ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ย้อนรอย... รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ความบังเอิญ...ที่ต้องการ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 55


        นอกจากรูปร่างที่โดดเด่นสะดุดตา จากความสูงใหญ่ สมาร์ทแบบคนออกกำลังกายตลอดแล้ว ใบหน้าของได แดนดุรีภราดร ก็หล่อเข้มบาดใจสาว ๆ ด้วยเครื่องหน้าที่ลงตัว... ไม่ว่าจะเป็นจมูกที่โด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหนาได้รูปสีสด แถมด้วยดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลเป็นประกายแวววาว ดูมีชีวิตชีวา...
        ขนาดว่านั่งอยู่ในมุมสลัวของห้อง... ก็ยังอุตส่าห์มีสาว ๆ หลายคนแวะเวียนมาโปรยเสน่ห์ หวังจะเชื่อมความสัมพันธ์ไม่ขาดสาย...
        ซึ่งเขาก็ปฏิเสธไมตรีของพวกหล่อน ด้วยมองแบบเมิน ๆ แล้วก็ส่งยิ้มเย็น ๆ ตบท้ายไปให้ เป็นกคำตอบให้พวกเธอรู้ว่า เขาไม่สนใจ "สะพาน" ยาวเฟื้อยเหล่านั้นซักนิด...
        พวกเธอก็เลยต้องล่าถอยไปในที่สุด...บางคนยังแอบค่อนแคะอยู่ในใจว่า...
        "เจอะชะนีสวยขนาดนี้...แล้วยังเมิน...ก็ไม่หวังแล้วหละว่า HE จะแมน...เฮ้อ...น่าเสียดายชะมัด"
        ถ้าไดรู้เข้า...คงต้องร้องจ๊ากแล้วก็ปฏิเสธพัลวันแน่นอน... ว่าเขาไม่ได้เป็นพวกนักอนุรักษ์ป่าไม้อย่างที่ว่าซักหน่อย... แต่ที่ทำเฉยชาไร้มารยาทเช่นนั้นก็เพราะว่า...
        ต้องการนั่งอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่า...
        แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยาก... เพราะอยู่ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านในงานเลี้ยง แต่ก็ดีกว่าต้องทนนั่งปั้นหน้ามากกว่านี้...
        เขาถอนหายใจหนักหน่วง...เผื่อว่าความรู้สึกเบื่อหน่ายที่มีอยู่ จะกระเด็นกระดอนออกไปพร้อมลมหายใจบ้าง...
        นึกอยากเขกหัวตัวเองนักเชียวว่า...
        ทำไม๊ ทำไม ถึงได้หลวมตัวรับปาก คงคา พุ่งแสงพิทักษ์เพื่อนรักมาร่วมงานสังสรรค์ของสังคมไฮโซในคืนนี้ได้...ทั้ง ๆ ที่เขาเองไม่เคยพิศวาสงานแบบนี้แม้แต่น้อย...
        เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง หลบได้เป็นหลบ...ขนาดมารดาแท้ ๆ ยังยอมแพ้ยกธงขาวให้มาแล้ว...ช่วยไม่ได้!! ในเมื่อมันไม่ไหวจริง ๆ...ก็ต้องโทษมารดาเขานั่นแหละ อยากเกิดมาเป็นนักธุรกิจผู้มั่่งคั่งพอ ๆ กับความคาดหวังว่าจะเลี้ยงลูกชายคนเดียวเอง...ทั้งๆ ที่เวลามีจำกัด ก็เลยมักจะหนีบกระเตงเขาให้ไปนั่งเซ็งในงานเลี้ยงด้วยเป็นประจำ...น่าเบื่อจะตายชัก...เด็กที่ไหนจะชอบ...แต่ถ้าให้เปลี่ยนเป็นงานประเภทลุย ๆ มัน ๆ ท้าทาย ๆ ล่ะก็พอไหว...
        "เมื่อไหร่จะออกมาเดินแบบให้เสร็จ ๆ ซักทีนะวารี!"
        เขาบ่นงึมงำอยู่คนเดียวด้วยความหงุดหงิด...เพราะความคิดตอนท้ายเมื่อครู่กำลังจะลากเขากลับไปสู่อดีตที่ยังเป็นปมคาใจอยู่...และเขาก็เกลียดการคิดถึงมันที่สุด...
        ด้วยความที่วารี หรือวังวารี เป็นน้องสาวคนเดียวของคงคาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมานานและเขาก็ไปมาหาสู่กับครอบครัวนี้เป็นประจำ ก็เลยพลอยเหมาเอาว่า เธอก็เป็นน้องสาวเขาด้วยเช่นกัน... 
        เจ้าหล่อนก็เลยได้ที...บังคับให้ทำนู่นทำนี่สารพัด ยิ่งกว่าคนเป็นพี่ชายแท้ ๆ อย่างคงคาด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องที่เขาสมยอมเอง...จนบางครั้ง...คงคาต้องออกโรงขัดเสียเอง เพราะเกรงใจเพื่อน...
        แต่ไดก็ไม่ถือสา...
        คิดซะว่า...ทำเพื่อน้องก็สิ้นเรื่อง...
        แม้แต่การมานั่งแกร่วอยู่ที่นี่ในคืนนี้... ก็เพราะหล่อน...แต่ไม่ใช่ทั้งหมด...
        วังวารีมีส่วนแค่ ต้องเดินแบบการกุศลในคืนนี้ เนื่องจากพี่ชายเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงาน แถมยังอุตริคิดคอนเซ็ปส์เก๋ ๆ ของงานว่า...จะเปิดโอกาสให้หนุ่ม ๆ ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับนางแบบกิติมศักดิ์ที่มาช่วยงาน หากเสนอยอดบริจาคช่วยผู้ประสบภัยสูง ๆ ...
        ก็เลยต้องเดือดร้อนถึงเขาจนได้...
        "วารียอมช่วยเดินแบบให้แล้ว แต่วารีก็ไม่อยากถูกคนแปลกหน้าประมูลนี่คะ"
        เธอทำเสียงกระเง้ากระงอดด้วยความไม่พอใจ
        "เอ้าแล้วไม่ดีหรือ?? เผื่อจะได้เจอเนื้อคู่ รูปหล่อ พ่อรวยยังไงล่ะ"
        เขาแซวยิ้ม ๆ แต่สาวสวยทำหน้างอ ส่ายหน้าหวือ จนผมยาวสลวยแตกกระเจิง...
        "ไม่เอา วารีไม่ได้อยากมีแฟนนี่นา"
        "อ้าว แล้วทำไมไม่ปฏิเสธเขาไปล่ะ ว่าจะไม่เดินแบบให้"
        เขาถามตรง ๆ ตามนิสัย...
        "ปฏิเสธได้ที่นี่ไหนล่ะคะ...ไม่รู้หละ ถ้าพี่ไหไม่ไปช่วยประมูล วารีจะโกรธจนตายเลย"
        น้องสาวนอกไส้ยื่นคำขาด...ทำหน้างอ...
        "แล้วทำไมไม่ให้ พี่ชายนายหอย..ของวารีประมูลล่ะ อยากออกไอเดียให้ชาวบ้านเดือดร้อนดีนัก"
        เขาโบ้ยไปทางคงคา...ซึ่งก็รีบปฏิเสธลั่นทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด...
        "ไม่ได้ ๆ ผิดกติกา...เอาน่า วารีอุตส่าห์คาดหวังจากนาย... ก็ช่วย ๆ หน่อยเถอะ เงินแค่หมื่นสองหมื่นสำหรับนาย จิ๊บจ๊อย จริงไหม?"
        "เรื่องเงินน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ที่ทำให้ข้าเดือดร้อนก็คือจะต้องไปนั่งทำหน้าแอ๊บแบ๊ว ในงานติ๊งต๊องของนายน่ะสิ บอกตั้งกี่ร้อยครั้งแล้วว่า ไม่ชอบ!!"
        "เอาน่ะ...ขอครั้งนี้ครั้งเดียวก็แล้วกัน คิดซะว่า ไปหาเนื้อคู่ในงานสิ... จะบอกอะไรให้...ว่างานนี้มีแต่บรรดาลูกท่านหลานเธอ สาว ๆ สวย ๆ ทั้งนั้น...ไม่แน่นะอาจจะมีซักคนที่มีคุณสมบัติถูกใจจนทำให้นายยอมลงจากคานก็ได้ ใครจะรู้"
        คงคาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ..พยายามยกเหตุผลมาอ้างเพื่อให้ไดยอมตกลง
        "ขำตายล่ะ นายหอย...ถ้าห่วงว่า ไม่ต้องมาอ้างเลย ข้าไม่เคยกลัวหรอกเรื่องขึ้นคานน่ะ...ข้าเพิ่งจะอายุ 30 ต้น ๆ ยังห่างคำที่นายเรียกอีกไกล รู้ไหมธรรมเนียมฝรั่งน่ะ เขาเริ่มนับหนึ่งกันตอน 40 โว๊ย..."
        "ครับ ๆ พ่อฝรั่งครึ่งหนึ่ง...งั้นก็คิดซะว่า เป็นการไปศึกษาดูงาน หาคนที่ถูกใจ... ที่อาจจะได้เป็นตัวจริงในอนาคต...อีกเรื่องที่ทำให้กระผมรู้สึกขัดใจมาก ๆ ก็คือ ช่วยเรียกชื่อเล่นของกระผมให้เต็ม ๆ หน่อย หอยโข่งไม่ใช่หอย..ฟังแล้วเสียวไส้... อย่ามาอ้างว่าภาษาไทยไม่แข็งแรงนะ ฟังไม่ขึ้น"
        คงคาทำหน้าหงิกขณะบอก ทำเอาไดหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
        "ขอโทษครับผม... ต่อไปจะพยายามไม่ลืมก็แล้วกัน... ว่าแต่นายเถอะ มัวแต่ห่วงว่าคนอื่นจะขึ้นคาน แล้วตัวคุณหอยโข่งเองล่ะครับ อายุก็ไม่ได้แตกต่างจากผมสักเท่าไหร่หรอก..ถ้าผมขึ้นคานคุณหอยโข่งจะอยู่ตรงไหน?  ดาดฟ้าหรือครับ?"
        คงคาโบกไม้โบกมือ... แกล้งทำตาประหลับประเหลือก จนน่าหมั่นไส้
        "ผมน่ะ มีคนที่หมายปองอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอย่างคุณไหซะที่ไหน รอแค่ให้พร้อม ก็จะเปิดตัวทันที รับรองว่า คุณไหจะต้องอึ้งแน่ ๆ...เอาหละ..เลิกโยกโย้ มากเรื่องได้แล้ว... ตกลงว่าไปกับพวกข้าซะดี ๆ แล้วก็กรุณาตั้งใจมองหาสาว ๆ ที่มาร่วมงานด้วยนะครับ"
        "มันงานการกุศลหรือว่าจัดงานหาคู่กันแน่วะ"
         ไดถาม...สีหน้าไม่ได้จริงจังนัก 
        "การกุศล..ร้อยเปอร์เซ็น ส่วนที่เหลือ ก็แล้วแต่ความสามารถของท่านครับ ทางเราไม่เกี่ยว จะงานอะไรก็ช่างมันเถอะ มองแค่ประเด็นที่ว่า ได้ทำบุญ แถมมีสาวสวยมาร่วมโต๊ะ ให้คลายเหงาแบบนั้น ก็น่าจะพอแล้ว เฮ๊ย...อย่าบอกนะว่าไม่ชอบผู้หญิงน่ะ!!"
        คงคาแหย่อย่างสนิทสนม ทำเอาไดร้องจ๊าก
        "บ้า..มีด้วยหรือวะ...ผู้ชายที่ไม่ชอบผู้หญิง ยิ่งสวยก็ยิ่งชอบ...ตกลงว่า งานของนายเนี่ยเปิดโอกาสให้ประมูลสาว ๆ ได้ทุกคนเลยใช่ไหม??"
        เขาซักไปงั้น ๆ แหละ ไม่ได้คิดจะสนใจจริงจังนักหรอก...
        "ใช่ทุกคนที่เดินแบบ"
        และสุดท้าย เขาก็ต้องมานั่นแกร่วอยู่ตรงนี้เพราะทนต่อการรบเร้า...อ้อนวอนของสองพี่น้องไม่ไหว...
        "ทำไมเวลาแต่ละวินาทีของวันนี้ มันถึงได้เชื่องช้ากว่าทุกวันนักนะ..."
        ความหงุดหงิดยังคงรุมเร้าอยู่ในความคิดของเขา จนอยากจะลุกหนีออกไปจากตรงนี้ ...แต่พอคิดถึงหน้าจ๋อย ๆ ของสองพี่น้องนั่น ก็ทำไม่ลง...
        นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็...ไม่มีทางที่เขาจะทนแบบนี้แน่
        ยอมรับว่า ในอดีตเขาเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองแบบสุดๆ ...ไม่คิดแคร์อะไรทั้งนั้น มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ในเมื่อเกิดมาบนกองเงินกองทอง แถมเป็นลูกชายคนเดียวของผู้มีอันจะกินและทรงอิทธิพลขนาดนั้น...ใครต่อใครก็ไม่กล้าขัด... ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาต้องเป็นคนร้อน แรง และร้ายแบบนั้น
       จะเรียกแบบไหน ในสามคำนั้น...มันสามารถอธิบายความเป็นเขาได้ทุกตัว... ดีอยู่หน่อยก็อีตรงที่ รู้จักให้เกียรติและไม่ชอบใช้กำลังกับผู้อื่นอยู่บ้าง...  
       เขาคงเป็นแบบนี้ไปจนตาย ถ้าไม่เจอกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำเอาเกือบไม่รอด...ชนิดที่ใคร ๆ ต่างพากันลงความเห็นว่า  "คงไม่รอดแน่ ถึงรอดก็พิการอย่างเดียว.."
       มันคือช่วงเวลาที่แสนทรมานที่สุด...เท่าที่เขาเคยเจอะมา...อิสระของเขาถูกจำกัดอยู่บนเตียงนอนแคบ ๆ นานนับปี...เงินทองที่มีอยู่มากมายแทบไม่มีความหมาย...มันไม่สามารถซื้อหาอิสระให้กับเขาได้เลย...
        กว่าจะกลับมายืนตรงนี้ได้...
        แต่ละวัน ผ่านไปแบบไร้ความหวัง เหมือนคนพิการ ที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ มองเห็น ได้ยิน แต่ไม่อาจโต้ตอบ อึดอัดอย่างถึงที่สุด...
        ในที่สุดเมื่อทำใจให้ยอมรับสภาพได้ เขาก็เริ่มมองเห็นสัจธรรมว่า การเกิดมาเป็นคนที่มีร่างกายครบ 32 ประการนั้นมีค่ามากกว่าเงินทองซะอีก...
        ครั้งนั้นเองที่ทำให้เขาเริ่มคิดได้ และหันกลับมาเดินตามเส้นทางที่พ่อแม่เพียรพยายามขีดเส้นให้เดิน...แบบไร้ข้อต่อรอง...
        ไดวันนี้ เรียนจบกลับมาอย่างที่พ่อแม่เคยหวังแล้ว...
        แต่ด้วยความที่ยังไม่อยากกลับเข้าบ้านในทันทีที่มาถึง ก็เลยแอบแวะมาหาคงคาเสียก่อน...
        ก็เลยจบที่การถูกปล่อยให้นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่เพียงลำพัง โดยคงคาจะแวะเวียนมาหาเรื่อย ๆ แต่ไม่บ่อยนัก และเขาเข้าใจดีว่าเพื่อนยุ่ง...เพื่อนของเขาก็เลยกลายเป็นเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าที่จิบเรื่อย ๆ จนมึน...
        "ฟังเพลงไปพลาง ๆ นะเพื่อน เกือบถึงจุดไคลแมกซ์ของงานแล้วหละ"
        คงคาให้กำลังใจ.. เมื่อกลับมาร่วมโต๊ะ และสังเกตเห็น สีหน้าของไดที่แสดงออกอย่างเปิดเผย
        เขาหันไปมองเวที ที่มีนักร้องรับเชิญส่งเสียงคลอเคล้าเพื่อรอให้นางแบบพร้อม บางคนก็ร้องพอฟังได้ แต่บางคนก็ร้องไปทะเลาะกับจังหวะไป ฟังแล้วไม่รู้ว่าจะช่วยกล่อมแขกหรือไล่แขกกันแน่
         "ทำไมไม่รู้จักไปหัดร้องให้ดีก่อนจะมารับงานนี้วะ หรือคิดว่าเสียเงินจ้างร้องแล้วไม่ต้องห่วงว่าคนฟังจะเป็นยังไง"
        คงคานึกขำกับคำวิจารณ์ตรง ๆ ของเพื่อน แต่ก็ต้องเตือน เพราะเกรงว่าโต๊ะข้าง ๆ ได้ยินเข้า มันจะไม่ดี
        "เฮ๊ย ไห แรงไปเพื่อน นี่มันงานการกุศลโว้ยไม่ใช่ประกวดร้องเพลงจะได้ร้องอย่างกับมืออาชีพ เอาแค่ว่าดูดีมีตังค์บริจาคมาก ๆ ก็พอแล้ว ฟัง ๆ ไปเถอะแก้วหูไม่แตกก็ดีถม"
         ไดแบะปากยักไหล่ ก่อนจะยกแก้วเหล้าจรดปาก
         "เหล้าก็เหมือนกัน ดื่มน้อยๆหน่อย เดี๋ยวก็ได้เมาพับไปซะก่อน..."
         เสียงเพลงของนักร้องจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือกึกก้องราวกับว่า ร้องเพราะเสียเต็มประดา
         "จบซักที เสียงยังกับเป็ดเทศโดนบีบคอก่อนเชือดแน่ะ"
         คงคา ส่ายหน้าเบา ๆ ยิ้มขำกับวาจาเสียดสีของเพื่อน
         "เอาน่ะ มารยาทโว๊ยมารยาท เพราะไม่เพราะก็ชม ๆ เข้าไปเถอะ..ปากแรงแบบนี้สงสัยจะแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดจะหนักเกินไปหรือเปล่า??วะเนี่ย"
         "เมาเมวที่ไหน คนพูดความจริงโว๊ย"
         คงคาทำหน้าเหนื่อย ตั้งมือสองข้างออกเป็นเชิงสงบศึก
          "ตกลง ๆ เอาเป็นว่า รอคนนี้นะ เด็ดสุด น่าจะช่วยแก้หน้าได้แน่ คนอะไรก็ไม่รู้ หน้าตาน่ารัก เสียงดี ดีกรีจากเมืองนอกอีกต่างหาก ขวัญใจหนุ่มๆ ในงานเลยนะ"
          คงคารีบเบี่ยงความสนใจของเพื่อนไปยังเวที เมื่อได้ยินพิธีกรประกาศชื่อนักร้องคนต่อไป ที่เขาเองก็อยากเห็นเช่นกัน
         "ขอเชิญ ท่านพบกับ ม่านดาหลา แต่นามนิตย์ครับ" 
         เสียงปรบมือดังกึกก้อง ราวกับว่า คนที่พวกเขาเฝ้ารอ..ได้มาถึงแล้ว
        ได...ชะงักกึก รู้สึกสะดุดกับชื่อที่พิธีกรในงานประกาศ... แต่ก็คิดในใจแค่ว่า
        "สงสัยจะชื่อคล้ายกันมากกว่า..."
        แต่เขาก็ถึงกับชาทั้งตัวทันที... เมื่อสายตาบังเอิญเจอะเข้ากับร่างระหงของนักร้องที่ว่า หัวใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...
        เจ้าหล่อนอยู่ในชุดล่อตาล่อใจหนุ่ม ๆ ไม่น้อย สวมเสื้อเชิ๊ตสีสดพับแขนยาวคลุมสะโพก สวมกางเกงขาสั้นจู๋อวดเรียวขายาวสวย คาดทับด้วยเข็มขัดเส้นโตเก๋...
        ลีลาท่าทางของหล่อนดูคุ้นพิกล และมันก็ทำให้เขามั่นใจว่าไม่ผิดคนแน่... อา...โลกกลมอย่างที่เขาว่าจริง ๆ และมันก็กำลังจะหยุดหมุนเอาดื้อ ๆ ซะด้วย...
        หน้าตาแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น...ต่อให้หลับตา เขาก็สามารถบอกรายละเอียดของหล่อนได้ถูกต้อง...
        คงคาแอบสังเกตอาการนิ่งอึ้งของเพื่อนรักด้วยความพอใจ 
        "ไงล่ะ ถึงกับเงียบไปเลยหรือเพื่อน วิจารณ์ไม่ออกล่ะสิท่า บอกแล้วไง ว่านี่ละเด็ดสุด เสียอย่างเดียว ดันมีแฟนซะแล้ว"
        ได หูผึ่งกับคำบอกเล่าของเพื่อน...รู้สึกว่าในหัวใจมันร้อนรุมขึ้นมาอย่างมากมาย
        "มีแฟนแล้วหรือ"
        เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่ว ราวกับผิดหวัง
        "ดูทำเสียงเข้า ถึงกับอกหักเลยหรือวะ ก็คนเขาสวยแล้วก็หุ่นดีออกขนาดนั้น ถ้าบอกว่าไม่มีแฟน ล่ะก็แปลก"
        คงคาบอกยิ้ม ๆ
        นักร้องสาวบนเวทีเริ่มส่งเสียงหวานเจื้อยแจ้วในเพลงช้า ๆ เศร้า ๆ เข้ากับน้ำเสียงของเธอไพเราะน่าฟัง อย่างที่คงคาอวดสรรพคุณไว้ไม่มีผิด...แต่หูของเขา กลับไม่ได้รับรู้ถึงอรรถรสของเพลงเลย แม้แต่นิดเดียว...
        ภาพเหตุการณ์ในอดีตกำลังแล่นเข้ามาในหัวสมองของเขาอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง...รู้สึกอยู่อย่างเดียวในตอนนี้ ก็คือ ความเคืองขุ่น ที่ได้เห็นท่าทางมีความสุขของเจ้าหล่อน...
        เหมือนไม่เคยเจอะเจอกับเรื่องราวใด ๆ ในชีวิตมาก่อน..   
        "เท่าไหร่?"
        เขาโพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคงคาทำหน้าเหวอ ด้วยความงุนงง...
        "อะไรของนายวะ เท่าไหร่"
        "นักร้องคนนี้น่ะ เท่าไหร่?"
        คงคาหันไปมองบนเวที ก่อนจะตอบ
        "เสียใจด้วยเพื่อน นอกกติกาว่ะ คนนี้ไม่ได้เข้าร่วมประมูลด้วยโว๊ย"
        "ไม่รู้หละ นายไปถามซิว่า เขาจะเอาเท่าไหร่"
        คงคาหันไปมองบนเวทีสลับกับหน้าเพื่อนรัก  แล้วก็พบว่า ไดไม่ได้พูดเล่นแน่... ก็เลยได้แต่เกาหัวแกรก ๆ ทำหน้าลำบาก
        "เลิกคิดได้เลยว่ะไห ช่วยไม่ได้จริง ๆ เรื่องนี้ คุณดาหลาเธอแค่มีจิตศรัทธามาช่วยงานเท่านั้น... ถ้านายอยากรู้จักจริง ๆ ล่ะก็ ไว้วันหลังข้าจะพามาแนะนำให้ ไม่ต้องห่วงแฟนเพื่อนเราเอง"
        ไดส่ายหน้าแววตาเด็ดเดี่ยวมั่นคงยิ่งนัก
        "นายเป็นคนออกไอเดียเรื่องนี้ ก็ไปจัดการพาแม่คนนั้นมาให้ข้าสิ อยากได้เงินบริจาคมาก ๆ ไม่ใช่หรือ?"
         คงคาถอนใจหนัก ลำบากใจกับความดื้อรั้นของเพื่อน
        "ไห... ฟังดี ๆ นะ ยอดเงินบริจาคเยอะ ๆ น่ะข้าก็อยากได้ แต่เรื่องนี้ มันนอกเหนือข้อตกลงทำไม่ได้จริง ๆ ว่ะ"
        "แสนหนึ่งพอไหม?"
        คงคาเงียบ หน้าเครียด
        "แสนห้า..."
        ไดไม่ได้ละสายตาจากเวที ขณะยื่นข้อเสนอ
        คงคาเกาหัวแกรก ๆ ยกมือห้าม... เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะพูดต่อ
        "พอ ๆ พ่อมหาเศรษฐีแห่งลอนดอน... ข้าพเจ้าทราบแล้วครับว่าเงินท่านน่ะมากมายจนใช้ไม่หมด สรุปว่า อยากรู้จักกับคุณดาหลาเอามาก ๆเลยใช่ไหม ก็ได้ ๆ ข้าจะลองไปขอร้องเธอดู แต่ไม่รับปากนะว่า เธอจะยอมมาคุยกับนายหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับข้า"
        "ถ้าทนายมือหนึ่งอย่างนายลงมือเกลี้ยกล่อม มีหรือจะไม่สำเร็จ!!ไม่ต้องพูดมากไปได้แล้ว"
        ไดพูดอย่างมั่นใจ แววตาเป็นประกายกล้า ขณะจ้องร่างบางที่ทำหน้าที่ของตนอยู่บนเวทีอย่างหมายมั่น
           *******************************************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×