คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Nakayama]--Gray memory :: 08/10th-N.Y.--
Gray Memory 08/10th
เคยหวังไว้ว่าสักวันนึงจะสามารถตัดใจได้
เคยหวังไว้ว่าสักวันอีกคนจะพบคนที่ดีกว่า
เคยหวังว่าจะสักวันจะได้เห็นรอยยิ้มแสนหวานอีกครั้ง
เคยหวังไว้ว่าสักวันอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ฉันมันเห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม
ยามะจัง...
หลังจากวันเกิดของเรียวสุเกะ ยูโตะก็แทบจะไม่ได้เข้าใกล้หรือพูดกับอีกฝ่ายเลย แม้แต่เสียงกระซิบก็ไม่ได้ยิน ปลายผมสักเส้นก็ไม่ได้สัมผัส เขารู้สึกโหยหาเสียเหลือเกิน
“ ทาคาคิคุง...มาเร็วจังเลย ”
“ ยูริจะได้ไม่รอนานไงครับ ”
เสียงของยูริและว่าที่แฟน พร้อมกับการปฏิบัติอย่างหวานชื่นของทั้งสองทั้งคนต่อหน้าร่างสูง ทำให้ยูโตะนึกถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆของเขาและเรียวสุเกะ
จนมาถึงวันๆหนึ่งที่ทะเลาะกันอย่างหนัก
‘ ยูโตะไม่รู้ตัวหรือว่าตัวเองชอบจิเนนน่ะ ‘ เสียงตวาดของเรียวสุเกะยังคงดังก้องอยู่ในหู ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ทั้งๆที่เห็นว่ายูริก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่ในใจของเขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มีความดีใจและตื้นตันในความรักของคนทั้งสอง แล้วเขาล่ะ...กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ความรู้สึกที่ไม่มั่นคงนี้ มันย้อนกลับมาทำร้ายเขาและโดยเฉพาะเรียวสุเกะ
ทุกๆวันที่ต้องเผชิญหน้ากับเรียวสุเกะ เขาทั้งรู้สึกสมเพชตัวเองและสงสารอีกฝ่าย รอยแดงๆที่ตามักจะปรากฎให้เห็นอยู่เสมอหลังจากวันนั้นมา ดวงตาหวานสั่นคลอเมื่อบังเอิญมาสบตากัน ความรู้สึกผิดมันจุกอกขึ้นมาตลอดเวลา อยากจะเข้าไปปรับความเข้าใจ ก็มักจะมีองครักษ์มาคอยกีดกันไว้
“ แค่นี้ยามะจังก็ร้องไห้จนน้ำตาจะแห้งไปหมดแล้ว ” เคย์โตะเอ่ยลอยๆขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้ากัน ยูโตะเองก็พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย “ นายก็รู้ทั้งรู้ว่ายามะจังรักนายมากแค่ไหน แต่นายก็ยังจะทำร้ายความรู้สึกของยามะจัง ” คำพูดที่แทงใจดำยูโตะไปเต็ม ถึงกับทำให้ยูโตะหน้าเสีย
“ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ จะให้ฉันเดินไปกระชากตัวมาคุยแล้วบอกว่า ยูโตะผิดไปแล้วขอโทษนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม... แบบนั้นน่ะเหรอ ” ยูโตะพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ ขืนนายทำแบบนั้นฉันซัดนายตายแน่ ” เคย์โตะกัดฟันพูดพลางกำหมัดแน่น
ยูโตะเองก็รู้ดีว่าเคย์โตะก็รักเรียวสุเกะไม่แพ้เขาเช่นกัน แต่คนที่เรียวสุเกะเลือกกลับเป็นเขา เคย์โตะจึงฝ่ายเฝ้ารอดูห่างๆ รักแต่ได้แค่ปกป้อง หากใช้คำๆนี้กับเคย์โตะก็อาจจะไม่ผิดไปมากนักเท่าไร
เขาอดคิดไม่ได้ว่าฝ่ายเรียวสุเกะเองก็กำลังหลบหน้าเขาอยู่เช่นกัน
เช้าวันถัดมาร่างสูงมายืนรออดีตแฟนที่ประจำ เพราะคิดว่าอยากจะทำตัวให้เป็นเหมือนกับปกติ แต่ทว่าเขากลับคิดนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าจะคิดเช่นไร ยืนไปไม่นานก็พบรุ่นพี่ที่เรียวสุเกะรู้จักดีเดินมา เมื่อสบตากันอีกฝ่ายก็ทำตัวมีพิรุธ ลุกลี้ลุกลนราวกับพยายามปิดบังอะไรบางอย่างไว้ข้าง เขาจึงรีบทักทาย
“ ไดจัง!!! หวัดดีครับ ” ยูโตะทักขึ้นมาอย่างเสียงดัง จนคนที่ยืนอยู่ห่างๆยังสะดุ้ง
ไดกิทำท่าเหมือนกับพูดกับใครบางคนอยู่ ก่อนที่จะหันมายิ้มแหยๆให้
“ อะ..อื้อ หวัดดี อากาศดีนะวันนี้ ” ร่างโปร่งขวมดคิ้วเล็กน้อย เพราะคำทักทายแปลกๆของรุ่นพี่
ยูโตะตัดสินวิ่งจำอ้าวเข้าไปหา ทางด้านไดกิเองก็ตกใจจนทำตัวไม่ถูก
เสี้ยววินาทีนั้นยูโตะก็พุ่งไปยังเป้าหมายโดยอ้อมไปยังด้านหลังของไดกิ พบเรียวสุเกะกำลังยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าของเขา ดวงตาแดงก่ำน่าจะผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน ตัดกับใบหน้ากลมหวานที่ซีดเซียวราวกับไม่มีชีวิตชีวา ยูโตะอยากจะดึงตัวเล็กกว่าเข้ามากอด อยากจะปลอบ
ในตอนนั้นความทรงจำที่เคยมีให้แก่กันหลั่งไหลเข้ามาภายในหัว
รอยยิ้มแสนหวาน
หยดน้ำตาที่กำลังร่วงหล่น
ดวงตากลมช่างออดอ้อน
เสียงสะอื้นเบาๆที่ดังมาจากที่ไกลแสนไกล
เขาไม่สามารถที่จะสัมผัสคนตรงหน้าได้อย่างเดิมอีกต่อไปแล้ว
ไดกิคว้ามือของยูโตะที่กำลังจะเอื้อมมือไปสัมผัสรุ่นน้องของตนพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ ยูโตะ-- ” ไดกิเอ่ยชื่อเขาออกมาเพียงแค่นั้น พร้อมกับสายตาที่ดูหม่นๆของเรียวสุเกะ ทำให้ยูโตะตัดสินใจเป็นฝ่ายที่เดินออกไปก่อน
เรียวสุเกะซุกใบหน้าข้างหลังไดกิก่อนจะปล่อยโฮออกมา
ยูโตะรีบวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต
ฉัน...ขอโทษ...
แล้วหลายวันถัดจากนั้นมา เขาพยายามจะเข้าไปคุยกับเรียวสุเกะ กลับโดนหลบหน้า ซ้ำยังได้ยินสิ่งที่เคย์โตะกำลังถามอยู่จึงคิดอยากจะเข้าไปร่วมวงด้วย จนเกือบลืมไปว่าสถานะของเขานั้นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว “ แล้วยามะจังจะทำยังไงต่อไป ” เสียงทุ้มๆนั้นทำให้สีหน้าของคนที่นั่งข้างๆเจื่อนลงไปทันที “ เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ สุดท้ายคนที่จะเจ็บคือนายนะ ”
เรียวสุเกะทำหน้าบอกไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกดังราวเสียงกระซิบ
“ ไม่รู้เหมือนกัน ฉันควรจะทำยังไง จะควรรู้สึกอะไรอยู่อีกหรือเปล่า ” ร่างเล็กตัวสั่นเทาด้วยแรงสะอื้น “ ตอนนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร ฉันก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว ” ร่างเล็กโผเข้าซบไหล่หนาของเคย์โตะก่อนจะร้องไห้อยู่อีกพักใหญ่
ยูโตะที่เห็นภาพเช่นนั้นต่อหน้าต่อตา ก็รู้สึกว่าการกระทำของเขานั้นทำให้คนๆนึงต้องเจ็บปวดแสนสาหัส ตัวเขาเองยังเจ็บไม่ถึงครึ่งของเรียวสุเกะเลยด้วยซ้ำ
แต่อีกใจเขาก็ยังคงหึงหวงในตัวของเรียวสุเกะอยู่เช่นกัน มากอดเคย์โตะแบบนี้เป็นครั้งที่สองเขาเองก็รู้สึกเคืองๆขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
แสดงว่าเขายังคงรัก ยังคงหวงห่วงคนๆนี้อยู่ใช่ไหม ถึงไม่อยากจะปล่อยไป
ขายาวตัดสินใจก้าวอย่างรวดเร็วไปหาเรียวสุเกะและเคย์โตะที่อีกฝั่ง ก่อนที่จะเลื่อนประตูเปิดเสียงดังจนทั้งคู่ผละออกจากกัน สายตาของทั้งสองคนดูจะยังไม่เข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้
เรียวสุเกะที่แสดงสีหน้าอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
เคย์โตะที่ได้แต่กำมือเพื่อนชายเอาไว้แน่น
ยูโตะที่ยืนหน้าถมึงราวกับเก็บความไม่พอใจนี้มานานแสนนาน
“ อะไรของนายยูโตะ ” เคย์โตะที่รู้สึกตัวก่อนใครลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเพื่อนรักของตน โดยที่ไม่ยอมปล่อยมือของเรียวสุเกะ “ จู่ๆเดินหน้าบอกบุญไม่รับแบบนี้ฉันกับยามะจังก็ตกใจหมดสิ ”
ยูโตะเองก็ไม่ได้ที่จะปั้นสีหน้าเช่นนี้เหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่รู้จะแสดงสีหน้าออกมาเช่นไร
ให้ยิ้มทั้งๆที่ภายในใจโกรธ
ให้หน้าบึ้งทั้งๆที่ในใจยังไม่แน่ใจ
ให้งุนงงทั้งๆที่คนที่ตัวเองยังรักอยู่กอดกับเพื่อนตัวเอง
เขาควรจะยังมีความรู้สึกอยู่ใช่ไหม
“ ช่วยปล่อยมือเรียวสุเกะจะได้ไหม ” สรรพนามที่เปลี่ยนไปอีกครั้งทำให้เรียวสุเกะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่จะบีบมือเคย์โตะกลับไป ไหล่บางสั่นสะท้านด้วยความกลัวจับใจ
ยูโตะเห็นอาการเช่นนั้นแล้วหัวใจเริ่มกระตุกขึ้นมา หากเขาอยากจะกลับไปเป็นเหมือน ทว่าคนตรงหน้าล่ะ...ยังจะให้อภัยเขาอยู่หรือเปล่า
“ แล้วถ้าฉันไม่ปล่อยละ นายจะทำยังไง ”
ยูโตะผลักเคย์โตะออกไป แล้วแกะมือของทั้งคู่ที่จับกันแน่น ฝ่ายเรียวสุเกะที่เห็นว่าท่าไม่ดีเพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เตรียมตัวกำหมัดไว้แน่น ก็เป็นฝ่ายปล่อยมือเคย์โตะออกมาเอง
“ เคย์โตะ...ขอบคุณนะ ” เรียวสุเกะกล่าวๆสั้น ซึ่งเคย์โตะก็เข้าใจดี เขาเองก็ไม่คิดอยากจะยุ่งกับความรักระหว่างสองคนนี้สักเท่าไร ได้เพียงแค่แอบมองอยู่ห่างๆ “ ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ” ปากก็บอกปฏิเสธ แต่หัวใจแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ยูโตะรู้ดีเสมอถึงนิสัยของคนๆนี้ ที่มักจะแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเอง จนทำให้เจ้าตัวร้องไห้มานับครั้งไม่ได้
ร่างหนาได้แต่มองหน้าทั้งสอง ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
ตอนนี้เหลือเพียงสองคนกับอีกหนึ่งความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะสามารถมาบรรจบกันได้หรือไม่ ต่างฝ่ายก็ยืนรอดูสถานการณ์ว่าควรจะกระทำอย่างไรต่อไปดี จนเรียวสุเกะทำท่าจะร้องไห้ออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“ ไม่ร้องไห้แล้วนะเรียวสุเกะ ” ยูโตะพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่มักจะปลอบเรียวสุเกะเวลาเศร้าใจ แต่เขาจะทำได้เหมือนเดิมหรือเปล่า จะพูดปลอบใจคนที่กำลังร้องไห้เพราะเขาอยู่ได้หรือไม่
เรียวสุเกะไม่พูดอะไรแต่ยังคงยืนน้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบ แล้วจ้องมองร่างสูงกว่าราวกับมีอะไรจะพูดออกมา ทว่ายูโตะกลับเป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา
“ ตั้งแต่วันนั้น... ” ยูโตะเว้นวรรคเพื่อเรียบเรียงความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยายออกมา “ ...ตลอดเวลาที่ไม่มีนายเคียงข้าง ฉันรู้สึกเจ็บปวด ตรงนี้อกข้างซ้าย มันคอยจะพร่ำเพ้อเรียกหานายตลอดเวลา ก่อนหน้านั้นที่นายบอกว่าฉันชอบยูริ มันไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว คนๆนั้นเป็นแค่เพื่อน ความรู้สึกที่มีในตอนก็ก็คือเป็นห่วงในฐานะน้องชายคนนึงเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้นจริงๆ ”
ร่างเล็กยืนนิ่งฟังด้วยความตั้งใจ ต่างกับยูโตะซึ่งตอนนี้กำลังตื่นเต้นเพราะเรียบเรียงคำพูดในหัวไม่ทัน
อยากจะปรับความเข้าใจ
อยากจะพูดออกมาให้หมด
อยากจะรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริง
และอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“ เพราะอะไรฉันถึงรู้... เพราะไม่นานหลังจากวันนั้น ฉันก็เห็นยูริเดินไปกับผู้ชายคนหนึ่ง อาการในตอนนั้นทำให้ฉันได้รู้ว่าทั้งสองคนเป็นมากกว่าเพื่อน ” ยูโตะถอนหายใจออกมาเบาๆ “ ถ้าฉันรักเขาจริง ในตอนนั้นฉันคงไปกระชากตัวยูริออกมา แต่ว่าฉันไม่ได้ทำ แม้แต่คิดก็ไม่เคย คิดเพียงแต่ว่าน้องชายของเราทั้งสองคนคงจะมีความสุขกับคนที่รัก ”
เรียวสุเกะเหลือบมองใบหน้าเรียวเมื่อได้ยินคำว่า ‘เราทั้งสองคน’
“ ไม่เหมือนกับที่ฉันทำในวันนี้ พอเห็นนายอยู่กับคนอื่นทีไร ฉันมักจะหงุดหงิดจนควบคุมตัวเองไม่ได้เสมอเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรียวสุเกะ ” ยูโตะหน้าขึ้นสีจางๆ แต่ยังคงพูดต่อไป “ วันนั้นที่นายแอบร้องไห้อยู่หลังไดจัง ฉันเองก็เจ็บปวดเหมือนกันที่นายร้องไห้ออกมาเพราะฉัน ฉันอยากจะขอโทษนายตั้งแต่วินาทีนั้น แต่ทำได้แค่วิ่งหนีไปจากความจริงตรงหน้า ”
คนตรงหน้ายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ร่างโปร่งรู้สึกดีขึ้นที่คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มออกมา
“ ขอโทษจริงๆในวันนั้นที่ไม่สามารถจะปกป้องความรู้สึกที่มีต่อนายเอาไว้ได้ มัวแต่ลังเล จนในที่สุดก็เป็นตัวฉันเองที่ทำให้ต้องเสียนายไป นายจะยกโทษให้ยูโตะคนนี้ได้ไหม ”
ยูโตะพูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ทั้งความรู้สึกผิดในใจ ความรู้สึกในระหว่างคนทั้งสองคนที่ไม่แน่นอน
หากเรียวสุเกะไม่ให้อภัยเขา เขาก็พร้อมที่จะปล่อยมือคนๆนี้ไป
“ ยูโตะบ้าที่สุดเลย ” เรียวสุเกะว่าเบาๆ “ ยูโตะไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของฉันเลย จู่ๆพูดแบบนั้นออกมา ทั้งๆที่ ฮึก เป็นวันสำคัญของฉันแท้ๆ ”
ยูโตะได้แต่กุมมือนิ่มเอาไว้ เพื่อบอกว่าความผิดนั้นมันยังคงฝังลึกในใจเขาเช่นกัน
จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมนะ
“ แต่ฉันไม่เคยโกรธนายเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉันเองก็พูดสิ่งที่ทำร้ายนายไปเหมือนกัน ” คนตัวเล็กหยุดพูดเพื่อเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลออกมาไม่หยุด ยูโตะกลั้นหายใจไปชั่วครู่หนึ่ง “ ไม่ใช่ยูโตะคนเดียวหรอกนะที่ในใจจะคอยพร่ำเพ้อเรียกหา แต่ฉันเองก็เหมือนกันอยากจะกลับไปกอด อยากพูดคุยเหมือนเดิม แต่มันก็ทำไม่ได้ กลัวนายจะรังเกียจที่เข้าใกล้ฉันคนนี้ กลัวนายจะไล่ฉันออกไป ”
ร่างโปร่งดึงตัวเรียวสุเกะเข้ามากอดให้สมกับที่ปราถนา
ฉันยังไม่ได้บอกนายเลยอีกคำๆนึง...
“ เพราะฉันรักยูโตะ รักมากเกินที่จะเก็บไว้เพียงคนเดียว ในเมื่อนายต้องการจะไปฉันจึงปล่อยนายไป ” สิ่งที่เรียวสุเกะพูดออกมานั้นทำให้ยูโตะร้องไห้ออกมา
ความรัก...สำหรับเขานั้นไม่มากเกินไปหน่อยหรือ
“ แต่นายต้องการฉันกลับคืนไป ก็ต้องคิดค่าตอบแทนหน่อยนะ ” เรียวสุเกพูดติดตลก
ไม่จำเป็นแม้แต่จะต้องคิดคำนวณ ค่าตอบแทนมันอยู่ที่ปากของเขาแล้วเพียงแต่เขาจะสามารถพูดมันออกมาได้หรือเปล่าก็เท่านั้นเอง
“ รักนะเรียวสุเกะ รักมากๆ รักที่สุด ” คำพูดของยูโตะพรั่งพรูออกมาจากใจ คำพูดที่อยากจะบอกมานานแล้ว แต่ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ ความผิดที่มีชื่อว่าลังเล เขาจะฉีกมันทิ้งซะ “ จะรักคนเดียวตลอดไป ”
ยูโตะก้มลงกดลงบนริมฝีปากนิ่มสีหวานด้วยความโหยหา สัมผัสที่คุ้นเคย รสชาติที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวคนที่อยู่ใกล้ๆนี้เลย
แต่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มันทำให้เขาได้เรียนรู้อย่างหนึ่ง
ความรู้สึกของคนเรา แม้จะมั่นคงสักเพียงใด หากหวั่นไหวเพียงเล็กน้อย
ก็จะถูดพังทลายโดยง่ายดายด้วยมือของตัวเอง
“ ยูโตะ-- สุขสันต์วันเกิดนะ ” เรียวสุเกะกระซิบออกมาเบาๆ แล้วกอดยูโตะแน่น
~fin~
เคย์โตะที่ยืนมองทั้งสองคนอยู่เงียบๆตั้งแต่ต้น ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
แผนการในครั้งนี้เขาได้คิดขึ้นมาเงียบๆคนเดียว เขารู้ว่าเวลาที่ยูโตะจะเข้าห้องคือตอนไหน เขารู้ว่าประโยคใดที่จะทำร่างบางต้องร้องไห้ออกมา และเขาก็รู้ว่าถ้าพูดประโยคใดออกไป ยูโตะจะเดินกลับมา
ในหนึ่งเขาก็ไม่อยากทำ เพราะไม่อยากปล่อยเรียวสุเกะไป
แต่อีกใจ เขาทนไม่ไหวกับการที่เห็นเรียวสุเกะต้องมานั่งร้องไห้อยู่ทุกวัน มันทำให้เขาเจ็บปวดเหลือเกิน
เรียวสุเกะเป็นคนที่เขารักมากที่สุด แต่เขารักจนได้เพียงแค่มองห่างๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรมากนัก เพราะคิดว่าเพียงแค่เรื่องนี้ก็ทำให้เรียวสุเกะร้องไห้มามากพอแล้ว
สิ่งที่เขาเจ็บปวดคือ การได้เห็นคนที่รักร้องไห้ออกมา โดยที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้
แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดมากที่สุดคือ การที่เห็นคนที่รักปล่อยมือจากตนไป --หรือเปล่านะ
สุดท้ายแล้ว...
เขาจะแบกรับความเจ็บปวดทุกๆอย่างของเรียวสุเกะเอาไว้เอง
fin
ความคิดเห็น