คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บ้านซานาดะ
2.
บ้านซานาดะ
“อ๋อย...”
ฉันครางพลางพยายามลากขาเดินผ่านห้องต่าง ๆ ที่มีมากกว่าห้าสิบห้องในบ้านของตัวเอง ฉันหมายถึง...บ้านของตระกูลซานาดะเซริว หรือซานาดะฝั่งตะวันออกที่เป็นตระกูลหลักของตระกูลซานาดะทั้งหมดนั่นเอง
เอ๋ ? ที่ต้องแบ่งเป็นสี่ฝั่งอย่างนี้น่ะหรอ ? แหม...ถ้าจะให้คนในครอบครัวประมาณเจ็บสิบกว่าคนกับคนรับใช้อีกเป็นร้อย ๆ มาอยู่อัดกันในบ้านเดียว ไม่เป็นปลากระป๋องหรือไงจ้ะ ?
บ้านของฉันนั้นช่างอบอุ่น เหอ ๆ รู้ป่าวว่าตอนสมัยอยู่อนุบาลน่ะนะ คนอื่น ๆ เขาวาดภาพครอบครัวใส่กระดาษขนาดA4กัน ส่วนฉัน...กระดาษโปสเตอร์ยังไม่พอเลยจ้ะ - -“ ก็คิดดูแล้วกันว่ามันเยอะขนาดไหน
ตระกูลซานาดะอยู่รวมกันหมดในบริเวณเดียวกัน (แต่แยกบ้านไปตามทิศของตัวเองนะ) ประกอบด้วยคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณปู่น้อย คุณย่าน้อย ฯลฯ แล้วก็มีรุ่นพ่อกับแม่ฉันก็คือลุงป้าน้าอาทั้งหลาย แล้วก็รุ่นฉันซึ่งบางคนแต่งงานแล้วก็กลับมาอยู่ในบริเวณบ้านเดิม (บ้านมันใหญ่ขนาดนี้ใครจะโง่เสียเงินสร้างเรือนหออีกล่ะจริงไหม ?) นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นหลาน ๆ ของฉันซึ่งส่วนใหญ่จะยังคลานเตาะแตะ ๆ (แต่ก็พอใช้มีดสั้นเล่มเล็กเป็นแล้วนะ ^O^ น่าภาคภูมิใจจริง ๆ) ยกเว้นไว้แต่ ซานาดะ ยูคิ ซึ่งเป็น...อืม นั่นสิ...จริง ๆ คือเขาเป็นหลานอาของฉันน่ะ คือแม่ของเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉันซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของซานาดะฝั่งใต้ที่ตอนนี้มีอายุพอ ๆ กับฉันพอดี โอ้ย!! ยิ่งลำดับญาติแล้วยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่
บ้านซานาดะฝั่งเซริวนั้นถูกสร้างอย่างญี่ปุ่นแท้ ๆ บนพื้นที่หลายร้อยไร่จะว่าไปก็เหมือนปราสาทอยู่ไม่น้อย สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างอยู่ตรงกลางนั้นเป็นสถานที่ ๆ มักจะถูกใช้เป็นงานประลองในวันสำคัญต่าง ๆ และเป็นลานฝึกการลอบสังหารในวันปกติ ต้นซากุระที่กำลังออกดอกสีชมพูสะพรั่งอยู่ในสวน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของปลาทอดที่คงจะเป็นอาหารเย็นวันนี้โชยมาตามสายลมและเสียงดาบกระทบกันในโรงฝึกห่างออกไป
“อ้าว...ฟัดกับเจ้าริวเซมาหรอยูเอะ ?”
ใบหน้าของพี่ชายแสนดีโผล่ออกมาจากห้อง ๆ หนึ่ง ดวงตาสีดำใต้กรอบแว่นบาง ๆ ที่ช่วยเพิ่มดีกรีความหล่อน่ากรี๊ดของพี่ฉันทอประกายสนุก
โอ้!! นี่แหละเทวดาตัวจริง...ซานาดะ ริวจิน พี่ชายแสนดีของฉันที่แก่กว่าฉันได้สี่ปี่ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของเมืองนี้ด้วยคะแนนติดท็อปตลอดกาล เป็นสิ่งยืนยันว่า แม้ในหมู่พี่น้องของฉันซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แต่กำลังมากกว่าสมอง (อย่างเช่นไอ้คุณริวเซที่อยู่ ๆ ก็คว้าดาบมาฟาดเปรี้ยงฟาดเปรี้ยง!! ฮึ่ม!!! คิดแล้วเจ็บใจ!!) ก็ยังพอจะเหลือคนที่มีสมองอยู่บ้าง
ซานาดะ ริวจินเป็นพี่ชายคนโตที่สุดในหมู่พวกเราสามคนคือพี่ริวจิน ฉันแล้วก็ไอ้คุณริวเซ ด้วยใบหน้าหล่อเหลา...อันที่จริงต้องบอกว่าติดจะสวยเสียด้วยซ้ำ มารยาทแสนดี (ที่มีให้แต่เฉพาะสาว ๆ -*-) และมันสมองเป็นเลิศ ทำให้พี่มีผู้หญิงแวะเวียนเข้ามาในชีวิตอยู่เรื่อย แต่แน่นอน...พี่ก็แจกแห้วเหมือนกับฉันนั่นแหละ ^ ^
แต่เห็นยิ้ม ๆ ตลอดเวลาอย่างนี้...เตือนไว้อย่างว่าถ้าทำให้พี่แกโกรธล่ะก็ โลกาวินาศแน่งานนี้ =*=
“ทำไมถึงรู้ล่ะ ?” ฉันถาม เดินเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชายในขณะที่เจ้าตัวหันกลับไปจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังขึ้นตัวแถวตัวเลขที่ไม่รู้เรื่องเป็นแถบ ๆ
“ดูสภาพเธอก็รู้แล้วล่ะ” ริวจินตอบกลั้วหัวเราะ ขยับแว่นเข้าที่
ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นบ้านญี่ปุ่นหลังเดิมของฉัน เพราะนับแต่วินาทีที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชาย...มันก็เหมือนกับการไปอยู่ในฐานทัพลับของนาซ่าหรือกองกำลังของโซเวียตอะไรอย่างนั้น
ทุกตารางนิ้วของห้องขนาดสิบเสื่อนั้นเต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์จนแทบจะมองไม่เห็นพนังห้อง คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด ฯลฯ วางเรียงอย่างเป็นระเบียบโดยมีพี่ชายแสนดีของฉันนั่งอยู่ ท่ามกลางวงล้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น มือรัวลงบนแป้นพิมพ์ทางโน้นทีทางนี้ทีไม่ได้หยุดหย่อน
“แล้วริวเซล่ะ ? ตอนนี้คงกำลังเจ็บใจอีกแน่ ๆ” พี่ชายว่าต่อ นึกถึงท่าทางเจ็บใจกระฟัดกระเฟียดของน้องชายคนเดียวอย่างขำ ๆ
“อืม...คราวนี้ต้องจ่ายค่าทำสีแบล็คคุงให้ฉันใหม่ด้วย สมน้ำหน้า” ฉันตอบ ทรุดตัวลงนั่งตรงที่ยังพอมีที่ว่าง
“อ้อ...ใช่ ยูเอะ รู้สึกว่าท่านพ่อกำลังตามหาเธออยู่นะ” ริวจินว่า แสงจากจอคอมพิวเตอร์สะท้อนอยู่บนแว่นขณะพูดกับฉัน
“เอ๋ ? ท่านพ่อน่ะหรอ ?” ฉันเลิกคิ้ว “ทำไมต้องอยากเจอฉันด้วยล่ะ ?”
“ฮ่ะ ๆ ๆ รู้ก็ดีน่ะสิ” พี่ว่า ยังคงพิมพ์ต่อไป
“จริงสิ!!” ฉันสะดุ้ง ยังมีงานอีกชิ้นรออยู่นี่นา มือควานหาสมุดจดที่อยู่ในกระเป๋าออกมาพลิกดูทันที
“พี่ช่วยหาคนชื่อชิริสึกิ โซรุให้หน่อยได้ไหม ? แล้วก็ขอยาแบบเดิมด้วย งานคราวนี้เขาต้องการความสะอาดมากหน่อยน่ะ”
“ต้องการความสะอาดมากหน่อยก็ต้องการเงินมากหน่อยเหมือนกันนะ” ริวจินตอบ หัวเราะอย่างเคย
“นั่นสินะ” ฉันพลอยหัวเราะเป็นลูกคู่ไปด้วย
“เดี๋ยวนะ ๆ ขอทำงานทางนี้เสร็จก่อน พอดีงานทางนี้เขาก็เร่งเหมือนกัน ช่วงนี้คนต้องการข่าวสารน่ะเยอะนา”
“อ๊ะ!! รู้ค่ะรู้ ก็ฉายาลูแปงแห่งโลกข่าวสารน่ะเป็นของพี่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ?”
“ลูปงลูแปงอะไรกัน” พี่ขำ ขำทำไมฟระ!!? ก็พูดความจริงชัด ๆ แต่อย่างว่าล่ะน้า เป็นพวกชอบถ่อมตัวก็อย่างนี้แหละ
พี่ฉันน่ะถึงจะเกิดในตระกูลนักฆ่าก็จริง แต่กลับไม่ค่อยชอบงานฆ่าสักเท่าไหร่ นาน ๆ จะได้ออกโรงสักทีหนึ่ง งานที่ชอบทำก็คือหาข่าว ก็เลยกลายเป็นเจ้ากรมข้อมูลประจำบ้านซานาดะ แถมชื่อเสียงยังเลื่องลือจนเป็นที่รู้จักในวงการใต้ดินอีกด้วย ชนิดที่ถ้าหากว่าอยากได้ข่าวสารที่สมบูรณ์พร้อมล่ะก็...ต้องนึกถึงลูแปงแห่งซานาดะ (เป็นชื่อรหัสที่พี่ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในวงการน่ะ ปกติพวกเราไม่ค่อยจะเปิดเผยชื่อจริงกันหรอก มันน่ารำคาญเวลาที่มีคนมาตามขอลายเซ็นน่ะ!! ^O^v อิอิ)
“อืม...แล้วช่วงนี้เป็นไงบ้างล่ะ ? ใกล้สอบแล้วไม่ใช่หรือไง ?”
“โอย...พี่ค้า!! อย่าพูดถึงมานนน” เอาล่ะสิ ตัวฉันเริ่มจะละลายเหมือนยางเหนียว ๆ เวลาถูกแดดเผาแล้วลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้นอีกแล้ว เวลาพูดถึงเรื่องสอบทีไรมันจะเป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่า!!
“อ้าว!! ทำอย่างนี้เดี๋ยวท่านแม่ก็ดุเอาอีกหรอก” พี่ชายถามต่อ
“ท่านแม่ไม่เคยดุเลยค่า ท่านแม่ฟาดเอา ๆ อย่างเดียว” ฉันตอบลากเสียงยาว ลงไปนอนกลิ้ง ๆ บนพื้นอย่างมีความสุข
“ฮ่ะ ๆ แต่ท่านแม่ก็ไม่เคยฟาดเธอโดนซักทีนี่นา” ริวจินกล่าวยิ้ม ๆ เคาะแป้นพิมพ์สองสามครั้ง
“เอาล่ะ!! เสร็จงานทางนี้แล้ว!!!” พี่พูด ดึงแผ่นดิสก์แผ่นหนึ่งออกมาจากเครื่องแล้วเก็บใส่กล่องอย่างดี แสดงว่าเป็นงานชิ้นเลิศ สงสัยจะได้ราคาแหง ๆ
“ไหนดูสิ ชิริสึกิใช่ไหม ?”
“อืม...ชิริสึกิ โซรุ” ฉันพยักหน้าหงึก ๆ
“ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ส่งชื่อนี้ไปให้มันช่วยเซิร์จก่อน รอแปปนึงนะ...รับรองภายในพรุ่งนี้ได้ที่อยู่และรูปถ่ายแน่ ๆ แต่ถ้าอยากได้มากกว่านั้นคงต้องรอนานอีกหน่อย เพราะต้องส่งข้อมูลไปค้นหาที่อื่นอีก”
“เอาแค่รูปถ่ายกับที่อยู่ก็พอ...แล้วก็อยากที่ขอบเขตบริเวณที่อยู่ด้วย”
“ได้!! แล้วจะจัดให้นะ” พี่ริวจินหันมายิ้มให้
“ขอบคุณค่า!! พี่ริวจินน่าร้ากกกก...น่าร้ากกที่สุดเลย!!!”
แน่นอน!! พี่ริวจินน่ะน่ารักที่สุดอยู่แล้ว!!!...เพราะถึงจะให้หาข่าวมากมายมหาศาลขนาดไหนพี่แกก็ไม่เคยคิดเงินกับคนในครอบครัวเลยสักครั้งเดียว!! เห็นไหมว่าน่าร้ากกก...จริง ๆ นะ ^O^
“จ้า ๆ พี่ว่าเธอน่ะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วรีบไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวพี่เสร็จตรงนี้นิดนึงแล้วก็จะตามไปเหมือนกัน”
“ค่า ๆ!!”
** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **
“อ้าว...ยูเอะ กลับมาแล้วหรอ ?”
อ๊ะ!! นั่นเสียงท่านแม่ของฉันนี่นา...ดังมาจากในครัวแน่ะ
ท่านแม่ของฉันน่ะเกิดในตระกูลนินจาที่มีชื่อเสียงอยู่ในแถบคันโต เคยทำงานเป็นนินจาสมัยที่ยังสาว ๆ อยู่ แต่พอหลังแต่งงานก็เลิกงานนินจามารับบทคุณแม่แทน...แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ!! อย่าทำให้ท่านแม่แกโกรธดีกว่า...เพราะถ้าโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ คงต้องหลบทั้งมีดสั้น ชูริเคน...ซ้ำร้ายบางทียังโดนวงจักรอันใหญ่ ๆ ที่เคยเป็นอาวุธประจำตัวของท่านแม่ (ที่ตอนนี้ตายอย่างสงบอยู่บนข้างฝา...หมายถึงถูกแขวนไว้ให้ฝุ่นจับไงจ้ะ ^
^) เขวี้ยงใส่ด้วย
“ค่า...กลับมาแล้วค่า ^O^” ฉันขานรับ สูดกลิ่นหอม ๆ ของอาหารเย็นพลางเช็ดน้ำลายไปด้วย เหอ ๆ =v=
“วันนี้เป็นไงบ้าง ? ที่โรงเรียนนะ ?”
ท่านแม่สุดที่เลิฟโผล่หน้ามาถาม
ท่านแม่เป็นผู้หญิงร่างเล็กตามแบบมาตรฐานของสาวญี่ปุ่นทั่วไป ใบหน้าเรียวได้รูปที่ดูดี ๆ ก็คล้าย ๆ กับฉันนะ ^ ^ ตากลม ๆ และเส้นผมหยักศกหน่อย ๆ ทำให้ท่านแม่ดูอ่อนกว่าอายุจริงไปหลายเลยล่ะ
“ก็ดีค่ะ” ฉันเหวี่ยงกระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะ แล้วเริ่มหยิบเค้กช็อกโกเลตที่มักจะมีวางตั้งโต๊ะเอาไว้รอฉันอยู่เสมอขึ้นมากัดคำโต
“อ้อ...ท่านพ่ออยากเจอลูกหรอ ? เห็นท่านพี่ริวจินบอก”
ท่านแม่เอียงคอขึ้นนิดหนึ่งแล้วยิ้ม มือยังคงซอยกะหล่ำเป็นฝอย ๆ
“อืม...เอาไว้คุยกันตอนทานข้าวดีกว่านะ”
“ทำไมหรอคะ ?” ฉันเริ่มจะสงสัยขึ้นมาหน่อย ๆ แล้วนะ “เป็นเรื่องที่ต้องคุยพร้อม ๆ กันหรอ ?”
“ใช่แล้วล่ะ” ท่านแม่ตอบยิ้ม ๆ “ทีนี้ก็รีบไปอาบน้ำได้แล้ว คืนนี้มีเนื้อย่างด้วยนะ”
หา!!? เนื้อย่าง!? แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว ^w^ โอ้!! เนื้อย่างของโปรดจ๋า
“เร็ว ๆ สิยัยยูเอะ!! แล้วก็เช็ดน้ำลายซะด้วยนะ!!!”
เหอ ๆ = =”
_________________________________________
หุหุ ^ ^"" มีการแอบดองเค็มเล็กน้อย อิอิ
ขอบคุณทุก ๆ คนที่ใหความสนใจกันนะเจ้าค้า
แร้วข้าน้อยจะดอง เอ้ย!! จะพยายามต่อไป ^[]^
มิริน
m.tokiya m.tokiya m.tokiya m.tokiya
ความคิดเห็น