ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แกล้ง
เสียงโยนอุปกรณ์ทำความสะอาดและการทิ้งตัวลงนอนกลิ้นไปมายังพื้นโดยไม่นึกรังเกียจแม้แต่น้อย ช่างเป็นภาพที่หากใครมาเห็นก็คงจะต้องทึ่งว่าคนอย่างกริญญาจะทำแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้เจ้าตัวไม่สนอะไรอีกแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “ เหนื่อยม๊ากกกกกก ”
และเมื่อหันไปมองหาคนที่บอกจะอยู่เป็นเพื่อนเธอก็พบว่าเจอแต่ความว่างเปล่า ให้มันได้อย่างนี่สิ ยัยพี่แว่นตัวแสบ! และเมื่อหายเหนื่อยเธอจึงรีบเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เพราะอยู่ไปอยู่มาก็ชักจะรู้สึกวังเวงยังไงชอบกล
ยังไม่ทันขับรถออกจากมหาลัย เสียงโทรศัพท์ของคนหน้าง้อก็ดังขึ้น ทำให้เจ้าของเครื่องหงุดหงิดเล็กน้อย แต่พอเห็นเบอร์เธอก็โกรธคนโทรมาไม่ได้จริงๆ
“ อยู่ไหนอะ ”
เสียงเพื่อนสาวของเธอตะโกนออกมาอย่าดัง ไม่บอกก็รู้ว่าคนพูดอยู่ในสถานที่แบบไหน และท่าทางจะไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เนื่องด้วยเสียงที่ฟังดูเพี้ยนๆ หรือที่เรียกว่าไม่ได้เมาแค่ไม่เหมือนเดิม
“ กำลังกลับจากมหาลัย เชมีอะไรหรือเปล่า ”
“ มาเลี้ยงฉลองให้เพื่อนน่ะ อยากมาเปล่า ”
ท่าทางคำถามเธอจะไม่ตรงกับคำตอบที่ได้รับ เอ…ชักจะ งงๆ กับคำพูดตัวเอง แต่ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าคนที่โทรมาต้องการจะสื่ออะไร
“ ถ้าไป…จะตามทันมั้ยน๊า ท่าทางนำไปไกลแล้วนะ ”
“ บ้า! เช กินไปนิดเดียวเอง อีกอย่างถ้าเจ้าภาพไม่มางานก็กร่อยสิ ”
คนฟังถึงกับส่ายหน้า เพราะเกือบรับมุขเพื่อนสาวไม่ทัน ตกลงนี่เลี้ยงให้เธอหรอกเหรอนี่
“ แล้วมาโทรชวนตอนนี้เนื่ยนะ ”
เจ้าภาพจำเป็นยังคงทำทีท่าเล่นตัวให้คนที่ชวนนึกหมั่นไส้ นี่ถ้าอยู่ต่อหน้าเธอจะหยิกให้แขนเขียวเลยเชียว
“ แบบว่าอยู่ๆ ก็เกิดอาการน้อยใจเพื่อนที่หนีไปเรียนที่อื่นอะ ”
“ โอ๋ๆ ได้เลยคร๊าบท่านหญิงเดี๋ยวกระผมจะรีบไปนั่งเป็นไม้กันแมวให้นะขอรับ ”
คนฟังอดขำเมื่อนึกถึงใบหน้าของเพื่อนคนนี้เวลาพูดประโยคแบบนี้ไม่ได้ ทะลึ่งจริงเชียว
มาทางฟากคนที่แอบทิ้งรุ่นน้องก็พากันหัวเราะชอบใจ ยิ่งถ้าคิดถึงใบหน้าของคนที่ทำความสะอาดเสร็จแล้วมาพบว่าตัวเองต้องอยู่คนเดียวในสถานที่ที่ออกจะน่ากลัวขนาดนั้น ป่านี้คงร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับบ้านไปแล้วมั้ง วันนี้เอาเบาะๆ ไว้พรุ่งนี้เธอโดนจัดอีกดอกแน่ ยัยกริญญา!
“ มากันหมดแล้วเข้าข้างในเถอะ ”
พิมวราพยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินตามเพื่อนชายเข้าไป วันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนในกลุ่มทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องตามมาในสถานที่แบบนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกวันนี้วันดี ถือว่ามาฉลองให้กับผลงานชิ้นแรกของตัวเองละกัน
“ พิมพ์ผสมอะไร ”
ธีรทัศน์เอ่ยถามเพื่อนสาวเนื่องจากเขาและเธอไม่ค่อยได้มาเที่ยวด้วยกันทำให้ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนกินแบบไหน
“อืม พิมพ์ขอโค๊กดีกว่าธีร์ ไม่ค่อยถนัดน่ะ ”
จากนั้นบรรยากาศภายในผับก็เต็มไปด้วยคนเข้าออกมาหน้าหลายตา มีทั้งคนสวย คนหล่อ นี่ไม่รู้ว่าหากเจอแสงไฟตอนกลางวันคนสวย คนหล่อเหล่านี้จะคงสภาพหน้าตาได้อย่างตอนนี้หรือเปล่านะ พิมวราคิด แล้วสายตาเธอก็ดันไปสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ควรจะอยู่ในห้องซ้อมเชียร์ แต่ไหงกลับมายืนทำหน้าบานคลอเคลียผู้หญิงอยู่ที่นี่ และผู้หญิงสวยเปรี้ยวคนนั้นไม่มีทางใช่ฟ้าลดาเป็นแน่!
“ เป็นไงสถาบันใหม่ สาวๆสวยมั้ย ”
คำพูดออกแนวขำๆ ของคนข้างๆ ทำให้คนหน้าบึ้งต้องหัวเราะออกมาน้อยๆ นี่ละน๊า เพื่อน…มองตาก็รู้ใจ
“ กลับมามั้ยละ เชและเพื่อนๆให้อภัยแล้วนะ ”
ไม่มีการตอบรับ มีเพียงรอยยิ้มที่สุดจะกลั้นของกริญญาเท่านั้น เธอคงเหนื่อยมากเกินไปจนนึกอะไรไม่ทัน ไม่รู้จะตอบโต้เพื่อนสาวตัวดีอย่างไร
“ งั้นมาดื่มฉลองให้ ”
คนพูดหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะทำท่าคิดออก กริญญามองคนข้างๆอย่างมีความสุข นี่ถ้าไม่ได้ตกลงเป็นเพื่อนกันซะก่อน เธอคงจะจีบคนตรงหน้าเป็นไปนานแล้ว
“ ให้เราสองคน ”
เมื่อพูดจบเชติกาก็ใช้คล้องแขนคนตรงหน้า จากนั้นก็ส่งสายตาหวานซะจนมดจะกัดตาคนมอง และไม่เสียเวลาทั้งสองก็ยกดื่มจนหมดแก้ว เชติกาโน้มหน้าเข้าไปหาคนที่ตอนนี้ตาเริ่มหวานพอๆกับเธอ
“ เห็นไอ้แก่โต๊ะข้างหลังมั้ย น่ากลัวม๊าก! ”
กริญญายิ้มก่อนจะเอ่ยอย่างเบาเช่นกัน
“ เห็นสิ แล้วเชเห็นป้าโต๊ะข้างๆมั้ย น่ากลัวกว่าอีกอะ ”
และแล้วทั้งสองก็รีบกระเถิบเก้าอี้มานั่งเบียดแนบชิดแบบไม่อายใคร เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า เวลามาเที่ยวทีไร กันกันไปกันกันมา สุดท้ายก็หิ้วกันกลับแค่สองคน เป็นคนน่าตาดีก็ลำบากได้นะใครจะรู้
“ น้องกรินคะ ”
กริญญาหันไปตามเสียงเรียก นี่อย่าบอกนะว่าตามมาหลอกมาหลอนถึงที่นี่ และคำตอบของคำถามก็ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ข้างๆ คนที่รู้ตัวว่าเริ่มจะซวยได้แต่ยิ้มแห้งๆ พร้อมกับเอามือปาดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นมากกว่าปกติ
“ พี่คิดว่าน้องไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ ”
“ เอ่อ… ”
“ เสร็จแล้วเหรอคะงานน่ะ ”
คนถูกถามลุกขึ้นยืนหันมาประจันหน้ากับรุ่นพี่แว่น
“ เสร็จแล้วคะ แต่ที่จริงพี่ก็น่าจะเห็นนะคะ เพราะพี่บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน ”
เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ และคนตรงหน้าเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องเธอ มีหรือที่กริญญาที่อยู่ในสภาวะแบบนี้จะทนรับสภาพ นี่แหละน้ำเมาเปลี่ยนนิสัย
คนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อค่อยๆลางเลือนลงไป ตอนนี้ทำไมพิมวราเริ่มรู้สึกว่าเธอเสียเปรียบอีกฝ่ายไม่มากก็น้อย แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม ดี! เจอกัน
“ โอเคคะ เรื่องนั้นพี่ถือว่าน้องทำได้ดีแล้ว ”
แนะ! ยังไปได้อีกนะ กริญญาคิด มองจ้องเข้าไปในแววตาคนตรงหน้า ดูสิ ยัยพี่แว่นจะแกล้งอะไรเธออีก
“ วันนี้วันเกิดพี่ช้างเพื่อนพี่ พี่ว่าน้องควรจะมาสวัสดีพี่เขาหน่อยนะ ”
จากนั้นคนพูดก็หันหลังเดินกลับโต๊ะทันทีโตยไม่รอคำตอบ เพราะเธอเชื่อมั่นในความคิดตัวเองว่ายังไงคนที่เธอพูดด้วยยังไง๊ ยังไงก็ต้องมา 5 4 3 2 1…และ
“ สวัสดีคะรุ่นพี่ ”
เป๊ะ! ถ้าเธอไปซื้อลอตเตอรี่จะถูกแบบนี้มั้ยน๊า…พิมวราคิด
“ นี่รุ่นน้องพวกเราไง คนที่มาสายวันนี้อะ ”
และไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย เมื่อทุกสายตาหันมาจ้องรุ่นน้องเป็นตาเดียวกัน ผู้หญิงคนนี้นี่เอง…ทุกคนในโต๊ะพากันยิ้มออกมา แต่คนที่มาใหม่อย่างกริญญา มองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ตกลงเธอคิดถูกหรือผิดกันนะ ที่เดินตามยัยพี่แว่นมา
“ ยินดีต้องรับน้องใหม่นะครับ ”
ช้างเจ้าของวันเกิดกล่าวต้อนรับอย่างอารมณ์ดี
“ จะรังเกียจมั้ยครับถ้าพี่จะชวนน้องที่น่ารักมา….. ”
“ ดวลเหล้า! ”
กริญญาอุทานออกมา เอ…เรียกว่าตะโกนออกมาน่าจะถูกกว่า จะให้ผู้หญิงบอบบางอย่างเธอไปดื่มมาราธอนกับผู้ชายที่ตัวใหญ่อย่างกะช้างนี่น่ะเหรอ เห่อ เห่อ พูดไม่คิดกันทีเดียวเชียว…ตัวเธอ
“ ช้าง อย่างไปชวนน้องเขาทำอะไรแบบนั้นสิ น้องเขาออกจะบอบบาง พิมพ์ว่าน้องเขาคงไม่ไหว ”
กริญญาหันไปมองหน้าคนพูด พี่ช้างน่ะไม่เท่าไร แต่ตัวชงนี่สิ บอกได้คำเดียว แรงส์! ว่าแต่ยัยรุ่นพี่แว่นนี้ อย่างกับอ่านใจเธอใจ ถ้ามีครั้งที่ 3 ละก็ รับรองยัยนี่เป็น แม่มดชัวร์!
“ ออ ไม่กล้า..ไม่เป็นไรถือว่าพี่ชวนคนผิด ”
และทุกอย่างก็จบลง มีหรือที่คนอย่างกริญญาจะปล่อยให้คนพวกนี้ดูถูกเธอแบบนี้ ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ ไม่รู้จัก กรินน้อยศิษย์น้ำเมาซะแล้ว…แว้ว…แว้ว…แว้ว
“ เอ้าแก้วที่ 10 อย่าแผ่วสิน้อง ”
เสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง เหมือนจะเป็นตัวกระตุกให้คนที่ได้ยินยิ่งฮึดสู้ แต่ไหงเรี่ยวแรงมันกลับยิ่งหดหาย วันนี้โลกหมุนเร็วกว่าทุกวันหรือเปล่านะ ให้ตายสิ นี่อย่าบอกนะว่าเธอกำลังเมา…
“ ไหวมั้ยน้องไม่ไหว พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ ”
เจ้าของวันเกิดที่เหมือนจะสติหลุดลอยพูดออกมาอย่างไม่คิดจะยอมแพ้ ส่วนด้านคนที่ถูกท้าทายก็ใช่ว่าจะอยากยอมแพ้ แต่เหมือนจะฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว กริญญายกมือทั้งสองข้างพร้อมกับสูดหายใจเข้าในปอดให้ลึกที่สุดเพื่อเรียกสติของตนกลับมา
“ ขอ 5 นาที ”
คนที่ตั้งสติพูดได้เพียงประโยคเดียวก็เอาหัวโหม่งโต๊ะอย่างไม่นึกเจ็บ และเสียงลาโลกของคนที่นอนพับกับโต๊ะก็ทำให้รุ่นพี่แต่ละคนถึงกับตาค้างด้วยรู้สึกเจ็บแทนเป็นที่สุด และจากนั้นไม่นานคนที่ลาโลกคนที่ 2 ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของวันเกิด และเมื่อฟังจากเสียงหัวและโต๊ะกระแทกกันคาดว่าพรุ่งนี้คงต้องพาไปเย็บสัก 10 เข็ม
ทางด้านคนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็อดไม่ได้ที่จะรีบเดินเข้ามาหาเพื่อนสาวที่เหมือนโดนรุม นี่ถ้าไม่ติดว่าคนพวกนี้เป็นรุ่นพี่ของเพื่อนเธอ และเกรงว่าเพื่อนสาวจะเดือนร้อนถ้ามีปัญหากับรุ่นพี่ล่ะก็ เธอจะเดินไปลากเพื่อนออกมาตั้งแต่แรกแล้ว มันน่านัก!
“ พวกพี่คงพอใจแล้วนะคะ งั้นฉันขอตัวเพื่อนคืนคะ! ”
คำพูดที่เชติกาพยายามกลั่นกรองไม่ให้รุนแรงที่สุดในครั้งนี้ กลับสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนฟังอย่างพิมวราเป็นอย่างมาก เธอหันไปจ้องหน้าคนพูดอย่างอดไม่ได้ ท่าทางยโส เหมือนกันไม่มีผิดสมแล้วล่ะที่คบกันได้ ทางด้านคนที่มาชิงตัวเพื่อนสาวคืนก็ไม่รอคำตอบ เธอค่อยๆประคองเพื่อนที่ดูเหมือนจะได้สติมานิดหน่อยขึ้นพร้อมกับทำท่าจะลุกจากโต๊ะ
“ ยัง! มันยังไม่จบ! ”
คนที่เหมือนจะฟื้นสติขึ้นมากล่าวขึ้น พร้อมกับสะบัดตัวออกจากการประคองของคนข้างๆ และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง “ เพี๊ยง! ” เสียงที่เรียกทุกสายตามารวมกันพร้อมกับเสียงร้อยดังลั่นของใครบางคน
“ โอ๊ยยยย ”
“ สมน้ำหน้า อย่าดื้อนะกริน ไม่งั้น…. ”
พูดแค่นั้นคนเซ็กซี่ก็ยกมือหมายจะตีคนข้างๆอีกครั้ง ส่วนคนที่ถูกไม้ เอ้ย! มือฟาดที่หัวก็ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด พร้อมกับมือที่ลูบหน้าผากไปมา ดุจริงเลยแม่คู๊ณณณ…เป็นการต่อว่าภายในใจ เพราะถ้าขืนเธอพูดออกมา ต้องโดนยัยเพื่อนโหดฆ่าตายแน่!สร่างเมาเลยตรู….
และภาพที่ปรากฏ ของ 2 สาวได้สร้างความแปลกใจให้กับคนที่มองเป็นอย่างมาก พิมวราเฝ้าสังเกต 2 คนนี้เป็นพักๆ ท่าทางมันจะยังไงๆแล้วสินะ แล้วอย่างนี้ถ้าเรื่องถึงหูฟ้าลดามันจะเป็นยังไง เป็นแบบนี้แล้วยังริอาจเจ้าชู้ แถมยังมาแย่งคนที่เพื่อนสนิทเธอชอบซะอีก คอยดูงานนี้มีเฮแน่!
และเมื่อหันไปมองหาคนที่บอกจะอยู่เป็นเพื่อนเธอก็พบว่าเจอแต่ความว่างเปล่า ให้มันได้อย่างนี่สิ ยัยพี่แว่นตัวแสบ! และเมื่อหายเหนื่อยเธอจึงรีบเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เพราะอยู่ไปอยู่มาก็ชักจะรู้สึกวังเวงยังไงชอบกล
ยังไม่ทันขับรถออกจากมหาลัย เสียงโทรศัพท์ของคนหน้าง้อก็ดังขึ้น ทำให้เจ้าของเครื่องหงุดหงิดเล็กน้อย แต่พอเห็นเบอร์เธอก็โกรธคนโทรมาไม่ได้จริงๆ
“ อยู่ไหนอะ ”
เสียงเพื่อนสาวของเธอตะโกนออกมาอย่าดัง ไม่บอกก็รู้ว่าคนพูดอยู่ในสถานที่แบบไหน และท่าทางจะไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เนื่องด้วยเสียงที่ฟังดูเพี้ยนๆ หรือที่เรียกว่าไม่ได้เมาแค่ไม่เหมือนเดิม
“ กำลังกลับจากมหาลัย เชมีอะไรหรือเปล่า ”
“ มาเลี้ยงฉลองให้เพื่อนน่ะ อยากมาเปล่า ”
ท่าทางคำถามเธอจะไม่ตรงกับคำตอบที่ได้รับ เอ…ชักจะ งงๆ กับคำพูดตัวเอง แต่ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าคนที่โทรมาต้องการจะสื่ออะไร
“ ถ้าไป…จะตามทันมั้ยน๊า ท่าทางนำไปไกลแล้วนะ ”
“ บ้า! เช กินไปนิดเดียวเอง อีกอย่างถ้าเจ้าภาพไม่มางานก็กร่อยสิ ”
คนฟังถึงกับส่ายหน้า เพราะเกือบรับมุขเพื่อนสาวไม่ทัน ตกลงนี่เลี้ยงให้เธอหรอกเหรอนี่
“ แล้วมาโทรชวนตอนนี้เนื่ยนะ ”
เจ้าภาพจำเป็นยังคงทำทีท่าเล่นตัวให้คนที่ชวนนึกหมั่นไส้ นี่ถ้าอยู่ต่อหน้าเธอจะหยิกให้แขนเขียวเลยเชียว
“ แบบว่าอยู่ๆ ก็เกิดอาการน้อยใจเพื่อนที่หนีไปเรียนที่อื่นอะ ”
“ โอ๋ๆ ได้เลยคร๊าบท่านหญิงเดี๋ยวกระผมจะรีบไปนั่งเป็นไม้กันแมวให้นะขอรับ ”
คนฟังอดขำเมื่อนึกถึงใบหน้าของเพื่อนคนนี้เวลาพูดประโยคแบบนี้ไม่ได้ ทะลึ่งจริงเชียว
มาทางฟากคนที่แอบทิ้งรุ่นน้องก็พากันหัวเราะชอบใจ ยิ่งถ้าคิดถึงใบหน้าของคนที่ทำความสะอาดเสร็จแล้วมาพบว่าตัวเองต้องอยู่คนเดียวในสถานที่ที่ออกจะน่ากลัวขนาดนั้น ป่านี้คงร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับบ้านไปแล้วมั้ง วันนี้เอาเบาะๆ ไว้พรุ่งนี้เธอโดนจัดอีกดอกแน่ ยัยกริญญา!
“ มากันหมดแล้วเข้าข้างในเถอะ ”
พิมวราพยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินตามเพื่อนชายเข้าไป วันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนในกลุ่มทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องตามมาในสถานที่แบบนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกวันนี้วันดี ถือว่ามาฉลองให้กับผลงานชิ้นแรกของตัวเองละกัน
“ พิมพ์ผสมอะไร ”
ธีรทัศน์เอ่ยถามเพื่อนสาวเนื่องจากเขาและเธอไม่ค่อยได้มาเที่ยวด้วยกันทำให้ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนกินแบบไหน
“อืม พิมพ์ขอโค๊กดีกว่าธีร์ ไม่ค่อยถนัดน่ะ ”
จากนั้นบรรยากาศภายในผับก็เต็มไปด้วยคนเข้าออกมาหน้าหลายตา มีทั้งคนสวย คนหล่อ นี่ไม่รู้ว่าหากเจอแสงไฟตอนกลางวันคนสวย คนหล่อเหล่านี้จะคงสภาพหน้าตาได้อย่างตอนนี้หรือเปล่านะ พิมวราคิด แล้วสายตาเธอก็ดันไปสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ควรจะอยู่ในห้องซ้อมเชียร์ แต่ไหงกลับมายืนทำหน้าบานคลอเคลียผู้หญิงอยู่ที่นี่ และผู้หญิงสวยเปรี้ยวคนนั้นไม่มีทางใช่ฟ้าลดาเป็นแน่!
“ เป็นไงสถาบันใหม่ สาวๆสวยมั้ย ”
คำพูดออกแนวขำๆ ของคนข้างๆ ทำให้คนหน้าบึ้งต้องหัวเราะออกมาน้อยๆ นี่ละน๊า เพื่อน…มองตาก็รู้ใจ
“ กลับมามั้ยละ เชและเพื่อนๆให้อภัยแล้วนะ ”
ไม่มีการตอบรับ มีเพียงรอยยิ้มที่สุดจะกลั้นของกริญญาเท่านั้น เธอคงเหนื่อยมากเกินไปจนนึกอะไรไม่ทัน ไม่รู้จะตอบโต้เพื่อนสาวตัวดีอย่างไร
“ งั้นมาดื่มฉลองให้ ”
คนพูดหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะทำท่าคิดออก กริญญามองคนข้างๆอย่างมีความสุข นี่ถ้าไม่ได้ตกลงเป็นเพื่อนกันซะก่อน เธอคงจะจีบคนตรงหน้าเป็นไปนานแล้ว
“ ให้เราสองคน ”
เมื่อพูดจบเชติกาก็ใช้คล้องแขนคนตรงหน้า จากนั้นก็ส่งสายตาหวานซะจนมดจะกัดตาคนมอง และไม่เสียเวลาทั้งสองก็ยกดื่มจนหมดแก้ว เชติกาโน้มหน้าเข้าไปหาคนที่ตอนนี้ตาเริ่มหวานพอๆกับเธอ
“ เห็นไอ้แก่โต๊ะข้างหลังมั้ย น่ากลัวม๊าก! ”
กริญญายิ้มก่อนจะเอ่ยอย่างเบาเช่นกัน
“ เห็นสิ แล้วเชเห็นป้าโต๊ะข้างๆมั้ย น่ากลัวกว่าอีกอะ ”
และแล้วทั้งสองก็รีบกระเถิบเก้าอี้มานั่งเบียดแนบชิดแบบไม่อายใคร เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า เวลามาเที่ยวทีไร กันกันไปกันกันมา สุดท้ายก็หิ้วกันกลับแค่สองคน เป็นคนน่าตาดีก็ลำบากได้นะใครจะรู้
“ น้องกรินคะ ”
กริญญาหันไปตามเสียงเรียก นี่อย่าบอกนะว่าตามมาหลอกมาหลอนถึงที่นี่ และคำตอบของคำถามก็ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ข้างๆ คนที่รู้ตัวว่าเริ่มจะซวยได้แต่ยิ้มแห้งๆ พร้อมกับเอามือปาดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นมากกว่าปกติ
“ พี่คิดว่าน้องไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ ”
“ เอ่อ… ”
“ เสร็จแล้วเหรอคะงานน่ะ ”
คนถูกถามลุกขึ้นยืนหันมาประจันหน้ากับรุ่นพี่แว่น
“ เสร็จแล้วคะ แต่ที่จริงพี่ก็น่าจะเห็นนะคะ เพราะพี่บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน ”
เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ และคนตรงหน้าเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องเธอ มีหรือที่กริญญาที่อยู่ในสภาวะแบบนี้จะทนรับสภาพ นี่แหละน้ำเมาเปลี่ยนนิสัย
คนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อค่อยๆลางเลือนลงไป ตอนนี้ทำไมพิมวราเริ่มรู้สึกว่าเธอเสียเปรียบอีกฝ่ายไม่มากก็น้อย แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอม ดี! เจอกัน
“ โอเคคะ เรื่องนั้นพี่ถือว่าน้องทำได้ดีแล้ว ”
แนะ! ยังไปได้อีกนะ กริญญาคิด มองจ้องเข้าไปในแววตาคนตรงหน้า ดูสิ ยัยพี่แว่นจะแกล้งอะไรเธออีก
“ วันนี้วันเกิดพี่ช้างเพื่อนพี่ พี่ว่าน้องควรจะมาสวัสดีพี่เขาหน่อยนะ ”
จากนั้นคนพูดก็หันหลังเดินกลับโต๊ะทันทีโตยไม่รอคำตอบ เพราะเธอเชื่อมั่นในความคิดตัวเองว่ายังไงคนที่เธอพูดด้วยยังไง๊ ยังไงก็ต้องมา 5 4 3 2 1…และ
“ สวัสดีคะรุ่นพี่ ”
เป๊ะ! ถ้าเธอไปซื้อลอตเตอรี่จะถูกแบบนี้มั้ยน๊า…พิมวราคิด
“ นี่รุ่นน้องพวกเราไง คนที่มาสายวันนี้อะ ”
และไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย เมื่อทุกสายตาหันมาจ้องรุ่นน้องเป็นตาเดียวกัน ผู้หญิงคนนี้นี่เอง…ทุกคนในโต๊ะพากันยิ้มออกมา แต่คนที่มาใหม่อย่างกริญญา มองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ตกลงเธอคิดถูกหรือผิดกันนะ ที่เดินตามยัยพี่แว่นมา
“ ยินดีต้องรับน้องใหม่นะครับ ”
ช้างเจ้าของวันเกิดกล่าวต้อนรับอย่างอารมณ์ดี
“ จะรังเกียจมั้ยครับถ้าพี่จะชวนน้องที่น่ารักมา….. ”
“ ดวลเหล้า! ”
กริญญาอุทานออกมา เอ…เรียกว่าตะโกนออกมาน่าจะถูกกว่า จะให้ผู้หญิงบอบบางอย่างเธอไปดื่มมาราธอนกับผู้ชายที่ตัวใหญ่อย่างกะช้างนี่น่ะเหรอ เห่อ เห่อ พูดไม่คิดกันทีเดียวเชียว…ตัวเธอ
“ ช้าง อย่างไปชวนน้องเขาทำอะไรแบบนั้นสิ น้องเขาออกจะบอบบาง พิมพ์ว่าน้องเขาคงไม่ไหว ”
กริญญาหันไปมองหน้าคนพูด พี่ช้างน่ะไม่เท่าไร แต่ตัวชงนี่สิ บอกได้คำเดียว แรงส์! ว่าแต่ยัยรุ่นพี่แว่นนี้ อย่างกับอ่านใจเธอใจ ถ้ามีครั้งที่ 3 ละก็ รับรองยัยนี่เป็น แม่มดชัวร์!
“ ออ ไม่กล้า..ไม่เป็นไรถือว่าพี่ชวนคนผิด ”
และทุกอย่างก็จบลง มีหรือที่คนอย่างกริญญาจะปล่อยให้คนพวกนี้ดูถูกเธอแบบนี้ ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ ไม่รู้จัก กรินน้อยศิษย์น้ำเมาซะแล้ว…แว้ว…แว้ว…แว้ว
“ เอ้าแก้วที่ 10 อย่าแผ่วสิน้อง ”
เสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง เหมือนจะเป็นตัวกระตุกให้คนที่ได้ยินยิ่งฮึดสู้ แต่ไหงเรี่ยวแรงมันกลับยิ่งหดหาย วันนี้โลกหมุนเร็วกว่าทุกวันหรือเปล่านะ ให้ตายสิ นี่อย่าบอกนะว่าเธอกำลังเมา…
“ ไหวมั้ยน้องไม่ไหว พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ ”
เจ้าของวันเกิดที่เหมือนจะสติหลุดลอยพูดออกมาอย่างไม่คิดจะยอมแพ้ ส่วนด้านคนที่ถูกท้าทายก็ใช่ว่าจะอยากยอมแพ้ แต่เหมือนจะฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว กริญญายกมือทั้งสองข้างพร้อมกับสูดหายใจเข้าในปอดให้ลึกที่สุดเพื่อเรียกสติของตนกลับมา
“ ขอ 5 นาที ”
คนที่ตั้งสติพูดได้เพียงประโยคเดียวก็เอาหัวโหม่งโต๊ะอย่างไม่นึกเจ็บ และเสียงลาโลกของคนที่นอนพับกับโต๊ะก็ทำให้รุ่นพี่แต่ละคนถึงกับตาค้างด้วยรู้สึกเจ็บแทนเป็นที่สุด และจากนั้นไม่นานคนที่ลาโลกคนที่ 2 ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของวันเกิด และเมื่อฟังจากเสียงหัวและโต๊ะกระแทกกันคาดว่าพรุ่งนี้คงต้องพาไปเย็บสัก 10 เข็ม
ทางด้านคนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็อดไม่ได้ที่จะรีบเดินเข้ามาหาเพื่อนสาวที่เหมือนโดนรุม นี่ถ้าไม่ติดว่าคนพวกนี้เป็นรุ่นพี่ของเพื่อนเธอ และเกรงว่าเพื่อนสาวจะเดือนร้อนถ้ามีปัญหากับรุ่นพี่ล่ะก็ เธอจะเดินไปลากเพื่อนออกมาตั้งแต่แรกแล้ว มันน่านัก!
“ พวกพี่คงพอใจแล้วนะคะ งั้นฉันขอตัวเพื่อนคืนคะ! ”
คำพูดที่เชติกาพยายามกลั่นกรองไม่ให้รุนแรงที่สุดในครั้งนี้ กลับสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนฟังอย่างพิมวราเป็นอย่างมาก เธอหันไปจ้องหน้าคนพูดอย่างอดไม่ได้ ท่าทางยโส เหมือนกันไม่มีผิดสมแล้วล่ะที่คบกันได้ ทางด้านคนที่มาชิงตัวเพื่อนสาวคืนก็ไม่รอคำตอบ เธอค่อยๆประคองเพื่อนที่ดูเหมือนจะได้สติมานิดหน่อยขึ้นพร้อมกับทำท่าจะลุกจากโต๊ะ
“ ยัง! มันยังไม่จบ! ”
คนที่เหมือนจะฟื้นสติขึ้นมากล่าวขึ้น พร้อมกับสะบัดตัวออกจากการประคองของคนข้างๆ และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง “ เพี๊ยง! ” เสียงที่เรียกทุกสายตามารวมกันพร้อมกับเสียงร้อยดังลั่นของใครบางคน
“ โอ๊ยยยย ”
“ สมน้ำหน้า อย่าดื้อนะกริน ไม่งั้น…. ”
พูดแค่นั้นคนเซ็กซี่ก็ยกมือหมายจะตีคนข้างๆอีกครั้ง ส่วนคนที่ถูกไม้ เอ้ย! มือฟาดที่หัวก็ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด พร้อมกับมือที่ลูบหน้าผากไปมา ดุจริงเลยแม่คู๊ณณณ…เป็นการต่อว่าภายในใจ เพราะถ้าขืนเธอพูดออกมา ต้องโดนยัยเพื่อนโหดฆ่าตายแน่!สร่างเมาเลยตรู….
และภาพที่ปรากฏ ของ 2 สาวได้สร้างความแปลกใจให้กับคนที่มองเป็นอย่างมาก พิมวราเฝ้าสังเกต 2 คนนี้เป็นพักๆ ท่าทางมันจะยังไงๆแล้วสินะ แล้วอย่างนี้ถ้าเรื่องถึงหูฟ้าลดามันจะเป็นยังไง เป็นแบบนี้แล้วยังริอาจเจ้าชู้ แถมยังมาแย่งคนที่เพื่อนสนิทเธอชอบซะอีก คอยดูงานนี้มีเฮแน่!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น