ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 : เดินทางสู่นิโมซายน์
เดินทางสู่นิโมซายน์
______________________
กลางดึก เงียบสงัดไร้เสียงใดนอกจากเสียงสายลมทะเลที่พัดเอื่อย ๆ
   
“มาแล้วหรอ” เสียงเฟย์เนี่ยนกระซิบถามแผ่วเบา  ใบหน้าของเธอถูกคลุมไปครึ่งนึงเพราะฮู้ดที่เธอใส่
   
“อือ” เกรย์พูด  ในมือมีกระเป๋าใบเล็ก ๆ เพียงใบเดียว
   
“มีของแค่นี้ใช่มั้ย” เฟย์เนี่ยนถาม  เกรย์พยักหน้า
   
“งั้นเอามา จะให้เหยี่ยวไปส่งไว้ที่บ้านชั้นก่อนเลย” เฟย์เนี่ยนพูด  เกรย์ส่งกระเป๋าใบเล็กให้  เฟย์เนี่ยนผิวปากยาว ๆ เบา ๆ หนึ่งครั้ง  เงาสีดำ ๆ  ก็ร่อนลงเกาะบนแขน
   
“เหยี่ยวบ้านชั้นเอง” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของเกรย์  มือผูกกระเป๋าเข้ากับขาของเหยี่ยว
   
“เอ้า” เอล์ฟสาวสะบัดมือเล็กน้อย  เจ้านกที่เห็นเป็นเงาดำ ๆ ก็บินถลาออกไป
   
“ไปกันเหอะ” เฟย์เนี่ยนเอ่ย  หันหลังแล้วเริ่มออกเดิน
   
“อือ” เกรย์พึมพำ 
   
“เราคงถึงนิโมซายน์ประมาณพรุ่งนี้บ่าย ๆ ละมั้ง  ถ้าเดินทางลัดที่สุด” เฟย์เนี่ยนพูด  เหลือบมองเกรย์นิดหน่อย
   
“เรื่องโจรน่ะ  ไม่ต้องห่วง แค่อย่าทำตัวเกะกะก็พอ” เกรย์พูด  ไม่สนใจท่าทีควันออกหูของเอล์ฟสาวแต่อย่างใด
   
“เอาเหอะ ๆ  สรุปว่าเรื่องโจรไม่มีปัญหา แต่ที่น่ากลัวกว่ามันเรื่องคนที่ตามล่าเธอต่างหาก” เฟย์เนี่ยนพูด
   
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก รับรองว่าไม่ให้เดือดร้อนเธอแน่” เกรย์พูดเย็น ๆ
   
“นี่เราจะสุดเขตเมืองอนาคินแล้วนะ พอสุดเขตเมืองนี้ก็จะเป็นป่ามาราเพีย  เดินตัดจากป่ามาราเพียแค่วันกว่าก็ถึงนิโมซายน์แล้วล่ะ” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อทั้งคู่มาถึงซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ว่าสุดเขตเมือง
   
เมืองอนาคินนั้นเป็นเมืองท่าติดทะเล  ทางใต้และตะวันออกทั้งหมดติดกับมหาสมุทรเอเออเรียนท์  จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าจากสามทวีป  ทางตะวันตกเป็นเมืองแอรีส  ทางเหนือติดป่ามาราเพีย 
   
“หลังจากตรงนี้จะเป็นเขตป่า นอกจากสัตว์ป่าจะชุกชุมและส่วนใหญ่เป็นสัตว์ป่าดุร้ายแล้ว  ยังมีโจรเยอะยังกะยุง นักเดินทางไม่กล้าเสี่ยงไปทางนี้เลย  ส่วนใหญ่จะอ้อมไปทางเมืองแอรีสแล้วค่อยตัดเข้านิโมซายน์มากกว่า” เฟย์เนี่ยนพูด
   
“อ้อมเกินไป” เกรย์พูด  เฟย์เนี่ยนพยักหน้าเห็นด้วย
   
“ครั้งก่อนตอนชั้นมาเมืองนี้ก็มาทางป่านี่แหละ” เฟย์เนี่ยนพูด  ทั้งคู่เดินเข้าไปในเงามืดทึบทึมของป่า  ต้นไม้ขนาดใหญ่เรียงรายตลอดสองข้างทาง  ไม่มีเสียงใดดังนอกจากเสียงพูดคุยของทั้งสองคนนี้เท่านั้น
   
“แต่พูดกันตามตรงนะ โจรที่นี่มันกระจอกซะส่วนใหญ่”
   
ควับ!!!
   
เสียงมีดบินร่อนมาทันควัน  เฟย์เนี่ยนเอี้ยวตัวหลบ  มีดจึงฝากแผลไว้ที่แขนซ้ายแบบถาก ๆ
   
“กระจอกไม่กระจอกเดี๋ยวก็รู้” ร่างดำ ๆ หลายสิบร่างโผล่ออกมาตามซอกมุมต่าง ๆ  เกรย์ชักดาบช้า  นัยน์ตาสองสีสะท้อนแสงจันทร์ในเงามืดทอแววประหลาด
   
“แก ” เกรย์พูดเบาราวเสียงกระซิบ  แต่ได้ยินกันทั่ว  ปลายดาบหันไปทางมือมีดรูปร่างผอมเกร็ง  ใส่ชุดสีดำสกปรก ๆ
   
“ทำร้ายเพื่อนชั้นก็เหมือนทำร้ายชั้น” เกรย์พูดเสียงเย็น  เฟย์เนี่ยนมองเกรย์แบบตะลึง ๆ  (ไม่นึกว่าจะพูดออกไปขนาดนี้)
   
“ชั้นจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด” เกรย์เอ่ยต่อ  ดวงตาสีทองและเขียวเยือกเย็นกราดมองโจรนับสิบที่เริ่มขวัญบิน
   
“แต่ยัยนี่ไม่ใช่เพื่อนชั้น เชิญตามสบาย” เกรย์พูดต่อจนจบ  มือเก็บดาบเข้าฝัก  พลางเดินเปิดทางให้เต็มที่  พร้อมกับเส้นอารมณ์ของเฟย์เนี่ยนที่ขาดผึง
   
“หนอย ” มีดบินห้าอันลอยมาเฉียดหัวของนักฆ่าสาว  เกรย์ใช่มือซ้ายรับไว้อย่างสบาย  โดยไม่ต้องหันมองด้วยซ้ำ  แต่มันไม่ได้มาจากโจร
   
“ยัยบ้า เมื่อวานยังสัญญากันอยู่เลย สู้เองก็ได้ย่ะ”  เฟย์เนี่ยนตะโกนลั่นป่า
   
“ขอบใจสำหรับมีด” เกรย์หันมาพูดข้ามไหล่  ในมือกำมีดทั้งห้าที่เฟย์เนี่ยนส่งมา “เธอน่ะอยู่เฉย ๆ ดีกว่า  ชั้นจัดการเอง”
   
“ขอถอนคำพูด ” นัยน์ตาสองสีทองประกายวาววับ “ยัยนี่น่ะเพื่อนชั้น  และชั้นจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายเพื่อนชั้น”
   
วูบ!!!
   
ร่างทั้งร่างหายวับเร็วเกินกว่าจะมองทัน  สันมือตบฉัวะ ๆ ลงที่ต้นคอของโจร(กระจอก)  ไม่ถึงสิบวิ.โจรทั้งหมดก็ลงไปกองสลบเหมือดอยู่ที่พื้น
   
“กระจอกชะมัด คืน” เกรย์ยัดมีดทั้งห้าใส่มือของเฟย์เนี่ยนที่มองอย่างตะลึงงัน  มีดทั้งห้ายังใหม่  ไร้รอยเลือดแม้แต่น้อย 
   
“เธอ ” เฟย์เนี่ยนติดอ่างไป  เธอรู้ว่าเกรย์น่ะเก่งจากตอนที่สู้เมื่อวาน  แต่นี่มันชักจะเก่งเกินไปแล้วนะ
   
“ทำไม รีบไปสิ” เกรย์พูด 
   
“อะ เออ” เอล์ฟสาวพยักหน้ายิ้ม ๆ “ทางนี้เลย!!!”
   
หลังจากการเดิน  เดิน  เดินและเดินมาได้ราวสามสี่ชั่วโมง  ไม่มีวี่แววของของโจรใด ๆ  อีก  ดูท่าข่าวการมาของเกรย์จะถูกแพร่ไปในหมู่โจรพวกนี้  ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
   
“ข้ามลำธารนี่แล้วเดินอีกสองชั่วโมงก็ถึงนิโมซายน์แล้วล่ะ” เฟย์เนี่ยนพูด  ลำธารเส้นเล็กใสสะอาดไหลเอื่อย ๆ อยู่ตรงหน้า  แสงแรกของวันเริ่มทอจับที่ปลายขอบฟ้า
   
“จะว่าไปเรามาได้เร็วมาก  ไม่มีโจรโผล่มาอีกสักกะตัว” เอล์ฟสาวพูด  นั่งพักริมลำธารอย่างสบายอารมณ์
   
“อือ ” เกรย์รับ  วักน้ำเย็น ๆ ในลำธารขึ้นล้างหน้า
   
“ว่าแต่เกรย์ก็เก่งจริง ๆ นะ  แวบเดียวโจรทั้งฝูงลงไปนอนกองกันอยู่บนพื้น” เฟย์เนี่ยนชมเปาะ “ทำได้ยังไงอ่ะ ?”
   
“ความลับทางสายอาชีพอ่ะ” เกรย์พูดเย็น ๆ  เฟย์เนี่ยนพยักหน้าแล้วก็ไม่เซ้าซี้ต่อ
   
“นี่..” เกรย์เรียก  เฟย์เนี่ยนหันมามอง
   
“มีอะไรหรอ” เอล์ฟสาวถาม 
   
“ทำไมเมืองนิโมซายน์ถึงไม่ปรากฏในแผนที่ล่ะ” เกรย์เอ่ยถามต่อเรียบ ๆ
   
“เอล์ฟไม่ชอบยุ่งกับมนุษย์ อีกอย่าง  เมืองนี้ถ้าคนที่ไม่รู้ที่ตั้งของมัน  หาให้ตายก็ไม่เจอหรอก” เฟย์เนี่ยนพูด  วักน้ำขึ้นลูบหน้าบ้าง
   
“งั้นหรอ” เกรย์พึมพำ
   
“เดินทางต่อเหอะ” เฟย์เนี่ยนพูด  ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
   
“อือ” เกรย์พยักหน้า  ยิ้มน้อย ๆ  นักฆ่าสาวก้มลงมองเงาของตัวเองในน้ำแวบหนึ่ง
   
เด็กสาวคนหนึ่งมองตอบกลับมา  ใบหน้ามีรอยยิ้มนิด ๆ  ดวงตาสองสีมีร่อยรองของความเย็นชาเหลือเพียงน้อยนิด
   
“มาเร็วซิ เกรย์” เสียงเฟย์เนี่ยนตะโกนเรียกอยู่อีกฟากของลำธาร
   
“อือ” เกรย์รับ  มุมปากยังคงมีรอยยิ้มน้อย ๆ
   
เวลาเปลี่ยน
   
คนเปลี่ยน
   
แต่ชะตายังไม่เคยเปลี่ยนแปลง
   
และชะตากำลังวิ่งกวดเด็กสาวทั้งสองคนที่เดินคู่กัน  คนหนึ่งยิ้มออกมาเต็มที่  อีกคนยิ้มเพียงมุมปาก
   
ชะตาของคนที่ต้องแบกรับชะตาของทั้งสามทวีปไว้ในมือ!!!
______________________
กลางดึก เงียบสงัดไร้เสียงใดนอกจากเสียงสายลมทะเลที่พัดเอื่อย ๆ
   
“มาแล้วหรอ” เสียงเฟย์เนี่ยนกระซิบถามแผ่วเบา  ใบหน้าของเธอถูกคลุมไปครึ่งนึงเพราะฮู้ดที่เธอใส่
   
“อือ” เกรย์พูด  ในมือมีกระเป๋าใบเล็ก ๆ เพียงใบเดียว
   
“มีของแค่นี้ใช่มั้ย” เฟย์เนี่ยนถาม  เกรย์พยักหน้า
   
“งั้นเอามา จะให้เหยี่ยวไปส่งไว้ที่บ้านชั้นก่อนเลย” เฟย์เนี่ยนพูด  เกรย์ส่งกระเป๋าใบเล็กให้  เฟย์เนี่ยนผิวปากยาว ๆ เบา ๆ หนึ่งครั้ง  เงาสีดำ ๆ  ก็ร่อนลงเกาะบนแขน
   
“เหยี่ยวบ้านชั้นเอง” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของเกรย์  มือผูกกระเป๋าเข้ากับขาของเหยี่ยว
   
“เอ้า” เอล์ฟสาวสะบัดมือเล็กน้อย  เจ้านกที่เห็นเป็นเงาดำ ๆ ก็บินถลาออกไป
   
“ไปกันเหอะ” เฟย์เนี่ยนเอ่ย  หันหลังแล้วเริ่มออกเดิน
   
“อือ” เกรย์พึมพำ 
   
“เราคงถึงนิโมซายน์ประมาณพรุ่งนี้บ่าย ๆ ละมั้ง  ถ้าเดินทางลัดที่สุด” เฟย์เนี่ยนพูด  เหลือบมองเกรย์นิดหน่อย
   
“เรื่องโจรน่ะ  ไม่ต้องห่วง แค่อย่าทำตัวเกะกะก็พอ” เกรย์พูด  ไม่สนใจท่าทีควันออกหูของเอล์ฟสาวแต่อย่างใด
   
“เอาเหอะ ๆ  สรุปว่าเรื่องโจรไม่มีปัญหา แต่ที่น่ากลัวกว่ามันเรื่องคนที่ตามล่าเธอต่างหาก” เฟย์เนี่ยนพูด
   
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก รับรองว่าไม่ให้เดือดร้อนเธอแน่” เกรย์พูดเย็น ๆ
   
“นี่เราจะสุดเขตเมืองอนาคินแล้วนะ พอสุดเขตเมืองนี้ก็จะเป็นป่ามาราเพีย  เดินตัดจากป่ามาราเพียแค่วันกว่าก็ถึงนิโมซายน์แล้วล่ะ” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อทั้งคู่มาถึงซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ว่าสุดเขตเมือง
   
เมืองอนาคินนั้นเป็นเมืองท่าติดทะเล  ทางใต้และตะวันออกทั้งหมดติดกับมหาสมุทรเอเออเรียนท์  จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าจากสามทวีป  ทางตะวันตกเป็นเมืองแอรีส  ทางเหนือติดป่ามาราเพีย 
   
“หลังจากตรงนี้จะเป็นเขตป่า นอกจากสัตว์ป่าจะชุกชุมและส่วนใหญ่เป็นสัตว์ป่าดุร้ายแล้ว  ยังมีโจรเยอะยังกะยุง นักเดินทางไม่กล้าเสี่ยงไปทางนี้เลย  ส่วนใหญ่จะอ้อมไปทางเมืองแอรีสแล้วค่อยตัดเข้านิโมซายน์มากกว่า” เฟย์เนี่ยนพูด
   
“อ้อมเกินไป” เกรย์พูด  เฟย์เนี่ยนพยักหน้าเห็นด้วย
   
“ครั้งก่อนตอนชั้นมาเมืองนี้ก็มาทางป่านี่แหละ” เฟย์เนี่ยนพูด  ทั้งคู่เดินเข้าไปในเงามืดทึบทึมของป่า  ต้นไม้ขนาดใหญ่เรียงรายตลอดสองข้างทาง  ไม่มีเสียงใดดังนอกจากเสียงพูดคุยของทั้งสองคนนี้เท่านั้น
   
“แต่พูดกันตามตรงนะ โจรที่นี่มันกระจอกซะส่วนใหญ่”
   
ควับ!!!
   
เสียงมีดบินร่อนมาทันควัน  เฟย์เนี่ยนเอี้ยวตัวหลบ  มีดจึงฝากแผลไว้ที่แขนซ้ายแบบถาก ๆ
   
“กระจอกไม่กระจอกเดี๋ยวก็รู้” ร่างดำ ๆ หลายสิบร่างโผล่ออกมาตามซอกมุมต่าง ๆ  เกรย์ชักดาบช้า  นัยน์ตาสองสีสะท้อนแสงจันทร์ในเงามืดทอแววประหลาด
   
“แก ” เกรย์พูดเบาราวเสียงกระซิบ  แต่ได้ยินกันทั่ว  ปลายดาบหันไปทางมือมีดรูปร่างผอมเกร็ง  ใส่ชุดสีดำสกปรก ๆ
   
“ทำร้ายเพื่อนชั้นก็เหมือนทำร้ายชั้น” เกรย์พูดเสียงเย็น  เฟย์เนี่ยนมองเกรย์แบบตะลึง ๆ  (ไม่นึกว่าจะพูดออกไปขนาดนี้)
   
“ชั้นจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด” เกรย์เอ่ยต่อ  ดวงตาสีทองและเขียวเยือกเย็นกราดมองโจรนับสิบที่เริ่มขวัญบิน
   
“แต่ยัยนี่ไม่ใช่เพื่อนชั้น เชิญตามสบาย” เกรย์พูดต่อจนจบ  มือเก็บดาบเข้าฝัก  พลางเดินเปิดทางให้เต็มที่  พร้อมกับเส้นอารมณ์ของเฟย์เนี่ยนที่ขาดผึง
   
“หนอย ” มีดบินห้าอันลอยมาเฉียดหัวของนักฆ่าสาว  เกรย์ใช่มือซ้ายรับไว้อย่างสบาย  โดยไม่ต้องหันมองด้วยซ้ำ  แต่มันไม่ได้มาจากโจร
   
“ยัยบ้า เมื่อวานยังสัญญากันอยู่เลย สู้เองก็ได้ย่ะ”  เฟย์เนี่ยนตะโกนลั่นป่า
   
“ขอบใจสำหรับมีด” เกรย์หันมาพูดข้ามไหล่  ในมือกำมีดทั้งห้าที่เฟย์เนี่ยนส่งมา “เธอน่ะอยู่เฉย ๆ ดีกว่า  ชั้นจัดการเอง”
   
“ขอถอนคำพูด ” นัยน์ตาสองสีทองประกายวาววับ “ยัยนี่น่ะเพื่อนชั้น  และชั้นจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายเพื่อนชั้น”
   
วูบ!!!
   
ร่างทั้งร่างหายวับเร็วเกินกว่าจะมองทัน  สันมือตบฉัวะ ๆ ลงที่ต้นคอของโจร(กระจอก)  ไม่ถึงสิบวิ.โจรทั้งหมดก็ลงไปกองสลบเหมือดอยู่ที่พื้น
   
“กระจอกชะมัด คืน” เกรย์ยัดมีดทั้งห้าใส่มือของเฟย์เนี่ยนที่มองอย่างตะลึงงัน  มีดทั้งห้ายังใหม่  ไร้รอยเลือดแม้แต่น้อย 
   
“เธอ ” เฟย์เนี่ยนติดอ่างไป  เธอรู้ว่าเกรย์น่ะเก่งจากตอนที่สู้เมื่อวาน  แต่นี่มันชักจะเก่งเกินไปแล้วนะ
   
“ทำไม รีบไปสิ” เกรย์พูด 
   
“อะ เออ” เอล์ฟสาวพยักหน้ายิ้ม ๆ “ทางนี้เลย!!!”
   
หลังจากการเดิน  เดิน  เดินและเดินมาได้ราวสามสี่ชั่วโมง  ไม่มีวี่แววของของโจรใด ๆ  อีก  ดูท่าข่าวการมาของเกรย์จะถูกแพร่ไปในหมู่โจรพวกนี้  ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
   
“ข้ามลำธารนี่แล้วเดินอีกสองชั่วโมงก็ถึงนิโมซายน์แล้วล่ะ” เฟย์เนี่ยนพูด  ลำธารเส้นเล็กใสสะอาดไหลเอื่อย ๆ อยู่ตรงหน้า  แสงแรกของวันเริ่มทอจับที่ปลายขอบฟ้า
   
“จะว่าไปเรามาได้เร็วมาก  ไม่มีโจรโผล่มาอีกสักกะตัว” เอล์ฟสาวพูด  นั่งพักริมลำธารอย่างสบายอารมณ์
   
“อือ ” เกรย์รับ  วักน้ำเย็น ๆ ในลำธารขึ้นล้างหน้า
   
“ว่าแต่เกรย์ก็เก่งจริง ๆ นะ  แวบเดียวโจรทั้งฝูงลงไปนอนกองกันอยู่บนพื้น” เฟย์เนี่ยนชมเปาะ “ทำได้ยังไงอ่ะ ?”
   
“ความลับทางสายอาชีพอ่ะ” เกรย์พูดเย็น ๆ  เฟย์เนี่ยนพยักหน้าแล้วก็ไม่เซ้าซี้ต่อ
   
“นี่..” เกรย์เรียก  เฟย์เนี่ยนหันมามอง
   
“มีอะไรหรอ” เอล์ฟสาวถาม 
   
“ทำไมเมืองนิโมซายน์ถึงไม่ปรากฏในแผนที่ล่ะ” เกรย์เอ่ยถามต่อเรียบ ๆ
   
“เอล์ฟไม่ชอบยุ่งกับมนุษย์ อีกอย่าง  เมืองนี้ถ้าคนที่ไม่รู้ที่ตั้งของมัน  หาให้ตายก็ไม่เจอหรอก” เฟย์เนี่ยนพูด  วักน้ำขึ้นลูบหน้าบ้าง
   
“งั้นหรอ” เกรย์พึมพำ
   
“เดินทางต่อเหอะ” เฟย์เนี่ยนพูด  ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
   
“อือ” เกรย์พยักหน้า  ยิ้มน้อย ๆ  นักฆ่าสาวก้มลงมองเงาของตัวเองในน้ำแวบหนึ่ง
   
เด็กสาวคนหนึ่งมองตอบกลับมา  ใบหน้ามีรอยยิ้มนิด ๆ  ดวงตาสองสีมีร่อยรองของความเย็นชาเหลือเพียงน้อยนิด
   
“มาเร็วซิ เกรย์” เสียงเฟย์เนี่ยนตะโกนเรียกอยู่อีกฟากของลำธาร
   
“อือ” เกรย์รับ  มุมปากยังคงมีรอยยิ้มน้อย ๆ
   
เวลาเปลี่ยน
   
คนเปลี่ยน
   
แต่ชะตายังไม่เคยเปลี่ยนแปลง
   
และชะตากำลังวิ่งกวดเด็กสาวทั้งสองคนที่เดินคู่กัน  คนหนึ่งยิ้มออกมาเต็มที่  อีกคนยิ้มเพียงมุมปาก
   
ชะตาของคนที่ต้องแบกรับชะตาของทั้งสามทวีปไว้ในมือ!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น