ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ใคร
“ เฮ้ย!!! ”
หญิงสาวเอามือลูบหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจผสมกับอาการแสบตาน้อยๆ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับเธอกันเนื๊ย…กริณญาบ่นกับตัวเองในใจ ใครกันนะที่กล้ามาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้กับเธอ
ส่วนคนก่อเรื่องก็ใช่ว่าจะสำนึกในความผิด แต่เจ้าหล่อนกลับเค้นอารมณ์โกรธและเกลียดคนที่กำลังเอามือปัดน้ำไปบนใบหน้าของตัวเอง ผู้หญิงอะไรหน้าตาก็น่ารัก ผิวพรรณก็อย่างกับผู้ดี ดูผมสิ เชอะ! ไม่มีแตกปลาย เอ่อแหนะ…นี่ตกลงเธอจะเข้ามาทำอะไรยัยนี่กันแน่นะ งง…กะความคิดตัวเองจริงๆ
“ นี่คุณทำบ้าอะไรห๊า!!! ”
น้ำเสียงที่เหมือนคนจะเอาเรื่องบวกกับหน้าตาที่เอาจริงเอาจังตรงหน้าไม่ได้ทำให้คนที่ยืนถือแก้วน้ำหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ความรู้สึกชิงชังที่ถูกฝังเข้าไปในกระดูกดำจนเจ้าตัวอดรนทนไม่ไหวจนต้องมายืนอยู่ตรงนี้นี่ไงล่ะ
“ ทำอะไร…. ”
คนถูกถามทวนประโยคด้วยน้ำเสียงเชิงล้อเลียนและเหยียดยิ้มเยาะคนตรงหน้า ใช่…เธอกำลังกวนประสาทยัยนี่ การที่มายืนถือแก้วน้ำอยู่ตรงนี้นั่นก็หมายความว่าเธอตั้งใจมาหาเรื่องนะสิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร…
“ นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าฉันทำอะไร จะบอกให้ก็ได้นะ… ”
คนพูดไม่พูดเปล่า แต่กลับก้าวเท้าเดินมาหาคนที่ยืนอึ้งอยู่ข้างหน้าแบบประชิดตัวจากนั้นค่อยๆยื่นหน้ามาใกล้ ใกล้ และใกล๊…ใกล้
“ เอาน้ำมากรวดส่งให้คนบางคน ถ้ารับแล้วก็ช่วยไปให้ไกลๆ อย่ามายุ่งกะแฟนชาวบ้านอีก!!! ”
จบประโยค คนพูดรีบสะบัดผมเดินออกมาทันที แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักและหันกลับมายังคนที่กำลังยื่นหน้าถอดสีอยู่ นี่คงจะช็อคมาละสิท่าที่เจอแบบนี้ ดี! คงไม่เคยเจอละสิ ของจริงอะ หึหึ
“ ออ…เหลือน้ำในแก้วอีกหน่อยเอาไปให้หมดเลยละกันจะได้ไปไวๆ ”
จบประโยคน้ำที่ควรอยู่ในแก้วก็มีอันต้องปลิวขึ้นมาสบทบกับเพื่อนๆบนใบหน้าของกริณญาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ยืนอึ้ง ทึ่ง และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ปะปนกันจนกระทั่งมีใครบางคนเอาผ้ามาเช็ดหน้าของเธออย่างเบามือ นั่นแหละเธอถึงเพิ่งจะได้สติและหันมากระพริบตาถี่ๆใส่คนตรงหน้า
“ ร้อนหรือไงถึงเอาน้ำมาราดหน้าตัวเองแบบนี้ ”
คนเช็ดไม่เช็ดเปล่าแถมยังล้อเลียนเธออีกมันน่านัก!+++
“ พี่ฟ้าอะ… ”
กริณญากล่าวออกมาอย่างงอนๆ ดูสิตะกี้เธอเพิ่งถูกคนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้เอาน้ำมาสาดใส่หน้า ยังไม่เห็นใจกันอีก แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ใช่น้ำกรด ไม่งั้นมีหวังเสียโฉมกันพอดี
“ หมดละ ”
ฟ้าลดายืนจ้องหน้าคนที่เธอเพิ่งจะช่วยเช็ดคราบน้ำออกจากใบหน้า ดูสิไม่รู้จักพกผ้าเช็ดหน้านี่ถ้าไม่มีเธออยู่ใครที่ไหนจะเช็ดให้ คงเปียกเหมือนลูกแมวตกน้ำกลับบ้านเป็นแน่แท้
“ จ้องอย่างนี้เค้าก็เขินแย่ อะจิ ตัวเองก็… ”
คำพูดแกมหยอกของคนที่หน้าเพิ่งแห้งหมาดๆ ทำให้ได้รับของแถมเป็นการตีแขนเบาๆหนึ่งที
“ เกิดอะไรขึ้น? ”
สายตาและน้ำเสียงจริงจัง ทำให้กริณญาต้องหันหน้ามาสบตาพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ เรียกร้องความสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า
“ กริน ก็ไม่รู้เหมือนกันคะ มาไวเคลมไวมากยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลย ”
“ แน่ใจนะ ไม่ได้ไปก่อเรื่องที่ไหน ”
คำถามนี้ทำให้คนฟังยิ้มออกมาน้อยๆ เธอน่ะเหรอไปก่อเรื่อง น่าขำสิ้นดี
“ ไม่มีคะสาบานได้ ”
ไม่พูดเปล่า คนพูดยังเอานิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับส่งรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่กลับทำให้คนตรงหน้ากลั้นหัวเราะเอาไว้แทบจะไม่ไหว
“ เชื่อก็ได้ ว่าแต่แบบนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าสาบานน๊า งง…อะไรหรือเปล่าคะคนเก่ง ”
พูดจบประโยคคนสวยก็ค่อยๆจูงมือเด็กน้อยเดินไปที่รถอย่างช้าๆ กริณญาเดินตามคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย นี่เธอคงจะโดนน้ำสาดจนสมองไม่ทำงานไปแล้วถึงได้เอาการสาบานมาผสมกับท่าสัญญาแบบนี้ เห่อ เห่อ
ทุกการกระทำของหญิงสาวทั้งสองคนอยู่ในสายตาของชายหญิงคู่หนึ่งที่หลบมุมดูอีกตึกหนึ่ง ท่าทางยัยนั่นคงจะไม่เข็ดถึงยังกล้ามาทำแบบนี้อีก ดี! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน แล้วมาดูกันว่าคราวหน้าใครจะอยู่ใครจะไป…
“ เรากลับกันเถอะพิมพ์ ”
ชายหนุ่มเดินหันหลังออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างช้าๆ เขาหมดแรงที่จะก้าวเดินไป ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขากับฟ้าลดาไม่ได้ห่างไกลกันถึงเพียงนี้ แต่ดูตอนนี้สิ เขากำลังกลายเป็นเหวที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ เขาก็ไม่มีทางที่จะได้มาบรรจบ ใกล้ชิดกับท้องฟ้าได้อีก เพราะยัยผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นแท้ๆ ที่ทำให้ฟ้าลดาเปลี่ยนไป จากคุ้นเคยจนเกือบคุ้นใจกลับกลายเป็นคนแปลกหน้ากันในทันทีทันใดที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา สวรรค์นี่ก็ช่างเล่นตลก ทำไมไม่ทำให้ความรักเป็นเรื่องเฉพาะระหว่างชายหญิง แต่กลับไปจับคู่ให้หญิงกับหญิงซะงั้น น่าตลกสิ้นดี
“ ไหวมั้ยธีร์ ”
น้ำเสียงห่วงใยด้านหลังทำให้ชายหนุ่มต้องหันมากลั้นใจยิ้มให้กับเพื่อนสาวที่แสนดี ที่วันนี้เป็นเดือดเป็นร้อนให้กับตัวเขา ถึงขนาดลงทุนซื้อน้ำไปสาดหน้าคนที่มาแย่งหัวใจของเขาไป
“ ไหวจ่ะ ขอบใจนะ ขอบใจที่ทำเพื่อเรา ”
พิมพ์วรา ยืนยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนชายผู้น่าสงสารเบาๆ
“ อย่าพูดมาก เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของเรา เดี๋ยวยัยนั่นเราจัดการเอง นายรอรับนางฟ้าของนายคืนได้เล้ย ”
จบประโยตคนพูดก็ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีอะไรขนาดนี้นะ เขาโชคดีจริงๆ ที่ได้รู้จักและได้เป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ ดีล่ะ! เขาต้องไม่หมดหวัง มีรักก็ต้องมีเลิกรักได้ เขาต้องทำให้ยัยเด็กนั่นกระเด็นออกไปจากชีวิตฟ้าลดาให้ได้ เขาจะกลัวอะไรล่ะ ในเมื่อมีกองหนุนที่ดีและเข้มแข็งขนาดนี้อยู่ข้างๆ
รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดในบ้านอย่างเงียบๆ เอ่อนะ วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอนะ ยัยบ้านั่นเป็นใคร และอะไรดลใจให้เจ้าหล่อนเอาน้ำทั้งแก้วที่เย็นยะเยือกขนาดนั้นมาสาดใส่หน้าเธอ ยัยปีศาจร้าย!
เสียงเคาะกระจกรถทำให้คนที่กำลังคิดอาฆาตแค้นได้สติกลับคืนมา แล้วก็ต้องรีบปั้นหน้ายิ้มหันกลับมาทางเสียงเคาะด้านข้างรถ พร้อมกับก้าวขาลงจากรถอย่างรวดเร็ว
“ ทำไมวันนี้กลับเร็วได้ ”
คำถามกึ่งการประชดประชันทำให้รอยยิ้มที่อุตสาห์ปั้นมาซะดิบดีมีอันต้องหุบกลับไปอย่างอัตโนมัติ แม่นะแม่ ลูกกลับบ้านแทนที่จะดีใจ กลับมาตีหน้ายักษ์ใส่กันได้ อะโด่…
“ ว่าไงยะ ”
กริณญารีบเข้าไปกอดอ้อนมารดาเหมือนอย่างทุกครั้งที่เคยทำ เพราะทุกครั้งที่มารดาเธอทำหน้าจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้ เธอจะต้องงัดลูกอ้อนออกมาพิชิตศึกทุกครั้งไปและนั่นก็ได้ผล และมีหรือครั้งนี้จะพลาด คุณหญิงกุลธิดา เผยยิ้มออกมาจนได้ แพ้ทุกทีสิน่า ลูกอ้อนแบบเด็กๆ ใช้มาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เธอก็ทำใจโกรธไม่ได้นานจริงๆ ดูสิทำหน้าสำนึกผิดได้น่าเอ็นดูจนเธอต้องใจอ่อนทุกทีสิน่า
“ ว่าแต่วันนี้ไปไหนมา ถึงได้ลืมนัดแม่ ”
คุณหญิงกุลธิดา เอ่ยถามบุตรสาวอย่างสงสัย ก็วันนี้นัดกันซะดิบดี บอกจะกลับมากินข้าวกับแม่ แต่ดูซิ นี่มันจะ 5 ทุ่มแล้ว เป็นแบบนี้ทุกครั้งสิลูกคนนี้
“ ว่าไง ”
กริณญา หันมามองหน้ามารดา จากนั้นก็กระพริบตาถี่ๆ สามสี่ครั้ง ก่อนจะเข้าไปกอดอีกครั้ง ตามประสาคนขี้อ้อน
“ ไปกินข้าวกะพี่ฟ้ามาคะ ”
คำตอบของบุตรสาวทำให้คนที่กำลังจะแพ้ลูกอ้อนถึงกับรีบผละออกจากบุตรสาว
“ โอ๊ยแม่!!! อะไรเนื่ย ”
คุณหญิงกุลธิดา ยกมือหมายจะตีคนที่ทำท่าทางเหมือนจะมางอนเธอที่เธอผลัดออกไป ดูทำหน้าเข้า มันน่าจะโดนซักทีนะลูกคนนี้
“ แล้วทำไมไม่โทรบอกแม่ ถ้าไปกับหนูฟ้าใครจะไปว่าอะไร แล้วทำไมไม่พามากินข้าวที่บ้าน บอกหรือเปล่าว่าแม่คิดถึง แล้วเป็นไงบ้างสบายดีมั้ย เรียนหนักเหรอถึงไม่ค่อยมาที่บ้านเลย แล้ว..แล้ว…แล้ว…”
จากนั้นคำถามมากมายก็กรูกันออกมาเป็นกองทัพ ยาวเหมือนกำแพงเมืองจีน จนกริณญาไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี และในตอนนี้เธอลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าคำถามแรกถามว่าอะไร?
“ แม่ ”
คุณหญิงกุลธิดาหยุดชะงักเพื่อรอคำตอบจากลูกสาวที่เหมือนจะเงียบได้ครู่ใหญ่
“ ไปอาบน้ำก่อนนะ ง่วงแล้ว ”
พูดจบก็ทำท่าหาวชุดใหญ่ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตกลงที่เธอถามมาทั้งหมดได้คำตอบเป็นการหาวใส่หน้าอย่างนั้นเหรอ ลูกคนนี้น่าจับมาตีให้ก้นลายซะจริงๆ ฮืมมม….
หญิงสาวเอามือลูบหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจผสมกับอาการแสบตาน้อยๆ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับเธอกันเนื๊ย…กริณญาบ่นกับตัวเองในใจ ใครกันนะที่กล้ามาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้กับเธอ
ส่วนคนก่อเรื่องก็ใช่ว่าจะสำนึกในความผิด แต่เจ้าหล่อนกลับเค้นอารมณ์โกรธและเกลียดคนที่กำลังเอามือปัดน้ำไปบนใบหน้าของตัวเอง ผู้หญิงอะไรหน้าตาก็น่ารัก ผิวพรรณก็อย่างกับผู้ดี ดูผมสิ เชอะ! ไม่มีแตกปลาย เอ่อแหนะ…นี่ตกลงเธอจะเข้ามาทำอะไรยัยนี่กันแน่นะ งง…กะความคิดตัวเองจริงๆ
“ นี่คุณทำบ้าอะไรห๊า!!! ”
น้ำเสียงที่เหมือนคนจะเอาเรื่องบวกกับหน้าตาที่เอาจริงเอาจังตรงหน้าไม่ได้ทำให้คนที่ยืนถือแก้วน้ำหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ความรู้สึกชิงชังที่ถูกฝังเข้าไปในกระดูกดำจนเจ้าตัวอดรนทนไม่ไหวจนต้องมายืนอยู่ตรงนี้นี่ไงล่ะ
“ ทำอะไร…. ”
คนถูกถามทวนประโยคด้วยน้ำเสียงเชิงล้อเลียนและเหยียดยิ้มเยาะคนตรงหน้า ใช่…เธอกำลังกวนประสาทยัยนี่ การที่มายืนถือแก้วน้ำอยู่ตรงนี้นั่นก็หมายความว่าเธอตั้งใจมาหาเรื่องนะสิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร…
“ นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าฉันทำอะไร จะบอกให้ก็ได้นะ… ”
คนพูดไม่พูดเปล่า แต่กลับก้าวเท้าเดินมาหาคนที่ยืนอึ้งอยู่ข้างหน้าแบบประชิดตัวจากนั้นค่อยๆยื่นหน้ามาใกล้ ใกล้ และใกล๊…ใกล้
“ เอาน้ำมากรวดส่งให้คนบางคน ถ้ารับแล้วก็ช่วยไปให้ไกลๆ อย่ามายุ่งกะแฟนชาวบ้านอีก!!! ”
จบประโยค คนพูดรีบสะบัดผมเดินออกมาทันที แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักและหันกลับมายังคนที่กำลังยื่นหน้าถอดสีอยู่ นี่คงจะช็อคมาละสิท่าที่เจอแบบนี้ ดี! คงไม่เคยเจอละสิ ของจริงอะ หึหึ
“ ออ…เหลือน้ำในแก้วอีกหน่อยเอาไปให้หมดเลยละกันจะได้ไปไวๆ ”
จบประโยคน้ำที่ควรอยู่ในแก้วก็มีอันต้องปลิวขึ้นมาสบทบกับเพื่อนๆบนใบหน้าของกริณญาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ยืนอึ้ง ทึ่ง และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ปะปนกันจนกระทั่งมีใครบางคนเอาผ้ามาเช็ดหน้าของเธออย่างเบามือ นั่นแหละเธอถึงเพิ่งจะได้สติและหันมากระพริบตาถี่ๆใส่คนตรงหน้า
“ ร้อนหรือไงถึงเอาน้ำมาราดหน้าตัวเองแบบนี้ ”
คนเช็ดไม่เช็ดเปล่าแถมยังล้อเลียนเธออีกมันน่านัก!+++
“ พี่ฟ้าอะ… ”
กริณญากล่าวออกมาอย่างงอนๆ ดูสิตะกี้เธอเพิ่งถูกคนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้เอาน้ำมาสาดใส่หน้า ยังไม่เห็นใจกันอีก แต่ก็ยังดีนะที่ไม่ใช่น้ำกรด ไม่งั้นมีหวังเสียโฉมกันพอดี
“ หมดละ ”
ฟ้าลดายืนจ้องหน้าคนที่เธอเพิ่งจะช่วยเช็ดคราบน้ำออกจากใบหน้า ดูสิไม่รู้จักพกผ้าเช็ดหน้านี่ถ้าไม่มีเธออยู่ใครที่ไหนจะเช็ดให้ คงเปียกเหมือนลูกแมวตกน้ำกลับบ้านเป็นแน่แท้
“ จ้องอย่างนี้เค้าก็เขินแย่ อะจิ ตัวเองก็… ”
คำพูดแกมหยอกของคนที่หน้าเพิ่งแห้งหมาดๆ ทำให้ได้รับของแถมเป็นการตีแขนเบาๆหนึ่งที
“ เกิดอะไรขึ้น? ”
สายตาและน้ำเสียงจริงจัง ทำให้กริณญาต้องหันหน้ามาสบตาพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ เรียกร้องความสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า
“ กริน ก็ไม่รู้เหมือนกันคะ มาไวเคลมไวมากยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลย ”
“ แน่ใจนะ ไม่ได้ไปก่อเรื่องที่ไหน ”
คำถามนี้ทำให้คนฟังยิ้มออกมาน้อยๆ เธอน่ะเหรอไปก่อเรื่อง น่าขำสิ้นดี
“ ไม่มีคะสาบานได้ ”
ไม่พูดเปล่า คนพูดยังเอานิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับส่งรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่กลับทำให้คนตรงหน้ากลั้นหัวเราะเอาไว้แทบจะไม่ไหว
“ เชื่อก็ได้ ว่าแต่แบบนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าสาบานน๊า งง…อะไรหรือเปล่าคะคนเก่ง ”
พูดจบประโยคคนสวยก็ค่อยๆจูงมือเด็กน้อยเดินไปที่รถอย่างช้าๆ กริณญาเดินตามคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย นี่เธอคงจะโดนน้ำสาดจนสมองไม่ทำงานไปแล้วถึงได้เอาการสาบานมาผสมกับท่าสัญญาแบบนี้ เห่อ เห่อ
ทุกการกระทำของหญิงสาวทั้งสองคนอยู่ในสายตาของชายหญิงคู่หนึ่งที่หลบมุมดูอีกตึกหนึ่ง ท่าทางยัยนั่นคงจะไม่เข็ดถึงยังกล้ามาทำแบบนี้อีก ดี! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน แล้วมาดูกันว่าคราวหน้าใครจะอยู่ใครจะไป…
“ เรากลับกันเถอะพิมพ์ ”
ชายหนุ่มเดินหันหลังออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างช้าๆ เขาหมดแรงที่จะก้าวเดินไป ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขากับฟ้าลดาไม่ได้ห่างไกลกันถึงเพียงนี้ แต่ดูตอนนี้สิ เขากำลังกลายเป็นเหวที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ เขาก็ไม่มีทางที่จะได้มาบรรจบ ใกล้ชิดกับท้องฟ้าได้อีก เพราะยัยผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นแท้ๆ ที่ทำให้ฟ้าลดาเปลี่ยนไป จากคุ้นเคยจนเกือบคุ้นใจกลับกลายเป็นคนแปลกหน้ากันในทันทีทันใดที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา สวรรค์นี่ก็ช่างเล่นตลก ทำไมไม่ทำให้ความรักเป็นเรื่องเฉพาะระหว่างชายหญิง แต่กลับไปจับคู่ให้หญิงกับหญิงซะงั้น น่าตลกสิ้นดี
“ ไหวมั้ยธีร์ ”
น้ำเสียงห่วงใยด้านหลังทำให้ชายหนุ่มต้องหันมากลั้นใจยิ้มให้กับเพื่อนสาวที่แสนดี ที่วันนี้เป็นเดือดเป็นร้อนให้กับตัวเขา ถึงขนาดลงทุนซื้อน้ำไปสาดหน้าคนที่มาแย่งหัวใจของเขาไป
“ ไหวจ่ะ ขอบใจนะ ขอบใจที่ทำเพื่อเรา ”
พิมพ์วรา ยืนยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนชายผู้น่าสงสารเบาๆ
“ อย่าพูดมาก เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของเรา เดี๋ยวยัยนั่นเราจัดการเอง นายรอรับนางฟ้าของนายคืนได้เล้ย ”
จบประโยตคนพูดก็ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีอะไรขนาดนี้นะ เขาโชคดีจริงๆ ที่ได้รู้จักและได้เป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ ดีล่ะ! เขาต้องไม่หมดหวัง มีรักก็ต้องมีเลิกรักได้ เขาต้องทำให้ยัยเด็กนั่นกระเด็นออกไปจากชีวิตฟ้าลดาให้ได้ เขาจะกลัวอะไรล่ะ ในเมื่อมีกองหนุนที่ดีและเข้มแข็งขนาดนี้อยู่ข้างๆ
รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดในบ้านอย่างเงียบๆ เอ่อนะ วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอนะ ยัยบ้านั่นเป็นใคร และอะไรดลใจให้เจ้าหล่อนเอาน้ำทั้งแก้วที่เย็นยะเยือกขนาดนั้นมาสาดใส่หน้าเธอ ยัยปีศาจร้าย!
เสียงเคาะกระจกรถทำให้คนที่กำลังคิดอาฆาตแค้นได้สติกลับคืนมา แล้วก็ต้องรีบปั้นหน้ายิ้มหันกลับมาทางเสียงเคาะด้านข้างรถ พร้อมกับก้าวขาลงจากรถอย่างรวดเร็ว
“ ทำไมวันนี้กลับเร็วได้ ”
คำถามกึ่งการประชดประชันทำให้รอยยิ้มที่อุตสาห์ปั้นมาซะดิบดีมีอันต้องหุบกลับไปอย่างอัตโนมัติ แม่นะแม่ ลูกกลับบ้านแทนที่จะดีใจ กลับมาตีหน้ายักษ์ใส่กันได้ อะโด่…
“ ว่าไงยะ ”
กริณญารีบเข้าไปกอดอ้อนมารดาเหมือนอย่างทุกครั้งที่เคยทำ เพราะทุกครั้งที่มารดาเธอทำหน้าจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้ เธอจะต้องงัดลูกอ้อนออกมาพิชิตศึกทุกครั้งไปและนั่นก็ได้ผล และมีหรือครั้งนี้จะพลาด คุณหญิงกุลธิดา เผยยิ้มออกมาจนได้ แพ้ทุกทีสิน่า ลูกอ้อนแบบเด็กๆ ใช้มาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เธอก็ทำใจโกรธไม่ได้นานจริงๆ ดูสิทำหน้าสำนึกผิดได้น่าเอ็นดูจนเธอต้องใจอ่อนทุกทีสิน่า
“ ว่าแต่วันนี้ไปไหนมา ถึงได้ลืมนัดแม่ ”
คุณหญิงกุลธิดา เอ่ยถามบุตรสาวอย่างสงสัย ก็วันนี้นัดกันซะดิบดี บอกจะกลับมากินข้าวกับแม่ แต่ดูซิ นี่มันจะ 5 ทุ่มแล้ว เป็นแบบนี้ทุกครั้งสิลูกคนนี้
“ ว่าไง ”
กริณญา หันมามองหน้ามารดา จากนั้นก็กระพริบตาถี่ๆ สามสี่ครั้ง ก่อนจะเข้าไปกอดอีกครั้ง ตามประสาคนขี้อ้อน
“ ไปกินข้าวกะพี่ฟ้ามาคะ ”
คำตอบของบุตรสาวทำให้คนที่กำลังจะแพ้ลูกอ้อนถึงกับรีบผละออกจากบุตรสาว
“ โอ๊ยแม่!!! อะไรเนื่ย ”
คุณหญิงกุลธิดา ยกมือหมายจะตีคนที่ทำท่าทางเหมือนจะมางอนเธอที่เธอผลัดออกไป ดูทำหน้าเข้า มันน่าจะโดนซักทีนะลูกคนนี้
“ แล้วทำไมไม่โทรบอกแม่ ถ้าไปกับหนูฟ้าใครจะไปว่าอะไร แล้วทำไมไม่พามากินข้าวที่บ้าน บอกหรือเปล่าว่าแม่คิดถึง แล้วเป็นไงบ้างสบายดีมั้ย เรียนหนักเหรอถึงไม่ค่อยมาที่บ้านเลย แล้ว..แล้ว…แล้ว…”
จากนั้นคำถามมากมายก็กรูกันออกมาเป็นกองทัพ ยาวเหมือนกำแพงเมืองจีน จนกริณญาไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี และในตอนนี้เธอลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าคำถามแรกถามว่าอะไร?
“ แม่ ”
คุณหญิงกุลธิดาหยุดชะงักเพื่อรอคำตอบจากลูกสาวที่เหมือนจะเงียบได้ครู่ใหญ่
“ ไปอาบน้ำก่อนนะ ง่วงแล้ว ”
พูดจบก็ทำท่าหาวชุดใหญ่ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตกลงที่เธอถามมาทั้งหมดได้คำตอบเป็นการหาวใส่หน้าอย่างนั้นเหรอ ลูกคนนี้น่าจับมาตีให้ก้นลายซะจริงๆ ฮืมมม….
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น