คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [OS] STEP - LOVER
Once upon a time, we swore not to say goodbye.
Something got a hold of us
and we changed.
How'd our fairytale just
end up this way.
แสงพระจันทร์ที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างรถ ปลุกให้จินฮวานลืมตาตื่นขึ้นมา
นัยน์ตาหวานค่อยๆเปิดตาและมองหาใครอีกคนโดยอัตโนมัติ
กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยยังคงติดแน่นอยู่ที่เสื้อคลุมที่เจ้าตัวให้เขาไว้คลุมกันหนาว
จินฮวานหยิบเสื้อตัวนั้นมาใส่ก่อนเปิดประตูรถบ้านเพื่อเดินออกไปหาเจ้าของหัวใจของเขา
กองไฟที่ก่อไว้เมื่อตอนเย็นสะท้อนให้เห็นภาพเด็กหนุ่มตัวสูงคุ้นตาที่ยืนสูดอากาศที่ริมหน้าผา
พร้อมเสียงคลื่นทะเลกระทบชายฝั่งใกล้ๆกันนั้นยังคงดังมาอย่างไม่ขาดสาย
“ฮันบิน” เสียงหวานเอ่ยเรียก พร้อมเดินไปสวมกอดฮันบินจากด้านหลัง
เขาหลับตาลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นจากไหล่กว้างของฮันบินไว้ให้นานที่สุด
ก่อนที่มันจะหายไป...
ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปสู่โลกแห่งความจริง...
“ตื่นแล้วหรอครับ” ฮันบินหันกลับมา เพื่อที่เขาจะได้กอดคนตัวเล็กกลับได้อย่างสะดวก
เขาหยิบหมวกไหมพรมสีเข้มที่ตัวเองสวมอยู่ ไปใส่ให้อีกคนอย่างเบามือ “อากาศหนาวนะ
พี่ต้องดูแลตัวเองด้วยสิ”
“ไม่สนหรอก” จินฮวานบ่นอู้อี้พร้อมสวมกอดฮันบินอีกรอบ
ฮันบินได้แต่หัวเราะเบาๆกับการกระทำที่น่ารักของอีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือไปกอดคนตัวเล็กไว้อย่างหลวมๆ
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของจินฮวานดังขึ้น
เจ้าตัวคว้ามันขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่เจื่อนลงไปเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ..
“พ่อพี่โทรมาใช่มั้ยครับ..” ฮันบินคลายกอดเพื่อให้อีกคนได้คุยโทรศัพท์ได้สะดวก
จินฮวานพยักหน้าพร้อมเงยหน้ามองฮันบิน นัยน์ตาทั้งสองข้างคลอไปด้วยน้ำตา
ฮันบินถอนหายใจพร้อมปาดน้ำตาให้คนตัวเล็ก.. เขายิ้มและปลอบใจว่าทุกอย่างโอเคในตอนจบ
เจ้าตัวทิ้งให้จินฮวานคุยกับพ่อเพียงลำพัง ก่อนจะเดินออกมาเพื่อโทรหาแม่
“เป็นไงบ้างครับแม่” ฮันบินกรอกเสียงหลังจากปลายสายส่งเสียงทักทายเขามา
ฮันบินยิ้มน้อยๆ เมื่อแม่เขาส่งเสียงสดใสถามเขากลับมา “เข้าค่ายก็สบายดีครับ”
“ครับ พ่อ” จินฮวานกรอกเสียงตอบรับ
พร้อมปรายสายตามองใครอีกคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ห่างออกไป
เจ้าตัวปาดน้ำตาที่คลอเบ้า ก่อนจะเปลี่ยนมาตอบปลายสายด้วยความสดใส
“ที่นี่คุณครูใจดีมากเลยครับ”
“ไม่ต้องห่วงครับแม่/พ่อ” ทั้งคู่ตอบปลายสายพร้อมกัน
ทำให้เผลอมองหน้ากันก่อนจะอมยิ้มออกมา และก็เป็นฮันบินที่เลือกจะเดินห่างออกไป
จะได้ไม่ไปรบกวนจินฮวาน
“ผมกลับไปทันงานแต่งพ่อกับคุณน้าแน่นอนครับ” จินฮวานพูดกับพ่อสักพัก
พร้อมยิ้มตอบเมื่อฮันบินเดินกลับมาและส่งสัญญาณมือว่าจะขึ้นไปรอบนรถ
“คือคุณครูเรียกแล้วน่ะครับพ่อ ผมไปก่อนนะครับ”
จินฮวานถอนหายใจ เมื่อเขากดวางสาย
ใช่แล้วล่ะ... พ่อของเขากำลังจะแต่งงาน
แต่งงานกับแม่ของฮันบิน...
เขาและฮันบิน กำลังจะกลายเป็นพี่น้องกันตามกฎหมาย
เหมือนซินเดอเรล่าที่กำลังจะมีแม่เลี้ยงและพี่เลี้ยง
แต่เป็นแม่เลี้ยงที่แสนจะใจดี
กับพี่เลี้ยงที่เขารักจนหมดหัวใจ...
เขากับฮันบินตัดสินใจโกหกที่บ้านมาใช้เวลาด้วยกันสองคนกับรถบ้านคันเล็กๆที่ฮันบินเป็นคนเช่าไว้
ทะเลตอนหน้าหนาวก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนัก
เมื่อมันทำให้เขาและฮันบินได้ใช้เวลาด้วยกันมากกว่าเดิม
และ...ได้ให้ทั้งคู่ใช้เวลาในการหาทางออกกับความสัมพันธ์ของพวกเขา
และถือว่าเป็นโชคดีอีกอย่างเมื่อถนนดินที่เขากับฮันบินค้นพบโดยบังเอิญพาคนทั้งคู่มาอยู่ตรงจุดชมวิวที่ถูกปล่อยทิ้งไว้เพราะไม่มีผู้คนนิยมมาเที่ยวทะเลตอนหน้าหนาวสักเท่าไหร่
“พี่จินฮวาน” ฮันบินโผล่หัวออกมาตรงประตูรถ
กวักมือเรียกจินฮวานพร้อมยิ้มกว้างให้
รอยยิ้มของฮันบินเหมือนกับเชื้อเพลิงที่คอยเติมความสุขให้กับจินฮวาน
คนตัวเล็กทำท่าสงสัยเมื่อเห็นว่าฮันบินทำท่าปกปิดอะไรเขาไว้ที่ด้านหลัง
แต่เจ้าตัวเลือกที่จะมองข้ามและเดินไปหาฮันบินที่ยืนอยู่อย่างว่าง่าย
“ออกมานอนเล่นข้างนอกกัน” จินฮวานคว้ามือแกร่งของอีกฝ่ายพร้อมออกแรงดึง
แต่ฮันบินกลับหยุดยืนนิ่งๆไม่ยอมไปตามแรงดึง
ทำให้จินฮวานชะงักพร้อมหันมามองอีกคนที่ไม่ยอมเดินตามเขา “ฮันบินน่า ?”
“พี่เชื่อเรื่องซินเดอเรล่ารึเปล่า ?” ฮันบินยิ้มกว้างพร้อมหยิบหนังสือที่เขาซ่อนไว้ด้านหลังออกมา
หนังสือเล่มหนาที่หน้าปกดูผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโชน
“ซินเดอเรล่า ?” จินฮวานหยิบหนังสือขึ้นมาจากมือฮันบิน
ก่อนจะเดินตามแรงจูงที่อีกฝ่ายเอามือแกร่งมาดึงเขาขึ้นไป
เพื่อไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ด้านในรถที่อบอุ่นมากกว่อากาศข้างนอกและเพื่อที่เขาจะเปิดดูรายละเอียดของหนังสือเล่มนี้ได้ง่ายๆ
หนังสือเก่าปกสีฟ้าหม่น
ชื่อเรื่องขาดหายไปบางส่วนแต่ก็ยังอ่านรู้เรื่องว่าเป็นซินเดอเรล่า
รูปรองเท้าแก้วสัญลักษณ์ของเรื่องก็ยังคงโดดเด่นแม้จะมีรอยยับบ้างก็เถอะ
แต่เนื้อเรื่องซินเดอเรล่าก็ยังคงโลดเล่นอย่างงดงามภายใต้ตัวอักษรที่เรียงอยู่ภายใน...
ฮันบินรู้ดีว่าจินฮวานชอบหนังสือเก่าๆขนาดไหน โดยเฉพาะเทพนิยายและนิทาน
ฮันบินรู้ดีจนบางทีอาจจะรู้มากกว่าตัวจินฮวานเองด้วยซ้ำ
จินฮวานละสายตาจากหนังสือเพื่อมองฮันบินที่มานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มประจำตัวที่เขาชอบมองอยู่บ่อยๆ
ริมฝีปากสีสวยที่ทำให้เขาหวั่นไหวมากขึ้นในทุกครั้งที่ได้เคยสัมผัส
ดวงตาสีเข้มที่เขาชอบจ้องมองและชอบเวลาที่มีแต่หน้าเขาสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นอีกเหมือนกัน
จมูกและสันดั้งที่คุ้นเคยและทรงผมหน้าม้าปรกหน้าที่เขามักจะบ่นให้ไปตัดบ่อยๆแต่เจ้าตัวก็ชอบที่จะขอผลัดไปทุกครั้ง
ทุกส่วนนั่นมันคือ คิมฮันบิน
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขา
คนที่คอยเคียงข้างเขามาตลอดห้าปี
และเป็นคนที่จินฮวานจะรักตลอดไป...
“ชอบไหมครับ” ฮันบินพูดพร้อมเกาหัวแก้เขิน เขาให้ของขวัญจินฮวานหลายต่อหลายครั้ง
แต่ครั้งนี้กับเป็นครั้งที่เขารู้สึกตื่นเต้น และคาดหวังกับมันมาก “ผมเจอมันที่ร้านหนังสือโดยบังเอิญน่ะ”
ถึงการที่บอกว่าบังเอิญเจอมันจะดูไม่เท่ห์เท่าไหร่
แต่ฮันบินก็เลิกที่จะพูดแบบนั้นออกไป อย่างน้อยมันก็ดีกว่าให้อีกคนมาเป็นห่วงเขาเพราะรู้ว่าเขาไปวิ่งวุ่นตามหาหนังสือเล่มนี้ทั่วโซล..
“ชอบสิ..” จินฮวานพูดพร้อมยิ้มให้อีกฝ่าย เขาอยากจะพูดให้มากกว่านี้
แต่กลับไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากเขาอีกเลย
จินฮวานแค่อยากใช้เวลามองหน้าฮันบินแบบนี้ไปให้นานที่สุด
นานที่สุด..
ก่อนเขาและฮันบินจะกลายเป็นพี่น้องกัน
มือแกร่งของฮันบินหยิบหนังสือออกไปจากมือจินฮวานและรวบมือบางคู่นั้นไว้ด้วยมือของเขา
“พี่จินฮวานกำลังจะกลายเป็นซินเดอเรล่าที่มีแม่เลี้ยง กับพี่เลี้ยง.. ไม่ใช่สิ
ต้องบอกว่าเป็นน้องเลี้ยงใช่มั้ยครับ” ฮันบินพูดพร้อมหัวเราะเบาๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเศร้าจนเกินไป
“อื้อ..” จินฮวานพยักหน้า
นัยน์ตาหวานที่น้ำตาเคยเหือดแห้งไปกลับไหลลงมาอีกครั้งอย่างช้าๆ
ฮันบินเคยบอกว่า
เมื่อพวกเขากลับบ้าน ทุกความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องทิ้งไว้ที่นี่..
เพียงแค่คิดว่าเขากับฮันบิน
ต้องมองหน้ากันด้วยความเฉยชา เขาก็อยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว
จินฮวานเกลียดการที่ตัวเองร้องไห้ง่าย
แต่ก็ห้ามน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ได้เหมือนกัน
“ซินเดอเรล่าก็ต้องได้คู่กับเจ้าชาย...” ฮันบินที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าจินฮวาน
เงยหน้ามองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
เขาทำได้แค่ช่วยปาดน้ำตาที่บดบังความงดงามของใบหน้านั้นออกไป
“.............” จินฮวานยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยไม่ยอมหยุด
ฮันบินไม่รำคาญเสียงร้องไห้หรือหยดน้ำตาเลยสักนิด
ตรงกันข้ามเขายิ่งรู้สึกรักจินฮวานมากกว่าเดิมเสียอีก เมื่อเห็นว่าความรักของพวกเขามีค่ามากแค่ไหนต่อคนตัวเล็กที่ร้องไห้งอแงตรงหน้านี่
“แต่เทพนิยายก็เป็นได้แค่เทพนิยาย”
“...................”
“และในเมื่อตรงนี้ไม่มีซินเดอเรล่า ไม่มีพี่เลี้ยงใจร้าย ไม่มีเจ้าชาย มีแค่ฮันบิน
กับพี่จินฮวานแค่สองคน”
ฮันบินเขยิบเข้ามาใกล้จินฮวานให้มากขึ้นด้วยการเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าคนขี้แย
แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน
เพราะแบบนั้นยิ่งสร้างความหวาบหวามในใจจินฮวานให้มากขึ้นไปอีก...
“..............” จินฮวานกลั้นหายใจเมื่อใบหน้านั่นยื่นเข้ามาใกล้
ถึงจะเคยมองฮันบินแบบใกล้ๆมาหลายครั้ง
แต่ยังไงเขาก็ยังหวั่นไหวกับฮันบินอยู่ร่ำไป..
หน้าหล่อๆ แถมรอยยิ้มซื่อๆนั่น
เขาลืมมันไม่ลงหรอก
“............” ฮันบินปล่อยให้ความเงียบคั่นกลางระหว่างพวกเขา
ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปอีกครั้งหากแต่ครั้งนี้ทำให้หัวใจจินฮวานเต้นแรงกว่าเดิม
เมื่อริมฝีปากสีพีชนั่นประทับจูบลงที่ริมฝีปากของจินฮวานอย่างแผ่วเบา
ฮันบินกดจูบให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ใช่จูบที่ร้อนแรง แต่เป็นจูบที่แสนอ่อนหวานและเต็มไปด้วยความเศร้าจากคนทั้งคู่
ฮันบินถ่ายทอดความรู้สึกของเขาผ่านทางจูบนี้
จินฮวานอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้เหลือเกิน
รสจูบที่เคล้าไปด้วยน้ำตาจะตราตรึงในใจของคนทั้งคู่ไปอีกนานแสนนาน
ฮันบินถอนจูบออกพร้อมไล้ริมฝีปากไปตรงคราบน้ำตาที่เลอะข้างแก้มเนียน
“ให้ผมเป็น..เจ้าชายของพี่นะครับ”
ฮันบินพูดพร้อมมองตาหน้าจินฮวานที่ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าและความดีใจ
คนตัวเล็กพยักหน้าตอบเขาถึงแม้ว่าในใจจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม
พอเห็นแบบนั้นฮันบินก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงคนตัวเล็กมาสวมกอดไว้
พร้อมจูบเบาๆที่หน้าผาก คำพูดที่ว่า ‘มันจะไม่เป็นไร
ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี’ ถูกหยิบยกมาปลอบใจคนตัวเล็กซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง
ความจริงที่รอพวกเขาอยู่ข้างหน้าจะโหดร้ายขนาดไหน.. พวกเขาไม่รู้หรอก
วันที่พวกเขาต้องปล่อยมือออกจากกันจะมาถึงวันไหน...
พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
พวกเขารู้แค่ว่า..ก่อนจะถึงวันนั้น
พวกเขาจะไม่มีวันปล่อยมือกันและกันไปอย่างแน่นอน
THE END.
ฉลองการเปิดคลังฟิคใหม่ด้วยเรื่องเศร้าๆก่อนเลย
เรื่องนี้เราเคยได้ลงแข่งในโปรเจ็ค Next story ของบ้านวินไทยฟิคค่ะ
เอามาเขียนบรรยายเพิ่มบ้างนิดๆหน่อยๆ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ : )
ความคิดเห็น