ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God'5,Music Love เสียงเพลงรักพาใจให้พบเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 55


    บทนำ

    ~   I've been living with a shadow overhead
    I've been sleeping with a cloud above my bed
    I've been lonely for so long
    Trapped in the past, I just can't seem to move on

    I've been hiding all my hopes and dreams away
    Just in case I ever need em again someday
    I've been setting aside time
    To clear a little space in the corners of my mind

    All I want …   ~

    “พอๆแกร้องหรือแกแหกปากกันแน่เนี่ย!”เสียงของชายวัยกลางคนดุผู้เป็นลูก “โห่~พ่อก็เพลงมันยากอ่ะ”ผู้เป็นลูกสาวตอบ เธอมีใบหน้าที่เนียนเป็นรูปไข่ ผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนตรงปลาย ดวงตากลมโตรูปร่างร่างเล็กน่าทะนุทะนอมผิดกับบุคลิก “ยากบ้านแกนะสิ เพลงนี้มันง่ายแสนง่ายใครก็ร้องได้มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่ร้องไม่ได้!

    “พ่อด่าใช่มั๊ยเนี่ย!

    “เออ -_-” เมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็ทิ้งตัวลงเก้าอี้ที่ทำด้วยไม้ชั้นดีอย่างแรงทำให้เธอ...ตกเก้าอี้! “โอ๊ย!!!เจ็บๆใครเอาเก้าอี้ออกเนี่ย”

    “เฮ้อ~ นี่ฉันมีลูกหรือ ควายเนี่ย”พ่อทำหน้าหมดอาลัยตายอยากกับลูก “พ่อฟ้าเป็นลูกอยู่ป่าวเนี่ย?”

    “ก็เป็นน่ะสิ! แต่ยังไงไม่รู้ล่ะถ้าแกยังร้องเพลงนี่ไม่ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ฉันจะส่งแกไปอยู่ที่อิตาลีกับครูสอนร้องเพลงที่นั้น”

    “ไม่!!!!TOT”ฉันคร่ำครวญกับพ่อยู่นานสองนานแต่พ่อก็ไม่ยอมจะส่งฉันไปที่อิตาลีท่าเดียว แต่ก็นะก็เป็นอยู่อย่างบ่อยเพราะว่าครอบครัวของฉันเนี่ยมันเป็นครอบครัวของนักดนตรี มีเสียงเพลงในหัวใจทั้งครอบครัวร้องเพลงเพราะ เล่นดนตรีก็เก่งทุกคนยกเว้น...ฉัน! ดีอย่างเดียวคือเล่นเปียโน ถ้าให้ฉันร้องรับร้องแก้วแตกเป็นโหลไม่ใช่ว่าเสียงดีนะ...แต่เสียงฉันมันอย่างกับเป็ดห่านเลยแก้วมันคงทนฟังเสียงอันน่าหนวกหูของฉันไม่ไหวก็เลยแตกดังเพล้ง!’ เพราะเหตุนี้แหละทำให้ฉันเป็นที่(ไม่)น่าภูมิใจของบ้าน พ่อเลยเข้มงวดกับฉันมากเป็นพิเศษเพราะว่าอีกสองเดือนครอบครัวของฉันจะไปจัดการแสดงที่อิตาลีเพราะพ่อฉันเป็นศิลปินระดับโลกก็เลยมีผู้คนนับล้าน O_O และนี่แหละที่ทำให้ฉันยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ถ้าฉันพลาดแม้แต่นิดเดียวชีวิตของฉันจบเห่แน่นอน!T^T ชื่อเสียงของฉันไม่มีเหลือ! โอ้~ (นางเอกฉันเต็มรึเปล่าเนี่ย?)แต่ไอ้เรื่องสอนร้องเพลงนี่ฉันว่าไม่ไหว...ครั้งที่แล้วไปที่ออสเตรียเมืองแห่งการดนตรีที่มีคนเก่งเยอะๆ อาจารย์ที่นั้นยังส่งฉันกลับประเทศแทบไม่ทันแล้วนี่ยังจะส่งไปอีกฉันล่ะเซ็ง! ลืมแนะนำตัวฉันชื่อวาดฟ้า ชื่อเล่นว่าฟ้า เป็นลูกสาวคนโตของนายออร์แกนนักดนตรีระดับโลก มีน้องชายหนึ่งคนชื่อเล็ท น้องของฉันเก่งในทุกๆด้านไม่ว่าจะด้านวิชาการหรือดนตรีแต่ฉันก็ไม่ค่อยจะอิจฉาซักเท่าไรหลอกเพราะมันแอ๊บแบ๊วเห็นแล้วสะอิดสะเอียนเจอมันทำหน้าแอ๊บแบ๊วทีไรฉันล่ะเตะมันทุกที ส่วนแม่ของฉันเป็นนักร้องโอเปร่าที่เสียงดีมว๊าก!เห็นมั๊ยทุกคนเก่ง! แล้วฉันล่ะคือตัวอะไร...ช่างเถอะๆไปหาเพื่อนดีกว่า~ ลา ลา ล้า ลา ลา ~

    ร้าน Coffee & cake

    “ฮ่าฮ่าฮ่า~ตลอดแหละแกเนี่ยเมื่อไรจะร้องเพลงได้เพราะซักที” กรีนเพื่อนของฉันพูดปนขำเมื่อฉันเล่าให้ฟัง “ฉันเครียดนะกรีนถ้าครั้งนี้ฉันทำไม่ได้มีหวังได้แหกแผ่นดินหลบคนทั่วโลกแน่!TOT

    “ใจเย็นสิฟ้ามันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้ มองโลกในแง่ดีหน่อยสิ”เสียงหวานของน้ำค้างเพื่อนที่โคตะระจะเรียบร้อย แม่ศรีเรือน ทำอาหารอร่อย ชอบอ่านหนังสืออะไรจะดีขนาดนี้เนี่ย>_<รับไม่ได้ “แต่แกก็ต้องเข้าใจนะว่าสำหรับฉันมันคือสิ่งที่แย่ที่สุด!”ฉันตะโกนแล้วทุบโต๊ะอย่างแรง เจ็บอ่ะT_T(โง่อีก) “เอาน่าทุกอย่างต้องดีขึ้นทำใจให้สบาย”กี้และน้ำค้างพยักหน้าและทำท่าสู้ๆให้ฉัน “อืม!สู้ๆ” หลังจากนั้นฉันก็กลับมาบ้านขึ้นห้องเพื่อพักผ่อน

    ณ บ้านสิริวรนันท์

    ก๊อก~ก๊อก~

    “อะไรกันเนี่ยเจ๊ คนเค้ากำลังบำรุงหน้าอยู่มากวนกันทำไม” เสียงเด็กหนุ่มวัย14-15 กำลังบ่นอุบอิบคนเป็นพี่เมื่อมาเคาะประตูเรียกในขณะที่กำลังเสริมสวย-_-* “น้อยๆหน่อยไอ้พิกเล็ทฉันพี่แกนะโว๊ย!!” ฉันตะโกนใส่หน้ามันแล้วเตะมันตกจากเก้าอี้...! “ตัวทำอะไรเค้าอ่ะ เค้าเจ็บนะT^T”พูดไปลูบก้นที่กระแทกพื้นไป “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าหัดมีมารยาทกับคนอื่นบ้างไม่ใช่ทำตัวแอ๊บแบ๊วไปวันๆ!

    “ฉันผิดตรงไหนทีพี่ยังไม่เห็นมีมารยาทเลย!”พิกเล็ทลุกขึ้นมาชี้หน้าฉัน “ฉะ...ฉันมีกับบางคนเท่านั้นอย่างแกฉันไม่อยากจะมีให้หรอกหมั่นไส้!

    “หมั้นไส้ที่ฉันสวยกว่าอ่ะดิ ฮ่าฮ่าฮ่า~” พูดได้เนอะไอ้ตุ๊ด ฉันล่ะหนักใจจริงๆถ้าวันหนึ่งมันเอาแฟนมาให้พ่อแม่ดูแล้วดันเป็นผู้ชาย!-_-“  “พอๆฉันขี้เกียจเถียงกับแกแล้วที่ฉันมาเนี่ยก็เพราะ...”

    “มาให้สอนร้องเพลงอ่ะดิ”ฉันยังพูดไม่จบพิกเล็ทก็พูดแทรกมาก่อน รู้ดีจริงๆ-_-แต่ฉันก็รู้ว่ามันจะพูดอะไรต่อ “อย่าพยายามเลยเจ๊เตรียมตัวไปอิตาลีเถอะ” นั่นไงชัดเลย! เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยไม่มีใครคิดจะช่วยฉันเลยรึไงT_T ไปก็ได้วะ ฉันลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกจากห้องไปก่อนออกฉันเห็นมันทำหน้าระรื่นเลยเตะมันตกเก้าอี้ไปอีกที “เจ๊บ้าเอ้ย!!!TOT” นั้นคือเสียงที่ได้ยินหลังจากนั่น(สะใจโว้ย!!!>O<) หลังจากที่อารมณ์ดีกลับการเตะคนฉันก็มานั่งอมทุกข์อยู่ในห้องคนเดียวอีกครั้งT^Tโอ้~ทำไมชีวิตยิ่งกว่าละครเยี่ยงนี้...ฉันลองร้องเป็นร้อยรอบ พันรอบ หมื่นรอบ แสนรอบ ล้านรอบ... บลาๆๆ ก็ร้องไม่ได้ซักทีทำไมT_T

    ~ บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก ทําไมจากข้าเร็วเกินไป
    บัวลอยไปอยู่ที่ไหน เคยรู้บ้างไหมโหนกคิดคํานึง ถึงบัวลอย ~

    อันนี้ฉันไม่ได้ร้องนะเสียงเรียกเข้าฉันเอง(ช่างเป็นเพลงที่ $@#%฿!@#@ จริงๆ) “ฮัลโหล นั่นใคร?”

    [ฉันเองน้ำค้าง]เสียงหวานๆของน้ำค้างดังรอดออกมาจากมือถือคนอะไรเรียบร้อยแล้วเสียงยังหวานอีกประหลาด!(เธอนะประหลาดสุดแล้ว!) “น้ำค้างเองหรอ...มีอะไร”

    [ฟ้าจะไปอิตาลีเมื่อไร]

    “อ้าวทำไมแกแช่งฉันแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวก็ปาดคอซะหรอก!”ฉันตะโกนใสมือถือ [ฉันขอโทษ...แต่ฟ้าช่วยไปอิตาลีหน่อยเถอะT_T]เสียงน้ำค้างดูเหมือนจะร้องไห้เลย “แกเป็นอะไรรึเปล่าทำไมเสียงเหมือนจะร้องไห้เลย...มีอะไรเล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ”

    [นี่แหละข้อดีของฟ้าถึงจะห่ามๆ บ้าดีเดือด เสียงดัง มารยาทไม่ค่อยดี...แต่ก็ใจดีคอยแก้ปัญหาให้เพื่อนเสมอ]

    “แกจะชมหรือจะด่าฉันกันแน่เนี่ย!

    [ชมสิ...]

    “แล้วตกลงเล่าได้มั๊ย”ฉันถามคำถามที่ฉันถามน้ำค้างไป [คือฉัน...จะหนีออกจากบ้าน]

    “หนีออกจากบ้าน…!

    [เบาๆหน่อยสิฟ้า]

    “โทษที...แต่แกบ้าไปแล้วหรอคนอย่างแกออกจะดีไปทุกอย่างไม่มีเหตุผลอะไรที่แกต้องหนีออกจากบ้านเลย...หรือแกมีวะ?”ไม่มั่นใจ [คือ...แม่ฉันจะให้ฉันแต่งงานกับเสี่ยบ้าบออะไรก็ไม่รู้!แต่ฉันไม่แต่งแม่ก็เลยขังฉันไว้ในห้องจนกว่าฉันจะตอบตกลง T^T]

    “นี่มันยุคไหนแล้วเนี่ยยังจะมีคลุมถุงชนอีกหรอแล้วยังเป็นไอ้เสี่ยที่ไหนก็ไม่รู้หน้าตาคงอย่างกับปลากระโห้!”ฉันใส่อารมณ์พูดไปมากเพราะไม่ชอบเรื่องแบบนี้ซักเท่าไร [แล้วตกลงแก...]

    “โอเคฉันจะไปอิตาลีกับแกแต่แกต้องหาทางออกมาเองนะเพราะฉันคงช่วยอะไรแกไม่ได้”

    [อืม...ฉันรู้ว่าต้องทำยัง]

    “เจอกันวันจันทร์ฉันจะไปเตรียมตัว”

    ติ๊ด!

    ฉันกดวางสายแล้วรีบเดินออกจากห้องไปหาพ่อที่ซ้อมดนตรีอยู่ในห้องฝึกซ้อม “พ่อฟ้ามีเรื่องจะคุยด้วย!”น้ำเสียงของฉันในตอนนี้ดูหนักแน่นและจริงจัง “มีอะไร จะมาขอให้ไม่ต้องอิตะ...”

    “ฟ้าจะไปอิตาลีจันทร์นี้!”ฉันพูดแทรกพ่อขึ้นก่อนที่ท่านจะพูดจบ(น้องๆไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง...การพูดแทรกผู้ใหญ่ถือว่าเป็นคนที่ไม่มีมารยาทซึ่งก็คือนางเอกนั่นเอง!) “O_Oฉันหูฟาดไปรึเปล่าแกเนี่ยนะจะยอมไปอิตาลีง่ายๆแกมีอะไรรึเปล่า?”

    “ป่าวหรอกพ่อฟ้าก็แค่อยากไปเที่ยวก็เท่านั้นแหละ”

    “ฉันส่งแกไปเรียนร้องเพลงไม่ใช่ไปเที่ยว”

    “ก็ถือโอกาสไปเที่ยวเลยไงพ่อ...ได้ป่ะ?”พ่อฉันนั่งใช้ความคิดอยู่ประมาณ1นาทีแล้วคำตอบก็คือ...”อืม...ก็ได้”

    “เย้!>_<ขอบคุณค่ะพ่อ” ฉันกระโดดดี้ด้าไปจนถึงห้องแล้วรีบเตรีมของที่จะไปอิตาลี

    ก๊อก~ก๊อก~

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นฉันเลยเดินไปเปิด “เจ๊~”เสียงอ้อนๆของพิกเล็ทดังมาเมื่อฉันเปิดประตู...มันต้องมีอะไรแน่เลย “มีอะไร”

    “เค้าขอไปอิตาลีกับตัวได้ป่ะ!

    “-_- ไม่มีทาง!” ฉันเตรียมจะปิดประตูแต่พิกเล็ทเอาเท้ามาขัดไว้ก่อน “นะๆเค้าอยากไปเที่ยว*O*” มันทำสายตาอ้อนวอนมาก “ทีฉันขอให้แกสอนร้องเพลงให้แกยังไม่สอนเรื่องอะไรฉันต้องให้แกไปด้วย”

    “T^Tเจ๊ใจร้าย...โอเคๆต่อไปนี้นะเค้าจะทำตามที่เจ๊บอกทุกอย่างเลยเอาป่ะ” เข้าท่าวะ “แน่ใจ...” ฉันถามมันด้วยท่าทางที่อยากให้มันรู้ว่าฉันเหนือกว่ามาก โฮะๆ^O^ “ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย!” เกียรติกระเทยควายมากกว่าแกน่ะ “โอเค ฉันให้ไปแต่แกไปขอเงินจากพ่อเองละกัน”

    “รับทราบ!” แล้วมันก็เดินเข้าไปในห้องพ่อ

    เคร้ง!

    โครม!

    นั่นคือเสียงที่ดังขึ้นหลังจากที่มันเข้าไป...ทำไมน่ะหรอ เพราะว่ามันต้องไปเรียนหนังสือตอนนี้ใกล้สอบแล้วพ่อไม่ให้ไปหรอก ยิ่งไปทำท่าอย่างกับตุ๊ดอย่างนั้นพ่อยิ่งปรี๊ด!!!เลย ฮ่าฮ่าฮ่า!(ฉลาดนักนะนางเอกเรา)

    วันต่อมา

    มหาวิทยาลัยFT University

    “นี่น้ำค้างแกเป็นยังไงบ้าง...”ฉันโทรหาน้ำค้างที่ตอนนี้ยังถูกขังอยู่เพราะไม่ยอมตกลง “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกถึงจะโดนขังแต่แม่บ้านก็เอาอาหารมาให้ทุกมื้อแหละ”

    “ค่อยยังช่วย แล้วนี่เก็บของรึยัง”

    “เรียบร้อยเตรียมออกเดินทางได้เลย”

    “อืม...งั้นแค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันเข้าไปเข้าเรียนก่อน”

    ตี๊ด!

    ฉันกดวางสายแล้วเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย

    เลิกเรียน 11.00น.

    “ฟ้า~”เสียงกี้ดังมาแต่ไกล “ว่าไงกี้”

    “ตกลงแกจะไปอิตาลีหรอ?”ฉันพยักหน้าให้แทนคำตอบ “แน่ใจแล้วหรอ” (-_-)(_ _)(-_-)(_ _) “อืมๆงันเราไปกินพิซซ่ากันดีกว่า ว่าแล้วกี้ก็ลากฉันไปที่ร้านร้านหนึ่งซึ่งฉันไม่คุ้นเอาซะเลย หน้าเขียนไว้ว่า’God’5 pizza&bekery’“นี่ร้านอะไรหรอ”

    “ร้านพิซซ่าไง”

    “-_-รู้ว่าเป็นร้านพิซซ่าแต่ทำไมไม่ไปกินร้ายเดิม”

    “เดี๋ยวก็รู้เข้าไปก่อนเถอะ”กี้ดันฉันให้เข้าไปในร้าน ภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหราเฟอร์นิเจอร์ราคานับล้าน ร้านมีสามชั้นชั้นบนจะเป็นชั้นVIPสำหรับลูกค้าระดับสูงๆ ชั้นกลางจะเป็นชั้นที่เห็นวิวของเมืองที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับวัยรุ่นที่บ้าถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค ลงทวิตเตอร์ส่วนชั้นล่างสุดเป็นส่วนที่เจ้าของร้านดูแลอยู่เป็นที่ๆรวมคนหน้าตาดีมีชาติตระกูลไว้มากชั้นนี่เป็นส่วนของการจัดปาร์ตี้วันเกิด งานสังสรรค์ต่างๆ ซึ่งในตอนนี้ฉันก็อยู่ชั้นนี้ที่มีปาร์ตี้อะไรซักอย่างจัดอยู่จริงๆมันก็มีบันไดให้ขึ้นไปชั้นสองเลยแต่ยัยกรีนกลับพาฉันเข้ามาในงาน(ข้อมูลทั้งหมดกรีนบอกมา) “นี่กี้แกเข้ามาในงานปาร์ตี้ทำไม?”

    โพละ!

    เสียงลูกโป่งแตกดังขึ้นทำให้ฉันหันไปทางต้นเสียงแทนที่จะฟังคำตอบจากกี้และคนที่ซุ่มซ่ามไปเหยียบลูกโป่งแตกก็คือ...โซ่! รุ่นน้องของฉันเอง “หวัดดีฮะพี่กี้ พี่ฟ้า” โซ่ยกมือไหว้เราแบบไหว้เจ้าที่-_- “หวัดดีแล้วนี่น้องมาทำอะไรหรอ”กรีนถามโซ่ที่กำลังมุ่นอยู่กับการกินขนมในมือ(ไหวมั๊ยเนี่ย!) “ผมก็มางานปาร์ตี้นะซิ” ตอบได้กวนทีนมาก “ถามดีๆนะเดี๋ยวก็เตะซะนี้”ฉันตะคอกใส่โซ่ทำให้เขาก้มหัวสำนึกผิด “คะ...คือไอติมเขาจัดปาร์ตี้ที่เขาจะได้ไปบราซิลนะครับ"

    “เหอะ!แค่จะได้ไปบราซิลจัดปาร์ตี้ทำไมก็ไม่รู้ปัญญาอ่อน”ฉันพูดเสียงดังเพื่อให้คนแถวนั้นได้ยิน “เธอว่าใครปัญญาอ่อนฟ้า!”เสียงของไอติมดังขึ้นทำให้ในงานหันมามองฉันหมด เธอเดินมาหาฉันอย่างกับนางพญาแล้วมาหยุดตรงหน้าฉัน “ก็ว่าคนที่จะไปบราซิลไง”

    “งั้นก็ฉันน่ะสิ!”ไอติมทำท่าอย่างกับจะบินคงโมโหจัด “เออ!”ฉันตอบ “อ๋อ...แกคงอิจฉาฉันน่ะสิที่จะได้ไปต่างประเทศ”

    “ฟ้ามันจะไปอิจฉาเธอทำไมเดี๋ยววันจันทร์มันก็จะไปอิตาลีแล้ว!” กรีนตอบแทนฉันแล้วพูดยั่วโมโห แต่นั่นมันไม่ได้ผลนะกี้แกจะทำให้ฉันหน้าแตกซะมากกว่า “ไปทำอะไรหรอจ๊ะ!

    “ปะ...ไปเรียนร้องเพลง แล้วก็ไปแสดงที่นะ...” ฉันใช้ศอกกระทุ้งท้องกี้ให้หยุดพูดก่อนที่ฉันจะแย่ไปกว่านี้TOT “คงร้องเพลงเสียงอย่างกับเป็ดน่ะสินะ...แต่อย่าพยายามเลยฉันว่าไปเกิดใหม่จะง่ายกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า~

    “ฉันว่าเธอนั้นแหละที่ควรไปเกิดใหม่...”ฉันหยุดพูดไป “ทำไมฉันต้องไปเกิดใหม่ด้วยล่ะ”

    J” ฉันยิ้มให้ไอติมแล้วใช้มือบิดจมูกของเธอไปทางซ้ายแล้วย้ายไปทางขวา(งงอ่ะดิว่าทำอะไร) “กรี๊ด!!!จมูกฉัน...แก!”  ไอติมหันหน้ามาแล้วชี้นิ้วมาทางฉันด้วยสายตาเคียดแค้น “โอ๊ะๆอย่าสะบัดหน้าแรงนะเดี๋ยวซิลิโคนที่ฉันบิดไปเมื่อกี้มันจะเบี้ยวกว่าเดิม”ฉันทำหน้ายียวนใส่ไอติมที่ตอนนี้กำลังจับจมูกตัวเองให้กลับมาตรงเหมือนเดิม “กรี๊ด!!!ฝากไว้ก่อนเหอะ!แล้วหล่อนก็วิ่งออกจากร้านไป “อย่าลืมบอกหมอให้ศัลยกรรมจิตใจเธอด้วยล่ะเพราะมันสกปรกมาก!”ฉันพูดไล่หลังไอติมที่เพิ่งออกไปไม่นาน ฉันหันมาหาทุกคนในงาน

    (O(O_(O_O)_O)O)

    ทุกคนต่างอึ้งไปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนล่ะไม่มีใครรู้ว่ายัยไอติมทำศัลยกรรมนอกจากฉันที่บังเอิญไปเกาหลีเป็นเพื่อนพิกเล็ท(เพื่อไปค่ายเพลงFNCที่มีศิลปินโปรดอย่างFT islandอยู่ ซึ่งแน่นอนพวกเราเป็นถึงลูกนักดนตรีระดับโลกที่ใครก็รู้จักเจ้าของก็เลยให้เข้าบริษัท ด้วยเหตุนี้พิกเล็ทมันก็เลยได้เจอFTอย่างที่ฝันไว้ น้องฉันเป็นพรีมาดอนน่า...)แต่ช่างเรื่องมันเหอะมาสนใจเรื่องไอติมต่อดีกว่าหลังจากนั้นฉันก็เห็นยัยไอติมกำลังนั่งคุยกับใครซักคนหนึ่งนี้แหละ ฉันเลยตามไปดูก็พบว่าเธอเข้าไปที่ที่เขาทำศัลยกรรมกันแต่ฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนวันที่พวกเราเข้ามหาลัยฉันก็เจอยัยไอติมที่ไม่ใช่ไอติม?? (ก็หน้าเธอมันเปลี๊ยนไป๋ จากไอติมที่ดั้งแมบกลับมีดั้งมากกว่าเดิม ตาชั้นเดียวกลายเป็นสองชั้น หน้าคล้ายจานดาวเทียมกลับกลายเป็นหน้ารูปตัววี เรียกได้ว่าสวยเลยทีเดียว)เนื่องจากฉันเป็นเพื่อนสมัยมัธยมคนเดียวที่เรียนที่นี้ก็เลยไม่มีใครรู้เพราะไอติมไม่รู้ว่าฉันรู้ว่าเธอไปศัลยกรรมมา เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ

    กลับเข้าสู่ปัจจุบัน

    “อึ้งกันทำไมไปปาร์ตี้ต่อสิ!”ฉันตะโกนบอกทุกคนในงาน “แต่...คนจ่ายเพิ่งวิ่งออกไปเมื่อกี้เอง”เสียงคนในงานคนหนึ่งพูดขึ้น “แล้วใครจะจ่ายวะ!”อีกคน ทุกคนต่างโวยวายเรื่องเงิน “เอาล่ะไม่ต้องเถียงกันครับ วันนี้ผมจะไม่คิดเงินล่ะกันครับเห็นแกความบันเทิงที่ผมเพิ่งได้ชมไปเมื่อครู่J” เสียงของชายหนุ่มดังมาจากเคาเตอร์คิดเงิน สงสัยจะเป็นเจ้าของร้าน เขามีใบหน้าที่หล่อเหลามากเท่าที่เคยเห็นมา เวลายิ้มเขาดูมีเสน่ห์มาก เขาโบกมือให้ฉันเพื่อเป็นการทักทายแต่ฉันไม่สนฉันเดินออกจากร้านมาแล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ระหว่างทางฉันก็นั่งคิดอะไรเพลินๆจู่รถแท็กซี่ก็หยุดวิ่ง(มีอะไรทะแม่งๆ) “หยุดรถทำไมหรอคะ”ฉันหันไปถามคนขับ คนขับหันหน้ามาแล้วทำหน้าโหด!เขาคิดจะทำอะไรรึเปล่าเนี่ย... “รถเสียครับ”

    “-_-รถเสีย”โล่งอกไปนึกว่าจะโดนขมขื่นซะแล้ว...(หน้าอย่างเธอคงไม่มีใครเขาเอาหรอกมั้ง)“ครับสงสัยคงต้องลงตรงนี้แล้วล่ะครับเพราะถ้ารอช่างคงอีกนาน” เมื่อได้ยินดังนั้นฉันจึงจ่ายค่ารถแล้วลงมาโบกรถคันอื่น

    ณ บ้านสิริวรนันท์

    ตึกๆ

    เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังวิ่งมาที่ห้องฉันมีอยู่คนเดียวที่วิ่งในบ้าน...”เจ๊จ๋า~”มันคือพิกเล็ทนั่นเอง! “จะมาขออะไรอีกล่ะ”

    “เค้าไม่มาขออะไรแต่เค้ามาแบ่งปันความรู้”

    “-_- ความรู้อะไร อย่าบอกนะว่าFT island จะมาเมืองไทยแกก็เลยมาขอเงินฉันไปซื้อบัตรเพราะพ่อไม่ให้”

    “อยากไปมากแต่เงินไม่พอ...เฮ้ย!ไม่ใช่เรื่องนี้”

    “แล้วเรื่องอะไร?”ฉันถามแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา “เจ๊รู้จักGod’5รึเปล่า”

    God’5เหมือนเคยเห็นที่ไหน... “อ๋อ~ร้านขายพิซซ่าใช่ป่ะ”

    “-_-

    “ไม่ถูกหรอ...”

    “มันก็ถูกแต่ไม่ใช่ทั้งหมด”พิกเล็ทเดินมานั่งข้างๆฉันแล้ววางโน๊ตบุ๊คสีชมพูที่ถือมา(มันชอบสีชมพู-_-) “แล้วไง”

    “เค้าจะอธิบายให้เจ๊ฟัง God’5 คือกลุ่มที่รวบรวมคนที่มีความสามารถระดับโลกมาไว้ด้วยกันซึ่งจะมีการเลือกกันทุก10ปีแล้วนี่ก็ครบรอบ10ปีแล้ว...”พิกเล็ทหยุดพูดแล้วหันมามองฉัน “ก็เลยมีการเลือกเกิดขึ้น...แล้วไง”

    “แล้วไงงั้นหรอเจ๊…นี่มันบุคคลระดับโลกเลยนะ”

    “อย่างกับแกรู้จัก”

    “รู้สิฉันมีข้อมูลของทุกคนแหละ”

    “ไหนๆ”เมื่อได้ยินดังนั้นพิกเล็ทก็เปิดไฟล์ประวัติของGod’5ขึ้นมา แล้วเริ่มอธิบาย พิกเล็ทชี้ไปที่หน้าของคนๆหนึ่งเขามีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนซอยสไลด์เข้าทรงแม้มันจะดูยุ่งเหยิงก็เหอะ จมูกโด่งมาก ใบหน้าได้รูป คิ้วเข้ม คือรวมแล้วเขาเป็นคนหน้าตาดีมาก“คนแรกชื่อจุน เขาเป็นช่างภาพที่มีฝีมือการถ่ายภาพดีที่สุดสามารถถ่ายคนสวยให้ไม่สวย ถ่ายคนไม่สวยให้สวยได้...”ช่างภาพหรือแฮรี่ พอตเตอร์วะ สักพักพิกเล็ทก็ชี้ไปอีกคนที่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มมากถึงขึ้นบ้าเลยก็ว่าได้ ผมสีน้ำตาลอมส้มซอยสั้นถึงคอ ใบหน้าเนียนขาวใส ปากบางได้รูปสีชมพูระเรื่อ “คนนี้ชื่อซันเดย์ เป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ที่มีรสชาติอร่อยที่สุด แต่ที่ได้เป็นGod’5ไม่ใช่เรื่องนี้ ที่ได้เป็นเพราะการบริการกิจการของเขาที่สามารถขยายกิจการได้ถึงครึ่งโลกเลยทีเดียวแม่ว่าภายนอกของเขาจะดูไม่ค่อยเต็มก็เหอะ” นี้แหละคือที่มาอย่ามองคนที่ภายนอก-_- “ต่อไปชื่อเมดิสันเขาเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ อุปกรณ์ ขั้นตอนการทำที่อย่างต้องเนี้ยบ และเขายังเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่นำเอาอาหารของแต่ภาคแต่ละประเทศมาผสมผสานในพิซซ่าให้มีความหลากหลายไม่น่าเบื่อทำให้ในพิซซ่าถาดหนึ่งมีสารอาหารที่คนเราต้องการมากพอตัวเลยทีเดียว” เอ~คนนี้เขาคือคนที่บอกว่าไม่เก็บเงินค่างานเลี้ยงนี้นา นี่เขาเป็นคนที่ดังขนาดนี้เลยหรอเนี่ยO_O จะว่าไปเขาก็มีเสน่ห์นะเวลาที่เขายิ้ม ใบหน้าได้รูป ผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีนิลน่าหลงใหล ริมฝีปากสีแดงสดโดยไม่ต้องทาปาก “นี่ๆเท่าที่ฟังมาทุกคนอายุพอๆกับฉันเลยนะฉันว่าจะแก่ๆซะอีก”

    “ถ้าแก่ๆคงถูกเก็บไปเป็นมรดกโลกแล้วแหละ...คนต่อไปเลยล่ะกันเขาชื่อนาลู เป็นเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษที่สามารถขึ้นครองบัลลังค์ได้เลยนะแต่เขากลับปฏิเสธแล้วออกมาทำกิจการเกี่ยวกับร้านหนังสือซึ่งมีหนังสือมากที่สุดมีสาระและไร้มาระปนกันไป แต่ที่เขาได้รับตำแหน่งเพราะเขาออกมาจากพระราชวังโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแม้กระทั่งเงินแต่เขากลับสร้างร้านหนังสือที่ดีที่สุดในโลกได้ภายในเวลาไม่กี่ปี!O[]O โห~อะไรจะเก่งปานนั้นแสดงว่าฉลาดมากแน่ๆเลย เขามีเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งคม นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าคมคาย เรียวปากบางสีแดงระเรื่อ มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน รู้เลยว่าเขาเป็นคนที่ใจดี มีน้ำใจ “และคนสุดท้าย...คนนี้พี่ต้องจำไว้ให้ดีๆล่ะ”

    “ทำไมฉันต้องจำด้วย-_-?”

    “เดี๋ยวรู้เองแหละ คนนี้ชื่อไซเรน เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงที่มีความไพเราะมากๆเขาสามารถร้องเพลงที่ทำให้ผู้ฟังอินไปกับเพลงของเขาได้ไม่ยากเพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวลน่าฟัง เขาเริ่มแต่งเพลงตั้งแต่อยุ6ขวบ...”ตอนนั้นฉันยังดูเทเลทับบี้อยู่เลย  “เขาแต่งเพลงให้ศิลปินดังหลายคนจนตอนนี้ดังเป็นพลุแตกเลย เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะด้านดนตรีก็ว่าได้” ผู้ชายคนนี้มีคิ้วที่เข้มเรียงสวยดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างมาก ผิวสีขาวอมชมพูจมูกโด่งเป็นสันแบบคนเอเชีย ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูดูเป็นธรรมชาติ ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตซอยประบ่าเล็กน้อย ดวงตาคม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มน่าดึงดูดแบบไม่น่าเชื่อ ใบหน้าคมคายทำให้เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์มากแม้จะอยู่นิ่งๆ “แล้วตกลงทำไมฉันต้องจำหน้าหมอนี้ด้วย!” ฉันตะโกนใส่หูพิกเล็ทที่กำลังเพลิดเพลินกับการมองหน้าGod’5ทุกคน “โอ๊ยเจ๊!!!คนเขากำลังเพลิดเพลินชอบขัดจังหวะจริงๆเลย...ก็คนนี่แหละที่จะมาสอนเจ๊ร้องเพลงจบมั๊ย!”  

    “O[]O”ฉันอึ้งไปกับคำตอบที่ได้ยิน...หมอนี่เนี่ยนะจะมาเป็นคนสอนฉันร้องเพลง “เขาเป็นคนดังมากเลยนะไม่มีทางที่เขาจะมาสอนฉันได้หรอก”

    “เจ๊ลืมไปแล้วหรอว่าพ่อเราเป็นใคร”

    “จริงด้วย...” ฉันเดินไปหยิบมือถือเพื่อโทรหาน้ำค้าง “งั้นเค้าไปก่อนนะเจ๊”ฉันพยักหน้าให้แล้วพิกเล็ทก็เดินออกจากห้องไป “ฮัลโหล...น้ำค้างแกหาทางออกจากบ้านได้รึยังพรุ่งนี้เราต้องไปแล้วนะ”

    “รู้แล้วๆฉันกำลังเตรีมการอยู่”น้ำค้างตอบฉัน “อืมๆเจอกันพรุ่งนี้...เครื่งออกตอนเที่ยงนะ”

    “จ๊ะๆ”

    วันจันทร์ 11.30น.

    ณ สนามบินสมรภูมิ

    “ดูแลตัวเองด้วยล่ะลูกที่นั่นตอนนี้อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”แม่บอกกับฉันที่ตอนนี้กำลังมองหาน้ำค้างอยู่ ‘มันจะมาได้มั๊ยนะนั้นคือสิ่งที่ฉันคิดในตอนนี้ “งันพวกเราไปก่อนนะ”พ่อบอกฉันแล้วทุกคนก็เดินทางกลับบ้าน ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วแต่ฉันยังไม่เห็นน้ำค้างเลยหรือว่ามันจะไม่มาจริงๆ... “ฟ้า!ฉันมาแล้ว”เสียงของน้ำค้างดังมาแต่ไกลเธอวิ่งเธอวิ่งมาด้วยความรีบร้อน “ฉันนึกว่าแกจะไม่มาซะแล้ว”

    “โทษทีพอดีว่าตรวจสำภาระนานไปหน่อย” ฉันมองไปที่กระเป๋าเดินทางของน้ำค้างที่มีประมาณ3-4ใบ “แกจะไปอยู่ที่นั้นเลยหรอ?”

    “เปล่าๆฉันแค่เผื่อไว้”

    “อ๋อ...แต่ว่าตอนนี้รีบขึ้นเครื่องเถอะเดี๋ยวจะไม่ทัน” แล้วฉันกับฟ้าก็ขึ้นเครื่องเพื่อไปอิตาลี

    ฟิ้ว~

    เสียงเครื่องบินออกจากท่าอากาศยานมุ่งหน้าไปอิตาลี

    แนะนำตัวละคร


    พิกเล็ท

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×