดูแล้วสงสัยเป็นแฟนกันชัวร์
“โถ ที่รักครับ จะให้ตาร์เอาเงินไปใช้อะไรได้ครับ ตาร์ก็ใช้กับที่รัก2คนแค่นั้นแหละครับ” น่านครับ ไม่พูดป่าวนะครับ เดินมาจับมือพี่ฟ้าแล้วอ้อนด้วย น้องๆผู้หญิงอิจฉากันหมดแล้วไม่อายบ้าง แต่พี่ฟ้านี่สิครับ เขินหน้าแดงก้มหน้าหงุดๆเลย บอกได้คำเดียวน่ารักครับ
“พี่ชื่อคินนะครับ เลขารุ่น มีอะไรปรึกษาได้นะครับ แล้วไม่ต้องอิจฉาหรือเสียดาย พี่ฟ้ากับพี่ตาร์นะครับ พี่คินคนนี้ยังว่าง” 555 แซวพร้อมหยอดมาเลยครับพี่คิน ผมว่าสาวๆคงจะเลิกสนใจพี่ตาร์มาสนใจพี่คินกันแล้วแหละครับ เพราะพี่แกก็หล่อ คารมณ์ดีอีกตังหาก
“พี่ชื่อดรีมนะค่ะ บัญชีรุ่นค่ะ มีอะไรสงสัยหรือมีปัญหาอะไรก็บอกพี่ได้นะ แต่ถ้าเรื่องเงินพี่ขอบาย เพราะแค่ทำบัญชีรุ่นพี่ก็เหงื่อแตกแล้ว” เชื่อครับพี่ดรีมเพราะดูจาก การดูแลน้องๆ ให้ความสะดวกแล้ว คงจะจัดงบยากอยู่
“เอาหละครับ รู้จักรุ่นพี่กันพอสมควรแล้ว เดี๋ยวพี่จะแนะนำ เดือนและดาวสาขาเราให้รู้จักนะครับ แล้วยังเป็นเดือนและดาวของมหา’ลัยด้วย” พี่ตาร์ออกมาพูดพร้อมกับที่มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาข้างหน้าครับ พี่เค้าหน้าหวานมาก หน้ารักมากเลยครับ
“สวัสดีค่ะน้องๆ พี่ชื่อแพรวนะค่ะ ดาวมหา’ลัยปีที่แล้ว ส่วนปีนี้น้องๆก็มองเพื่อนไว้บ้างนะค่ะ เผื่อจะได้มาคัดเลือกให้เป็นดาวสาขาเพื่อที่จะไปประกวดดาวคณะ แต่จะก้าวไปสู่การประกวดดาวมหา’ลัยหรือป่าวอันนี้พี่คงให้คำตอบไม่ได้ แล้วถ้าน้องๆมีปัญหาเรื่องการเรียนปรึกษาพี่ได้เลค่ะ ยินดีรับฟัง” พูดจบก็มาเลยครับเสียงแซว ประมาณว่า “ปรึกษาได้เฉพาะเรื่องเรียนหรอคับ เรื่องหัวใจปรึกษาได้ไหมครับ” “มีแฟนยังครับพี่ น่ารักแบบนี้ขอจีบได้ไหมคับไม่ปรึกษาเรื่องเรียน”และอีกมากมาย พี่แพรวก็เขินหน้าแดงกันไป
“เอ่อแพรว ภูมิ ไปไหนหละ เมื่อกี๊ยังเห็นมันอยู่ตรงนี้อยู่เลย น้องๆรออยู่นะ” พี่ตาร์ครับเดินมาถามหาคนชื่อภูมิจากพี่แพรว
“อ่อ แพรวเห็นโทรศัพท์เข้า เดี๋ยวคงมามั้ง ก็น่าจะรู้ว่าโทรศัพท์ภูมิหละไม่เคยว่างได้นาน ถ้าไม่ปิดเครื่อง” โห ขาดนั้นเลยหรอครับพี่ อยากเห็นหน้าจัง
“อ่อนั่นไงมันมาแล้ว งั้นเดี๋ยวตาร์เป็นคนแนะนำมันเอง” บอกเสร็จก็เดินไปลากพี่ผู้ชายคนนั้นมาเลยครับ
“เอาหละน้องๆ รู้จะดาวกันไปแล้ว มารู้จักเดือนกันบ้างนะครับ ไอนี่ชื่อภูมินะครับ เดือนมหา’ลัย ปีที่แล้ว คลาสโนว่า ตัวพ่อ เลยครับ นี่วันนี้ที่มันมาร่วมรับน้องได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์แล้วครับ” พี่ตาร์ก็พูดไปส่วนพี่ภูมิก็ยังก้มหน้ากดอะไรไม่รู้จากโทรศัพท์อยู่ครับ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที แต่ดูจากรูปร่างและส่วนสูงแล้ว ผมว่าหน้าตาคงดีใช่เล่นเลยหละ
“เห้ย ไอภูมิเงยหน้าขึ้นมาทักน้องๆหน่อยว้อย เรื่องจัดคิวของแกหนะไว้ทีหลัง มาทั้งทียังมายืนจัดคิวอยู่ได้” พูดเสร็จพี่ตาร์ก็ดึงโทรศัพท์พี่ภูมิไปเลยครับ เหอะๆ
“เอามาเลยไอตาร์”พี่ภูมิไรนั่นพูดพร้อมกับแบมือ แต่พี่แกหันหลังไปคุยกับพี่ตาร์อะครับเลยยังไม่เห็นหน้า
“เดี๋ยวคือให้ แกไปแนะนำตัวกับน้องๆก่อน เรื่องจัดคิว เดี๋ยวช่วยวางใจได้” พี่ตาร์ว่างั้นพี่ภูมิเลยหันกลับมาครับ เท่านั้นแหละครับ เสียงกรี๊ดดังลั่นเลยครับ คือที่ดังไม่ใช่แค่สาวๆคณะผมกรี๊ดนะครับแต่สาวๆที่เดินผ่านไปมาถึงกลับหยุดเดินแล้วกรี๊ดเลยครับเหอะๆ ก็หน้าพี่แกหล่อจัดเลยครับ หล่อราวเทพบุตร จนผมอิจฉาเลยครับ ทำไมผมไม่หล่อแบบนั้นบ้างทำไมต้องสวยด้วยไม่เข้ใจ ส่วนหล่อราวเทพบุตรที่ผมว่านี่อ่ะ ไปจิ้นกันเอาเองนะครับว่ายังไง ไม่ขออธิบาย บอกแค่ส่วนสูงแล้วกัน พี่แกหน้าจะสูงประมาณ185ซม.นะ แล้วก็รูปร่างดีแบบนักกีฬาครับ ผิวขาวแบบคนดูแลตัวเองดี แต่ผมขาวกว่า555
“ครับ พี่ชื่อภูมินะครับ เดือนมหา’ลัยปีที่แล้ว ส่วนปีนี้น้องๆเล็งใครไว้บ้างหรือยังครับ ถ้ายังเริ่มได้แล้วนะครับ มีปัญหาเรื่องเรียนปรึกษาได้นะครับ ยินดีรับฟังและช่วยเหลือครับ” พูดพร้อมแจกยิ้มละลายใจสาว เหอะๆเสียงกรี๊ดงี้ดังลั่นเลยครับ พร้อมคำแซวเหมือนๆกันกับพี่แพรว แต่เปลี่ยนจากที่ผู้ชายแซวเป็นผู้หญิงแซว แต่มีข้อนึงครับ ที่คงมีหลายคนอยากรู้ “พี่ภูมิกับพี่แพรวเป็นแฟนกันหรือป่าวค่ะ/ครับ” เหอะๆ ถามกันได้ไม่อายเลยครับคิดจะจีบรุ่นพี่กันจริงๆหรอพวกนี้
“ป่าวค่ะ พี่ไม่อยากอกหัก ไม่มีวันไปคับกับมันหรอกค่ะ” พี่แพรวพูดครับดีใจกันยกใหญ่เลยครับทีนี้
“เอาหละน้องๆ เงียบก่อนนะคับ เรื่องที่พี่ภูมิบอกว่าปรึกษาเรื่องเรียนได้นั้นปรึกษาได้จริงๆนะครับ เห็นมันอย่างนี้ก็เถอะมันจบปริญญาโทแล้ว2ใบที่มาหา’ลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในต่างประเทศนะครับ ไม่บอกว่าที่ไหนละกัน ส่วนเรื่องคิดจะไปจีบมัน พี่ขอเตือนว่าไม่อยากอกหัก อย่าเลยครับ ไอนี่มันไม่เคยคบใครจริงจัง” มาเลยครับหนึ่งชุด แต่ไม่หน้าชื่อนะครับว่าพี่แกจะเก่งขนาดนี้ แล้วเรื่องที่พี่ตาร์พูดพี่ภูมิแกก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรแต่เดินไปนั่งกับเพื่อนๆที่โต๊ะไม้ด้านหลังแล้วครับ
“เอาหละ รู้จักพวกพี่กันหมดแล้ว มีอะไรก็ปรึกษากันได้หมดนะครับ พวกพี่ยินดีและเต็มใจให้คำปรึกษา แล้วก็น้องๆคงรู้แล้วว่าจะมีการรับน้องภายใน1อาทิตย์และภายนอก1อาทิตย์เดี๋ยวพี่จะแจกเอกสารให้นะครับ” พูดพร้อมกับยื่นเอกสารมาให้พวกผมแจกกันเอง
“เอาหละได้กันครบแล้วนะ ทีนี้พี่จะขอบอกว่า พวกพี่จะไม่มีการรับน้องที่รุนแรงแน่นอนวางใจได้ การรับน้องภายในจะเป็นการแนะนำสถานที่ต่างๆของมหา’ลัยไปในตัว และจะฝึกเพลงบูมต่างๆเพื่อให้น้องบูมอย่างพร้อมเพียง เพราะเดี๋ยวจะมีงานกีฬาสีเฟรชชี่ ต้องแข่งกันบูมระหว่างขณะ เรื่องจัดฐานก็จะมีบ้างเพื่อทำให้น้องๆทำความรู้จักกัน นะครับ ส่วนรับน้องนอกสถานที่จะเน้นความสนุกและการพักผ่อน ส่วนพรุ่งนี้และวันต่อๆไปขอให้น้องๆ แต่งกายด้วยเสื้อสีดำและกางเกงขายาวนะครับทั้งชายและหญิงเพื่อสะดวกในการทำกิจกรรม งั้นเดี๋ยวพี่จะแจกเนื้อเพลงบูมให้นะ แล้วก็จะมีเพลงเชียร์ด้วย ถ้าได้กันครบแล้วให้แบ่งกลุ่มกันเลยครับกลุ่มละ10คน เดี๋ยวพวกพี่จะสอนร้องสอนบูมเอง” พอพูดเสร็จพี่ตาร์แกก็แจกกระดาษเนื้อเพลงมาให้แล้วก็แบ่งรุ่นพี่ออกมาช่วยสวนพวกผม ตอนนี้พวกผมซ้อมกันจนพร้อมกันเป็นที่หน้าพอใจแล้วครับ พวกพี่ๆเลยให้ไปนั่งพัก พอนั่งได้ปุ๊ปไอ้เอกมันก็อ้อนนิคเลยครับ
“นิคครับเหนื่อยจังเลยครับ ป้อนน้ำให้เอกหน่อยสิครับ” พูดพร้อมทำหน้าอ้อนนิค นิคก็หยิบขวดน้ำแล้วจะหลอดให้ไอ้เอกดื่ม ไม่ได้อายสายตาชาวบ้านเลยครับมัน แต่นิคนี่สิครับป้อนน้ำไปหน้าแดงไป เหอะๆคนขี้อายกับคนหน้าด้านมาเจอกัน ดูแล้วน่ารักปนเอือมๆเพื่อนตัวเองนะครับ สาวๆงี้มองกันตาละห้อยเลยก็ไอ้เอกมันหล่อ555
“ไอ้เอก หน้าด้านนะมึง เห็นใจนิคเค้าบ้างเถอะเขินจนหน้าแดงแล้วแดงอีกละนั่น” ทนไม่ได้ครับสงสารนิคอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วครับ แล้วจากที่ผมดูการกระทำของมันกับนิคมันพอจะบอกกับผมได้ว่านี่ไม่ใช่เป็นการเจอกันครั้งแรก ไอ้เอกนี่มันร้ายกล้ามีเรื่องปิดบังผม เดี๋ยวมีขึ้นศาลครับ
“โถ่ ไอ้เพลง อิจฉาหละสิมึง ไม่มีแบบกูอะ” น่านครับไม่สำนึกยังมีการมาแขวะผมอีกไอ้นี่เดี๋ยวจะโดน
“ไม่อิจฉาหรอกมึง แต่ทำไรดูสถานที่กับสิ่งรอบตัวบ้าง เค้ามองกันหมดแล้ว” ไม่ไหวครับเตือนมันหน่อยเพราะทุกสายตาตอนนี้มองที่คู่พวกมันกันหมดแล้วครับ และผมที่นั่งอยู่นี่อ่ะไม่อยากเด่น อยู่แบบที่ไม่ค่อยได้มีคนสังเกตมาได้ตลอดทั้งวันแล้วจะมาเด่นตอนพี่เค้าใกล้จะปล่อย หมดกันพอดีสิ
“เออว่ะเค้ามองกันทำไมวะ ไม่เคยเห็นคนเป็นแฟนกันรึไงวะ” ดูมันครับ ยังจะมาพูดอีกไม่ได้รู้สึกเลยมัน
“มึงคงไม่ได้ลืมนะว่ามึงอ่ะเฟรชชี่ แล้วมึงก็ชายทั้งคู่ แสดงออกขนาดนี้คนก็ต้องมองเป็นธรรมดา แล้วก็จัดการให้สายตาพวกนั้น เลิกสนใจทางนี้ได้แล้วกูไม่อยากเด่นมึงก็รู้ ที่กูพยายามมาทั้งวันมันจะสูญป่าวเข้าใจไหมมึงหนะ ไอ้สมองทึบ” พูดเสียงรอดไรฟันใส่มันเลยครับ จัดมันไปหนึ่งชุดมันหน้าซีดแบบรู้ชะตากำตัวเองเลยครับถ้าไม่รีบจัดการ
“เอ่อมองอะไรกันหรอครับแฟนผมหน้าแดงหมดแล้วถ้าอยากมองเดี๋ยวผมสองคนไปข้างหน้าให้นะครับ” พูดพร้อมกับจับมือนิคพาไปข้างหน้า เอ่อมันจัดกันด้วยวิธีนี้เรอะ ยังไงมันก็ด้านอยู่ดี แต่ดีที่พวกนั้นสนใจแต่พวกมันสองคนตลอดไม่ได้สนใจผม ถือว่าโอเค ไอ้เอกรอดไปครับ หึหึ แต่ผมรู้สึกว่ามีสายตาจ้องมองผมอยู่ด้วยนะครับ แต่อาจจะรู้สึกไปเอง เพราะเมื่อไอ้เอกกับนิคเด่นขนาดนั้นใครจะมาสนใจผมหละ
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับน้องพวกพี่ๆเพื่อนๆน้องก็แค่คิดว่าพวกน้องเปิดเผยกันดีนะก็แค่นั้น แถมยังหล่อแล้วก็หน้ารักกันทั้งคู่เลย” พี่ตาร์แกพูดครับ ทำเอานิคอายม้วนไปเลย ส่วนไอเอกนะหรอยิ้มหน้าบานสิครับไม่ได้มีความอายเลยมัน
“อ่อครับ คนรักกันชอบกันไม่เห็นต้องแคร์ใครเลยนี่ครับ แคร์คนที่เรารักก็พอแล้วนี่ครับจริงไหมนิค” โอยดูมันพูดครับถือเป็นคำพูดที่ดีนะครับ แต่ดันไปถามนิคที่อายสุดๆจนจะลายลายไปแล้วครับ แต่ถึงอย่างนั้นนิกก็พยักหน้าเบาๆตอบรับไอ้เอกด้วยนะครับ น่ารักจัง
“โห น้องหวานกันจนพวกพี่อิจฉาแล้วเนี้ย ส่วนเรื่องที่น้องพูดพี่เห็นด้วยเหมือนกันนะ แคร์คนที่เรารักก็พอจริงไหมครับฟ้าที่รัก” 555พี่แกพูดพร้อมกับหันไปทำตาหวานใส่พี่ฟ้าครับ พี่ฟ้าแกเลยพยัคหน้าเขินๆ น่ารักอีกแล้วครับ เห็นคนเค้าแสดงความรักให้กันแล้วรู้สึกดีนะครับ อยากมีบ้าง แต่หน้าตาอย่างผมอ่า คงจะจีบใครไม่ติดหรอกครับเพราะพวกเธอคงคิดว่าผมสวยกว่าเกินหน้าเกินตาเธอ เคยเจอมาแล้วครับเข็ด เหอะๆ ชีวิตผมจะได้มีความรักกับเค้าบ้างไหมหละเนี้ย
“เอาหละ น้องสองคนไปนั่งที่ได้แล้วครับ พี่มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ” พูดจบพี่แกก็คุยอะไรไม่รู้กับพี่ฟ้าแล้วก็พี่คินแล้วหันมาพูดกับพวกผมครับ
“น้องๆครับ ฟังพี่นะครับ พรุ่งนี้พี่จะนัดน้องๆมาเจอกันจุดนี้ตอน8โมงนะครับเพื่อแจกป้ายชื่อ ส่วนวันอื่นๆพี่นัด9โมงนะครับ วันนี้กลับบ้านกันได้แล้วนะครับ”พอพี่แกพูดจบผมก็เดินนำไอ้เอกกับนิคมาก่อนทันทีกลัวจะเป็นจุดสนใจ แต่เดินมาได้สักพัก ผมก็รู้สึกว่ามีสายตาคู่นึงกำลังมองผมอยู่ จนผมต้องหยุดเดิน จนไอ้เอกมันเดินมาเลยชนผมน่ะครับ
“เฮ้ย หยุดเดินทำไมวะ จะรีบกลับไม่ใช่หรือไง”
“เออๆ มีอะไรให้คิดนิดหน่อยอ่ะ”
“คิดอะไรของมึงวะเพลงอยู่ๆก็หยุดเดิน ดีนะกูขืนตัวไว้ทันไม่งั้นชนมึงล้มแน่”
“หึ มึงนี่นะจะชนกูล้ม กูไม่ได้บอบบางอย่างที่เห็นมึงก็รู้”
“เออๆ กูรู้ ไม่มีไรงั้นกลับกันเหอะกูจะรีบไปส่งนิค” พูดจับมันก็เดินจับมือนิคไปเลยครับ แต่สายตาที่มองผมอยู่ก็ยังมองอยู่อย่างนั้น จนผมเลิกสนใจแล้วเดินไปที่รถเพื่อขับกลับบ้านทันที ระหว่างทางก็นึกถึงคนที่มองผมพรางนึกย้อนไปว่าเราไปทำอะไรให้คนๆนั้นมองแบบไม่วางตาตั้งแต่ตอนไหนเพราะตลอดช่วงการรับน้องคนๆนั้นก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมและผมก็ทำตัวให้ไม่เป็นจุดเด่นอยู่ตลอดแต่สายตาของคนๆนั้นทำให้รู้สึกว่าเค้ามองผมอยู่ตลอดเวลา อยากรู้กันหรอว่าใคร เหอะๆคิดกันเอาเองสิผมรู้ว่าคุณก็รู้ว่าใคร แล้วตอนนี้ผมถึงบ้านแล้ว และอาบน้ำเสร็จเตรียมจะนอนแล้วด้วย แต่ก็ต้องมานอนคิดอีกว่าถ้าพรุ่งนี้ คนๆนั้นมาร่วมกิจกรรมรับน้องแล้วยังคงมองผมไม่วางตาแบบที่ผมเห็นเมื่อตอนเย็นอีกผมจะทำยังไงหละ ทำเป็นไม่สนใจไม่ใส่ใจว่าเค้ามอง หรือจะหาจังหวะเข้าไปถามตรงๆเลยดี ว่าเค้ามองอะไร แต่ไอ้ข้อสองนี่สิผมไม่อยากเด่นนี่ครับแล้วการหาจังหวะไปคุยให้รู้เรื่องกับคนๆนั้นแบบไม่เป็นที่สังเกตมันคงยากน่ะครับ งั้นผมคงหวังให้มีข้อสามคือ คนๆนั้นไม่มาร่วมกิจกรรมรับน้อง เพราะดูจากที่พี่ๆเค้าแนะนำตัวกัน ผมคิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่คนๆนั้นเข้ามาช่วยกิจกรรมเพื่อนๆ อย่าหาว่าผมก็สนใจเค้านะครับถึงได้รู้ระเอียดแบบนี้ แต่ผมจะบอกพวกคุณว่าผมเป็นพวกเก็บทุกรายระเอียดของการใช้ชีวิต และตอนนี้ตาผมจะปิดแล้วราตรีสวัสดิ์นะครับทุกท่าน
ความคิดเห็น