คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF :: Six Pack 2 End
� � � � � � � � � � � ��SF :: Six Pack 2 END
�
� � � � � � �ผมวิ่งพาหัวใจที่ใกล้แตกสลาย มายังโต๊ะประจำของผม เพื่อนรักที่เห็นท่าทีคงรู้ว่าผมเจออะไรมา ชางมินกางแขนร้อยแปดสิบองศาเพื่อนรับตัวผมเข้าไปกอด ผมซุกหน้ากับอกมันเยี่ยงเคะน้อยผู้อกหัก � �ชางมินได้แต่ลูบหลังของผมเบาๆแบบปลอบใจ
� � � � “มึง ซองมินทำกับกูอย่างงี้ได้ยังไง ทำไมต้องไปคบกับไอ้มินโฮวะ กูเจ็บอ่ะ กูอยากจะงาบหัวมันให้ขาดไปเดี๋ยวนี้” � �ผมพูดขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนรัก ถ้าใครไม่รู้จักมาเห็นเข้า � คงนึกว่าผมกับมันมีซัมติงกันแน่
� � � �“ไอ้คยู มึงอย่าเป็นแบบนี้ดิวะ � � กูรู้ว่ามึงเสียใจ � กูให้มึงซบอกและลูบหลังปลอบใจมึง � แต่มึงอย่าทะลึ่งกัดหัวนมกูได้มั้ย ไอ้ห่ า!! �เชี่ย! กูเจ็บมาก นี่ของรักกูไม่ใช่หัวไอ้มินโฮที่เวลามึงหมันไส้ �มึงโมโห มึงจะได้กัดตามใจชอบ ไปไกลๆกูเลย ?(/-_-/)~�” ��ชางมินผลักหัวคยูฮยอนออก ก่อนลูบบรรเทาความเจ็บตรงจุดเกิดเหตุ
� � � � “กูขอโทษ แต่มึงจะโกรธคนที่หัวใจร้าวรานอย่างกูได้ลงหรอ”
� � � � � “กูบอกว่ามึงอย่าดูละครหลังข่าวมาก นางเอกเหลือเกิน คำพูดนี่นึกว่าพจมานบ้านทรายทอง กูถามจริงมึงไม่เคยดูเรยาหรอวะ อยากได้ก็แย่งมา นางร้ายอ่ะเป็นมั้ย” � ��คำแนะนำของไอ้คิบอมมักขัดกับอุปนิสัยของผมตลอด หม่อมแม่สอนให้ผมเป็นคนดี แต่ไอ้ตี๋มันเสี้ยมให้ผมเป็นเรยา ผมน่ะทำเป็นที่ไหน ร้ายๆแบบนั้น ไม่นะ โจคยูทำไม่ได้ T^T
� � � � � �“อื้อหือ.... มาโฉบให้ช้ำถึงที่เลยเว้ย ดูๆมึงดูอีนางเอก” � �ชางมินสะกิดผมให้หันไปมองอะไรบางอย่าง โห ถ้ามึงจะให้กูดูอะไรแบบนี้เอามีดจ้วงกูให้ตายเลยดีกว่า � � �
�เพื่อนรักของผมมันชี้ให้ผมดูซองมินที่กำลังเดินผ่านมาทางนี้ มันคงจะน่ายินดีถ้าข้างหลังไม่พ่วงไอ้ชเวคนน้องมาด้วย ดูมันๆทำเป็นเก็ก เห็นแล้วอยากฟรีคิกขาคู่ � � � �ผมทำกรรมอะไรไว้ ยังไม่มีโอกาศได้บอกว่ารัก ก็อกหักตั้งแต่เริ่ม
�
....................................................
� � � � � � � � � � �เจ็บมาจนวันนี้ � เป็นเพลงที่เข้ากับสถานการณ์ของผมมาก(เพลงพี่ตูน บอดี้) �ตลอดสอง สามวันที่ผ่านมา ผมว่าผมพยามทำใจอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน � � ตัดใจต้องใช้เวลา แต่ไม่เห็นมีใครบอกว่าต้องใช้กี่วัน? �ผมนั่งคิดแล้วคิดอีก �พยามแล้วพยามอีกผมก็ทำไม่ได้ ยิ่งผมเห็นผมยิ่งยากจะทำใจ ทำไมไม่เป็นผมที่ยืนอยู่ตรงนั้น ชีวิตมันโคตรดราม่า � � ไอ้เพื่อนรักทั้งสองก็คอยปลอบใจปนสมน้ำหน้าในชีวิตรักของโจ คยู
� � � � � วันนี้เป็นวันที่ผมจะได้เรียนกับซองมินอีกครั้ง ไม่วายภาพบาดตาตามมาถึงที่ ไอ้มินโฮมันเดินมาส่งขวัญใจของผมที่หน้าห้อง พยามจะจับมือซองมินไปหอมแต่คนตัวเล็กก็สะบัดออกอย่างอายๆ กลัวคนเค้าไม่รู้หรือไงว่าคบกัน!s(-_-?)z � � � �
ซองมินเดินเข้ามานั่งตรงที่ข้างๆผม เค้ายิ้มให้ผมนิดๆ แต่ผมไม่ได้ยิ้มตอบ บอกตรงๆว่าอารมณ์เสีย
� � � � � �“กับมินโฮเป็นยังไงบ้างล่ะ” ผมถามเค้าด้วยน้ำเสียงปนประชดเล็กๆ
� � � � � � “หืมม์ ... �กะ � ก็ � ดี�” �ซองมินดูจะงงที่อยู่ดีๆผมก็ถามแถมสะบัดปลายสียงซะด้วย � �เค้าตอบผมแต่ไม่สบตา
� � � � � “ถ้าดี � �ผมก็ดีใจด้วย” ��ฝืน ผมฝืนยิ้มนิดให้ เพราะไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ผมมันนาง(พระ)เอกอย่างที่ไอ้บอมมันบอกจริงๆ� ซองมินเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมหลังจากที่ผมพูดจบ เค้ายิ้มเล็กๆที่มุมปากคล้ายฝืนๆ
� � � � � “เราก็ขอให้คยุฮยอนสมหวังกับคนที่ชอบเร็วๆ” � �เค้าพูดอวยพรให้ผม เหอะ!� � มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อคนที่ผมรักคบกับคนอื่นไปแล้ว และที่สำคัญคนๆนั้นก็คือเค้านั่นแหละ ไวเท่าความคิด ปากผมก็พูดประโยคนั้นออกไป
� � � � �“ ผมคงไม่สมหวังหรอกซองมิน เพราะคนที่ผมรักเค้าไปคบกับคนอื่นแล้ว” ผมพูดพร้อมมองลึกไปในตาซองมิน ดวงตาของผมที่สบกับเค้ากำลังบอกใบ้ให้เจ้าตัวได้รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร
�
� � � � � “อะ เอ่อ
.” ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าเค้าจะรู้ตัวมั้ย แต่ผมคิดว่าเค้าเริ่มสงสัย และเริ่มประหม่า ผมตัดสินใจแล้วว่าถึงยังไงก็ต้องบอก
� � � � � “ซองมิน
..”
� � � � � �“อาจารย์มาแล้วๆ”
� � � � � � เสียงเพื่อนในห้องแทรกขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร ตามด้วยอาจารย์ประจำวิชาที่เดินเข้ามาจริงๆ ผมกับซองมินผละออกจากกันก่อนจะหันไปทางหน้าห้อง
โคตรจะค้างคา �เอาเป็นว่ายังไงผมต้องบอกเค้าในช่วงหมดคาบให้ได้!
� � � � �ตลอดชั่วโมงเรียนวันนี้ผมไม่ค่อยได้เป็นอันเรียนเท่าไหร่ เพราะมัวแต่สนใจคนข้างๆ อีกไม่นานก็จะหมดเวลาแล้ว ผมสูดหายใจเรียกความพร้อมให้ตัวเอง สักพักหนึ่งอาจารย์ก็สั่งงานและเดินออกไป ได้เวลาของผมแล้ว
� � � � �“ซองมิน
” ��ชื่อของคนข้างๆผมถูกเรียกออกมาแต่ไม่ใช้ด้วยปากของผม
� � � � � “ผมมารับแล้ว” � �ชีวิตบัดซบจนคนอ่านเริ่มเบื่อ!!! � �มันจะอะไรนักหนาวะครับ ต้องมีมารมาพจญตลอดเวลา ผมไม่ทนแล้วนะครับ ไม่ทันที่ใครจะได้ทำอะไรอีก ผมดึงมือนิ่มๆของซองมินมาจับแล้วพาวิ่งผ่านหน้าผ่านตา คนทั้งห้องและไอ้มินโฮที่ยังยืนเอ๋ออยู่
� � � � � �“คยู จะพาเราไปไหน ปล่อยเรานะ” ��วิ่งออกมาได้สักพักคนน่ารักที่ผมพามาเริ่มพยามจะสะบัดมือผมออก
� � � � � �“ตามมาเถอะ ผมมีเรื่องจะคุยกับซองมิน จะคุยให้ได้ในวันนี้” � �จากที่วิ่งมา ผมเริ่มลดความเร็วลงเป็นเดินไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังกุมมือนิ่มนั้นไว้ ผมพาเค้ามาที่สวนออกกำลังกายหลังมหาลัย �� �ผมจับให้ซองมินยืนประจันหน้ากับผมมือของผมเปลี่ยนมาจับหน้าของซองมินไว้แบบไม่ให้หลบตาได้
�
� � � � � “ ผมอยากให้ซองมินรู้ ไม่ว่าคนที่ซองมินบอกว่าชอบคือใคร และตอนนี้คบกับใคร แต่ผมก็ดีใจที่ในที่สุด ผมได้บอก แม้มันจะสายไปแล้วก็ตาม ผมรักซองมิน” � ��
� � � � � อยู่ๆผมก็พูดขึ้นแบบตรงประเด็นไม่ต้องมีบทนำอะไรทั้งนั้น โล่งใจมากที่ได้บอกไปแล้ว แต่ก็เสียใจที่มันสายไป เค้าไม่ได้เลือกผม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมหรอกนะ
� � � “คยู
.”
� � � � �เสียงเล็กน่าฟังหลุดเรียกชื่อผมออกมาจากริมฝีปากบาง ผมโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากบางนั้นแบบแผ่วเบา ไม่ได้จาบจ้วงอะไร แค่สัมผัสนุ่มๆแค่นั้นจริงๆ ผมถอนริมฝีปากขึ้นมาช้าๆ สังเกตุเห็นริ้วแดงๆบนใบหน้าน่ารักของซองมิน และผมก็คิดว่าริ้วแดงๆนั้นคงเกิดขึ้นบนหน้าของผมและอาจรามไปถึงหูใหญ่ๆของผมด้วย
� � � � � “ให้โอกาสผมบ้างได้มั้ย ถึงซองมินจะคบกับมินโฮแล้ว แต่ให้โอกาสผมด้วยเถอะนะ”� � � � � เป็นคำขอร้องแบบหน้าด้านๆ ผมรู้ แต่เคยมีคนบอกผมว่าด้านได้อายอดนี่หว่า ผมต้องโบกคอนกรีตที่หน้าเสริมยางพาราเข้าไว้
� � � � � �“คือว่าเรา
.” � �ร่างเล็กอึกอัก ก่อนส่ายหัวน้อยๆ
� � � � � “คืออะไรครับ ผมรักซองมินตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ � แต่ตอนนั้นผมคิดว่าซองมินชอบแบบล่ำๆเลยไม่พร้อมที่จะบอก � �แล้วซองมินยังหาว่าผมเป็นเคะอีก � �แต่พอรู้ความจริงซองมินก็ไปคบไอ้มินโฮซะงั้น แล้วซองมินจะให้ผมทำอย่างไง ไม่เห็นใจผมเลยหรอ T^T�”
� � � � � เห็นซองมินส่ายหัวน้อยๆ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ผมไม่ยอมให้เค้าปฏิเสธแน่ ผมตีหน้าเศร้าสุดชีวิตชนิดที่รางวันออสก้าสาขาดราม่ายังต้องยอม
� � � � � �“คยูฮยอน เราขอโทษนะ เราสับสนไปหมดแล้ว เรา� เรา
.เราไม่รู้จะทำอย่างไงดี”� � � �เห็นสีหน้าของซองมิน ผมก็เกินจะกดดันไหว ใบหน้าหวานดูสับสน คิ้วสวยขมวดเป็นปนอย่างคิดหนัก
� � � � � � “ไม่เป็นไร ซองมินยังไม่ต้องตอบก็ได้ อย่าคิดมากเลยนะ ถ้าซองมินยังไม่พร้อมจะตอบ คิดซะว่าผมไม่ได้พูดก็ได้ แต่อยากให้รู้ว่าผมจริงจังนะครับ�” ��
� � � � �ผมเอามือจับที่หัวเค้าก่อนจะยิ้มให้ ผมหันหลังเดินออกมาและทิ้งเค้าไว้ตรงนั้น � ไม่ใช่อะไรนะแต่ว่าถึงจะไม่ได้โดนปฏิเสธตรงๆ แต่การที่ยังไม่ได้รับคำตอบก็ทำเอาผมเสียศูนย์และอีกใจหนึ่งผมก็กลัวคำตอบที่จะได้รับด้วย T^T
� � � � � �“พวกมึงวันนี้ไปแดกเหล้ากันเถอะ” � ��ผมเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสอง กูอยากเมาครับ
� � � � � � “เป็นอะไรอีกวะ มึงนี่ดราม่าตลอด” � ��ชางมินทำหน้าเอือมกับอาการของผม โถ่ก็พวกมึงไม่เจอแบบกู พวกมึงก็ปากดีได้ดิวะ อย่าให้ถึงทีกูบ้าง -� -* ผมได้แต่คิดในใจ
�
� � � � � �“ถ้าเป็นร้านน้องหมวยกูจะไป” � ��คิบอมเสนอ แบบหวังผลมันจะได้ไปจีบทงเฮไปในตัว กูรู้หรอกเหอะ!
� � � � � “เออ ร้านไหนก็ได้ให้แม่มมีเหล้ากินก็พอ แต่บอกไว้ก่อนกูไม่เลี้ยง”
� � � � � �“ไอ้เหี้ย! � �ดราม่าแล้วยังเสื อกงกอีกนะ ไปก็ไป เจอกัน3ทุ่มเวลาดี”
.
�
� � � � � � � � � � � � � �ซองมินเดินตามออกมาหลังจากที่หลังของคยูฮยอนลับตาไป � หัวสมองกับหัวใจกำลังทำงานอย่างหนัก � � �เพราะคนที่ซองมินแอบรักพึ่งบอกรักซองมินไปสดๆร้อนๆ จะบอกยังไงดีคนๆนี้แหละที่ซองมินก็แอบรักเหมือนกัน เราใจตรงกันหรอเนี่ย? � ความจริงแล้วเค้าอยากจะรับรักร่างสูงไปตั้งแต่จบประโยค แต่มันติดตรงที่ว่า มินโฮล่ะจะทำอย่างไร บอกไปตรงๆดีมั้ย เค้าไม่อยากให้มินโฮเสียใจ แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองเสียใจที่ไม่ได้เลือกคนที่รัก � เค้าควรทำอย่างไงดี?
� � � � � � � � “ซองมิน ตามหาตั้งนาน ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” � ��คนที่พึ่งนึกถึงวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีร้อนรน ซองมินรู้ว่ามินโฮเป็นห่วง รู้ว่ามินโฮรักซองมิน แต่ซองมินก็รู้ว่าซองมินรักคยูฮยอนมากเหมือนกัน
� � � � � � � � �“�เราไม่เป็นไร เอ่อ
มินโฮ�”
ต่อ 50%�
� � �
� � � � � �“เราว่า เราสองคน เอ่อ
. เรา” � �ร่างเล็กอึกอักที่จะพูด จะว่ายังไงดีแต่เค้าก็ไม่อยากให้มินโฮต้องเสียใจ ผิดที่เค้าเองที่ไปบอกว่าจะยอมคบด้วย แล้ววันนี้ถ้าจะบอกเลิก อีกคนจะเสียใจแค่ไหน - �-*
� � � � � � � �“เรา กลับกันเถอะ” � �เป็นมินโฮที่เอ่ยชวนขึ้นมา � ร่างเล็กเพียงแต่ถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ ถ้าไม่กล้าปฏิเสธ แล้วเค้าจะทำอย่างไร?
� � � � � � � � �ชเว มินโฮขับรถคันหรูมาส่งซองมินถึงหน้าบ้าน � �ร่างเล็กที่เดินลงมาจากรถเริ่มแปลกใจ เ � มื่อในบ้านมีเสียงดังโวยวายเกิดขึ้น และเค้าพึ่งสังเกตเห็นว่าที่หน้าบ้านมีรถออดี้อีกคันจอดอยู่ รถพี่ซีวอนนี่นา �รึว่า......
� � � � � “มัวจีบกันอยู่หน้าบ้านรึไง� ��มาเลยๆไอ้น้องตัวดี �เรามีเคียล์ � �เข้ามาก่อนสิมินโฮ พี่นายก็อยู่” � �ซองมินเดาไม่ผิด พี่ฮยอกแจกลับมาจริงๆ ไม่มีบอกมีกล่าว � แล้วที่ว่าจะเคียล์แค่คิดก็พอจะเดาได้ � � �ผมเดินตามพี่ฮยอกแจเข้ามาในบ้าน เห็นสภาพกระเป๋าพี่ซีวอนโดนรื้อค้นกระจุยกระจาย � � คงเป็นนิสัยเดิมของคุณพี่เค้า หาหลักฐานจับผิดแฟน
� � � � � “งั้นซองมินเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บก่อนนะ” � �ผมบอกกับพี่ชายสุดที่รัก หวังจะถ่วงเวลาหาทางหนีทีไล่ แต่ที่ไหนพี่ตัวดีของผมตามมาถึงที่
� � � � � “อี ซองมิน!” � � �เสียงแหวตามหลังมาทำเอาคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง
� � � � �“เราไปคบกับมินโฮ แล้วไอ่กล้ามของพี่จะทำอย่างไง ฉันอุตส่าห์ดักทางไว้แล้วนะ”
� � � � �“ก็ � � ก็ � � พี่ซีวอนเค้าบอกว่าไม่เป็นไรนี่ฮะ” � ��ร่างเล็กหันไปตอบแบบไม่เต็มปากเต็มคำเท่าไหร่ ก็พี่ท่านเล่นเท้าสะเอวจิกตาใส่ เห็นแล้วเสียวสันหลัง
� � � � � “เราก็เชื่อ! � �อีซองมิน �นะ � �อีซองมิน �แล้วเรารักมินโฮหรือไงถึงไปคบกันน่ะ?” � � ��คำถามจากพี่ฮยอกแจ ตรงใจร่างเล็กอย่างจัง ให้ตอบก็คงตอบได้ไม่ลังเลว่าไม่ได้รัก เค้ากับมินโฮคงเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆ
� � � � � � “ไม่ได้รักฮะ”
� � � � � � “�นั่นไง � �ไอ้น้องบ้า �ไปให้ความหวังคนอื่นเค้า � เดือนร้อนถึงฉันด้วยที่ต้องเสียไม้กันสามีไป�” � ��ตกลงแล้วพี่ชายคนดีเค้าเป็นห่วงใคร น้องชาย มินโฮ หรือซีวอน ร่างเล็กได้แต่คิดในใจไม่กล้าเถียง
� � � � �“แล้วพี่จะให้เค้าทำอย่างไง � ซองมินเครียดนะเนี่ย �-*- �วันนี้คนที่เค้าแอบชอบเค้าก็พึ่งมาสารภาพรัก เค้าจะทำไงดี T^T ” � ��ซองมินตัดสินใจบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฮยอกแจฟังทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม � พี่ชายฟังตามก็ขมวดคิ้ว � หัวเราะ � เบะปากหมันไส้ในรสเรื่องตามอารมณ์
� � � � “โถ � �โถ � � น้องพี่อะไรที่มีความสุขก็ทำไป � � เราจะทนอยู่กับคนไม่ได้รักนานซักแค่ไหน � � วันนึงหากนานกว่านี้ � ทั้งเรา ทั้งเค้าก้ยิ่งเจ็บกว่าตอนนี้ � � หากว่าไปด้วยกันไม่ได้ ไปบอกมินโฮซะ � � เอาตรงๆแต่ถ้าไม่กล้าเดี๋ยววันนี้พี่พาไปดื่มย้อมใจก่อน � �ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เดี๋ยวพี่ที่แสนดีของนายจะลงไปรับแขก” �
�
� � � � � � � � �ข้อคิดดีๆจากพี่ชายตัวร้ายของซองมิน ทำให้ร่างเล้กคิดอะไรได้หลายๆอย่าง เค้าตัดสินใจแล้ว � � ยังไงซะเค้าก็ต้องบอกเลิกมินโฮให้ได้ � ไม่ใช่เพราะคยูฮยอนทั้งหมดที่ทำให้ซองมินคิดแบบนี้ � � แต่เพราะทั้งก่อนหน้านี้ และหลังจากที่ซองมินลองคบกับชเว มินโฮ � � มันไม่ได้ทำให้เค้ารู้สึกเป็นสุข แม้ทุกอย่างที่มินโฮทำจะมีแต่สิ่งดีๆให้ แต่ซองมินรับไว้ได้แค่ในฐานะเพื่อนคนนึงเท่านั้น เมื่อตัดสินใจได้ ซองมินก็รู้สึกโล่งใจไปอีกเปราะหนึ่ง � � เหลือแค่เวลาที่จะเอ่ยปากเท่านั้น ร่างเล็กสูดหายใจเต็มปอดก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำตามที่พี่บังเกิดเกล้าสั่ง
�
� � � � � � � “หนุ่มๆ คืนนี้เราไปเที่ยวกันนะ ฮยอกแจอยากดื่มอ่ะ” ��ด้านฮยอกแจที่ลงมาจากห้องน้องชาย เอ่ยชวนสองพี่น้องชเว แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย � �ทำเอาคนเป็นแฟนถึงกับทำตาโตมองหน้า o-0 � แบบฟังผิดไปป่าววะ �เมื่อกี้แทบจะฆ่ากูหมกป่าเรื่องเที่ยวกลางคืน แล้วตอนนี้นึกครึ้มมาชวนกันซะงั้น หรือว่าเมียรักมีแผน ที่วอนอาจจะซวยได้ � �ซีวอนเดาเหตุการณ์อย่างนึกเสียวสันหลัง ก็แม่นางทำอะไร มีเซอร์ไพส์ตลอด หวังว่าคราวนี้คงไม่โดนแจคพ็อตที่เค้านะ O [ ] O
�
� � � � � � �“มองอะไร รู้นะ เดี๊ยะ
! ไปกับฮยอกไปได้ � แต่ถ้ารู้ว่าไปกับคนอื่น หึ หึ .... � ชเว ซีวอน นายไม่ตายดีแน่ ” � ��ฮยอกแจมองร่างสูงก่อนจะเอามือทำท่าปาดคอ ที่ทำให้คนถูกมองกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พร้อมกับก้มหน้าสลด
� � � � � �“ไปเที่ยวฉลองที่ฉันกลับมาไง นายก็ไปด้วยกันนะมินโฮ ซองมินก็ไป”
� � � � � � “ครับพี่ฮยอก ซองมินไปผมก็ไปครับ : ) ” � �มินโฮยิ้มรับแบบไม่รู้ชะตากรรมจนฮยอกแจอดสงสารนิดๆไม่ได้ ไอ้น้องเอ้ยเดี๋ยวระวังจะยิ้มไม่ออก
.
........................................................
� � � � � � � � � � �เวลาดีสามทุ่มที่นัดหมายของชายสามคน บัดนี้มาจองที่นั่งด้านในสุดตั้งแต่ร้านพึ่งจะเปิด
� � � � � � �“แหม ได้ข่าวว่ากุชวนนะ แต่พวกมึงทั้งสองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ามาเต็มกว่ากูอีก” � ��คนที่อยู่ในโหมดดราม่าชีวิต เอ่ยแซว แบบเห็นแล้วมันหมันไส้ บอกตรงๆมาเต็มจริงๆ
� � � � � � “ก็พวกกุไม่ได้รนทดรักอย่างมึงนี่หว่า วันนี้จะมาเจอสาวๆก็ต้องแต่งตัวหล่อลวงกันหน่อย” � �ย้ำเข้าไปไอ้ชางมิน กูขอให้มึงเจอเกย์คิงกว่าสอย -*-
� � � � � �“วันนี้เอาวอดก้านะ กูอยากเมาแบบนิ่มๆ” �ชางมินเสนอ
� � � � � “กระแดะ เห็นปกติแด ก 40ดีกรีไม่ใช่หรอ ของกูวันนี้ออนเดอะร็อคแบบหนักๆ!” � คยูฮยอนจิกกัดเพื่อนพอเป็นพิธีก่อนจะหาเมนูสำหรับวันนี้ให้ตัวเอง คิบอมอาสารับออเดอร์เดินไปจัดการเครื่องดื่มให้กับเพื่อนๆ
� � � � � �“ขอวอดก้า กับ ออนเดอะร็อคหนักๆ แล้วก็คลอกเทลเบาๆ ด้วยครับ”
� � � � � �“วันนี้ใครเป็นคนชวนมาล่ะเนี่ย � �ไม่เจอคิบอมหลายวันเราคิดถึงนะ”
� � � � � �“ผมชวนมาเองแหละครับ � ไอ้คยูมันอกหักเลยชวนมาอุดหนุนร้านทงเฮ” นี่แหละนะสาเหตุที่ทำให้ไอ่ตี๋มันแต่งเนี๊ยบมา � แถมยังใจดีเดินมาออเดอร์ของถึงที่แบบถ้าเป็นปกติ ขุดรากมันยังไม่ยอมลุก
� � � � � �“ได้สิ เดี๋ยวเราเอาไปส่งให้ คิบอมไปนั่งรอได้เลย”
� � � � � � � � � � ไม่นานนัก แอลกอฮอร์ที่ผมโหยหาก็ยกมาเสริฟ ไม่รอให้เสียเวลาผมจัดการซัดบรั่นดีเพียวไปหลายช็อต รสชาติขมบาดคอในตอนแรกทำให้รู้สึกซาบซ่าเมื่อต่อมาความขมกลายเป็นรสหวานนุ่มชวนให้ดื่มแล้วดื่มอีก ปกติผมเป็นคนเมายากวันนี้คงต้องเสียค่าเหล้ากันเยอะหน่อย
.
�
� � � � � � � � � � � � รถออดี้คันเดียวกับเมื่อเย็นบัดนี้วิ่งอยู่บนถนนพาสี่ชีวิตไปยังสถานที่หมาย จะเรียกว่าบังเอิญหรืออย่างไร เพราะพับที่ซีวอนเสนอมาวันนี้คือผับเดียวกับที่สามหนุ่มนั่งดริ๊งค์กันอยู่ก่อนแล้ว � � � รถคันหรูจอดสนิทในลานจอด � � ฮยอกแจดูจะดี๊ด๊าลงจากรถแล้วเดินเข้าไปก่อนแบบไม่รอใคร � �ร่างบางเลือกนั่งโต๊ะเกือบในสุดเพราะไม่ชอบความวุ่นวายภายนอกแถวหน้าร้าน อีกสามชีวิตที่เดินตามมาก็เห็นดีเห็นงามกับที่นั่งที่ฮยอกแจเลือก (ไม่มีใครกล้าขัดมากกว่า - -*)
�
� � � � � � � � �เวลาผ่านไป คนที่คุยกันไปดื่มกันไป แอลกอฮอร์ก็เริ่มทำงานได้ที่ โดยเฉพาะคนคออ่อนอย่างซองมิน เค้าว่าคนเมามักชอบพูดสิ่งที่อยู่ในใจ และกล้าทำอะไรมากขึ้น � � � � � � � � � �
� � � � � � � � � ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนอีกไม่นานผับก็ใกล้จะปิด �ฮยอกแจสะกิดน้องที่มึนๆได้ที่ ก่อนพยักเพยิดเตือนสติน้องให้ �เข้าประเด็น ซองมินพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะหันไปหาคนข้างๆ
� � � � � � “มินโฮ ซองมินมีอะไรจะบอก”
� � � � � � �“อะไรนะครับ” �เพราะว่าที่ผับมันเสียงดัง ทำให้คนฟังได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่
� � � � � � �“เรามีอะไรจะบอก” ��ซองมินย้ำด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ปลายเสียงติดจะยานหน่อยๆ
� � � � � � �“อะไรนะครับซองมิน” � �เมื่อเห็นอีกคนยังทำท่าจะฟังไม่รู้เรื่อง ซองมินเลยตัดสินใจจับแขนมินโฮเดินออกมา ก่อนตรงไปที่ห้องน้ำ
�
� � � � � “ชางมิน � ไหวมั้ยมึงไปห้องน้ำกับกูมั้ย ” ��ทางด้านโต๊ะในสุด เพื่อนรักตัวดีบัดนี้รู้สึกจะเมาวอดก้าแบบนุ่มๆจริงๆ � ตาลอย มือปัดไปปัดมาบ่งบอกได้ดีว่า ชิมชาง มันเข้าวินไปก่อนเจ้าของเรื่องอย่างผมแล้ว คยูฮยอนส่ายหัวให้ภาพตรงหน้า ทั้งที่เค้ากินไปไม่ต่ำกว่าสิบ บังเกิดแค่ความมึนนิดๆเอง ร่างสูงลุกขึ้นก่อนเดินไปห้องน้ำคนเดียว
�
�
� � � � � �“ซองมินมีอะไรครับ” � ��มินโฮเอ่ยถามขึ้นแบบอย่างสงสัย ก็ตั้งแต่เดินมาถึงห้องน้ำ คนตัวเล็กก็เอาแต่มองหน้าเค้า ขมวดคิ้วให้ แต่ไม่พูดอะไรเลย
� � � � � �“มินโฮ เราว่าเราสองคน เลิกคบกันเป็นแฟนเถอะนะ เรามาเป็นเพื่อนกันอย่างเดิมเถอะ” � ��ซองมินรวบรวมสติให้ดีที่สุดก่อนจะพูดออกไป ตอนนี้คนตัวเล็กรู้สึกโล่งใจที่ได้พูดมันออกไปแล้ว แต่กลายป็นคนฟังแทนที่ขมวดคิ้วจนแทบผูกกันเป็นโบว์ได้
� � � � � � “ทำไมครับ ผมทำอะไรดีไม่พอหรอ ทำไมหรอซองมิน” ��ร่างสูงจับไหล่เล็กพร้อมเขย่าเบาๆ แล้วจ้องตาถาม
� � � � � �“ไม่ใช่นะ มินโฮน่ะดีแล้ว แต่เราคิดกับมินโฮได้แค่เพื่อนจริงๆ”
� � � � � � “นี่ซองมินเมาใช่มั้ย ไม่เป็นไรผมจะคิดว่าซองมินไม่ได้พูดนะ” มินโฮพยามยิ้มให้ แต่ซองมินกลับส่ายหน้า
� � � � � “ไม่ได้ เราพูดจริง เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะ
.อุ๊บ” � ��ริมฝีปากบางถูกลุกล้ำโดยฝีมือของอีกคน ซองมินปิดปากแน่นไม่ให้มินโฮแทรกลิ้นเข้ามาได้ ดวงตาเบิกโพลงเมื่อมองผ่านหลังคนตัวสูงไปแล้วเจอใครคนหนึ่งเข้า
� � � � � � � � � � �
� � � � � � � � � � � � � � � � �คยูฮยอน
� � � � � � � � � � ร่างสูงที่เดินเข้ามาพอดี เป็นจังหวะที่มินโฮก้มลงประกบจูบ คนที่เข้ามาแบบไม่รู้เรื่องได้แต่เจ็บจี๊ดและปี๊ดกับภาพที่บังเอิญได้เห็น คยูฮยอนรีบหันหลังเดินออกไป เสียงเรียกเล็กๆก็ดังตามมา�
� � � � � � �“เดี๋ยวสิ รอเราก่อน มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ” � ��ซองมินที่เห็นร่างสูงเดินออกมาก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีพลักมินโฮออก ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่ง โซเซตามหลังนั้นมา
�
� � � � � � � � � � � � � � �หมับ!
� � � � �“คยูหยุดก่อน ฟังเราก่อน” � � �ในที่สุดก็ตามมาทัน ร่างเล็กรั้งแขนร่างสูงไว้
� � � � �“ทำไม ฟังอะไร ผมขอโทษที่เข้าไปขัดจังหวะ” � ��ทั้งที่ก็ยังไม่ได้เป็นอะไร แต่ไม่ผิดใช่มั้ยที่ผมจะหึงและหวง ที่ๆวันนี้ผมเคยประทับริมฝีปากลงไปยังไม่ทันข้ามวันไอ้นั้นก็มาลบรอยผมซะแล้ว
� � � � “ไม่ใช่นะ เราบอกเลิกกับมินโฮต่างหาก”
� � � � �“บอกเลิก โดยการจูบเนี่ยนะ ผมไม่เข้าใจเลยซองมิน”
� � � � “เมื่อกี๊มินโฮ �ขโมยจูบเรา เราไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าเป็นตอนนี้เราตั้งใจ เรารักคยูนะ �เราจะบอกว่าเราก็รักคยูเหมือนกัน” � �เพราะความมึนของฤทธิ์แอลกอออร์ทำให้คนกล้าทำอะไรตามใจตัวเอง � ซองมินเอื้อมมือไปโน้มคออีกฝ่ายมาจูบ � �ซึ่งตอนแรกร่างสูงก็ดูจะตกใจกับทั้งคำพูด และการกระทำของขวัญใจ ที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว � �แต่สุดท้ายคยูฮยอนก็เป็นฝ่ายลุกล้ำเรียวลิ้นเข้าไปแลกจูบแบบดูดดื่ม จนลืมไปรึป่าว นี้มันทางเดินสาธรณะนะเฟ้ย!!!!
� � � � � � � � � � คนที่ใจตรงกันตั้งนานแต่พึ่งรู้ตัวยังคงจูบกันแบบลืมทุกสิ่งโดยรอบถ้าไม่มีเสียงที่ซองมินจำได้ดีขัดจังหวะเสียก่อน
� � � � � � �“พวกแกทำอะไรก๊านนนนน!!!!”
� � � � � � � �
� � � � � � � � � �เสียงแหวแหวกอากาศมาแต่ไกลไม่ใช่ใคร พี่ชายคนงามที่จะมาตามดูผลงานของน้อง � � เพียงเดินมาก็เห็นมินโฮเดินคอตกสวนออกไปเลยไม่ได้ซักไซร้อะไรอีก � โอ้โห..... พอเดินเข้ามาอีกหน่อยก็พบคู่รักที่มาแลกจูบกันประเจิดประเจ้อให้ประชาชนเกาหลีได้มุงดู � � เห็นแล้วอยากจะเข้าไปด่าว่าพ่อแม่พี่น้องไม่สั่งสอนหรือไง แต่พอเดินเข้ามาดูหน้าใกล้ๆ ให้ตาย นี่มันน้องชายเค้าเอง คนสวยเครียดดด!!!
�
� � � � � � � � � � �สองคนผละออกจากกันแบบอัตโนมัติ คนที่มึนๆอยู่แทบตื่นเต็มตา
� � � � � � �“พะ พี่ ฮยอก” � �ร่างเล็กเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงติดขัด
� � � � � � “ก็ฉันน่ะซิ พวกแกกล้ามาก ไม่อายสายตาคนอื่นเลย � �แล้วนี่ นาย โจ คยูฮยอนใช่มั้ย รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร” � �คนสวยส่งสายตาน่ากลัวก่อนจิกตาถาม
� � � � � � � “คะ ครับ ผะ ผม ” ��กว่าจะออกมาแต่ละคำขัดใจฮยอกแจจริงๆ
� � � � � � �“ซองมิน � แกไปชอบคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งพี่ตัวเองได้ไง? � � งั้นฉันก้ไม่ยกน้องฉันให้นายหรอก!” � � �ประโยคแรกพี่ชายพูดกับซองมิน ส่วนประโยคที่สองร่างบางมอบให้กับโจ คยู ซ. ว. ย. �ซวยแล้วไงไอ้คยูมึง� -� -*
� � � � � � �“ไม่ใช่นะครับ ผมจะไม่รู้จักพี่ฮยอกแจได้อย่างไง � พี่เป็นพี่ชายของซองมิน เป็นแฟนพี่ซีวอน � � แถมยังหน้าตาดีแบบนางงามเกาหลียังอาย � ผมรู้สึกเป็นเกรียติอย่างมากที่จะได้เป็นน้องเขยของพี่นะครับ � พี่ฮยอกแจคนสวย�” � �คยูฮยอนชักแม้น้ำทั้งเกาหลี มาพูดเยินยอว่าที่พี่สะใภ้(?) ในอนาคาคต � คนถูกชมก็ได้แต่ยิ้มรับอย่างถูกใจ แหม น้องเขยนี่เอาความจริงมาพูดอย่างนี้ ปากดีจริงๆ �
� � � � � � � “อ่ะๆ � �เอาล่ะไม่ขนาดนั้นหรอกนายก็ � จะทำอะไรก็มิดชิดหน่อยเสียชื่อหมด” � คยูฮยอนยิ้มรับพร้อมโค้งฝากเนื้อฝากตัว ส่วนซองมินเองก็ยังงงๆกับอารมณ์ของพี่ชาย ��-� -?
� � � � � � � “งั้นพี่ไปก่อน นายก็ให้คยูฮยอนขับไปส่งแล้วกัน � �เดี๋ยวพี่ไปเคียร์กับซีวอนเรื่องมินโฮด้วย”
� � “�ระวังนะ.... นายเนี่ยปากดี และอย่างอื่นก็อาจจะดีด้วย ดูท่าจะลื่นไหลไม่เบา ระวังตัวด้วยนะน้องพี่ จะได้กลับบ้านพรุ่งนี้เอา ฮร่าๆ�” � � ��ฮยอกแจเดินเข้ามากระซิบข้างหูน้องชายก่อนเดินออกไป เล่นเอาซะคนฟังที่คิดตามคำพูดสองแง่สองง่ามหน้าแดงได้ไม่ยาก
� � � � � � “ซองมินครับ ผมดีใจที่สุดเลยที่เรามีวันนี้”
� � � � � � � “เราก็เหมือนกัน เรารักคยูนะ”
� � � � � � � “ผมก็รักซองมิน� โอ๊ะ
”
� � � � � � “เป็นอะไรหรอคยู” � ��ร่างเล็กถามหน้าตื่น เมื่อเห็นอีกคนที่อยู่ดีๆก็ร้องขึ้นมา แล้วเอามือตัวเองทุบบริเวณหัวสองสามครั้ง
� � � � � �“ผมปวดหัวน่ะครับ คงเป็นเพราะกินเหล้าเยอะไป แล้วมันพึ่งออกฤทธิ์” �(มีด้วยหรอวะ) มีครับ.... �ผมบัญญัติอาการคนแรกเลย ผมตีสีหน้าปวดหัวแบบสุดฤทธิ์ให้ซองมินเห็นใจ และดูเหมือนมันจะได้ผลด้วย
� � � � � �“ทำไงดีล่ะ � เราก็มึนๆ นะแต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว” ��ซองมินดุท่าทีร้อนรนกับอาการของคนตรงหน้า
� � � � � “งั้นซองมินพาผมกลับคอนโดได้มั้ยครับ � ขับรถผมไป � ได้มั้ย � ผมรู้สึกไม่ไหวแล้ว” � ��ออดอ้อนเต็มกำลัง เรียกความสงสารเต็มลิมิต นี่แหละมารยาของโจ คยูฮยอน วึ่งคุณอาจจะไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ผมไม่รุ้ตัวนะ ความจริงผมเป็นคนดีไม่มีพิษภัย แต่วันนี้ผมเมา �-w-
� � � � � �“ก็ได้ๆ � �เราจะไปส่งเอง � �แล้วคยูมากับใคร � ต้องไปบอกก่อนมั้ย” ��ด้วยความใสซื่อ ซองมินคงลืมคำเตือนที่พี่ชายอุส่าห์บอกเมื่อครู่เสียแล้ว
� � � � � � “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยโทรบอกก็ได้ �เราไปกันเถอะ” คยูฮยอนบอกร่างเล็ก และยังไม่ลืมเอามือกุมหัวไว้อีก เพื่อความสมจริงที่สุด
� � � � � � � � � � � � � �เราสองคนเดินทางมาถึงคอนโดของผม โดยผมเป็นคนบอกทางและซองมินเป็นคนขับ ล้อทั้งสี่จอดสนิท ผมทำท่าพยามเปิดประตูก้าวจากรถแต่ก็เซน้อยๆ นางฟ้าของผมเห้นอย่างนั้นจึงรีบเข้ามาประครอง หึ หึ o-
� � � � � � �“มาเถอะ �ซองมินประครองคยูไปดีกว่านะ เอาคีย์การ์ดมาซิ” � �มีหรือจะปฏิเสธ ผมหนิบคีย์การ์ดสีทองให้เค้าก่อนจะบอกชั้นกับเลขห้อง
� � � � � � � � � � � � � � �ติ๊ง....
�
� � � � � � � � � � � � � �ประตูลิฟท์เปิดที่ชั้น7 ห้องของผมถัดไปทางขวา3ห้อง �ซองมินจัดการเปิดประตู ก่อนพยุงผมเข้าไปนั้งที่โซฟา ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการขออนุญาตหา ยา หาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผม
� � � � � � � “ซองมิน คยูฮยอนรักซองมินนะครับ” � �
� � � � � � � � � � � � ระหว่างที่เค้ากำลังเช็ดหน้าให้ ผมเลยอาศัยจังหวะนั้นจับมือของเค้าแนบที่แก้มก่อนจะบอกรัก ชนิดบรรยากาศพาเคลิ้มกันง่ายๆ � �ก็บอกแล้วว่าบรรยากาศมันพาไป และใจมันก็เรียกร้อง � � ค่ำคืนนั้นมันเลยจบลงตรงที่นอนกว้างๆในห้องนอนชั้น7ของผม เอาตรงๆต่อไปนี้ผมคงได้ออกกำลังกายลูกชายบ่อย อย่าอิจฉา~ � อยากแอบกระซิบจริงๆว่า เห็นซองมินดูอวบๆแบบนั้น แต่พอไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรแล้วล่ะก็ �อั๊ยย๊ะ!!! ผิวขาวๆ เนื้อนุ่มๆ แล้วปากกระจับของซองมินก็ช่างเซ็กซี่ ยั่วยวนผมเหลือเกิน � � อิจฉาผมล่ะซี่..... ชีวิตโจ มีเมียสวย เซ็กซี่สึด! ผมอยากประกาศให้โลกได้รู้ �ว่าโจ คยูฮยอนตอนนี้ เป็นสามีของ อี ซองมิน แล้วครับ!!!
� � � � � � � �“คยู....... บ้าไม่เอาแล้ว”
� � � � � � � � “อีกรอบนะครับ ก็ซองมินยั่วอ่ะ นะครับ *-*”
� � � � � � � � “เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นี่รอบที่5แล้วนะ �- � -*�”
....................................
..................
........
....
� � � � � � � � �
� � � � � � � � “อ่ะ อ้า
.อืม ตรงนั้น
คยู
”
�
� � � � � � � � � � � � ผมไม่รู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลมันเท่าไหร่ แต่เท่าที่จำได้ ก็ตอนที่ซองมินบอกว่าห้าแหละครับ อ่านะไม่ได้ใช้งานมานาน คืนนี้ยังอีกยาวไกล - .,-
�
�
แถมท้าย
� � � � � � � �“เห้ย
..เมื่อคืนนั้นเป็นไงกันบ้างวะ ไมมึงทำหน้าอย่างนั้น สดชื่นๆดิวะ” � � �
� � � � � �ผมเดินเข้ามาที่โต๊ะประจำพร้อมมายดาร์ลิ้งค์ของผม � เอาให้รู้คนไปว่า มาด้วยกัน นอนด้วยกัน สะใจโจ! � �ผมเอ่ยทักเพื่อนรักทั้งสอง � ที่ต้องใช้ว่าคืนนั้น เพราะวันต่อมาด้วยที่ว่าพวกเราผ่านศึกหนักทำให้ ทั้งผมและซองมินลุกแทบไม่ไหว ร่างเล็กโทรไปหาพี่ชายแทนที่จะโดนว่า กลับเป็นคำแซวมาซะยกใหญ่ โจโล่งใจแล้วครับงานนี้ ผมเดินเข้ามาเปิดตัวเมียให้เพื่อนๆได้รู้จักและแนะนำอย่างเป็นทางการ
� � � � � � “สวัสดีซองมิน ผมคิบอม เพื่อนสนิทไอ้คยู ยินดีที่ได้รู้จักแบบจริงจัง” ��คิบอมเอื้อมมือหวังไปจับทักทาย แต่มีมือหนาแทรกมาจับไว้ก่อน
� � � � � � �“ไม่ต้อง � ห้ามแตะ � �จับมือกูนี่ �เหมือนกันแหละ” � �คิบอมได้แต่ยิ้มขำกับอาการหวงแฟนออกนอกหน้า ที่ตอนนั้นล่ะอย่างกับหมาหงอย�
� � � � � � � � � � � � �ผมรู้ว่ามันนินทาอะไรผม แต่ไม่ได้ครับเพื่อนผมก็ห้ามจับครับแฟนผม ผมหวงมาก แต่รู้สึกว่าวันนี้มันเงียบแปลกๆ แบบไอ้ปากวิ่งประจำโต๊ะมันเงียบเกินไป
� � � � � � �
� � � � � � � � “ชางมิน วันนี้แด กยาเขย่าขวดมาใช้ป่ะ มึงถึงสงบปากสงบคำอย่างนี้ ทักทายซองมินหน่อยดิวะ”
� � � � � � � �“หวัดดี ซองมิน ผมชางมินนะ” � �แค่นั้น ไอ้คนที่ปกติพูดมาก แซวนั้นแซวนี่มันพูดมาแค่นั้น จนผมอดแปลกใจไม่ได้
� � � � � � �“มึงเป็นอะไรวะ ใครทำอะไรมึงบอกกูมา ”
� � � � � � �“มึงอย่าไปจี้จุดมัน
.ชางมินกูขอโทษ” � �เป็นคิบอมที่ตอบแทน อะไรกันครับ นี่ผมตกข่าวมันเกิดอะไรขึ้น กับเพื่อนของผม?
� � � � � � � �“มึงเล่ามาดิ๊! � ใครทำอะไรมัน”
� � � � � � � “มึงจำวันนั้นได้มั้ย � � คืนที่มันเมาวอดก้าอ่ะ � คือที่มึงแยกไป แล้วกูก็แยกไปหาทงเฮ กูทิ้งมันที่เมานั่งอยู่คนเดียว กูก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกนะ ก็ชั้นสองนั่นแหละ”
� � � � � � � “แล้วไง � �มึงอย่าบอกนะว่ามันไปมีเรื่อง แต่ก้ไม่มีแผลนี้หว่า” ผมจับชางมินพลิกดู ก็ไม่เห็นมีรอยอะไร นอกจากเฮ้ย.....
� � � � � � �
� � � � � � � �“มึงโดนไรที่คอวะ”
� � � � � “มึงใจเย็น. � � � มึงจำเสี่ยคังได้ป่าววะ � คังอิน �อ่ะ” ��ผมพยักหน้า ผมจำได้เพราะพี่แกมาที่นี่ประจำ ผมไปทีไรก็เจอ
� � � � � � “กูจะบอกว่าเพื่อนเรา �เสียศูนย์ � ให้เสี่ยไปแล้วว่ะ
.กูขอโทษนะเพื่อน มึงอย่าโกรธกูเลย รับรองว่าเรื่องนี้มีแค่เราที่รู้ กูให้ทงเฮจัดการหมดแล้ว T^T” �
� � � � � ��เชี่ยครับ วันนั้นผมไม่น่าไปแช่งมันเลย ไอ่ชางมินเพื่อนกู เจอหมีสอยไปแล้ว กูขอโทษมึงด้วยอีกคน �วันที่กูได้เมีย เพื่อนผมกับได้เป็นเมีย โถ่ อีกครั้งให้ชีวิตของเพื่อ โจ �- � �-*
� � � � � � � � � � � � �
� � � � � � � � � � � � � � จบเถอะครับก่อนจะป่วงไปมากกว่านี้ -�� -*
� � � � � � � � � � � � � � � � �
� � � � � � � � � � � � � � � � � � END
�
�
�
�
�
�
...................................................................
Talk ::
จบแล้วจร้าาาาาาา �SF�เรื่องแรกของไรท์เตอร์
ช่วงนี้ติดภาระกิจ บอลยูโรอ่าเนอะ �- �-*
ตอนนี้ออกป่วงกว่าตอนที่แล้วมาก เขียนไปเขียนมา ชื่อเรื่องดูจะไม่ค่อนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ เนอะ -*-
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ�
ยังไงรีดเดอร์ที่อ่านจากเรื่องยาว ก็ฝากติดตาม SF เราด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ (โค้งงามๆหัวทิ่มพื้น)
แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้า และเรื่องYou Choose ด้วยค่ะ
จะรีบอัพให้นะคะ�
Ps:: อซม ใน คิสคอนเสิร์ตเมื่อวาน ผมบรอนด์ น่ารัก และเซ็กซี่สุดๆ เราเพ้อค่ะ ><
�
�
�
ความคิดเห็น