ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พรางตัว
EP.2 สลับขั้วมามั่วรัก
พรางตัว
"ว่าไงนะหอม!!"
"พี่ได้ยินไม่ผิดหรอก หอมจะไปแข่งคัดตัวแทนพี่เอง!"
ฉันตอบเสียงใสแล้วก็จ้องตาโตๆที่บ่งบอกเลยว่าอึ้งอยู่อย่างมุ่งมั้นเต็มที่
"ไม่ได้!"
"แต่..."
"ไม่ได้! ยังไงก็ไม่ได้!"
ฉันยังไม่ทันได้เถียงเลย พี่กล้าก็ส่ายหน้าปฏิเสธซะแล้ว ชิ
"ทำไมจะไม่ได้"
"อย่างแรก พี่ไม่ยอมปล่อยให้เราเข้าไปนอนหอกับผู้ชายหรอก อย่างที่สองคิดว่าเพื่อนพี่โง่ขนาดดูไม่ออกเลยหรอว่าเป็นเรา แล้วเรื่องแข่งพี่ไม่สนใจแล้ว นอกจากนั้น ถ้าหอมไปอยู่ร.ร.พี่แล้วร.ร.ของหอมอีกล่ะ ไม่เป็นไรระ..."
"ไม่ได้ หอมรู้นะพี่กล้า ว่าพี่เสียใจแค่ไหนที่ไม่ได้แข่ง และนั้นก็เป็นเพราะหอมด้วย เพื่อนพี่โง่จะตาย ขนาดนินสนิทกับพี่มากๆยังจำผิดเลย อีกอย่าง เรื่องนอนหอแค่ไล่ออกไปก็พอไม่ใช่หรอ? พี่เป็นคนยังไงเพื่อนร่วมหอพี่จะไม่รู้บ้างเลยหรอ? อีกอย่าง.."
"ไม่ได้!"
อ๊ะ! เหตุผลขนาดนี้แล้วยังจะไม่ยอมอีกหรอ? ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทุกอย่าง พี่เองก็รู้ดีอยู่แล้ว ทำไมไม่ได้ล่ะ
"การแข่งน่ะ ถ้าพี่ไม่ได้ลงเองแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?"
แววตาของพี่หมองลงอย่างเห็นได้ชัด พี่...
"ไม่! ยังไงหอมก็จะทำ!!"
"หอม...เดี๋ยวนี้ไม่ฟังพี่แล้วหรอ?"
"พี่ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ยังไงหอมก็จะทำ สามเดือนเท่านั้น พอพี่หายแล้ว หอมถึงจะสลับตัวกับพี่อีกที"
"หอม"
"ไม่รู้ไม่ชี้"
ฉันว่าอย่างเผด็จการ เป็นยังไงล่ะพี่ เจอหอมยื่นคำขาดเข้าไป เถียงไม่ออกเลยสิ สะใจ สะใจ
"ไม่ได้นะหอม"
"พี่ห้ามหอมไม่ได้หรอก อีกอย่าง ถ้าหอมคิดจะทำอะไรแล้ว หอมก็ต้องทำให้สำเร็จ"
"ไอ้น้องบ้า เฮ้ย กลับมาคุยกันก่อน หอม...หอม"
"ไอ้น้องบ้า เฮ้ย กลับมาคุยกันก่อน หอม...หอม"
พี่กล้าตะโกนไล่หลังฉันมาแบบไม่เกรงใจผู้ป่วยคนอื่น ถ้าเกิดว่าพี่กล้าไม่ได้เดี้ยงแบบนั้นก็คงไล่กระทืบฉันไปแล้ว แต่เพราะสภาพแบบนั้นทีว่าเป็นโอกาศของฉัน ฉันกลับไปที่บ้านแล้วก็หยิบกรรไกรขึ้นมา ผมของฉัน ต้องสั้นกว่านี้อีกนิด
ฉับๆๆๆ
สีของดวงตาฉันด้วย ต้องไปหาคอนเท็กมาใส่แล้ว ดีนะที่ตาของพี่กล้าเป็นสีดำ จะได้หาซื้อง่ายๆหน่อย แล้วก็เสื้อผ้า ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงก็จริง แต่ว่านิสัยก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงทั่วๆไปหรอกนะ นอกจากจะไม่ค่อยสำอางแล้วก็ไม่ค่อยอาบน้ำด้วย เกี่ยวกันไหมนั้น - -* ไม่ใช่ๆ ฉันจะหมายความว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องการแต่งตัว เพราะปกติ หน้าอกของฉันมันก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว ทุกอย่างก็เหมือนกับพี่หมดทุกอย่าง แม้แต่เสียงของฉัน เท่านี้ขอแตกต่างของฉันกับพี่ก็หายไปแล้ว ฉันจะได้เข้าไปอยู่ในร.ร.ชายล้วนได้แบบสบายๆ แล้วก็จะได้เป็นการหนีเรื่องเจ็บปวดไปในตัว
"ไม่เอาน่า อย่าวนเข้าเรื่องของตัวเองสิ"
แปะๆ
ฉันตบแก้มของตัวเองสองที่แล้วก็เปลี่ยนชุดผู้ชายเข้านั้นเอง เอ่อ ชุดของพี่กล้าส่วนใหญ่ก็...
"กางเกงบอลกับเสื้อยืดเนี่ยนะ เฮ้อ"
รสนิยมพี่ฉัน ห่วยสุดๆ
วันต่อมา
"ง่ะ O_o"
"เป็นไง แบบนี้พอจะเป็นพี่ได้รึยัง?"
ฉันบอกแล้วก็กอดอกในชุดนักเรียนของพี่
"หอม ทำไม...ยัยน้องบ้า"
กึ๋ย
ว่าแล้วพี่ก็ตวาดเสียงดังลั่นอย่างโกรธๆ แล้วก็ยังหน้าแดง ตาโตอีกต่างหาก บ้าเอ้ย แค่นี้ไม่เห็นต้องตะโกนเลย เป็นจุดสนใจอีกแล้วเนี่ย
"ยัยเด็กนี้ ทำบ้าอะไรของเธอ พี่ยังไม่อนุญาติเลยนะ"
"ก็ช่างพี่สิ เอานี้ มือถือของฉัน พี่ก็เป็นฉันไปก่อนแล้วกัน ฉันโทรไปบอกเพื่อนแล้วว่าตกขอบสระกระดูกแตก ครูก็ด้วย พี่ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วก็นี้..."
ฟึ่บ
ฟึ่บ
ฉันเอากระเป๋าเสื้อผ้าของฉันวางไว้ข้างๆพี่ แล้วก็ยิ้มให้อย่างร่าเริงปนเจ้าเล่ห์นิดๆ
"อะไร?"
"พี่ก็ต้องเป็นฉันสิ เพราะงั้น ใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงไปซะด้วย"
"ง่ะ ๐////๐"
"ไปก่อนนะหอม แล้วว่างๆพี่จะมาหาใหม่ หึๆ"
"ไปก่อนนะหอม แล้วว่างๆพี่จะมาหาใหม่ หึๆ"
ฉันยักคิ้วแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋าอย่างที่พี่เขาชอบทำแล้วก็หันหลังโบกมือให้พี่อย่างเต๊ะๆ วะ ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจโจ๋ ไม่ใช่สิ สิ่งที่ฉันจะต้องทำต่อจากนี้ ก็ต้อง...ไปที่ร.ร.ชายล้วนของพี่ สู้ๆหอม เธอต้องทำได้แน่
ร.ร.ชายล้วน
เฮือก
ฉันยืนกลืนน้ำลายอยู่หน้าร.ร. นี่น่ะหรอ? ร.ร.ที่ได้ชื่อว่าเถื่อนที่สุดในเมือง ดูหน้าแต่ละคนแล้ว หน้ากลัวอ่ะ โหด เหี้ยม แล้วก็ยัง ดูซาดิสสุดๆ ฉันอยากจะบ้าตายโว๊ยยยย
หมับ
"เฮือก อะไร?"
ฉันถึงกับสะดุ้งแล้วก็หันหลังไปปัดมือของคนที่จับไหล่ของฉัน
"เฮ้ย เป็นอะไรไอ้กล้า"
"ง่ะ นิน..."
"หือ?"
จริงสิ พี่เรียกนินว่าไอ้นินนี่หว๋า แถมยังพูดกันแบบเซียวสุดๆด้วย เอ่อ
"อะแฮ่ม อะไรของมึงว่ะไอ้นิน"
"เอ้า ก็กูเห็นมึงยืนจ้องประตูร.ร.อยู่ตั้งนานแล้วก็เลยเดินเข้ามาทัก กูสิต้องถามว่ามึงเป็นอะไร ปกติก็เห็นเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องเรียนก่อนใครพวกเลย"
นั้นไง เอาล่ะสิ ฉันเคยมาที่นี้ซะที่ไหนเล่า?
"กู...เจ็บขาว่ะ ก็เลยรอมึงไง"
นินหรี่ตามองฉันอย่างจับผิดแล้วก็ดีดนิ้วเหมือนกับคิดอะไรออก ฉันสิ เหงื่อแตกพลั่กๆแล้ว แค่นี้ก็จะโดนจับได้แล้วหรอเนี่ย? ไม่นะ...
นินหรี่ตามองฉันอย่างจับผิดแล้วก็ดีดนิ้วเหมือนกับคิดอะไรออก ฉันสิ เหงื่อแตกพลั่กๆแล้ว แค่นี้ก็จะโดนจับได้แล้วหรอเนี่ย? ไม่นะ...
"ที่มึงบอกกูว่ากระโดดลงจากชั้นสองสินะ"
หมับ
แล้วนินก็กอดคอฉันแล้วก็พูดขึ้นมา เฮ้อ โล่ง ไอ้นินนี่มันโง่จริงๆเลยนะ ขนาดมันอยู่กับฉันมาตั้งแต่เด็กๆมันยังแยกไม่ออกอีก ว่าเป็นคนละคน ตามน้ำไปหอม เธอทำได้ เธอทำได้ สายตาหลายคู่มองตรงมาที่ฉันแล้วก็นินจริงสินะ หัวหน้าแก๊งกับรองหัวหน้าเดินเข้าร.ร.มาพร้อมกัน ใครเขาจะไม่สนใจ แต่ว่านี้มันร.ร.ชายล้วนนะ ที่มองมาคงจะไม่ได้พิศวาสแน่ๆ แต่ละคู่งบอกเลยว่า อย่าเผลนะ ไม่งั้นมึงตาย อะไรประมาณเนี่ย? เฮือก เริ่มไม่ดีแล้วสิ
"อ้าว ภูริน ไหนบอกว่าขอพักสักสองสามเดือน ขาไม่เป็นไรแล้วหรอ?"
"ง่ะ"
ที่นี้อาจารย์หรอ? ล้ำซะ เอาไว้ขู่เด็กเกรียนโดยเฉพาะสินะ
ที่นี้อาจารย์หรอ? ล้ำซะ เอาไว้ขู่เด็กเกรียนโดยเฉพาะสินะ
"เอ่อ ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย"
"ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลยดีกว่า ทีมบาสของเรายังมีคนเก่งๆอีกเยอะ"
ง่ะ นี้ สายตาพิฆาตนี่หว๋า อะไรกันเนี่ยครูคนเนี่ย
"ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลยดีกว่า ทีมบาสของเรายังมีคนเก่งๆอีกเยอะ"
ง่ะ นี้ สายตาพิฆาตนี่หว๋า อะไรกันเนี่ยครูคนเนี่ย
"เฮ้ยกล้า มึงเป็นไรว่ะ ปกติไม่เห็นมึงคุยกับครูสักที อย่าบอกนะว่าตอนที่มึงกระโดดลงมาทำให้สมองมึงสะเทือนเลยลืมไปว่าครูคนนี้เกลียดมึงเข้าไส้"
"อ้าวหรอ?"
เสียงกระซิบของนินทำให้ฉันรู้อะไรอีกเยอะเกี่ยวกับพฤติกรรมของพี่กล้าที่ร.ร. โอ้โห้ พี่เราก็ใช่ย่อยเหมือนกันนี่น่า
"อะแฮ่ม ผมจะเข้าทีมตอนแข่งคัดตัวด้วย ครูมีปัญหาอะไรรึเปล่า?"
"เฮือก"
ครูล้ำถึงกับสะดุ้งแล้วก็หลบตาเดินหนีไป
"ฮ่าฮ่า แม่งเจ๋งว่ะ มึงนี้ปากกล้าดีนะ ไปอารมณ์เสียที่ไหนมาว่ะ"
อ้าว พี่กล้าไม่ได้เหี้ยมแบบนี้หรอกหรอ? เอาล่ะสิ
"มึงอย่ายุ่งเลย"
แต่ว่าอันนี้ชัวร์แน่ เพราะว่าพี่กล้าชอบพูดประจำ
"พูดแบบนี้กับกูอีกแล้ว ไอ้ห่า กูเพื่อนมึงอ่ะเนี่ย"
ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่นินก็ขยี้ผมของฉันเบาๆ ปกติที่ร.ร.พี่กับนินเขาเป็นอย่างนี้หรอเนี่ย? ฉันก็หวงตัวเอ็นนะ
ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่นินก็ขยี้ผมของฉันเบาๆ ปกติที่ร.ร.พี่กับนินเขาเป็นอย่างนี้หรอเนี่ย? ฉันก็หวงตัวเอ็นนะ
"เออ แล้วของมึงล่ะ สองวันก่อนมึงบอกว่าจะไปเก็บของแล้วก็ตกสระ แล้วไหนล่ะเสื้อผ้ามึง"
จริงสิ ง่ะ ลืมไว้หน้าร.ร.
"อย่าบอกนะว่ามึงลืม..."
"แหะๆ อยู่หน้าร.ร."
"- -*"
"เดี๋ยวไปเอาก่อนนะ"
ว่าแล้วฉันก็ปลีกตัวออกมาจากทางเดินชั้นสอง กว่าจะลงบันไดมาได้ทำเอาใจเต้นตุ่มๆต่อมๆ จะหายไหมเนี่ย ร.ร.นี้ยิ่งเถื่อนๆอยู่ด้วย อ่า เจอแล้ว
"ของใคร?"
ง่ะ เอาล่ะสิ อย่ามาหยิบกระเป๋าของฉ้านนน
หมับ
"ของฉันเอง แฮ่กๆ"
ฉันวิ่งซัดร้อยแปดสิบเข้าไปปคว้ากระเป๋าเป้ใบขนาดกลางออกมาจากมือชายนิรนามด้วยความเร็วแสง
"อ้าว กล้า ไหนบอกว่าเจ็บขาไง ขอลาไม่ใช่หรอ?"
ง่ะ ใครฟะเนี่ย ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าด้วย ทักอย่างสนิทสนมแบบนี้ คงจะเป็นเพื่อนล่ะมั้ง
"ตอนนี้หายแล้ว..."
"หือ?"
อะไรอ่ะ เลิกคิ้วมองเหมือนฉันพูดอะไรผิด
"กล้าเป็นอะไรรึเปล่า?"
"..."
พูดไม่ออกเลย ใครล่ะเนี่ย? แล้วพี่กล้าพูดกับพี่เขายังไงล่ะเนี่ย? ฉันล่ะ ตามน้ำไม่ได้แล้วนะ
โทรศัพช่วยชีวิต
"แปบนะ ฮัลโหล"
"หอม"
"พี่กล้...เอ่อ หอมหรอ? อะไรล่ะ?"
ฉันรีบเปลี่ยนสรรพนามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่คนนั้นยังอยู่ข้างหลัง
"นี่อย่าบอกนะว่าอยู่กับใครเข้า"
"อือ ใช่เลย"
"ให้ตายเถอะ บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง อะไรก็ไม่รู้สักอย่าง ยังจะอยากเปลี่ยนตัวเข้าไป เฮ้อ แล้วตอนนี้อยู่กับใคร?"
"ให้ตายเถอะ บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง อะไรก็ไม่รู้สักอย่าง ยังจะอยากเปลี่ยนตัวเข้าไป เฮ้อ แล้วตอนนี้อยู่กับใคร?"
น้ำเสียงที่ดูจะฉุนๆตอนแรกเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนแล้วก็เป็นห่วงในเวลาต่อมา
"ไม่รู้สิ สูงๆ หน้าตาดีๆ เหมือนเขาจะรู้จักด้วย"
ฉันพูดกระซิบกับมือถือแล้วก็เหลียวไปมองพี่เขาเป็นพักๆ
"ใครว่ะ?"
"ดูเขาจะสนิทกับพี่ด้วยนะ เขาเรียกแทนตัวเองว่าพี่แล้วก็รู้เรื่องพี่ตกสระด้วย"
"อ่า พี่หรอ? หรือว่าจะเป็นพี่ซุ๋ย"
"อ่า พี่หรอ? หรือว่าจะเป็นพี่ซุ๋ย"
"ห๊ะ"
"พี่ซุ๋ยไง กัปตันทีมบาสของพี่"
"รู้จักด้วยสินะ"
"เฮ้ยหอม พูดกับเขาดีๆนะ เรียกแทนตัวเองว่าผม แล้วก็เรียกพี่ซุ๋ยว่าพี่ ส่วนคนอื่น ช่างหัวมัน ไม่ต้องไปพูดอะไรเลยก็ได้ ใครถามก็เมินใส่มันเลย เข้าใจไหม?"
"เฮ้ยหอม พูดกับเขาดีๆนะ เรียกแทนตัวเองว่าผม แล้วก็เรียกพี่ซุ๋ยว่าพี่ ส่วนคนอื่น ช่างหัวมัน ไม่ต้องไปพูดอะไรเลยก็ได้ ใครถามก็เมินใส่มันเลย เข้าใจไหม?"
"แม้แต่เวลาเรียนหรอ?"
"เออ เวลาเรียนก็ด้วย"
"แต่..."
"ทำตามที่พี่บอกก็พอ ให้ไอ้นินพาไปที่หอ แล้วบอกมันว่าจะนอนคนเดียว ไสหัวไป เท่านั้นก็พอแล้ว"
"ง่ะ..."
สะกิด
"ครับ ครับพี่"
"คุยกับใครน่ะ?"
"เอ่อ น้องสาวน่ะครับ"
ฉันว่าแล้วก็ดึงโทรศัพเข้ามาแนบหูอีกครั้ง
"เอ่อ พี่ต้องวางแล้วนะหอม"
"หอม ระวังตัวด้วยนะ พี่เป็นห่วง"
"หอม ระวังตัวด้วยนะ พี่เป็นห่วง"
"อือ เดี๋ยวจะโทรหานะ"
ฉันว่าแล้วก็กดตัดสายหันมายิ้มให้พี่ซุ๋ยกัปตันทีม
"ว่ายังไงล่ะเรา"
"เอ่อ ผม...ไม่เป็นไรแล้วครับ แข็งแรงดี"
ฉันว่ายิ้มๆ
"งั้นหรอ? ก็ดีแล้วล่ะ เย็นนี้เจอกันที่โรงยิมก็แล้วกันนะ"
อ่า จริงสินะ โรงยิม ซ้อมบาสหรอ?
อ่า จริงสินะ โรงยิม ซ้อมบาสหรอ?
"มีอะไรหรอ?"
"เอ่อ คือ เย็นนี้ผมจะไปดูหอก่อน"
"อ๋อ เพราะงี้เองหรอ? ไม่เป็นไรหรอก มาช้าหน่อยก็ได้"
แหมะ
พี่ซุ๋ยวางมือลงบนผมของฉันแล้วก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"-////-"
กึ๋ย น่ารักจังเลย ฉันส่ายหัวไปมาไล่ความคิดพวกนั้นแล้วก็แบกกระเป๋าเป้ของตัวเองกลับไปหานิน
"มาแล้วหรอ? นานจริงๆเลยมึง"
"เจอพี่ซุ๋ยน่ะ"
"เจอพี่ซุ๋ยน่ะ"
"มึงนี้ ชอบพี่เขาซะจริงเลยนะ พูดดีแต่กับพี่เขาคนเดียว คนอื่นแม่งไม่แคร์เลยนะมึง เป็นเกย์ป่ะเนี่ย?"
ง่ะ พี่ฉันเป็นเกยืหรอ?
ง่ะ พี่ฉันเป็นเกยืหรอ?
"เงียบ วันนี้มึงแปลกเว้ย ไปๆ ไปเรียน"
ถ้าเป็นพี่ล่ะก็ พี่คงจะโกรธไปแล้ว
"มึนนะ"
ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินตามหลังของนินเข้าห้องเรียน บรรยากาศหน้ากลัวกว่าร.ร.ของฉันอีกนะเนี่ย อาจารย์แต่ละคน ล้ำๆทั้งนั้น ถึงฉันจะพยายามไม่สนใจแล้ว แต่ไอ้ความที่ฉันเป็นเด็กตั้งใจเรียนก็เลยตั้งใจแล้วก็เข้าใจทุกอย่าง ผิดกับนินที่นั่งงงแถมยังหลับคาโต๊ะอีกต่างหาก
"นายณัฐพัต นี่ นายณัฐพัต เฮ"
"แจ๊บๆ อายายออ"
ฉันสะกิดแขนนินเมื่ออาจารย์เรียกชื่อของนิน
"นู่น"
"นู่น"
ฉันมองไปที่หน้าห้อง นินก็มองตามแล้วก็เงย ก่อนจะฟลุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างไม่สนใจ ง่ะ ทำเอาฉันอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ อย่างนี้เลยหรอ?
"นี่นาย สนใจที่ฉันสอนรึเปล่า?"
"นี่นาย สนใจที่ฉันสอนรึเปล่า?"
คงไม่แล้วมั้งจารย์
"นายณัฐพัต"
"โอย หนวกหูว่ะ"
นินพูดขึ้นมาแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามอง กึ๋ย ตาเขียวปัดเลย
"แกว่ายังไงนะเจ้าเด็กนี้"
ครูเดินเข้ามาข้างๆโต๊ะของนิน มีเรื่องแล้ว มีเรื่อง...
"ครับๆ"
"ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่สำคัญนะ อย่างน้อยก้น่าจะ..."
"เออๆ โธ่ ครูครับ แค่ประโยคง่ายๆแค่นี้ ฉันเรียนมาตั้งแต่ 5 ขวบ"
นินพูดแล้วก็ยังเอานิ้วแคะขี้มูกอีกต่างหาก น่าหยะแหยงว่ะ
"ชิ ไอ้เด็กนี้"
กึ๋ย อาจารย์คนนั้นยกมือขึ้นกำลังจะฝาดหน้าตบนิน
หมับ
"อย่าลงไม้ลงมือกับเด็กสิอาจารย์"
ไม่อยากเชื่อ นินจับมือของอาจารย์แล้วก็บีบแบบไม่กลัว แถมสีหน้าก็นิ่งๆราวกับจะฆ่าอาจารย์คนนี้ได้ เฮือก นี่น่ะหรอ หัวหน้าแก๊งเอ็มเอฟ
"หน๊อย แก"
"เออ อย่ามีเรื่องกันเลยนะครับ โจทย์ข้อี้ผมจะเป็นคนแก้เอง นิน นั่งลง"
ฉันทนไม่ไหวลุกขึ้นไปดึงมือของนินแล้วก็ดันไหล่ให้หมอนั้นนั่งลงกับที่ ครูคนนั้นก็แค่ฮึดฮัดฟึดฟัด แล้วก็เดินนำฉันไปหน้าห้อง เกือบไปแล้วไหมล่ะ? ฉันหยิบชอร์กขึ้นมาแล้วก็เติมประโยคของบทความนี้ให้เต็ม ดีนะที่ฉันกับพี่เกิดห่างกันไม่กี่นาที ก็เลยได้เรียนชั้นเดียวกัน แต่คนละห้องเท่านั้น
"เสร็จแล้วครับ"
ฉันว่าแล้วก็เดินกลับไปนั่งที่ นินที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับหันมามองเลย
"อะไร?"
"เฮ้ย กูว่าวันนี้มึงเป็นไข้แน่เลย แม่ง แปลกๆตั้งแต่เช้าแล้ว"
กึ๋ย ลืมไป
"ก็ไม่อยากให้มึงมีเรื่องนี้หว๋า"
"ปกติก็ก็ต่อยกับครูประจำ มึงไม่เห็นเคยห้าม"
ง่ะ ประจำอย่างนั้นหรอ? ทำไมนายไม่โดนไล่ออกล่ะย่ะ
"ก็วันนี้ขี้เกียตมานั่งดู รีบๆเรียนจะได้ไปหอซะที"
ฉันบอกปัดๆแล้วก็เท้าคางมองไปนอกหน้าต่าง
4 ชม.ผ่านไป
แย่ล่ะสิ รู้สึกเคืองตายังไงก็ไม่รู้ คงจะใส่คอนเท็กนานเกินไป
"เข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"เออๆ"
นินยืนรอฉันอยู่ข้างนอกหลังจากที่ฉันเดินเข้าห้องน้ำไป กึ๋ย ๐////๐ แต่แล้วฉันก็ต้องหน้าแดง ให้ตายเถอะ นี่ห้องน้ำผู้ชายนี่หว๋า ฉันหันหลังแล้วก็กำลังจะเดินกลับออกไป แต่ว่าความรู้สึกระคายเคืองที่ตามันก็เตือนให้ฉันเดินกลับเข้าไป เอาว่ะ ก็แค่ผู้ชายเอง ไม่เท่าไรหรอกน่า
ปึ้ก
"เฮ้ย ใครว่ะ อย่ามายืนขว้างทาง"
ง่ะ งานงอกแล้วไง เพราะฉันยืนอยู่หน้าประตูก็เลยโดนใครบ้างคนดันเข้ามา ฉันก็หันควับไปมอง เขาถึงกับห้าถอดสี แล้วก็ก้มหัวขอโทษขอโพย
"ขอโทษคร้าบพี่กล้า ผมคิดว่าเป็นคนอื่น"
อ่า ดูเขาจะกลัวๆฉันนะ เอ่อ ฉันก็แค่พยักหน้าแล้วก้เดินเข้าห้องน้ำไป กระจกๆ ฉันค้นเข้าไปในกระเป่าเป้ของตัวเองหยิบกระจกออกมาแล้วก็ดึงคอนเท็กออกมาจากตา โอย โล่ง อีกข้างล่ะนะ
ปังๆๆๆ
ปึ้ก
ฉันถึงกับเอานิ้วจิ้มตาตัวเอง บ้าเอ้ย คอนเท็กยังอีกข้างยังไม่ทันได้ทอดเลยนะ มันระคายตารู้บ้างไหมฟะ
"เฮ้ย ไอ้กล้า ขี้หรอ?"
"เออ มึงจะไปไหนก็ไปเลย เดี๋ยวกูตามไป"
"เออ งั้นกูไปแดกข้าวล่ะนะ มึงรีบๆตามมาล่ะ"
"เออๆ"
"เออ งั้นกูไปแดกข้าวล่ะนะ มึงรีบๆตามมาล่ะ"
"เออๆ"
ฉันนี้ก็เนียนใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ถ้านายรออย่างน้อยก็ต้องยี่สิบนาที หลังจากที่ฉันหายเคืองตาแล้วอ่ะนะ ช่วยไม่ได้เหอะ ก็ฉันต้องมาเป็นตัวแทนของพี่นี่น่า
"เอ่อ แล้วโรงอาหาร...มันอยู่ส่วนไหนเนี่ย?"
มองซ้ายก็แล้ว ขวาก็แล้ว มันก็เหมือนๆกันไปซะหมด ซ้ายหรือขวาดีเนี่ย ขวาร้าย ซ้ายดี
แล้วฉันก็เลี้ยวไปทางซ้าย แต่พอเดินไปเรื่อยๆแล้ว ก็รู้ซึ้งแล้วว่ามันไม่ใช่ทางนี่แน่ๆ แต่ว่าก่อนที่จะหมุนตัวกลับก็ต้องชะงักแล้วก็หันไปมองตามเสียงเล็กๆนั้น
"เหมียว เหมียว"
นั้นไง ไม่ผิดแน่เลย ฉันยกหลังมือขึ้นปิดจมูกแล้วก็ผละถอยหลัง เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เพราะว่าฉันแพ้ขนแมวอย่างแรง เอ่อ ก็ไม่เชิงแพ้ขนแมวหรอกนะ แต่ก่อนฉันก็เล่นกับแมวได้สบายๆ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุฉันก็กลายเป็นแบบนี้ หมอบอกว่าเป็นเพราะสมองของฉันมันปฏิเสธแมวอย่างสิ้นเชิง
"แค่กๆ"
"เหมียว"
"ยะ แย่แล้ว"
เมื่อฉันเห็นเจ้าแมวเดินกระแพลกๆเข้ามาหาฉัน ฉันก็ถอยหนีทันที
"ยะ อย่าเข้ามานะเจ้าเหมียว"
ฉันยกมือขึ้นห้ามแล้วก็ปิดปากปิดจมูกตัวเองไว้ แย่ล่ะสิ บาดเจ็บอย่างนั้นหรอ แต่ว่า ฉันช่วยไม่ได้หรอกนะ แค่เข้าใกล้สักสามเมตรยังไม่ได้เลย
"เหมียว"
เหมือนมันจะขอความช่วยเหลือจากฉัน แต่ว่า ฉันช่วยไม่ได้นะ
"บะ บ้าเอ้ย ออกไปนะเฟ้ย"
ฉันบอกปัดๆ แล้วก็ถอยหลังไปหลายก้าว
ปึ้ก
"อ๊ะ บะ บ้าเอ้ย ถอยไปสิ"
ฉันที่เดินถอยหลังจนติดเข้ากลับแผงอกของใครสักคนเข้า รู้สึกได้ถึงลมหายใจ แต่ว่าไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนั้นแล้ว
"เป็นอะไรน่ะ?"
"ง่ะ...ถอยไปสิเฟ้ย"
ฉันไม่กล้าที่จะละสายตาจากแมวตัวนั้น เผื่อมันวิ่งเข้ามากระโดดใส่ฉัน ฉันไม่เป็นลมไปหรอกหรือ เมื่อคิดได้อย่างนั้น ก็ต้องถอยหนีเท่านั้น
"ก็แค่แมว หลัวอะไรนักหนา"
"มะ ไม่ได้กลัวโว้ย"
ฉันว่าแล้วก็เงยหน้าไปมองผู้ชายที่ว่าฉันเอาว่าฉันคนนั้น ง่ะ นั้น...หน้าคุ้นๆแฮะ จริงสิ เคยเจอที่ไหนมาก่อน
"มองอะไร? ฉันพูดถูกหรอ?"
"ชิ ไม่ได้กลัว"
"เฮ้อ"
ผู้ชายคนนั้นเดินไปตามทางเดินแล้วก็อุ้มเจ้าแมวขาเจ็บนั้นขึ้นมา เหวอออ จะเดินมาทางนี้แล้ว
"เฮ้ยๆ ยะ อย่าเข้ามา"
"อะไร ก็แค่แมว..."
เฮือก
"บอกว่าอย่าเข้ามาไงเล่าเฟ้ย"
ฉันตะคอกใส่ แต่ว่าหมอนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วก็เดินเข้ามาใกล้ๆอีก ฉันก็ผละถอยหนีแล้วก็ก้าวถอยหลังแบบไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้
"อะไรเล่า ก็แค่...แมวเองนะ"
"เฮือก แค่กๆ อย่า...ยะ อย่า"
ฉันไอแล้วก็ทรุดตัวลงกับพื้น ที่แย่ไปกว่านั้น หมอนั้นยังเดินเข้ามาประคองทั้งๆที่ในอ้อมกอดยังมีเจ้าเหมียวนั้นอยู่อีก ฉันตาโตแล้วก็ไอหนักกว่าเดิม
"ถอยออกไป"
"นาย ป่วยนี่น่า เป็นอะไรน่ะ เป็นอะไร?"
"นาย ป่วยนี่น่า เป็นอะไรน่ะ เป็นอะไร?"
"แค่กๆ แมว เอาออกไป"
ฉันว่าแล้วก็พลั่กไหล่เขาออกไป ไม่ไหวแล้วเฟ้ย ฉันเริ่มตาลายแล้วนะ เหงือของฉันแตกพลั่กๆแทบจะกลายเป็นสายน้ำ แล้วไอ้ความรู้สึกแน่นๆที่อก หัวใจที่กระตุกวูบเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้ เหมือนตอนนั้นเลย
"แฮ่กๆ ไม่ไหว แค่กๆ ไม่ไหวแล้ว"
ฟึ่บ
ในที่สุดฉันก็ทรุดตัวลงกับพื้นแล้วก็ปิดปากหอบหายใจระรัว ไม่มีแรงขยับเลย
"เฮ้ย นาย นายเป็นอะไรน่ะ"
"แมว ฉันแพ้แมว"
ฉันแค่นเสียงพูดออกมา ทำให้หมอนั้นพอจะรู้สึกตัวแล้วว่าต้องทำอะไร เขาปล่อยมือจากแมว แล้วก็มาพยุงฉันเอาไว้ไม่สิ เขานั่งลงแล้วก็จับขาของฉันเอาไว้ พร้อมกับแบกขึ้นหลัง
"อ๊ะ..."
เขาชะงักไปเล็กน้อย แต่ว่าฉันไม่สามารถจะควบคุมสติของฉันเอาไว้ได้
"แฮ่กๆ จะ จะทำอะไร?"
"พานายไปห้องพยาบาลน่ะสิ"
"มะ ไม่ต้อง...ยะ ยา อยู่ที่ห้องเรียน...ในกระเป๋า เสื้อผ้า"
ฉันพูดพร้อมกับหอบหายใจระรัว
"อ๊ะ ทำไมไม่พกติดตัวเล่า ไอ้งั่งเอ้ย แมวมันเป็นสัตว์ที่เจอได้ตลอดเวลาไม่ใช่รึไงกัน? เกิดตายขึ้นมามันจะไม่แย่หรอรึไง?"
"กะ ก็ลืมนี่น่า...ละ ลืม..."
"ลืม มันจะทำให้นายตายได้เลยนะเว้ย"
"อย่าบ่นให้มากนักเลย รีบๆไปเลย มะ ไม่งั้น แค่กๆ ฉันได้ตายจริงๆแน่ แฮ่กๆ"
"อย่าบ่นให้มากนักเลย รีบๆไปเลย มะ ไม่งั้น แค่กๆ ฉันได้ตายจริงๆแน่ แฮ่กๆ"
"เออๆ ก็รียอยู่เนี่ย"
ถึงเขาจะรีบวิ่งกระหื่นกระหอบไปที่ห้องของฉัน ดันลืมอะไรที่มันสำคัญถึงชีวิตได้ยังไงกันเนี่ย ปกติก็พกตลอดแท้ๆ แต่ว่าวันนี้กลับตื่นเต้นจนรีบยัดของพวกนั้นเข้ากระเป๋าทันที ก็เลยลืมแยกยาแก้แพ้กับของที่ไม่จำเป็นก่อน ความสะเพร่าของฉันโดยตรงเลยเนี่ย
ทันทีที่ฉันลงจากหลังของหมอนั้นได้ ฉันก็ควานหากล่องใส่ยาของฉันแล้วก็ยัดยาเม็ดเล็กๆใส่ปากทันที
"แฮ่กๆ"
ฉันรู้สึกสมองมันตึงๆแล้วก็ยังตาลายจริงๆด้วย
"เป็นไงบ้าง"
"ฮะ ฮัดเช่ย"
ฉัยกมือขึ้นขยี้จมูกแล้วก็พยักหน้ารับ
"อือ ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะที่ช่วย"
แต่ความจริงมันก็เป็นความผิดของนายนั้นแหละ
ครืนน ครืนน
มือถือของฉันเริ่มสั่นในกระเป๋ากางเกง ทำให้ฉันรีบหยิบขึ้นมาเบอร์ที่โชว์อยู่ทำให้ฉันลังเลนิดหน่อยที่จะรับ
"ว่าไง"
"ว่าไงห่าอะไรล่ะ? กูรอมึงเกือบชม.แล้วเนี่ย ขี้ห่าอะไร ตูดพังแล้วมั้ง"
"ง่ะ..."
ดูนินเปรียบเทียบเข้า - -*
"เสียงมึงฟังไม่ค่อยีเลยนะ เป็นอะไรรเปล่า?"
"เปล่าๆ มึงกินไปเถอะ เดี๋ยวกูลงไปหาที่โรงอาหาร"
"เออๆ มึงเร็วๆเลยสัส กูหิวจะแย่อยู่แล้ว"
"เออๆ มึงเร็วๆเลยสัส กูหิวจะแย่อยู่แล้ว"
ฉันกดตัดสายแล้วก็กัดปากตัวเองนิ่งๆ
"ชิ บ้าเอ้ย แล้วไอ้โรงอาหาร มันอยู่ส่วนไหนฟะเนี่ย?"
"...ไม่เป็นไรแล้วแน่นะ"
"อ๊ะ นาย ยังไม่ไปไหนอีกหรอ?"
ฉันชะงักเมื่อเสียงข้างๆของเขายังไม่ได้ไปไหน
"จะไปได้ยังไง เมื่อกี้ทำท่าอย่างกับจะขาดใจตาย แต่พอกินยานั้นเข้าไปแล้วก็สงบลงถามจริงๆเถอะ มันไม่ใช่อาการของคนแพ้ขนแมวหรอกนะ"
กึ๋ย ก็ไม่ใช่น่ะสิ
"เรื่องของฉันน่ะ"
ฉันลุกพรวดขึ้นแล้วก็ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองจามอีกครั้ง ขนแมว ยังอยู่บนตัวของนายนี่น่า
"นี่นาย ขนแมว"
"อาการนายก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนตอนที่เจอแมวตัวเป็นๆเลยนี่น่า ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่ฉันที่แบกนายมาส่ง นายจะทำยังไง?"
"แต่มันก็เป็นเพราะนายเอาเจ้าแมวนั้นมาใกล้ไม่ใช่รึไง เพราะงั้น ความผิดนายล้วนๆ อย่ามาถวงบุญคุณหน่อยเลย"
ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋าอย่างที่พี่ชอบทำ คำพูดของพี่ที่คุยกับฉันเมื่อเช้า ทำให้เลือที่จะเย็นชากับเขา แล้วก็ร้ายใส่มันไปเลย จะได้ไปไกลๆฉันซะ
"ไม่ได้จะถ้วงบุญคุณหรอกนะ แต่จะถามให้แน่ใจต่างหากล่ะ"
"แน่ใจอะไร?"
"นายไม่ได้เป็นโรคแพ้ขนแมว แต่ว่าเป็นอาการต่อต้านแมวจากการสั่งการของสมอง ใช่ไหม?"
เฮือก
"อะ อะไร? เรื่องนั้น ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับนายน่ะ"
"..."
เฮือก
ฉันพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรอ? หมอนี้ถึงได้จ้องหน้าฉันอย่างจับผิด จนฉันต้องเป็นฝ่ายหลบตา
"นายนี้มันใจดำกว่าที่ฉันคิดซะอีกนะ เห็นว่าเป็นรองหัวหน้า ก็คิดว่าจะรู้จักบุญคุณคยบ้าง ที่ไหนได้..."
ง่ะ นี่เขากำลังมองฉันด้วยสายตาตัดพ้อ ดวงตาสีดำสนิทที่ตอนนี้คิดอะไรมากกว่านั้นกำลังมองฉันเหมือนจ้องจะเอาอะไรสักอย่าง
"นี่นายจะบ้าหรอ?...ง่ะ"
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เถียงอะไรเขาเลย เขาก็เดินหน้าบอกบุญไม่รับอยู่หน้าห้อง
"ใจดำชะมัด ปากจัดอีกต่างหาก คนเขาอุตส่าแบกมาแท้ๆ หนักก็หนัก ไม่รักษาน้ำใจของคนที่เพิ่งจะช่วยชีวิตไว้เลยสักนิด..."
"เออๆ พูดมากอยู่ได้ เอาเป็นว่าฉันเลี้ยงข้าวมือ้นึงก็แล้วกัน แค่นี้ พอใจรึยัง?"
ฉันว่าแล้วก็เสยผมตัวเองจนยุ่งไปหมด เจ้าบ้าเอ้ย เรื่องมากชะมัด พูดขนาดนี้ คิดว่าฉันจะยืนอยู่เฉยๆให้เขาด่าหรอ? ไม่มีทางแน่ อีกอย่าง ถ้าบอกว่าเลี้ยงข้าว ก็ต้องไปที่โรงอาหารแน่ๆ แล้วเขาก็จะต้องพาฉันไปที่โรงอาหารแน่ๆ
"หึๆ ต้องอย่างนี้สิ"
ฉันได้แต่เบี่ยงตัวหลบแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้น แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่รู้ว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ฉันก็เลยหันหน้าไปมองผู้ชายที่เดินตามมาเงียบๆ
ฉันได้แต่เบี่ยงตัวหลบแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้น แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่รู้ว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ฉันก็เลยหันหน้าไปมองผู้ชายที่เดินตามมาเงียบๆ
"นายน่ะ ชื่ออะไร?"
"...เทย์ ฉันชื่อเทย์"
"ฉัน..."
"ฉัน..."
"ไม่ต้องหรอก ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักนายหรอกคุณรองหัวหน้า"
ชิ ไม่รู้จักแล้วยังจะมาทำหน้าเหมือนเพิ่งเจอกันอีก แต่ว่าพี่ฉันเนี่ยก็ฮอตไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย ถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยหน้ายินดีเท่าไหร่
"เฮ้ย ไอ้กล้า กูนึกว่ามึงตกส้วตายไปแล้ว"
"ไอ้บ้า"
ฉันได้แต่ด่ามันเสียงแผ่ว เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ถึงได้พูดกับนินแบบนั้น ฉักเริ่มอยากจะด่านินเหมือนที่พี่ด่าแล้วสิ
"แล้วนั้นใคร"
"อ๊ะ"
"อ๊ะ"
ฉัยเบ้ปากอย่างไม่พอใจแล้วก็เมินใส่ทั้งสองคน
"เอ้า ไม่ตอบอีก นายเป็นใครน่ะ?"
"ผมชื่อเทย์ครับ เรียนอยู่รุ่นเดียวกัน วันนี้กล้าเขาจะเลี้ยงข้าวขอบคุณผมน่ะครับ"
"เลี้ยงข้าว? ร้อยวันพันปี มึงไม่เคยเลี้ยงกูสักที แล้วไอ้เวรนี้เป็นใครว่ะ มันถึงได้ต้องเลี้ยงข้าวมันน่ะ"
นินพูดอย่างไม่พอใจแล้วก็กอดอกมองหน้าฉัน
"ไม่ได้อยากจะทำอย่างนั้นสักหน่อย"
ถ้าไม่ใช่ว่ามันเอาแต่แหกปากบอกว่าฉันใจดำ ฉันไม่สำนึกบุญคุณ ไอ้ฉันก็ขอบคุณมันไปแล้วนะ แต่ว่ามันเป็นความผิดของหมอนั้นนั้นแหละ เป็นความผิดตั้งแต่แรกเลยด้วย เจ้าบ้าเอ้ย
"หมายความว่าไงว่ะ?"
"เอ่อ ฉันช่วยแบกเขาไปส่งที่ห้องน่ะ"
"แบกหรอ?"
นินยังคงงงกับคำอธิบายของเทย์
"ก็ กล้าเขาไปเจอแมวเข้าก็เลยเกิดอาการแพ้จนขยับไม่ได้ แถมยังลืมยาแก้แพ้ ก็เลยต้องแบกไป เรื่องมันก็มีเท่านี้"
"ง่ะ ไอ้กล้า มึงไปแพ้แมวตอนไหนว่ะ?"
นินหันมาถามฉัน คิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันจนฉันต้องหลบตา บ้าเอ้ย ถ้าไม่ไปเจอแมวเข้าล่ะก็ เรื่องทั้งหมดมันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก ซวยล่ะสิ ความมันจะแตกเอาตั้งแต่วันแรกเลยหรอหอม พยายามเข้า
"ก็ตั้งแต่วันที่หอมเจอรถชนนั้นแหละ"
"แต่ว่า เรื่องนั้นมันก็นานมาแล้วนะ มึงยังไม่ลืมอีกหรอว่ะ?"
"..."
อ่า ไม่รู้จะพูดยังไงดี ฉันก็เงียบใส่ซะเลย
"เอ่อ...หอมเนี่ย? ใครหรอ?"
"มึงไม่ต้องเสือก"
ง่ะ ไหง๋นินไปลงกับเทย์แบบนั้นเนี่ย ไม่ชอบอะไรเขาอย่างนั้นหรอ? ฉันก็ไม่เข้าใจ
"เฮ้อ เอาเถอะ กล้า เอาไว้เลี้ยงวันหลังก็แล้วกันนะ วันนี้ฉันขอตัวก่อน ไม่อยากอยู่ให้ใครด่าว่ะ"
"เออ งั้นเอาเบอร์กับไลน์มา จะได้ติดต่อได้"
หลังจากที่เทย์ให้ไลน์แล้วก็แลกเบอร์ไว้แล้วก็เดินออกไปเลย ดีเหมือนกันนั้นแหละ คืนอยู่นานกว่านี้ นินได้กลืนเทย์เข้าไปทั้งตัวแน่ๆ นินเนี่ยแปลกคนแหะ
"เป็นอะไรน่ะนิน"
"อ๊ะ...ไม่รู้ กูไม่ชอบหน้าไอ้นั้น"
"เอ้า บ้าป่ะเนี่ย"
"ไม่รู้ล่ะ กูไม่ชอบ มึงอย่าไปยุ่งกับมันอีกนะ เอามานี้เลย"
หมับ
หมับ
ว่าแล้ว นอนก็คว้ามือถือในมือแล้วก็กดๆอะไรสักอย่าง
"อะไรว่ะ?"
"ลบแล้ว"
ง่ะ ที่บอกว่าลบแล้ว อย่าบอกนะว่า ลบเบอร์กับไอดีของหมอนั้น รอยยิ้มแบบนั้น ใช่แน่ๆเลย
"โธ่เอ้ย ไอ้บ้านิน"
ฉันว่าแล้วก็คว้ามือถือคืนมา ทำอะไรมันไม่ได้เลย นอกจากนั่งเงียบๆ ไม่ชอบเลยเฟ้ย ไอ้นินเนี่ยก็กวนจนฉันทำอะไรไม่ถูก เวลาอยู่กับฉันกับพี่มันคนละเรื่องกันเลย แล้วไหนจะพี่ซุ๋ยกัปตันทีมบาสสุดหล่ออีก ท่าทางคงจะสนิทกันมาก คงจะต้องระวังเรื่องความแตกสุดๆ แล้วไหนจะเทย์อีก คนสุดท้ายเนี่ยหน้ากลัวสุด ท่าทางจะขี้ตื้อเอาโล่ แถมแต่ละคนเนี่ย หน้าหล่อลากกระชากทรวงที่สุด แล้วอย่างนี้ หัวใจที่เพิ่งจะช้ำมาหมาดๆ แต่ว่าพอมาเจอเรื่องนี้เข้าก็ทำให้หัวฉันไม่มีที่ว่างให้คิดเรื่องทันเลยสักนิด
.......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น