ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : เมืองหลวงอนาคิน
เมืองหลวงอนาคิน
________________________
เสียงครึ้กครื้นจอแจของถนนเส้นยาวที่ทอดเข้าสู่ตัวเมืองอนาคินดังอย่างต่อเนื่อง  แสงแดดส่องอย่างไม่ปราณีปราศัยหากแต่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ยังไม่ยี่หระต่ออากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองชายทะเลอย่างอนาคิน
   
“อคัวร์มาลีนจากเมโสโปเตเมียร์จ้า  ราคาแค่สิบห้าซิลด์เท่าน้าน!!!”
   
“ดาบก็อบลินแท้ ๆ  ราคาแค่สี่สิบซิลด์ สามเจต  หาถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!!!”
   
“โคเรนถูก ๆ  สี่ลูกห้าเจต!!!”
   
“ทางนี้ถูกกว่าอีก  สิบลูกแปดเจต!!!”
   
เสียงตะโกนของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าดังแข่งขันราวกับถ้าตะโกนให้คอหอยแตกแล้วจะมีคนซื้อมากขึ้น  เสียงต่อรองราคาดังระงมปะปนไปกับเสียงนกเสียงกาที่บินฉวัดเฉวียน
   
“มีสเบอร์รี่ลูกละเท่าไหร่” เสียงเรียบ ๆ เอ่ยถามแม่ค้าเจ้าของแผงขายผลไม้ขนาดเท่าแอปเปิ้ลสีน้ำเงินเข้มที่วางกองสูงเป็นตั้ง ๆ
   
“ลูกละสองเจตจ้ะ” แม่ค้าสาวพูดอย่างชำนาญ  แถมหยิบใส่มือของเกรย์ให้อีกด้วย
   
“อือ” ร่างบางพึมพำในคอ  ก่อนหยิบเหรียญสีเงินส่งให้แม่ค้าไปสองเหรียญ
   
จริง ๆ แล้ววันนี้ไม่ใช่วันที่เกรย์จะได้พัก  หากไม่ใช่เพราะเธอมีงานในเมืองหลวงพอดี  ถึงได้โอกาสกลับมาเยี่ยมเยือนเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่าใหญ่โตที่สุดในทวีปคอร์ตีส  ซึ่งมันอาจจะจริงก็ได้  แต่เพราะจำนวนคนที่มากมายทำให้เมืองที่ควรจะใหญ่ดูเล็กไปถนัด 
   
เกร๊ง!!!
   
เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ที่ติดกับประตูดังขึ้นต้อนรับผู้เดินเข้ามาใหม่  ดวงตาสีทองและเขียวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องสลัว ๆ แม้แดดจะออกเปรี้ยง  เสียงจอแจข้างนอกไม่ผิดกับเสียงอึกทึกข้างในเท่าไรนัก  นักฆ่าสาวเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีชายคนหนึ่งยืนอยู่
   
“อ้าว เกรย์” เสียงเอ่ยทักดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ไม้ “หายไปนานเชียว  มาทำธุระหรอ”
   
“ประมาณนั้นแหละค่ะ” เกรย์เอ่ยเรียบเช่นเดิม  หากแต่สายตาที่มักจะเย็นชานั้นดูอ่อนลงบ้าง  คนที่นี่ไม่ได้รู้จักเธอในฐานะนักฆ่า  พวกเขารู้แค่ว่าเธอเป็นเด็กที่มีวิชาดาบพอตัวและชอบอยู่เงียบ ๆ เท่านั้น  ที่นี่ เธอไม่ต้องแข่งขันกับใคร
   
“ห้องเดิมดีมั้ย” ชายหนุ่มหน้าตาใจดีถามยิ้ม ๆ  พลางส่งกุญแจสีเงินพร้อมกับป้ายที่เขียนว่า สามสามแปดให้
   
“ขอบคุณค่ะ” เกรย์พูดสั้น ๆ  หากแต่เรียวปากบางยังคงเรียบเฉยไร้รอยยิ้มเช่นเดิม  นิ้วเรียวรับกุญแจที่ถูกส่งให้ 
   
“ไม่เปลี่ยนเลยนะ” ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยยิ้ม ๆ เช่นเดิม  เมื่อเกรย์เดินจากไปแล้ว
                                                                  @@@@@@@@@@@
   
ยามค่ำคืนเวียนมาถึง  ความมืดโรยตัวไม่เว้นแม้ในเมืองหลวงที่คึกคักอย่างอนาคิน  เสียงจอแจในตอนกลางวันดูเบาบางเมื่อเทียบกับตอนกลางคืน ชาวเมืองที่นี่ไม่นิยมการเดินทางยามค่ำ  และไม่ชอบออกจากนิวาสสถานหลังพระอาทิตย์ตกดินไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม
   
ฟุ่บ!!!
   
สายลมพัดวูบบนหน้าคฤหาสน์หรูแถบคนรวยในเมืองอนาคิน  แสงไฟวับแวมของทหารสองคนที่เดินตรวจการณ์อยู่หน้าคฤหาสน์ไหววูบ  ก่อนที่จะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น  ทั้งคู่ก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
   
วูบ!!! วูบ!!!
   
ไฟทั้งสองดวงถูกดับอย่างรวดเร็ว  ร่างในเงามืดกวาดตามองไปรอบ ๆ
   
ทางสะดวก
   
ผมสีดำสะบัดไหวตามแรงลมเล็กน้อยราวเงาดำ  ดวงตาสีทองและเขียวฉายเรืองในความมืด  ก่อนที่ร่างบางกระโดดฟุ่บขึ้นไปยืนบนกำแพงสูง
   
แสงไฟสว่างลอดกระจก  นัยน์ตาสองสีกราดมองภายใน 
   
ไร้ผู้คน
   
มีดสั้นถูกชักขึ้นมา  ก่อนแนบคมมีดลงบนบานหน้าต่าง  เพียงไม่ถึงสองวินาที  หน้าต่างบานยักษ์ก็เปิดออกอย่างไร้สุ่มเสียง 
   
พรมสีน้ำเงินเข้มปูลาดเข้าสู่ระเบียงทางเดินยาว  แสงไฟจากตะเกียงคริสตัลที่แขวนไว้เป็นระยะ ๆ ตลอดแนวทางเดินส่องสว่าง  เท้าทั้งสองก้าวฉับผ่านประตูไม้สีเข้มบานแล้วบานเล่า  ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด
   
แอ๊ด!!!
   
บานประตูเบื้องหน้าของเกรย์แง้มออกเล็กน้อยด้วยแรงมือของเด็กสาว  เผยให้เห็นห้องว่างเปล่าภายใน  นักฆ่าสาวก้าวเท้าอย่างแผ่วเบา  มือเงื้อดาบ  และ
   
ฟุ่บ!!!
   
เสียงดาบแหวกอากาศ  เลือดสีแดงไหลซึมจากต้นแขนพร้อมปอยผมสีดำปอยหนึ่งที่ร่วงลงสู่พื้น  เกรย์หันขวับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของดาบที่ยืนอยู่เบื้องหลัง  ดาบถูกชักออกจากฝักอย่างรวดเร็วปานลมพัด  ก่อนร่างบางจะพุ่งเข้าใส่
   
ฉึก!!!
   
คมดาบแทงเข้าที่ท้องของร่างสูงกว่า  โลหิตสีแดงฉานไหลนองพื้น  รอการกระชากดาบสุดท้ายเพื่อปลิดชีพ
   
เกรย์มองร่างตรงหน้าอย่างเฉยชา  ก่อนหันกลับไปสู่ระเบียงเดิมที่เธอเข้ามา
                                                                @@@@@@@@@@@
   
เงาดำมืดก้าวสวบผ่านถนนที่เคยจอแจครึกครื้นเมื่อตอนกลางวัน  มือหนึ่งกุมแขนข้างที่บาดเจ็บ  หากไร้ร่องรอยของความเจ็บปวดบนใบหน้า  เลือดไหลซิบลงมาที่ปลายนิ้วเรียว  สายลมเย็นจากมหาสมุทรพัดโชยชาย  ผิดกับความร้อนตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง  ยามราตรีแห่งเมืองอนาคิน ไร้ผู้คน  แต่ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง  เพราะ
   
วิ้ว!!!
   
สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านเกรย์ไป  ร่างบางหันขวับ
   
“เจ้านี่แปลกคนจริง ๆ  เป็นผู้หญิงคนเดียวมาเดินเมืองเปลี่ยว ๆ ตอนกลางคืนแบบนี้” เสียงใสเอ่ยขึ้น  พร้อมโยนถุงสีน้ำตาลมอ ๆ ขึ้นไปบนอากาศ  ก่อนรับไว้อย่างรวดเร็ว
   
“แต่ก็ขอบใจนะ  เงินนี่ ขอข้าแล้วกัน”
                                                                @@@@@@@@@@
________________________
เสียงครึ้กครื้นจอแจของถนนเส้นยาวที่ทอดเข้าสู่ตัวเมืองอนาคินดังอย่างต่อเนื่อง  แสงแดดส่องอย่างไม่ปราณีปราศัยหากแต่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ยังไม่ยี่หระต่ออากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองชายทะเลอย่างอนาคิน
   
“อคัวร์มาลีนจากเมโสโปเตเมียร์จ้า  ราคาแค่สิบห้าซิลด์เท่าน้าน!!!”
   
“ดาบก็อบลินแท้ ๆ  ราคาแค่สี่สิบซิลด์ สามเจต  หาถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!!!”
   
“โคเรนถูก ๆ  สี่ลูกห้าเจต!!!”
   
“ทางนี้ถูกกว่าอีก  สิบลูกแปดเจต!!!”
   
เสียงตะโกนของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าดังแข่งขันราวกับถ้าตะโกนให้คอหอยแตกแล้วจะมีคนซื้อมากขึ้น  เสียงต่อรองราคาดังระงมปะปนไปกับเสียงนกเสียงกาที่บินฉวัดเฉวียน
   
“มีสเบอร์รี่ลูกละเท่าไหร่” เสียงเรียบ ๆ เอ่ยถามแม่ค้าเจ้าของแผงขายผลไม้ขนาดเท่าแอปเปิ้ลสีน้ำเงินเข้มที่วางกองสูงเป็นตั้ง ๆ
   
“ลูกละสองเจตจ้ะ” แม่ค้าสาวพูดอย่างชำนาญ  แถมหยิบใส่มือของเกรย์ให้อีกด้วย
   
“อือ” ร่างบางพึมพำในคอ  ก่อนหยิบเหรียญสีเงินส่งให้แม่ค้าไปสองเหรียญ
   
จริง ๆ แล้ววันนี้ไม่ใช่วันที่เกรย์จะได้พัก  หากไม่ใช่เพราะเธอมีงานในเมืองหลวงพอดี  ถึงได้โอกาสกลับมาเยี่ยมเยือนเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่าใหญ่โตที่สุดในทวีปคอร์ตีส  ซึ่งมันอาจจะจริงก็ได้  แต่เพราะจำนวนคนที่มากมายทำให้เมืองที่ควรจะใหญ่ดูเล็กไปถนัด 
   
เกร๊ง!!!
   
เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ที่ติดกับประตูดังขึ้นต้อนรับผู้เดินเข้ามาใหม่  ดวงตาสีทองและเขียวกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องสลัว ๆ แม้แดดจะออกเปรี้ยง  เสียงจอแจข้างนอกไม่ผิดกับเสียงอึกทึกข้างในเท่าไรนัก  นักฆ่าสาวเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีชายคนหนึ่งยืนอยู่
   
“อ้าว เกรย์” เสียงเอ่ยทักดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ไม้ “หายไปนานเชียว  มาทำธุระหรอ”
   
“ประมาณนั้นแหละค่ะ” เกรย์เอ่ยเรียบเช่นเดิม  หากแต่สายตาที่มักจะเย็นชานั้นดูอ่อนลงบ้าง  คนที่นี่ไม่ได้รู้จักเธอในฐานะนักฆ่า  พวกเขารู้แค่ว่าเธอเป็นเด็กที่มีวิชาดาบพอตัวและชอบอยู่เงียบ ๆ เท่านั้น  ที่นี่ เธอไม่ต้องแข่งขันกับใคร
   
“ห้องเดิมดีมั้ย” ชายหนุ่มหน้าตาใจดีถามยิ้ม ๆ  พลางส่งกุญแจสีเงินพร้อมกับป้ายที่เขียนว่า สามสามแปดให้
   
“ขอบคุณค่ะ” เกรย์พูดสั้น ๆ  หากแต่เรียวปากบางยังคงเรียบเฉยไร้รอยยิ้มเช่นเดิม  นิ้วเรียวรับกุญแจที่ถูกส่งให้ 
   
“ไม่เปลี่ยนเลยนะ” ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยยิ้ม ๆ เช่นเดิม  เมื่อเกรย์เดินจากไปแล้ว
                                                                  @@@@@@@@@@@
   
ยามค่ำคืนเวียนมาถึง  ความมืดโรยตัวไม่เว้นแม้ในเมืองหลวงที่คึกคักอย่างอนาคิน  เสียงจอแจในตอนกลางวันดูเบาบางเมื่อเทียบกับตอนกลางคืน ชาวเมืองที่นี่ไม่นิยมการเดินทางยามค่ำ  และไม่ชอบออกจากนิวาสสถานหลังพระอาทิตย์ตกดินไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม
   
ฟุ่บ!!!
   
สายลมพัดวูบบนหน้าคฤหาสน์หรูแถบคนรวยในเมืองอนาคิน  แสงไฟวับแวมของทหารสองคนที่เดินตรวจการณ์อยู่หน้าคฤหาสน์ไหววูบ  ก่อนที่จะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น  ทั้งคู่ก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
   
วูบ!!! วูบ!!!
   
ไฟทั้งสองดวงถูกดับอย่างรวดเร็ว  ร่างในเงามืดกวาดตามองไปรอบ ๆ
   
ทางสะดวก
   
ผมสีดำสะบัดไหวตามแรงลมเล็กน้อยราวเงาดำ  ดวงตาสีทองและเขียวฉายเรืองในความมืด  ก่อนที่ร่างบางกระโดดฟุ่บขึ้นไปยืนบนกำแพงสูง
   
แสงไฟสว่างลอดกระจก  นัยน์ตาสองสีกราดมองภายใน 
   
ไร้ผู้คน
   
มีดสั้นถูกชักขึ้นมา  ก่อนแนบคมมีดลงบนบานหน้าต่าง  เพียงไม่ถึงสองวินาที  หน้าต่างบานยักษ์ก็เปิดออกอย่างไร้สุ่มเสียง 
   
พรมสีน้ำเงินเข้มปูลาดเข้าสู่ระเบียงทางเดินยาว  แสงไฟจากตะเกียงคริสตัลที่แขวนไว้เป็นระยะ ๆ ตลอดแนวทางเดินส่องสว่าง  เท้าทั้งสองก้าวฉับผ่านประตูไม้สีเข้มบานแล้วบานเล่า  ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด
   
แอ๊ด!!!
   
บานประตูเบื้องหน้าของเกรย์แง้มออกเล็กน้อยด้วยแรงมือของเด็กสาว  เผยให้เห็นห้องว่างเปล่าภายใน  นักฆ่าสาวก้าวเท้าอย่างแผ่วเบา  มือเงื้อดาบ  และ
   
ฟุ่บ!!!
   
เสียงดาบแหวกอากาศ  เลือดสีแดงไหลซึมจากต้นแขนพร้อมปอยผมสีดำปอยหนึ่งที่ร่วงลงสู่พื้น  เกรย์หันขวับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของดาบที่ยืนอยู่เบื้องหลัง  ดาบถูกชักออกจากฝักอย่างรวดเร็วปานลมพัด  ก่อนร่างบางจะพุ่งเข้าใส่
   
ฉึก!!!
   
คมดาบแทงเข้าที่ท้องของร่างสูงกว่า  โลหิตสีแดงฉานไหลนองพื้น  รอการกระชากดาบสุดท้ายเพื่อปลิดชีพ
   
เกรย์มองร่างตรงหน้าอย่างเฉยชา  ก่อนหันกลับไปสู่ระเบียงเดิมที่เธอเข้ามา
                                                                @@@@@@@@@@@
   
เงาดำมืดก้าวสวบผ่านถนนที่เคยจอแจครึกครื้นเมื่อตอนกลางวัน  มือหนึ่งกุมแขนข้างที่บาดเจ็บ  หากไร้ร่องรอยของความเจ็บปวดบนใบหน้า  เลือดไหลซิบลงมาที่ปลายนิ้วเรียว  สายลมเย็นจากมหาสมุทรพัดโชยชาย  ผิดกับความร้อนตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง  ยามราตรีแห่งเมืองอนาคิน ไร้ผู้คน  แต่ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง  เพราะ
   
วิ้ว!!!
   
สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านเกรย์ไป  ร่างบางหันขวับ
   
“เจ้านี่แปลกคนจริง ๆ  เป็นผู้หญิงคนเดียวมาเดินเมืองเปลี่ยว ๆ ตอนกลางคืนแบบนี้” เสียงใสเอ่ยขึ้น  พร้อมโยนถุงสีน้ำตาลมอ ๆ ขึ้นไปบนอากาศ  ก่อนรับไว้อย่างรวดเร็ว
   
“แต่ก็ขอบใจนะ  เงินนี่ ขอข้าแล้วกัน”
                                                                @@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น