ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    << Kill - in - D >> บริษัทรับจ้างฆ่าไม่จำกัด (เพื่อมหาชน!!)

    ลำดับตอนที่ #14 : ตัวกวนขี่ม้าขาว -_-“ (100% แล้วนะเจ้าค้า ^ ^)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 50


    13.

    ตัวกวนขี่ม้าขาว -_-“

     

                ตูม!!!

                เสียงกำแพงที่พังทลายลงด้วยน้ำมือของเจ้ายักษ์ตรงหน้าฉันที่กำลังอาละวาดฟาดหัวฟาดหางทั้ง ๆ ที่แขนข้างหนึ่งถูกกระสุนปืนฝังในชัด ๆ แต่ยังไม่ยอมล้มอีก   อะไรมันจะทนทายาทขนาดนี้ ?

                ปัง!! ปัง!! ปัง!!

                กระสุนถูกรัวออกไปสามนัดติด ๆ กันอย่างที่ มือสมัครเล่นไม่มีทางทำได้   ถึงฉันจะไม่เก่งอาวุธปืนจนใช้ได้เหมือนแขนขาอย่างริวเซ   แต่ก็นับว่าฝีมือไม่เป็นรองใครล่ะน่า!!

                ฉันหันไปดูสภาพของซาโนริโนะ   งิน

                เสื้อผ้าขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี   รอยกระสุนที่หลบไปได้อย่างฉิวเฉียดยังฝากไว้เป็นทาง ๆ สีแดงอย่างกับทางม้าลาย  

                หมอนี่บ้าอย่างกับม้า   แต่ให้ตายเถอะ!! ฝีมือประมาทไม่ได้เลย!!!

                หมัดแต่ละหมัดที่ส่งออกมาถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ รับรองจอดไม่ต้องแจว   การเคลื่อนไหวก็ไม่ได้ช้าตามขนาดตัวไปด้วย   แถม...หนังเหนียว   ยิงเข้าแต่ไม่ทะลุซะงั้น

                ส่วนฉัน   สภาพก็ถือว่าดีกว่ามาก   เพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่มีแผลหนึ่งล่ะ   และเสื้อผ้าก็ไม่ได้ขาดวิ่นอะไรนอกจากจะเปื้อนฝุ่นบ้างเท่านั้น   ปืนในมือบัดนี้ถูกบรรจุกระสุนใหม่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เพราะไม่ได้สนใจจะนับ (เออสิ...สู้อยู่ใครจะนั่งนับ    แล้วอีกอย่าง...นี่เงินริวเซ   หุหุหุ ^ ^ ดีจังตังค์อยู่ครบ!!)

                ส่วนสภาพของบ่อน...เอ่อ   อย่าให้พูด   คือกว่าจะกลับมาใช้การได้ก็คงอีกนานล่ะ   อย่างน้อยรูใหญ่ขนาดรถวิ่งผ่านได้ที่ฝากไว้บนผนังนี่ก็คงต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อจะอุดให้กลับเข้าที่เข้าทาง

                ตอนนี้ทั้งฉันและซาโนริโนะ   งินหลุดมาอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ที่ไหนสักที่ในโตเกียว   ดีที่ตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว   แม้แต่เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับก็ต้องมีบางส่วนที่ไม่มีคนอยู่บ้างล่ะ

                หนอย!!...แก!!!”

                แหม ๆ  ทีอย่างนี้น่ะมาเข่นเขี้ยว   เมื่อกี้ยังบอก จะให้ทุกอย่างเลย แง้ว ๆ จะเอาฉันขึ้นเตียงด้วยให้ได้  เหอะ!! ฝันไปเถอะย่ะ!!! เอานี่ไปกิน...สาวบริสุทธิ์คอมโบ!! ย้ากก!!!

                ปัง!! ปัง!! ปัง!!  

                หมอนั่นยังคงหลบอย่างเฉียดฉิว   ฉันเริ่มโมโหแล้วนะ...ทำไมมันไม่โดนซะทีฟะ!!! กระสุนส่วนใหญ่ทำได้แค่เฉียดหนังหนา ๆ นั่นไปแล้วฝากรอยแดง ๆ เลือดซิบเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

                เฮ้อ!!! สงสัยงานคราวนี้ต้องเรียกเงินเพิ่มแหง ๆ   ฐานทำให้ชุดฉันเปื้อนจนต้องส่งซักรีด -*-

                ปัง!!!

                ฉันเล็งปืนขึ้นฟ้า   สำหรับหมอนี่   มันคงจะเป็นการกระทำที่ดูโง่เง่ามากเลยสินะ   เพราะมันหัวเราะใส่หน้าฉัน

                เหอะ ๆ   ทำอย่างนี้หมายความว่ายอมแล้วล่ะสิ ? ดี!!...คราวนี้ฉันจะเอาคืนให้หนัก ๆ!!!”

                หึ ฉันยิ้ม    ลดปืนลง ใครจะโง่ยอมทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่ากัน...แล้วก็ดูซะให้ดี ๆ

                เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!

                เสียงลูกปืนที่เมื่อกี้ถูกยิงขึ้นฟ้ากระทบเข้ากับท่อระบายน้ำก่อนจะเบี่ยงทิศทาง   มันเหมือนกับจะหันเหทิศทางทุกครั้งที่ชนกับอะไรก็ตามที่ขวางหน้า   ก่อนจะ...

                อุ่ก!!!

                เข้าเต็ม ๆ ท้องของเจ้าหมอนี่เลย!!!~

                รีเฟล็คช็อตที่จำมาจาการ์ตูนนี่ใช้ได้จริง ๆ ด้วย!! โอ้ว!!!...ไม่อยากจะเชื่อเลย!! (การ์ตูนเรื่องไหน   ไม่บอกแล้วกันนะ   อิอิ...ความลับทางการค้าจ้า ^--^)

                ทีนี้ก็บ๊ายบายได้แล้วสินะ ?

                อ้าก!!!

                โห!!...อย่างนี้เค้าเรียกว่าแรงบ้า   หมอนี่วิ่งเข้าใส่ฉันอย่างกับหมาบ้าโดนน้ำ   เห็นท่าว่าคงจะพยายามหนีให้รอดจากมัจจุราชหน้าสวย (?) อย่างฉันให้ได้   ฉันเบี่ยงหลบ   เดี๋ยวค่อยยิงทิ้งทีหลังก็ได้...แต่ว่า

                ควาก!!!

                เฮ้ย!!!

                หมอนี่หันกลับมาทันควันเหมือนจะสลัดฉันให้หลุด    มือของเขาตวัดใส่ฉัน   แต่แทนที่จะตวัดซ้ายไปขวาอย่างที่ฉันคาดมันกลับตวัดจากล่างขึ้นบน   ถึงจะหลบได้   แต่เสื้อดันโดนเกี่ยวขาดซะยาวจนฉันต้องรีบตะครุบเสื้อเอาไว้ก่อนฉากนี้จะโดนเซ็นเซอร์  >_<

                หนอยแน่!! ไม่ออมมือแล้วโว้ยยย!!!~ บังอาจทำเสื้อฉันขาด!!

                ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!

                กระสุนสี่นัดถูกยิงโดยเทคนิครีเฟล็คช็อตทั้งหมดพุ่งไปพุ่งมาจนดูลายตา   ก่อนจะพุ่งตรงเข้าสู่จุดตายทั้งหมดของเจ้ายักษ์ที่หันหลังเตรียมจะวิ่งหนี

                เออ...ใครจะว่าฉันเล่นงานเหยื่อที่หันหลังให้แล้วก็ตามใจ   ศักดิ์ศรีมันเอาไปซื้อบะหมี่กินไม่ได้นี่นา >,.<

                ฉันแกล้งเป่าปากกระบอกปืนเหมือนนางเอกหนังแอคชั่น

                บ๊ายบายของจริง...ลาล่ะ!!!”

                ร่างใหญ่ล้มลงดังตึง    แต่ว่า...

                กรี๊ด!!! ตายแล้ว!!...มีคนตาย!!!”

               

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

               

                ท่านคิทสึเนะ   ทำอย่างนี้ผมไม่เห็นด้วยนะครับ...ถ้าหากเรื่องแดงออกไปถึงซานาดะล่ะก็...

                รู้แล้วน่า

                ผมตอบออกไปเรียบ ๆ   

                ท่านคิทสึเนะก็บอกว่ารู้แล้ว ๆ    แต่ช่วยปฏิบัติตามหน่อยสิครับ!!”

                ผมถอนหายใจเฮือก 

                นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั้งที่ซาโนะพูดเรื่องนี้   และแน่นอนว่าผมก็ได้แต่ทำหูทวนลมไปเรื่อย ๆ   ปล่อยให้องครักษ์ขี้กลัวบ่นราวกับเป็นคุณพ่อขี้หวงลูกสาวที่จับได้ว่าลูกสาวกำลังจะมีแฟนคนแรกยังไงอย่างนั้น

                ผมเหลือบมองนาฬิกา    นี่จะห้าทุ่มแล้ว   ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปราวกับติดปีกอย่างนี้

                หลังจากที่ผมไปทานข้าวกับซายุแล้ว   ก็เลยพาเธอไปส่งที่บ้าน...เอ่อ - - อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยเถิดนะครับ   แค่ไปส่งจริง ๆ เพราะซายุบอกว่าที่บ้านเธอไม่มีคนอยู่   ก็เลยแวะไปส่งให้   หลังจากนั้นก็แวะไปงานเลี้ยงสังสรรค์เสียหน่อยเพราะแม่ของผมเคยเปรยไว้หลายครั้งแล้วว่าอยากให้ไปด้วยกันทั้งครอบครัว   ซึ่งมันก็ทั้งครอบครัวจริง ๆ จนผมทนสายตาอาฆาตและท่าทีเย็นชาของท่านพี่คาสึโยะไม่ได้   ต้องขอตัวออกมาก่อน    แต่ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าแล้ว   คืนนี้ผมคงไม่แคล้วกลับถึงบ้านเที่ยงคืนแน่ ๆ ครับ

                รถแล่นผ่านใจกลางเมืองที่บัดนี้ยังพอจะหลงเหลือผู้คนอยู่บ้างแต่ก็ไม่มาก   และจุดประสงค์ของการมาก็คงจะไม่ใช่แค่มาเดินเล่นจับจ่ายเป็นแน่แท้

                ท่านคิทสึเนะคร้าบบบบ...เห็นแก่ข้าน้อยคนนี้เถอะครับ   ไม่ว่ายังไงเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว   ท่านคิทสึเนะกับคุณหนูยูเอะก็เหมือนกับแต่งงานกันไปได้ครึ่งทางแล้วนะครับ

                พอเถอะ...ทำให้ผมเครียดเปล่า ๆ

                ได้ผล    คำพูดที่กำลังจะตามมาอีกยาวเหยียดของซาโนะหยุดชะงักลงทันที

                ผมล่ะขนลุกจริง ๆ กับคำว่าแต่งงานเนี่ย   จริง ๆ นะ...ถ้าเรื่องยังวุ่นวายอยู่อย่างนี้ผมคงจะไปโกนหัวบวชพระจริง ๆ แล้วล่ะ    เฮ้อ!!

                เอี๊ยด!!

                เสียงรถเบรกกะทันหันเมื่อรถคันหน้าดันหยุดโดยไม่ให้สัญญาณเตือนใด ๆ   อยู่ ๆ รถก็ติดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้สารถีจำเป็นมุ่ยหน้า

                อะไรกัน ? นี่จะเที่ยงคืนอยู่แล้วรถจะมาติดอะไรนักหนา ?

                ผมเลิกคิ้ว   ดูเหมือนทุกคันจะตกลงปลงใจกันหยุดด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง   ซึ่งผมยังมองไม่เห็น

                เอ๋ ? อะไรเนี่ย ?   มีงานเทศกาลลดราคาสินค้ารึไง ?

                ซาโนะเอ่ยเสียงเซ็ง ๆ พลางมองตามคนหลายคนที่เดินลงจากรถแล้วตรงไปยังตรอกเล็ก ๆ ตรอกหนึ่งซึ่งเมื่อก่อนคงแทบไม่มีใครอยากแม้กระทั่งชายตามอง   แต่ตอนนี้มันกลับเป็นเป้ารวมสายตาของทุกคน   สาเหตุคงไม่พ้นเพราะรถตำรวจที่ส่งเสียงวี้ ๆ กระหึ่มบ่งบอกให้รู้ยิ่งกว่าป่าวกระกาศว่ามีเหตุการณ์ไม่สู้ดีเกิดขึ้น   และ...เป็นที่แน่นอนว่า   มีเหตุร้ายที่ไหน...ย่อมต้องมีคนอยากรู้อยากเห็นอยู่ที่นั่น

                เสียงคนที่ซุบซิบกันดังมาเข้าหูผมโดยบังเอิญ

                มีคนตายล่ะ!!”

                อะไรนะ!?! คนตาย!? ตายยังไง ?

                โดนยิงตาย!!...คนยิงเป็นเด็กผู้หญิงด้วย!!!”         

                หา!?! แล้วทำไมอยู่ ๆ เด็กผู้หญิงคนนึงถึงจับปืนขึ้นมายิงคนตายล่ะ!?!”

                ไม่รู้...จริง ๆ คนยิงก็ไม่เด็กหรอก   สาว ๆ นี่ล่ะ   เห็นเขาบอกกันว่า   เด็กคนนั้นจะโดน ตี๊ด!!”

                อะไรเล่า!?  ตี๊ด!!’ เนี่ย!!?”

                โธ่!! ก็ ตี๊ด ไง!! ตี๊ดน่ะตี๊ด!!!”

                ผมส่ายหน้า   ไม่ได้อยากรู้หรอกนะว่าไอ้ตี๊ดที่ว่านี่คืออะไร   แต่สงสัยคงต้องลงไปดูซะหน่อยล่ะ

                จะลงไปดูหรือครับ ? ท่านคิทสึเนะ ?

                ซาโนะเฝ้ารถอยู่ตรงนี้แหละ   เดี๋ยวผมก็กลับมาแล้ว

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

                 

                ไม่นานตำรวจก็มาถึง   ซวยล่ะสิฉัน!! ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพที่ถูดหลักฐานมัดตัวแน่นหนา   เลือดยังเปื้อนเต็มตัวอยู่เลยเพราะตกใจจนลืมหลบเลือด   แถมซากของเจ้าเหยื่อตัวยักษ์ก็ยังนอนแผ่หลาอยู่ใกล้ ๆ   แล้วยังปืนในมือ...โอ้!! ไม่รู้ชะตากรรมจะกลั่นแกล้งเด็กตัวน้อย ๆ ไปถึงไหน U_U

                แต่ไม่ได้!! ชีวิตต้องสู้!!! TT^TT v

                เมื่อคิดได้อย่างนี้   ต่อมเมคสตอรี่ (แปลว่าสร้างเรื่อง  โกหก  อะไรก็ว่ากันไป -*-) ก็ทำงานเองโดยอัตโนมัติทันที (เอ่อ...ไอ้ต่อมที่ว่านี่มันอยู่ส่วนไหนกันยะ - -* เกิดมาไม่เคยได้ยิน)

                จากการทำงานอันล้ำเลิศมิมีใครเทียมของต่อมเมคสตอรี่ของฉัน   ส่งผลให้น้ำหูน้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ทันที   และร่างทั้งร่างก็พลอยเซจนลงไปนั่งทรุดแปะอยู่กับพื้น (ที่สกปรกเป็นบ้า...กลับบ้านสงสัยต้องเอาแอลกอฮอลล์ล้าง -*- แหยะ!! โสโครกชะมัด!!!)

                ฮือ ๆ ๆ!!!

                เอาฟะ!!! เห็นสาวน้อยเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งแถมยังนั่งร้องไห้อยู่ในตรอกมืด ๆ อย่างนี้...เข้าใจเป็นอย่างอื่นก็ให้มันรู้กันไปสิ!!!

                นี่!! หนู ๆ   เป็นอะไรรึเปล่า ?

                คุณตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยในอาการของฉัน   สงสัยเพราะต่อมบ้านี่ทำงานได้ดีเกินเหตุส่งผลให้ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ซะทีจนดูน่าสงสารจริง ๆ

                ฮือ ๆ ๆ!!! แง้!!!

                เป็นอะไร!!?   เกิดอะไรขึ้น   หนูเป็นอะไรไป ?

                หนอย!! ฉันสิบเจ็ดแล้วนะยะ...ไม่ใช่หนูแล้วโว้ย!!!

                แต่เอาเถอะ...เพื่อความอยู่รอด   ฉันยอม!! Y^Y

                ค...คือ ฉันเริ่มพูดด้วยเสียงสั่น ๆ   ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ดูยังไงก็พวกชอบสอดรู้เรื่องชาวบ้านชัด ๆ เริ่มมามุงกันมากขึ้น   และฉันก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ราวกับโดนแก๊สน้ำตา   ช่างสมจริงเสียเหลือเกิ๊น!!

                ค...คือ   ผู้...ผู้ชายคนนี้จ...จะ   ตี๊ด!!~ ฉัน!!!”

                เออ...ฉันไม่ได้โกหกนะ   ก็ตามพจนานุกรมฉบับของฉัน   คำว่า ตี๊ด!! แปลว่า วิ่งหนี นี่นา    เพราะฉะนั้น...ตี๊ดฉัน   ก็แปลว่าวิ่งหนีฉัน   เห็นมั้ย ? ไม่ได้โกหกสักกะนิด (โกหกเต็ม ๆ เลยหล่อนน่ะ!! = =””)

                คุณตำรวจทำหน้าตาแตกตื่น   เป็นสัญญาณว่าแผนของฉันกำลังไปได้สวย   แม้อาจจะต้องมีเรื่องถึงขึ้นโรงขึ้นศาล   แต่แน่นอนว่าคนผิดไม่ใช่ฉันแน่ ๆ เพราะฉันทำไปเพื่อป้องกันตัวนี่นา...อิอิ   แล้วอีกอย่าง   นายซาโนริโนะ   งินก็ลุกขึ้นมาชี้แจงไม่ได้แล้วด้วย   555+ สบายบรื๋อ

                ตะ...แต่ฉันเพิ่งกลับมาจากชมรมยิงปืน   ก...ก็เลยคว้าปืนขึ้นมาได้  ละ...แล้ว   แล้ว...

                ฮือ!!!~

                ฉันเริ่มร้องไห้หนักขึ้น   แสดงท่าเป็นนางเอกเต็มที่ ^ ^ V ผู้คนรอบข้างที่มามุงเริ่มทำเสียงแสดงความเห็นใจฉันกันใหญ่    ก็แหงล่ะ...ดูยังไง ๆ ฉันก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ   หมอนั่นสิ...ตัวใหญ่ยังกับยักษ์   ดูยังไงก็น่าจะเป็นฝ่ายระรานคนอื่นก่อนชัด ๆ

                เอ่อ...แล้ว   หนูเป็นอะไรรึเปล่า ?

                ม...ไม่เป็นไรค่ะ   แต่ว่า...ข...เขา

                ฉันชี้นิ้วสั่น ๆ ไปทางซากของเจ้าคนร่างยักษ์ที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง

                ตายแล้ว... คุณตำรวจทำสีหน้ากระอั่กกระอ่วนใจ    ในขณะที่เสียงรอบข้างดังหึ่ง ๆ ขึ้นเหมือนมีผึ้งมาบินกันสักฝูง    คำที่ฉันพอจับความได้ก็คือ

                สมน้ำหน้าแล้ว!!   ยังโชคดีที่มีปืนอยู่กับตัวนะเนี่ย   คนสมัยนี้แย่จริง ๆ

                โอ้ย!! เกือบไปแล้ว...น่าสงสารจริง ๆ เลยต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ตั้งแต่ยังสาว ๆ

                นั่นสิ...ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้ไม่รู้เป็นยังไงแล้ว   ยังโชคดีนะเนี่ย

                เหอ ๆ   เห็นไหม ? ประชาชนลงความเห็นอย่างนี้ฉันรอดชัวร์!! ฟันธง!!!

                แต่ไม่เป็นไรนะ... คุณตำรวจรีบบอก ...เป็นการต่อสู้ป้องกันตัว   ไม่เป็นคดี   แต่ว่า   คงต้องไปกับพวกเราก่อนจะได้ไหม ? แค่แปปเดียวเท่านั้น

                เอาล่ะสิ...ไม่ไปไม่ได้หรอ!?! เค้าเกลียดโรงพักอ่ะตัวเอง >,< ดูยังไงนักฆ่ากับโรงพักนี่มันก็อยู่กันคนละขั้วชัด ๆ

                แต่ถ้าจะไม่ไป...เดี๋ยวความก็แตกกันพอดี

                เอาไงดี ?

                ผมว่าคงไม่ต้องหรอกครับ

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

                                                                          

                ผมว่าคงไม่ต้องหรอกครับ

                เฮ้อ!! อะไรดลใจให้ผมพูดคำ ๆ นี้ออกไปนะ ?

                ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจแท้ ๆ ว่าแม่นี่น่ะตัวอันตราย   แล้วก็น่าจะรู้   ว่าท่าทางอันแสนจะบอบบางน่าสงสารนี่น่ะมันก็แค่การแสดงละครตบตาที่จะทำให้แม่คุณพ้นสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังจะถูกจับได้

                แต่...เห็นท่าทางร้องไห้อย่างน่าสงสารปานจะขาดใจที่ตีบทแตกจนน่ายกตุ๊กตาทองให้สักตัวสองตัวแล้ว   มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดออกไป

                ตำรวจในเครื่องแบบหันหน้ามาทางผม   ก่อนจะขมวดคิ้วเหมือนกำลังจะนึกอะไรบางอย่าง

                คุณ ?...เอ่อ

                จะถูกเรียกว่าคุณก็ไม่แปลกหรอกครับ   ก็ตอนนี้ผมเล่นใส่สูทซะหรูเพราะเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงสังสรรค์

                มินาโมโตะ   โนะ   คิทสึเนะครับ

                ผมแนะนำตัว   เสียงซุบซิบยิ่งกระหึ่มขึ้น   คงเป็นเพราะนามสกุล มินาโมโตะ ที่แสนจะโด่งดังและร่ำรวยขนาดที่คนรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองของผม

                อ้อ!! นายน้อยของมินาโมโตะนี่เอง   ผมก็ว่าเคยคุ้น ๆ หน้าของคุณที่ไหน   ผมเคยเจอคุณอยู่แว่บหนึ่งน่ะครับตอนนั้นคุณยังเด็ก ๆ อยู่เลย    คุณพ่อของนายน้อยน่ะช่วยให้ผมเข้ามาเป็นตำรวจได้ยังไงล่ะครับ

                ผมนิ่วหน้านิด ๆ   เอ่อ...แต่ผมจำอะไรเกี่ยวกับคุณตำรวจคนนี้ไม่ได้สักนิด   แต่เอาเถอะ...ต้องเล่นไปตามน้ำ

                แล้ว...เด็กผู้หญิงคนนี้ทำไมหรือครับ ? มีอะไรหรือ ?

                คือว่า...เธอคนนี้   เธอเป็น... ผมเหลือบมองไปทางยัยโหดที่นิ่งสนิทเหมือนโดนแช่ปูน

                เฮ้อ!!

                ผมลอบถอนหายใจเบา ๆ

                เธอเป็น...

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

                เฮ้ย!! เสียงคุ้น ๆ อ่ะ...

                ฉันกะพริบตา   เสียงใครหว่า...คุ้นมากเลย   ฉันแอบเงยหน้านิดหนึ่งระหว่างที่ไม่มีใครสนใจฉัน    และคนที่ฉันเจอก็คือ...

                อ้ากกก!!! ทำไมต้องเป็นนายคนนี้ด้วย!!...ไอ้ตัวกวน!!!

                โอ้ย ๆ ๆ!! เรามาลืมความแค้นแต่หนหลังกันเถอะนะ!!!    อย่าเพิ่งมาอาฆาตแล้วแฉฉันตอนนี้เลย   นะ ๆ ๆ   เอ่อ   คิทสึเนะคุงสุดหล่อ!!

                โอย...ตอนนี้ถ้าทำได้ฉันคงจะกุมมืออธิษฐานไปแล้ว >[]<

                คือว่า...เธอคนนี้   เธอเป็น...

                เป็นหมูเป็นแมวอะไรก็ได้!!  ห้ามพูดออกไปน้า!!!

                ถ้าแกพูดออกไปว่าฉันเป็นนักฆ่าล่ะก็   ฉันจะตามมาถลกหนังแกแน่!! แฮ่ ๆ >.,<

                เธอเป็น...

                เป็น...เป็นอะไรเล่า!!! ถ้าคิดไม่ออกก็ไม่ต้องพูดแล้วเดินหันหลังกลับไปเลยก็ได้!! อย่ามาทำให้ฉันความดันขึ้นแบบนี้!! อ้ากกกก!!!~ (ความดันกระฉูดเกินห้าร้อยไปแล้ว >,,< : ยูเอะ)

                เธอเป็น...ว่าที่คู่หมั้นของผมครับ

                ชิ้ง!!!

                อ...อะไรนะ!!? เมื่อกี้สงสัยฉันหูไม่ดี   รู้สึกเหมือนได้ยินอะไรแปลก ๆ

                ห...หา!!? คู่หมั้นหรอครับ!!!” คุณตำรวจย้ำ

                ชัดเต็มสองรูหูเลยค่า!!! >[]< นี่ฉันจับผลัดจับผลูไปเป็นว่าที่คู่หมั้นของคนลักเพศพรรค์นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!? ยอมไม่ได้โว้ยยยย!!!

                แถม...ดูเหมือนหมอนี่จะต้องการย้ำความสัมพันธ์ (ที่ไม่เคยมี) ของเราสองคนให้ชัดขึ้นด้วยการถอดเสื้อนอกมาห่มคลุมให้ฉันเสียอีก

                กรี๊ด!! ฉันไม่รับน้ำใจจากศัตรูโว้ยยย!!!

                ยูเอะ...ไม่เป็นไรนะ ?

                เอ่อ... - - น้ำเสียงแบบนั้น  

                อบอุ่น   อ่อนโยน...เป็นห่วงเป็นใย   แต่พอเงยหน้าขึ้นมาดูนี่สิ

                ที่ตาหมอนั่นอย่างกับมีป้ายปักบอกเอาไว้เลยว่า

                จบงานนี้แล้วมาเคลียร์กันซะดี ๆ หราเลย!!!

                ไม่ยักรู้ว่าหมอนี่ก็ตุ๊กตาทองเหมือนกัน   หุหุ...อย่างนี้ก็สวยสิ!! เขาเรียกว่าอะไรนะ ?   ตีบทแตกทั้งคู่   โฮะ ๆ ๆ!!!

                ก...ก็คิทสึเนะคุงน่ะ   ไม่ยอมมารับเค้า!!! ก็บอกแล้วว่าวันนี้ต้องกลับดึก ฉันต่อว่าทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดให้มากความ   คิดบทกันสด ๆ ตรงนี้แหละ   หึหึ

                ฉันได้ยินเสียงหมอนั่นถอนหายใจและเสียงโห่วี้ดวิ้วจากรอบข้างให้กับบทโศกาของฉันที่อย่างกับก็อปมาจากละครยังไงอย่างนั้น    เมื่อหมอนั่นหันมาทางฉันอีกครั้ง    หน้าตาหมอนั่นเบ้สุด ๆ ก่อนจะกลับมาเป็นอ่อนโยน   ห่วงใยเหมือนเดิม

                ขอโทษ...คราวหน้าผมจะไม่ทิ้งยูเอะอีกแล้ว   งั้นเดี๋ยวผมพาไปส่งบ้าน

                ไม่ต้องเลยโว้ยยยย!!! ฉันกลับเองได้!!!

                แต่ไม่ทันแล้ว   ตามสคริป   ฉันในฐานะนางเอกแสนบอบบาง (ตรงไหน) ก็ถูกพระเอก (ที่กวนเป็นบ้า) พยุงขึ้นจากพื้นอย่างแนบแน่น

                เฮ้ย ๆ  มันจะตีบทแตกมากเกินแล้วโว้ย!! ไม่ต้องแนบแน่นขนาดนั้นก็ได้!!!

                ฉันกัดปาก   เพราะหมอนี่แทบจะรวบเอวฉันแล้วอุ้มให้ลุกขึ้นจากด้านหลังอยู่แล้ว

                แต่เดี๋ยวก่อน...นี่มันเหมือนกับกอดกันเลยนี่หว่า >/////< ไม่น้า!! นอกจากปะป๊าแล้วก็พี่ริวจินกับไอ้คุณริวเซแล้วฉันยังไม่เคยโดนผู้ชายกอดเลยน้า!!!

                ถ้างั้น...ผมขอพายูเอะกลับก่อนเลยนะครับ   เดี๋ยวทางบ้านเธอจะเป็นห่วง

                นายจอมกวนตัดบทเอาซะง่าย ๆ อย่างนั้น   และดูเหมือนคุณตำรวจก็จะเกรงใจหมอนี่เป็นพิเศษเสียด้วยจึงยอมให้คิทสึเนะพาฉันออกมาจากวงล้อมของญี่ปุ่นมุงออกมาได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล

                เอ่อ...เพราะไอ้ที่น่ากังวลน่ะมันหลังจากนี่ตะหาก!!~

                ไม่น้า!!!~ นี่ฉันตกอยู่ในกำมือของเจ้าคนวิปริตนี่แล้วหรอ!!?

                กรี๊ด!!

                (ผมไม่เอาคนอย่างยัยนี่หรอกครับ -*- สาบาน : คิทสึเนะ)

      

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

     

                บรรยากาศค่อนข้างเต็มไปด้วยความกระอั่กกระอ่วน   ก็เพราะ...ผมบอกซาโนะว่าจะรีบไปรีบกลับ   แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาใครกลับมาด้วยนี่นา

                แล้วแทนที่ซาโนะจะดีใจที่เห็นผมกลับมาอยู่กับร่องกับรอยที่ควรจะเป็นเสียที   แต่เจ้าตัวแทนที่จะดีใจกลับทำสีหน้าปั้นยากเสียนี่

                ส่วน...ต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งหมดกำลังแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ ๆ ใส่ผม

                ซาโนะ...ไปโรงแรมคอร์นเวสต์

                คำพูดเรียบ ๆ ของผมที่ทำให้ทุกคนพากันหันมามองผมกันอย่างเลิ่กลั่ก   ก่อนที่คนพูดขึ้นก่อนจะเป็นซานาดะ   ยูเอะ   ยัยจอมโหดนี่เอง

                ไม่!!...ยังไงฉันก็ไม่เข้าโรงแรมกับนายแน่!!!”

                โอ้ย!!~

                ผมหรี่ตาลงอย่างเบื่อหน่าย   แค่มองสีหน้าก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอกุศลอยู่แหง ๆ

                ผมไม่ได้จะทำเรื่องพรรค์นั้น    แค่จะให้เธอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า   ผมไม่อยากจะไปส่งเธอกลับบ้านในสภาพนี้...มันเหม็นคาวเลือด

                ดูเหมือนคำพูดของผมจะทำให้ยัยความรู้สึกช้าตรงหน้านึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองมีเลือดเปรอะเต็มตัว

                เชอะ!! ฉันกลับบ้านด้วยสภาพนี้ได้...โตเกียวตอนกลางคืนน่ะไม่มีใครสนใจกันหรอก   ลาล่ะ!!”

                เฮ้ย!! นี่จะเอาจริงเหรอเนี่ย!!? จะใส่ไอ้เสื้อเปื้อนเลือดนี่ออกไปเดินกลางถนนนี่น่ะนะ ?

                ผมได้แต่อึ้งกับความบ้าบิ่นและทิฐิเกินบรรยายของยัยโหดตรงหน้า   ก่อนความรู้สึกผิดชอบจะทำให้ผมคว้ามือยัยบ้านี่เอาไว้ก่อนจะเปิดประตูออกไปจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่รถยังวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่าสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง

                อะไร!!?”

                ยูเอะหันมาแยกเขี้ยวแฟ่ ๆ   ผมกระชากตัวเธอกลับเข้ามาในรถ   ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดประตูทางฝั่งของเธออย่างรวดเร็ว

                ฉ่า!!

                เสียงฉ่าอะไร ?

                ผมเลิกคิ้ว   เหลือบมองใบหน้าของซานาดะ   ยูเอะที่เป็นต้นเหตุของเสียงฉ่า   บัดนี้ใบหน้าขาวนั้นซ่านสีแดงเรื่อ  

                เอ่อ...มันก็น่า...

                ก็ผมเล่นกระชากตัวเธอกลับ   แล้วเอื้อมมือมาปิดประตูอย่างนี้...ทำให้ใบหน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบ  

                เป็นช่วงเวลาทะเลสงบก่อนคลื่นลมจะพัดกระหน่ำ

                อ้ากกก!!! ไอ้โรคจิตวิปริตลามก!!!...ออกไปนะ!!

                ผัวะ!!!

                ท่านคิทสึเนะ!!”

                ซาโนะหันควับมากลางคันเมื่อได้ยินเสียงเพียะอันเป็นสัญญาณบ่งบอกได้อย่างดีว่า    นายน้อยของเขาคงจะต้องถูกประทุษร้ายอยู่เป็นแน่

                วืด!!

                รถเซวูบ

                มองทางสิซาโนะ!!!”

                ผมหันไปตวาด   องครักษ์หนุ่มรีบหันกลับไปยังพวงมาลัย   บังคับรถเอาไว้ได้ก่อนมันจะพุ่งชนถังขยะอย่างเฉียดฉิวชนิดที่ทำเอาผมต้องส่ายหน้า

                ...รู้อย่างนี้เมื่อเช้าน่าจะเช็คดวงก่อนออกจากบ้าน...

                ดวงตาสีขี้เถ้าเหลือบมองเจ้าของรอยฝ่ามือที่คงจะประทับตราตรึงอยู่บนหลังของเขาไปอีกนานแสนนาน

                ไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้เลยสักนิด...

                รู้งี้ทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วรีบกลับบ้านดีกว่า

                แล้วออกมาทำไม ? ดึกดื่นป่านนี้...หรือว่า ?

                มาทำงานน่ะสิ...ถามได้   ไม่งั้นป่านนี้ฉันนอนอยู่บ้านสบายใจไปแล้ว

                งาน ?ผมหรี่ตาลง   อารมณ์เริ่มจะกรุ่น ๆ ขึ้นมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้   อาการนิ่งสงบนี่คนที่รู้จักกับผมมักจะรู้ดีว่าเป็นท่าทางเวลาที่ผมกำลังโกรธ

                งานนักฆ่าน่ะหรอ ?   วันนี้ฆ่าไปได้กี่คนล่ะ ?

                น้ำเสียงของผมคงจะส่อแววประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด   เพราะยูเอะยิ่งแยกเขี้ยวแฟ่ ๆ ยิ่งกว่าเดิม

                ไม่เกี่ยวกับนาย!! ฉันจะฆ่าไปกี่ศพก็ไม่เห็นเกี่ยวกับนายเลยสักนิด!!!”

                งั้นหรอ...งั้นรู้ไหมว่าคนที่ไร้ความผิดน่ะต้องตายเพราะนักฆ่าอย่างพวกเธอไปไม่รู้เท่าไหร่!!!”

                คงเป็นเพราะผมโกรธจนหน้ามืด   ทำให้เผลอตวาดอย่างนั้นใส่หน้าเธอ   ผมกัดฟันแน่น   รู้ว่าแสดงท่าทางไม่สมควร...แต่ตอนนี้   ความเกลียดมันพุ่งขึ้นมาจนยากจะควบคุม

                พูดอย่างกับนายไม่ใช่นักฆ่า!! นายมันก็นักฆ่าคนนึงล่ะว้า!!!”

                ควับ!!!

                มือของผมตวัดออกทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้สั่งสักนิด   มันตวัดไปโดยมีเป้าหมายอยู่ที่คอของเจ้าคนพูดไม่รู้จักคิดตรงหน้า

                วืด!! ปึง!!!

                ทว่า...ยัยจอมโหดกลับหลบได้อย่างหวุดหวิด   ทำให้มือข้างนั้นวืดไปชนประตูรถด้านในอย่างแรง   และ...แรงที่ผมใส่เสียเต็มกำลังโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นก็ส่งให้ร่างผมถลาวืดตามไป  

                เอ่อ   ผมยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้ต้องการให้มันออกมาในรูปนี้...แต่มันก็เป็นไปแล้ว

                ตอนนี้ยูเอะกำลังถูกผมต้อนเข้ามุมรถแคบ ๆ    กลิ่นเลือดคาว ๆ ที่ผมแสนเกลียดลอยแตะจมูกอย่างจังเมื่อใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

                ผมเคี้ยวฟัน

                ถอนคำพูด... เสียงของผมแหบพร่า   ความโกรธแล่นเป็นริ้ว ๆ   ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมจะโกรธจนวู่วามอย่างนี้มาก่อน

                ...ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!!”

                ไม่!!” ยูเอะตอบหน้าตาเฉย   ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นจ้องผมกลับอย่างไม่มีแววหวาดกลัวอยู่เลยสักนิด

                ฉันพูดความจริง...คนที่หนีความจริงคือนายต่างหาก!!”

                ซาโนะเห็นท่าไม่ดีตั้งเค้ามาแต่ไกล (จริง ๆ ก็น่าจะเห็นได้ตั้งแต่รับยัยปากมอมนี่ขึ้นรถมาด้วยกันแล้วล่ะ) จึงรีบตะโกนห้ามทัพ

                ถึงโรงแรมคอร์นเวสต์แล้วนะครับ!!”

                ได้ผล   ความคุกรุ่นที่กำลังจะระเบิดเป็นสงครามย่อย ๆ บนรถคันเล็ก ๆ นี่สงบราบทันทีราวกับใช้เวทย์มนต์   ผมหันไปมองตึกสุงระฟ้าที่ประดับประดาไฟอย่างสวยงาม   แล้วดึงตัวเองกลับไป   ไม่หันมามองหน้ายูเอะอีกเลย...

                ซาโนะ...ติดต่อคุณซาจิคาว่าให้หน่อย   บอกว่าผมมานะ

                เอ๋ ?

                คุณซาจิคาว่าที่ผมพูดถึงน่ะเป็นผู้จัดการแห่งนี้นั่นเอง   ไม่สิ...จริง ๆ ต้องเรียกว่าผู้จัดการโรงแรมที่ได้รับการแต่งตั้งจากพ่อของผมมากกว่า  เพราะโรงแรมนี้ก็เป็นหนึ่งในเครือของมินาโมโตะกรุ๊ปเหมือนกัน

                ส่วนที่ว่า...ทำไมผมต้องทำให้มันใหญ่โตขนาดเรียกผู้จัดการโรงแรมมาพบน่ะ

                เอ่อ   คือ...เพราะว่าวันนี้   ผม...

                ไม่มีเงินครับ!!  = =

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

               

                นายน้อย...แหมวันนี้อุตส่าห์ให้เกียรติมาถึงที่นี่เชียวนะครับ

                คุณซาจิคาว่าเป็นชายแก่ท่าทางใจดีและมักจะอยู่ในโรงแรมนี้เสมอ   สถานที่สิงสถิตประจำของแกคือบ้านที่ชั้นยี่สิบ...เพราะแกมักจะออกเงินเปิดห้องที่ชั้นนั้นเอาไว้สำหรับนอนอยู่เฝ้าโรงแรมนี้   ด้วยความรับผิดชอบบวกความทุ่มเทให้กับหน้าที่ทำให้แกได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อของผมเป็นอย่างมาก   ถือเป็นคนเก่าแก่คนหนึ่งที่รับใช้มินาโมโตะเลยทีเดียว

                สวัสดีครับ...คุณซาจิคาว่า

                ผมโค้งให้นิดหนึ่งตามมารยาท   แม้ว่าผมจะอยู่ในศักดิ์ที่สูงกว่า   แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคิดว่า...คนอายุน้อยก็ควรจะให้ความเคารพคนอายุมากกว่าอยู่ดี

                สายตาของผู้จัดการโรงแรมนั้นเหลือบไปยังยัยจอมโหดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม   ก่อนจะหันกลับมาด้วยสายตาแสดงคำถามเต็มที่

                คนนี้คือซานาดะ  ยูเอะครับ...เป็น   เออ...

                อ้อ...ยินดีต้อนรับคุณหนูยูเอะ คุณลุงค้อมหัวให้นิดหนึ่งโดยไม่ได้ว่าอะไรเลยที่เสื้อของยัยนี่เปื้อนเลือดเป็นแถบ ๆ   เล่นเอายูเอะโค้งตามแทบไม่ทัน

                คุณซาจิคาว่าครับ...คือ    ผมอยากจะขอยืมห้องให้ยูเอะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย   แค่นั้นเองครับ

                ได้ครับนายน้อย คุณลุงซาจิคาว่าค้อมหัวให้   ไม่ซักถามอะไรต่อ    เพียงแค่ผายมือและให้พนักงานคนหนึ่งเดินไปส่งที่ห้องเท่านั้น

                แล้วก็... ผมหันมาบอกอย่างเกรงใจอยู่นิด ๆ ที่อยู่ ๆ โผล่มาก็มาเรียกร้องอะไรมากมายขนาดนี้ ...คือ   ผมต้องการเสื้อผ้า

                ไม่ต้องห่วงครับนายน้อย คุณลุงยิ้มให้อย่างจริงใจ เดี๋ยวทางเราจะจัดให้อย่างดีที่สุดสำหรับคุณหนูคนใหม่แห่งมินาโมโตะเลยครับ

                เอ่อ...เสื้อผ้าน่ะดีครับ   ถ้าจะให้ดีกว่า...ไม่ต้องมีประโยคหลังตามมาได้ไหม ? ฟังแล้วขนลุกจริง ๆ ให้ตายเถอะ!!!

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

     

                คิทสึเนะเดินจากไปแล้ว   ซาจิคาว่า   โอตะ  ชายแก่ผู้อยู่ดูแลรับใช้ตระกูลมินาโมโตะมานานเกือบห้าสิบปีจึงเดินออกมาด้านนอกของโรงแรม   ใบหน้าเงยขึ้นสู่ฟากฟ้า

                ถึงเวลาแล้วสินะ...สายลมลูกใหม่ที่จะพัดพาสายหมอกให้สลายไป

                ชายชราพึมพำเบา ๆ

                อีกไม่นาน...

                สายลมเย็น ๆ พัดวูบหนึ่ง

                ...ตำแหน่งที่คู่ควรจะได้กลับไปยังบุคคลที่คู่ควรแล้ว!!”

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

     

                นายบ้ารึเปล่า!!?...เอาอะไรมาให้ฉันใส่เนี่ย!?!”

                เสียงโวยวายโหวกเหวกที่เป็นเหมือนกับเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของยัยจอมโหดคนนี้ไปแล้วดังมาจากในห้องน้ำ   แล้วถามกันอย่างนี้ผมจะไปตอบได้ยังไงครับ ? เสื้อผ้าที่ทางโรงแรมจัดมาให้ผมเองก็ยังไม่มีโอกาสได้ทัศนาสักกะนิด

                ไม่ ๆ ๆ!! ฉันจะเปลี่ยน!!!...ไม่เอาชุดนี้!!”

                ออกมาก่อนแล้วค่อยพูดกันได้ไหม ?

                ผมถามอย่างอ่อนอกอ่อนใจ   พลางปิดหนังสือในมือดังฉับเพราะสมาธิในการอ่านถูกทำลายกระเจิดกระเจิงไปเรียบร้อยด้วยฝีมือของยัยตัวแสบที่ยังโวยวายไม่ยอมหยุดเสียที

                ไม่!!”

                ออกมาก่อนเถอะน่า   มันมีปัญหาอะไร ? หรือว่าใส่ไม่ได้ ?

                มีเสียงเหมือนเส้นเลือดแตกดังมาจากในห้องน้ำ

                กรี๊ด!! ฉันไม่ได้อ้วนขนาดนั้นนะยะ!!! เดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งซะหรอก!!”

                ก็ออกมาก่อนสิแล้วค่อยขู่กัน ผมยังคงยืนยันคำเดิมอย่างอ่อนใจ  

                ง่าส์...

                ยูเอะครางเสียงดัง   ก่อนประตูห้องน้ำจะเลื่อนเปิดออก

                แอ้ด!!

                แต่ที่โผล่มากลับมีแค่ส่วนหน้าที่ขึ้นสีแดงเรื่อ ๆ เพราะความร้อนของน้ำเท่านั้น

                ไม่เอาอ่ะ...ขายหน้า   ใครเลือกชุดนี้มาเนี่ย!!? จงใจแกล้งกันชัด ๆ !! หรือว่าเป็นนาย!?!”

                ยังไม่ทันจะทำอะไรยัยนี่ก็เริ่มโบ้ยมาทางผมอีกแล้วครับ -*- ชุดอะไรนั่นผมยังไม่ได้เห็นสักกะแว้บจะไปแกล้งคุณเธอได้ยังไงกัน

                ออกมาก่อนเถอะน่า

                ผมขมวดคิ้ว   แต่ยัยตัวแสบยังคงส่ายหน้ายิก

                ไม่เอา!!”

                งั้นก็นอนอยู่ในห้องน้ำนั่นไปน่ะแหละ   ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

                ง่ะ ยูเอะเบ้หน้า   ก่อนจะตะบึงจะบอนเปิดประตูแล้วกระแทกเท้าเดินปัง ๆ ออกมา เออ!! พอใจแล้วใช่ไหมล่ะ!!? ไอ้คุณโรคจิต!!”

                ผมเหลือบตาขึ้นจากหนังสือเพื่อจะมองชุดที่เจ้าตัวบอกว่าน่าเกลียดนักหนา   แล้วก็งง

                น่าเกลียดตรงไหนกัน ?

                ชุดกระโปรงยาวสีดำสนิททั้งตัวแบบเรียบ ๆ แต่ยิ่งขับผิวขาว ๆ ให้ขาวยิ่งกว่าหิมะ   เส้นผมสีดำสนิทประบ่าที่ยังไม่แห้งถูกปล่อยสยาย   เอ่อ...

                ...จะว่าไป    ถ้ามีแส้ในมือเสียหน่อยนี่จะเหมาะกับบุคลิกมาก - -*

                ไม่เห็นจะน่าเกลียด   ชุดนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่

                จะว่าไปก็ต้องชื่นชมฝีมือคนเลือกเสื้อผ้าที่เลือกมาได้พอดีตัวแป๊ะราวกับจับวัดอย่างไรอย่างนั้นเลย

                ไม่น่าเกลียด!?” ยัยจอมโหดขึ้นเสียงสูง   นี่ถ้าสู้กันอยู่ผมคงคิดว่ายัยนี่คิดจะฆ่าผมด้วยโซนิกบูมไปแล้ว

                นี่น่ะนะไม่น่าเกลียด!! นายดูซะก่อน!!!” ยูเอะหันหลังให้ผม   นั่นล่ะผมถึงจะรู้ว่าแม่คุณโวยวายเรื่องอะไร...

                เสื้อที่ดูเรียบร้อยเมื่อมองจากด้านหน้ากลับผ่าหลังซะกว้างตั้งแต่ไหลลงไปถึงช่วงเอว   เผยหลังขาวจัดซะจนคนมองต้องเผลอกลืนน้ำลายเอื้อก

                แต่ไม่ใช่ผม...

                ...โธ่เอ้ย!! แค่ชุดอย่างนี้ตามงานราตรีมีคนใส่ให้เห็นถมเถ   ทำไมผมต้องสนใจด้วยล่ะ ?

                ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่   ถ้าไม่มีอะไรก็รีบไปได้แล้ว   ฉันจะพาเธอไปส่งบ้าน

                ผมพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ไม่ได้สนใจอาการควันออกหูของยัยจอมโหดเลยสักนิด

                ใครใช้ให้นายพาฉันไปส่ง ?

                ผมหันมามองยูเอะที่ยืนเท้าสะเอว   และมองมาอย่างหาเรื่อง

                ฉันกลับบ้านเองได้   นายเองก็รีบ ๆ ไปให้พ้นหน้าพ้นตาฉันเลย!!”

                เฮ้อ!!!

                คำพูดที่ทำให้ผมลอบถอนหายใจ

                ผมล่ะอยากอยู่กับแม่คุณเสียจริงจริ๊ง!!

                ไม่เข้าใจตัวเอง   ทำไมต้องลงไปช่วยแม่นี่มาด้วยนะ...

                ...ถ้ารู้อย่างนี้ปล่อยให้หาทางกลับบ้านเองซะก็ดีหรอก...

                เธอจะเดินเปิดหลังอย่างนั้นกลับบ้านเองหรือไง ? ผมหรี่ตาลง หรือว่าคืนนี้อยากจะฆ่าอีกสักศพสองศพผมจะได้กลับบ้านเสียที

                หนอย!!...เออ!!!” ยัยจอมโหดเคี้ยวฟันเมื่อเห็นว่าที่ผมพูดน่ะความจริงทั้งดุ้น   เพราะขืนแต่งตัวอย่างนี้ออกไปเดินคนเดียวตอนกลางคืนก็เหมือนป่าวประกาศว่า   ลักพาตัวฉันที!! อะไรประมาณนี้เลย...

                ไปส่งก็ไปส่ง!! โว้ย!!!...วุ่นวายจริง!! นี่ถือว่านายเสนอหน้ามาเองนะ   ฉันไม่ได้ขอร้อง   ไม่ถือเป็นบุญคุณ...เข้าใจ๋!?!”

                เฮ้อ!!!

                ผมถอนหายใจอีกรอบ  จริง ๆ อยากจะทำเสียอีกหลาย ๆ รอบด้วยซ้ำ

                คิดว่าผมอยากจะให้เธอเป็นหนี้บุญคุณหรือไง ?   จบกันได้ก็จบกันไป   ไม่ต้องมายุ่งกันอีกน่ะดีแล้ว!!~

                เข้าใจไหม!!?”

                ครับ ๆ   เฮ้อ!!!”

                พาแม่ตัวยุ่งนี่ไปส่งแล้วผมจะได้กลับบ้านนอนเสียที   ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้สงสัยจะไปนอนหลับที่โรงเรียนเป็นแน่

    ______________________________________
    100% เจ้าค่า ^O^

    หุหุ...รีบปั่นเอามาลงให้ด่วน ๆ   อิอิ   

    ส่วนใครที่หวังของฟรีกันอยู่กับหนังสือตำนานผู้พิทักษ์ดาบศักดิ์สิทธิ์ภาคสอง   รีบหน่อยนะเจ้าค้า!! เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์นิด ๆ เองแล้ว >.,< งิ

    ส่วน KID ตอนหน้า...ถ้าไม่ดองก็   ง่ะ...คงจะวันพุธตามเคยล่ะเน้อ   ช่วงนี้การบ้านจะถล่มทับบาดเจ็บล้มตายอยู่แล้ว TT  TT เศร้าจายยยยย

    แล้วจะรีบเอาตอนใหม่มาลงให้นะเจ้าค้า

    มิริน

    m.tokiya m.tokiya m.tokiya m.tokiya
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×