ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BJIN] คลังฟิคสั้นของบินฮวาน l #คลังmyxbase

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Airplane เครื่องบินกระดาษของจีนาน 1/2

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 59









           Airplane เครื่องบินกระดาษของจีนาน


          หลายๆครั้งที่มีคนถามผมว่า คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร...



           นั่นสิ คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกัน เพื่อคนที่ตนเองรัก .. เพื่อความรัก
    ?


           การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรัก นั่นคือการใช้ชีวิตที่คุ้มค่าแล้วหรอ


           เพื่อคนที่เรารัก เราพร้อมจะเสียสละได้ทุกอย่างรึเปล่านะ...


           แล้ว...เรา จะกลายเป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของใครได้รึเปล่า


           สักวันนายจะรู้เอง ว่านายมีชีวิตอยู่เพื่อใคร นั่นเป็นสิ่งที่พี่สาวของผมบอกในงานแต่งงานของเธอ


            ภาพหญิงสาวในชุดแต่งงานยืนยิ้มอย่างมีความสุขเคียงข้างเจ้าบ่าวคู่รักของเธอ ทำให้ใครต่อใครที่มางานแต่งยิ้มตามได้ไม่ยาก รวมทั้งผมด้วยเช่นกัน


         นั่นสินะ......


           ผมก็ได้แต่หวังว่าสักวัน.... ผมจะได้รู้สักทีว่าผมมีชีวิตอยู่เพื่อใคร


     มานั่งเหม่ออะไรที่นี่ คิมฮันบินเสียงเรียกพร้อมแรงที่กระทบลงบนหน้าผากของผม เรียกให้ผมตื่นขึ้นมาจากในห้วงความคิด เป็นภาพที่ผมชินตาอยู่ทุกวัน


           จีนานที่ยืนถือน้ำส้มพร้อมดื่มกล่องเล็ก ยืนส่งสายตาเหนื่อยใจให้


           ใบหน้าหวานที่ชวนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงยืนกอดอกจ้องมองผม นัยน์ตาเรียวสีน้ำตาลถูกบังด้วยแว่นสายตา ที่ส่งเสริมให้เจ้าตัวดูเนิร์ดและโหดมากขึ้นในคราวเดียวกัน นี่ล่ะครับ รองประธานรุ่นของคณะผม


           ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ ว่าทำไมรองประธานรุ่นถึงมายืนอยู่นี่


           สาเหตุก็มาจากไอ้คนโดดงานคณะมานั่งเหม่ออย่างผมนี่แหละครับ..


           ประธานรุ่นปีที่ 3 คณะวิศวะกรรมศาสตร์ ... คือผมเอง


           ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับที่ผมหนีความวุ่นวายทั้งเรื่องเรียน และเรื่องกิจกรรมจากในคณะมานั่งเหม่ออยู่ข้างนอก เพราะแบบนั้นเลยเป็นเรื่องง่ายที่จีนานจะตามหาผมเจอได้ง่ายๆ เวลาที่ผมแอบออกมา


           แถมไอ้ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ทำอยู่นี่ก็เด่นซะด้วยสิ : (


           แต่ก็ดีนะครับ .. ผมชอบเวลาที่จีนานเม้มปากมองคาดโทษเวลาหาผมเจอ


           ผมว่ามัน... น่ารัก (?) ดีล่ะมั้ง


           ผมคิดพร้อมยิ้มออกมา ยิ่งทำให้คนตรงหน้าขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม


    ยิ้มบ้าอะไร ?” กล่องน้ำส้มพร้อมดื่มที่เจาะหลอดมาแล้วเรียบร้อยถูกยื่นมาให้ผม หลังจากที่เจ้าตัวบรรจงแกะซองหลอด ก่อนจะเจาะให้ผมด้วยความเคยชิน


    ไม่มีอะไรสักหน่อยผมยื่นมือออกไปรับ พร้อมกับกระเถิบตัวออกมาให้จีนานนั่งข้างๆได้


    ตามใจเถอะร่างบางถอนหายใจพร้อมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ทอดสายตามองออกไป


    จีนานมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าผมหยุดดูดน้ำส้มเมื่อเห็นว่าใครอีกคนถอนหายใจออกมา


           ถ้าเป็นคนอื่น การถอนหายใจไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก


           แต่เพราะการถอนหายใจนั่นมันมาจาก คนที่เกลียดการถอนหายใจที่สุดเลยไงล่ะ


           คนที่บอกว่า การถอนหายใจจะทำให้ความสุขในชีวิตหายไปหมด


           คนที่คอยดึงแก้ม เวลาที่ผมเผลอถอนหายใจออกมา


           ...รึเพราะว่า  มันเป็นจีนานกันนะ


    ไม่มีอะไรสักหน่อยจีนานหันมาส่ายหน้าเนือยๆ พร้อมถอนหายใจอีกรอบ ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นไปอีก


           เมื่อไหร่จีนานจะรู้ตัวนะ ว่าเป็นคนโกหกไม่เก่งน่ะ..


    โกหกผมยื่นมือไปจับหน้าจีนานมาเพื่อไม่ให้ใครอีกคนหลบสายตาได้ จีนานมองหน้าผมอย่างลังเลก่อนจะหลบตาผมและหันกลับไป


    คือว่า...


    ว่า ?”


    “จีนานมีเรื่องจะบอกต๋า”


    “..ก็ว่ามาสิ”


           ท่าทางของจีนานมันทำให้ผมกลัวสิ่งที่เขาจะพูดออกมาชะมัด


           หยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วตั้งใจฟังจีนานได้แล้ว คิมฮันบิน..


    จีนานจะไปเรียนต่อที่จีน


    ห้ะน้ำส้มกล่องเล็กในมือผมถูกปล่อยให้ร่วงตามแรงโน้มถ่วงลงไปนอนอยู่บนพื้นเรียบร้อย บางทีเมื่อกี้ผมอาจจะได้ยินผิดก็ได้ ผมอาจจะหูฝาดไป


           บางทีจีนานอาจจะบอกว่าบางคนในคณะไปเรียนต่อที่จีนก็ได้


           คนคนนั้นจะไม่ใช่จีนานใช่ไหม


           ขอร้องล่ะ...


    ได้ยินไม่ผิดหรอกต๋า จีนานหันมาย้ำกับผมก่อนจะมองออกไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย น้ำส้มที่หล่นลงไปที่พื้นถูกจีนานขึ้นมาแล้ววางไว้ที่ข้างเท้าเตรียมไปทิ้ง จีนานจะไปเรียนต่อที่จีนจริงๆ


    ตอนปีสามเนี่ยนะ


    อือ


    เห้ย ไมทำงี้อ่ะ


    ก็ไม่รู้เหมือนกัน อีกคนพูดเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติ


    “ไม่รู้ได้ไงจีนาน”


    “ก็แม่ถามว่าอยากกลับไปอยู่จีนกับแม่ไหม แถมพ่อก็ยังอนุญาตอีก”


    “............”


    “มหาลัยที่ไปต่อก็อยู่เครือเดียวกันกับที่นี่ โอนเรียนได้อยู่แล้ว”


    “................”


    “มันก็ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลไม่ใช่หรอต๋า”


           ให้ตายเถอะ... ตอนนี้ในหัวผมมีแต่เนื้อเพลงแอร์แพลนของไอค่อนขึ้นมาในหัวเลยอ่ะ จำได้ลางๆว่าเคยเปิดไปเจอแล้วพบว่าหัวหน้าวงที่ชื่อบีไอนั่นหล่อมาก


    잠깐 멈춰봐

    (อย่าพึ่งไปเลยนะ)


    가벼운 미소만을 남기고 웃는 얼굴로 떠났지

    (การจากไปของรอยยิ้มอันสดใสเพียงหนึ่งเดียว คุณจากไปพร้อมกับหน้าที่เปื้อนยิ้มนั้น)

     


           เพราะในชีวิตผมตอนนี้มีแค่รอยยิ้มของจีนานที่พอจะเยียวยามันให้ดีขึ้นมาได้


           ถ้าผมลงไปนั่งกอดขาขอร้องจีนานว่าอย่าไป จีนานจะยอมอยู่ที่นี่ไหมนะ ?


           ผมสะบัดหัวละความคิดฟุ้งซ่านในหัวทิ้งไป ในฐานะเพื่อน(?)ที่ดีผมไม่ควรจะไปฉุดรั้งจีนานไว้สิ ในเมื่อจีนานกำลังจะได้ไปในทางที่ดี...ใช่ไหม ?


    นี่ต๋า ภาพมือบางที่โบกอยู่หน้าผมจากการจมอยู่กับความคิดตัวเอง จีนานมองผมที่กำลังนั่งทำหน้างงๆ ก่อนจะยิ้นมือนั่นมาบีบแก้มผมเบาๆ เลิกเหม่อได้แล้ว


    “....” ผมมองหน้าอีกคนด้วยความว่างเปล่า จะว่ายังไงดีล่ะตอนนี้ผมรู้สึกอะไรมากมายจนความรู้สึกทั้งหมดมันกลายเป็นว่างเปล่าไปแล้วอ่ะตอนนี้ จะไปตอนไหน


    อาทิตย์หน้า


    อา..ทิตย์..หน้า ผมหยิบโทรศัพท์เครื่องโปรดขึ้นมากดดูในปฏิทิน ถ้าจีนานจะไปตอนอาทิตย์หน้างั้นแปลว่าจะไปตรงกับช่วงปิดเทอมแรกเลยสินะ


    อือ..อาทิตย์หน้า


    แล้วขอวีซ่ารึยัง


    เรียบร้อยหมดแล้ว


    แบบนี้กะจะไม่ให้เตรียมใจเลยสินะผมพูดขึ้นแบบนั้นทำให้บรรยากาศยิ่งแย่ลงไปอีกเท่าตัว จะให้ผมทำไงอ่ะ


           ผมน้อยใจเป็นนะเว้ย อย่างน้อยผมอยากให้จีนานมาปรึกษาอะไรผมบ้าง..


           ทำไมต้องตัดสินใจทำอะไรแบบนี้แล้วค่อยมาบอกผมอ่ะ


           ผมยังมีค่าอยู่ใช่ป้ะวะ..


    “...ฮันบิน จีนานเรียกผมพร้อมเอามืออีกข้างมากุมไว้ ยอมรับเลยว่านั่นทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยนึง..


    “.......ทำไมถึงจะไปที่นู่นล่ะ


    ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้อยู่ที่นี่แล้วนี่จีนานหยิบสมุดวาดเขียนในกระเป๋าสะพายตัวเองขึ้นมาวาดๆเขียนๆเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำเวลาที่ว่าง


           มือเล็กฉีกกระดาษออกมานั่งพับ ใช้เวลาเพียงแป้บเดียวกระดาษเปล่าใบนั้นก็กลายร่างเป็นเครื่องบินกระดาษลำจ้อย จีนานหยิบปากกาสีดำมาเขียนที่ปลายปีกพร้อมกับยื่นให้ผม

     

    เครื่องบินของต๋าที่จีนานทำให้

     

           ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ.. ที่ผมใช้เวลาว่างของตัวเองไปกับการจ้องมองจีนานอยู่แบบนี้


           ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ.. ที่ความรู้สึกของจีนานกลายเป็นเรื่องสำคัญของผม


           ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ที่ผมมีจีนานในชีวิตประจำวัน


           และก็ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ที่ผมรักจีนาน


    แล้ว..ฉันล่ะจีนาน


    “.........”


    ฉันเป็นเหตุผลให้นายอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอ


    “...... ต๋า”


    “ว่าไง”


    “ฉันว่านายเพ้อแล้วล่ะ ไปนอนไป” คนตัวเล็กหยิบสมุดวาดภาพเคาะที่หัวผมก่อนที่จะเดินออกไปไม่มีแม้แต่เสี้ยววินาทีที่จะหันกลับมามอง


           ทิ้งเครื่องบินกระดาษลำจ้อยไว้ในมือของผมที่นั่งโง่อยู่ตรงนี้


    ---------------------------


     

    วันเดินทาง


    “มึงจะทำอย่างงี้จริงๆหรอฮันบิน” ยุนฮยองมองเพื่อนที่เอาแต่นอนซุกหน้าอยู่กับผ้าห่มบนเตียงด้วยความเหนื่อยใจ ต่อให้พูดอะไรไป ไอ้บ้านี่ก็ไม่ฟังเขาเลยสักนิด เอาแต่นอนนิ่งอยู่แบบนั้นแหละ


    “...มันยังไม่ลุกอีกหรอวะ” จีวอนโผล่หน้าเจ้ามาที่ประตูพร้อมกับเหลียวมองคนที่อยู่บนเตียง


    “มึงหลบหน้าจีนานมาอาทิตย์นึง เค้าไลน์มามึงก็ไม่ตอบ เค้าโทรมามึงก็ไม่รับ เจอกันในคลาสมึงก็โดด งานในคณะมึงก็ไม่ไปคุมให้จีนานคุมคนเดียว แถมนี่มึงยังมาดราม่าไม่ไปส่งจีนานอีกหรอวะ” จีวอนด่าออกมาพร้อมกับกระชากผ้าห่มออก แต่ยิ่งหงุดหงิดเมื่อไอ้คนที่แกล้งหลับดึงผ้าห่มไว้สุดแรง


    “มึงจะโกรธจีนานเรื่องอะไรพวกกูไม่รู้หรอกนะ แต่อย่างน้อยกูอยากให้มึงห่วงความรู้สึกจีนานมากกว่านี้”


    “................”


    “มึงเป็นเพื่อนที่สนิทกับจีนานที่สุดนะเว้ย”


    “...................”


    “ถึงจีนานจะยังไม่รู้ว่ามึงคิดเกินเพื่อนไปแล้วก็เถอะ..”


           ยุนฮยองมองหน้าจีวอนที่กำลังหัวเสียแล้วส่ายหน้าเบาๆ เสียงถอนหายใจของทั้งสองคนดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย จนในที่สุดทั้งคู่ก็เดินออกไปแล้วทิ้งฮันบินไว้บนเตียง


           เสียงฝีเท้าก้าวห่างออกไปตามด้วยเสียงปิดประตูห้องบ่งบอกว่าตอนนี้ในห้องมีแค่เขาคนเดียวแล้วที่จีวอนพูดออกมามันทำให้ผมเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว


           เพราะคำว่าเพื่อนที่ทำให้ผมไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกไป ความรู้สึกที่ผมมีให้จีนานมันเปลียนจากเพื่อนเป็นคนรักตั้งแต่ตอนไหนวะ..


           บางที อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกตอนรับน้องเลยก็ได้

     

    “นายชื่ออะไร” ผมเอ่ยถามชื่อคนที่รุ่นพี่จับคู่บัดดี้ให้


    “จีนาน” คนตรงหน้าบอก สายตาแบ๊วๆนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา


    “ยิ้มอะไร มีอะไรตลกรึไง” จีนานบอกก่อนจะมองด้วยสีหน้าติดหงุดหงิด


    “ทำไมชื่อดูจีนจัง ไม่ใช่เป็นคนเกาหลีรึไง”


    “ลูกครึ่ง”


    “ดีจัง งั้นตั้งชื่อจีนให้เรามั่งสิ”


    “นายชื่ออะไรล่ะ”


    “ฮันบิน คิมฮันบิน”


    “หน้าอย่างนายชื่อต๋าแล้วกัน”


    “ต๋า..แปลว่าอะไร ?”


    “ไม่มีความหมายหรอก” คนตัวเล็กพูดพร้อมยิ้มออกมาจนตาหยี

     

           ตอนนั้นผมรู้เลย ว่าผมมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร...


           ผมมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นต๋าของจีนานนี่เอง


           เมื่อคิดถึงความหลังก็ได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหุบยิ้มและลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมมองนาฬิกาปลุก


           อีกไม่ถึงชั่วโมงจีนานต้องขึ้นเครื่องไปจีนแล้ว แล้วนี่ทำไมผมยังอยู่ที่นี่อีกวะ..


           ก็เพราะว่าไม่รู้จะทำอย่างไง สุดท้ายนาฬิกาปลุกสีเทาก็นอนอยู่ข้างเตียงในสภาพที่โดนถอดถ่านออก จากความไม่เข้าใจอะไรของผมเอง


           มันคงเหมาะกับคนขี้แพ้แบบผมอยู่แล้วแหละ


           นอนโง่ๆอยู่บนเตียง ไม่ต้องสนใจว่าจีนานจะเป็นอย่างไง แล้วก็ไม่ต้องสนใจว่าจีนานจะรู้สึกอย่างไงเวลาที่ไม่เห็นผมโผล่ไปพร้อมกับพวกยุนฮยอง


           สายตาเหลือบไปเห็นเครื่องบินกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ มือเอื้อมไปหยิบมันไว้โดยอัตโนมัติ ตัวอักษรที่จีนานเขียนไว้ยังไม่เลือนหายไปไหน มันยังคงชัดเจนอยู่ตรงนั้น พอๆกับที่จะชัดเจนอยู่ในใจของผม


            ผมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง พร้อมกับชูเครื่องบินกระดาษนั่นไว้แล้วขว้างมันออกไปสุดแรงที่มี เครื่องบินนั่นบินวนอยู่อากาศก่อนที่จะชนผ้าม่านและร่วงลงตรงหน้าต่างห้อง


           ผมถอนหายใจแล้วลุกขึ้นจากเตียง มองมันที่ยังนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เครื่องบินนั่นพัดเข้ามาใกล้ในระยะที่เอื้อมถึง


           เครื่องบินกระดาษกลับมาอยู่เดิมของมันพร้อมกับผมที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง และเปิดผ้าม่านออกดูโลกภายนอกนั่น


           อากาศวันนี้สดใสเกินความจำเป็น ผมเกลียดที่มันเป็นแบบนี้ เกลียดทุกอย่าง


           เกลียดที่จีนานทิ้งผมไปโดยไม่รู้สึกอะไร


           เกลียดที่อย่างไงวันนี้จีนานก็ต้องไป


           เกลียดที่....ไม่ว่าอย่างไงผมก็ยังรักจีนาน


           โทรศัพท์สั่นพร้อมกับเสียงข้อความเข้า ผมล้วงมือลงไปหยิบมันจากในกระเป๋ากางเกง ใช้เวลาอ่านเพียงน้อยนิดก่อนที่จะโยนมันขึ้นไปบนเตียง และทรุดตัวลงนั่งร้องไห้เหมือนคนบ้า


    Massage from jinan

    ไปแล้วนะต๋า ดูแลตัวเองด้วยนะ

                   จีนาน.

     

           ที่ผมเกลียดมากที่สุดคือ..เกลียดที่ความรู้สึกของผม ไม่มีค่าพอที่จะรั้งจีนานไว้


    ----------------------------------

     

    오늘 가야 내일은 안돼

    ทำไมต้องวันนี้ ไปพรุ่งนี้ไม่ได้หรอ

     

    보내기 싫은데 가면 언제 오는데

    ไม่อยากส่งคุณไปเลยจริงๆ เมื่อไหร่จะได้กลับมาล่ะ

     

    너와 멀어지는 두려워

    ผมกลัวการที่ต้องแยกจากคุณ

     

    하루만 시간만 분만 한마디만 하게

    แค่หนึ่งวัน หนึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งนาทีก็ได้ แค่พอให้ผมได้พูดอะไรสักคำ

     

    Hey Mr. Airplane

    เฮ้ คุณเครื่องบิน

     

    잠깐 멈춰봐

    อย่าพึ่งไปเลยนะ

    .
    .
    .

    นะครับ

     

     

     





    ขอบคุณทรานส์จากบ้าน B.I THAILAND ( @Hanbin_TH )

    หลายคนอาจจะบอกว่าจากตอนที่แล้วไหนบอกว่าจะไม่ได้อัพบ่อยๆ นี่มาอัพอีกล้ะ

    จริงๆเพราะว่าแต่งเรื่องยาวไม่ออกค่ะ //ก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ

    พอมันแต่งไม่ออกเราเลยมาแต่งฟิคสั้นที่เคยดองไว้เนิ่นนานให้จบๆไปสักที

    เรื่องนี้ทีแรกเราตัดสินใจว่าจะให้มันจบแบบนี้แหละค่ะ

    แต่อยากลองดูฟีดแบ็กอีกที .. อย่าลืมคอมเม้นต์หรือแอดเฟบไว้นะ

    มันเป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวอ้วนๆคนนี้ได้อย่างมากเลยล่ะค่ะ : )

    รักทุกคนค่ะ 


    ขอบคุณธีมสวยๆจาก

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×