คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF] Airplane เครื่องบินกระดาษของจีนาน 2/2
Airplane เครื่องบินกระดาษของจีนาน
2/2
กี่โมงแล้ววะ...
นั่นคือความคิดแรกที่เข้ามาในหัวผม
ผมรู้แค่ว่าผมฟุบร้องไห้ฟูมฟายเรื่องจีนานจนเหนื่อยมาหลายวันแล้วก็ล้มตัวลงนอนไปบนเตียงตั้งแต่ตอนเที่ยงๆ
สัมผัสได้เลยว่าตาต้องบวมมากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆเลยอ่ะ
แล้วแบบนี้จะออกไปเจอชาวบ้านชาวช่องเขาได้อย่างไง ถ้าใครรู้ว่า
ฮันบินสุดหล่อร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะจีนาน
ผมจะยังเหลือความคาริสม่าให้ได้รักษาไว้ไหม..
อุตส่าห์โดดเรียนสองวันออกไปเที่ยวคนเดียว
เผื่อว่าจะลืมจีนานไปได้บ้าง แต่ต่อให้สนุกมากแค่ไหน ตอนกลับมาก็ยังไม่วายมานั่งคิดถึงแล้วก็จบลงที่การนั่งร้องไห้อยู่ดี
ทำแต่เรื่องโง่ๆแบบนี้ก็สมกับการเป็นคิมฮันบินดี..
ปีแรกที่เข้ามาอยู่ในรั้ววิศวะ เพื่อนในรุ่นบางคนถึงกับขยาดในความโง่ของผม
นี่ถ้าไม่ได้จีนานช่วยบังคับขู่เข็ญและช่วยติวให้ ผมคงไม่สามารถกลายมาเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของคณะพ่วงด้วยตำแหน่งประธานรุ่นหรอก
ผมนอนคิดเรื่องต่างๆในอดีตพร้อมกับกำสร้อยคอที่เป็นรูปเกียร์อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา
สำหรับคนอื่นคงเป็น
“เกียร์อยู่ที่ใคร ใจอยู่ที่เกียร์”
แต่สำหรับผมคงต้องบอกว่า
“เกียร์อยู่ที่ใคร ใจอยู่ที่จีนาน”
ถึงแม้จะเศร้าแต่งานเสี่ยวก็ต้องมา..
นอนหลับตาเล่นอยู่บนเตียงสักพักก่อนจะสะดุ้งสุดตัว
ผมยังเหลือโปรเจ็คให้ส่งอีกงานนึงนี่หว่า
เพราะมัวเศร้าเรื่องจินฮวานเลยลืมไปเลยว่าต้องส่งในอีกไม่กี่วัน
ได้แต่ฝืนลืมตาแล้วลากตัวเองให้เดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วมาเคลียร์งานต่อ
มือคลำผนังห้องอย่างสะเปะสะปะเพื่อพยายามหาสวิตซ์ไฟ
แสงสว่างวาบขึ้นมาจนต้องหรี่ตาลงสักพักถึงจะชิน
ก้าวเท้ายาวๆเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่นอกห้องนอนในคอนโดของตัวเองแล้วจึงพอคลายความง่วงไปได้บ้าง
ผู้ชายในสภาพผมสีน้ำตาลเข้มมองผมกลับมาด้วยสีหน้ามึนๆจากภาพสะท้อนในกระจก..
พึ่งไปย้อมผมมาเมื่อวาน
ตอนนี้กลิ่นยังเหม็นติดหัวอยู่เลยว่ะ..
ผมขยี้ผมของตัวเองอย่างหงุดหงิด
ไม่น่านอนตอนเย็นเลย ผลที่ได้ก็คือมึนหัวแล้วก็ติดง่วงอยู่แบบนี้
เปิดก๊อกวักน้ำใส่หน้าตัวเองอย่งลวกๆก่อนจะเดินออกมาหาของกินที่ตู้เย็นที่อยู่อีกห้องนึง
นาฬิกาตอนนี้บอกว่าสามทุ่มกว่าแล้ว มีแววว่าคืนนี้ต้องโต้รุ่งอีกตามเคย
คิดถึงจีนาน..
เป็นความรู้สึกที่ช่วงนี้มักผ่านเข้ามาให้รู้สึกบ่อยกว่าปกติ
ยิ่งทำใจให้ชินเท่าไหร่ก็ยังชินไม่ได้สักที..
เมื่อไหร่จะผ่านไปสักทีนะกับความรู้สึกแบบนี้
ผมเดินถือน้ำส้มแก้วโตมาวางข้างแมคบุ๊คของตัวเองที่กำลังขึ้นหน้าจอพิมพ์ค้างไว้
ภาพหน้าจอเป็นรูปจีนานที่เคยแอบถ่ายไว้ตั้งนานแล้ว..
แน่นอนว่าเจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องนั้น
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้
ผมหยุดคิดเรื่องจีนานพร้อมกับลงมือพิมพ์งานต่อ
ถ้ามัวแต่คิดถึงอยู่แบบนี้นอกจากงานจะไม่เสร็จแล้ว
ตาที่บวมอยู่แล้วก็คงจะบวมมากขึ้นเพราะเผลอร้องไห้อีกแน่ๆ
.
“ครั้งล่าสุดที่เจอ มึงไม่ได้ผมสีนี้ถูกม้ะ ?”
จีวอนพูดพร้อมชี้ที่หัวผม ทันทีที่เห็นผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆมัน ที่โต๊ะนั่งใต้คณะที่เก่าที่เคยเจอกันมาตลอดสามปี
“อือ” ผมตอบมันพร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีห้าเข้าไปแล้ว แถมยังต้องตื่นมาที่คณะแต่เช้าอีก
ตอนนี้เลยไม่อยากจะสนทนาอะไรกับใครทั้งนั้น
“เมื่อคืนโต้รุ่งเลยดิมึง”
“ก็เกือบๆ”
“กูไลน์ไปบอกมึงตั้งแต่วันที่มึงหยุดวันแรกแล้วนะ”
“เออ.. กูผิดเองไง พอใจมึงยังอ่ะ”
“นี่กูบอกมึงดีๆนะ”
“กูก็ตอบมึงดีๆอยู่นี่ไง”
“ไอ้ฮันบิน !”
“อะไรของมึงเนี่ยจีวอน มึงจะหาเรื่องกูรึไง”
ผมเงยหน้ามองจีวอนด้วยสีหน้าหาเรื่อง อาการหงุดหงิดของตัวเองยิ่งมากขึ้นในทุกที
ไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลย..
แต่ก็ไม่อยากให้ใครมากวนตอนนี้เหมือนกัน
“พอเลยพวกมึงอ่ะ ฮันบินมึงนอนไปเลย ส่วนจีวอน ถ้ามึงว่างมาก มึงมาช่วยกูทำงานนี่”
ยุนฮยองพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“ก็เมื่อกี้ไอ้ฮันบินมันกวนกูอ่ะ”
“คิม จี วอน” ยุนฮยองพูดย้ำอีกรอบ จนจีวอนทำท่าฮึดฮัดก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างยุนฮยองที่ทำงานอยู่อีกฝั่งอย่างโดยดี
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
คนที่เคยห้ามพวกเขาเวลาทะเลาะกันก็คงเป็นจีนานล่ะเนอะ..
คิดถึงอีกแล้ว..
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ห้ามความคิดถึงไว้ไม่ได้เลย..
ผมเป็นต๋าของจีนาน
เป็นของจีนานคนเดียว แต่ตอนนี้จีนานไม่ได้อยู่ตรงนี้อีกแล้ว..
ไม่อีกแล้ว..
“เออ นี่ฮันบิน มึงได้เช็คข้อความบ้างรึเปล่า” ยุนฮยองเงยหน้าขึ้นมาจากชีทงานเป็นปึกที่อยู่ในมือก่อนจะถามผม
“ไม่ได้แตะเลยว่ะ ทำไมวะ?”
“ก็จีนานบอกกูว่ามึงไม่ตอบไลน์เลย กูก็สงสัย”
“จีนานไลน์มาหรอวะ”
ผมผุดขึ้นนั่งเต็มตัวก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเป้สีดำใบเก่งของตัวเอง
จำได้ว่าเมื่อเช้าใส่ไว้ในช่องนี้นี่ว่าแล้วตอนนี้มันหายไปไหนแล้วเนี่ย
ค้นไปค้นมาก็เจอไอโฟนสีดำเครื่องโปรดที่นอนอยู่ก้นกระเป๋า
ผมหยิบมันขึ้นมาอย่างใจร้อนแล้วพบว่ามีไลน์เข้ามาจากจีนานอย่างที่ยุนฮยองมันว่าจริงๆ
ผมกดเข้าไปที่แจ้งเตือนก่อนจะพบว่ามีข้อความมากว่าที่คิดไว้
จำนวนข้อความที่ไม่คิดว่าคนไม่ชอบเล่นโซเชียลอย่างจีนานจะส่งมาเยอะขนาดนี้
ต๋า !
เราถึงจีนแล้วนะ !
ผมยิ้มให้กับข้อความของคนตัวเล็ก
นึกภาพจีนานที่ทำหน้าอึนอยู่กลางสนามบินได้ชัดเจนเลย..
เพราะฉะนั้นก็รีบๆกลับมาได้แล้ว..
อากาศที่นี่หนาวมากๆเลยล่ะ
แว่นขึ้นฝ้าเลย..
แล้วก็นึกภาพออกตอนที่จีนานต้องถอดแว่นออกมาเช็ดด้วยผ้าสีหม่นๆที่พกติดตัวไว้ตลอด..
ต๋าเป็นไงบ้าง
ไม่อยู่แล้วคิดถึงจีนานอ่ะดิ
อือ..
คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกตอนไหนเนอะ
อยากเห็นหน้าโง่ๆของต๋าจัง
ดูแลตัวเองด้วยล่ะ !
ใจร้าย.. ไม่เคยคิดว่าจีนานจะใจร้ายขนาดนี้
คิดว่าคนที่โดนทิ้งอย่างผมจะสบายนักรึไง..
มันไม่ตลกเลยนะ..
อยากเจอหน้า
อยากคุยด้วย แค่เสี้ยววินาทีก็ยังดี
กลับมาไม่ได้หรอ..
ผมคิดถึงจนไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรต่อแล้ว
“เฮ้ยมึง” จีวอนฟาดกระดาษลงบนหัวผมเบาๆ
“หืม” ผมเงยหน้าละสายตาจากจอโทรศัพท์
มือของมันที่ยังถือกระดาษก็ยังคงค้างไว้อย่างนั้น
“เป็นอะไรป้ะเนี่ย”
“ไม่นี่.. ทำไมวะ”
“กูเห็นมึงมองโทรศัพท์แล้วก็นิ่งไปเลย”
“กูไม่ได้เป็นอะไร”
“แน่ใจนะ”
“เออดิ.. แล้วนี่ยุนฮยองไปไหน”
ผมถามถึงคนที่เคยนั่งทำงานงกๆข้างจีวอนที่ตอนนี้หายตัวไปแล้วเรียบร้อย
“ไปซื้อน้ำ เดี๋ยวก็มา”
“เออๆ”
ผมตอบมันพร้อมกับหันมาจ้องหน้าจอไอโฟนที่อยู่ในมืออีกครั้ง
ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าจีนานไลน์เข้ามา
เข้ามาตอนนี้เลย..
ตอนนี้เลยอ่ะ..
นี่ออนตรงกันด้วยหรอเนี่ย..
แล้วทำไมผมต้องดีใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆขนาดนี้ด้วยวะ..
อ่านแล้วไม่ตอบนี่คืออะไร
โกรธจีนานหรอ ?
ผมมองข้อความที่อยู่ในมืออยู่อย่างนั้น
มือสั่นจนพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก.. วินาทีที่กำลังจะกดส่ง ไอโฟนลูกรักก็ขึ้นเตือนถึงแบตเตอรี่ที่มีอยู่น้อยนิดเพราะไม่ได้ชาร์ตมาสองวันก่อนจะดับลงไปด้วยตัวเอง..
ผมอ้าปากค้างมองอดีตลูกรักที่นอนแน่นิ่งอยู่ในมือ
ใครสั่งใครสอนว่าแบต 20% แล้วให้กลายป็น 0% เลยทันที 19
18 17 มันหายไปไหน ที่บริษัทตรงเลขรึไงเห้ย..
เงยหน้าส่งสายตาเว้าวอนให้จวอนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ก่อนที่มันจะส่งกระดาษในมือมาฟาดหัวผมอีกครั้งแล้วก้มหน้าทำงานของมันต่อ
“กูไม่มีพาวเวอร์แบงค์ให้มึงหรอกนะ”
“ไอ้จีวอนนนนนนนนนนนน”
“พวกมึง วันนี้อาจารย์ยกคลาสว่ะ” ยุนฮยองเดินมาพร้อมกับน้ำแก้วในมือสามแก้ว
น้ำองุ่นของมันกับจีวอน แล้วก็น้ำส้มของผมเอง
“ห้ะ/what” เสียงสบถพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“แล้วโทรศัพท์มึงเป็นอะไรล่ะนั่น”
“แบตหมดว่ะ”
“กูก็ไม่ได้เอาพาวเวอร์แบงค์กับสายชาร์ตมาซะด้วย”
ยุนฮยองนั่งลงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับยื่นน้ำส้มแก้วโตมาให้ก่อนจะยื่นมือไปฟาดแขนจีวอนที่เอากระดาษงานไปนั่งวาดรูป
“เอาไงดีวะ..”
“ไหนๆวันนี้ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว
มึงก็กลับไปชาร์ตที่คอนโดมึงไป” จีวอนว่าพร้อมกับรีบตะโกนเมื่อเห็นผมลุกขึ้นคว้ากระเป๋าพร้อมรีบวิ่งออกไป
“อ้าวเห้ย เดี๋ยวก่อนนนนน”
“ไปล้ะมึง เจอกัน”
.
ผมจ่ายเงินให้พี่แท็กซี่ก่อนจะเดินเข้ามาใต้คอนโด
แก้วน้ำส้มที่ยุนฮยองซื้อให้ตอนนี้ก็โดนดูดเรียบระหว่างนั่งอยู่บนรถไปแล้ว
เลยทิ้งมันลงที่ถังขยะก่อนจะเดินเข้าร้านสะดวกซื้อใต้คอนโดของตัวเองเพื่อตุนของกินเก็บไว้สักหน่อย
ตู้แช่ขนาดใหญ่ที่เคยมีน้ำส้มเรียงกันอยู่สามแถวตอนนี้เลยอยู่แค่ไม่กี่กล่อง..
ผมมองมันก่อนจะเบะปากออกมาด้วยความเซ็งแล้วจึงหยิบน้ำอย่างอื่นแก้ขัดไป
เอาเหอะ
ดีกว่าไม่มีอะไรกิน..
“256 บาทค่ะ” พนักงานคิดเงินก่อนจะส่งของที่อยู่ในถุงใบโตให้กับผม ผมก้มมองเงินในกระเป๋าตังตัวเองแล้วจึงยื่นแบงค์ห้าร้อยที่มีอยู่ไม่กี่ใบให้ไป
เฮ้อ..
ต้องไปกดเงินอีกแล้วสิเนี่ย
“เออพี่”
“คะ”
“ทำไมวันนี้น้ำส้มหมดไวอ่ะ”
“เมื่อสักพักมีน้องผู้ชายมาซื้อไปสิบกว่ากล่องแน่ะ
ท่าทางจะชอบกินน้ำส้มเหมือนเรานะ”
“น้องผู้ชาย?”
“อื้อ.. ตัวเท่านี้ ใส่แว่น แล้วก็ท่าทางอึนๆหน่อย”
พี่ผู้หญิงทำมือสูงกว่าตัวพี่เขาไปหน่อยซึ่งมันก็อย่แถวๆไหล่ของผมพอดี
ลักษณะเด็กผู้ชายที่พี่เขาบรรยายมาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆยังไงก็บอกไม่ถูก
แต่ที่รู้ๆตอนนี้ใจมันเต้นแรงจนไม่เป็นจังหวะแล้ว
หลังจากที่รับเงินทอนมาก็ได้แต่ก้าวยาวๆเข้ามาในคอนโดก่อนที่จะวิ่งเพราะแค่การก้าวยาวมันเร็วไม่ทันใจ
ลิฟท์ทั้งสองตัวของคอนโดมีคนเรียกใช้อยู่ทั้งคู่
ซึ่งตอนนี้ตัวที่ใกล้ที่สุดก็เป็นชั้น 24
จะให้วิ่งขึ้นบันไดไปก็เกรงว่าเขาจะไม่น่ารอดชีวิต
เลยต้องรอให้มันเคลื่อนตัวลงมาที่ชั้นแรก ทันทีที่มาถึง
ผมก็รีบก้าวเข้าไปแล้วกดชั้นอย่างว่องไว ตัวเลขในลิฟท์ที่เคลื่อนตัวขึ้นอย่างช้าๆบีบหัวใจผมเข้าไปในทุกที
ในใจได้แต่เร่งให้มันไปไวกว่านี้
ถึงจะเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ก็ขอคาดหวังหน่อยละกัน
3
4
5
.
.
.
16
เสียงลิฟท์ดังพร้อมกับประตูที่ค่อยๆแยกออกจากกัน
ผมก้าวเท้าออกมาจากลิฟท์ก่อนจะชะงักแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นว่าหน้าห้องผมมีอะไรที่มันไม่เหมือนเดิมจากที่เคยเป็น
ร่างเล็กคุ้นตาที่นั่งคุดคู้อยู่ที่พื้นหน้าห้องกำลังนั่งหลับพิงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แถมด้วยถุงใส่น้ำส้มกล่องที่ซื้อจากร้านข้างล่างก็วางอยู่ตรงนั้น
ผมเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับนั่งยองๆจ้องใบหน้าที่อยู่หลังแว่นสายตาอันเขื่อง
“จีนาน..”
“อือออ...” คนตรงหน้าทำเสียงงัวเงียพร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใบหน้าผมอยู่ใกล้เขามากแค่ไหน “ต่ะ..ต๋า ??”
“มานั่งทำอะไรอยู่นี่แล้วทำไม..”
ผมถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ในหัวมันสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น
จนไม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไปอีก
จีนานทำหน้ามึนก่อนจะมองหน้าผมแล้วเงียบ..
นี่คงไม่ใช่ว่างอนเรื่องที่ผมอ่านแล้วไม่ตอบไลน์หรอกใช่ไหม..
เฮ้ออ..
ผมถอนหายใจกับตัวเองก่อนจะคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้แน่นทั้งๆที่ยังนั่งกันอยู่แบบนั้น
จีนานดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของผมก่อนจะยอมอยู่เฉยๆเมื่อได้ยินเสียงที่ผมกระซิบข้างหู
“คิดถึง”
ผมว่านะ..
หลังจากนี้ผมกับจีนานคงต้องคุยกันยาวเลยล่ะ : )
널 잡기 위해서내 모든 짓을 해볼 걸
ผมจะทำทุกๆอย่างเพื่อให้คุณอยู่ด้วยกัน
적어도 후회 속에서까지 살지 않기 위해서
เพราะผมไม่อยากจมอยู่กับความเสียใจ
.
.
.
เพราะแบบนั้น.. อย่าหายไปไหนอีกนะครับ
-END-
เราหายไปนานเลย ขอโทษด้วยนะคะ ฮืออออออออ
อย่างที่บอกไว้ในตอนก่อนหน้านี้ ว่าทีแรกเราว่าจะจบมันแบบหน่วงๆ แต่ว่าเอ้อ ใจนึงก็ไม่อยากทำแบบนั้น 55555555
ตอนนี้ก็เลยเกิดขึ้นมาจนได้ แถมใช้เวลาวางพล็อต (ที่ดูเหมือนจะไม่มี) นานมากกกกกกก
ถ้าชอบอย่าลืมคอมเม้นท์แล้วก็กดเฟบเพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ !
เจอกันตอนหน้าค่ะ : )
ปล. ต้องขอบคุณอิมเมจน้องต๋าที่แอทแทคเราได้รุนแรงจากภาพของบ้าน staytrue ค่ะ ต๋าในเรื่องนี้ก็ทรงผมประมาณนี้แหละค่ะ //เขิน
ความคิดเห็น