คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 เมฆก่อตัว
บทที่ 2 เมฆก่อตัว
รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก
ข่าวใหญ่ที่ปรากฏลงหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ไม่นับหนังสือปาปารัชชี่ทุกเล่ม ปรากฏรูปความหวานดูดดื่มของดารายอดนิยมอย่าง ญาดา กับชายหนุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ประโคมกันอย่างร้อนแรงเป็นกระแสที่สร้างยอดขาดได้อย่างมาก
‘ปิดเงียบอยู่นาน สุดท้ายญาดา เจ้าหญิงของวงการก็เปิดตัวหวานใจเสียที ไม่ต้องถามถึงความรักหวานล้ำแค่ไหน เพราะภาพฟ้องดูดดื่มขนาดนี้ หนุ่มๆ ทั้งหลายคงต้องเตรียมตัวอกหัก เช็ดน้ำตาเสียที เพราะชายหนุ่มรูปงามนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกชายของเจ้าแม่นักธุรกิจใหญ่ เพ็ญศิริ วัฒนเดชา เพื่อนซี้คุณหญิงวารีย์นั่นเอง เห็นทีงานเลี้ยงจะเรือล่มในหนอง........ ’
จีระรู้สึกหัวเสียอย่างรุนแรง เมื่อเห็นข่าวที่สื่อเขียนออกไป แถมคุณแม่ของตนกลับรู้สึกเห็นดีเห็นงามไปด้วย
‘ก็ดีแล้วนี่นา แม่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเชิญนักข่าวมาแถลงข่าว แต่เลือกลูกสะใภ้ถูกใจแม่จังเลย’
พอเอ่ยเรื่องฟ้องร้อง ก็โดนตบหัวไปหลายที พร้อมกับโดนสวดเกือบครึ่งชั่วโมง ไหนจะเรื่องที่ทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย ทั้งเรื่องกลัวผิดใจกับครอบครัวคุณน้าวารีย์ จีระไม่เคยคิดมาก่อน ว่าหญิงสาวหน้าตาสวยจัดคนนั้นจะเจ้าเลห์มากกลอุบายขนาดนี้ เขาเองโง่เองที่ไม่ใส่ใจเรื่องผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกมาคุณแม่เริ่มเอ่ยขึ้น หลังจากกลับมาเมืองไทย ใครจะคิดว่าน้องหยาของแม่ กับญาดามันเป็นคนเดียวกัน แถมยังเป็นน้องของคุณาเพื่อนเก่าคนสนิทอีก เรื่องฟ้องเลยต้องตกไป พอเริ่มใจเย็นหน่อย เลขาส่วนตัวของเขาก็โทรมาถามเรื่องนักข่าวนัดสัมภาษณ์เรื่อง ‘ความรักของจีระ-ญาดา’ กับเสียงหัวเราะร่าของพี่ชายตัวดี เจตริน ที่สนับสนุนมารดาของตนอย่างออกหน้าออกตา ก็ภรรยาท้องอ่อนๆ ที่นั่งยิ้มล้อจีระอยู่ตอนนี้ ก็ฝีมือคุณแม่หามาให้เหมือนกัน
‘รอให้ตาเจดหาให้แม่ ก็กลัวจะไม่ได้เพราะต้องใช้เวลาเลือกนานไปหน่อย’
จีระจำได้ว่า ตอนนั้นพี่ชายของเขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ประท้วงหยุดงานไปงานวันจนโดนหิ้วหูลากไปบ้านหญิงสาว พอเห็นหน้าตาของว่าที่พี่สะใภ้เท่านั่นแหละ น้องๆ หนู ๆทั้งหลายเป็นอันต้องเสียน้ำตา
“แต่จินไม่เหมือนพี่เจดนะแม่ จินอยากเลือกผู้หญิงของจินเอง”จีระบอกมารดาของตนเองไป ข้าวต้มกุ้งตรงหน้าไม่น่าทานเหมือนทุกวัน ได้แต่ดื่มกาแฟดำย้อมใจ
“ตอนนั้นตาเจดก็พูดแบบนี้เหมือนกัน”คุณเพ็ญศิริแย้งขึ้นมา
“ตอนนี้พี่เจดพูดแบบนั้นจริง ๆหรือคะคุณแม่”แล้วเสียงใส ๆ ของที่ว่าคุณแม่มือใหญ่ อย่างฟาริดาก็เอ่ยถามขึ้น ทำเอาเสียงหัวเราะของเจตรินชะงักทันที เมื่อเห็นเพ็ญศิริตอบรับ
“แต่ตอนนั้นพี่ยังไม่ได้เจอกับน้องแฟนนะ แล้วอีกอย่างยังไงคนที่พี่เลือกก็คือน้องแฟนไง” ภรรยาสาววัยยี่สิบสี่ยิ้มได้บ้าง หลังจากฟังสามีพูดปลอบประโลม ก่อนจะกระซิบบอกจีระทีหลังว่า ช่วงนี้เมียท้องอารมณ์แปรปรวน ต้องเอาใจ ไม่ได้กลัวแม่เหมือนที่โดนเพื่อน ๆตราหน้า จีระก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะชินเสียแล้วกับนิสัยยอมรับความจริงไม่ได้ของพี่ชาย
‘เสือโดนถอดเขี้ยวก็แบบนี้แหละ ตอนนี้เป็นแมวก็ยังอยู่ในกล้าพูดอีก’ ปรเมศ เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมก๊วนของเจตรินชอบแซวแบบนี้
‘เออ ไอ้เมศ ไอ้น้องชั่ว ถ้ามึงมีเมียแล้วไม่กล้วบ้าง กูขอแก้ผ้าวิ่งรอบกรุงเทพฯ เลย’ นี่เป็นเสียงพูดคุยยามก๊งเหล้ากัน เป็นที่รู้กันว่าสองเสือนี้เจ้าชู้ตัวพ่อ แต่หลังจาดเตรินแต่งงาน ปรเมศเลยต้องฉายเดี่ยวแทน
“ยอมแม่ไปเถอะจิน เผลอแกนั่นแหละจะหลงรักเขาแทน ผู้หญิงอะไรวะ ขนาดเห็นไม่ชัดยังสวยชิบหาย ถ้าไม่ติดว่าเคยเช็ดขี้มูกโป่งให้มันนะ เสร็จพี่ไม่ถึงน้องหรอกโว้ย” เจตรินคุยโวทับทันทีตามประสาเสือโดนถอดเขี้ยวตามที่ปรเมศบอก ไม่รับรู้สายตาดุของภรรยาสาวเลย
“ก่อนจะฟาดคนอื่น ก็ระวังน้องแฟนฟาดด้วยนะเฮีย” ฟาริดาโกรธไปแล้วเรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยขอตัวกับคุณแม่ รีบลุกออกไป ทิ้งให้คนหน้าซีดไม่ระวังปากหลุ้มใจแทน
“แม่ง คนท้องก็อารมณ์แบบนี้แหละ เดี๋ยวรอน้องหยาท้องแกก็ระวังๆ ไว้บ้างนะ ดูพี่เป็นกรณีศึกษาไว้”คุยยกหางตัวเองได้สักพัก นั่งไม่ติดเก้าอี้ได้ไม่ถึงสิบนาที ก็ต้องขอตัวไปง้อภรรยาว่าที่แม่ของลูกทันที
“เฮ่ออ....ตาเจดนี่มันรักเมียมันจริง ๆเนอะจิน แม่เห็นแล้วปลื้มใจ”เพ็ญศิริเอ่ยชมลูกชายคนดีที่ตอนนี้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี กลับบ้านตรงเวลาทุกวัน
“แต่ถ้าแม่บังคับจิน จินไม่สัญญาหรอกนะว่าจะเหมือนพี่เจดเค้า”จีระถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอนหลังไปพิงเก้าอี้ มองหน้ามารดาของตนอย่างหนักใจ
“ตอนนี้จินก็ไม่มีใคร จะลองศึกษาน้องเค้าหน่อยไม่ได้หรือไง ถือว่าช่วยให้ความหวังของคนแก่อย่างแม่กับน้าวาเป็นจริงหน่อยสิ”
“ใครว่าจินไม่มีใครกัน..........เพราะจินมีคนรักแล้วนะสิ จินถึงยอมเรื่องนี้ไม่ได้”
..........................................................................................................
ช่วยไม่ได้ที่สมาธิของญาดาจะเหลือน้อยนิดเหลือเกินในช่วงหลายวันนี้ งานถ่ายโฆษณาของเธอต้องถ่ายใหม่เป็นครั้งที่สาม เพราะตัวเธอไม่มีสมาธิเอาเสียเลย แต่ผู้ร่วมงามต่างพากันแซวยกใหญ่ว่าคนมีความรักก็เป็นแบบนี้ทุกคน แถมยังมีนักข่าวรอหน้าสตูดิโอเกือบสิบคน รอสัมภาษณ์ เล่นเอาเจ้าของสินค้ายิ้มแปล้ เพราะไม่ต้องออกแรงประชาสัมพันธ์เลย ก็มีคนสนใจอย่างมากมาย
“จะให้พี่แก้ข่าวให้หรือป่าว”ฐาปนีย์ หรือพี่ก้อย ผู้จัดการส่วนตัวที่คุณหญิงจ้างมาเอ่ยถาม หลังจากรอญาดาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อแขนสั้นเปิดกระดุมผ่าลำตัวทับเสื้อกล้าสีขาว ประทับด้วยเข็มกลัดขนสีดำขาวรูปหัวใจตรงหน้ากับเครื่องประดับเล็ก ๆน้อยๆ
“................”
“ไม่ให้แก้ข่าวหรือ”ญาดาหันมองหน้าปาฐินีย์ ก่อนจะถอนหายใจออกมา ความรู้สึกของญาดาตอนนี้มันสับสนไปหมด ตอนแรกหญิงสาวตกใจที่เห็นข่าว แต่เมื่ออ่านเนื้อหา เธอก็รู้ว่าเป็นลูกชายของป้าเพ็ณของเธอ แถมยังเคยเล่นหัวกันตั้งแต่เด็ก คุณแม่ของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังช่วยสนับสนุนอีก หากเธออยากคบหาจริงๆ พูดแล้ว แก้มสาวก็แดงเปล่งขึ้นมา
“แก้ว่าอะไรล่ะ พี่ก้อย พอหยาแก้ แม่กับป้าเพ็ญก็ให้ข่าวอีก หยาขี้เกียจแก้ ช่างเถอะ หยาว่าเราแอบกลับทางด้านหลังดีป่าว หยาอยากโรงแรมแล้วอ่ะ”หญิงสาวหยิบหมวกทรงแฟชั่นสีเทาขึ้นมาสวม พลางควานหาแว่นดำของตน ฐาปนีย์เลยออกไปหาลู่ทางให้ รอพักใหญ่ก็ไม่เห็น จึงเดินออกไปตามหา เสียงดังของนักข่าวก็ดังขึ้นแซ่เซ็งขึ้นเรื่อยๆ ญาดาลองชะโงกออกไปมอง ดูเหมือนว่าจะมีดาราใหญ่มีถ่ายที่นี่ด้วยกระมัง นักข่าวถึงรุมเสียขนาดนั้น แถมยังขับรถราคาแพงอย่างแอสตันมาร์สีดำขลับคันใหญ่ รุ่นเดียวกับพี่ชายของเธอแต่คนละสีเท่านั้นเอง
แล้วญาดาก็หมดความสนใจเมื่อคิดได้ว่า โชคดีที่มีเป้ามาล่อนักข่าวแทน จะได้หลบไปพักโรงแรมได้อย่างสะดวก หากฐาปนีย์ไม่เรียกเธอเสียก่อน
“น้องหยา รีบมาเร็วๆ”เสียงพี่ก้อยไม่ได้ดังมากนักแต่เมื่อคนหนึ่งเหลียวมอง อีกหลาย ๆคนก็ต้องมองตามๆกัน จนเธอเห็นนักข่าวทุกคนกันมองเธอเหมือนเหยื่ออันโอชะ ช้าไปเสียแล้ว.....ญาดาคิด แต่ผู้ชายสวมแว่นตาดำสนิท สวมชุดเชิ้ตสีดำเข้มปลดกระดุมหน้าอกสองสามเม็ด คงเพราะอากาศที่จันทบุรีร้อนอบอ้าวพอสมควร ไม่ต้องคาดเดาอะไรมากมาย ชายหนุ่มตรงหน้ามาหาเธออย่างแน่นอน เพราะเขาเร่งฝีมือตรงมาหาเธอเรียบร้อยแล้ว แถมยังยิ้มแปลก ๆให้เธอ ช่างภาพต่างรัวชัตเตอร์มือระวัง หวังว่าจะได้ช๊อตเด็ด
“เอ่อ สวัสดีค่ะ เอ่อ คุณจีระ”จะเรียกพี่ก็เนิ่นนานกระดากเกินกว่าจะพูด ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ มองใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางเช่นเคย มองรอยยิ้มสดใสบ่งบอกทั้งความดีใจและแปลกใจจนปิดไม่มิด
“พอดีผมมาดูไซต์งานแถวนี้ คุณแม่เลยบอกว่าคุณพักโรงแรมของเรา ผมเลยมารับกลับ”จีระเอ่ยอย่างเป็นทางการแต่ก็ยื่นมือดึงกระเป๋าในมือในฐาปนีย์มาถืออย่างนุ่มนวลเมื่อถามเรียบร้อยแล้วว่าของมีแค่นี้ใช่ไหม
“อย่างงั้นหรือคะ....ไม่รบกวนคุณแย่หรือคะ”ญาดาสงสัย เอียงคอถามอย่างน่ารัก เป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นนัก ยิ่งทำให้ช่างภาพชักภาพกันยิ่งกว่าเดิม และคำพูดของเธอกับชายหนุ่ม แน่นอนว่ามันต้องบันทึกเสียงไม่ขากแม้แต่ประโยคเดียว
“ไม่หรอกครับ ผมเต็มใจ เย็นนี้ไปดินเนอร์กันนะครับ”
หากจะถามว่าดีใจแค่ไหน ที่เห็นหน้าชายคนนี้ ญาดาคงตอบไม่ได้
รู้แต่ว่าเธอเกิดความรู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งตัว หัวใจก็เต้นจังหวะเดิมที่เคยเกิดขึ้นในคืนนั้น จังหวะที่ไม่เคยเป็น
แก้มของเธอแดงระเรื่องขึ้นจนใคร ๆ ก็สังเกตเห็น
.......................................
เหอะ ให้ตายเถอะ ผู้หญิงมากเล่ห์คนนั้น ทำตารางชีวิตของเขาวุ่นวายจนน่าปวดหัวจริงๆ
หลังจากเหวี่ยงระบายโทสะจนลูกน้องต่างกลัวกันตามๆ ไป จีระก็ทำงานด้วยสมาธิอันน้อยนิด แถมยังต้องตอบปฏิเสธคนสัมภาษณ์ชีวิตเขาไปหลายราย จนต้องบอกเลขาส่วนตัวไปว่าไม่ต้องถามเขาอีก จีระไม่นึกเลยว่า แค่เขานึกอยากลองบริหารเสน่ห์นิด ๆหน่อยๆ เท่านั้นจะเป็นเรื่องได้ขนาดนี้ แผนการเจ้าเล่ห์ที่ทำตัวเป็นหญิงสาวไร้เดียงสามันทำให้เขาหลงลืมลูกไม้ตื้น ๆของผู้หญิงเสียสนิทใจ
ความคิดของจีระมากมายซับซ้อนนึกไปเรื่อยจนถึงหลายวันก่อนที่ทะเลาะกับมารดาของตน จนเป็นสาเหตุให้ไม่ได้คุยกันมาหลายวัน มารดาของเขาไม่หลายเงียบไปอย่างนี้ เพียงแค่เขาเอ่ยเรื่องของผู้หญิงคนรักของเขาเท่านั้น
หากเจตรินเป็นผู้ชายที่เปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าแปรงสีฟัน จีระก็คือผู้ชายแทบไม่เคยควงใครจนหลายคนคิดว่าเป็นเกย์ แต่ความจริงแล้วจีระแค่รักมั่นกับ หญิงสาวหนึ่งเดียวในใจแค่นั้นเอง
“นี่จินจะบอกแม่ว่าที่กลับไปเรียนโท เพราะตามผู้หญิงคนนั้นไปงั้นหรือ”คำสนทนาวันนั้นผุดขึ้นมา
“ก็จินรักของจินนี่แม่”เขาเถียงไม่เลิก แม่บอกว่าไม่ชอบเธอ เพราะแววตาของเธอฟ้อง แต่พอถามว่าฟ้องอะไร คุณเพ็ญศิริก็ไม่ตอบ ตอบเพียงแค่ ไม่เหมาะสมกับจีระเท่านั้น
“แต่แม่เคยบอกให้จินเลิกตั้งแต่เรียนมหาลัยแล้วนี่นา”
“ตอนนั้นจินก็เลิกไปแล้วจริงๆ”เพียงแต่เขากลับไปคบใหม่ ตอนที่รู้ว่าเธอได้ทุนเรียนต่อเท่านั้นเอง
“แม่ไม่เห็นด้วย ถ้าจินไม่คบหนูหยาของแม่ แม่ไม่ว่า แต่อย่าพาผู้หญิงคนนี้มาให้แม่เห็น”
“จินไม่อยากได้หนูหยาอะไรนั่นของแม่นี่นา จินบังคับจินไม่ได้หรอก จินรักของจินมาตั้งนาน”จีระเถียงเสียงแข็ง เล่นเอาเส้นเลือดของเพ็ญศิริเต้นกระตุบๆ
“งั้นก็ลองทำความรู้จักหนูหยาก่อน แม่ให้เวลาปีหนึ่ง ไม่รักไม่ชอบกันค่อยว่ากันอีกที”
“นานไปอาทิตย์เดียวก็พอ”จีระต่ออย่างไม่คิด
“เก้า”
“วันเหรอ”
“เดือนต่างหาก”
“นานไป สองอาทิตย์ก็พอ”เมื่อเห็นว่าคุณแม่ของตนเริ่มหน้าแดงเพราะโมโหจัด จีระเลยไม่กล้าต่อสักเท่าไหร่
“หรือแกอยากได้สองปี เลือกเอา”
“ก็ได้เดือนหนึ่งก็เดือนหนึ่ง ถ้าหนูหยาของแม่ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน จะมาบังคับไม่ได้นะ เพราะมันคนละเคสกับของเฮียเจดเขา” เพราะเจตรินและฟาริดาต่างชอบพอกันตั้งแต่แรกพบ แต่สำหรับจีระมันไม่ใช่
หากจะเป็นประทับแรกพบก็คงเป็นเรื่องไม่พ้นเตียงนอน แค่นั้นเอง...จีระคิดในใจ
ความคิดเห็น