คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซานาดะ ยูเอะ
1.
ซานาดะ ยูเอะ
ปี๊! ป่อ! ปี๊! ป่อ!
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกร้องความสนใจของทุกคนในห้องให้หันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียงเป็นตาเดียว
ปี๊! ป่อ! ปี๊!...ตู๊ด!!
ฉันรีบกดรับมือถือเจ้ากรรมที่ดันมาแหกปากร้องเอาตอนชั่วโมงของอาจารย์คณิตศาสตร์สุดโหด แล้วรีบมุดลงไปคุยใต้โต๊ะทันที
ก็ทำไงได้...พอเห็นเบอร์ที่เรียกเข้ามาแล้วมันวางไม่ลงนี่นา!!
“ฮัลโหล....สวัสดีค่ะ คิลอินดีค่ะ” ฉันเก๊กเสียงหวานสุดฤทธิ์แบบที่พนักงานโอเปอร์เรเตอร์เขาชอบทำกัน
“ตอนนี้เรายังไม่เปิดรับงานเข้ามานะคะ...เปิดเมื่อไหร่แล้วจะติดต่อกลับไปที่หลังนะคะ”
ฉันรีบพูดเร็วปรื๋อเมื่อเห็นส้นสูงสีแดงเหมือนอาบเลือดของอาจารย์สุดโหดเยื้องกรายเข้ามาใกล้โต๊ะของฉัน
ป้าด!! (เสียงกดปิดมือถือ -*-) โอ้ว! ฉันโผล่หน้ามาพอดีกับหน้าอาจารย์เป๊ะเลยอ่ะ ความพินาศจะมาเยือนโลกไหมนี่ ?
“ซานาดะ!!”
โอ้! พระเจ้า...ลูกไม่เคยทำอะไรผิดเลยนะ ช่วยลูกให้รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ทีเถอะ แล้วลูกสาบานว่าจะเลิกกินฟรุ๊ตพายไปอาทิตย์นึงเลย! (มันเกี่ยวกันไหมหว่า - -“)
“เธอรู้ไหมว่าเวลาเรียนควรปิดมือถือ ?”
อาจารย์สาวใหญ่ที่พยายามแต่งตัวกระชากวัยสุดชีวิตถามเสียงเย็น ในขณะที่ฉันคิดว่าตาฉันถ้าไม่บอดก็คงเกือบบอดไปแล้วเพราะสีสันเสื้อผ้าของอาจารย์
ทันใดนั้น...เสียงที่ช่วยชีวิตฉันสุด ๆ ก็ดังขึ้น
ตึ่ง ๆ...โป๊ะ!! ตึ่ง ๆ ๆ...โป๊ะ!!!
ฮ่า ๆ ๆ...ที่แท้ก็เสียงมือถือของยัยอาจารย์จอมโหด ฉันยิ้มสะใจเล็ก ๆ เหมือน ๆ กับที่อีกหลาย ๆ คนในห้องทำ เป็นไงล่ะ...ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็ไม่ปิดมือถือเหมือนกันละว้า! ฮ่ะ ๆ ...ซีดเลยอ่ะดิ
“ถือว่าครั้งนี้ยกผลประโยชน์ให้ก่อน...อย่าให้มีครั้งหน้านะ! ซานาดะ ยูเอะ!”
เฮอะ ๆ..เชิญเถอะย่ะ!
“เลิกชั้นเรียนได้!”
** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **
“ฟู่! โชคดีสุด ๆ ไปเลยล่ะวันนี้”
ฉันถอนหายใจขณะที่เดินอย่างอ้อยอิ่งออกมาจากโรงเรียน พร้อมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ (มาก ๆ ) ของฉันเอง ^ ^
“ต้องขอบคุณพระเจ้า!”
“นี่...ยัยยูเอะ! พระเจ้าของหล่อนน่ะยืนอยู่นี่ย่ะ!!” อาเซคาว่า อากิระ หนึ่งในเพื่อนมหาศาลของฉันว่า ชี้ไปทางเพื่อนสาวอีกคนที่ยืนยิ้มหน้าระรื่น
“ถ้าไม่ได้ซายุกดมือถือเข้าเครื่องอาจารย์น่ะนะ ป่านนี้หล่อนคงไปนอนเป็นศพไม่มีญาติอยู่ที่สุสานไหนสักสุสานแล้วล่ะย่ะ!”
ว่าแล้วอากิระก็ทำท่าเอามือปาดคอตัวเองพลางทำลิ้นห้อย
“อ่าว...หรอ แท้งค์กิ้วนะซายุ!!” ฉันหันไปฉีกยิ้มพลางชูสองนิ้วให้ซายุจัง เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน
แต่ในใจ...
เหอ ๆ...ถ้าไม่ใช่พระเจ้าช่วยงั้นฉันคงไม่ต้องอดฟรุ๊ตพายใช่ป่ะ ? ฮ่า ๆ ๆ...พายจ๋า!!~
อ้อ...ซายุน่ะเป็นเด็กสาวผมยาวประบ่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เอง หน้าหวานใสปิ๊งเลยใช่มั้ยล่ะ!! แถมยังตากลมเหมือนเด็ก ๆ นั่นอีก ถ้าไม่ติดที่ใส่แว่นล่ะก็นะ น่ารักอย่าบอกใครเชียวล่ะ! แถมยังเรียนเก่ง...ท่าทางก็เรียบร้อยซะปานนั้น (แต่ยังโสดจ้า...อิอิ)
ส่วนตัวฉันเอง...ซานาดะ ยูเอะ สาวแก่นแห่งห้อง 5-C สูง
แต่ก็ได้รับ ‘แห้ว’ เอาไปรับประทานแก้เหงากันหมดแหละจ้ะ เหอ ๆ ^O^
“อ้อ! เดี๋ยวฉันเลี้ยวแยกนี้แหละ นัดคนเอาไว้น่ะ” ฉันรีบบอกเพื่อน ๆ
“หรอ ? บายนะ!!”
“บายจ้า!!”
และแล้ว...ฉันก็หลุดมาอยู่คนเดียวเสียที
ได้เวลาทำธุรกิจแล้ว...
** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **
“สวัสดีค่ะ...โทรจาก Kill In D ค่ะ มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าคะ ?”
ฉันกรอกเสียงหวาน ๆ ใส่โทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินเสียงรับสาย
“เออ...” เสียงกระด้างจริง ไม่รู้จักดัดเสียงกันบ้างหรือยังไงย่ะพวกคนพวกนี้นี่!!?
“ค่ะ...บอกเป้าหมายและเงื่อนไขมาด้วยนะคะ” เสียงหวาน ๆ ที่ดัดเอาไว้เริ่มจะจืดลงเรื่อย ๆ ตามอารมณ์กรุ่น ๆ กับเสียงแข็ง ๆ กวนโมโหที่ปลายสาย
“ชิริสึกิ โซรุ...” ฉันรีบควานหาปากกาจดชื่อเป้าหมายใส่สมุดเล่มเล็ก ๆ เอาไว้ทันที
“ช่วยจัดการให้เรียบร้อยในเจ็ดวันด้วย เก็บอย่าให้เหลือร่องรอยแม้แต่เส้นผม เข้าใจ ?”
“แล้วจะส่งใบเรียกเก็บเงินไปทีหลังนะคะ กรุณาบอกชื่อด้วยค่ะ ชื่อปลอมก็ไม่ว่า แต่ตัวที่อยู่ขอที่ ๆ ส่งจดหมายไปแล้วจะได้รับนะคะ”
“โยคิสึเนะ นาคาโนะ” เสียงที่ปลายสายตอบห้วน ๆ เหมือนเดิม “โทรกลับมาเรียกเก็บเงินที่เบอร์นี้ได้”
ฉันก้มลงมองเบอร์บนจอมือถือ อืม...มันไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์สาธารณะจริง ๆ เสียด้วย
“ค่ะ...ตามเงื่อนไข ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ!”
หุหุหุ...ท่าทางจะได้ค่าขนมก้อนใหญ่แล้วเรา!!
โครงการใช้เงินก้อนใหญ่ที่กำลังจะเดินทางมาเข้าสู่อ้อมอกของฉันเริ่มผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเมื่อสปอร์ตสีดำสุดเฉี่ยววิ่งมาเกยตื้นอยู่ตรงหน้า
“อ้าว! ฮันโซซังมารับหรือคะ ?” ฉันยื่นหน้าเข้าไปถามเพราะเจ้ากระจกรถมันเลื่อนลงมาพอดี
ในรถมีชายคนหนึ่งเป็นคนขับ เขาคือฮันโซซัง...พี่เลี้ยงของฉันเอง ^.^ ถึงจะแก่ขนาดนี้แล้วแต่อย่าดูถูกเชียวนะ!! เวลาลุงแกซิ่งน่ะซิ่งได้สะใจจริง ๆ เลย...ช่วยให้ฉันรอดตายจากการมาโรงเรียนสายอย่างหวุดหวิดได้หลายครั้ง
แล้วก็...เจ้าสปอร์ตน้อยน่ารักคันนี้ชื่อแบล็คคุง! เป็นน้องรักของฉันเองแหละ!!
“วันนี้เพิ่งเอาแบล็คคุงไปทำสีก็เลยขับมาอวดน่ะครับ” ฮันโซซังหันกลับมายิ้ม เห็นฟันที่แหว่ง ๆ ไปบ้างเป็นแถบ
อ๊ะ!! จะว่าฉันฟุ่มเฟือยไม่ได้นะ!~ ก็รถคันนี้น่ะเป็นของฉัน...ฉันหมายถึงเป็น ‘ของที่ฉันหามาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงานของฉัน’ จริง ๆ ไม่ใช่แบมือขอจากพ่อแม่เหมือนพวกลูกคุณหนูบางคน แล้วอีกอย่าง...มันก็ดูภูมิฐานเหมาะกับตำแน่งประธานบริษัทดีไม่ใช่หรอ ?
ใครประธานบริษัทน่ะหรอ ? ถามอย่างงี้ได้ไง!? ราศีประธานออกจะจับขนาดนี้
ก็ฉันเองนี่ไง!! ^O^
บริษัทนี้ฉันก่อตั้งเองเชียวนะ ชื่อบริษัทคิลเลอร์ อินดัสเทรียลไง แต่ส่วนใหญ่คนในวงการจะเรียกว่า คิล อิน ดี มากกว่านะ ทำอะไร ? ดูชื่อยังไม่รู้อีกหรอ ? ก็รับจ้างฆ่าไง!!
หา!? งานผิดกฎหมาย!?! บ้ารึเปล่า...เป็นนักฆ่ามันผิดกฎหมายตรงไหนกัน ? นี่มันงานค้าขายนะ!? เงินมางานไป...เงินไม่มางานไม่เดิน มันก็คือการค้าขายไม่ใช่หรือไง!?
ใช่แล้ว...ฉันเป็นนักฆ่า พ่อกับแม่ก็เป็น พ่อของพ่อกับพ่อของแม่ก็เป็น จะย้อนขึ้นไปกี่ชั่วคนก็เป็นนักฆ่ากันทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อก็ลองถามคนในบ้านฉันดูสิ!! ตระกูลซานาดะน่ะเป็นนักฆ่ากันยกตระกูลมาไม่รู้กี่ชั่วคนแล้ว!!
แต่ยุคนี้งานนักฆ่ามันออกจะหายากไปนิด ถ้ายังมัวแต่ทำตามหลักการของนักฆ่าแล้ว
หลบอยู่หลังหน้าประวัติศาสตร์ล่ะก็...สงสัยจะกอดคอกันอดตายพอดี
นิวเจเนอร์เรชั่นอย่างฉันก็เลยคิดตั้งบริษัทนี่ขึ้นมาโดยมีโฮมเพจเป็นเส้นทางติดต่อหลัก ทุกอย่างต้องผ่านฉันก่อนจะแบ่งงานให้พ่อแม่พี่น้องทั้งหลายรับไปทำ (แน่นอนว่าหักเปอร์เซ็นนะจ้ะ ^ ^)
“รับงานอยู่หรือครับ ?”
“ค่า!” ฉันตอบเสียงใส ยิ้มแป้นมองสมุดเล่มเล็กเมื่อครู่นี้
“เป้าหมายคือชิริสึกิ โซรุ เก็บให้เกลี้ยงในเจ็ดวัน ผู้ว่าจ้าง...นายเสียงแห้งโยคิสึเนะ นาคาโนะ อ้อ! จบงานนี้ฉันจะแถมยาแก้เจ็บคอให้เขาด้วย เผื่อเสียงจะดีขึ้น”
ฮันโซซังหัวเราะชอบใจ แล้วหมุนพวงมาลัยนำแบล็คคุงเข้าสู่ถนนส่วนบุคคลของครอบครัวฉัน ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึงสิบนาทีเราก็แล่นเข้าสู่สวนหน้าบ้านของคฤหาสน์ตระกูลซานาดะ
ที่ตรงนี้เป็นของตระกูลซานาดะมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว พื้นที่กว้างใหญ่กินอาณาเขตชานเมืองเอาไว้จนหมด มีลักษณะเป็นป่าอยู่หน่อย ๆ ล้อมรั้วอย่างแน่นหนาแถมหมาดุอีกต่างหาก ถึงแม้ช่วงนี้ป่าจะโกร๋นไปหน่อย ก็แหม...พวกเราอยู่ด้วยกันก็ทะเลาะกันเอาไว้เพื่อความสมัครสมานสามัคคีไงจ้ะ ^ ^”
นั่นไง! พูดไม่ทันขาดคำ...นั่นน้องชายสุดที่รักของฉัน แค่หน้าประตู...น้องผู้น่ารักก็ยังอุตส่าห์วิ่งมาต้อนรับ ซึ้งใจจริง ๆ Y.Y
“ยัยป้าหน้าย่นยูเอะ!! มาสู้กันสักตั้งสิ!!!”
ปึด!! (เสียงเส้นเลือดแตกไปหนึ่งเส้น)
หนอย! ว่าไงนะไอ้เด็กนรกนี่!!?
เจ้าซานาดะ ริวเซ น้องชายจอมป่วนที่อายุห่างจากฉันเพียงแค่สองปีวิ่งทั่ก ๆ ตามรถของฉันมาอย่างไม่ลดละ แถมในมือยังถือดาบเงื้อ ๆ ไว้อีกต่างหาก...
“ว่าไงครับ ? จะไม่ลงไปสู้กับคุณหนูริวเซหน่อยหรือครับ ?” ชายชราหันมาถามขณะขับรถเข้าสู่ตัวบ้าน
“ไม่ล่ะ...ขี้เกียจ” ฉันตอบง่าย ๆ
“เฮ้ย! ยัยขี้ขลาด!!” โอ้ย! ไอ้คุณน้องชายปากปีจอ!!~ จะวิ่งตามมาทำไมฟร่ะ !? แต่จะว่าไป...ฝีเท้ามันก็ใช้ได้อยู่นา...
“ยัยหน้าย่น!! ยัยขี้ขลาด!! คุณป้ายูเอะ!!”
ปึด!! ปึด!! ปึด!! (เสียงเส้นเลือดแตกไปอีกสามเส้น -*-)
“ลงมาสู้กันเดี๋ยวนี้นะ!!”
ครืด!!
เฮ้ย!! ไอ้บ้า!! เอาดาบมาขูดแบล็คคุงน้องของฉันได้ไงยะ!!? อย่างนี้ต้องมีเรื่องกันหน่อยแล้วโว้ย!!!
“ไอ้บ้าริวเซ!!!”
ผัวะ!!
ประตูรถเปิดผัวะออกทั้ง ๆ ที่รถยังวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่าสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง (แล้วพ่อน้องชายแสนดีมันวิ่งตามมาได้ยังไงฟระเนี่ย -*- ยังสงสัยอยู่ ?) ฉันยื่นหน้าออกไปนอกรถ มือควานหาอะไรก็ตามที่พอจะเป็นอาวุธได้ที่น่าจะตกค้างอยู่ในรถบ้าง
“เอาไอ้นี่ไปกินซะ!!”
เฟี้ยว!! เฟี้ยว!!
ชูริเคนสองอันพุ่งตรงเข้าใส่พ่อน้องชายแสนดี แต่ฝีมือระดับตระกูลซานาดะ...แค่นี้หลบไม่ได้ก็สมควรเอาหัวโขกชามข้าวแมวตายซะได้แล้ว!!
เคร้ง!! เคร้ง!!!
ฉันสบถอุบเล็ก ๆ ก่อนจะควานหาอะไรที่ใช้ได้มากกว่านี้...
เป็นเวรกรรมอะไรของฉันก็ไม่รู้ น่าจะรู้ว่าก่อนไปทำสีต้องเอาของออกจากรถให้หมดก่อน...ตอนนี้ ในแบล็คคุงน้อยของฉันจึงไม่มีอะไรหลงเหลือเลยนอกจากชูริเคนหน้าตาน่ารักสองอันที่เพิ่งขว้างออกไปเมื่อกี้ซึ่งติดอยู่ในกระเป๋าของฉัน
เอาฟะ!! สู้มันมือเปล่านี่แหละ!!!
โทษฐานทำแบล็คคุงสุดที่รักของฉันเป็นรอย!! มันต้องชดใช้โว้ย!!!
ฉันเปิดประตูออกไปให้กว้างขึ้น ยื่นตัวออกไปจากรถสักครึ่งตัว หายใจให้เต็มปอดแล้วตะโกน
__________________________________
สวัสดีอีกครั้งเจ้าค่า ^O^
เป็นยังไงบ้างเอ่ย ? มีข้อติชมตรงไหนช่วยบอกด้วยนะเจ้าค้า อิอิ ^ ^
E VE
ความคิดเห็น