ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมรัก...สะดุดใจ yuri

    ลำดับตอนที่ #2 : นางฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 55


        “ เบาๆหน่อยได้มั้ยคะ คุณกรินขา… ”

        คำพูดกึ่งประชด กึ่งตำหนิของคุณหญิงกุลธิดาดังขึ้น พร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปยังการกระทำของบุตรสาวที่ช่างทำให้เธออยากหายาดม ยาลม ยาหมองมาดมในคราวเดียวกัน ดูสิ! กริยามารยาทที่เธอผู้ได้ชื่อว่าเป็นมารดาอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เกิด มันได้หายไปไหนจนหมดสิ้น ดูทำเข้านี่ขนาดเธอทำท่าทาง น้ำเสียงไม่พอใจ ลูกสาวที่แสนดีก็แทบจะไม่เงยหน้ามามองเธอเลย ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย

        “ ไปละนะแม่ วันนี้มีนัด ”

        พูดจบกริญญาก็กระโจนเข้ามาหอมแก้มผู้เป็นแม่อย่างเอาใจ ใช่ว่าเธอจะดูไม่ออกว่าตอนนี้มารดากำลังอยู่ในสภาวะอารมณ์ไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะเรียกรอยยิ้มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ แม่ลูกกันนี่นา…จุดอ่อนแม่เธออยู่ตรงไหนมีเหรอที่เธอผู้เป็นลูกสาวจะไม่รู้ มุขอ้อนใช้มาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังได้ผล…
        คุณหญิงกุลธิดาส่ายหน้าน้อยๆ จับใม่ได้ไล่ไม่ทันจริงๆลูกคนนี้ แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ คลี่ออกมา ลูกสาวของเธอคนนี้ออกแนวแข็งนอกอ่อนใน ถ้ายิ่งเธอไปบังคับก็จะยิ่งถูกลูกสาวคนนี้ต่อต้าน สู้เธอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อาจดูไม่เรียบร้อยเข้าตาไปสักหน่อย แต่ขอให้เข้าใจกันเป็นดีที่สุด
        
        “ ป้านิ่มจ๊ะ ขอกาแฟให้ฟ้าซักแก้วสิคะ ”

        ฟ้าลดาเดินลงมาจากชั้นสอง พร้อมกับหันมาสั่งแม่บ้าน วันนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นสายมากเป็นพิเศษ สงสัยเมื่อคืนเธอคงนอนดึกมากไป ทำให้รู้สึกเพลียๆ ว่าแต่คนที่บอกจะรีบมาหาตั้งแต่เช้ากลับเงียบเข้ากลีบเมฆ ดีนะที่เธอไม่รีบตื่นแต่เช้ามานั่งรอ ไม่งั้นละ น่าดูเชียว

        “ มาแล้วค่า มาแล้ว ”

        น้ำเสียงที่ดังมาแต่ไกล ทำให้ฟ้าลดาหันไปหาเจ้าของเสียงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ที่จริงเธอก็อยากจะแกล้งโกรธคนที่บอกจะมาตั้งแต่เช้า ดูสิว่าจะทำยังไง แต่พอหันไปเห็นดวงตาที่แสนใสซื่อของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ตัดใจแกล้งไม่ได้
        ฟ้าลดา เดินตรงเข้าไปหาคนที่ยืนมองเธออยู่ห่างๆ ไม่ยักกะเดินเข้ามาหาเธอซักที จนเป็นเธอเองที่ต้องเดินเข้าไปใกล้

        “ เป็นอะไรคะ หิวหรือเปล่า ”

        น้ำเสียงเอื้ออาทรที่ส่งผ่านมาทั้งแววตา รอยยิ้ม ทำให้คนฟังรู้สึกนุ่มหูที่ได้ยินซะนี่กะไร ดูสิ นี่ขนาดเธอมาสาย คนตรงหน้ายังไม่มีท่าทีที่จะโกรธ หรือแม้แต่งอนเธอ แต่กลับมีแต่ความอ่อนโอน ห่วงใย ใส่ใจ โชคดีที่สุด ที่เธอได้รู้จักและรักผู้หญิงคนนี้ ฟ้าลดา กิตติอมรกุล นางฟ้าของเธอ

        “ ว่าไงคะ มองพี่ขนาดนี้ หิวหรือจะอ้อนเอาอะไร ”
        ฟ้าลดาเดินเข้าไปเกี่ยวแขนคนที่ยังไม่ยอมพูดให้ได้เดินตามเธอเข้ามาในบ้าน แล้วบอกให้แม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเช้าสำหรับสองที่

        “ ที่จริงกรินกินมาแล้ว แต่จะกินเป็นเพื่อนพี่ฟ้าแล้วกันนะคะ ดูสิ ผอมลงตั้งเยอะ ”

        กริญญาไม่พูดเปล่า เธอใช้มือจับแขนคนข้างๆ ยกขึ้นมาดู ดูสิ มันเล็กมากจนเธอออกจะแปลกใจว่าคนที่เธอจับแขนอยู่วันๆ กินข้าวบ้างหรือเปล่า ผู้หญิงก็งี้ เอะอะก็กลัวอ้วน กลัวอ้วน แล้วไม่คิดว่าถ้าผอมเกินไปมันจะดูไม่งามบ้างเหรอ แต่จู่ๆกริญญาก็ต้องอมยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง ก็จะอะไรซะอีก เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ดันมาวิจารย์ผู้หญิงด้วยกัน หยั่งกะตัวเองเป็นผู้ชาย ซะงั้น….

         “ หิวจริงๆด้วยนะคะ ”

        เจ้าของบ้านคนสวยคลี่ยิ้มบางๆ แค่เห็นคนตรงหน้ากินได้เธอก็เหมือนจะอิ่มไปด้วย ก็คนตรงหน้าเธอเล่นกินซะเยอะขนาดนั้น ไม่รู้ว่าเอาไปเก็บตุนไว้ที่ส่วนไหน จะว่าคนตรงหน้าอ้วนก็ใช่ที่ ดูสิหุ่นดี ยิ่งกว่าเธอซะอีก

        “ กรินเสียดายของอะคะ แหมฝีมือแม่ครัวที่นี่ มาทีไรไม่เค้ย…ทำให้ผิดหวัง ”

        คำพูดนี้คนพูดก็ชอบพูดเหลือเกินว่าอาหารที่บ้านของเธออร่อยซะจนปล่อยให้เหลือไม่ได้ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าบ้านคนกินจุรวยล้นฟ้าขนาดไหน เธอคงจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้กินอะไรดีๆมานานหลายเดือน แต่พอเห็นก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบ เห็นแล้วก็ชื่นใจคนทำ ดูสิ แม่บ้านเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่เห็นคนกินฝีมือตัวเองจนเกลี้ยง แทบจะไม่ต้องล้างจาน

        “ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีใจซะอีกที่กรินกินได้… ”

        เจ้าของบ้านคนสวยลากเสียงยาวพร้อมกับจ้องลงไปยังจานอาหารที่ตอนนี้กลายเป็นของว่างด้วยฝีมือคนตรงหน้า แล้วก็เอ่ยแบบยิ้มๆออกมา

        “ กินได้ขนาดนี้ แอบเอาไปตุนไว้ที่แก้มหรือเปล่าเนื๊ย ไหนดูหน่อยสิ ”

        ไม่พูดเปล่า เมื่อฟ้าลดาคว้าแก้มขาวเนียมมาบบีบเล่นอย่างมันเคี้ยว ทำเอาคนกินจุถึงกับร้องลั่นบ้าน แต่คนบีบก็ไม่ลดละในการบีบเพราะยิ่งได้ยิ่งเสียงคนตรงหน้าร้องเธอก็นึกหมั่นไส้อยากแกล้งอีก แกล้งอีก จนคนถูกบีบยกมือยอมแพ้ เธอถึงเลิกแกล้งแต่ยังคงหัวเราะน้อยๆกับปฏิกิริยาคนตรงหน้า

        “ พี่ฟ้าอะ แก้มคนนะไม่ใช่แฮนด์รถ บีดเอาบีดเอา ”

        “ ก็พี่อยากรู้ว่ากรินเอาอาหารไปซ่อนไว้ที่กระพุ้งแก้มหรือเปล่า ”

        “ คนนะไม่ใช่หนูแฮม… จะได้เอาไว้ได้ ”

        กริญญามองคนตรงหน้าอย่างเคืองๆ แต่มีหรือที่เธอจะเคืองได้นานเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มากมายจากคนตรงหน้า แนะ! ยังไม่หยุดหัวเราะเธออีก แต่เธอก็…อดหัวเราะตามไม่ได้ คนอะไรหัวเราะแล้วก็ทำให้คนอื่นยิ้มตามได้ทุกครั้ง แปลก…แต่ก็…น่ารักอ่ะ!

        “ ป่ะ ไปซื้อของกัน ”

        คนตัวสูงยื่นมือมาหาคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ ฟ้าลดาลดหนังสือลง พร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะปกติคนตรงหน้าไม่ชอบเดินเที่ยวห้างหรือซื้อของอะไร แต่วันนี้มาแปลกกว่าทุกวัน จะแกล้งอะไรเธอหรือเปล่านะ เมื่อนึกย้อนไปเรื่องที่เธอแกล้งเมื่อเช้า
     
        “ ซื้ออะไรคะ ”

        “ กรินกำลังจะย้ายที่เรียน ”

        คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว ส่วนคนพูดก็รีบเอามือมาแยกคิ้วคนที่กำลังทำหน้าสงสัยหนัก เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

        “ กรินจะย้ายมาเรียน…ที่…เดียว…กับ…พี่ฟ้า ”

        ฟ้าลดาอ้างปากจะถามกลับไปแต่คนพูดยกมือปิดไว้ซะก่อน

        “ กรินอยากอยู่ใกล้ๆพี่ฟ้า อยากดูแล จนกว่า… ”

        แต่ไม่ทันจะพูดจบประโยคคนที่ถูกเอามือปิดปากก็ดึงเอามือคนตรงหน้าออก

        “ จะดีเหรอกริน ที่มหาลัยเดิมพี่ก็ว่ามันเหมากับกรินแล้วนะ ถ้าย้ายมาจะเสียเรื่องเรียนหรือเปล่า ”

        “ ไม่หรอกคะ เดี๋ยวนี้เขาโอนย้ายกันเยอะแยะ ”

        “ ถ้ากรินจะย้ายมาเพราะเป็นห่วงพี่ตัดไปได้เลยนะ พี่ดูแลตัวเองได้ ”

        คำพูดที่เด็ดขาดและน้ำเสียงที่จริงจังทำให้คนฟังต้องรีบคิดเหตุผลใหม่ๆ ที่พอจะเข้ากับสถานการณ์เช่นนี้ กริญญาลุกขึ้น เดินไปที่ริมหน้าต่าง เธอหลับตาลงนิ่งไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมายิ้มให้กับคนที่นั่งรอฟังเหตุผลใหม่ๆ

        “ กริน…ย้ายไปแล้วคะ ไม่ทันแล้ว ”

        รอยยิ้มบางๆผสมกับหน้าตาที่บ่งบอกถึงความเจ้าเลห์ปรากฏขึ้น มันฉายแววออกมาจนคนฟังได้แต่อ้างปากค้างเพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาทำให้คนตรงหน้ายอมจำนนได้ซะที และสุดท้ายกริญญาก็ชนะและสามารถลากตัวคนตัวเล็กไปเดินซื้อของเพื่อใช้เริ่มต้นในการเข้าเรียนในที่ใหม่ได้สำเร็จ
        กริญญาเดินนำคนตัวเล็กอย่างช้าๆ เธอออกจะอายอยู่เหมือนกันที่เหตุผลของเธอไม่ค่อยเข้าท่าซักเท่าไหร่ แต่พอจะคิดเหตุผลใหม่ๆ เธอกลับเลือกใช้วิธีรวบรัดตัดตอนเช่นนี้ ช่างน่าขันแต่ก็เอาเถอะนะ ในเมื่อมันทำให้คนที่เดินอยู่ข้างหลังหมดข้อโต้แย้ง เธอก็ควรจะพอใจ

        “ พี่ฟ้าโกรธกรินเพรอคะ ”

        จู่ๆ คนที่เดินนำหน้าเธอก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมาพูดอ้อนเธอ มาไม้นี้คิดเหรอว่าเธอจะใจอ่อน( ซะเมื่อไหร่ )

        “ พี่น่ะเหรอจะกล้าโกรธกริน ”

        น้ำเสียงงอนๆ ที่ส่งมามีหรือที่คนฟังจะฟังไม่ออก ไม่โกรธ แต่! งอน ฟันธง!

        “ เดี่ยวกรินเลี้ยงไอศกรีมนะคะ คนสวยจะได้อารมณ์ดี ”

        คนสวยหันมามองคนที่บอกจะเลี้ยง แล้วก็เชิดหน้างอนเล็กน้อย

        “ ทุ่มหมดตัว! ”

        ไม่พูดเปล่า กริญญารรีบควักกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาโชว์ พร้อมกับทำทางเขย่ากระเป๋าไปมาจนคนที่งอนอดหัวเราะกับท่าทางและใบหน้าทะเล้นนั้นไม่ได้

        “ ดี จะกินให้หมดตัวเลย ”

        เมื่อพูดจบฟ้าลดาก็เดินลิ่วๆ นำหน้าตรงดิ่งไปยังร้านไอศกรีม เอาของโปรดมาล่อเหรอได้เดี่ยวจะกินจนไม่มีเงินเหลือกลับบ้านเลย คอยดู…
        
        “ ธีร์ พิมพ์ว่าเราไปร้านอื่นกันดีกว่านะ ”

        “ ทำไมละ…พิมพ์ ”

        ธีรทัศน์หันไปถามเพื่อนสาวที่อยู่ในท่าทางแปลกๆ พร้อมกับหันไปมองทางเดียวกับคนที่บอกจะเปลี่ยนร้าน และในวินาทีนั้นเอง เขาแทบจะทรุดลงตรงนั้นเลย ฟ้าลดา! กับผู้หญิงคนนั้น ท่าทางที่สนิทสนม หยอกล้อกันจนไม่คิดจะสนใจคนรอบข้าง ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกปวดใจ ด้านคนที่ยังไม่รู้ว่าถูกซุ่มดูก็ยังคงหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ จนในที่สุด กริญญาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยให้เหตุผลว่ากินเยอะจนต้องขอระบายทำเอาคนฟังรีบยกมือไล่ตะเพิดออกไปอย่างเร็ว

        “ ทำไมเร็วจัง ”

        คนถามถึงกับทำหน้าไม่ถูกเพราะคิดว่าเป็นคนที่เพิ่งลุกไป เธอกะจะแซวซักหน่อย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปกลับพบว่าไม่ใช่คนที่เธอรอ

        “ สวัสดีฟ้า ”    

        คำทักทายสั้นๆ พร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ ถูกส่งมาทำให้คนฟังต้องรีบยิ้มตอบกลับไปน้อยๆ ด้วยเกรงว่าเพื่อนที่เข้ามาทักจะรู้สึกไมดีที่จู่ๆเธอก็หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อนคนนี้

        “ สวัสดีธีร์ , พิมพ์ ”

        “ สวัสดีฟ้า มากินไอศกรีมเหรอ แล้วมากะใคร มาทำไม…. ”

        คำถามที่ถูกส่งมาเยอะแยะมากมายจนคนถูกถามเริ่มอึดอัด เลยส่งสายตาเป็นเชิงปรามๆ คนตรงหน้า ทำให้คนถามถึงกับทำหน้าเหวอด้วยเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มมากไปจริงๆ

        “ อากาศร้อนต้องกินไอศกรีมเนาะ เดี๋ยวพิมพ์กับธีร์ขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่มหาลัย ”

        พูดจบพิมวราก็ลากตัวเพื่อนชายออกมาจากที่เกิดเหตุเพราะสายตาของเธอแลเห็นคนที่เป็นเจ้าของโต๊ะอีกคนกำลังเดินกลับมา และหากมาประชันหน้ากันอะไรๆก็คงจะแย่ลงยิ่งกว่านี้ ตรงกับสุภาษิตที่ว่า รู้หลบเป็นหลีก รู้หลีกเป็นหลบ เอ…แปลกๆ อ้อ! ที่จริงต้อง รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางต่างหากละคุณพิมวราจ๋า….
        ทางด้านคนที่เพิ่งเดินกลับมาก็หันไปมองตามคนที่เพิ่งเดินออกไปจากโต๊ะเธอ เห็นหลังไวๆ ใครกันนะ

        “ เพื่อนพี่เอง กรินไม่รู้จักหรอก ”

        คนพูดกล่าวออกมายิ้มๆ

        “ แล้วนี่หมดตัวหรือยังอะเรา ”

        กริญญาหันมายิ้มกว้าง ก่อนจะตอบออกมาอย่างอายๆ

        “ ไม่เท่าไหร่คะ แต่ถ้าให้กินทั้งร้านก็…ไหว๋อยู่ ”

        จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน จะว่าไปทุกครั้งที่เธออยู่กับคนตรงหน้าเธอก็พบเจอแต่รอยยิ้ม กริญญาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ไม่รู้สึกเหงาเลย ฟ้าลดาหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆให้กับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ “ ขอบคุณนะคะ ”  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×