ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic EXO KAIDO ღ Cardiac หัวใจ ❤ ]

    ลำดับตอนที่ #1 : Cardiac ❥ Wait

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 57


    Cardiac

    Wait

     

    วี๊วอๆ   วี๊วอๆ  วี๊วอๆ เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังลั่นในใจกลางเมืองของกรุงโซล พร้อมกับบุรุษพยาบาลที่ลงจากรถเพื่อมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

    มีคนบาดเจ็บอยู่ในนี้อีกหนึ่งคนเร็วเข้าเสียงเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในโซลตะโกนโหวกเหวกโวยวายกันยกใหญ่ รถยนตร์สีดำกับรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่พุ่งชนใส่กันจนเกิดเป็นอุบัติเหตุ รอยเลือดสีแดงกระจายเป็นวงกว้างตามถนน รถราพากันติดแน่นขนัดไปหมดเนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนี้

    .

    .

    .

    คนไข้เสียเลือดมาก ได้รับการกระทบกระเทือนจากสมองอย่างรุนแรงแพทย์หญิงคนสวยพูดขึ้น เธอมองหน้าคนไข้อย่างมีความหวัง

     

    ยังไงเค้าก็ต้องรอดเธอเตรียมอุปกรณ์ผ่าตัด ก่อนจะลงมือผ่าตัด นายต้องรอดนะ ขอร้องเถอะ ฉันขอร้องเถอะนะ

     

    คนไข้ไม่ตอบสนองเลยค่ะคุณหมอพยาบาลสาวพูดขึ้น

     

    หมอจองค่ะ หยุดเถอะค่ะ อย่าพยายามอีกเลยนะค่ะ คุณหมอเธอพูดพร้อมกับจับมือแพทย์หญิงจองซูจองไว้แน่น

    คุณหมอค่ะอย่ายื้อเค้าอีกเลยนะค่ะ

     

    ไม่ยังไงเค้าก็ต้องรอด ตื่นสิ ตื่น ฮึก ไม่ได้นะ นายจะตายจากฉันไปแบบนี้ไม่ได้เธอกอดร่างของคนไข้ไว้แน่น

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!

     

     

     

     

     

    ผมค่อยๆตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นี่ผมอยู่ที่ไหน

     

    อรุณสวัสดิ์จ๊ะ ชานยอลผมพยายามหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียง เธอเดินเข้ามาช่วยพยุงผมไว้ช้าๆ ผมมองไปรอบๆห้องสีขาว ที่มีโต๊ะสีครีมกับเก้าอี้เข้าชุดกันอีกสองตัว บนโตะมีแจกันสีน้ำตาลที่ภายในมีดอกกุหลาบสีแดงสดอยู่

     

    คะ คุณ..” ผมเงียบก่อนจะจับที่ศีรษะของตัวเอง ผมรู้สึกปวดหัวมากๆ

     

    ฉันเป็นหมอเจ้าของไข้นายหน่ะ ชื่อจองซูจองเธอยิ้มให้ผมก่อนจะเดินไปหยิบเก้าอี้เพื่อมานั่งข้างๆผม

     

    นายสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักนะ อาจจะเจ็บหัวหน่อย ช่วงนี้ก็ต้องพยายามทำกายภาพบำบัดหล่ะ นายหลับไปตั้งสิบวันแหนะเธอพูดกับผม ผมได้แต่ผงกหัวลงเป็นเชิงว่าขอบคุณก่อนจะยิ้มให้เธอ

     

    พักผ่อนมากๆหล่ะเธอเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดมันออก

     

    อ่ะ ใช่ เที่ยงๆเดี๋ยวพยาบาลจะเอาอาหารมาให้เธอนะ คงไม่ต้องให้กินอาหารทางสายอย่างแล้วหล่ะ

     

    ครับผมยิ้ม

     

    จ๊ะ ไปนะเธอยิ้มตอบผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป

     

     

     

     

     

    ผมเดินมาเล่นที่สวนสาธาณะที่ประจำของผม เมื่อไหร่พี่จะกลับมานะ พี่ปล่อยให้ผมรอทุกวันเลย ไปอยู่ต่างประเทศแล้วลืมผมไปแล้วหรือไง ติดต่อก็ไม่ได้เลย ผมคิดในใจก่อนจะเดินคอตกออกจากสนามเด็กเล่น ที่มีต้นแปะก๊วยต้นใหญ่ตั้งอยู่ ผมหันหลังกลับไปมองที่สวนสาธาณะอีกครั้งก่อนจะ

    ผมจะโกรธพี่จริงๆนะพี่จงอิน ไอ้พี่บ้า ไปอยู่ต่างประเทศแล้วทิ้งให้ผมมานั่งเหงาที่ชิงช้าคนเดียวตั้งสองปีสิบวันแล้วหน่ะ ไหนบอกว่าครบสองปีแล้วจะกลับมาไงผมตะโกนเสียงดังก่อนจะเดินออกมาจากสนามเด็กเล่นที่นั่น ถึงเวลาที่ผมต้องรีบไปทำงานพิเศษแล้ว วันนี้ผมอุตส่าห์รีบออกมาจากมหาลัยเพื่อมารอพี่เค้า แต่พี่เค้าก็ไม่มาตั้งหลายวันแล้วนะ จะหายไปก็ไม่ยอมบอกผมเลย ผมงอนนะไอ้พี่กัมจง ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆอากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆแล้วเพราะตอนนี้มันอยู่ในช่วงของฤดูใบไม้ร่วงนี่น่า ผมกระชับผ้าพันคอลายทางสีเขียวขาวแน่นก่อนจะเดินไปยังร้านแฟมมิลี่มาร์ทที่ผมทำงานอยู่

    .

    .

    .

    ทั้งหมด9000วอนครับผมยิ้มให้ลูกค้าก่อนจะโค้งให้ขอบคุณครับผมพูดก่อนจะนั่งลงอย่างหมดแรงตอนนี้หมดเวลางานของผมแล้วถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับบ้านแล้วหล่ะ ผมเก็บกระเป๋าก่อนจะสะพายเป้สีดำคู่ใจออกมา ผมเดินเข้ามาจนถึงอพาร์ตเม้นท์ของผม ข้างในมีแค่เตียงเล็กๆโต๊ะทำการบ้านตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำหนึ่งห้อง ผมเก็บเงินไว้ในกล่องเงินของผมก่อนจะรีบมาอ่านหนังสือ

     

     

     

     

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนรถเข็นที่มีพยาบาลสาวคนนึงเข็นอยู่ ผมเพิ่งทำกายภาพบำบัดเสร็จครับ ตอนนี้กำลังจะกลับห้อง พยาบาลเข็นรถเข็นมาให้ผมจนถึงห้องก่อนจะค่อยๆพยุงผมนั่งที่เตียง เธอจัดผ้าปูที่นอนให้ผมยิ้มให้เธอก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป บางทีผมก็สงสัยเหมือนกันนะถึงผมจะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างหนักตามที่แพทย์ซูจองเค้าบอกผม แต่ผมก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมผมไม่ได้ความจำเสื่อม ซ้ำยังจำทุกอย่างได้ปกติ ผมจำได้ว่า คุณพ่อคุณแม่ของผมเป็นนักธุรกิจ ผมมีพี่สาวชื่อว่าปาร์คยูรา พี่ผมทำงานเป็นผู้ประกาศข่าว สั้นๆง่ายๆก็นักข่าวแหละครับ ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ผมชอบเล่นกีต้าร์ แถมผมยังสามารถเล่นกลองได้อีกด้วย ผมไม่ชอบแมลง ผมโสด แล้วก็มีเพื่อนสนิทชื่อเซฮุน แต่ผมรู้สึกว่ามีสิ่งนึงในตัวผมที่แปลกไป มันเหมือนไม่ใช่ตัวผม แต่ช่างเถอะคิดไปก็ปวดหัวป่าวๆ ผมขยับตัวช้าๆเพื่อให้นอนในท่าที่สบายก่อนจะพล่อยหลับไป

     

     

     

     

     

    วันนี้ผมตื่นมาเช้ากว่าปกติ ผมคิดไว้ว่าจะไปนั่งเล่นชิงช้าที่สวนสาธารณะก่อนจะออกไปมหาวิทยาลัย ผมเดินออกจากอพาร์ทเม้นต์ของผมมายังเส้นทางที่คุ้นเคย อากาศวันนี้ดีมากเลยครับ ถึงจะหนาวก็เถอะ แต่ผมชอบอากาศแบบนี้นะ มันรู้สึกดีมากๆเลยหล่ะ ผมเดินมาถึงสวนสาธารณะก่อนจะนั่งลงที่ชิงช้าสีฟ้าอ่อนตัวโปรดแล้วโยกไปมา ผมมักจะมาที่สวนสาธาณะนี้เวลาที่ผมรู้สึกแย่ จนมีวันนึงผมจำได้ว่าตอนนั้นผมโดนเพื่อนแกล้ง พวกเค้าเอารายงานของผมไปฉีกทิ้ง วันนั้นผมกลับมาแล้วก็มานั่งร้องไห้ที่สวนสาธาณะทีนี้ ทำให้ผมเจอกับสุนัขตัวนึงครับ ชื่อมงกู มันเดินมาเลียผม ผมจำได้ว่าผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะไล่มันออกไป

     

    ย่า!! มงกูอ่า ไปเลียเค้าแบบนั้นได้ไงห๊ะ ไอ้ตัวแสบผมเงยหน้ามองสุนัขตัวนั้น พี่เค้ามองมาที่ผม

     

    เป็นอะไรไหมเรา อย่าร้องไห้สิ อากาศดีๆวันดีๆแบบนี้ต้องยิ้มเยอะๆนะรู้ไหมพี่เค้าเดินมาหาผม ก่อนจะยิ้มให้ผมอีกครั้ง

     

    เด้กน้อย ยิ้มสิ เราไม่เหมาะกับน้ำตาเลยนะ เจ้ามงกูหน่ะ ไม่ชอบเห็นใครร้องไห้หรอกนะพี่เค้ายื่นสุนัชที่ชื่อมงกูมาให้ ผมจำได้ว่ามันเลียหน้าผมจนเปื่อยเลยหล่ะ แต่มันก็ทำให้ผมกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

     

    ผมยิ้มก่อนจะลุกขึ้นพูดกับตัวเอง ต้องไปมหาวิทยาลัยแล้วนะคยองซู

     

     

     

     

     

    ซูจองครับ วันนี้พาผมออกไปข้างนอกได้ไหม ผมเบื่อหน่ะผมพูดกับคุณหมอประจำไข้ของผม

     

    อื้อ ได้สิค่ะ ฉันก็เห็นคุณทำหน้าเบื่อโลกบ่อยๆเหมือนกันเธอพูดก่อนจะถอดแว่นตาออก

     

    เอาเป็นว่าหลังทำกายภาพบำบัดเสร็จ ฉันจะพาคุณไปรอบๆโรงพยาบาลแล้วกัน

     

    ครับผมยิ้มอย่างดีใจ

     

    วันนี้ผมตั้งใจทำกายภาพบำบัดเป็นพิเศษเพราะผมจะได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก ผมเบื่อกับการที่จะต้องมองเห็นวิวเดิมๆผนังสีขาวแบบเดิมๆเต็มทนแล้ว แถมวันนี้คุณพ่อคุณแม่รวมถึงพี่สาวของผมก็จะบินกลับจากอเมริกามาเพื่อมาเยี่ยมผมอีกด้วย ผมยิ้มให้กับคุณหมอประจำไข้ของผม เธอเป็นคุณหมอที่สวยมากครับ แต่ผมคิดว่าสวยๆแบบเธอคงมีแฟนแล้วหล่ะ

     

    เสร็จแล้วค่ะ คุณชานยอล ไปกันเลยไหมค่ะเธอพูดพร้อมกับเก็บแฟ้มของเธอให้เรียบร้อย

     

    ครับผมพยายามลุกขึ้น ก่อนที่เธอจะมาช่วยพยุงผมไปนั่งบนรถเข็นช้าๆ

     

    เธอพาผมมานั่งที่สวนสาธารณะภายในโรงพยาบาลซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดอกไม้ต่างก็พากันเปลี่ยนสีพร้อมร่วงโรยกันไปหมดแล้ว ผมมองไปรอบๆอย่างสนใจ ก่อนที่จะหยุดมองไปที่ต้นไม้ต้นนึง

     

    คุณซูจองครับ นั้นต้นอะไรหรอครับผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง

     

    ต้นแปะก๊วยค่ะ สวยใช่ไหมหล่ะค่ะ คุณไม่เคยเห็นหรอค่ะ คุณเป็นคนเกาหลีนะเธอมองหน้าผมอย่างสงสัยจริงๆผมแอบคิดว่าเธอกวนผมมากกว่านะ

     

    จำได้สิครับคุณซูจอง ผมแค่จำชื่อมันไม่ได้ต่างหาก ผมเงยหน้ามองอีกคน

     

    ฉันก็แค่แซวเล่นนะค่ะ คุณเรียกฉันว่าซูจองเฉยๆก็ได้นะค่ะ

     

    ครับ งั้นคุณก็เรียกผมว่าชานยอลเฉยๆเหมือนกันนะครับเธอยิ้มให้ผม

     

    ค่ะเธอยิ้ม

     

    ว่าแต่คุณซูจองเป็นคุณหมอที่นี่มานานแล้วหรือยังครับ

    .

    .

    .

    ตอนนี้ผมกลับมาที่ห้องของผมแล้วครับ วันนี้ผมกับซูจองคุยกันหลายเรื่องเลยหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นชอบทานอาหารแบบไหน ประเทศที่อยากไปเที่ยว ดอกไม้ที่ชื่นชอบ รวมถึงเรื่องที่เค้าเข้ามาทำงานที่นี่ด้วยครับ เค้าบอกว่าผมเป็นคนไข้รายแรกที่เค้ารักษาเลยหล่ะ คุณซูจองเรียนจบทางด้านหัวใจมาครับ เธอเรียนจบมาจากประเทศอังกฤษ ผมรู้สึกชื่นชมความสามารถของเธอนะครับ เธอทั้งสวยทั้งรวยแถมยังเก่ง เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถรอบด้านจริงๆ ผู้ชายคนไหนได้เธอเป็นแฟนนี้คงโชคดีมากๆเลย

     

    ก๊อกๆๆ

     

    ตายอล!!! ชานยอล!!!” ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะพบคุณพ่อคุณแม่และพี่สาวของผม พวกเค้าวิ่งมากอดผมกันใหญ่เลยครับ

     

    เป็นอะไรมากไหมลูก แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้มาเยี่ยมลูกวันที่ลูกฟื้นวันแรก แม่ขอโทษจริงๆนะลูกคุณแม่พูดพร้อมกับกอดผมน้ำตาของท่านค่อยๆไหลออกมา

     

    ครับ ไม่เป็นไรหรอก คุณพ่อคุณแม่ก็มาหาผมแล้วไงครับผมกอดพวกท่านแน่น

     

    นายเห็นกุหลาบสีแดงที่ฉันเอามาเปลี่ยนให้ไหม พี่ยูราถามผม

     

    เห็นครับ พี่สาวคนสวยผมยิ้มก่อนที่พี่สาวจะสวมกอดผมอีกคน ครอบครัวเรากอดกันอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน

     

    นี่เซฮุนฝากขอโทษเราด้วยนะที่ไม่มีเวลามาเยี่ยมเลย เห็นบอกว่าจะจัดงานแต่งงานคริสต์มาสนี่แล้วนะชานยอล พี่ยูราพูดขึ้น

     

    ที่ไหนหรอครับ หมอนั้นอยู่อเมริกานี่น่า ถ้าผมจำไม่ผิด

     

    เห็นว่าเจ้าสาวอยากกลับมาแต่งที่ประเทศเกาหลีหน่ะ เห็นว่าชื่อลู่หาน พี่เห็นในภาพแล้วน่ารักมากเลย แล้วเราหล่ะ เมื่อไหร่จะแต่งงานกับเค้าบ้างหล่ะ หื้ม

     

    พี่ครับ ผมเพิ่งรถโดนรถชนนะ เรื่องนี้ผมยังไม่คิดหรอกครับแม่ผมค่อยๆป้อนแอปเปิ้ลให้ผม

     

    แต่แม่ก็อยากให้แกแต่งแล้วนะ แม่อยากอุ้มหลานเร็วๆ อายุแกก็ตั้งยี่สิบห้าแล้วนะ แม่ว่าคุณหมอที่เค้าดูแลแกก็สวยใช่เล่น แม่ไปสืบหมดแล้วประวัติดีมากเลยนะแม่ผมพูด พร้อมกับพี่ยูราและคุณพ่อที่พากันผงกหัวสมทบกันอีกแรง

     

    คร้าบบบบบ คุณพ่อคุณแม่พี่สาว แล้วเอ่อ คู่กรณีของผมหล่ะครับ ผมเป็นคนขับรถไปชนเค้านะ

     

    แม่ว่าเรามากินข้าวกันดีกว่า แม่ทำกับข้าวของโปรดแกมาด้วยนะแม่ของผมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

     

    คะ ครับผมตอบก่อนจะยิ้มให้ท่าน ผมเริ่มสงสัยแล้วหล่ะ มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ผมหวังว่าเค้าจะไม่เป็นอะไรนะ

     

     

     

     

     

    วันนี้จะกินอะไรดีน้าผมหยิบมาม่าหลากหลายรสที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะหนังสือมาหนึ่งห่อ รสชีส! วันนี้กินรสชีสดีกว่า ผมเดินไปหยิบหม้อต้มมาม่าสีทองก่อนจะเริ่มปรุงรสมาม่าแสนอร่อยของผม ชีสสึ ชีสสึ ชีสสึ~ ผมทำไปพร้อมกับฮัมเพลงไปอย่างสนุกสนาน เมื่อต้มมาม่าเสร็จผมก็จัดการกินมันไปพร้อมๆกับใช้ฝาหม้อแทนจาน มาม่านี่อร่อยสุดๆไปเลย

     

    ย่า คยองซูอ่า ทำไมกินแต่มาม่าหล่ะ

     

    ก็คยองซูไม่มีตังค์นี่ พี่จงอินจะเลี้ยงคยองซูหรอผมจำได้ว่าตอนนั้นผมทำตาลุกวาวสุดๆเลยหล่ะ

     

    ป่าวซะหน่อย พี่จะได้เอามาต้มกินด้วยไง ประหยัดค่าไฟที่หอพี่

     

    โหย พี่จงอินอ่ะ ขี้งก

     

    อะไร ว่าพี่หรอไอ้ตัวแสบมานี่เลยมาพี่จงอินวิ่งมาเหมือนจะจับผม แต่สุดท้ายพี่เค้าก็มาเอาแค่หม้อมาม่าไป

     

    แบร่ๆๆๆ อ่ะมาม่า

     

    ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กบื้อ พี่จะกินหมดแล้วนะ มากินสิ เดี๋ยวพี่กินหมดก่อนนะ

     

    ตอนนี้พี่อยู่ไหนนะ ตอนนี้มันสองปีสิบสองวันแล้วหน่ะ

     

     

     

     

     

     

     

    กลับมาแต่งฟิคชื่อเดิมแต่เปลี่ยนพล็อตเข้ามาอ่านกันเยอะๆนะค่า สัญญาเลยว่าเรื่องนี้จะตั้งใจแต่งให้จบแล้วก็จะอัพบ่อยๆด้วย ขอบคุณทุกคนเลยน้า >~<

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×