ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    << Kill - in - D >> บริษัทรับจ้างฆ่าไม่จำกัด (เพื่อมหาชน!!)

    ลำดับตอนที่ #3 : บ้านซานาดะ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 50


    2.

    บ้านซานาดะ

               

                อ๋อย...

                ฉันครางพลางพยายามลากขาเดินผ่านห้องต่าง ๆ ที่มีมากกว่าห้าสิบห้องในบ้านของตัวเอง   ฉันหมายถึง...บ้านของตระกูลซานาดะเซริว   หรือซานาดะฝั่งตะวันออกที่เป็นตระกูลหลักของตระกูลซานาดะทั้งหมดนั่นเอง

                เอ๋ ? ที่ต้องแบ่งเป็นสี่ฝั่งอย่างนี้น่ะหรอ ? แหม...ถ้าจะให้คนในครอบครัวประมาณเจ็บสิบกว่าคนกับคนรับใช้อีกเป็นร้อย ๆ มาอยู่อัดกันในบ้านเดียว   ไม่เป็นปลากระป๋องหรือไงจ้ะ ?

                บ้านของฉันนั้นช่างอบอุ่น   เหอ ๆ   รู้ป่าวว่าตอนสมัยอยู่อนุบาลน่ะนะ   คนอื่น ๆ เขาวาดภาพครอบครัวใส่กระดาษขนาดA4กัน   ส่วนฉัน...กระดาษโปสเตอร์ยังไม่พอเลยจ้ะ - -ก็คิดดูแล้วกันว่ามันเยอะขนาดไหน

                ตระกูลซานาดะอยู่รวมกันหมดในบริเวณเดียวกัน (แต่แยกบ้านไปตามทิศของตัวเองนะ) ประกอบด้วยคุณปู่   คุณย่า   คุณตา   คุณยาย   คุณปู่น้อย   คุณย่าน้อย  ฯลฯ แล้วก็มีรุ่นพ่อกับแม่ฉันก็คือลุงป้าน้าอาทั้งหลาย   แล้วก็รุ่นฉันซึ่งบางคนแต่งงานแล้วก็กลับมาอยู่ในบริเวณบ้านเดิม (บ้านมันใหญ่ขนาดนี้ใครจะโง่เสียเงินสร้างเรือนหออีกล่ะจริงไหม ?)    นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นหลาน ๆ ของฉันซึ่งส่วนใหญ่จะยังคลานเตาะแตะ ๆ (แต่ก็พอใช้มีดสั้นเล่มเล็กเป็นแล้วนะ  ^O^ น่าภาคภูมิใจจริง ๆ) ยกเว้นไว้แต่ ซานาดะ   ยูคิ ซึ่งเป็น...อืม    นั่นสิ...จริง ๆ คือเขาเป็นหลานอาของฉันน่ะ   คือแม่ของเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉันซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของซานาดะฝั่งใต้ที่ตอนนี้มีอายุพอ ๆ กับฉันพอดี  โอ้ย!! ยิ่งลำดับญาติแล้วยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่

                บ้านซานาดะฝั่งเซริวนั้นถูกสร้างอย่างญี่ปุ่นแท้ ๆ   บนพื้นที่หลายร้อยไร่จะว่าไปก็เหมือนปราสาทอยู่ไม่น้อย   สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างอยู่ตรงกลางนั้นเป็นสถานที่ ๆ มักจะถูกใช้เป็นงานประลองในวันสำคัญต่าง ๆ   และเป็นลานฝึกการลอบสังหารในวันปกติ   ต้นซากุระที่กำลังออกดอกสีชมพูสะพรั่งอยู่ในสวน   กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของปลาทอดที่คงจะเป็นอาหารเย็นวันนี้โชยมาตามสายลมและเสียงดาบกระทบกันในโรงฝึกห่างออกไป     

                อ้าว...ฟัดกับเจ้าริวเซมาหรอยูเอะ ?

                ใบหน้าของพี่ชายแสนดีโผล่ออกมาจากห้อง ๆ หนึ่ง   ดวงตาสีดำใต้กรอบแว่นบาง ๆ ที่ช่วยเพิ่มดีกรีความหล่อน่ากรี๊ดของพี่ฉันทอประกายสนุก

                โอ้!! นี่แหละเทวดาตัวจริง...ซานาดะ   ริวจิน    พี่ชายแสนดีของฉันที่แก่กว่าฉันได้สี่ปี่   ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของเมืองนี้ด้วยคะแนนติดท็อปตลอดกาล   เป็นสิ่งยืนยันว่า   แม้ในหมู่พี่น้องของฉันซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แต่กำลังมากกว่าสมอง (อย่างเช่นไอ้คุณริวเซที่อยู่ ๆ ก็คว้าดาบมาฟาดเปรี้ยงฟาดเปรี้ยง!! ฮึ่ม!!! คิดแล้วเจ็บใจ!!) ก็ยังพอจะเหลือคนที่มีสมองอยู่บ้าง

                ซานาดะ   ริวจินเป็นพี่ชายคนโตที่สุดในหมู่พวกเราสามคนคือพี่ริวจิน  ฉันแล้วก็ไอ้คุณริวเซ   ด้วยใบหน้าหล่อเหลา...อันที่จริงต้องบอกว่าติดจะสวยเสียด้วยซ้ำ   มารยาทแสนดี (ที่มีให้แต่เฉพาะสาว ๆ  -*-) และมันสมองเป็นเลิศ   ทำให้พี่มีผู้หญิงแวะเวียนเข้ามาในชีวิตอยู่เรื่อย   แต่แน่นอน...พี่ก็แจกแห้วเหมือนกับฉันนั่นแหละ ^ ^

                แต่เห็นยิ้ม ๆ ตลอดเวลาอย่างนี้...เตือนไว้อย่างว่าถ้าทำให้พี่แกโกรธล่ะก็   โลกาวินาศแน่งานนี้ =*=

                ทำไมถึงรู้ล่ะ ? ฉันถาม   เดินเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชายในขณะที่เจ้าตัวหันกลับไปจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังขึ้นตัวแถวตัวเลขที่ไม่รู้เรื่องเป็นแถบ ๆ

                ดูสภาพเธอก็รู้แล้วล่ะ ริวจินตอบกลั้วหัวเราะ   ขยับแว่นเข้าที่

                ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นบ้านญี่ปุ่นหลังเดิมของฉัน   เพราะนับแต่วินาทีที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชาย...มันก็เหมือนกับการไปอยู่ในฐานทัพลับของนาซ่าหรือกองกำลังของโซเวียตอะไรอย่างนั้น

                ทุกตารางนิ้วของห้องขนาดสิบเสื่อนั้นเต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์จนแทบจะมองไม่เห็นพนังห้อง   คอมพิวเตอร์   คีย์บอร์ด  ฯลฯ วางเรียงอย่างเป็นระเบียบโดยมีพี่ชายแสนดีของฉันนั่งอยู่ ท่ามกลางวงล้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น   มือรัวลงบนแป้นพิมพ์ทางโน้นทีทางนี้ทีไม่ได้หยุดหย่อน

                แล้วริวเซล่ะ ? ตอนนี้คงกำลังเจ็บใจอีกแน่ ๆ พี่ชายว่าต่อ  นึกถึงท่าทางเจ็บใจกระฟัดกระเฟียดของน้องชายคนเดียวอย่างขำ ๆ

                อืม...คราวนี้ต้องจ่ายค่าทำสีแบล็คคุงให้ฉันใหม่ด้วย   สมน้ำหน้า ฉันตอบ   ทรุดตัวลงนั่งตรงที่ยังพอมีที่ว่าง

                อ้อ...ใช่   ยูเอะ   รู้สึกว่าท่านพ่อกำลังตามหาเธออยู่นะ ริวจินว่า   แสงจากจอคอมพิวเตอร์สะท้อนอยู่บนแว่นขณะพูดกับฉัน           

                เอ๋ ? ท่านพ่อน่ะหรอ ? ฉันเลิกคิ้ว ทำไมต้องอยากเจอฉันด้วยล่ะ ?

                ฮ่ะ ๆ ๆ   รู้ก็ดีน่ะสิ พี่ว่า   ยังคงพิมพ์ต่อไป

                จริงสิ!!” ฉันสะดุ้ง    ยังมีงานอีกชิ้นรออยู่นี่นา   มือควานหาสมุดจดที่อยู่ในกระเป๋าออกมาพลิกดูทันที

                พี่ช่วยหาคนชื่อชิริสึกิ  โซรุให้หน่อยได้ไหม ? แล้วก็ขอยาแบบเดิมด้วย   งานคราวนี้เขาต้องการความสะอาดมากหน่อยน่ะ

                ต้องการความสะอาดมากหน่อยก็ต้องการเงินมากหน่อยเหมือนกันนะ ริวจินตอบ   หัวเราะอย่างเคย

                นั่นสินะฉันพลอยหัวเราะเป็นลูกคู่ไปด้วย

                เดี๋ยวนะ ๆ   ขอทำงานทางนี้เสร็จก่อน   พอดีงานทางนี้เขาก็เร่งเหมือนกัน   ช่วงนี้คนต้องการข่าวสารน่ะเยอะนา

                อ๊ะ!! รู้ค่ะรู้   ก็ฉายาลูแปงแห่งโลกข่าวสารน่ะเป็นของพี่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ?

                ลูปงลูแปงอะไรกัน พี่ขำ   ขำทำไมฟระ!!? ก็พูดความจริงชัด ๆ    แต่อย่างว่าล่ะน้า    เป็นพวกชอบถ่อมตัวก็อย่างนี้แหละ

                พี่ฉันน่ะถึงจะเกิดในตระกูลนักฆ่าก็จริง   แต่กลับไม่ค่อยชอบงานฆ่าสักเท่าไหร่   นาน ๆ จะได้ออกโรงสักทีหนึ่ง    งานที่ชอบทำก็คือหาข่าว    ก็เลยกลายเป็นเจ้ากรมข้อมูลประจำบ้านซานาดะ   แถมชื่อเสียงยังเลื่องลือจนเป็นที่รู้จักในวงการใต้ดินอีกด้วย   ชนิดที่ถ้าหากว่าอยากได้ข่าวสารที่สมบูรณ์พร้อมล่ะก็...ต้องนึกถึงลูแปงแห่งซานาดะ (เป็นชื่อรหัสที่พี่ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในวงการน่ะ   ปกติพวกเราไม่ค่อยจะเปิดเผยชื่อจริงกันหรอก   มันน่ารำคาญเวลาที่มีคนมาตามขอลายเซ็นน่ะ!! ^O^v อิอิ)

                อืม...แล้วช่วงนี้เป็นไงบ้างล่ะ ? ใกล้สอบแล้วไม่ใช่หรือไง ?

                โอย...พี่ค้า!! อย่าพูดถึงมานนน เอาล่ะสิ   ตัวฉันเริ่มจะละลายเหมือนยางเหนียว ๆ เวลาถูกแดดเผาแล้วลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้นอีกแล้ว   เวลาพูดถึงเรื่องสอบทีไรมันจะเป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่า!!

                อ้าว!! ทำอย่างนี้เดี๋ยวท่านแม่ก็ดุเอาอีกหรอก พี่ชายถามต่อ

                ท่านแม่ไม่เคยดุเลยค่า   ท่านแม่ฟาดเอา ๆ อย่างเดียว ฉันตอบลากเสียงยาว   ลงไปนอนกลิ้ง ๆ บนพื้นอย่างมีความสุข

                ฮ่ะ ๆ   แต่ท่านแม่ก็ไม่เคยฟาดเธอโดนซักทีนี่นา ริวจินกล่าวยิ้ม ๆ   เคาะแป้นพิมพ์สองสามครั้ง

                เอาล่ะ!! เสร็จงานทางนี้แล้ว!!!” พี่พูด   ดึงแผ่นดิสก์แผ่นหนึ่งออกมาจากเครื่องแล้วเก็บใส่กล่องอย่างดี   แสดงว่าเป็นงานชิ้นเลิศ   สงสัยจะได้ราคาแหง ๆ

                ไหนดูสิ    ชิริสึกิใช่ไหม ?

                อืม...ชิริสึกิ   โซรุ ฉันพยักหน้าหงึก ๆ

                ได้ ๆ  เดี๋ยวพี่ส่งชื่อนี้ไปให้มันช่วยเซิร์จก่อน   รอแปปนึงนะ...รับรองภายในพรุ่งนี้ได้ที่อยู่และรูปถ่ายแน่ ๆ   แต่ถ้าอยากได้มากกว่านั้นคงต้องรอนานอีกหน่อย   เพราะต้องส่งข้อมูลไปค้นหาที่อื่นอีก

                เอาแค่รูปถ่ายกับที่อยู่ก็พอ...แล้วก็อยากที่ขอบเขตบริเวณที่อยู่ด้วย

                ได้!! แล้วจะจัดให้นะ พี่ริวจินหันมายิ้มให้

                ขอบคุณค่า!! พี่ริวจินน่าร้ากกกก...น่าร้ากกที่สุดเลย!!!”

                แน่นอน!! พี่ริวจินน่ะน่ารักที่สุดอยู่แล้ว!!!...เพราะถึงจะให้หาข่าวมากมายมหาศาลขนาดไหนพี่แกก็ไม่เคยคิดเงินกับคนในครอบครัวเลยสักครั้งเดียว!! เห็นไหมว่าน่าร้ากกก...จริง ๆ นะ ^O^

                จ้า ๆ   พี่ว่าเธอน่ะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วรีบไปกินข้าวเถอะ   เดี๋ยวพี่เสร็จตรงนี้นิดนึงแล้วก็จะตามไปเหมือนกัน

                ค่า ๆ!!”

     

    ** ** ** ** ** ** ** ** ** ** **

               

                อ้าว...ยูเอะ   กลับมาแล้วหรอ ?

                อ๊ะ!! นั่นเสียงท่านแม่ของฉันนี่นา...ดังมาจากในครัวแน่ะ

                ท่านแม่ของฉันน่ะเกิดในตระกูลนินจาที่มีชื่อเสียงอยู่ในแถบคันโต   เคยทำงานเป็นนินจาสมัยที่ยังสาว ๆ อยู่   แต่พอหลังแต่งงานก็เลิกงานนินจามารับบทคุณแม่แทน...แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ!! อย่าทำให้ท่านแม่แกโกรธดีกว่า...เพราะถ้าโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่   คงต้องหลบทั้งมีดสั้น   ชูริเคน...ซ้ำร้ายบางทียังโดนวงจักรอันใหญ่ ๆ ที่เคยเป็นอาวุธประจำตัวของท่านแม่ (ที่ตอนนี้ตายอย่างสงบอยู่บนข้างฝา...หมายถึงถูกแขวนไว้ให้ฝุ่นจับไงจ้ะ ^…^) เขวี้ยงใส่ด้วย

                 ค่า...กลับมาแล้วค่า ^O^” ฉันขานรับ   สูดกลิ่นหอม ๆ ของอาหารเย็นพลางเช็ดน้ำลายไปด้วย   เหอ ๆ =v=

                วันนี้เป็นไงบ้าง ? ที่โรงเรียนนะ ?

                ท่านแม่สุดที่เลิฟโผล่หน้ามาถาม

                ท่านแม่เป็นผู้หญิงร่างเล็กตามแบบมาตรฐานของสาวญี่ปุ่นทั่วไป   ใบหน้าเรียวได้รูปที่ดูดี ๆ ก็คล้าย ๆ กับฉันนะ ^ ^ ตากลม ๆ และเส้นผมหยักศกหน่อย ๆ ทำให้ท่านแม่ดูอ่อนกว่าอายุจริงไปหลายเลยล่ะ

                ก็ดีค่ะ ฉันเหวี่ยงกระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะ   แล้วเริ่มหยิบเค้กช็อกโกเลตที่มักจะมีวางตั้งโต๊ะเอาไว้รอฉันอยู่เสมอขึ้นมากัดคำโต   

                อ้อ...ท่านพ่ออยากเจอลูกหรอ ? เห็นท่านพี่ริวจินบอก

                ท่านแม่เอียงคอขึ้นนิดหนึ่งแล้วยิ้ม    มือยังคงซอยกะหล่ำเป็นฝอย ๆ

                อืม...เอาไว้คุยกันตอนทานข้าวดีกว่านะ

                ทำไมหรอคะ ? ฉันเริ่มจะสงสัยขึ้นมาหน่อย ๆ แล้วนะ เป็นเรื่องที่ต้องคุยพร้อม ๆ กันหรอ ?

                ใช่แล้วล่ะ ท่านแม่ตอบยิ้ม ๆ ทีนี้ก็รีบไปอาบน้ำได้แล้ว   คืนนี้มีเนื้อย่างด้วยนะ

                หา!!? เนื้อย่าง!? แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว ^w^  โอ้!! เนื้อย่างของโปรดจ๋า

                เร็ว ๆ สิยัยยูเอะ!! แล้วก็เช็ดน้ำลายซะด้วยนะ!!!”

                เหอ ๆ = =”

               “ค่า ๆ
    _________________________________________

    หุหุ  ^ ^"" มีการแอบดองเค็มเล็กน้อย   อิอิ

    ขอบคุณทุก ๆ คนที่ใหความสนใจกันนะเจ้าค้า    

    แร้วข้าน้อยจะดอง   เอ้ย!! จะพยายามต่อไป ^[]^

    มิริน

    m.tokiya m.tokiya m.tokiya m.tokiya
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×