ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    << Kill - in - D >> บริษัทรับจ้างฆ่าไม่จำกัด (เพื่อมหาชน!!)

    ลำดับตอนที่ #4 : ศึกสายเลือด ^ ^V

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 50


    3.

    ศึกสายเลือด ^ ^V

     

                หา!!? ว่าไงนะคะ!? หมั้น!?!”

                อ๊าก!! วันนี้วันอะไร!? โลกาวินาศหรือไง!!?

                เอ๋...หือว่าฉันฟังผิด ? อืม...จริง ๆ มันคงจะเป็น ฝัน หรือไม่ก็ ฆ่ามัน อะไรประมาณนี้ละมั้ง (พยายามปลอบตัวเองสุดฤทธิ์ TT  TT)

                ใช่แล้ว...หมั้น’” ท่านพ่อ   ซานาดะ  เซริว ตอบกลับ   ความพยายามในการปลอบตัวเองของฉันแตกกระเจิงไม่เหลือชิ้นดีแล้วตอนนี้

                ท่านพ่อ... ฉันเริ่มครวญคราง   พลางเลื้อยไปเกาะแขนท่านพ่อ ...ลูกเพิ่งสิบเจ็ดเองนะค้า   ทำไมท่านพ่อพูดเรื่องนี้

                เพราะมันเป็นคำสัญญาระหว่างปู่ของปู่ของพวกเราซานาดะซึ่งเป็นตระกูลนักฆ่าฝั่งคันโตกับปู่ของปู่ของตระกูลมินาโมโตะซึ่งเป็นนักฆ่าฝั่งคันไซว่าเมื่อไหร่ที่ทางตระกูลหลักของเราซึ่งก็คือซานาดะฝั่งตะวันตกมีลูกสาวจะต้องยกให้แต่งงานกับลูกชายคนโตของทางโน้น

                อะไรกันน่ะ!!” ฉันตะโกน นี่ท่านปู่ของปู่ของลูกเอาลูกไปสัญญาทั้ง ๆ ที่ลูกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยงั้นหรอ ? แล้วอีกอย่าง...นั่นมันเรื่องเมื่อกี่ปีมาแล้วด้วย

                เฮ้อ!! จริง ๆ ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะเป็นลูก ท่านพ่อถอนหายใจ พ่อว่า...จริง ๆ แล้วท่านปู่ของปู่ของลูกเขาคงคิดว่ามันน่าจะจบสัญญานี้ได้ในรุ่นลูกของท่าน   แต่กลายเป็นว่า...ตระกูลซานาดะฝั่งเซริวของเราไม่ได้มีลูกสาวมาตั้งหลายชั่วคนแล้ว   และลูกก็เป็นลูกสาวคนแรกที่เกิดมาพอดี   เพราะฉะนั้นก็เลยต้องเป็นลูกไง

                อ๋อ...

                ฉันพยักหน้าเข้าใจ...

                สรุปคือนี่เป็นความผิดของฉันที่ดันเกิดมาเป็นลูกสาวคนแรกในรอบไม่รู้กี่ชั่วคนของตระกูลซานาดะเซริวใช่ไหมเนี่ย ?

                ว้าก!! นั่นมันเรียกว่าความผิดหรือไง!!?

                ท่านพ่อ!! แต่ลูกไม่หมั้นเด็ดขาด   ท่านพ่อทำอย่างนี้ได้ไง ? ไม่ถามความสมัครใจของลูกเลยสักนิด!!”

                อ้าว...ก็พ่อลองถามพี่ริวจินดูแล้ว   พี่เขาบอกว่าลูกตกลงแน่

                ฉันตวัดสายตาส่งจิตอาฆาตใส่พี่ชายที่เคยแสนดีของฉันที่จนบัดนี้ก็ยังนั่งยิ้ม   คีมเนื้อย่างใส่ปากอย่างสบายอารมณ์

                ใครตอบตกลงไปก็ไปหมั้นเองสิ!! ลูกไม่หมั้น!!! ไม่หมั้นเด็ดขาด!!!”

                แต่ลูกต้องหมั้น!!” ท่านพ่อเริ่มตะโกนบ้าง   ลงว่าถ้าลองท่านพ่อตะโกนแล้วเป็นใครก็ต้องหยุดให้ล่ะ   เพราะนั่นหมายความว่าท่านพ่อผู้ใจดีคนนี้เริ่มจะโกรธขึ้นมาแล้ว

                ท่านพ่อของฉันชื่อซานาดะ   เซริว   อ๊ะ!! ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันถึงได้พ้องกับชื่อสายของตระกูลเรา   เพราะว่าทุกคนที่ขึ้นเป็นเจ้าบ้านของตระกูล...หรือก็คือเป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลซานาดะฝั่งตะวันตกนั้นต้องเปลี่ยนชื่อเป็นซานาดะ   เซริวกันทุกคน   เมื่อก่อนท่านพ่อก็เคยชื่อ  ซานาดะ   ไซจิมาก่อน   แต่พอขึ้นเป็นเจ้าบ้านก็เลยต้องเปลี่ยนเป็นซานาดะ    เซริว   ส่วนท่านพี่ริวจินก็เหมือนกัน    ถ้าขึ้นเป็นเจ้าบ้านแทนท่านพ่อเมื่อไหร่ก็ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นซานาดะ   เซริว   ส่วนพวกฉันซึ่งเป็นพี่น้องก็ต้องระเห็จไปอยู่บ้านอื่นกันล่ะทีนี้...เพราะฉะนั้น   ท่านพ่อจงเจริญยิ่งยืนนาน ^O^ อย่าเพิ่งรีบไปนะคะ

                ไม่สิ!! นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนั้นนะ!!!

                ท่านพ่อ!! แต่ลูกไม่หมั้น!!!” ฉันยังคงยืนกราน

                โว้ย!! ยัยยูเอะ...มีคนมางัดลงจากคานก็ดีถมถืดแค่ไหนแล้ว   รับหมั้นเขาไปเถอะน่า นั่น!! ไอ้คุณน้องชายสุดที่รัก!!...ปากปีจออีกแล้วนะ

                แกก็หมั้นเองสิยะ!! ริวเซ!!”

                อีธ่อ!!” ริวเซหันมาทำปากยื่นล้อฉันอีก ถ้าฝั่งโน้นเขาให้ผมหมั้นได้ผมหมั้นแทนไปแล้ว

                เอาน่า ๆ...ยูเอะอย่าเพิ่งโมโหสิ   ลองไปดูตัวก่อนก็ได้ว่าไปกันได้รึเปล่า พี่ริวจินเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ...งานถนัดของพี่เขาล่ะ

                นั่นสิ...ลองไปเห็นหน้าเห็นตากันก่อนสักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่สายนะลูก ท่านแม่รีบผสมโรงกล่อมฉันทันที

                ไม่!! ไม่ดูตงดูตัวอะไรทั้งนั้น...ไม่หมั้นก็คือไม่หมั้น!!! ลูกไม่หมั้นเด็ดขาด!!”

                โครม!!

                ฉันทุบโต๊ะเปรี้ยงเข้าไปหนึ่งทีด้วยอารมณ์หน้ามืด   เอาล่ะสิ...เป็นเรื่องแล้วไง!!

                ยูเอะ...แม่สั่งให้ลูกไปงานดูตัว   ไม่มีข้อต่อรองท่านแม่เริ่มพูดเสียงเข้มขึ้นมาแล้วสิ   แถม...นั่น!! ในมือยังควักเอาชูริเคนที่ไหนไม่รู้ออกมาถือไว้ซะเต็มกำขนาดนั้น

                ใช่...ยูเอะ   พี่เองก็คิดเหมือนท่านแม่นะ หวา ๆ ๆ...พี่ริวจินสุดหล่อก็เอากะเค้าด้วยงั้นหรอ ? ไม่น้า!!

                สุดท้าย...หัวเดียวกระเทียมลีบอย่างฉัน   ต้องมายอมหมั้นเพราะคนทั้งบ้านบังคับหรอเนี่ย!? ไม่จริ๊ง!!!

                งานดูตัวจะจัดในอีกสามวัน ท่านพ่อกระเอมเบา ๆ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะยูเอะ

                มัดมือชกไปเรียบร้อย

                อ่ะ...เอ่อ   ลูกขอ...เออ   อย่างนึงได้มั้ยคะ ?

                อะไรล่ะ ?

                เอ่อ...ดูตัวนี่   เอาบาซูก้าเข้าไปดูตัวด้วยได้ไหมคะ ? แหะ ๆ ๆ ๆ

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

               

                เฮ้อ!!”

                นี่...ยัยป้ายูเอะ   ถอนหายใจอะไรกันนักกันหนาตั้งแต่เช้าแล้วนะ ?

                เสียงของอากิระที่ลอยผ่านหูฉันไปเช่นเดียวกับเสียงพูดคุยจอแจของเพื่อน ๆ ในห้อง   ก็ทำไงได้...ลองเจออย่างฉัน   เป็นใครก็ต้องเซ็งกันทั้งนั้นแหละ

                นี่...อากิระ ฉันเงยหน้าขึ้นมามองแม่เพื่อนตัวดี เธอเคยคิดเรื่องแต่งงานบ้างรึเปล่า ?

                อากิระหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง    ก่อนจะแผดเสียงหัวเราะสิบหกหลอดของหล่อนให้ดังสะท้านปฐพีไปทั้งโลก

                ฮ่ะ ๆ ๆ...นี่เป็นมุขจีบสาวใหม่รึไง ? เธอโดนผู้ชายที่ไหนจีบอย่างงี้มายะ ? แต่เมื่อเห็นสายตาที่เริ่มเปล่งแววอาฆาตของฉัน   ทำให้อากิระชะงักกึก    ก่อนจะกระเอม

                นี่ ๆ ...ยูเอะ    ก่อนที่จะคิดเรื่องแต่งงานนี่ฉันว่าหาแฟนให้ได้ก่อนไม่ดีหรือไง ?

                อ่านะ... ฉันกะพริบตาเบื่อ ๆ    ฟุบหน้าลงกับโต๊ะและเริ่มถอนหายใจอีกสองสามรอบ

                โอ้ย!! นี่แม่คุณจะถอนหายใจให้หมดลมตายไปเลยหรือไง ? ฉันได้ยินเสียงแม่เพื่อนตัวดีบ่นอุบขณะที่คุณเธอเดินไปนั่งที่ตัวเอง

                อ้าว...ซายุ!!”

                เสียงทักของเพื่อน ๆ ในห้องทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมาผจญกับโลกแห่งความจริงอีกครั้งเพื่อที่จะพบหน้ากับเพื่อนสุดเลิฟที่เดินเข้ามานั่งในห้องด้วยสีหน้าแช่มชื่นเหมือนกับที่เคยเป็น   ในมือถือช่อดอกไม้มาด้วยหอบใหญ่

                หวัดดี...ซายุ ฉันทัก   พยายามที่จะทำสีหน้าให้แช่มชื่นได้สักครั้งหนึ่งของเพื่อนสาว เอาดอกไม้มาจากไหนน่ะ ?

                อ๋อ เพื่อนรักของฉันพยักหน้า    นั่งลงที่ที่ของตัวเองข้าง ๆ ที่นั่งของฉัน

                รุ่นพี่ที่รู้จักกันน่ะ    แล้วก็มีนี่ด้วยนะ...  ซายุเริ่มค้นกระเป๋า   คว้ากล่องอะไรบางอย่างสีดำ ๆ ออกมา

                แต่นแต้น!! กล่องข้าวกลางวัน!!!” เพื่อนรักของฉันร้อง    ชูกล่องขึ้นราวกับได้รับถ้วยฟุตบอลโลกอะไรประมาณนั้น

                อาไร้!!? ผู้ชายอะไรทำกับข้าว ? ฉันเลิกคิ้ว

                อะโด่!! ยูเอะไม่รู้อะไร ซายุวางกล่องข้าวลง   ทำสีหน้าจริงจัง

                เดี๋ยวนี้น่ะ...ผู้ชายก็ทำกับข้าวได้   แถมทำได้เก่งกว่าผู้หญิงบางคนอีกนา   อย่างรุ่นพี่คนเนี้ย!!...เค้าอยู่ชมรมงานครัวก็เลยทำให้บ่อย ๆ

                อ้อ... ฉันพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ...แล้วเจ๊ไม่รับเขาเป็นแฟนไปเลยล่ะ   พ่อยอดชายนายคนเนี้ย!!”

                จะบ้าหรอ!!?” ซายุแหว คิดดูนะ...ถ้าฉันรับหมอนี่เป็นแฟนนะ    แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ ? แล้วถ้ามีคนอื่น ๆ ที่ทำกับข้าวเก่งกว่าหมอนี่ล่ะ ?

                อ๋อ...

                ฉันสรุปเอาเอง

                ...สรุปว่าแม่นี่คิดอยู่เรื่องเดียวเลยใช่ไหมนี่...

                เพื่อนช้านนนนน!?!

                แล้ว..ยูเอะเป็นอะไรหรอ ? หน้าตาไม่สบายเลย ? ถ้าไม่ได้กินข้าวมาล่ะก็เอาข้าวกลางวันนี่ไปกินก่อนก็ได้...แล้วเดี๋ยวตอนกลางวันฉันไปขอเอาจากหมอนี่มาอีกก็ได้

                เฮ้อ!! ซายุ...อย่างเธอเนี่ยดีจริง ๆ น้า!!? ไม่ต้องคิดอะไรมาก...หน้าตาดี   นี่ถ้ามีคนมาขอหล่อนแต่งงาน...หล่อนจะว่าไงเนี่ย ?

                เอ๋ ? ดวงกลม ๆ ของซายุกะพริบปริบ ๆ เหมือนกับตุ๊กตา   ก่อนจะ...

                ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!!

                เฮ้ย!!...แม่คุณ!!? อย่าหัวเราะดิ!!...นี่ฉันจริงจังนะ ?

                ก็...ก็ยูเอะ!? ทำไมอยู่ดี ๆ คิดอะไรอย่างนี้ขึ้นมาได้ล่ะ ? ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่สนใจเรื่องพวกนี้แท้ ๆ เลย   ทำไม ?...ตอนนี้เธอกำลังมีอะไรกับใครอยู่งั้นหรอ ?

                จาบ้าหรองาย“ - -^ ฉันลากเสียงยาว    มองดูแม่เพื่อนตัวดีที่กำลังนั่งปาดน้ำตาไปขำจนท้องแข็งไปด้วย   พลางลุ้นว่าแม่คุณจะขาดอากาศหายใจตายไปเมื่อไหร่  

                ก้อ...ก็มันขำนี่นา   เธอเพิ่งสิบเจ็ดเองนะ ซายุพยายามพูดให้ปะติดปะต่อกันที่สุดหลังจากที่หัวเราะจนท้องแข็งไปหมดแล้ว

                ช่างมันเหอะ ฉันสรุปเพราะคนจากที่อื่น ๆ เริ่มทยอยเข้าที่แล้ว   อีกไม่นานคงจะได้เวลาเข้าเรียนพอดี

                เฮ้อ!!...แล้วปัญหาชีวิตฉันล่ะ!!?

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **          

               

                ย้าก!!!”

                ตึง!!

                คนต่อไป!!”

                เสียงตะโกนเรียกที่เป็นเหมือนกับเสียงเรียกของมัจจุราชสำหรับบางคนไปเลย   เมื่อไอ้เจ้าคนที่ตะโกนเรียกอยู่น่ะหน้าตาบูดบึ้งบอกบุญไม่รับสุด ๆ

                ตึง!!

                เสียงหลังมือกระแทกกับโต๊ะนักเรียนอย่างจังที่ทำให้หลายคนขวัญบินหนีไปแล้ว

                ห่วย!! ห่วยจริง ๆ เลย!!! พวกนายเป็นผู้ชายจริงรึเปล่าเนี่ย!!?

                ฉันแกล้งพึมพำเสียงดัง   ยกข้อศอกขึ้นมาวางบนโต๊ะตั้งท่าเตรียมพร้อม

                เอ้า!! คนต่อไปมาได้แล้ว!!!...อย่าชักช้า   เดี๋ยวฉันต้องไปชมรมฟันดาบอีก!!”

                อ้อ!!...ลืมบอกไป    วันนี้เป็นวันเข้าชมรมสำหรับพวกเรา   ตัวฉันจริง ๆ แล้วต้องไปอยู่ชมรมฟันดาบ   แต่ไหน ๆ วันนี้อารมณ์หงุดหงิดได้ที่เลยแวะมาถล่มพวกชมรมการยุทธเล่นสักหน่อย    นิสัยดีจริง ๆ เลยนะแม่คุณ ^ ^””

                อะไรกัน!!? ไม่มีแล้วเรอะ ?

                มาเลย!!...ยัยป้ายูเอะ!! เจอกันหน่อยสิ!!!”

                หา!! เสียงเมื่อกี้ ? หรือว่า...

                ไอ้คุณริวเซสุดที่รักที่ยังไม่ได้จ่ายค่าทำสีแบล็คคุงของฉันสักกะแดงเดินออกมายืนเด่นหราอยู่หน้าพวกสมาชิกชมรมการยุทธที่ยืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยม

                เอ่อ...ท่านประธาน ?

                หา!?! นี่แกเป็นประธานชมรมการยุทธแล้วเรอะเนี่ย!!?” ฉันเบิกตาอย่างไม่อยากจะเชื่อ   เมื่อกี้...เมื่อกี้พวกสมาชิกชมรมนี่เรียกน้องจอมยุ่งของฉันว่า ประธาน ใช่ไหมเนี่ย ?

                ก็ใช่น่ะสิ!! ป้าน่ะเคยสนใจความเป็นอยู่ของน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองบ้างมั้ย!? -*- ริวเซเท้าสะเอว   เอ้า!! ได้ทีเอาเป็นชุดเชียวนะ!!

                เออ ๆ!!...จะว่าไงก็เอาเหอะ    ค่าที่แกทำแบล็คคุงน้อยของฉันเป็นรอยไปเมื่อวานน่ะยังไม่ได้ใช้คืนเลยนะยะ!!! ถ้าจะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำหน่อย...นั่งลงได้แล้ว!!”

                เหอะ!!...แค่งัดข้อจะไปสนุกอาไร้ ? หนอย!! ไอ้คุณน้องชายสุดที่ร้ากกกกก >,,,< ได้ทีทำเป็นเต๊ะท่าเท่ใหญ่เลยนะ!!

                มาดวลกันเลยเป็นไง...ถ้าฉันชนะเจ๊ต้องยกหนี้ให้ทั้งหมดด้วย!!”

                เหอ ๆ...แต่ถ้าแกแพ้แกต้องต้องทำความสะอาดห้องให้ฉันหนึ่งเดือนเต็มนะยะ

                ให้มันชนะก่อนเถอะ!!”

                เอาล่ะสิ...ศึกสายเลือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น    โดยมีค่าทำสีแบล็คคุงน้อยของฉันและการทำความสะอาดห้องหนึ่งเดือนเป็นเดิมพัน!! - -“””

                ส่วนคนอื่น ๆ น่ะหรอ...

                เฮ้ย!! ประธานชมรมการยุทธกับประธานชมรมฟันดาบจะสู้กันแล้ว!!”

                อ๊ะ!! ฉันลืมบอกไปรึเปล่าว่าฉันเองก็เป็นประธานชมรมฟันดาบนะ ^.^v

                ฉันลงข้างยูเอะห้าร้อยเยน!!”

                เฮ้ย!!...แต่ดูว่าถ้าดวลกันยังไงริวเซก็น่าจะชนะนะ

                แกจะรู้อาไร้!!? ยูเอะน่ะเป็นพี่สาวริวเซ!!...ยังไงพี่สาวก็ต้องเก่งกว่าน้องชายอยู่แล้ว!!!”

                แต่ฉันลงข้างริวเซพันเยนว่ะ!!”

                ฉันให้ข้างยูเอะไปเลยพันห้า!!!”

                ฉันสู้มือเปล่านะ...เจ๊ว่าไง ? ริวเซหันมาถาม   ฉันเลิกคิ้ว

                เหอ ๆ  น้องชายสู้มือเปล่าพี่สาวใช้ดาบก็คงจะไม่สวยงามสักเท่าไหร่   จริงมะ ๆ -*-

                ยังไงก็ได้   ฉันบ่ยั่นอยู่แล้ว   แต่ใช้อาวุธหน่อยไม่ดีกว่าเร้อ!?!” ฉันยิ้ม

                ถ้าแพ้จะได้ไม่โทษว่าตัวเองไม่ได้ใช้อาวุธเลยแพ้!!”

                ฟุ่บ!!!

                พ่อน้องชายตัวดีฉีกยิ้ม   ยกมือขวาขึ้นเหนือหัวส่วนมือซ้ายพุ่งมาด้านหน้า   เป็นท่าการต่อสู้ที่มันถนัดล่ะ

                ไม่ล่ะ  ผมไม่รังแกคนแก่!!”

                หนอย!!!

                ถึงหน้าฉันจะยังยิ้มอยู่   แต่ใครจะรู้บ้างว่าเส้นเอ็นงี้ลั่นผึง ๆ ไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว >O< โมโหเป็นนะโว้ย!!

                คำก็คนแก่   สองคำก็คนแก่นะ

                เปรี๊ยะ ๆ!! (เสียงเส้นเลือดที่มือเริ่มแตกบ้าง)

                เดี๋ยวจะอัดให้พูดไม่ออกเลย!!! ไอ้คุณริวเซ!!?”

                วูบ!!

                ฉันถีบตัวอัดอากาศไปทางที่เจ้าริวเซยืนอยู่อย่างแรง   ส่วนตัวฉันก็ลอยละลิ่วปลิวถอยหลังไปยันกำแพง   เงื้อหมัดแล้วพุ่งเข้าใส่พ่อคุณริวเซที่ยืนตั้งหลักรับ

                ฟ้าว!!!

                ลูกเตะอัดอากาศที่ฉันถีบเข้าใส่ทำให้ริวเซเอียงหลบวูบและเสียการทรงตัวไปนิดหนึ่ง   ได้โอกาสที่หมัดของฉันจะออกโรงแล้วเน้อ ^O^

                วืด!!!

                หนอย!! หมัดของฉันวืดไปเพราะเจ้าริวเซที่ไวเป็นปรอทดันหลบได้เสียก่อน   ฉันรีบกระโดดตีลังกาถอยหลังกลับมาตั้งหลักใหม่

                ไม่เลวนี่   ป้าพ่อน้องชายคนดีหลิ่วตา

                แกก็เหมือนกัน   ไวขึ้นนี่ ฉันตอบ   ยิ้มบาง ๆ    เงื้อมือขึ้น...

                แต่เจ้าริวเซไวกว่า

                ปั้ก!! ปั้ก!! ผัวะ!! ผัวะ!!

                เสียงหมัดกระทบกับการ์ดที่ถูกยกขึ้นตั้งรับของฉันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว   แขนปวดระบมไปหมดแล้ว!! หมอนี่ไม่ออมมือกันเลยรึไง!?

                ฟุ่บ!!

                ฉันยกการ์ดขึ้น    ก้มตัวลงแล้วยกขาขึ้น   เสยลูกถีบอย่างที่ถนัดออกไป...

                วืด!!

                อีกแล้ว   หมอนั่นเอียงคอหลบไปได้เพียงแค่ปลายผม   แต่ว่า...

                เข้าทางฉันแล้วโว้ย!!

                ฉันพลิกข้อเท้าทันที   กวาดขาออกไป    จากลูกถีบกลายเป็นลูกเตะไปโดยปริยาย

                เฮ้ย!!

                เสียงเจ้าคุณริวเซร้องลั่น  

                ฮิ ๆ  คิดได้ตอนนี้ก็สายไปแล้วจ้ะพ่อน้องชายสุดที่ร้ากกกกก!!

                นี่แหละ   ลูกเตะสุดยอดของฉัน!!

                ขอตั้งชื่อว่า...ถีบนี้เพื่อน้องชาย!! เหอ ๆ

                หนอย!!” ริวเซกัดฟัน   เท้างาม ๆ ของฉันพุ่งเข้าไปจนเกือบจะชนหน้าของน้องชายแสนรักอยู่แล้ว    แต่ว่า...

                ชิ้ง!!

                ความรู้สึกที่ทำให้เราพี่น้องที่กำลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายหยุดชะกักกึก    ดวงตาสีเดียวกันที่เหมือนกันราวกับแกะหันควับไปทางเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง  

                ขอโทษครับ   ห้องวิชาการไปทางไหน ?
    __________________________________

    โว้ว ๆ ๆ >[]< เงียบกานจางเลย   เปิดเทอมหรอเจ้าค้า

    ขอเสียงหน่อยเร้วววววว >....<

    โย้วววว~ โย้ว!! โว้ววว!! วู้วววววว~!!! (ขอเองให้เอง -*-)

    มิริน

    m.tokiya m.tokiya m.tokiya m.tokiya
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×