กว่าจะได้ชื่อว่าเป็น "เด็กนอก"

ลำดับตอนที่ #7 : Sat และ Act ข้อสอบวัดระดับเข้ามหาลัย

     Sat และ Act คือข้อสอบวัดระดับของการสอบเข้ามหาลัย นักเรียนนอกที่จบมปลายในอเมริกาจะเป็นที่ทราบกันดีว่าข้อสอบทั้งสอบประเภทเป็นสุดยอดของข้อสอบตลอกกาล ว่าง่ายๆว่าหินสุดๆ

     ขอเริ่มจากขอสอบ Sat ก่อน Sat เป็นข้อสอบที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดและนิยมกันมากที่สุด มหาลัยส่วนใหญ่รับผลสอบSat เพราะมีการสำรวจและมีการคัดเลือกข้อสอบทุกข้ออย่างมีระบบระเบียบและเข้มงวด Sat แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ general Sat (Sat1) และ Sat subject test (Sat2) นักเรียนทุกคนจะต้องสอบ sat1 เพื่อเป็นคะแนนพื้นฐานในการสมัครเรียนในมหาลัย ส่วน sat2 นั้นถือเป็นทางเลือกไม่จำเป็นต้องสอบ แต่บางสาขาวิชาและบางมหาลัยอาจบังคับให้สอบด้วยซึ่งต้องตรอจสอบในเว็ปของมหาลัยนั้นๆ sat1นั้นมีการสอบทั้งหมด 2 วิชา คือภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ แบ่งออกเป็นสามหมวดย่อย คือ ภาษาอังกฤษอ่าน ภาษาอังกฤษเขียนซึ่งรวมการเขียนเรียงความ และคณิตศาตร์ ซึ่งครอบคุมเนื้อหา
ของ สมการ 1 สมการ 2 และ เลขาคณิต ซึ่งว่าไปแล้วไม่ยากเกินไปสำหรับเด็กไทยหัวใจคณิตศาสตร์อย่างเราๆเลย ส่วนข้อสอบภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึงยากมหาโหดโดยเฉพาะคำศัพย์ที่เจ้าของภาษาเองเห็นแล้วยังงง
    
     คะแนนเต็ม sat1 คือ 2400 แต่ล่ะหมวดคะแนนเต็ม 800 ส่วนsat 2 นั้นเป็นการเลือกสอบของแต่ละวิชา เช่น คณิต อังกฤษ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งข้อสอบมีความยากกว่าsat 1 การสอบsatทั้ง 2แบบสามารถสอบได้หลายครั้งตามต้องการ sat1 สามารถนำคะแนนที่สูงที่สุดของแต่ละหมวดในการสอบหลายครั้งๆนั้นมารวมกันเอาคะแนนรวมที่สูงที่สุดได้ เช่นถ้าคุณได้คะแนนสูงจากการสอบหมวดคณิตศาสตร์ของการสอบครั้งที่สอง แต่หมวดอังกฤษของการสอบครั้งแรกสูงกว่าครั้งที่สองที่คุณสอบ คุณสามารถนำคะแนนหมวดคณิตศาตร์ในการสอบครั้งที่สองมารวมกับหมวดอังกฤษที่คุณสอบในครั้งที่หนึ่งได้

     ในการสอบSat มีความเข้มงวดมาก ข้อสอบในแต่ละครั้งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงข้อสอบอยู่ตลอดเวลา และถ้าใครคิดจะโกงละก็ขอบอกว่าให้ลืมไปได้เลย เพราะในห้องสอบนั้นมีการrunชุดข้อสอบซึ่งนั้นก็หมายความว่าเพื่อนบ้านโต๊ะข้างๆมีข้อสอบที่ไม่เหมือนกัน และถ้าคุณหวังว่าจะหาคนที่ได้ชุดเหมือนก็ขอบอกว่ามันเป็นแค่การฝันกลางวันเพราะในหนึ่งห้องสอบมีการrunข้อสอบอย่างน้อย 5 ชุดเอาเวลาตั้งใจทำให้ดีที่สุดดีกว่าน่ะ เด็กนอกสู้ๆๆ

 

     Act เป็นข้อสอบอีกประเภท เนื่องจากมหาลัยทางเหนือบางมหาลัยยังใช้ผลสอบของการสอบประเภทนี้อยู่แต่ส่วนใหญ่ก็ตอบรับการสอบทั้งสองประเภท act เป็นการสอบสามวิชาคือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งรวมการเขียนเรียงความ คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ หลายคนบอกว่าง่ายกว่าsat หลายขุมนัก ซึ่งผู้เขียนก็ลงความเห็นว่าง่ายกว่า sat เช่นกันactนั้นมีการนับคะแนนที่ต่างกับsat ซึ่งคะแนนเต็มคือ 30 สามารถสอบได้หลายครั้งแต่ไม่สามารถเอาคะแนนสูงที่สุดของแต่ล่ะหมวดของการสอบต่างครั้งมาร่วมกันได้ การสอบactมีไม่การrunชุดข้อสอบแต่บทลงโทษของคนโกงก็หนัก
อยู่เช่นกัน