ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    What cha gonna do? จะทำยังไงเมื่อใจมันรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 15:ไม่อยากจะเสียอะไรไปมากกว่านี้

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 48


    ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆแล้ว  ร่างๆนี้ยังคงแน่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว

    รู้ทั้งรู้ว่ายังไงคงสู้กับแก็งยากูซ่าใหญ่ๆตัวคนเดียวไม่ได้

    แต่เพราะว่า รักเพื่อน น่ะหรอจึงยอมแลก



    ห้อง ม.ต้นปี2 ห้อง4

    \"โฮ่ๆ สมน้ำหน้า ยัยเด็กท่าดีที่เหลว ฮะฮะ\" เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้อง ทำให้ฉันอย่างเดินไปตบสักฉาบ

    แต่เพราะว่าภาพพจน์ฉันมันต่างกับนิสัยอย่างสิ้นเชิงน่ะสิ

    \"เรนะ นู๋สนับสนุนให้ไปเตะก้านคอคุโรยเร้ย ไปเร้ยๆ เด๋วนู๋จาสมทบ\" เสียงเจื้อแจ้ว หรือปัญญาอ่อนฟระ

    ของมิมิรุนที่เอ่ยขึ้น พร้อมกับเสียงหักนิ้ว กร๊อบแกร๊บชวนสยอง



    \"ชั่งเหอะ มี่จัง ฉันไม่ชอบใช้กำลังกับไอ้พวกสมองดี แต่ไม่รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์

    ก็แค่สวะสังคมเท่านั้นแหละ\" ฉันยิ้มแสยะสุดสยอง (หรือป่าวฟร่ะ - -)

    \"หน่อย ยัย จิบะ เรนะ จะมากไปแล้วนะ\" จินะลุกพรวดขึ้นมา

    \"อ๊ะๆๆ พวกเธอพูดขึ้นมาก่อนนะ อีกอย่างรู้หรอว่าฉันกำลังด่าพวกเธออยู่\" ฉันพูดเสียงเย็นสนิท ไม่ชอบเลยยัยพวกนี้

    อยากให้ป๋าสั่งไล่พวกนี้ออกจังเลย แต่ว่าเหตุผลมันยังไม่พอที่จะไล่ออกนี้สิ เวรกรรม



    วันนี้คงไม่มีอะไรนอกจากรอ รอทุกอย่าง

    ...รอให้ถึงตอนเย็น

    ...รอพี่ริวอิจิมารับ

    ...รอให้พี่ฮิโรกิ ไอบะฟื้น

    ...และเหนือสิ่งอื่นใด เซย์กิ



    อีกครั้งแล้วสินะที่ฉันเกือบจะเสียเพื่อนคนนี้ไป หลังจาก2ปีที่แล้ว

    ตอน ประถมปลายปี2 เชื่อมั้ย ฉันมองไปรอบๆตัวเอง เพื่อนคนเดียวที่อยู่กับฉันเสมอคือเซย์กิ

    เพื่อนที่อยู่ข้าง ไปไหนไปด้วยกัน หรือฉันก็ลากเซย์กิให้ไปด้วย

    บางครั้งฉันรู้สึกเกลียดเพื่อนผู้หญิง รุ่นพี่ หรือรุ่นน้องที่ชอบเซย์กิ

    เหมือนฉันไม่อยากให้เวลาของฉันกับเซย์กิมันน้อยลง

    และเหมือนเป็นอีกคนที่เป็นที่รองรับนิสัยขี้หงุดหงิง+ซาดิสของฉันได้



    จะยังไงก็ตาม นี้คือเพื่อนรักของฉัน



    เลิกเรียน

    เลิกเรียนซะที วันนี้ฉันจะไปโรง\'บาล ไปเฝ้าเซย์กิ

    ทุกวัน พี่เคียวเฮก็ไปเฝ้าตลอด แต่ที่น่าสงสารกว่าใคร คงเป็นพี่ห่านหล่ะ

    ก็น้องสาวที่สนิทเป็นอย่างนี้ มีพี่ที่ไหนจะไม่ห่วง



    กุ๊กกัก~ ฉันวิ่งไปที่ห้องพักเลข 203

    ในห้องนั้น มันก็ยังคงปรากฎภาพเดิมๆ เซย์กินอนแน่นิ่ง ขาซ้ายเข้าเผือกเพราะกระดูกหัก

    แผลเต็มหน้าเลย แต่ว่าเซย์กิซูบลงเห็นๆ

    ที่เคียวเฮกำลังนั่งหลับอยู่ข้างเตียง  และอีกคนที่มักจะนั่งมองอยู่ห่างตรงมุมห้องพี่ฮิโรกิ  ที่กำลังหลับ(- -‘)

    ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ



    คิดแล้วน้ำตาฉันแทบทะลัก

    \"งืมๆ อ้าว น้องเรนะมาแล้วหรอ\" พี่เคียวเฮขยี้ดวงตาน้อยๆ ฉันพอจะอ่านสายตานั้นได้

    สายตาที่ไม่สดใสเหมือนทุกครั้ง ฉันไม่เห็นพี่เคียวเฮยิ้มมาเป็นอาทิตย์แล้วหล่ะ...



    ............................................................

    ..........................................

    .................................

    .......................

    .............

    ......

    .



    ป่านนี้แล้ว ที่จะพูดน่ะไม่มีสินะ ผมแค่อยากรู้ทั้งหมด เพียงแค่นั้น

    เพราะเธอไม่ได้ไม่ดี เพราะจะไม่ว่าเธอ  อยากให้ยอมฟังผมทั้งหมด

    ไม่ว่าเมื่อไหร่ภาพจินตนาการที่ขมขื่นก็ทำให้ปั่นป่วนอยู่ในหัว



    แต่ในตอนนี้คงไม่ได้แล้ว เพราะแม้แต่ลมหายใจของเธอ ผมยังแทบจะไม่ได้ยิน



    พรุ่งนี้ก็เข้มแข็งขึ้นไม่ได้ ถึงอย่างนั้นจะทำเพิกเฉยแล้วเดินต่อไปข้างหน้าก็ไม่ได้



    ถ้าสามารถย้อนกลับไปวันนั้นได้ ตอนนี้ก็อยากจะทำทันที อยากจะเข้าไปช่วย ไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้

    ผมมองหน้าเรนะที่ฝืนยิ้มเต็มที แต่ผมรู้ดี ลึกๆแล้วมันไม่ใช่



    \"มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย\" เรนะนั่งลงอีฝั่งของเตียง สายตาของเรนะมีแต่ความว่างเปล่า

    \"อื้ม พอดีวันนี้ห้องพี่มันพร้อมใจกับโดดเรียน พี่เลยโดดมาเฝ้าตั้งแต่เที่ยงน่ะ\" ผมตอบเสียงเรียบ

    แล้วจับมือสีขาวซีดตรงหน้าขึ้นมามือผมมันดันสั่นไปด้วย ก็มันเย็นนี้นา

    คงเพราะว่าอยู่แต่ห้องแอร์แน่ๆเลย ให้ตายสิ

    “เซย์กิเป็นไงบ้างคะ” เรนะพูดกระตุกกระตัก

    “ก็อย่างที่เห็นแหละเรนะจัง ไม่มีอะไรเลย” เสียงผมมันบังคับไม่อยู่แล้วหล่ะ  ยิ่งสัมผัสมือนั้นที่เย็นจับใจ

    ผมยิ่งรู้สึกแย่  ผมคงเป็นลูกผู้ชายที่ใช่ไม่ได้เลยหล่ะ เพราะผมเสียน้ำตาให้เด็กผู้หญิงที่ไม่ได้รักผมเลย



    เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ใครอ่ะ อ้อ ยูสุ

    \"อื้ม ว่าไง\"

    (\"เฮ้ยๆแก ไอบะคุงฟื้นแล้ววะ\")

    \"เฮ้ยว่าไงนะ\"

    (\"ฮิโรกิ ไอบะฟื้นแล้วเว้ย\")

    \"อาฮะๆ ขอบใจมากที่โทรมาบอก\" ตู้ดๆๆๆๆ วางสายๆ อย่างน้อยก็มีเรื่องดีหน่อยหล่ะ

    ฮิโรกิ ไอบะ  นายฟื้นแล้ว แต่ทำไมเซย์กิกลับไม่ฟื้นขึ้นมาบ้างหล่ะ



    “พี่ยูสุเกะ โทรมาทำไมหรอคะ” เรนะถามผมขณะนั่งลูบฝ่ามือเล็กๆอวบๆของเซย์กิที่ซีดลงไปเรื่อยๆ

    “อื้ม ยูสุเกะบอกว่า ฮิโรกิ ไอบะ ฟื้นแล้ว”  ผมยิ้มเจือนๆ ความจริงผมน่ะกึ่งดีใจ กึ่งเสียใจนะ

    ผมไม่อยากให้ฮิโรกิฟื้นเลย ไอบะคุงเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของผม แต่ยังไง ไอบะคุงก็สนิทกับเซย์กิไม่ใช่น้อย

    นิสัยเซย์กิมีจุดหนึ่งที่ทำให้ผม  ไอบะคุง และนักเรียนชายคนอื่นสนิท เพราะนิสัยที่อาจจะดูห้าว แต่บางครั้งก็หวาน

    ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเห็นๆ   ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอบะคุงมองเซย์กิแบบไหน อาจจะมองเซย์กิแบบน้องชาย  

    หรือน้องสาว แบบแฟนหรืออะไรก็ตาม แต่ผมมองเซย์กิในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง



    “อ่า เรนะจาง พี่เคียวจาง พี่ฮิโระ ฮิ้วววววววว พี่ฮิโรกิ ไอบะฟื้นแล้วๆๆๆ” มิมิรุนโผล่เขามาในห้อง

    ทุกสายตามองไปที่เธอ ซึ่งกำลังกระโดดไปมา สาวน้อยพุ่งมาที่เตียงฝั่งที่เรนะกำลังนั่ง  แล้วจับมือเซย์กิขึ้นมา

    “หม่าม้า ตื่นมาดูพี่ฮิโรกิ ไอบะสิคะ หน้าไม่เปลี่ยนเลย ยังหล่อเหมือนเดิม หม่าม้าตื่นขึ้น…มา…สิคะ” มิมิรุนเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียง

    จากร่าเริงเป็นสั่นเพราะน้ำตาที่เอ่อล้น



    “มิมิรุน หม่าม้าเซย์กิไม่เป็นอะไรหรอก อื้ม นี้พี่เอาของที่มิมิรุนอยากได้มาให้แล้วนะ” โชองยื่นกล่องๆหนึ่งให้มิมิรุน

    มิมิรุนปาดน้ำตาแล้วหยิบสิ่งของภายในนั้นมา

    “มิมิรุน เอาหัวกะโหลกมาทำไม จะเอามาแช่งเซย์กิหรือไง”  เรนะร้องลั่น มิมิรุนฝืนยิ้ม





    +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×