คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2
๒
....... ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ......
รัฐศาสตร์เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปที่ห้องฉุกเฉิน ใบหน้าเคร่งเครียดมาก
“หมอครับ!! คนไข้เป็นยังไงบ้างครับหมอ!!” รัฐศาสตร์ถามคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“เสียใจด้วยนะครับ รถตกรันเวย์และไฟลุกท่วมทั้งคัน ยังไงก็ไม่รอดหรอกครับ แล้วจะเอายังไงกับศพล่ะครับ คุณจะรับกลับไปเลยหรือเปล่าครับ” คุณหมอพูดอธิบายแล้วถามรัฐศาสตร์ว่าจะทำยังไงต่อไป
“ผมไม่ใช่ญาติของเขาหรอกครับ เป็นแค่เพื่อนเขา ผมว่าให้ญาติเขามารับเองเถอะครับ เพราะต้องกลับเชียงใหม่คืนนี้แล้ว” รัฐศาสตร์พูด
“ถ้าอย่างงั้น...ก็ได้ครับ ผมจะให้ทางโรงพยาบาลติดต่อญาติของคนไข้ให้นะครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมขอตัวก็นะครับ” คุณหมอพูดและเดินออกไป
เพชร...นายคงไปสบายแล้วสินะ ฉันสงสารแต่เจ้านุ่นและน้องสาวของนายเหลือเกิน ถ้าพวกเขารู้จะเป็นอย่างนะ ฉันก็ยังรู้เลย
รัฐศาสตร์มองเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ที่มีร่างของพิรชัย ร่างกายเละและไหม้เกรียม จนจำไม่ได้ว่าเป็นใครมาก่อน ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาวบาง ถูกเก็บไว้ในตู้ล็อกเกอร์เก็บศพ
รัฐศาสตร์ก็เดินออกจากโรงพยาบาล ด้วยเศร้าใจ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาล จนมาถึงคอนโดของเขาเอง
รัฐศาสตร์เปิดประตูห้องแล้ว ก็หยิบโทรศัพท์มือถือและโทรไปหาเจ้าศกลวรรณ เพื่อจะบอกเรื่องการเสียชีวิตของพิรชัย....
‘อะไรนะค่ะ! มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยค่ะ’ เจ้าศกลวรรณถามอย่างตกใจ แล้วน้ำตาก็เกือบไหลนองหน้าของเธอ
“เอ่อ.... มันเป็นเรื่องจริงครับ เพชร... เขาถูกตามไล่ยิง เพชรเลยเสียหลักพุ่งชนที่กั้นถนน แล้วตกรันเวย์ จนไฟลุกท่วมทั้งคันเลยครับ..... เขาไปสบายแล้วนะครับ” รัฐศาสตร์พูดเรื่อราวไปตามความจริง
‘โถ.... คุณเพชร ทำไมคุณรีบจากฉันไปเร็วอย่างนี้ หากชาติหน้ามีของให้เรามาคู่กันอีก ฮือๆๆ’ เจ้าศกลวรรณร่ำไห้และวิงวอนขอให้มาคู่กัน
“เจ้านุ่นครับ.....อย่าเสียใจไปเลยครับ ผมว่าไอ้เพชรเอง ก็ไม่อยากเห็นเจ้าร้องไห้หรอกนะครับ” รัฐศาสตร์พยายามปลอบใจเจ้าศกลวรรณ
‘ค่ะ เจ้าเองก็จะพยายามค่ะ’ เจ้าศกลวรรณหยุดร้อง
“ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ” รัฐศาสตร์ของตัวลา
‘ค่ะ สวัสดีค่ะ’ เจ้าศกลวรรณก็ตอบรับ
เมื่อสิ้นเสียงของอีกฝ่าย รัฐศาสตร์วางมือถือลงบนโต๊ะข้าง แล้วนั่งลงบนเตียงนอนของเขา ในหัวของเขานั้น มีแต่ภาพเพื่อนรักลอยอยู่ในหัว และเรื่องราวความทรงจำที่ดีต่อเขาของเพื่อนยังไม่เลือนหายไป
รัฐศาสตร์ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง และน้ำตาก็ไหลออกมาแบบไม่ไม่รู้สึกตัวเลย.... และเตรียมตัวรอเวลาถึงคืนนี้ เขาจะกลับเชียงใหม่แล้ว.....
...... ณ เกาะศรีมายา ท่าเรือประมง ใกล้จะโพล้ค่ำ......
“นายหญิงครับ! นายหญิง!”ชายสูงวัยวิ่งลงจากเรือหางยาวจนเกือบผูกเชือกไว้ที่ท่า แล้ววิ่งหน้าตาตื่นเพื่อไปบอกข่าวร้าย
“ไอ้ไข้นุ้ย มึงเห็นนายหญิงม้าย!!” ชายสูงวัยถามเด็กชายที่ยืนกำลังเล่นน้ำกับพวกเพื่อนของเขาอยู่ข้างทาง
“เห็นอยู่ที่ฟาร์มมุกครับลุง” เด็กชายตอบรับ
“ขอบใจมากนะ” ชายสูงวัยขอบคุณเด็กชายคนนั้น วิ่งอย่างชลมุนไปที่ฟาร์มมุก
เมื่อชายสูงวัยวิ่งมาถึงฟาร์มมุก ก็ถึงกับหมดแรงเลยทีเดียวเชียว
มุกดาราที่ยืนอยู่ดูงานอยู่กับมนัสพาและพวกคนงาน ต่างรีบไปช่วยประครองชายสูงวัยผู้นั้น
“พ่อ! พ่อครับ! พ่อเป็นอะไรมั้ยครับ!” มนัสถามผู้เป็นพ่อด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร! ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง นายหญิงครับ! ผมมีเรื่องจะบอกให้รู้ว่า....... เอ่อ นี้ครับผม ” ชายสูงวัยผู้นั้นยืนขึ้นแล้วยืนซองจดหมายให้กับมุกดารา
“อะไรหรอค่ะลุงศักดิ์....นี่มัน.....! ไม่จริงใช่มั้ยค่ะลุง เป็นไปไม่ได้!” มุกดาราถึงกับช็อค เมื่อเธอนั้นอ่านข้อความในจดหมาย น้ำตาเธอเกือบไหลออกมา เธอไม่อยากให้ใครนั้นเห็นน้ำตาของเธอ มุกดาราจึงวิ่งหนีผู้คนออกมา ส่วนมนัสก็วิ่งตามไปติดๆ
มุกดาราก็วิ่งมาที่สวนยางพารา เธอหยุดวิ่งแล้วร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย สำหรับเธอนั้นการที่เสียพี่ชายคนเดียวที่เธอมีอยู่ไปนั้น แสนทรมานสาหัสมาก สะขนาดใหน
“ทำไมพี่ต้องมาตายด้วย! ทำไมพี่เพชรต้องมาตายด้วยค่ะ! หนูไม่เข้าใจ!! ฮือ ทำไม!! ฮือๆๆๆๆๆๆ”
มุกดาราเสียสติไปแล้ว เธอทรุดตัวนั่งลงกับพื้น เธอร้องให้อย่างทรมานเป็นอย่างมาก
“โถ! คุณเทียนครับ... ไม่ต้องเสียใจหรอกนะครับ คุณเพชรไปดีแล้วนะครับ” มนัสที่วิ่งตามมาที่หลังก็มาพูดปลอบใจให้มุกดารารู้สึกดี
“ค่ะ คุณนัสช่วยหาตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพให้หน่อยได้มั้ยค่ะ เอาเที่ยวที่เร็วที่สุด ไม่สิ!
พรุ่งนี้จะยิ่งดีมากเลยค่ะ” มุกดาราพูดแล้ว ให้มนัสไปหาตั๋วเครื่องบินมาให้เธอ เพื่อไปรับศพพิรชัยกลับมาทำพิธีทางศาสนาต่อไป
“ได้ครับ ผมจะหาเที่ยวบินที่เร็วที่สุดมาให้นะครับ” มนัสตอบรับ
“คุณนัสค่ะ....ช่วยไปกรุงเทพเป็นเพื่อนฉันได้มั้ยค่ะ ฉันขอร้องล่ะ...” มุกดาราขอให้มนัสไปเป็นเพื่อนเธอ ในตอนนั้น....เธอไม่มีใครแล้ว นอกจากมนัส....
“ได้ครับผม ไม่ต้องเสียใจไปเลยนะครับ ผมจะ....อยู่เป็นเพื่อนคุณเอง” มนัสพูดปลอบใจมุกดารา
“คุณนัสค่ะ....ฮือๆๆ” มุกดาราเอามือโอบกอดมนัส และเธอก็ร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง
ส่วนมนัสนั้นก็ให้เธอกอด แล้วเขาก็จะพยายามที่จะกอดมุกดารากลับเพื่อปลอบใจ แต่เขาทำไม่ได้
จนมุกดาราเผลอสลบไป......
“คุณเทียนครับ!! เป็นอะไรไปครับ!!” มนัสขยับตัวมุกดาราที่เห็นท่าทางเงียบไป เขาจึงอุ้มเธอไปที่บ้านพักของมุกดารา...
มุกดารานั้นนอนอยู่บนเตียงนอนสีขาวสะอาด ในห้องนั้นถูกตกแต่งให้เข้ากับบรรยายของทะเล ทำให้รู้สึกสดชื่น และสบาย เป็นอย่างมาก
“คุณนัสค่ะ ทำไมคุณหนูเทียนถึงสลบไปล่ะค่ะ!” แม่พิงแก้วถามมนัสว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“คุณเทียนร้องไห้จนสลบไปครับ คงจะเครียดเรื่องคุณเพชรนะครับ” มนัสพูดอย่างเศร้าใจ เพราะสงสารมุกดารามากเหลือเกิน
“ตายจริง!! ขนาดนั้นเลยหรือค่ะ!! โถ! น่าสงสารคุณหนูเทียนนะค่ะ ที่ต้องมาเสียพี่ชายไปอย่างนี้”
แม่พิงแก้วตกใจแล้วก็พูดสงสาร
“นั่นสินะครับ.... ผมขอฝากคุณเทียนด้วยนะครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”มนัสเอ่ยแล้วขอตัวกลับ
“จ้ะๆๆ ดึกๆดืน เดินทางระวังด้วยนะค่ะ” แม่พิงแก้วพูด
“ครับผม”มนัสตอบรับแล้วเดินออกจากบ้านพักของมุกดารา จนมาถึงบ้านของเขา ก็มีชายสูงวัยนั่งอยู่หน้าบ้าน
“แกยังชอบนายหญิงอยู่ใช่ม้าย” ผู้เป็นพ่อถาม
“เอ่อ...ครับพ่อ...” มนัสตอบ
“แกก็รู้ว่าเรากับเขาไม่คู่ควรกันเลยสักอย่าง! ตัดใจเถอะ ไอ้นัส!” ผู้เป็นพ่อห้ามไม่ให้มนัสชอบมุกดาราเพราะเป็นห่วง
“ผมรู้ครับพ่อ...” มนัสตอบรับด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ
“เออ! ก็ดีแล้ว....เอ้า! เข้าบ้านแล้วไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป! แล้วค่อยมากินข้าว” ผู้เป็นพ่อพูด แต่ในใจก็รู้สึกเป็นห่วงลูกชายอยู่ไม่น้อย....
.......ด้านหนึ่ง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ........
รัฐศาสตร์นั่งรอเวลาขึ้นเครื่องบินกลับเชียงใหม่ เขาก็ไปโทรถามเรื่องงานกับปรเมศที่ไร่กุหลาบ
“ ฮัลโหลครับพี่หมอก เป็นยังไงบ้างครับ!! เรื่องพี่เพชรน่ะ...” ชายหนุ่มรับสายทางไกล
และถามรัฐศาสตร์โดยเร็ว
“เอ้ย! นี่ไอ้เมศ!! ค่อยๆ ตอบได้มั้ยว่ะ” รัฐศาสตร์พูดตักเตือนปรเมศ
“ก็...ครับ แล้วฝ่ายญาติพี่เพชรรู้เรื่องยังครับ” ปรเมศถามต่อ
“ฉันให้ทางโรงพยาบาลติดต่อให้นะ ป่านนี้ก็คงรู้แล้วสินะ” รัฐศาสตร์ตอบอย่างกังวล
“ครับ...ฝ่ายนู้น คงเศร้าน่าดูเลยสินะครับ” ปรเมศพูดอย่างสงสาร
“ใช่แล้วล่ะ....ที่ไร่ตอนนี้ไปยังไงบ้าง....โอเค ดีใช่มั้ย” รัฐศาสตร์ถาม
“ก็ปกติดีครับพี่หมอก.... ลูกค้ารายเก่ารายใหม่ส่งออเดอร์มาไม่หยุดเลย.....
ไปใหนมาใหน ผมก็มีแต่กุหลาบแล้วนะพี่ ฮะๆๆๆๆ”ปรเมศตอบ
“งั้นหรอ...ก็ดีแล้ว นายช่วยดูแลไร่แทนฉันก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะที่เชียงใหม่ นายมารับฉันด้วยล่ะ”
รัฐศาสตร์ยิ้มแล้วสั่งให้รุ่นน้องมารับเขาในวันรุ่งขึ้น
“ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ” ปรเมศตอบรับและของตัวลา
“จะรีบนอนไปใหนว่ะ เพิ่งสามทุ่มเองนะเว้ย!!” รัฐศาสตร์ถาม
“สามทุ่ม ผมก็ง่วงนะพี่หมอก” ปรเมศตอบ
“เออๆ แค่นี้ก่อนล่ะกัน ฉันต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว บาย” รัฐศาสตร์บอกลา
“ครับพี่หมอก บายๆๆ” ปรเมศวางสายแล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะข้าง
เมื่อสิ้นเสียงแล้ว รัฐศาสตร์เดินลากกระเป๋าไปขึ้นเครื่องบินทันที แล้วเครื่องบินไปเชียงใหม่ก็บินออกจากสนามบินไปไกลสุดฟ้าไกลตา...
......วันรุ่งขึ้น ณ สนามบินเชียงใหม่.....
รัฐศาสตร์เดินลากระเป๋าเดินทาง ออกจากทางเข้าผู้โดยสารภายในประเทศ เขาเดินไปแล้วมองซ้ายมองขวา เพื่อหาคนที่จะมารับเขา
“พี่หมอกครับ ทางนี้ครับ” ชายหนุ่มสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาดี ยืนโบกมือเรียกรัฐศาสตร์
“อ่าว!! เมศ ฉันนึกว่าแกไม่มารับฉันแล้วซะอีก” รัฐศาสตร์หยอกผู้เป็นรุ่นน้องของเขาอย่างชอบใจ
“โถ!! พี่หมอกครับ!! ถึงผมจะสายยังไง ต้องมารับพี่อยู่แล้ว” ปรเมศพูด
“เออๆ นายช่วยพาฉันไปหาเจ้านุ่นหน่อยได้มั้ย ฉันมีเรื่องต้องคุยนะ” รัฐศาสตร์ขอให้ปรเมศพาไปหาเจ้าศกลวรรณ
“ได้ครับ....คงเป็นเรื่องการตายของคุณเพชรไปบอกให้เจ้านุ่น และก็เรื่องที่พี่กับเจ้านุ่น..เอ่อ...”
ปรเมศพูด
“ใช่แล้วแหละ....รีบไปกับเถอะ!!” รัฐศาสตร์พูดแล้วให้ปรเมศนำเขาไปที่รถและมุ่งหน้าไปหาเจ้าศกลวรรณที่หมู่บ้านดอยหลวง.....
รถก็แล่นผ่านเข้าหมู่บ้านดอยหลวง บรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้านนั้น มีทุ่งนาข้าวเขียวชะอุ่มที่ทอดยาวเป็นขั้นบันไดตามไหล่เขา และมีพืชผลทางเกษตรอีกมากมาย ชาวบ้านในหมู่บ้านดอยหลวงนั้นต่างก็อยู่เย็นเป็นสุขกัน
แล้วรถก็มาหยุดที่หน้าโรงเรียนของหมู่บ้านดอยหลวง รัฐศาสตร์กับปรเมศเดินลงจากรถ และทั้งคู่เดินตามหาเจ้าศกลวรรณไปถึงต้นไม้ใหญ่หลังโรงเรียน เห็นหญิงสาวผู้มีสง่าราศีกำลังสอนหนังสือให้พวกเด็กชาวเขา
“เจ้านุ่นครับ เจ้านุ่น!!” ปรเมศตะโกนเรียกเจ้าศกลวรรณ
“คุณเมศ! เอ๊ะ! คุณหมอกนี่ เด็กๆ เดี๋ยวครูขอตัวก่อนนะจ้ะ” เจ้าศกลวรรณหันไปมองเจ้าของเสียงและปล่อยเด็กอ่านหนังสือต่อไป
“สวัสดีครับ เจ้านุ่น” รัฐศาสตร์กล่าวทักทาย
“สวัสดีค่ะ คุณหมอก เชิญทางนี้ค่ะ” เจ้าศกลวรรณเดินนำรัฐศาสตร์กับปรเมศไปที่ศาลาริมน้ำ เพื่อไปนั่งคุยเรื่องการตายของพิรชัย.....
“ผมขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับเจ้านุ่น เรื่องพิรชัยนะครับ ผมเองก็มีส่วนผิด ก็เรื่องข่าวที่เราสองคนจะแต่งงานกัน ทำให้เขาเสียใจมากๆ เลยนะครับ ทั้งที่ผมกับเจ้านุ่นก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่าพี่ชายกับน้องสาว” รัฐศาสตร์พูด
“ค่ะ นุ่นรู้ดีค่ะ แต่นุ่นเองก็ผิดเหมือนกันนะค่ะ ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาจะเป็นยังไงบ้าง เธอคงเศร้ามาก ที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงด้วยนะค่ะ” เจ้าศกลวรรณพูดอย่างเห็นใจ
“นั่นสินะครับ ถ้ายังไงผมสองคนขอตัวก่อนนะครับ ไป! ไอ้เมศ” รัฐศาสตร์ขอตัวกลับและลากปรเมศกลับด้วย
“ไปก่อนนะครับเจ้านุ่น พี่หมอก!! รอผมด้วยสิครับ” ปรเมศกล่าวลาแล้วรีบวิ่งไป
“ฮาฮาฮา กลับกันดีดีนะคะ บายๆค่ะ” เจ้าสกลวรรณพูดและโบกมือลาพวกเขา
รัฐศาสตร์และปรเมศขับรถแล่นเข้าไร่มหาทีรมานนท์ ที่มีกุหลาบเป็นไร่ๆ ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา
จนมาถึงบ้านพักสีขาว ที่ใหญ่ใตอลังการเหมือนคฤหาสกลางสวนกุหลาบ ที่กำลังเบ่งบาน
“นายพ่อ นายแม่ค่ะ!!! คุณป๋ากลับมาแล้วค่ะ!!” สาวน้อยวัยรุ่นยิ้มแย้มดีใจ เมื่อเห็นรถที่มาจอดตรงหน้าเธอ
“จะตะโกนเสียงดังไปทั้งมั้ยกันล่ะเปา ฉันไปแค่ไม่กี่วันเองนะเนี่ย ฮาฮา” รัฐศาสตร์หัวเราะในท่าทางของเปาวดี
“แหม.....ก็คุณป๋าไม่ได้อยู่ที่นี่หลายวันนี่ค่ะ ดูสิค่ะ!!! กุหลาบจะแห้งตายหมดไร่แล้ว” เปาวดีพูดอ้อน
“ฮาฮา นี่ยัยตัวแสบ!! ชั่งเอาคำม่เปรียบเทียบนะเนี่ย” ปรเมศพูด
“ตาหมอก!!! กลับมาแล้วหรอลูกแม่” นางสุพรรษา มารดาของรัฐศาสตร์ เดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับนายวิสุทธิ์ บิดาของรัฐศาสตร์
“ครับแม่ ผมคิดถึงแม่มากเลยนะครับ” รัฐศาสตร์โผล่กอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนเถอะลูก ประเดี๋ยวตอนค่ำเรามาทานข้าวพร้อมกันนะ”นายวิสุทธิ์พูด
“ครับพ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ ไอ้เมศกับเปาช่วยขนของหน่อยสิ” รัฐศาสตร์พูด
“ได้ค่ะคุณป๋า” เปาวดีรับทราบและลากกระเป๋าใบที่น้ำหนักน้อยที่สุด
“อ้าว!! ยัยเปา!! แกเอาของหนักๆ ให้ฉันอีกแหละ! สงสารสุขภาพของฉันบ้างมั้ย!!” ปรเมศพูด
“ไม่สงสารเลยค่ะ” เปาวดีพูดกวนและรีบวิ่งตัดหน้ารัฐศาสตร์ไป
“นี่ยัยเปา! เดี๋ยวจะโดนมิใช้น้อยแน่” ปรเมศตะโกนลั่นและวิ่งตามเปาวดีไป ทำให้ทุกคนหยุดหัวเราะไม่ได้
กลางไร่กุหลาบของโรสเรดเบลเลนซ่า กรุ๊ป มีแปลงกุหลาบ FAIR BIANCA ที่ไม่เหมือนแปลงอื่น สีของดอก สีขาว - ชมพูอ่อนๆ เหลือบขาว เป็นกุหลาบที่น่าหลงไหลมาก จึงเป็นที่นิยมจัดช่อในงานวิวาห์ ดูละเมียดละไม กลิ่นหอมแรงสดชื่นๆ คล้ายสมุนไพร ดอกขนาด กลางกลีบซ้อนหนาตามสไตล์อังกฤษ ที่ปลูกล้อมบ้านพักไม้ 2 ชั้น แต่ละด้านสามารถมองผ่านกระจกเพื่อดูความเรียบร้อยของไร่ได้
“จัดของเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณป๋า” เปาวดีพูดอย่างยิ้มแย้ม
“อืม....ขอบใจมากนะเปา” รัฐศาสตร์พูด
“ค่ะคุณป๋า หนูขอตัวก่อนนะค่ะ มีอะไรจะใช้หนูก็บอกนะค่ะ” เปาวดีกล่าวลาและเดินออกจากบ้านไป
“ส่วนเจ้าเมศ นายก็กลับบ้านไปได้แล้วนะ!! ฉันต้องการพักผ่อน” รัฐศาสตร์พูดเหมือนไล่ปรเมศ...
“ครับๆ ผมไปแหละนะครับ บายๆๆ” ปรเมศพูดแล้วเดินออกมาจากบ้าน
รัฐศาสตร์นั่งอยู่ในห้องทำงาน เขาเดินเข้ามาดูรูปถ่ายระหว่างเขา พิรชัย และมุกดารา
สมัยที่ทั้ง 3 ยังเด็กมาก...
รัฐศาสตร์กับพิรชัย ตอนนั้นอายุ 17 กำลังจะจบม. 6 เริ่มก้าวเข้าสู่รั่วมหาลัยที่ทั้งคู่ สอบได้คณะเดียวกัน ในช่วงปิดเทอม พ่อแม่ของพิรชัยและมุกดารา ขออนุญาตพ่อแม่ของรัฐศาสตร์ ให้รัฐศาสตร์มาพักที่รีสอร์ทบนเกาะศรีมายา......
เมื่อรัฐศาสตร์มาถึงที่เกาะศรีมายาได้ไม่นาน ก็เกิดไม่คาดคิดถึง.....
“ช่วยด้วย!!!! ช่วยหนูด้วย” เด็กหญิงผมสั้นคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ เพราะเธอกำลังจะจมน้ำกลางสระว่ายน้ำในบ้านพักหรูของเกาะ
“ไอ้หมอก!! น้องสาวฉันจะจมน้ำ!! รีบไปช่วยเร็ว” พิรชัยพูด แต่พูดไม่ทันขาดคำ รัฐศาสตร์กระโดดลงไปช่วยเด็กหญิงขึ้นมารอดตายหวุดหวิด....
“แฮ่กๆๆ พี่เพชร” เด็กหญิงพูดแล้วกอดพี่ชายของเธอ
“ไม่เป็นไรแล้วนะเทียน” พิรชัยพูดปลอบขวัญ
“รีบพาน้องนายไปพักผ่อนเถอะ เพชร” รัฐศาสตร์พูด
“ไป!!! เดี๋ยวพี่อุ้มน้องไปนะ เทียน” พิรชัยอุ้มมุกดาราไปพักผ่อนในบ้านหรูของตระกูลนาวาสวรรค์
......จนตกค่ำ ในห้องรับแขกของบ้านหรู.......
“เพชร!! น้องเป็นยังไงบ้างลูก” นายพิภพ ผู้เป็นบิดา ถามอาการของมุกดารา
“ดีขึ้นแล้วล่ะครับพ่อ..” พิรชัยพูด
“แม่กับพ่อ เป็นห่วงน้องมากเลยนะลูก นึกว่าจะเสียน้องไป แต่ไม่เป็นอะไรแล้ว แม่ก็โล่งอก” นางกานดา ผู้เป็นมารดาพูดอย่างเป็นห่วง
“หมอก อาขอบคุณเธอมากจริงๆนะ ที่ช่วยลูกสาวอานะ” นางกานดา กล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” รัฐศาสตร์พูด
“งั้น...เราเข้าไปดูยัยหนูเถอะคุณ” นางกานดาชวนสามีเข้าไปดูอาการของลูกสาว
“ไปสิคุณ......ส่วนพวกเด็กๆ ก้ไปพักผ่อนเถอะนะ วุ่นวายมาทั้งวันแล้ว ” นายพิภพพูด
“ครับ”พิรชัยและรัฐศาสตร์ขานรับ
.....รัฐศาสตร์นั่งมองรูปถ่ายใบนั้นนานหลายชั่วโมง แล้วก็นึกถึงเพียงแต่ว่า เด็กผู้หญิงที่ชื่อมุกดาราจะเป็นอย่างไร เธอจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้มั้ย เมื่อต้องเหลือเพียงตัวคนเดียว......
ความคิดเห็น