คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ศึกสายเลือด ^ ^V
3.
ศึกสายเลือด ^ ^V
“หา!!? ว่าไงนะคะ!? หมั้น!?!”
อ๊าก!! วันนี้วันอะไร!? โลกาวินาศหรือไง!!?
เอ๋...หือว่าฉันฟังผิด ? อืม...จริง ๆ มันคงจะเป็น ‘ฝัน’ หรือไม่ก็ ‘ฆ่ามัน’ อะไรประมาณนี้ละมั้ง (พยายามปลอบตัวเองสุดฤทธิ์ TT TT)
“ใช่แล้ว...’หมั้น’” ท่านพ่อ ซานาดะ เซริว ตอบกลับ ความพยายามในการปลอบตัวเองของฉันแตกกระเจิงไม่เหลือชิ้นดีแล้วตอนนี้
“ท่านพ่อ...” ฉันเริ่มครวญคราง พลางเลื้อยไปเกาะแขนท่านพ่อ “...ลูกเพิ่งสิบเจ็ดเองนะค้า ทำไมท่านพ่อพูดเรื่องนี้”
“เพราะมันเป็นคำสัญญาระหว่างปู่ของปู่ของพวกเราซานาดะซึ่งเป็นตระกูลนักฆ่าฝั่งคันโตกับปู่ของปู่ของตระกูลมินาโมโตะซึ่งเป็นนักฆ่าฝั่งคันไซว่าเมื่อไหร่ที่ทางตระกูลหลักของเราซึ่งก็คือซานาดะฝั่งตะวันตกมีลูกสาวจะต้องยกให้แต่งงานกับลูกชายคนโตของทางโน้น”
“อะไรกันน่ะ!!” ฉันตะโกน “นี่ท่านปู่ของปู่ของลูกเอาลูกไปสัญญาทั้ง ๆ ที่ลูกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยงั้นหรอ ? แล้วอีกอย่าง...นั่นมันเรื่องเมื่อกี่ปีมาแล้วด้วย”
“เฮ้อ!! จริง ๆ ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะเป็นลูก” ท่านพ่อถอนหายใจ “พ่อว่า...จริง ๆ แล้วท่านปู่ของปู่ของลูกเขาคงคิดว่ามันน่าจะจบสัญญานี้ได้ในรุ่นลูกของท่าน แต่กลายเป็นว่า...ตระกูลซานาดะฝั่งเซริวของเราไม่ได้มีลูกสาวมาตั้งหลายชั่วคนแล้ว และลูกก็เป็นลูกสาวคนแรกที่เกิดมาพอดี เพราะฉะนั้นก็เลยต้องเป็นลูกไง”
อ๋อ...
ฉันพยักหน้าเข้าใจ...
สรุปคือนี่เป็นความผิดของฉันที่ดันเกิดมาเป็นลูกสาวคนแรกในรอบไม่รู้กี่ชั่วคนของตระกูลซานาดะเซริวใช่ไหมเนี่ย ?
ว้าก!! นั่นมันเรียกว่าความผิดหรือไง!!?
“ท่านพ่อ!! แต่ลูกไม่หมั้นเด็ดขาด ท่านพ่อทำอย่างนี้ได้ไง ? ไม่ถามความสมัครใจของลูกเลยสักนิด!!”
“อ้าว...ก็พ่อลองถามพี่ริวจินดูแล้ว พี่เขาบอกว่าลูกตกลงแน่”
ฉันตวัดสายตาส่งจิตอาฆาตใส่พี่ชายที่เคยแสนดีของฉันที่จนบัดนี้ก็ยังนั่งยิ้ม คีมเนื้อย่างใส่ปากอย่างสบายอารมณ์
“ใครตอบตกลงไปก็ไปหมั้นเองสิ!! ลูกไม่หมั้น!!! ไม่หมั้นเด็ดขาด!!!”
“แต่ลูกต้องหมั้น!!” ท่านพ่อเริ่มตะโกนบ้าง ลงว่าถ้าลองท่านพ่อตะโกนแล้วเป็นใครก็ต้องหยุดให้ล่ะ เพราะนั่นหมายความว่าท่านพ่อผู้ใจดีคนนี้เริ่มจะโกรธขึ้นมาแล้ว
ท่านพ่อของฉันชื่อซานาดะ เซริว อ๊ะ!! ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันถึงได้พ้องกับชื่อสายของตระกูลเรา เพราะว่าทุกคนที่ขึ้นเป็นเจ้าบ้านของตระกูล...หรือก็คือเป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลซานาดะฝั่งตะวันตกนั้นต้องเปลี่ยนชื่อเป็นซานาดะ เซริวกันทุกคน เมื่อก่อนท่านพ่อก็เคยชื่อ ซานาดะ ไซจิมาก่อน แต่พอขึ้นเป็นเจ้าบ้านก็เลยต้องเปลี่ยนเป็นซานาดะ เซริว ส่วนท่านพี่ริวจินก็เหมือนกัน ถ้าขึ้นเป็นเจ้าบ้านแทนท่านพ่อเมื่อไหร่ก็ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นซานาดะ เซริว ส่วนพวกฉันซึ่งเป็นพี่น้องก็ต้องระเห็จไปอยู่บ้านอื่นกันล่ะทีนี้...เพราะฉะนั้น ท่านพ่อจงเจริญยิ่งยืนนาน ^O^ อย่าเพิ่งรีบไปนะคะ
ไม่สิ!! นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนั้นนะ!!!
“ท่านพ่อ!! แต่ลูกไม่หมั้น!!!” ฉันยังคงยืนกราน
“โว้ย!! ยัยยูเอะ...มีคนมางัดลงจากคานก็ดีถมถืดแค่ไหนแล้ว รับหมั้นเขาไปเถอะน่า “ นั่น!! ไอ้คุณน้องชายสุดที่รัก!!...ปากปีจออีกแล้วนะ
“แกก็หมั้นเองสิยะ!! ริวเซ!!”
“อีธ่อ!!” ริวเซหันมาทำปากยื่นล้อฉันอีก “ถ้าฝั่งโน้นเขาให้ผมหมั้นได้ผมหมั้นแทนไปแล้ว”
“เอาน่า ๆ...ยูเอะอย่าเพิ่งโมโหสิ ลองไปดูตัวก่อนก็ได้ว่าไปกันได้รึเปล่า” พี่ริวจินเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ...งานถนัดของพี่เขาล่ะ
“นั่นสิ...ลองไปเห็นหน้าเห็นตากันก่อนสักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่สายนะลูก” ท่านแม่รีบผสมโรงกล่อมฉันทันที
“ไม่!! ไม่ดูตงดูตัวอะไรทั้งนั้น...ไม่หมั้นก็คือไม่หมั้น!!! ลูกไม่หมั้นเด็ดขาด!!”
โครม!!
ฉันทุบโต๊ะเปรี้ยงเข้าไปหนึ่งทีด้วยอารมณ์หน้ามืด เอาล่ะสิ...เป็นเรื่องแล้วไง!!
“ยูเอะ...แม่สั่งให้ลูกไปงานดูตัว ไม่มีข้อต่อรอง” ท่านแม่เริ่มพูดเสียงเข้มขึ้นมาแล้วสิ แถม...นั่น!! ในมือยังควักเอาชูริเคนที่ไหนไม่รู้ออกมาถือไว้ซะเต็มกำขนาดนั้น
“ใช่...ยูเอะ พี่เองก็คิดเหมือนท่านแม่นะ” หวา ๆ ๆ...พี่ริวจินสุดหล่อก็เอากะเค้าด้วยงั้นหรอ ? ไม่น้า!!
สุดท้าย...หัวเดียวกระเทียมลีบอย่างฉัน ต้องมายอมหมั้นเพราะคนทั้งบ้านบังคับหรอเนี่ย!? ไม่จริ๊ง!!!
“งานดูตัวจะจัดในอีกสามวัน” ท่านพ่อกระเอมเบา ๆ “เตรียมตัวให้พร้อมล่ะยูเอะ”
มัดมือชกไปเรียบร้อย
“อ่ะ...เอ่อ ลูกขอ...เออ อย่างนึงได้มั้ยคะ ?”
“อะไรล่ะ ?”
“เอ่อ...ดูตัวนี่ เอาบาซูก้าเข้าไปดูตัวด้วยได้ไหมคะ ? แหะ ๆ ๆ ๆ”
** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **
“เฮ้อ!!”
“นี่...ยัยป้ายูเอะ ถอนหายใจอะไรกันนักกันหนาตั้งแต่เช้าแล้วนะ ?”
เสียงของอากิระที่ลอยผ่านหูฉันไปเช่นเดียวกับเสียงพูดคุยจอแจของเพื่อน ๆ ในห้อง ก็ทำไงได้...ลองเจออย่างฉัน เป็นใครก็ต้องเซ็งกันทั้งนั้นแหละ
“นี่...อากิระ” ฉันเงยหน้าขึ้นมามองแม่เพื่อนตัวดี “เธอเคยคิดเรื่องแต่งงานบ้างรึเปล่า ?”
อากิระหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแผดเสียงหัวเราะสิบหกหลอดของหล่อนให้ดังสะท้านปฐพีไปทั้งโลก
“ฮ่ะ ๆ ๆ...นี่เป็นมุขจีบสาวใหม่รึไง ? เธอโดนผู้ชายที่ไหนจีบอย่างงี้มายะ ?” แต่เมื่อเห็นสายตาที่เริ่มเปล่งแววอาฆาตของฉัน ทำให้อากิระชะงักกึก ก่อนจะกระเอม
“นี่ ๆ ...ยูเอะ ก่อนที่จะคิดเรื่องแต่งงานนี่ฉันว่าหาแฟนให้ได้ก่อนไม่ดีหรือไง ?”
“อ่านะ...” ฉันกะพริบตาเบื่อ ๆ ฟุบหน้าลงกับโต๊ะและเริ่มถอนหายใจอีกสองสามรอบ
“โอ้ย!! นี่แม่คุณจะถอนหายใจให้หมดลมตายไปเลยหรือไง ?” ฉันได้ยินเสียงแม่เพื่อนตัวดีบ่นอุบขณะที่คุณเธอเดินไปนั่งที่ตัวเอง
“อ้าว...ซายุ!!”
เสียงทักของเพื่อน ๆ ในห้องทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมาผจญกับโลกแห่งความจริงอีกครั้งเพื่อที่จะพบหน้ากับเพื่อนสุดเลิฟที่เดินเข้ามานั่งในห้องด้วยสีหน้าแช่มชื่นเหมือนกับที่เคยเป็น ในมือถือช่อดอกไม้มาด้วยหอบใหญ่
“หวัดดี...ซายุ” ฉันทัก พยายามที่จะทำสีหน้าให้แช่มชื่นได้สักครั้งหนึ่งของเพื่อนสาว “เอาดอกไม้มาจากไหนน่ะ ?
“อ๋อ” เพื่อนรักของฉันพยักหน้า นั่งลงที่ที่ของตัวเองข้าง ๆ ที่นั่งของฉัน
“รุ่นพี่ที่รู้จักกันน่ะ แล้วก็มีนี่ด้วยนะ...” ซายุเริ่มค้นกระเป๋า คว้ากล่องอะไรบางอย่างสีดำ ๆ ออกมา
“แต่นแต้น!! กล่องข้าวกลางวัน!!!” เพื่อนรักของฉันร้อง ชูกล่องขึ้นราวกับได้รับถ้วยฟุตบอลโลกอะไรประมาณนั้น
“อาไร้!!? ผู้ชายอะไรทำกับข้าว ?” ฉันเลิกคิ้ว
“อะโด่!! ยูเอะไม่รู้อะไร” ซายุวางกล่องข้าวลง ทำสีหน้าจริงจัง
“เดี๋ยวนี้น่ะ...ผู้ชายก็ทำกับข้าวได้ แถมทำได้เก่งกว่าผู้หญิงบางคนอีกนา อย่างรุ่นพี่คนเนี้ย!!...เค้าอยู่ชมรมงานครัวก็เลยทำให้บ่อย ๆ”
“อ้อ...” ฉันพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “...แล้วเจ๊ไม่รับเขาเป็นแฟนไปเลยล่ะ พ่อยอดชายนายคนเนี้ย!!”
“จะบ้าหรอ!!?” ซายุแหว “คิดดูนะ...ถ้าฉันรับหมอนี่เป็นแฟนนะ แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ ? แล้วถ้ามีคนอื่น ๆ ที่ทำกับข้าวเก่งกว่าหมอนี่ล่ะ ?”
อ๋อ...
ฉันสรุปเอาเอง
...สรุปว่าแม่นี่คิดอยู่เรื่องเดียวเลยใช่ไหมนี่...
เพื่อนช้านนนนน!?!
“แล้ว..ยูเอะเป็นอะไรหรอ ? หน้าตาไม่สบายเลย ? ถ้าไม่ได้กินข้าวมาล่ะก็เอาข้าวกลางวันนี่ไปกินก่อนก็ได้...แล้วเดี๋ยวตอนกลางวันฉันไปขอเอาจากหมอนี่มาอีกก็ได้”
“เฮ้อ!! ซายุ...อย่างเธอเนี่ยดีจริง ๆ น้า!!? ไม่ต้องคิดอะไรมาก...หน้าตาดี นี่ถ้ามีคนมาขอหล่อนแต่งงาน...หล่อนจะว่าไงเนี่ย ?”
“เอ๋ ?” ดวงกลม ๆ ของซายุกะพริบปริบ ๆ เหมือนกับตุ๊กตา ก่อนจะ...
ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!!
“เฮ้ย!!...แม่คุณ!!? อย่าหัวเราะดิ!!...นี่ฉันจริงจังนะ ?”
“ก็...ก็ยูเอะ!? ทำไมอยู่ดี ๆ คิดอะไรอย่างนี้ขึ้นมาได้ล่ะ ? ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่สนใจเรื่องพวกนี้แท้ ๆ เลย ทำไม ?...ตอนนี้เธอกำลังมีอะไรกับใครอยู่งั้นหรอ ?”
“จาบ้าหรองาย“ - -^ ฉันลากเสียงยาว มองดูแม่เพื่อนตัวดีที่กำลังนั่งปาดน้ำตาไปขำจนท้องแข็งไปด้วย พลางลุ้นว่าแม่คุณจะขาดอากาศหายใจตายไปเมื่อไหร่
“ก้อ...ก็มันขำนี่นา เธอเพิ่งสิบเจ็ดเองนะ” ซายุพยายามพูดให้ปะติดปะต่อกันที่สุดหลังจากที่หัวเราะจนท้องแข็งไปหมดแล้ว
“ช่างมันเหอะ” ฉันสรุปเพราะคนจากที่อื่น ๆ เริ่มทยอยเข้าที่แล้ว อีกไม่นานคงจะได้เวลาเข้าเรียนพอดี
เฮ้อ!!...แล้วปัญหาชีวิตฉันล่ะ!!?
** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **
“ย้าก!!!”
ตึง!!
“คนต่อไป!!”
เสียงตะโกนเรียกที่เป็นเหมือนกับเสียงเรียกของมัจจุราชสำหรับบางคนไปเลย เมื่อไอ้เจ้าคนที่ตะโกนเรียกอยู่น่ะหน้าตาบูดบึ้งบอกบุญไม่รับสุด ๆ
ตึง!!
เสียงหลังมือกระแทกกับโต๊ะนักเรียนอย่างจังที่ทำให้หลายคนขวัญบินหนีไปแล้ว
“ห่วย!! ห่วยจริง ๆ เลย!!! พวกนายเป็นผู้ชายจริงรึเปล่าเนี่ย!!?”
ฉันแกล้งพึมพำเสียงดัง ยกข้อศอกขึ้นมาวางบนโต๊ะตั้งท่าเตรียมพร้อม
“เอ้า!! คนต่อไปมาได้แล้ว!!!...อย่าชักช้า เดี๋ยวฉันต้องไปชมรมฟันดาบอีก!!”
อ้อ!!...ลืมบอกไป วันนี้เป็นวันเข้าชมรมสำหรับพวกเรา ตัวฉันจริง ๆ แล้วต้องไปอยู่ชมรมฟันดาบ แต่ไหน ๆ วันนี้อารมณ์หงุดหงิดได้ที่เลยแวะมาถล่มพวกชมรมการยุทธเล่นสักหน่อย นิสัยดีจริง ๆ เลยนะแม่คุณ ^ ^””
“อะไรกัน!!? ไม่มีแล้วเรอะ ?”
“มาเลย!!...ยัยป้ายูเอะ!! เจอกันหน่อยสิ!!!”
หา!! เสียงเมื่อกี้ ? หรือว่า...
ไอ้คุณริวเซสุดที่รักที่ยังไม่ได้จ่ายค่าทำสีแบล็คคุงของฉันสักกะแดงเดินออกมายืนเด่นหราอยู่หน้าพวกสมาชิกชมรมการยุทธที่ยืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยม
“เอ่อ...ท่านประธาน ?”
“หา!?! นี่แกเป็นประธานชมรมการยุทธแล้วเรอะเนี่ย!!?” ฉันเบิกตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อกี้...เมื่อกี้พวกสมาชิกชมรมนี่เรียกน้องจอมยุ่งของฉันว่า ‘ประธาน’ ใช่ไหมเนี่ย ?
“ก็ใช่น่ะสิ!! ป้าน่ะเคยสนใจความเป็นอยู่ของน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองบ้างมั้ย!? -*-“ ริวเซเท้าสะเอว เอ้า!! ได้ทีเอาเป็นชุดเชียวนะ!!
“เออ ๆ!!...จะว่าไงก็เอาเหอะ ค่าที่แกทำแบล็คคุงน้อยของฉันเป็นรอยไปเมื่อวานน่ะยังไม่ได้ใช้คืนเลยนะยะ!!! ถ้าจะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำหน่อย...นั่งลงได้แล้ว!!”
“เหอะ!!...แค่งัดข้อจะไปสนุกอาไร้ ?” หนอย!! ไอ้คุณน้องชายสุดที่ร้ากกกกก >,,,< ได้ทีทำเป็นเต๊ะท่าเท่ใหญ่เลยนะ!!
“มาดวลกันเลยเป็นไง...ถ้าฉันชนะเจ๊ต้องยกหนี้ให้ทั้งหมดด้วย!!”
“เหอ ๆ...แต่ถ้าแกแพ้แกต้องต้องทำความสะอาดห้องให้ฉันหนึ่งเดือนเต็มนะยะ”
“ให้มันชนะก่อนเถอะ!!”
เอาล่ะสิ...ศึกสายเลือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยมีค่าทำสีแบล็คคุงน้อยของฉันและการทำความสะอาดห้องหนึ่งเดือนเป็นเดิมพัน!! - -“””
ส่วนคนอื่น ๆ น่ะหรอ...
“เฮ้ย!! ประธานชมรมการยุทธกับประธานชมรมฟันดาบจะสู้กันแล้ว!!”
อ๊ะ!! ฉันลืมบอกไปรึเปล่าว่าฉันเองก็เป็นประธานชมรมฟันดาบนะ ^.^v
“ฉันลงข้างยูเอะห้าร้อยเยน!!”
“เฮ้ย!!...แต่ดูว่าถ้าดวลกันยังไงริวเซก็น่าจะชนะนะ”
“แกจะรู้อาไร้!!? ยูเอะน่ะเป็นพี่สาวริวเซ!!...ยังไงพี่สาวก็ต้องเก่งกว่าน้องชายอยู่แล้ว!!!”
“แต่ฉันลงข้างริวเซพันเยนว่ะ!!”
“ฉันให้ข้างยูเอะไปเลยพันห้า!!!”
“ฉันสู้มือเปล่านะ...เจ๊ว่าไง ?” ริวเซหันมาถาม ฉันเลิกคิ้ว
เหอ ๆ น้องชายสู้มือเปล่าพี่สาวใช้ดาบก็คงจะไม่สวยงามสักเท่าไหร่ จริงมะ ๆ -*-
“ยังไงก็ได้ ฉันบ่ยั่นอยู่แล้ว แต่ใช้อาวุธหน่อยไม่ดีกว่าเร้อ!?!” ฉันยิ้ม
“ถ้าแพ้จะได้ไม่โทษว่าตัวเองไม่ได้ใช้อาวุธเลยแพ้!!”
ฟุ่บ!!!
พ่อน้องชายตัวดีฉีกยิ้ม ยกมือขวาขึ้นเหนือหัวส่วนมือซ้ายพุ่งมาด้านหน้า เป็นท่าการต่อสู้ที่มันถนัดล่ะ
“ไม่ล่ะ ผมไม่รังแกคนแก่!!”
หนอย!!!
ถึงหน้าฉันจะยังยิ้มอยู่ แต่ใครจะรู้บ้างว่าเส้นเอ็นงี้ลั่นผึง ๆ ไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว >O< โมโหเป็นนะโว้ย!!
“คำก็คนแก่ สองคำก็คนแก่นะ”
เปรี๊ยะ ๆ!! (เสียงเส้นเลือดที่มือเริ่มแตกบ้าง)
“เดี๋ยวจะอัดให้พูดไม่ออกเลย!!! ไอ้คุณริวเซ!!?”
วูบ!!
ฉันถีบตัวอัดอากาศไปทางที่เจ้าริวเซยืนอยู่อย่างแรง ส่วนตัวฉันก็ลอยละลิ่วปลิวถอยหลังไปยันกำแพง เงื้อหมัดแล้วพุ่งเข้าใส่พ่อคุณริวเซที่ยืนตั้งหลักรับ
ฟ้าว!!!
ลูกเตะอัดอากาศที่ฉันถีบเข้าใส่ทำให้ริวเซเอียงหลบวูบและเสียการทรงตัวไปนิดหนึ่ง ได้โอกาสที่หมัดของฉันจะออกโรงแล้วเน้อ ^O^
วืด!!!
หนอย!! หมัดของฉันวืดไปเพราะเจ้าริวเซที่ไวเป็นปรอทดันหลบได้เสียก่อน ฉันรีบกระโดดตีลังกาถอยหลังกลับมาตั้งหลักใหม่
“ไม่เลวนี่ ป้า” พ่อน้องชายคนดีหลิ่วตา
“แกก็เหมือนกัน ไวขึ้นนี่” ฉันตอบ ยิ้มบาง ๆ เงื้อมือขึ้น...
แต่เจ้าริวเซไวกว่า
ปั้ก!! ปั้ก!! ผัวะ!! ผัวะ!!
เสียงหมัดกระทบกับการ์ดที่ถูกยกขึ้นตั้งรับของฉันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แขนปวดระบมไปหมดแล้ว!! หมอนี่ไม่ออมมือกันเลยรึไง!?
ฟุ่บ!!
ฉันยกการ์ดขึ้น ก้มตัวลงแล้วยกขาขึ้น เสยลูกถีบอย่างที่ถนัดออกไป...
วืด!!
อีกแล้ว หมอนั่นเอียงคอหลบไปได้เพียงแค่ปลายผม แต่ว่า...
เข้าทางฉันแล้วโว้ย!!
ฉันพลิกข้อเท้าทันที กวาดขาออกไป จากลูกถีบกลายเป็นลูกเตะไปโดยปริยาย
เฮ้ย!!
เสียงเจ้าคุณริวเซร้องลั่น
ฮิ ๆ คิดได้ตอนนี้ก็สายไปแล้วจ้ะพ่อน้องชายสุดที่ร้ากกกกก!!
นี่แหละ ลูกเตะสุดยอดของฉัน!!
ขอตั้งชื่อว่า...ถีบนี้เพื่อน้องชาย!! เหอ ๆ
“หนอย!!” ริวเซกัดฟัน เท้างาม ๆ ของฉันพุ่งเข้าไปจนเกือบจะชนหน้าของน้องชายแสนรักอยู่แล้ว แต่ว่า...
ชิ้ง!!
ความรู้สึกที่ทำให้เราพี่น้องที่กำลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายหยุดชะกักกึก ดวงตาสีเดียวกันที่เหมือนกันราวกับแกะหันควับไปทางเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง
__________________________________
โว้ว ๆ ๆ >[]< เงียบกานจางเลย เปิดเทอมหรอเจ้าค้า
ขอเสียงหน่อยเร้วววววว >....<
โย้วววว~ โย้ว!! โว้ววว!! วู้วววววว~!!! (ขอเองให้เอง -*-)
มิริน
m.tokiya m.tokiya m.tokiya m.tokiya
ความคิดเห็น