คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Keidai]--??? :: 06/22th--
คุณเชื่อในความบังเอิญหรือเปล่า
เด็กสาวสองสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นเกือบจะได้เป็นดาวของคณะนิเทศฯ ยืนจับกลุ่มคุยกันส่งหัวเราะคิกคัก พลางเหลือบมองไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนั่งจมกองเอกสารและหนังสือ ทำให้บรรดาชายหนุ่มบางคนที่หวังจะพิชิตใจสาวน้อยคนนั้นถึงกับอิจฉาเด็กหนุ่มที่นั่งหัวฟูอยู่
ถ้าใครชอบที่จะเข้าห้องสมุดของมหาวิทยาลัยบ่อยๆมักจะพบกับเด็กหนุ่มผมยักศกสีดำกำลังเคร่งเครียดอยู่ที่โต๊ะในห้องสมุดมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ประจำของเขา และมีกองหนังสือตั้งสูงเกือบจะบังเด็กหนุ่มไว้มิด บางทีก็ชอบที่จะเท้าคางใบหน้าดูเหม่อลอยพิกลนั้นทำให้สาวๆชอบที่จะมาแอบเหล่มอง (อันที่จริงนึกถึงการบ้านมากมายที่อาจารย์ได้มอบไว้)
เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ
‘ ไม่เสร็จอย่าหวังที่จะได้คะแนน ’
เสียงของอาจารย์ที่ได้ชื่อว่าทั้งโหดและหินดังติดหู จนทำให้เขาท้อใจอยู่บ่อยๆว่าที่เลือกเข้ามาเรียนคณะนี้มันถูกแล้วหรือ
ใบหน้าหล่อติดสวยน้อยๆแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนที่จะปิดหนังสือและเก็บข้าวของเพื่อจะกลับบ้าน ทว่าเด็กสาวคนหนึ่งสูงพอๆกับเขาดูเหมือนจะพึ่งเดินจากการพูดคุยกันเมื่อครู่ ยืนประจันหน้ากับเขา เพื่อนของเจ้าหล่อนทั้งสองคนก็แอบยืนดูอยู่ห่างๆ ดูเหมือนจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบไม่ให้เขามองเห็น
ริมฝีปากของเด็กหนุ่มกระตุกขึ้นยิ้มอย่างน่าขัน เมื่ออีกฝ่ายเริ่มแนะนำตัว
“ ฉันชื่อ อายาเสะ ริกะ คณะนิเทศฯ อิโนคุงจะคบกับฉันได้หรือเปล่า ” เธอถามออกมาอย่างมั่นใจ
นักศึกษาชายทั้งหลายที่หวังหมายปองริกะต่างพากันส่งสายตาอาฆาตมาให้เคย์ ที่ตอนนี้แสดงสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยินคำพูดของหล่อน
เคย์มักพบกับเด็กสาวหลายคนที่มักจะมาสารภาพรักกับเขาในห้องสมุดนี้ ทั้งสาวเรียบร้อย สาวขี้อาย สาวจอมแก่น หรือแม้กระทั้งเด็กสาวผู้เพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่ทว่าทุกๆรายก็มักจะถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเดียวกันกลับไปเสมอ
แม้แต่เด็กคนนี้ก็ตาม
“ ขอโทษนะ ฉันยังไม่ต้องการ ”
บางคนก็ร้องไห้วิ่งหนีไป บางคนก็ตะคอกกลับ ทว่าเขาก็ไม่เคยคิดที่จะใส่ใจ แต่ที่ทำให้เขารังเกียจที่สุดคือการทำเป็นออดอ้อนและยื้อเขาไว้
...มารยาผู้หญิง...
เด็กสาวยืนนิ่งราวกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ แต่เคย์ก็ไม่สนใจ ถึงแม้เขาจะดูเย็นชาแต่หลายๆคนก็ชอบเขา เพราะความรับผิดชอบรวมถึงความตั้งใจ ถึงอย่างไรก็ตามเคย์ก็ยังคงมีแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่น เนื่องจากส่วนใหญ่คนที่รู้จักเขาจริงๆมักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเคย์เป็นคนใจดี
ริกะยังคงยืนนิ่งขวางไม่ให้ไปไหน จนเคย์เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมา
“ อายาเสะซัง... กรุณาอย่าขวางจะได้หรือเปล่าครับ ” เคย์กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ พร้อมส่งรอยยิ้มที่ดูเผินๆจะอบอุ่นใจดี แต่แฝงไปด้วยความรังเกียจ จากนั้นจึงรีบหิ้วกระเป๋าและเดินอ้อมโต๊ะออกไป
เขาอยากอยู่เงียบๆก็เท่านั้นเอง แค่การบ้านที่ได้มาก็เครียดพอแล้ว นี่มีปัญหาหัวใจพ่วงมาด้วย
...เหนื่อยเหลือเกิน...
เสียงฝีเท้าของริกะก้าวเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว
“ ทำไมล่ะ ”
เคย์ยืนหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับไปเจอสาวน้อยที่ยืนน้ำตาอาบแก้มอยู่ตรงหน้า
เขารู้ว่ามันออกจะใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับการกระทำเช่นนี้ แต่อีกฝ่ายเลือกที่จะทำร้ายตัวเองเอง
“ ฉันบอกเธอไปแล้วนี่ ”
ริกะร้องไห้โฮและวิ่งออกไป
ตอนนี้แป็นเวลาเย็นพอสมควร สถานีรถไฟจึงมีคนเยอะแยะมากมายทำให้เกิดการเบียดเสียดอย่าง(ไม่)เล็กน้อยเกิดขึ้นในระหว่างการขึ้นรถไฟ
เคย์หนีบกระเป๋าไว้ข้างหนึ่งและถือพิมพ์เขียวงานชิ้นสำคัญที่ใกล้จะถืงกำหนดส่งไว้อย่างดี เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาแล้ว บรรดาพนักงานบริษัทที่พึ่งกลับมาจากงานก็พากันกรูลงมา เขาซึ่งถูกชายคนหนึ่งกระแทกเพื่อเบียดที่จะขึ้นรถไฟนั้นจนทำให้พิมพ์เขียวหลุดออกจากมือ เขาอยากจะตะโกนต่อว่าแต่เนื่องจากจำนวนคนที่มากมายเช่นนั้นทำให้ชายคนนั้นหายไปจากสายตาบนรถไฟ พร้อมกับที่เคย์เองก็ถูกดันไปบนรถไฟเช่นกัน
สัญญาณเตือนดังขึ้น และประตูรถไฟก็ปิดลง
เขาพยายามที่จะมองออกไปนอกกระจกเพื่อตามหางานชิ้นนั้น แต่รถไฟก็วิ่งจากชานชาลาไปอย่างรวดเร็ว
...แย่ที่สุดเลย...
เด็กหนุ่มขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด ทว่าไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งเหม่อลอยอีกครั้ง
เคย์นั่งซึมกระทืออยู่นานจนไม่รู้สึกตัวว่ามีคนกำลังสะกิดเขาอยู่
“ ขอโทษนะครับ ”
เด็กชายที่ดูเหมือนจะอยู่มัธยมต้นแต่ชุดนักเรียนกลับบ่งบอกถึงความเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายอย่างชัดเจนกำลังเอียงคอเรียกอยู่ ในมือข้างหนึ่งถือกระเป๋านักเรียน
อีกข้างถือม้วนกระดาษรูปร่างคุ้นตาอยู่จนเคย์จ้องมองอย่างตกตะลึงและความโล่งใจ
อีกฝ่ายสังเกตได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาจนลอบยิ้มด้วยความดีใจ
“ ของคุณสินะ... ”
เขาเอื้อมมือไปรับของชิ้นสำคัญ “ อืม.. เอ่อ...ขอบใจนะ ” เมื่อเด็กชายได้รับคำขอบคุณจึงยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่จนเห็นแก้มกลมๆ เคย์ยิ้มด้วยความเอ็นดู แต่รอยยิ้มก็เริ่มจางลงไปเมื่อพบว่ามีคนแอบเปิดม้วนเอกสารชิ้นสำคัญ “ นายแอบเปิดหรือเปล่า ” เขาถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด งานชิ้นนี้เป็นงานชิ้นแรก ซึ่งมันแย่มากจนเขาไม่อยากให้ใครเห็น
“ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ คือ มันเปิดอยู่แล้วผมเลย... ” เด็กชายเบ้หน้าเหมือนกับจะร้องไห้
เคย์เห็นเข้าจึงรีบปลอบ
“ ไม่เป็นไรหรอก งานมันแย่เลยไม่อยากให้ใครเห็นก็เท่านั้นเอง ขอโทษนะที่พูดแบบนั้น ”
“ ผมว่าสุดยอดมากเลยๆล่ะครับ ” ร่างเล็กกว่าพูดแทรกขึ้นมา เคย์จึงพยักหน้าให้อย่างงงๆ “ คุณเท่มากๆเลยล่ะ คณะนี้เรียกว่าอะไรเหรอ ”
“ หา... เอ่อ...สถาปัตยกรรม พวกออกแบบตึกรูปทรงต่างๆที่นายเห็นเวลาเดินบนถนนนั่นแหละ ว่าแต่ฉันไม่เท่พอให้นายชมหรอกนะ ” เคย์พูดก่อนหัวเราะแก้เขิน
ทั้งสองต่างก็แลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับการออกแบบ จนสถานีแล้วสถานีเล่า
เด็กชายจึงลุกขึ้น พร้อมกับโค้งบอกลา
“ ขอบคุณสำหรับคำปรึกษานะครับ ”
เคย์รู้สึกเสียดายที่พบคนคุยถูกคอ
อีกฝ่ายหันหลังให้และกำลังเดินลงจากรถไฟ
เขาตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ จากรอยยิ้มของเด็กคนนั้น
“ ฉันชื่อ อิโน เคย์ นายมีอะไรปรึกษาฉันได้นะ ”
เด็กชายยืนอย่างงงๆแล้วส่งยิ้มหวานให้ ปากพะงาบๆทำท่าจะบอกชื่อแต่ไร้เสียงออกมา ก่อนที่ประตูรถไฟจะปิดลงอย่างช้าๆ ทว่าเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วสำหรับเคย์ที่หงุดหงิดตัวเอง(อีกครั้ง)ที่ไม่สามารถฟังชื่อของเด็กคนนั้นได้
“ ได... ไดอะไรนะ ไดจังก็แล้วกัน ”
เคย์เดินยิ้มร่าพร้อมกับกอดพิมพ์เขียวชิ้นสำคัญ และคำชื่นชมที่เขาจะเก็บในใจเพียงคนเดียว
รวมถึงรอยยิ้มและแก้มกลมๆบนใบหน้านั้น
...น่ารักจังเลยนะ...
หลังจากวันนั้น เคย์ก็พยายามกลับบ้านให้ตรงกับช่วงเวลาเลิกเรียนของเด็กมัธยมปลาย เมื่อถึงสถานีแล้วก็คอยแต่มองหาเด็กคนนั้นตลอดเวลา แม้กระทั่งปกติแล้วเคย์มักจะชอบนั่งหลับบนรถไฟ แต่เขากลับสอดส่องรอบข้างราวกับจะได้ยินเสียงเรียกของนักเรียนมัธยมปลายคนนั้น ไดจัง...
เขาก็ไม่ได้พบอีกเลย
“ นายมองหาใครน่ะ ” เสียงเพื่อนรักถามขึ้นมาอย่างสงสัยเมื่อเห็นอาการนี้มาหลายต่อหลายครั้งเวลาขึ้นรถไฟ “ เหมือนโรคจิตเลยนะเนี่ยเคย์ ”
เพื่อนชายยิ้มเยาะเย้ยอวดฟันเขี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์
“ หุบปากไปเลย หรือจะให้ฉันเอาพิมพ์เขียวยัดเข้าปากนาย ”
“ ...แล้วนายจะเอางานที่ไหนส่ง หา! ”
เคย์รู้สึกโมโหกับท่าทางกวนๆของเพื่อนของตนที่เอาไม้บาตองมาแหย่ผมของเขา แทนที่จะเอาไว้โบกและยังคำพูดที่ชวนหงุดหงิด กระแนะกระแหน
ไม่เป็นแบบเขาบ้างให้รู้ไป
คนผมสีน้ำตาลอ่อนรู้สึกถึงรังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาโดยรอบ จึงค่อยเก็บไม้บาตองเข้ากล่อง (ไม่อย่างนั้นแล้วเคย์อาจจะเอาไปเข้ากับคู่ตะเกียบที่บ้านของเขาก็ได้) ก่อนที่จะหยิบโน้ตเพลงขึ้นมา
เขาเหลือบมองเพื่อนชายของตนก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
ว่าที่สถาปนิกหยิบหูฟังคู่โปรดออกมาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องฟังเสียงเพื่อนชายที่มักจะชอบเหน็บแนม ในใจกำลังพาลนึกถึงใบหน้าหวาน รอยยิ้มที่มากับแก้มกลมนั่นช่างน่าเอ็นดู จนแอบยิ้มน้อยๆออกมา
คนที่มัวแต่ฟังเพลงอยู่จนไม่ทันสังเกตเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังคุยกับใครอยู่
กระทั่งถูกดึงหูฟังออกจากหูจึงได้พบว่าคนที่กำลังมองหามาหลายวันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วนี่เอง
...โลกมันกลม ขัดกับทฤษฏีเกินไป...
“ นี่เพื่อนฉันเอง อาริโอกะ ไดกิ ไดจังนี่เพื่อนฉันที่มหาลัยนะ แต่คนละคณะกัน ”
เคย์พึ่งค้นพบว่าตนเองนั้นหลงใหลรอยยิ้มนั้นมากเพีนงใด กว่าจะรู้สึกตัวก็ได้ยินเสียงไดกิพูด
“ ฮิคารุคุง ผมรู้จักอิโนคุงแล้วล่ะ ว่าแต่ผมเป็นรุ่นน้องไม่ใช่เหรอ ” ไดกิส่งยิ้มหวานให้เคย์ ก่อนที่จะกระแนะกระแหนฮิคารุ
อีกฝ่ายที่พึ่งรู้ว่าทั้งสองคนเคยพบมาก่อนหน้านี้แล้วจึงคาดคั้นเอาคำตอบจากเคย์
“ ฉันทำพิมพ์เขียวหล่น ไดจังเก็บได้เลยเอามาคืนไงเล่า! ฮิคารุนายอย่าหัวเราะน่า... ” ฮิคารุยิ้มแบบมีเล่ห์นัย เมื่อรถไฟจอดที่ชานชาลาจึงรีบโบกมือแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
“ ฮิคารุคุง! ” เสียงไดกิเรียกอีกฝ่ายที่จู่ๆก็ได้หายตัวไป ก่อนที่จะเบ้หน้าด้วยความโมโห
เคย์ที่เห็นสีหน้านั้นจึงคิดอยากจะแกล้งขึ้นมา
...หน้าแบบนี้เนี่ย อยากเห็นแค่คนเดียวจัง...
“ หน้าแบบนี้ไม่อยากกลับบ้านกับฉันเหรอ ”
ไดกิส่ายหน้าปฏิเสธคำตัดพ้อของร่างสูงกว่า แถมก้มหน้างุดไม่ยอมมองหน้าเขา
“ เอ้อ...นึกว่าอยากจะคุยเรื่องเรียนต่อนะเนี่ย “
เมื่ออีกฝ่ายไม่ส่งเสียงหรือแสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาจึงแกล้งพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่าฮิคารุมีรุ่นน้องกับเขาด้วย เห็นปกติไม่ค่อยจะทำตัวให้น่าเคารพเท่าไรเลย ทำตัวเรื่อยเปื่อยไปวันๆ แต่ดันสอบได้ดีกว่าฉันที่นั่งอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืน ” เคย์เริ่มพูดต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาฟัง “ แต่ก็เทียบกันไม่ได้หรอกนะ ฉันเรียนสถาปัตย์แต่หมอนั่นเรียนดนตรี ว่าแต่ไดจังใจร้ายจังเลยนะให้ฉันพูดคนเดียวเนี่ย หืม... ”
ไดกิเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆ
“ ผมชอบฟังอิโนคุงพูดนี่นา ดูมีความสุขจังเลย... ”
เคย์อมยิ้มและยีผมคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นเกือบทุกวันเคย์ก็มักจะชอบมาคุยกับไดกิบนรถไฟเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เที่ยว สารพัดเรื่องที่จะขุดคุ้ยมาคุยกันได้
ในบางวันเลิกเร็ว เคย์ก็ชอบจะมายืนรอไดกิเพื่อกลับด้วยกัน
หรือไม่ว่าเขาจะเลิกเย็นแค่ไหนจนอาจจะคิดว่าไม่ได้เจอคนที่อยากพบ ก็กลับบังเอิญเจอเสมอ
จนทำให้หอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายก็เฝ้ารอเขาอยู่
...นี่มันเป็นความบังเอิญจริงๆนะเหรอ...
ความคิดเห็น