ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 : เมืองนิโมซายน์ เจ้าหญิง!?!
เมืองนิโมซายน์  เจ้าหญิง!?!
_____________________________
“ถึงแล้ว!!!” เฟย์เนี่ยนพูดทันทีเมื่อทั้งคู่มาหยุดลงที่ริมฝั่งแม่น้ำใหญ่  เบื้องหน้าเป็นสะพานหินอ่อนสีขาวสะอาด  ที่ราวสะพานมีหินอ่อนสีขาวสลักเสลารูปเทพต่าง ๆ ตั้งอยู่เป็นระยะๆ หมอกสีขาวหนาจนไม่เห็นปลายสะพาน
“ไม่เห็นจะมีเมืองสักกะเมือง” เกรย์พูดอย่างเคลือบแคลง
“จากตรงนี้มองไม่เห็นหรอก  หมอกเยอะน่าดู” เฟย์เนี่ยนพูด  ตาเป็นประกาย ”ต้องข้ามไป”
“งั้นหรอ” เกรย์พึมพำ
“นี่ ” เอล์ฟสาวเอ่ยเรียก  เกรย์หันกลับมามอง
   
“มีอะไร”
   
“ถ้าเข้าไปในเมืองแล้ว ” เฟย์เนี่ยนพูด  ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลงเล็กน้อย
   
“ห้ามพูดอะไรเป็นอันขาดนะ เข้าใจมั้ย!!!”
   
“อ เออ” เกรย์พยักหน้ารับ
   
“งั้นไปเหอะ” เฟย์เนี่ยนเอ่ย  วิ่งตุบ ๆ ข้ามสะพานไปอย่างรวดเร็ว
   
“เฮ้อ” เกรย์ถอนใจเบา ๆ  ก่อนวิ่งตามไปด้วย
   
“หมอกเยอะจริง ๆ เลยน้า” เสียงของเฟย์เนี่ยนดังมาจากด้านข้าง  ถึงแม้จะมองไม่เห็นตัวก็ตาม
   
“พูดอะไรบ้างสิ เกรย์” เฟย์เนี่ยนแทบจะตะโกน  เกรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย  ในใจคิดว่า  ก็ชั้นมันไม่ได้พูดมากเหมือนเธอนี่  พลางตอบกลับไป
   
“อืม ” พูดได้แค่นี้ก็เงียบไป
   
“ชั้นว่าเราใกล้ถึงเมืองแล้วล่ะ” เกรย์พูดทำลายความเงียบ
   
“รู้ได้ไง” เฟย์เนี่ยนเอ่ยถาม
   
“นั่น ”เกรย์ชี้ไปทางแสงไฟตะเกียงวิบวับ  เฟย์เนี่ยนคงจะสังเกตุเห็นแล้ว
   
“อ้อ ” เฟย์เนี่ยนก็ถึงบางอ้อ 
   
“นี่” ร่างของเอล์ฟสาวโผล่มาจากทางด้านหลัง  มือทั้งสองข้างยื่นมาปิดตาของเกรย์ไว้
   
“ห้ามมองนะ  เดี๋ยวชั้นจะเปิดตาเธอเอง” เกรย์ได้ยินเสียงเฟย์เนี่ยนลอดเข้ามาในโสต 
   
“อือ ” เกรย์พยักหน้ารับ  เท้ายังคงก้าวตามเฟย์เนี่ยนไปเรื่อย ๆ
   
“เอ้า จะเปิดตาละนะ”  เสียงใสของเอล์ฟสาวดังขึ้นอีก  ก่อนที่แสงสว่างจะค่อย ๆ ลอดเข้ามาในความมืด
   
เกรย์กระพริบตาไล่เงามืดออกไปจากสมองสองสามครั้ง  ก่อนเบิกตากว้าง
   
สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าคือเมืองหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์  ที่ที่เธอยืนอยู่คงจะเป็นปลายตลาดเพราะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านขายของเรียงรายข้างทาง  ทุกสิ่งเป็นสีขาวโผลน  เหมือนหิมะในแสงแดด  บ้านเรือนต่าง ๆ ทำจากหินอ่อนสีขาวสลักเสลาสวยงาม  นกเล็ก ๆ สีฟ้าและเขียวบินโฉบไปมาโดยไม่สนใจสายตาของเหยี่ยวที่ร่อนส่งจดหมายอย่างแข็งขัน  ต้นไม้ถูกปลูกเอาไว้เป็นระยะ ๆ  กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยเข้าจมูก  กลิ่นเนื้อย่าง  กลิ่นขนมปัง และอีกมายมากเกินกว่าจะหันมองได้ทั่ว  ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนเสี้ยวของเมืองนี้ เมืองนิโมซายน์
   
“ไง ” เอล์ฟสาวพูด “สวยใช่ม้า”
   
“อืม ” เกรย์พยักหน้ารับ 
   
“งั้นไปบ้านชั้นกันก่อน แล้วค่อยออกมาเดินตลาดให้หนำใจ” เฟย์เนี่ยนว่า  ไม่ว่าเปล่ายังคว้ามือของเกรย์แล้วดึงสุดแรง  ทำเอาเกรย์ถลาตามอย่างช่วยไม่ได้
   
“รีบไปสิ ” เฟย์เนี่ยนพูด  คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน
   
“ทำไมล่ะ” เกรย์ถาม
   
“ก็เดี๋ยวคนของแม่มาเห็น ” พูดไม่ทันขาดคำก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นในหมู่ชาวเมือง
   
“นั่นเจ้าหญิงเฟย์เนี่ยนไม่ใช่หรอ” เล่นเอาทั้งเฟย์เนี่ยนทั้งเกรย์แทบหัวคะมำ
   
“ใช่จริง ๆ ด้วย รีบรายงานท่านรูเบลล์เร็ว”
   
“ง่าส์ รายงานท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกลืนน้ำลาย  ยังไม่ทันไร เสียงแตรก็ดังขึ้นจากอีกด้านของถนน  พร้อมกับเสียงตะโกน
   
“หลบทาง!!!หลบทาง!!! เจ้าหญิงเฟย์เนี่ยนแห่งนิโมซายน์จะผ่าน”
   
เสียงตะโกนแบบนี้ดังขึ้นติด ๆ กันประมาณห้าครั้งกว่าขบวนคนที่ตะโกนจะโผล่มา
   
“เกอร์เดิล นี่เจ้า ” เฟย์เนี่ยนพูดพลางกุมขมับ  หันไปทางชายหัวล้านตัวสูงเลยเอวของเธอขึ้นมาหน่อยและดูท่าทางจะเป็นผู้นำขบวน
   
“เอาพวกนี้มาทำม๊าย!!!” เอล์ฟสาวตะโกนลั่น
   
“หามิได้ ฝ่าบาท” เกอร์เดิลพูดอย่างสงบเสงี่ยม  คงโดนตะโกนใส่ทำนองนี้บ่อยจนชิน “องค์หญิงทรงทำตามพระทัยมากไป องค์ราชินีให้จัดขบวนออกมาต้อนรับกลับเมืองพะยะค่ะ”
   
“ท่านแม่นะท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกัดฟันกรอด  ก้าวฉับ ๆ ลงบนพรมสีแดงที่เพิ่งปูเสร็จโดยไม่ลืมคว้าตัวเกรย์ที่กำลังลำดับว่าอะไรเป็นอะไรไปด้วย
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
เสียงตะโกนถูกขานรับเป็นทอด ๆ จากทหารราชองครักษ์ที่มายืนต้อนรับอยู่สองข้างของพรม
   
“น่าเบื่อจริง ๆ” องค์หญิงพูด  เส้นเลือดเริ่มขึ้นหน้า  ไม่มีร่อยรอยของความสง่าของเจ้าหญิงอยู่เลย
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
“โถ่เว้ย เงียบ ๆไม่ได้รึไง!!!” เฟย์เนี่ยนตวาด  เล่นเอาทหารที่เหลือหน้าเจื่อน  ปล่อยให้องค์หญิงกับเพื่อนเดินกันไปเงียบ ๆ
   
“นี่ แล้วทำไมท่านแม่ถึงรู้ล่ะ” เฟย์เนี่ยนหันมาถามเกอร์เดิลทำลายความเงียบที่ชวนอึดอัด  ปล่อยให้เกรย์เดินงง ๆ ไปเรื่อย ๆ
   
“หามิได้ องค์ราชินีรู้โดยการทำนายพะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลตอบ
   
“ท่านแม่นะท่านแม่” เฟย์เนี่ยนพึมพำซ้ำไปซ้ำมา
   
“ตกลง ” เกรย์พูดเป็นคำแรก “เธอเป็นเจ้าหญิงหรอ”
   
“ก็ไม่เชิง” เอล์ฟสาวยิ้มแห้ง ๆ
   
“มิได้ พระองค์เป็นองค์หญิงนะพะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลตอบแทน
   
“งั้นหรอ” เกรย์รับ  ก่อนหันกลับไป  ปล่อยให้องค์หญิงกับองค์รักษ์คนสนิทกัดกันตามลำพัง
   
“เจ้าช่วยเงียบ ๆ สักห้านาทีได้มั้ย” เฟย์เนี่ยนกัดฟันพูด
   
“พะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลพยักหน้า
   
เสียงแตรดังเป็นทำนองอะไรสักอย่าง  ก่อนเสียงตะโกนจากอีกขบวนจะดังขึ้น
   
“องค์ราชินีรูเบลล์  รามิคลอฟ  เทนีย่า  อรามาลีน  สเปสซาทีนสเด็จ!!!”
   
“ท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกระซิบกับเกรย์  หลังตั้งตรงทันควัน
   
“แม่เธอหรอ” เกรย์ถาม
   
“ก็ใช่น่ะสิ” เฟย์เนี่ยนพูด  ไม่สนใจเสียงตะโกนที่ขานรับการมาขององค์ราชินีเป็นทอด ๆ
   
“ท่านแม่ออกมารับเองถึงหน้าวัง” เฟย์เนี่ยนกระซิบต่อ  สิ่งก่อสร้างสีขาวที่สูงเป็นสง่าที่สุดในเมืองปรากฏขึ้นสู่สายตา  คนรอบตัวเริ่มบางตา 
   
“ชั้นทำอะไร เธอทำตามชั้นล่ะกัน”  องค์หญิงรีบเตี๊ยม  เกรย์พยักหน้า
   
“องค์ราชินีรูเบลล์  รามิคลอฟ  เทนีย่า  อรามาลีน  สเปสซาทีนสเด็จ!!!”
เสียงดังใกล้เข้ามา  ก่อนเงียบหายไป  เหลือเพียงเสียงเสนาะโสตหากแต่ทรงอำนาจที่กล่าวว่า
   
“กลับมาซะทีนะ เฟย์”
   
แรงกระชากจากเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ  ทำเอาเกรย์ที่ไม่ทันตั้งตัวลงไปนั่งคุกเข่า  ทั้งที่ยังไม่ทันเห็นหน้าของผู้มาเยือน
   
“เออ เพคะเสด็จแม่”
_____________________________
“ถึงแล้ว!!!” เฟย์เนี่ยนพูดทันทีเมื่อทั้งคู่มาหยุดลงที่ริมฝั่งแม่น้ำใหญ่  เบื้องหน้าเป็นสะพานหินอ่อนสีขาวสะอาด  ที่ราวสะพานมีหินอ่อนสีขาวสลักเสลารูปเทพต่าง ๆ ตั้งอยู่เป็นระยะๆ หมอกสีขาวหนาจนไม่เห็นปลายสะพาน
“ไม่เห็นจะมีเมืองสักกะเมือง” เกรย์พูดอย่างเคลือบแคลง
“จากตรงนี้มองไม่เห็นหรอก  หมอกเยอะน่าดู” เฟย์เนี่ยนพูด  ตาเป็นประกาย ”ต้องข้ามไป”
“งั้นหรอ” เกรย์พึมพำ
“นี่ ” เอล์ฟสาวเอ่ยเรียก  เกรย์หันกลับมามอง
   
“มีอะไร”
   
“ถ้าเข้าไปในเมืองแล้ว ” เฟย์เนี่ยนพูด  ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลงเล็กน้อย
   
“ห้ามพูดอะไรเป็นอันขาดนะ เข้าใจมั้ย!!!”
   
“อ เออ” เกรย์พยักหน้ารับ
   
“งั้นไปเหอะ” เฟย์เนี่ยนเอ่ย  วิ่งตุบ ๆ ข้ามสะพานไปอย่างรวดเร็ว
   
“เฮ้อ” เกรย์ถอนใจเบา ๆ  ก่อนวิ่งตามไปด้วย
   
“หมอกเยอะจริง ๆ เลยน้า” เสียงของเฟย์เนี่ยนดังมาจากด้านข้าง  ถึงแม้จะมองไม่เห็นตัวก็ตาม
   
“พูดอะไรบ้างสิ เกรย์” เฟย์เนี่ยนแทบจะตะโกน  เกรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย  ในใจคิดว่า  ก็ชั้นมันไม่ได้พูดมากเหมือนเธอนี่  พลางตอบกลับไป
   
“อืม ” พูดได้แค่นี้ก็เงียบไป
   
“ชั้นว่าเราใกล้ถึงเมืองแล้วล่ะ” เกรย์พูดทำลายความเงียบ
   
“รู้ได้ไง” เฟย์เนี่ยนเอ่ยถาม
   
“นั่น ”เกรย์ชี้ไปทางแสงไฟตะเกียงวิบวับ  เฟย์เนี่ยนคงจะสังเกตุเห็นแล้ว
   
“อ้อ ” เฟย์เนี่ยนก็ถึงบางอ้อ 
   
“นี่” ร่างของเอล์ฟสาวโผล่มาจากทางด้านหลัง  มือทั้งสองข้างยื่นมาปิดตาของเกรย์ไว้
   
“ห้ามมองนะ  เดี๋ยวชั้นจะเปิดตาเธอเอง” เกรย์ได้ยินเสียงเฟย์เนี่ยนลอดเข้ามาในโสต 
   
“อือ ” เกรย์พยักหน้ารับ  เท้ายังคงก้าวตามเฟย์เนี่ยนไปเรื่อย ๆ
   
“เอ้า จะเปิดตาละนะ”  เสียงใสของเอล์ฟสาวดังขึ้นอีก  ก่อนที่แสงสว่างจะค่อย ๆ ลอดเข้ามาในความมืด
   
เกรย์กระพริบตาไล่เงามืดออกไปจากสมองสองสามครั้ง  ก่อนเบิกตากว้าง
   
สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าคือเมืองหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์  ที่ที่เธอยืนอยู่คงจะเป็นปลายตลาดเพราะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านขายของเรียงรายข้างทาง  ทุกสิ่งเป็นสีขาวโผลน  เหมือนหิมะในแสงแดด  บ้านเรือนต่าง ๆ ทำจากหินอ่อนสีขาวสลักเสลาสวยงาม  นกเล็ก ๆ สีฟ้าและเขียวบินโฉบไปมาโดยไม่สนใจสายตาของเหยี่ยวที่ร่อนส่งจดหมายอย่างแข็งขัน  ต้นไม้ถูกปลูกเอาไว้เป็นระยะ ๆ  กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยเข้าจมูก  กลิ่นเนื้อย่าง  กลิ่นขนมปัง และอีกมายมากเกินกว่าจะหันมองได้ทั่ว  ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนเสี้ยวของเมืองนี้ เมืองนิโมซายน์
   
“ไง ” เอล์ฟสาวพูด “สวยใช่ม้า”
   
“อืม ” เกรย์พยักหน้ารับ 
   
“งั้นไปบ้านชั้นกันก่อน แล้วค่อยออกมาเดินตลาดให้หนำใจ” เฟย์เนี่ยนว่า  ไม่ว่าเปล่ายังคว้ามือของเกรย์แล้วดึงสุดแรง  ทำเอาเกรย์ถลาตามอย่างช่วยไม่ได้
   
“รีบไปสิ ” เฟย์เนี่ยนพูด  คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน
   
“ทำไมล่ะ” เกรย์ถาม
   
“ก็เดี๋ยวคนของแม่มาเห็น ” พูดไม่ทันขาดคำก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นในหมู่ชาวเมือง
   
“นั่นเจ้าหญิงเฟย์เนี่ยนไม่ใช่หรอ” เล่นเอาทั้งเฟย์เนี่ยนทั้งเกรย์แทบหัวคะมำ
   
“ใช่จริง ๆ ด้วย รีบรายงานท่านรูเบลล์เร็ว”
   
“ง่าส์ รายงานท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกลืนน้ำลาย  ยังไม่ทันไร เสียงแตรก็ดังขึ้นจากอีกด้านของถนน  พร้อมกับเสียงตะโกน
   
“หลบทาง!!!หลบทาง!!! เจ้าหญิงเฟย์เนี่ยนแห่งนิโมซายน์จะผ่าน”
   
เสียงตะโกนแบบนี้ดังขึ้นติด ๆ กันประมาณห้าครั้งกว่าขบวนคนที่ตะโกนจะโผล่มา
   
“เกอร์เดิล นี่เจ้า ” เฟย์เนี่ยนพูดพลางกุมขมับ  หันไปทางชายหัวล้านตัวสูงเลยเอวของเธอขึ้นมาหน่อยและดูท่าทางจะเป็นผู้นำขบวน
   
“เอาพวกนี้มาทำม๊าย!!!” เอล์ฟสาวตะโกนลั่น
   
“หามิได้ ฝ่าบาท” เกอร์เดิลพูดอย่างสงบเสงี่ยม  คงโดนตะโกนใส่ทำนองนี้บ่อยจนชิน “องค์หญิงทรงทำตามพระทัยมากไป องค์ราชินีให้จัดขบวนออกมาต้อนรับกลับเมืองพะยะค่ะ”
   
“ท่านแม่นะท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกัดฟันกรอด  ก้าวฉับ ๆ ลงบนพรมสีแดงที่เพิ่งปูเสร็จโดยไม่ลืมคว้าตัวเกรย์ที่กำลังลำดับว่าอะไรเป็นอะไรไปด้วย
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
เสียงตะโกนถูกขานรับเป็นทอด ๆ จากทหารราชองครักษ์ที่มายืนต้อนรับอยู่สองข้างของพรม
   
“น่าเบื่อจริง ๆ” องค์หญิงพูด  เส้นเลือดเริ่มขึ้นหน้า  ไม่มีร่อยรอยของความสง่าของเจ้าหญิงอยู่เลย
   
“องค์หญิงเฟย์เนี่ยน  เฟอร์ริเอล  คริโซเบล  สเปสซาทีนเสด็จ!!!”
   
“โถ่เว้ย เงียบ ๆไม่ได้รึไง!!!” เฟย์เนี่ยนตวาด  เล่นเอาทหารที่เหลือหน้าเจื่อน  ปล่อยให้องค์หญิงกับเพื่อนเดินกันไปเงียบ ๆ
   
“นี่ แล้วทำไมท่านแม่ถึงรู้ล่ะ” เฟย์เนี่ยนหันมาถามเกอร์เดิลทำลายความเงียบที่ชวนอึดอัด  ปล่อยให้เกรย์เดินงง ๆ ไปเรื่อย ๆ
   
“หามิได้ องค์ราชินีรู้โดยการทำนายพะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลตอบ
   
“ท่านแม่นะท่านแม่” เฟย์เนี่ยนพึมพำซ้ำไปซ้ำมา
   
“ตกลง ” เกรย์พูดเป็นคำแรก “เธอเป็นเจ้าหญิงหรอ”
   
“ก็ไม่เชิง” เอล์ฟสาวยิ้มแห้ง ๆ
   
“มิได้ พระองค์เป็นองค์หญิงนะพะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลตอบแทน
   
“งั้นหรอ” เกรย์รับ  ก่อนหันกลับไป  ปล่อยให้องค์หญิงกับองค์รักษ์คนสนิทกัดกันตามลำพัง
   
“เจ้าช่วยเงียบ ๆ สักห้านาทีได้มั้ย” เฟย์เนี่ยนกัดฟันพูด
   
“พะย่ะค่ะ” เกอร์เดิลพยักหน้า
   
เสียงแตรดังเป็นทำนองอะไรสักอย่าง  ก่อนเสียงตะโกนจากอีกขบวนจะดังขึ้น
   
“องค์ราชินีรูเบลล์  รามิคลอฟ  เทนีย่า  อรามาลีน  สเปสซาทีนสเด็จ!!!”
   
“ท่านแม่” เฟย์เนี่ยนกระซิบกับเกรย์  หลังตั้งตรงทันควัน
   
“แม่เธอหรอ” เกรย์ถาม
   
“ก็ใช่น่ะสิ” เฟย์เนี่ยนพูด  ไม่สนใจเสียงตะโกนที่ขานรับการมาขององค์ราชินีเป็นทอด ๆ
   
“ท่านแม่ออกมารับเองถึงหน้าวัง” เฟย์เนี่ยนกระซิบต่อ  สิ่งก่อสร้างสีขาวที่สูงเป็นสง่าที่สุดในเมืองปรากฏขึ้นสู่สายตา  คนรอบตัวเริ่มบางตา 
   
“ชั้นทำอะไร เธอทำตามชั้นล่ะกัน”  องค์หญิงรีบเตี๊ยม  เกรย์พยักหน้า
   
“องค์ราชินีรูเบลล์  รามิคลอฟ  เทนีย่า  อรามาลีน  สเปสซาทีนสเด็จ!!!”
เสียงดังใกล้เข้ามา  ก่อนเงียบหายไป  เหลือเพียงเสียงเสนาะโสตหากแต่ทรงอำนาจที่กล่าวว่า
   
“กลับมาซะทีนะ เฟย์”
   
แรงกระชากจากเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ  ทำเอาเกรย์ที่ไม่ทันตั้งตัวลงไปนั่งคุกเข่า  ทั้งที่ยังไม่ทันเห็นหน้าของผู้มาเยือน
   
“เออ เพคะเสด็จแม่”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น