คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 [จุดเริ่มต้นของเรื่องราว]
Chapter 1 [จุดเริ่มต้นของเรื่องราว]
.....
ทึกๆๆๆๆ~!!!
“เดีย~ ช้าหน่อยสิ เดย์จะล้มแล้วน้า” เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นขณะที่กำลังถูกลากแขนไปตามทางเดิน
“แต่เดียจะไม่ไหวแล้วล่ะ จะถึงแล้วๆ” อีกหนึ่งสาวพูดขึ้น นอกจากจะยังไม่ยอมลดความเร็วในการวิ่งแล้ว กลับเพิ่มความเร็วเข้าไปอีก เพราะเห็นเป้าหมายอยู่ไม่ไกลแล้ว
ระหว่างทางที่วิ่งไปก็มีคนมองมาเป็นระยะอย่างสนอกสนใจ ด้วยความสาวความใสตามประสาวัยรุ่น บวกกับเรือนผมสีทองยาวสลวยถึงกลางหลังสีทองและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกาย ถ้าเป็นโรงเรียนอื่นแล้ว การมีผมเป็นสีอื่นนอกจากสีดำแล้ว คงเป็นเรื่องแปลก แต่สำหรับที่นี่ โรงเรียนนานาชาติชื่อดัง เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ ไม่มีการจับฉลากหรือเส้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมนักเรียนส่วนใหญ่ยังเป็นนักเรียนนอก ทั้งมาจากโครงการแลกเปลี่ยนหรือลูกครึ่งสัญชาติต่างๆ การมีผมเป็นสีทองจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่เหตุผลที่ถูกผู้คนจับจ้องเป็นเพราะทั้งสองเหมือนกันราวกับส่องกระจก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่าง หน้าตา สีผม เสียง ส่วนสูง การแต่งตัว ต่อให้มีใครคิดว่าทั้งสองคือคนๆเดียวกันคงไม่มีใครหาว่าบ้า แถมที่เสื้อด้านซ้ายยังติดเข็มกลัดรูปกุหลาบสีเหลือง เป็นสัญลักษณ์ของนักเรียนม.ปลาย ชั้นปีที่4 ทั้งๆที่หน้าตาเหมือนเด็กมัธยมต้นๆอยู่เลย หน้าอ่อนไม่สมกับอายุกันทั้งสองคน
เอี๊ยด~!!!
เมื่อถึงเป้าหมาย เด็กที่ลากอีกคนอยู่ก็หยุดกะทันหัน แต่ยังดีที่อีกคนที่ถูกลากอยู่รู้ไว้อยู่แล้ว จึงเบรกไว้ได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นทั้งสองคงได้ชนกันและลงไปกองอยู่กับพื้น และได้เป็นที่ขำขันของนักเรียนที่รายล้อมอยู่แถวนั้น
เมื่อหยุดได้สนิท เด็กสาวคนที่นำมาก่อนก็รีบเข้าไปในห้องที่มีป้ายรูปผู้หญิงใส่กระโปรงที่ชมพูติดอยู่ข้างหน้าทันที ส่วนอีกหนึ่งที่โดนลากให้มาด้วยกันก็ยืนเกาะระเบียงหอบอยู่อย่างนั้นเพื่อคลายความเหนื่อย
“ทางนั้นใกล้กว่าอีก วิ่งมาซะไกล” บ่นกับตัวเองเล็กน้อย เพราะพอได้ยินว่าอยากเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันบอกว่าห้องน้ำทางด้านตะวันออกของตัวอาคารอยู่ใกล้กว่า ก็โดนฉุดกระชากลากถูมายังห้องน้ำฝั่งตะวันตกของตัวอาคารเสียแล้ว กว่าจะได้สติพอที่จะบอก ก็ไม่ทันเนื่องจากวิ่งมาถึงตัวอาคารฝั่งตะวันตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะให้วิ่งกลับไปทางเก่าก็กระไรอยู่
“อ้ะ” พลันสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนั่งวาดภาพอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
ด้านหลังของตัวอาคารม.ปลายจะเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มเงาและความสงบร่มรื่นแก่นักเรียนทุกคน โดยจะมีทางเดินออกไปทางสองข้างหน้าหลังของอาคารอยู่สามทาง คือ ริมสุดสองข้าง และตรงกลางนั่นเอง
ส่วนด้านหน้าของอาคารม.ปลายจะเป็นสวนดอกไม้ มีดอกไม้เด่นๆของสวนดอกไม้คือดอกกุหลาบนั่นเอง ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำโรงเรียน โดยจะแบ่งเป็นโซนๆไป โซนด้านซ้ายจะเป็นกุหลาบสีเหลือง แทนถึงชั้นม.4 โซนกลางจะเป็นกุหลาบสีส้ม แทนถึงชั้นม.5 และสุดท้าย โซนขวาสุด จะเป็นกุหลาบสีแดง แทนถึงชั้นม.6
นอกจากนี้ยังมีส่วนของอาคารม.ต้น ซึ่งก็เป็นเหมือนอาคารม.ปลายทุกๆอย่าง แตกต่างกันตรงที่โซนดอกไม้ด้านซ้าย กลาง และขวา เปลี่ยนจากกุหลาบสีเหลือง ส้ม แดง เป็นม่วง น้ำเงิน และฟ้าตามลำดับ ซึ่งดอกไม้เหล่านั้นเป็นสีเดียวกับสีของเข็มกลัดรูปดอกกุหลาบที่ติดอยู่กับนักเรียนของที่นี่
ทุกคน เพื่อแบ่งแยกระดับชั้นของเหล่านักเรียน
เด็กหนุ่มคนนั้นกำลังวาดภาพอยู่ด้วยสายตาที่แน่วแน่ สายตาจับจ้องอยู่กับสิ่งที่ทำโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แม้ว่าตอนนี้จะถูกเด็กสาวจ้องไม่วางตา ถ้าเป็นคนอื่นคงหันมามองตอบและถามกลับไปประมาณว่า มองทำไม แต่นี่ไม่ใช่ เขายังวาดรูปต่อไป ถึงแม้จะเป็นเพียงภาพสเก็ต แต่ก็เป็นภาพสเก็ตที่เหมือนจริงเอามากๆ เป็นภาพที่งดงามและละเอียดอ่อน
เด็กสาวมองภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังวาดภาพอยู่ดั่งต้องมนต์สะกด ภาพที่สวยที่สุดในความคิดของเด็กสาวคงไม่ใช่ภาพที่เขากับวาดอยู่ แต่เป็นภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังวาดภาพภาพนั้น ผมสีเงินสะท้อนกับแสงแดดที่เล็ดรอดจากเงาของต้นไม้ใหญ่เป็นประกาย ดวงตาสีน้ำเงินคู่สวยที่ดูสงบนิ่ง เยือกเย็น แต่น่าหลงใหล
“ฮ้า~ เสร็จแล้วล่ะเดย์”
“อ้ะ” กว่าจะได้สติก็ตอนที่เด็กสาวที่ถูกลืมไว้ในห้องน้ำเรียก
แต่พอมองกลับไปที่ต้นไม้ต้นเดิม เด็กหนุ่มคนนั้นก็ไม่อยู่เสียแล้ว เรียกสีหน้างงงวยกับความเร็วของอีกฝ่ายบนสีหน้าของเด็กสาวได้ไม่ยาก
“เป็นไรไปหรอเดย์”
“ไม่มีอะไร”
“หรอ...”
[นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ทุกคน ให้มาพบกันที่หอประชุมอาคาร 3 ในขณะนี้..]
“อ้ะ”
“ไปกันเถอะ”
“อื้ม”
และแล้วเด็กสาวทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังอาคารที่ 3 ซึ่งเป็นอาคารที่มีไว้สำหรับทำกิจกรรมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1 ที่มีโต๊ะไว้ให้นักเรียนได้นั่งพัก พูดคุย หรือแม้กระทั่งทำ(ลอก)การบ้าน ชั้น 2 ที่เป็นหอประชุม ภายในจะมีเวทียกระดับเพื่อให้นักเรียนทุกคนเห็นผู้ที่กำลังพูดออกไมค์ ชั้น 3 และ 4 ที่เป็นโรงยิมไว้สำหรับเล่นและซ้อมกีฬาต่างๆ เช่น ปิงปอง แบทมินตัน บาสเกตบอล และ
วอลเล่บอล และชั้นดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ แต่นักเรียนไปต้องห่วงเรื่องผิวเสียหรือดำ เพราะว่ามีหลังคาผ้าใบคลุมไว้อยู่ จึงไม่ต้องกลัวเรื่องแดดเผา ซึ่งจะมีเฉพาะนักเรียนที่เรียนชมรมว่ายน้ำและวิชาพละเท่านั้นที่ขึ้นไปได้ พวกที่อยากจะให้เลือดของตัวเองออกทางจมูกเล่นๆจึงไม่มีสิทธิขึ้นไปเด็ดขาด
เมื่อสองสาวไปถึงหอประชุมที่อยู่ชั้นสอง ก็พบว่ามีนักเรียนอีกหลายๆคนกำลังจับจองที่นั่งกันตามอัธยาศัย ซึ่งทั้งสองตกลงใจไปนั่งอยู่หลังสุดเพราะเป็นโซนเดียวที่ยังโล่งอยู่
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น
[นักเรียนทุกคน... นั่ง!!!]
พรึ่บ!!
นักเรียนทุกคนที่อยู่ไม่สุข เดินไปเดินมาพลางคุยสัพเพเหระกับเพื่อนคนอื่นๆต่างพร้อมใจกันนั่งลงและปิดปากเงียบ เมื่อเสียงของอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งที่ยังไม่ทราบที่มา พูดผ่านไมค์ด้วยเดซิเบลที่สูงพอควร
อาจารย์คนนั้นถอยออกไปและมีผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าสะสาวบอกวัยไม่เกิน 30 อย่างแน่นอนมายืนอยู่หน้าไมค์โปรยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ทำให้ดวงตาของนักเรียนชายกลายเป็นหัวใจกันเป็นแถบๆ
“นักเรียน เคารพ” เด็กชายผู้โชคร้ายคนหนึ่งถูกอาจารย์บังคับให้พูดใส่ไมค์ออกไป
พวกเราที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กใหม่และบางส่วนเป็นเด็กเก่าที่สามารถผ่านข้อสอบมหาโหดกว่าจะกลับเข้ามาโรงเรียนเดิมได้ลุกขึ้นและโค้งคำนับพร้อมกันอย่างเป็นระเบียบตามที่ถูกฝึกกันมา
หญิงสาวยิ้มอีกครั้งและบอกให้นักเรียนนั่งลงได้
“ขอบใจนักเรียนทุกคนที่มารวมกันในหอประชุมแห่งนี้ และขอต้อนรับนักเรียนทุกคนเข้าสู่โรงเรียนของเรา ฉันในฐานะผู้อำนวยการรุ่นที่ 5 แห่งโรงเรียนเมซิสลีย์ ขอกล่าวแทนอาจารย์
ทุกท่าน ยินดีด้วยกับนักเรียนทุกคนที่สามารถสอบเข้ามาในโรงเรียนของเราได้สำเร็จ ตอนนี้นักเรียนทุกคนคือเพื่อนร่วมสถาบัน เราถือคติ มีสติทุกเวลา ใช้ปัญญาแก้หานะคะ ให้นักเรียนทุกคนตรวจสอบกันว่าตัวเองอยู่ห้องไหนได้ที่บอร์ดด้านข้างหอประชุม เมื่อทราบแล้วก็แยกย้ายกันได้ค่ะ”
ความคิดเห็น