ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : นักฆ่าหญิง เอมมิเกรย์
นักฆ่าหญิง เอมมิเกรย์
___________________________
เสียงถ่านปะทุในเตาไฟ  กำลังบ่งบอกว่า  เตาผิงกำลังทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี  เช่นเดียวกับร่าง ๆ หนึ่งที่ยืนอยู่บนขอบหน้าต่างหินแกรนิตหรูหรา  ดวงตาสีทองและเขียวมองผ่านกระจกใส  ร่างของชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบายอุราอยู่บนเก้าอี้นวมสีแดงเลือดหมู  โดยไม่ได้รับรู้ถึงภัยที่เคลื่อนเข้ามาใกล้
   
นิ้วเรียวหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า  แสงจันทร์สลัวสะท้อนให้เห็นเงาของคมมีดเล่มเล็ก  ก่อนแนบใบมีดเข้ากับรอยต่อของกระจกอย่างชำนาญ  บานหน้าก็ส่งเสียงกริ๊กรับราวกับยินดีให้ร่างของผู้บุกรุกที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืดเข้าสู่เคหา  ร่างในเงามืดเก็บมีดพกอย่างระมัดระวัง มือที่ไม่ได้ถือดาบผลักบานหน้าต่างอย่างแผ่วเบา  ร่างบางก้าวลงบนพรมหนานุ่มเท้าสีขาวอย่างระมัดระวัง  ไร้เสียง  หากแต่ไม่ทำให้ความเร็วลดลงแม้แต่น้อย  มือขวากระชับดาบมั่น  ขณะสาวเท้าเข้าใกล้พนักของเก้าอี้สีแดงนั้นทุกที
   
วืด!!!
   
ดาบถูกเงื้อขึ้น  พร้อมจะปลิดชีพในดาบเดียว  และ
   
วูบ!!!
   
เคร้ง!!!
   
ร่างบนเก้าอี้ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  ดาบในมือปะทะเข้ากับดาบที่ถูกยกขึ้นกันอย่างจัง
   
“นึกแล้วว่าแกจะต้องมา” บุรุษผู้ถูกลอบทำร้ายเอ่ยเยาะ  หากแต่ใบหน้านวลยังคงไม่มีอารมณ์ใด ๆ ปรากฏ
   
“ถึงจะผ่านยามทั้งโขยงของข้ามาได้  แต่ก็อย่างหวังว่าจะเอาชีวิตข้าง่าย ๆ” เปล่งคำพร้อมตวัดดาบ  ร่างบางถอยวูบไปตั้งหลักก่อนเข้าโจมตี
   
เคร้ง!!!  เคร้ง!!!  เคร้ง!!!
   
ดาบแล้วดาบเล่าถูกเหวี่ยงออกไปด้วยความเร็วเกินสายตามนุษย์จะมองทัน  หากแต่ยังไม่มีดาบใดสัมฤทธิ์ผล
   
“มีปัญญาทำแค่นี้เองหรอ” ผู้ถูกลอบทำร้ายยังเอ่ยคำเย้ย  แม้ว่าเพลงดาบจะเป็นรองคนตรงหน้าอยู่มากก็ตาม  ทันใดนั้น
   
วูบ!!!
   
ร่างของผู้ลอบทำร้ายหายวับ  ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกถึงน้ำหนักดาบที่ทิ้งลงมาจากด้านหลัง  โลหิตแดงฉานสาดกระจาย  ลมหายใจขาดวูบ  หากดวงตาสีทองและเขียวยังคงเย็นยะเยือกไร้อารมณ์เช่นเดิม  ราวกับนี่เป็นเรื่องปกติ  เช็ดคราบเลือดกับเก้าอี้แล้วเก็บเข้าฝักอย่างไม่ใยดีศพตรงหน้า
   
“ถ้ารู้วันหลังก็ช่วยเตรียมคนที่มีฝีมือกว่านี้มาคุ้มกันเถอะนะ” เรียวปากสีแดงเอยเรียบ ๆ กับร่างไร้วิญญาณตรงหน้า  ก่อนหันหลังหายวับไปในเงาจันทร์
                                                                            @@@@@@@@@@@@
บ้านไม้สีเข้มตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า  แสงไฟวูบวับราวกับมีงานเลี้ยงสังสรรค์อะไรสักอย่าง  หากแต่ร่างบางรู้ดี  สิ่งที่อยู่ภายในมันไม่ใช่อย่างที่เห็น
   
แอ๊ด!!!
   
บานประตูไม้มะฮอกกานีสีแดงถูกผลักออก  เสียงอึกทึกของคนกว่าสิบคนที่อยู่ด้านในดังเข้าโสต  คฤหาสน์หรูภายนอกเป็นเพียงฉากบังหน้า  ด้านในคือแหล่งซ่องสุมของเหล่านักฆ่า  และที่นี่ที่เธอเรียกว่า  บ้าน  มาตลอดสิบห้าปี
   
“อ้าว เกรย์  กลับมาแล้วหรอ” เสียงห้าว ๆ ร้องทักอย่างคุ้นเคย  เจ้าของเสียงคือชายร่างใหญ่ผมแดงเพลิง  ดาบบิ่น ๆ ที่เหน็บอยู่ที่เอวบอกถึงความสมบุกสมบันของเจ้าของเป็นอย่างดี
   
“อือ ”
เจ้าของนามเกรย์พยักหน้ารับอย่างเนือย ๆ  ในใจคิดว่า  ก็เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม?  พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง  ตรงโต๊ะที่ยังไม่มีคนนั่ง
   
“วันนี้จะรับอะไรดีขอรับ  คุณเกรย์” ชายแก่ร่างเล็กม่อต่อคนหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างนอบน้อมเกินพอดี 
   
“ชา ”
ริมฝีปากแดงเอ่ยห้วน ๆ  นัยน์ตาสองสีกวาดมองรอบ ๆ บาร์เหล้าที่แน่นเอี๊ยดไปด้วยนักฆ่า  ที่นี่คือศูนย์รวมของนักฆ่า  และที่นี่คือที่ที่เธออยู่
   
ตั้งแต่จำความได้  สิ่งเดียวที่เธอต้องทำในแต่ละวันก็คือ  ฝึก  ฝึก  ฝึกและฝึก  เพื่อที่จะเป็นนักฆ่าในรุ่นต่อไป  เท่าที่เธอรู้  เกรย์  หรือจริง ๆ แล้วคือเอมมิเกรย์  ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ  สิ่งเดียวที่เธอเห็นและจะต้องเป็นคือ นักฆ่า  หัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าเหล่านี้  หรือที่ถูกน่าจะเรียกว่าองค์กรมากกว่า  ส่งเธอไปฝึกดาบกับอาจารย์ดาบในเมืองอนาคินตั้งแต่ห้าขวบ  เธอกลับมาที่นี่ตอนอายุสิบสาม  ในคราบของเด็กสาวที่เย็นชา  ดูไร้อารมณ์  และในฐานะนักฆ่าหมายเลข 1
.เกรย์ที่มีพรสวรรค์ด้านการจับดาบมาตั้งแต่เกิด
ในโลกของนักฆ่า  ใครดีใครอยู่  ไม่อย่างนั้น  จากผู้ล่าก็จะกลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง  เกรย์ทราบกฏข้อนี้ดี  แต่โอกาสที่จะมีใครสามารถล้มเธอที่ดูจะสมบูรณ์แบบทั้งความเร็วและไหวพริบมีน้อยมาก  ถึงแม้ด้านกำลังจะด้อยด้วยว่าเป็นสตรีก็ตาม
“ของที่สั่งได้แล้วขอรับ  ท่านหญิง” มือเหี่ยวย่นของชายชรายกถาดบรรจุถ้วยชาไม้วางลงบนโต๊ะอย่างประนีตเป็นพิเศษ  ก่อนจะถอยกลับไปอย่างระมัดระวัง
“โอ้ว!!!  ท่านหญิง!!!”  เสียงร้องกวนประสาทอย่างที่มักจะได้ยินเสมอดังขึ้นท่ามกลางเสียงโครมคราม  ทันใดนั้น  เสียงทั้งหมดก็ดูจะถูกดูดเข้าไปในบันดล
“ท่านหญิง เอมมิเกรย์” ร่างผอมแห้งร่างหนึ่งเดินตรงมายังโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่  ใบหน้าที่เหมือนจิ้งจอกอดนอนนั้นเป็นสีแดงจัดเพราะเหล้า  ปากห้อยย้อยปรากฏรอยยิ้มเหี้ยม
“มีอะไร” เกรย์ถามเรียบ  มือทั้งสองยกชาขึ้นจิบ  ท่ามกลางความเงียบ  เงียบ  เงียบ
“ข้าถามเจ้าดี ๆ  ตอบข้าแบบนี้เรอะ” ใบหน้าหาเรื่องยื่นเข้ามาใกล้  หากแต่เกรย์ยังคงไม่ใส่ใจ
“นี่!!!  ตอบมาซิ!!!” มือผอมเกร็งผลักร่างบางไหวไปข้างหลังเล็กน้อย  เกรย์วางถ้วยชาลง
“ข้าถามว่า มีปัญหาอะไร  มีอะไรไม่พอใจมั้ย” เกรย์เอ่ยเย็น ๆ  ดวงตาสีทองและเขียวจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำเยิ้มของผู้หาเรื่อง
“อ้อ..ข้ามีปัญหาอะไร  ปล๊าว เปล่า  เปล่า  เปล่า  ไม่มีอะไรเลย  ท่านเอมมี่”
เคร้ง!!!  ฉ่า!!!
ถ้วยชาไม้ถูกตัดผ่ากลางด้วยฝีมือของดาบคู่ใจ  ปลายดาบจ่ออยู่ที่คอของคนปากอยู่ไม่สุข
“ข้าชื่อ  เกรย์” ร่างบางพูด  ดวงตาเยือกเย็นวาวโรจน์   
“งั้นหรอ  ท่านเอมมี่” ปากห้อยๆของมันยังคงหาเรื่อง  หากแต่ในมือปรากฏมีดยาว
“ข้าชื่อเกรย์” ร่างบางเอ่ยย้ำเยียบเย็น
“ข้าจะเรียกเจ้าว่าเอมมี่ มีปัญหาเรอะ”
ฟ้าว!!!
มีดสั้นลอยออกจากมือของเกรย์  เฉียดใบหน้าเหี่ยวๆของผู้หาเรื่องไปเพียงไม่กี่เซนต์  ก่อนดาบจะตวัดวูบ  คมดาบสัมผัสคอ
“มี ” เด็กสาวเอ่ยเรียบๆ  ก่อนด้ามดาบจะทุบเข้าที่คอของคนปากอยู่ไม่สุขกระเด็นไปล้มโต๊ะข้างหลัง  เจ้าตัวสลบเหมือดอย่างไม่ต้องสงสัย
เครื่องดื่มนับสิบถูกยื่นเข้าใส่เด็กสาว  เสียงที่เคยดังอึกทึกนั้นยิ่งดังเข้าไปอีก  ดาบเรียวถูกเก็บเข้าฝักเป็นครั้งที่สองของค่ำคืน 
“เจ๋งจริงๆ” ชายร่างใหญ่ผมแดงคนเดิมพูดพลางเดินเข้ามาตบบ่าเบา ๆ  “ข้ารำคาญเจ้านั่นมาตั้งนานแล้ว  จะลงมือเองก็ไม่กล้า  ขอบใจเจ้า
จริง ๆ เอ..เอ๊ย เกรย์”
“เฮ้อ ” เกรย์ถอนหายใจเบา ๆ  ก่อนค่อย ๆ เดินเลี่ยงออกมาจากความอึกทึกอย่างเงียบ  ๆ  เธอไม่เคยคิดอยากมีเรื่องกับใคร  หากแต่ความที่เธอได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่ง  จึงจำต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“มีเรื่องอีกแล้วสินะ เกรย์” เสียง ๆ หนึ่งดังจากบันไดด้านบนของเธอ  ร่าง ๆ หนึ่งเดินลงบันไดมาอย่างช้า ๆ
“ท่านราคลอฟ” เกรย์กล่าว  ก่อนก้มหัวน้อย ๆ ให้กับผู้ที่เป็นผู้คุมสถานที่แห่งนี้  และผู้ที่ดูแลเธอมาตั้งแต่จำความได้  หัวหน้าขององค์กรนักฆ่า
ที่อายุมากกว่าเธอไม่มาก  หากแต่ฝีมือนั้นประมาณไม่ได้  หรือไม่เธอเองก็ไม่เคยคิดประมาณ
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ท่านราคลอฟ” เกรย์เอ่ยอีกครั้งด้วยเสียงเรียบ ๆ
“ข้าก็ยังไม่ได้กล่าวโทษเจ้า  ข้าเองก็รู้ว่าเจ้ามีฝีมือ  และมีหลายคนอยากทดสอบฝีมือเจ้า” ราคลอฟเอ่ยยิ้ม ๆ 
“คนพวกนั้น ” ร่างบางกำลังจะเอ่ยอีกครั้ง  หากแต่ร่างสูงกว่าชิงเอ่ยก่อน
“ไม่ต้องสนใจหรอก ที่นี่เจ้าคืออันดับหนึ่ง  แต่ถ้าเจ้าคิดจะไปอยู่ที่อื่นล่ะก็ ” ร่างสูงเอ่ย  พลางส่งสายตาที่อารีหากแต่แปลความได้ว่า  ถ้า
จะไปอยู่ที่อื่นละก็ ตาย
“ข้าไม่เคยคิด” เกรย์พูดเบา ๆ
“ก็ดี” ร่างสูงยิ้มก่อนเดินผ่านเธอไปสู่ห้องโถง  เกรย์ก้าวขึ้นบันไดช้า ๆ  ไฟจากระเบียงชั้นสองสว่างไสว  ประตูนับสิบเรียงรายสองข้างราวกับ
โรงแรม  เกรย์เดินไปสุดยังประตูสุดท้าย  ก่อนผลักเข้าสู่ห้องของเธอ
โคมไฟสว่างอยู่  ห้องทั้งห้องสะอาดอย่างไร้ที่ติ  ผิดกับโถงข้างล่างอย่างสิ้นเชิง  เตียงนุ่มฟูสีขาวสะอาด  หน้าต่างเปิดไว้ให้ลมเย็น ๆ ของ
ราตรีพัดกรูเข้ามา  ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อย ๆ  ก่อนดวงตาทั้งสองข้างจะปิดสนิท
                                                                        @@@@@@@@@@@@@
   
ในห้องโถง  ราคลอฟทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่เกรย์เพิ่งลุกออกไป  เก้าอี้ข้าง ๆ ถูกจับจองโดยชายร่างมหึมาคนหนึ่ง 
   
“ยัยคนนั้น” ชายร่างใหญ่กำลังจะเอ่ย  หากแต่มือของราคลอฟยกขึ้นก่อน
   
“ใช่ เกรย์เก่งมาก  เจ้าคิดว่างั้นใช่มั้ย..เคียร์” ราคลอฟเอ่ยยิ้มแย้ม  หากแต่ดวงตาเป็นประกายกร้าว
   
“คนนั้นน่ะเหรอที่ท่านบอกว่าจะเป็นตัวอันตราย  ดู ๆ ไปก็แค่เด็กผู้หญิง” เคียร์เอ่ยตอบ  พลางแสยะยิ้มเหี้ยม
   
“อย่าประมาท  ถ้าได้โอกาสให้รีบกำจัดทันที” ราคลอฟเอ่ยเบา ๆ  ก่อนส่งถุงสีน้ำตาลมอๆ ให้กับชายร่างยักษ์นามเคียร์
   
“ข้าไม่ต้องการเสี้ยนหนาม ถึงจะเป็นแค่เด็กผู้หญิงก็ตาม!!!”
                                                                      @@@@@@@@@@@@@
___________________________
เสียงถ่านปะทุในเตาไฟ  กำลังบ่งบอกว่า  เตาผิงกำลังทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี  เช่นเดียวกับร่าง ๆ หนึ่งที่ยืนอยู่บนขอบหน้าต่างหินแกรนิตหรูหรา  ดวงตาสีทองและเขียวมองผ่านกระจกใส  ร่างของชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบายอุราอยู่บนเก้าอี้นวมสีแดงเลือดหมู  โดยไม่ได้รับรู้ถึงภัยที่เคลื่อนเข้ามาใกล้
   
นิ้วเรียวหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า  แสงจันทร์สลัวสะท้อนให้เห็นเงาของคมมีดเล่มเล็ก  ก่อนแนบใบมีดเข้ากับรอยต่อของกระจกอย่างชำนาญ  บานหน้าก็ส่งเสียงกริ๊กรับราวกับยินดีให้ร่างของผู้บุกรุกที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืดเข้าสู่เคหา  ร่างในเงามืดเก็บมีดพกอย่างระมัดระวัง มือที่ไม่ได้ถือดาบผลักบานหน้าต่างอย่างแผ่วเบา  ร่างบางก้าวลงบนพรมหนานุ่มเท้าสีขาวอย่างระมัดระวัง  ไร้เสียง  หากแต่ไม่ทำให้ความเร็วลดลงแม้แต่น้อย  มือขวากระชับดาบมั่น  ขณะสาวเท้าเข้าใกล้พนักของเก้าอี้สีแดงนั้นทุกที
   
วืด!!!
   
ดาบถูกเงื้อขึ้น  พร้อมจะปลิดชีพในดาบเดียว  และ
   
วูบ!!!
   
เคร้ง!!!
   
ร่างบนเก้าอี้ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว  ดาบในมือปะทะเข้ากับดาบที่ถูกยกขึ้นกันอย่างจัง
   
“นึกแล้วว่าแกจะต้องมา” บุรุษผู้ถูกลอบทำร้ายเอ่ยเยาะ  หากแต่ใบหน้านวลยังคงไม่มีอารมณ์ใด ๆ ปรากฏ
   
“ถึงจะผ่านยามทั้งโขยงของข้ามาได้  แต่ก็อย่างหวังว่าจะเอาชีวิตข้าง่าย ๆ” เปล่งคำพร้อมตวัดดาบ  ร่างบางถอยวูบไปตั้งหลักก่อนเข้าโจมตี
   
เคร้ง!!!  เคร้ง!!!  เคร้ง!!!
   
ดาบแล้วดาบเล่าถูกเหวี่ยงออกไปด้วยความเร็วเกินสายตามนุษย์จะมองทัน  หากแต่ยังไม่มีดาบใดสัมฤทธิ์ผล
   
“มีปัญญาทำแค่นี้เองหรอ” ผู้ถูกลอบทำร้ายยังเอ่ยคำเย้ย  แม้ว่าเพลงดาบจะเป็นรองคนตรงหน้าอยู่มากก็ตาม  ทันใดนั้น
   
วูบ!!!
   
ร่างของผู้ลอบทำร้ายหายวับ  ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกถึงน้ำหนักดาบที่ทิ้งลงมาจากด้านหลัง  โลหิตแดงฉานสาดกระจาย  ลมหายใจขาดวูบ  หากดวงตาสีทองและเขียวยังคงเย็นยะเยือกไร้อารมณ์เช่นเดิม  ราวกับนี่เป็นเรื่องปกติ  เช็ดคราบเลือดกับเก้าอี้แล้วเก็บเข้าฝักอย่างไม่ใยดีศพตรงหน้า
   
“ถ้ารู้วันหลังก็ช่วยเตรียมคนที่มีฝีมือกว่านี้มาคุ้มกันเถอะนะ” เรียวปากสีแดงเอยเรียบ ๆ กับร่างไร้วิญญาณตรงหน้า  ก่อนหันหลังหายวับไปในเงาจันทร์
                                                                            @@@@@@@@@@@@
บ้านไม้สีเข้มตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า  แสงไฟวูบวับราวกับมีงานเลี้ยงสังสรรค์อะไรสักอย่าง  หากแต่ร่างบางรู้ดี  สิ่งที่อยู่ภายในมันไม่ใช่อย่างที่เห็น
   
แอ๊ด!!!
   
บานประตูไม้มะฮอกกานีสีแดงถูกผลักออก  เสียงอึกทึกของคนกว่าสิบคนที่อยู่ด้านในดังเข้าโสต  คฤหาสน์หรูภายนอกเป็นเพียงฉากบังหน้า  ด้านในคือแหล่งซ่องสุมของเหล่านักฆ่า  และที่นี่ที่เธอเรียกว่า  บ้าน  มาตลอดสิบห้าปี
   
“อ้าว เกรย์  กลับมาแล้วหรอ” เสียงห้าว ๆ ร้องทักอย่างคุ้นเคย  เจ้าของเสียงคือชายร่างใหญ่ผมแดงเพลิง  ดาบบิ่น ๆ ที่เหน็บอยู่ที่เอวบอกถึงความสมบุกสมบันของเจ้าของเป็นอย่างดี
   
“อือ ”
เจ้าของนามเกรย์พยักหน้ารับอย่างเนือย ๆ  ในใจคิดว่า  ก็เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม?  พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง  ตรงโต๊ะที่ยังไม่มีคนนั่ง
   
“วันนี้จะรับอะไรดีขอรับ  คุณเกรย์” ชายแก่ร่างเล็กม่อต่อคนหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างนอบน้อมเกินพอดี 
   
“ชา ”
ริมฝีปากแดงเอ่ยห้วน ๆ  นัยน์ตาสองสีกวาดมองรอบ ๆ บาร์เหล้าที่แน่นเอี๊ยดไปด้วยนักฆ่า  ที่นี่คือศูนย์รวมของนักฆ่า  และที่นี่คือที่ที่เธออยู่
   
ตั้งแต่จำความได้  สิ่งเดียวที่เธอต้องทำในแต่ละวันก็คือ  ฝึก  ฝึก  ฝึกและฝึก  เพื่อที่จะเป็นนักฆ่าในรุ่นต่อไป  เท่าที่เธอรู้  เกรย์  หรือจริง ๆ แล้วคือเอมมิเกรย์  ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ  สิ่งเดียวที่เธอเห็นและจะต้องเป็นคือ นักฆ่า  หัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าเหล่านี้  หรือที่ถูกน่าจะเรียกว่าองค์กรมากกว่า  ส่งเธอไปฝึกดาบกับอาจารย์ดาบในเมืองอนาคินตั้งแต่ห้าขวบ  เธอกลับมาที่นี่ตอนอายุสิบสาม  ในคราบของเด็กสาวที่เย็นชา  ดูไร้อารมณ์  และในฐานะนักฆ่าหมายเลข 1
.เกรย์ที่มีพรสวรรค์ด้านการจับดาบมาตั้งแต่เกิด
ในโลกของนักฆ่า  ใครดีใครอยู่  ไม่อย่างนั้น  จากผู้ล่าก็จะกลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง  เกรย์ทราบกฏข้อนี้ดี  แต่โอกาสที่จะมีใครสามารถล้มเธอที่ดูจะสมบูรณ์แบบทั้งความเร็วและไหวพริบมีน้อยมาก  ถึงแม้ด้านกำลังจะด้อยด้วยว่าเป็นสตรีก็ตาม
“ของที่สั่งได้แล้วขอรับ  ท่านหญิง” มือเหี่ยวย่นของชายชรายกถาดบรรจุถ้วยชาไม้วางลงบนโต๊ะอย่างประนีตเป็นพิเศษ  ก่อนจะถอยกลับไปอย่างระมัดระวัง
“โอ้ว!!!  ท่านหญิง!!!”  เสียงร้องกวนประสาทอย่างที่มักจะได้ยินเสมอดังขึ้นท่ามกลางเสียงโครมคราม  ทันใดนั้น  เสียงทั้งหมดก็ดูจะถูกดูดเข้าไปในบันดล
“ท่านหญิง เอมมิเกรย์” ร่างผอมแห้งร่างหนึ่งเดินตรงมายังโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่  ใบหน้าที่เหมือนจิ้งจอกอดนอนนั้นเป็นสีแดงจัดเพราะเหล้า  ปากห้อยย้อยปรากฏรอยยิ้มเหี้ยม
“มีอะไร” เกรย์ถามเรียบ  มือทั้งสองยกชาขึ้นจิบ  ท่ามกลางความเงียบ  เงียบ  เงียบ
“ข้าถามเจ้าดี ๆ  ตอบข้าแบบนี้เรอะ” ใบหน้าหาเรื่องยื่นเข้ามาใกล้  หากแต่เกรย์ยังคงไม่ใส่ใจ
“นี่!!!  ตอบมาซิ!!!” มือผอมเกร็งผลักร่างบางไหวไปข้างหลังเล็กน้อย  เกรย์วางถ้วยชาลง
“ข้าถามว่า มีปัญหาอะไร  มีอะไรไม่พอใจมั้ย” เกรย์เอ่ยเย็น ๆ  ดวงตาสีทองและเขียวจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำเยิ้มของผู้หาเรื่อง
“อ้อ..ข้ามีปัญหาอะไร  ปล๊าว เปล่า  เปล่า  เปล่า  ไม่มีอะไรเลย  ท่านเอมมี่”
เคร้ง!!!  ฉ่า!!!
ถ้วยชาไม้ถูกตัดผ่ากลางด้วยฝีมือของดาบคู่ใจ  ปลายดาบจ่ออยู่ที่คอของคนปากอยู่ไม่สุข
“ข้าชื่อ  เกรย์” ร่างบางพูด  ดวงตาเยือกเย็นวาวโรจน์   
“งั้นหรอ  ท่านเอมมี่” ปากห้อยๆของมันยังคงหาเรื่อง  หากแต่ในมือปรากฏมีดยาว
“ข้าชื่อเกรย์” ร่างบางเอ่ยย้ำเยียบเย็น
“ข้าจะเรียกเจ้าว่าเอมมี่ มีปัญหาเรอะ”
ฟ้าว!!!
มีดสั้นลอยออกจากมือของเกรย์  เฉียดใบหน้าเหี่ยวๆของผู้หาเรื่องไปเพียงไม่กี่เซนต์  ก่อนดาบจะตวัดวูบ  คมดาบสัมผัสคอ
“มี ” เด็กสาวเอ่ยเรียบๆ  ก่อนด้ามดาบจะทุบเข้าที่คอของคนปากอยู่ไม่สุขกระเด็นไปล้มโต๊ะข้างหลัง  เจ้าตัวสลบเหมือดอย่างไม่ต้องสงสัย
เครื่องดื่มนับสิบถูกยื่นเข้าใส่เด็กสาว  เสียงที่เคยดังอึกทึกนั้นยิ่งดังเข้าไปอีก  ดาบเรียวถูกเก็บเข้าฝักเป็นครั้งที่สองของค่ำคืน 
“เจ๋งจริงๆ” ชายร่างใหญ่ผมแดงคนเดิมพูดพลางเดินเข้ามาตบบ่าเบา ๆ  “ข้ารำคาญเจ้านั่นมาตั้งนานแล้ว  จะลงมือเองก็ไม่กล้า  ขอบใจเจ้า
จริง ๆ เอ..เอ๊ย เกรย์”
“เฮ้อ ” เกรย์ถอนหายใจเบา ๆ  ก่อนค่อย ๆ เดินเลี่ยงออกมาจากความอึกทึกอย่างเงียบ  ๆ  เธอไม่เคยคิดอยากมีเรื่องกับใคร  หากแต่ความที่เธอได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่ง  จึงจำต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“มีเรื่องอีกแล้วสินะ เกรย์” เสียง ๆ หนึ่งดังจากบันไดด้านบนของเธอ  ร่าง ๆ หนึ่งเดินลงบันไดมาอย่างช้า ๆ
“ท่านราคลอฟ” เกรย์กล่าว  ก่อนก้มหัวน้อย ๆ ให้กับผู้ที่เป็นผู้คุมสถานที่แห่งนี้  และผู้ที่ดูแลเธอมาตั้งแต่จำความได้  หัวหน้าขององค์กรนักฆ่า
ที่อายุมากกว่าเธอไม่มาก  หากแต่ฝีมือนั้นประมาณไม่ได้  หรือไม่เธอเองก็ไม่เคยคิดประมาณ
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ท่านราคลอฟ” เกรย์เอ่ยอีกครั้งด้วยเสียงเรียบ ๆ
“ข้าก็ยังไม่ได้กล่าวโทษเจ้า  ข้าเองก็รู้ว่าเจ้ามีฝีมือ  และมีหลายคนอยากทดสอบฝีมือเจ้า” ราคลอฟเอ่ยยิ้ม ๆ 
“คนพวกนั้น ” ร่างบางกำลังจะเอ่ยอีกครั้ง  หากแต่ร่างสูงกว่าชิงเอ่ยก่อน
“ไม่ต้องสนใจหรอก ที่นี่เจ้าคืออันดับหนึ่ง  แต่ถ้าเจ้าคิดจะไปอยู่ที่อื่นล่ะก็ ” ร่างสูงเอ่ย  พลางส่งสายตาที่อารีหากแต่แปลความได้ว่า  ถ้า
จะไปอยู่ที่อื่นละก็ ตาย
“ข้าไม่เคยคิด” เกรย์พูดเบา ๆ
“ก็ดี” ร่างสูงยิ้มก่อนเดินผ่านเธอไปสู่ห้องโถง  เกรย์ก้าวขึ้นบันไดช้า ๆ  ไฟจากระเบียงชั้นสองสว่างไสว  ประตูนับสิบเรียงรายสองข้างราวกับ
โรงแรม  เกรย์เดินไปสุดยังประตูสุดท้าย  ก่อนผลักเข้าสู่ห้องของเธอ
โคมไฟสว่างอยู่  ห้องทั้งห้องสะอาดอย่างไร้ที่ติ  ผิดกับโถงข้างล่างอย่างสิ้นเชิง  เตียงนุ่มฟูสีขาวสะอาด  หน้าต่างเปิดไว้ให้ลมเย็น ๆ ของ
ราตรีพัดกรูเข้ามา  ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อย ๆ  ก่อนดวงตาทั้งสองข้างจะปิดสนิท
                                                                        @@@@@@@@@@@@@
   
ในห้องโถง  ราคลอฟทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่เกรย์เพิ่งลุกออกไป  เก้าอี้ข้าง ๆ ถูกจับจองโดยชายร่างมหึมาคนหนึ่ง 
   
“ยัยคนนั้น” ชายร่างใหญ่กำลังจะเอ่ย  หากแต่มือของราคลอฟยกขึ้นก่อน
   
“ใช่ เกรย์เก่งมาก  เจ้าคิดว่างั้นใช่มั้ย..เคียร์” ราคลอฟเอ่ยยิ้มแย้ม  หากแต่ดวงตาเป็นประกายกร้าว
   
“คนนั้นน่ะเหรอที่ท่านบอกว่าจะเป็นตัวอันตราย  ดู ๆ ไปก็แค่เด็กผู้หญิง” เคียร์เอ่ยตอบ  พลางแสยะยิ้มเหี้ยม
   
“อย่าประมาท  ถ้าได้โอกาสให้รีบกำจัดทันที” ราคลอฟเอ่ยเบา ๆ  ก่อนส่งถุงสีน้ำตาลมอๆ ให้กับชายร่างยักษ์นามเคียร์
   
“ข้าไม่ต้องการเสี้ยนหนาม ถึงจะเป็นแค่เด็กผู้หญิงก็ตาม!!!”
                                                                      @@@@@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น