ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานผู้พิทักษ์ดาบศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10 : ตลาดเมืองนิโมซายน์

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 48


    ตลาดเมืองนิโมซายน์

    ______________________________________



    “เกรย์!!!” เฟย์เนี่ยนร้องทักเสียงดังเมื่อเห็นร่างของเพื่อนสาวที่กำลังยืนพิงรถม้าสีน้ำตาลเข้ม   เงยหน้ามองฟ้าสีฟ้าสดอย่างไร้อารมณ์

        

    “อ้าว…มาแล้วหรอ” เกรย์ละสายตาจากท้องฟ้ามามองร่างของเฟย์เนี่ยนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาตามทางเดิน

        

    “แล้ว…เธอเดินมานี่เองหรอ” เฟย์เนี่ยนถาม  ใจเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ

        

    “เปล่า” เกรย์ส่ายหน้า “พี่สาวคนนั้นพามา”

        

    “ไฮ้…เฟย์เนี่ยน” ‘พี่สาวคนนั้น’ ร้องทักเสียงใส

        

    “หยึย…” เฟย์เนี่ยนผงะไปนิดหนึ่ง

        

    “เจอพี่แล้วทำเสียงแบบนี้ไม่มีมารยาทเอาซะเลยนะ” เฟย์ไนท์เริ่มเทศน์

        

    “พี่…ม…มาทำอะไร” น้องสาวตัวดีติดอ่างไป

        

    “อ้าว…พี่เธอเหรอ” เกรย์ถามงง ๆ

        

    “ใช่…พี่สาวที่บ้า  ขี้เหนียว  งกเงิน  แล้วก็นิสัยเสียของชั้นเอง” เฟย์เนี่ยนพูดเสียงดัง  พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

        

    “ใช่ที่ไหน…ต้องเป็นพี่สาวที่แสนฉลาด  น่ารัก  สุดสวย  แสนใจดีต่างหาก” เฟย์ไนท์แก้  มืออีกข้างอุดปากเฟย์เนี่ยนที่ส่งเสียงอู้อี้อยู่ข้างหลัง

        

    “หรอ” เกรย์พูด  เลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนยื่นมือมาข้างหน้าเฟย์ไนท์

        

    “ฉันชื่อเกรย์…เอมมิเกรย์  ยินดีที่รู้จัก” เฟย์ไนท์ยื่นมือที่อุดปากเฟย์เนี่ยนอยู่มาจับอย่างรวดเร็ว   เฟย์เนี่ยนหายใจฮั่ก ๆ

        

    “เฟย์ไนท์  พี่สาวของเฟย์เนี่ยน  ชื่อกลางช่างมันเถอะ” เฟย์ไนท์พูดยิ้มแย้ม

        

    หมับ!!!

        

    มือของเฟย์เนี่ยนเอื้อมมาปิดปากเฟย์ไนท์จากด้านหลัง   ก่อนลากไปหลังรถ (ส่วนเกรย์ยืนอึ้งไปแล้ว)

        

    “พี่มาทำอะไร้” น้องสาวถามย้ำเสียงแหลม (บันไดเสียงโซปราโน่)

        

    “เอาของที่ท่านแม่ฝากมามาให้   สำนึกบุญคุณเอาไว้ซะด้วย” เฟย์ไนท์ยื่นถุงผ้ากำมะหยีสีม่วงเข้มมาแกว่งตรงหน้าเฟย์เนี่ยน  

        

    “โอ…ขอบคุณท่านแม่” เฟย์เนี่ยนพูด  ยื่นมือไปคว้าถุงที่กำลังส่งเสียงกรุ้งกริ้ง  แต่เฟย์ไนท์ชักมือหลบซะก่อน

        

    “อะไรอีกล่ะ” น้องสาวถาม  เส้นเลือดเริ่มขึ้นหน้า

        

    “ค่า – นำ – ส่ง” พี่สาวเน้นช้าชัดพลางยิ้มร่า

        

    “ห๊า!!!” เฟย์เนี่ยนร้องไม่เป็นภาษา

        

    “เอามาซะดี ๆ” เฟย์ไนท์พูด  แกว่งมือไปมาหน้าเฟย์เนี่ยน

        

    “เอาเท่าไหร่อีกล่ะ” น้องสาวถามเซ็ง ๆ

        

    “พี่ก็รู้นะว่าเธอเงินไม่พอ   เอาว่ามัดจำมาก่อนร้อยซิลด์   แล้วค่อยจ่ายอีกสี่ร้อยตอนพี่ส่งถุงให้  ดีมะ” พี่สาวเอ่ย  ส่วนเฟย์เนี่ยนนั้นเริ่มสติแตก

        

    “แค่เอาถุงมาส่งเนี่ยนะ  ห้าร้อยซิลด์” เฟย์เนี่ยนโวยวาย

        

    “อย่าบ่นนะจ้ะ…ในถุงนี้มีห้าพันซิลด์  คิดค่านำส่งแค่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ดีถมถืดแล้ว  เอามา” เฟย์ไนท์เริ่มแยกเขี้ยว   น้องสาวส่งเหรียญกำมือหนึ่งให้พี่สาวอย่างจนใจ

        

    “ดี…” เฟย์ไนท์พูด  ยื่นถุงเงินให้เฟย์เนี่ยนที่รับมาเปิดอย่างรวดเร็ว  

        

    “เอามาอีกสี่ร้อย” เฟย์ไนท์พูด   น้องสาวรีบคว้าเหรียญส่งให้พี่สาวตัวดี

        

    “คราวนี้ก็ไปได้แล้ว” เฟย์เนี่ยนพูด  ชี้มือไปที่ปราสาทอย่างหมดอารมณ์

        

    “ใครว่าพี่มาแค่นี้ล่ะ…พี่จะของอาศัยรถไปลงที่ตลาดกลางเมืองด้วยย่ะ  โฮะ  โฮะ” พี่สาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี   ก่อนเดินหายขึ้นรถไป  

        

    “ปิศาจชัด ๆ” เฟย์เนี่ยนพึมพำ   พลางก้าวขึ้นรถม้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก



                                                                       @@@@@@@@@@@@

    “บาย…ไปล่ะ”

    เฟย์ไนท์เอ่ยเมื่อรถม้ามาหยุดที่จัตุรัสกลางเมือง “อย่าลืมกลับบ้านก่อนห้าโมงนะ”          

        

    “ไปแล้วอย่ากลับมาอีกน้า” เฟย์เนี่ยนตะโกนดังลั่น   พี่สาวตัวดีหัวเราะร่าเช่นเคยก่อนหายไปท่ามกลางฝูงคน

        

    “พี่บ้า…วันนี้เสียเงินไปตั้งแปดร้อย” เฟย์เนี่ยนเริ่มบ่น

        

    “ชั้นว่าเค้าก็น่ารักดีออก” เกรย์พูด

        

    “นี่…อย่าไปเห็นดีเห็นงามกับยัยนั่นนะ   ยัยนั่นน่ะบ้าเงินอย่างกับอะไรดี” เฟย์เนี่ยนพูด  กำถุงเงินแน่นราวกับเฟย์ไนท์จะย้อนมาเอามันไป

        

    “เออ….แล้วเราจะไปไหนดี” เกรย์เปลี่ยนเรื่อง

        

    “ก่อนอื่นต้องไปหาอะไรกินก่อน   แล้วค่อยเดินให้ทั่วตลาด” เฟย์เนี่ยนพูด   ก่อนหันไปหาสารถี

        

    “จอดที่แฟร์มูนนะ” เฟย์เนี่ยนกำชับ

        

    “แฟร์มูน ?”เกรย์ทวนงง ๆ

        

    “เป็นจัตุรัสอีกที่น่ะ” เอล์ฟสาวตอบ   เกรย์พยักหน้ารับ

        

    “แล้วเย็นนี้ต้องกลับห้าโมง…เฮ้อ” เฟย์เนี่ยนถอนหายใจ

        

    “มีอะไรหรอ” เกรย์ถามเมื่อเห็นท่าทีของเอล์ฟสาว

        

    “เย็นนี้ต้องมีงานเลี้ยงน่ะสิ” เฟย์เนี่ยนตอบ “งานเลี้ยงต้อนรับการกลับของชั้น   เธอก็ต้องไปด้วยนะ”

        

    “ไม่ล่ะ…งานนี้ขอบาย” เกรย์พูดเซ็ง ๆ  เฟย์เนี่ยนหน้าเหรอ

        

    “ทำไมล่ะ” เอล์ฟสาวถามงง ๆ

        

    “ชั้น…”เกรย์หยุดไปนิดหนึ่ง  เหมือนจะหาคำพูดมาต่อ “ไม่ชอบงานเลี้ยงน่ะ”

        

    “ไม่ได้นะ” เฟย์เนี่ยนเอ่ยเสียงเครียด “ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนชั้น…เธอต้องไปด้วย”

        

    “ก็ชั้นไม่อยากไปนี่”

        

    “ต้องไป”

        

    “ไม่อ๊าว”

        

    “ไปน่า”

        

    “ไม่ไปไม่ได้เหรอ” เกรย์พูด  ถอนใจอย่างเบื่อ ๆ

        

    “ไม่ได้นะ…งานนี้ยังไงยังไงเธอก็ต้องไป” เอล์ฟสาวกำชับ

        

    “ถึงแล้วเพคะ…จัตุรัสแฟร์มูน” เสียงสารถีดังขึ้นตัดบทอย่างได้ผล

        

    “ถึงแล้ว ๆ” เฟย์เนี่ยนพูดอย่างเริงร่า   เกรย์ผลักประตูลงจากรถ

        

    จัตุรัสแฟร์มูนนั้นเป็นศูนย์รวมของทุก ๆ อย่าง  ร้านรวงตั้งวางอย่างเป็นระเบียบทั้งร้านค้าและแผงลอยวางเรียงรายริมทาง   ร้านอาหารและร้านกาแฟตั้งให้เห็นเป็นระยะ ๆ  เอล์ฟทุกวัยเดินกันให้ควั่กไม่แพ้เมืองหลวงของมนุษย์อย่างอนาคิน

        

    “เป็นไง” เฟย์เนี่ยนถาม

        

    “ก็…ดี” เกรย์ตอบ  กวาดตามองร้านค้าต่าง ๆ อย่างงง ๆ  

        

    “ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” เฟย์เนี่ยนพูด   ดึงเกรย์ที่กำลังมองร้านขายอาวุธที่หัวมุมถนนไปด้วย

        

    “กินอะไรดีน้า” เฟย์เนี่ยนร้องอย่างอารมณ์ดี

        

    “นี่ละกัน” เอล์ฟสาวเอ่ยเมื่อมาหยุดหน้าร้านอาหารที่มีชื่อว่า  เมเปิ้ล  ลีฟ

        

    เสียงกรุ้งกริ้งของกระดิ่งที่ติดไว้เหนือประตูดังอย่างยินดีเมื่อเฟย์เนี่ยนผลักประตูเข้าไป   ภายในร้านสว่างสดใสด้วยแสงแดดที่ส่องลอดหน้าต่างบานยักษ์   ลูกค้ามากหน้าหลายตานั่งอยู่เป็นจุด  กลิ่นขนมปังอบใหม่ ๆ และเนื้อย่างลอยคลุ้ง

        

    “ชั้นสั่งให้เลยดีกว่ามั้ง” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่ยังว่าง  เกรย์พยักหน้า  พลางเหลือบมองรายการอาหารที่ไม่คุ้นชื่อ

        

    “เอาเค้กน้ำผึ้งสอง  ชาสอง” เฟย์เนี่ยนสั่งอย่างชำนาญจนเกรย์ละสายตาจากหน้าต่างมามอง

        

    “มาบ่อยหรอ” เกรย์ถาม

        

    “อื้อ…ร้านนี้คนเยอะ  ชั้นมานั่งกินก็ไม่ค่อยมีใครสังเกต  ถ้าสังเกตก็แค่บอกว่าหน้าเหมือน” เฟย์เนี่ยนตอบ  ยิ้มร่า

        

    “หรอ…” เกรย์รับเบา ๆ

        

    “เธอนี่ก็สบายนะ…ไปไหนมาไหนไม่ต้องคอยหลบ” เฟย์เนี่ยนพูดอย่างอิจฉา

        

    “คิดผิดรึเปล่า” เกรย์พูด “ชั้นเป็นฆาตกรนะ  ไปไหนมาไหนต้องคอยลุ้นว่าจะมีใครจำหน้าได้รึเปล่า  แถมถ้ามีใครจำได้ขึ้นมาเค้าคงไม่รอถามหรอกว่าเป็นใช่ตัวจริงรึเปล่า   ป่านนี้โดนรุมประชาทัณฑ์ไปแล้ว”

        

    “ร…หรอ” เฟย์เนี่ยนยิ้มเจื่อน ๆ

        

    “แต่เกรย์ก็เป็นคนดีนี่” เฟย์เนี่ยนแย้ง

        

    “แล้วใครสนล่ะ…นักฆ่าเงาน่ะเป็นกลุ่มอิทธิพลที่มีพวกคนชั้นสูงเยอะแยะหนุนหลังอยู่   ถึงจะเป็นคนดียังไงถ้าเข้ากลุ่มนี้ก็ต้องฆ่าคน   ที่ดีหน่อยก็ฆ่าแค่ตามใบสั่ง   ไม่ฆ่ามากกว่านั้น” เกรย์พูดเรียบ ๆ

        

    “ก็ดีแล้วล่ะที่ออกมาได้” เกรย์เปรยต่อ “แต่มันคงไม่จบแค่นี้หรอก…เดี๋ยวต้องมีเรื่องมีราวมากกว่านี้แน่”

        

    “ช่างมันไปก่อนเถอะ” เฟย์เนี่ยนพูดเมื่อเค้กน้ำผึ้งกับชาอย่างละสองถูกยกมาวาง   กลิ่นหอมของเค้กฟองน้ำราดน้ำผึ้ง  กับกลิ่นชาลอยฟุ้ง

        

    “แล้วตกลงคืนนี้ชั้นต้องไปงานอะไรนั่นจริงหรอ” เกรย์ถาม   ตัดเค้กชิ้นหนึ่งใส่ปาก

        

    “แหงสิ” เฟย์เนี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจพลางตัดเค้กชิ้นเบ้อเร้อใส่ปาก

        

    หลังจากการกินด้วยความเร็วเท่าแสงของเฟย์เนี่ยน   กับเค้กน้ำผึ้งสามชิ้นและชาอีกสองถ้วย  ส่วนเกรย์นั้นกินแบบไม่ใส่ใจอะไรเท่าไหร่   เฟย์เนี่ยนก็จ่ายเงิน (ห้าซิลด์ สี่เจต)

        

    “อร่อยเป็นบ้า”  เฟย์เนี่ยนพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อทั้งคู่เดินออกจากร้านเมเปิ้ล  ลีฟ

        

    “ไปไหนต่อ” เกรย์ถาม   กวาดตามองร้านรวงต่าง ๆ อย่างไม่ค่อยใส่ใจ

        

    “แน่นอน…ก็ต้องเดินตลาดให้สะใจกันไปเลย” เฟย์เนี่ยนพูด  ยิ้มร่า  พลางคว้ามือเกรย์เข้าร้านโน้นทีร้านนี้หน่อย  ถุงกระดาษใส่ข้าวของเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เงินในถุงก็ลดลงเรื่อย ๆ เช่นกัน

        

    ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วเมื่อเฟย์เนี่ยนตัดสินใจว่าได้เวลากลับวังด้วยเหตุผลที่เกรย์ฟังแล้วเซ็งสุดๆ ว่า

        

    “ต้องไปหาอะไรให้เกรย์ใส่ซะหน่อย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×