ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Hey! Say! JUMP

    ลำดับตอนที่ #6 : [Nakayama]--don't play.please--

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 54


    [SF] don’t play,please

     

    อย่าเลยนะยามะจัง  ยูโตะพูดด้วยเสียงออดอ้อนเต็มที่  พลางเกาะแขนเรียวสุเกะแน่น

    ไม่ได้หรอกยังไงก็ต้องทำนี่นา  อีกฝ่ายพยายามแกะมือปลาหมึกออก  มืออีกข้างพลางดันหัวทุยที่กำลังซบบ่าออก  แต่ก็ไม่เป็นผล

    ม่ายอาวววววววววว-- ” 

    นี่นาย...  เรียวสุเกะชักจะหมดความอดทน  มือขวาเงื้อขึ้นสูงตั้งท่าจะชกอีกฝ่าย  ยูโตะสบโอกาสจึงรวบมือทั้งสองไว้แล้วโผเข้ากอดอีกฝ่ายทางด้านหลังแน่น  เรียวสุเกะได้แต่ดิ้นขลุกขลักภายใต้อ้อมแขนแกร่ง  ซึ่งเขาคิดว่าการที่ยูโตะได้หมั่นฝึกตีกลองมันทำให้แข็งแรงขึ้นจริงๆ  ปล่อยเซ่!!! ”

    ม่ายยปล่อยยยยย  ยูโตะยิ่งเพิ่มแรงกอดเข้าไปมากยิ่งขึ้น  จนเรียวสุเกะนิ่วหน้าเพราะข้อมือกำลังถูกบีบรัดจากมือหยาบ  ถ้าฉันปล่อยสัญญาสิว่าจะไม่ทำ

    ไม่ได้!!! ”

    เหตุการณ์นี้อยู่ภายในสายตาของจัมพ์ที่เหลืออีกแปดคน  ซึ่งดูการทะเลาะกันแบบแปลกๆของสองคนนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว  โดยปกติแล้วเวลาทั้งสองคนทะเลาะกันมักจะจบท้ายที่เรียวสุเกะงอนยูโตะเสมอๆ  ทว่าครั้งนี้ดูเหมือนยูโตะจะไม่ยอมละความพยายามไปง่ายๆ

    ไดกิมักจะเป็นคนห้ามทัพระหว่างสองคนนี้เสมอ  แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์จึงขออยู่วงนอก

    จนในที่สุดโคตะซึ่งทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากขึ้นมา

    ไปๆซ้อมได้แล้ว...ปล่อยให้สองคนนี้จัดการกันเองก็แล้วกัน

    เมื่อสิ้นคำตัดสินของพี่ใหญ่แล้วสมาชิกทั้งแปดต่างก็พร้อมใจกันลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องอย่างพร้อมเพรียงกัน  โดยโคตะเดินนำไปโดยไม่หันกลับมามอง  ฮิคารุซึ่งเดินกอดคอกับเคย์ที่กำลังจูงมือไดกิคุยกันหัวเราะร่วนกับสภาพของเรียวสุเกะและยูโตะที่ร่างสูงกอดเอวโดยที่คนตัวเล็กข้างหน้ากำลังยื้อโต๊ะแต่งตัวไว้อยู่

    ส่วนเคย์โตะก็หันกลับมาไปคุยกับริวทาโรพักหนึ่งก่อนมาเตือนยูโตะแล้วเดินออกไปจากห้อง

    ระวังโดนโกรธนะ

    ส่วนอีกสองคนที่เหลือยังคงนั่งมองทั้งคู่เถียงกันต่อไป

    ก็ขึ้นแค่ตอนแรกก็พอนี่นา  เดี๋ยวฉันจะลองไปขอร้องผู้จัดการให้ก็ได้  ยูโตะเริ่มหันกลับมาใช้วิธีเจรจาต่อรองแทน  ตอนซ้อมยามะจังก็เหงื่อออกท่วมมือเลยนี่นา

    ก็ทำไงเล่า  มันเป็นงาน  นายเข้าใจหน่อยสิ

    ยูโตะยิ้มขึ้นมาอย่างเข้าทาง  เพราะงานไงถ้าไม่รักษาตัวดีๆจะทำต่อไปได้ไม๊ล่ะ  หืม-- ”

    ก็ยูโตะคุงยังโหนสลิงตอนตีกลองไทโกะเลย  ยามะจังทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ  จู่ๆยูริก็พูดแทรกขึ้นมาเป็นเชิงเข้าข้างเพื่อนสนิท  ยูยะเองก็เห็นด้วยกับยูริเหมือนกัน  ซึ่งประโยคนี้ฟังยังไงๆก็เป็นการเข้าข้างเรียวสุเกะอยู่ดี

    ถ้ามันเป็นงานที่ทำให้คนดูสนุกได้ยังไง               ๆก็ต้องทำ  ข้อนี้ถือว่าเป็นคติสำคัญในการเป็นไอดอลอย่างจัมพ์

    ทว่ายูโตะตอนนี้นั้นห่วงเรียวสุเกะมากเกินไปจนกระทั่งลืมข้อนี้ไป

    มันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ  ฉันไม่ได้กลัวความสูง  แต่ยามะจังกลัวความสูงนี่นา

    เหมือนสิ...เพราะมันเป็นงานไงล่ะ  เรียวสุเกะเริ่มขึ้นเสียงขึ้นมาอีกครั้ง  จนทั้งยูริและยูยะเริ่มสังเกตเห็นลางร้าย  ยูโตะก็พูดอย่างกับจะแช่งฉันอย่างนั้นล่ะ

    ยูโตะถึงกับเงียบไปเลย

    สาเหตุจริงๆที่ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันก็มาจากการที่ยูโตะเห็นสคริปต์การแสดงโลดโผนของเรียวสุเกะ  ตั้งแต่ตอนเปิดคอนเสิร์ตซัมมารีที่ทุกคนในจัมพ์จะต้องใส่ชุดขาวแล้วโหนสลิงหมุนเป็นวงกลมนั่นยังพอเข้าใจว่าทำกันทุกคน  แต่ว่าตอนโซโล่เดียวของเจ้าตัวเพลง  asia no yoru นี่สิ  มันจะเกินไปหรือเปล่า  ที่เรียวสุเกะซึ่งกลัวความสูงต้องโหนผ้าแบบรุ่นพี่โคอิจิที่ปลื้ม  พอเตือนว่ามันอันตรายเท่านั้นล่ะ  จึงคุยกันจนทะเลาะจนถึงตอนนี้

    เดี๋ยวพวกฉันไปก่อนนะ  ยูยะเอ่ยขึ้นมาก่อนลากยูริออกไปจากห้อง

    ถ้าไม่กลัวโดนยาบุคุงว่า  ก็ระวังโดนผู้จัดการว่านะ  ยูริโผล่ออกมาจากหลังประตูก่อนจะเดินหายไปพร้อมกับทาคาคิ

    เรียวสุเกะผลักยูโตะซึ่งเผลอผ่อนแรงออก  แล้ววิ่งตามทั้งคู่ไป

    ยูโตะได้แต่นั่งกองอยู่กับพื้นด้วยความหงุดหงิดใจ

    ทำไมนายถึงมองไม่เห็นความห่วงใยของฉันบ้างนะ

     

    การซ้อมได้เริ่มดำเนินไปอย่างตื่นเต้นตลอดหลายวัน  เรียวสุเกะซึ่งยังคงโกรธยูโตะอยู่แสดงให้เห็นว่าการซ้อมของเขานั้นมันใช้ความพยายามมากแค่ไหน  โดยการซ้อมเป็นไปด้วยความราบรื่นเสมอมา  ส่วนทางด้านยูโตะเองก็ต้องซ้อมทั้งการแสดงทั้งจัมพ์แบนด์  จนไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะไปง้ออีกฝ่าย

    จนกระทั่งวันนี้

    การโหนสลิงในชุดขาวเป็นอย่างแรกที่ซ้อมกันจนเป็นปกติทุกวัน  แต่วันนี้อาจจะเป็นโชคร้ายของเคย์โตะพ่อหนุ่มจอมซุ่มซ่าม  ที่ตอนลงมาจากสลิงลื่นน้ำพุล้มกลิ้งไม่เป็นท่า  แต่กลับลุกขึ้นมาเกาหัวหัวเราะแหะๆได้อย่างสบาย  ยูโตะตกใจเล็กน้อยขณะที่เพื่อนสนิทของตนนั้นล้ม  แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มจึงพลอยบรรเทาความกังวลใจได้  ต่างกับเรียวสุเกะ

    ยามะจังเป็นอะไรหรือเปล่า  ยูริถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าคนยืนข้างๆนั้นซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด  ขณะที่ยืนดูยูโตะซ้อมโหนสลิงตีกลองกับโคตะ

    เอ๊ะ...เปล่านี่นา  ทำไมเหรอ

    หน้านายซีดมากๆเลยนะ  หรือว่า!!! ”  ยูริบอก  นายจะห่วงยูโตะ  โหนสลิงสูงซะขนาดนั้นนี่นะ

    ใครจะไปห่วงคนพรรค์นั้นที่มาแช่งตัวเองกันล่ะ  เรียวสุเกะพูดใส่อารมณ์  จนยูริจับได้ว่าความโกรธของคนคนนี้มันยังไม่หายไปเลย  เดี๋ยวฉันก็ต้องซ้อมขึ้นไปสู้กับมังกรแล้วล่ะ  ไปก่อนนะ

    ยูริชูสองนิ้วเพื่อเป็นกำลังใจให้อีกฝ่าย  โดยที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้สายตาของยูโตะ

    ทำไมนายไม่เข้าไปง้อซักทีละ  เคย์โตะถามขึ้นมาอย่างสงสัย  โดยที่สายตาของทั้งคู่ยังคงจับจ้องอยู่ที่เรียวสุเกะซึ่งโหนสลิงไปเรียบร้อยแล้ว  ถึงจะซ้อมกลองกับจัมพ์แบนด์ก็เถอะ  แต่เวลาก็ยังเหลือบ้างนิดหน่อยนี่นา

    ปล่อยให้เขาทำตามใจเถอะ  อย่างน้อยมันก็เพื่อความสบายใจของเขาเอง  ยูโตะตอบพลางขวมดคิ้ว  ซึ่งขัดกับคำพูดของเขาสุดๆ  ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามอะไรหรอก

    ห้ามไม่ได้แต่ก็เป็นห่วงได้ไม่ใช่หรือยังไง  คำพูดของเคย์โตะทำให้ยูโตะถึงกับสะดุ้งขึ้นมา

    นั่นสินะ...ห้ามไม่ได้  แต่ก็ห่วงได้

    นายยังไม่เคยบอกล่ะสิท่า  เคย์โตะยิ้มในใจเมื่อเห็นอาการดังกล่าวของเพื่อนชายของตน

    เมื่อการซ้อมได้ดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงช่วงโซโล่ของเรียวสุเกะซึ่งทุกคนมักจะใจเต้นทุกครั้งที่เขาตีลังการบนอากาศ  ในตอนแรกที่ซ้อมจะมีเบาะลมมารอง  แต่หลังๆมากลับมีเพียงเบาะบางๆ  โดยให้เหตุผลแค่ว่าเวลาแสดงจริงไม่มีอะไรมารองรับหรอกนะ

    เรียวสุเกะเอนตัวลงมาโดยมือไม่ได้จับผ้าไว้  ยูโตะก็แทบจะวิ่งไปบนเวทีด้วยลางสังหรณ์แปลกๆ  ยังดีที่เคย์โตะกระชากแขนเป็นเชิงเตือน  ถัดมาร่างบางโหนตัวเองไว้กับผ้าที่ลอดใต้แขนทั้งสองข้างไว้แล้วตีลังกาโดยขาอยู่ข้างบน  จังหวะนั้นมันรวดเร็วจนไม่มีใครตั้งตัวทัน

    ร่างบางค่อยๆร่วงหล่นลงมา  Jr.ที่อยู่ข้างล่างต่างวิ่งกรูกันมาอย่างรวดเร็ว  ยูโตะได้แต่ยืนตะโกนร้องเรียกอยู่ข้างเวที  เมมเบอร์ทั้งแปดของจัมพ์เองต่างก็อยู่ในภาวะตกใจมากเช่นเดียวกัน

    เรียวสุเกะ!!!! ”

    โคตะเป็นคนแรกที่วิ่งไปถึงตัวเรียวสุเกะก่อน  น้องชายนั่งคู้ตัวบนเวทีด้วยอาการหอบสั่นอย่างน่ากลัว  ยูโตะวิ่งตามมาด้วยความเร็วแสง

    ใบหน้าหวานซีดราวกับกระดาษ  หยาดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าด้วยความอ่อนล้า  มือบางวางข้างตัวไว้ไม่ไหวติง  ดวงตากลมโตเบิกกว้าง  ทุกๆคนต่างเงียบสนิท  มีเพียงเสียงหอบหายใจของเรียวสุเกะที่ดังแว่วมา

    ยามะจัง...  ยูโตะปรี่เข้ามาหา  เมื่อเห็นอาการของคนตรงหน้าเขาก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา  วันนี้ขอให้ยามะจังพักก่อนได้ไม๊ครับ  เขาหันไปถามผู้จัดการกับโปรดิวเซอร์ซึ่งยืนอยู่ด้วยกันด้วยสายตาอ้อนวอน

    เมื่อได้รับการอนุญาตแล้วเขาจึงค่อยๆประคองร่างบางเดินไปยังห้องพัก  โดยที่เมมเบอร์ที่เหลือฝากให้เขาดูแลเรียวสุเกะแทน

    ยามะจังนอนก่อนนะ  ยูโตะพาร่างอันไร้เรี่ยวแรงในอ้อมแขนลงบนโซฟา  ก่อนที่จะนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้ากลม  ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้นี่ล่ะ

    ยูโตะ...  เรียวสุเกะเรียกร่างโปร่งซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ  ขอโทษนะ

    ขอโทษทำไม  ยูโตะต่างหากที่ต้องขอโทษ  ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นงานแต่ก็ยังพยายามห้าม  ยูโตะเองก็รู้สึกผิดเช่นเดียวกัน  รู้ทั้งรู้ว่าเรียวสุเกะพยายามมามากมายเพื่อแฟนๆ  แต่ก็ยังห้าม  ฉันเป็นห่วงยามะจังจริงๆนะ

    เรียวสุเกะนั่งก้มหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร  ยูโตะจึงก้มลงไปมองพบว่าร่างเล็กกำลังอมยิ้มอยู่

    เอ๊ะ...

    ขอบคุณนะ  เรียวสุเกะพูดออดมาเบาๆอย่างเขินอาย  ขอบคุณที่เป็นห่วงฉัน...จริงนะ  เรียวสุเกะพูดย้ำออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของยูโตะ

    ก็ไม่ได้บอกซักหน่อยนี่นาว่าจะไม่เชื่อ

    เหรอ-  แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ  เรียวสุเกะถามกลับแถมด้วยทำแก้มพองลมซึ่งเป็นอันรู้ว่าเจ้าตัวกำลังจะโกรธ  ไม่รู้แล้ว  ฉันจะนอนแล้ว

    ยูโตะเห็นคนตรงหน้าแกล้งทำเป็นงอนนอนหันหลังให้  จึงโน้มตัวลงไปหอมแก้มนิ่ม

    ทำแบบนี้ทำไม  เรียวสุเกะลุกขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  จนยูโตะรู้สึกผิดขึ้นมา

    ขะ..ขอโทษนะ

    แบบนี้ต้องเอาคืน ทันทีที่เรียวสุเกะพูดจบก็ดึงคอเสื้อของร่างสูงให้โน้มตัวลงมา  ก่อนจะหอมแก้มทั้งสองข้างของยูโตะแล้วจุ๊บปากเบาๆอีกหนึ่งที

    ยูโตะได้แต่ยิ่งอึ้งกับสิ่งที่เรียวสุเกะทำลงไป  จนไม่ทันได้สังเกตว่าคนตรงหน้านอนคลุมโปงไปแล้วเรียบร้อย

    นอนจริงๆแล้วนะ บ๊ายบาย  เสียงอู้อี้ดังลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม  ยูโตะกระโจนไปเลิกผ้าห่มออก

    แฟนใครก็ไม่รู้น่ารักเหลือเกิน--

    ร้ายจริงๆเจ้าคนดื้อ  มาให้ฉันเอาคืนซะดีๆ

     
    ~fin~  <<จบดีกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×