คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Nakayama]--Gray memory :: 05/09th-Y.R.--
รักคืออะไร
รักคือการให้
รักคือการหลอกลวง
รักคือความห่วงใย
รักคือการตัดสินใจ
รักคือการหลงใหล
รักคือทุกสิ่ง
แล้วคุณคิดยังไงกับคำว่ารัก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรียวสุเกะยืนรอใครบางคนอยู่หน้าโรงเรียน ซึ่งปกติแล้วคนๆนั้นมักจะเป็นฝ่ายมารอเขาเสียมากกว่า เนื่องจากเขาต้องอยู่ชมรมหลังเลิกเรียน ทำให้เลิกช้ากว่า ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ปริปากบ่นหรือไม่แม้แต่จะตำหนิเขาเลย เพราะเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่เรียวสุเกะชอบ แต่ไม่นานมานี้เขากลับกลายเป็นฝ่ายต้องรอเสียเอง
“ ขอโทษนะเรียวสุเกะ ฉันช้ามากหรือเปล่า... ” ยูโตะตะโกนเสียงดังมาก่อนที่ตัวจะมาถึง “ พอดีจิเนนขอร้องให้ช่วยรถน้ำต้นไม้หลังตึกน่ะ ” ร่างสูงรีบแก้ตัวพร้อมกับหอบด้วยความเหนื่อย ร่างเล็กกว่าไม่ว่าอะไรเพียงแต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยที่คนที่อยู่ในคำแก้ตัว คือ จิเนน ยูริ
เด็กใหม่ที่พึ่งย้ายมาจากชิซุโอกะเมื่อตอนหน้าร้อน เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กดูน่าทนุถนอม ผิวขาวราวกับหิมะ พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าหวานเสียยิ่งกว่าเด็กผู้หญิงบางคนในโรงเรียน ครั้งแรกที่เรียวสุเกะเจอก็ยังแอบหลงรักตามไปด้วย แต่ทุกๆอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เมื่อยูริกลายมาเป็นเพื่อนของทั้งสองคน ความสัมพันธ์ระหว่างยูโตะและเรียวสุเกะก็เริ่มเปลี่ยนไป
ยูริเริ่มใกล้ชิดกับยูโตะมากยิ่งขึ้น เรียวสุเกะที่อยู่กับยูโตะมานานกว่ารับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ก่อขึ้นมาในตัวเขา ทั้งๆที่เมื่อก่อนจะกลับบ้านกันแค่สองคน ตอนนี้บางครั้งก็กลายเป็นสาม บางทียูริก็ออดอ้อนยูโตะต่อหน้าต่อตาเขา ทั้งพยายามหลับตาและทั้งข่มใจไว้ โดยหวังว่าสักวันคนรักของตนก็กลับมาหาตัวเองดังเดิม ทว่าเวลาระหว่างเขากับยูโตะก็ค่อยๆหดหายไปทีละน้อย จนเรียวสุเกะอดน้อยใจไม่ได้
...ยูโตะนายยังรักฉันอยู่หรือเปล่า...
“ อย่าทำหน้าบูดแบบนั้นสิเรียวสุเกะ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ ” ยูโตะเอ่ยขึ้นมาเมื่อคนตรงหน้าทำสีหน้าไม่พอใจ “ ฉันรักเรียวจังนะ ” ร่างโปร่งเสริมขึ้นมาพร้อมขยี้ผมของเรียวสุเกะด้วยความเอ็นดู ทว่าคำพูดหวานๆนั้นทำให้เรียวสุเกะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเพียงเล็กน้อยที่คนรักของตนยังรักตัวเองอยู่ แต่แค่คำพูดใครๆก็พูดได้ กลับกันท่าทางของยูโตะในตอนนี้ บ่งบอกว่าความรักของเขานั้นเริ่มจะจางหายไปแล้ว
“ ฉันมันไม่น่ารักอยู่แล้วไม่ใช่หรือ... ” เรียวสุเกะพูดอย่างประชดประชัน อีกนิดเดียวน้ำตาของเขาก็จะไหลออกมาแล้ว เขาไม่อยากให้ยูโตะรู้สึกผิด เรียวสุเกะรักยูโตะมากเกินกว่าจะทำให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ “ วันหลังไม่ต้องรอฉันเลิกชมรมก็ได้นะ กลับไปก่อนเถอะ ”
“ ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ อย่าพูดอีกนะ ” ยูโตะโพล่งขึ้นมาอย่างตกใจ “ เรียวสุเกะสำคัญสำหรับฉันเสมอนะ ไม่ว่าจะนานสักเท่าไร ” เรียวสุเกะเม้มริมฝีปากแน่นคำว่า ไม่ว่าจะนานสักเท่าไร ของยูโตะนั้น จะนานไปได้อีกเท่าไรกัน ตลอดไป อีกสองปี อีกสี่เดือน หรือวันพรุ่งนี้มันก็จะหมดไป “ กลับกันเถอะ ” ยูโตะบอกก่อนที่จะจูงมือเรียวสุเกะและเดินกลับบ้านไปด้วยกัน
ยูโตะเดินลากเรียวสุเกะไปเรื่อยๆโดยไม่พูดคุยอะไรด้วยเลย ปกติแล้วไม่ใช่นิสัยที่ยูโตะจะชอบทำนัก สำหรับเขาซึ่งค่อนข้างจะเป็นคนอัธยาศัยดี ต่างกับเรียวสุเกะที่ไม่ค่อยจะเปิดใจให้ใครง่ายๆ เขาจำวันที่ยูโตะบอกรักตัวเองได้อย่างแม่มยำ จากคนที่ไม่เคยพูดคุยกันเลย แต่กลับถูกบอกรัก และวันรุ่งขึ้นก็มีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน เรียวสุเกะรักยูโตะตรงที่บางครั้งอีกฝ่ายชอบทำให้เขาประหลาดใจอยู่บ่อยๆ
ไม่นานก็ถึงบ้านของเรียวสุเกะ ยูโตะพูดบอกลาทำนองว่าช่วงนี้จะไม่ว่างเท่าไรนัก แต่จะโทรศัพท์มาหาบ่อยๆ ก่อนบอกรักเรียวสุเกะอีกครั้งและเดินกลับไป
“ จะวันเกิดเรียวสุเกะแล้ว ไปเที่ยวที่ไหนกันดีนะ ” ยูโตะหันกลับมาบอกเหมือนพึ่งนึกออก “ ที่เดิมก็แล้วกันนะ... ”
เรียวสุเกะรู้สึกเสียใจกับคำพูดนั้นที่ทำราวกับเขาไม่มีค่าให้ต้องคิดอะไรด้วยอีกมากมาย เขารู้สึกโกรธยูริที่ทำให้ยูโตะต้องเปลี่ยนไป แต่จากหลายๆครั้งที่เรียวสุเกะเคยคุยกับคนตัวเล็ก ก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ดีและน่ารักมากเช่นเดียวกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ยูริคิดจะทำอะไรอย่างที่เขากำลังคิดอยู่ เขากดโทรศัพท์มือถือไปหาคนที่เขาคิดว่าจะปรึกษาเรื่องนี้ได้ดีที่สุด
“ ไดจัง... ว่างอยู่หรือเปล่า ” เรียวสุเกะพูดกรอกลงไปด้วยเสียงสั่นๆจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ “ ...เรื่องยูโตะ ”
‘ ยามะจังเป็นอะไรไป ตอนนี้อยู่ที่ไหน ‘ ไดกิตอบกลับมาก่อนที่จะพูดปลอบใจคนกำลังเศร้า ‘ ไม่เป็นไรนะ ยูโตะคุงอาจจะไม่ว่างจริงๆ เพราะฉันได้ยินมาจากเพื่อนยูโตะว่าช่วงนี้บ้านเขากำลังยุ่งๆอยู่ ’ ทั้งคำแก้ตัวแทนคนรัก (เพราะกลัวว่าถ้าพูดอะไรไม่ดีไปจะเข้าใจผิดกัน) คำปลอบใจมากมายที่ทำให้เรียวสุเกะรู้สึกซึ้งใจจนร้องไห้ออกมา จนทำให้ปลายสายรู้สึกเสียใจที่ต้องทำให้น้องชายเสียน้ำตา
เขาตกใจที่จู่ๆประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดออกพบไดกิที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบ้านมือก็ถือโทรศัพท์มือถือคู่ใจแนบไว้ที่หู ไดกิตกใจกับสภาพของเรียวสุเกะที่ตอนนี้ร้องไห้ตาแดงและบวมเป่ง ใบหน้าหวานดูเศร้าเกินกว่าจะบรรยายได้ พี่ชายรีบวิ่งไปกอดน้องด้วยความเป็นห่วง เรียวสุเกะถึงกับปล่อยโฮอีกครั้งออกมา ปลดปล่อยความทุกข์ทรมานที่มีในใจออกมา ไดกิรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นน้องชายเป็นแบบนี้
“ วันนี้ไดจังนอนเป็นเพื่อนผมได้หรือเปล่า ” เรียวสุเกะถามพี่ชายขึ้นมา เขาไม่อยากจะอยู่คนเดียว อยากมีใครบางคนมาปลอบโยนเขาบ้าง “ ขอแค่วันนี้วันเดียว ” น้องชายที่น่ารักของเขาอ้อนวอน ไดกิที่รักน้องชายคนนี้จะปฏิบัติได้อย่างไร
เรียวสุเกะร้องไห้จนหลับไป ไดกิมองดวงตาที่แดงก่ำอย่างเจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถช่วยอะไรได้
...ไดจัง พี่ชายที่ดีที่สุดสำหรับผม...
“ ยูโตะไม่รู้ตัวหรือว่าตัวเองชอบจิเนนน่ะ ” เรียวสุเกะตะโกนใส่ยูโตะอย่างเกรี้ยวกราด เขาไม่เคยรู้สึกโกรธได้มากเท่านี้มากก่อน ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นคนรักของตน แต่ท่าทีที่ออกมากลับกลายเป็นว่ายูโตะแอบรักยูริ “ รู้หรือเปล่าว่าท่าทางของนายเปลี่ยนไปมาก ยูโตะเห็นฉันเป็นอะไร ” ยูโตะทำสีหน้าบอกไม่ถูก เรียวสุเกะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วเขย่าอย่างรุนแรง ยูโตะพยายามดันคนตัวเล็กออกเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องแน่
“ แบบนี้คุยไม่รู้เรื่องแน่ๆเรียวสุเกะ นายกลับไปก่อนเถอะ ” ยูโตะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆใส่ “ เป็นอะไรไป... ” อีกฝ่ายชะงักเมื่อเห็นหยาดน้ำตาใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาที่แข็งกร้าว ยูโตะยืนมองคนที่ร้องไห้อยู่เงียบๆ โดยไม่ทำอะไร ไม่ปลอบ ไม่พูดด้วย ไม่มีแม้แต่คำแก้ตัว ราวกับครุ่นคิดสิ่งที่เรียวสุเกะพูดออกมา “ ปกตินายไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆนี่นา หยุดร้องได้แล้วน่า... ” เรียวสุเกะเงยหน้ามองคนพูดที่ตีสีหน้ารำคาญขึ้นมาทันที ยูโตะเองก็จ้องมองเขากลับเช่นกัน
ด้วยสงครามทางสายตาที่จ้องมองกันด้วยความโกรธ จนเรียวสุเกะเริ่มรำคาญขึ้นมาบ้าง จึงพูดออกไปด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ ฉันมันคงจะน่ารำคาญมากสินะ ได้...ฉันจะกลับไปคิดดู ส่วนนายก็ลองคิดดูก็แล้วกันว่าที่พูดว่ารักน่ะ รักใครกันแน่ ฉันเองไม่ได้ใจร้ายพอที่จะ-- ” เขาเริ่มรู้สึกเวียนหัวเนื่องจากเมื่อวานเขาร้องไห้จนหลับไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็เห็นไดกินอนฟุบอยู่ข้างกาย และเห็นอีเมล์ส่งเข้ามาในมือถือของเขาซึ่งส่งมาจากยูโตะบอกให้มาช่วยงานยูริกับเขาที่โรงเรียน จนกระทั่งตอนนี้ที่เขาทนไม่ได้ที่เห็นยูโตะกับยูริใกล้ชิดสนิทสนมกันมากเกินไป มากกว่ากับเรียวสุเกะด้วยซ้ำไป ทั้งสองจึงออกมาคุยกันจนทะเลาะกัน
“ ฉันบอกแล้ว.. นายกลับไปก่อนก็ได้-- ” ยูโตะบอกเมื่อเห็นเรียวสุเกะอาการไม่ดี
ทว่าเขาก็ตวาดกลับไปอย่างรวดเร็ว “ --ก็ใครล่ะที่เรียกฉันออกมาน่ะ!!! ” เรียวสุเกะเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ใครกันที่เรียกเขาออกมา สุดท้ายแล้วเมื่อไม่ถูกใจก็ไล่กลับไป “ ฉันมันไม่สำคัญกับนายจริงๆแล้วสินะ... ยูโตะ แม้แต่วันเกิดของฉัน นายก็ไม่คิดที่จะใส่ใจอีกต่อไป ” เรียวสุเกะพูดทิ้งท้ายอย่างน้อยใจที่สุดแล้วเดินออกมาโดยมีเสียงยูโตะตามหลังมา แต่เขาไม่คิดที่จะสนใจอีกต่อไป เขาอยากกลับไปร้องไห้ ร้องให้หมดจนสบายใจ
“ ยามะจัง ” เสียงทุ้มอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมา “ ให้ฉันกลับบ้านเป็นเพื่อนนะ ” เรียวสุเกะหันกลับไปเจอเพื่อนสนิทของยูโตะที่กำลังมองหน้าเขาอย่างอ่อนโยน
“ เคย์โตะ-- ” เขาเรียกชื่อคนสูงกว่า ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างไม่อายใคร เรียวสุเกะพยายามจะไม่ร้องไห้ให้คนรักของตนเห็น แต่กับคนอื่นๆ เขาอยากจะร้องไห้เพื่อระบายออกมาได้ “ ขอโทษนะ... ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ”
เคย์โตะซึ่งเข้าใจดีว่าเรียวสุเกะนั้นรักยูโตะมาก ถึงบางครั้งการแสดงออกจะไม่เหมือนที่ความรู้สึก แต่สายตาที่มองยูโตะนั้นก็คือความรักทั้งหมดที่สามารถจะมอบให้ได้ “ ยูโตะนี่น่าอิจฉานะ ” เคย์โตะพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ เรียวสุเกะมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ “ ทั้งๆที่ฉันกับรุ่นพี่อากิโอกะ... หลงรักยามะจัง แต่นายก็กลับเป็นคนรักของยูโตะ ทั้งที่คิดว่ายูโตะจะสามารถดูแลยามะจังได้อย่างดี แต่ตอนนี้หมอนั่นกลับทำให้นายร้องไห้ ทำให้นายเจ็บปวด ” เรียวสุเกะเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินคำสารภาพจากใจของเคย์โตะ เขารู้อยู่แล้วว่าเคย์โตะนั้นแอบรักตนเพราะหลังวันที่ยูโตะมาสารภาพรักกับเขา เคย์โตะก็เป็นฝ่ายบอกต่อ แต่ทว่าเมื่อรู้ว่าสายเกินไป อีกฝ่ายก็พร้อมที่จะถอดใจ ทว่าเรื่องที่ไดกิเองก็รักเรียวสุเกะอยู่ พี่ชายที่แสนดีของเขา เรียวสุเกะแอบทำใจไม่ได้ “ วันเกิดนายอยากไปไหนหรือเปล่า ฉันกับรุ่นพี่จะพานายไปเที่ยวเอง ปล่อยยูโตะมันไปเถอะ ”
เรียวสุเกะส่ายหน้าปฏิเสธ เขาไม่อยากจะทำในสิ่งที่เหมือนการประชดอีกฝ่าย “ ไม่ได้หรอก ไม่ได้จริงๆ... ” ร่างสูงซึ่งคาดการณ์ไว้แล้วว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นเช่นนี้จึงไม่ได้ว่าอะไร และคอยเดินเคียงข้างเรียวสุเกะจนถึงบ้าน
“ จะร้องไห้ก็ร้องออกมาให้หมดนะ ” เคย์โตะพูดเมื่อมาหยุดอยู่หน้าบ้าน ดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอด น้ำตาใสๆหลั่งไหลออกมาจากดวงตาของเรียวสุเกะอีกครั้ง เขาร้องไห้ตัวโยนไร้เสียงสะอื้น
...เคย์โตะ เพื่อนที่รักที่ผมปฏิเสธเขาไป...
จู่ๆร่างหนาก็ถูกดึงตัวออกไปและเสียงที่ตามมาคือเสียงของหมัดที่ถูกปล่อยออกกระทบใบหน้าเรียว เรียวสุเกะเห็นสีหน้ายูโตะซึ่งดูเหมือนจะโกรธจัดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ระหว่างที่มัวแต่ตะลึงอยู่ยูโตะก็กระชากต้นแขนของเขาดึงตัวเรียวสุเกะมาไว้ข้างกาย ก่อนมองเคย์โตะด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งหวงห่วงคนที่รักและโกรธเพื่อนของตน ซึ่งเป็นเพื่อนกันมานานมาก เรียวสุเกะรู้สึกเสียใจที่ทำให้ทั้งสองคนต้องมาทะเลาะกัน เขาไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนต้องแตกแยก
ตอนนี้ทั้งยูโตะและเคย์โตะกำลังแลกหมัดกันด้วยความโกรธเกรี้ยว เรียวสุเกะพยายามแยกทั้งสองคนออกแต่แล้วก็ถูกผลักออกมากระแทกเข้ากับกำแพงโดยไม่รู้ว่าเป็นมือของใคร เขารู้สึกชาที่แผ่นหลังและปวดหัวไหล่ขวา ก่อนที่จะทรุดลงไปนั่งกับพื้น มองเพื่อนรักที่ทะเลาะกันด้วยความปวดร้าว
“ หยุดเถอะ... ได้โปรด ฉันขอร้อง ” เรียวสุเกะพูดออกมาปนเสียงสะอื้น จนทำให้เคย์โตะยอมหันมารับหมัดสุดท้ายของยูโตะเข้าที่ปลายคางจนกลิ้งไปตามพื้นราบ ถึงกับลืมตาไม่ขึ้น ฝ่ายยูโตะก็เงื้อมือขึ้นเตรียมจะส่งอีกหมัดไป แต่ก็ชะงักไว้เมื่อเห็นคนรักร้องไห้อย่างหนักแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน “ ขอโทษ ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ ” ร่างบางขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีกราวกับเป็นความผิดของตน เพื่อนรักสองคนรีบมาดูอาการคนตัวเล็กกว่า
“ เรียวสุเกะ... ไม่ต้องร้องแล้วนะ ยูโตะอยู่นี่แล้ว ” ยูโตะปลอบคนร้องไห้อย่างที่เคยปลอบ มอบอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เรียวสุเกะโหยหา เขารีบซุกใบหน้าบนอกของอีกฝ่าย
เคย์โตะซึ่งมองอยู่ห่างๆเพราะรู้สึกผิดที่พยายามจะแยกตัวเรียวสุเกะออกจากยูโตะ “ ฉัน... ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายเข้าใจผิด ” เขาพูดด้วยเสียงนุ่มลงกว่าตอนที่ทะเลาะกันเมื่อครู่ เคย์โตะทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินมาจับมือกับยูโตะก่อนที่จะเดินหายไป เรียวสุเกะสังเกตเห็นหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาของเคย์โตะ
ยูโตะพยุงเรียวสุเกะโดยไม่สนใจถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองเท่าไรนัก ค่อยๆพาร่างของเขาที่เหนื่อยล้าเต็มทนและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเข้าไปในบ้านของเรียวสุเกะ ก่อนที่จะปล่อยเรียวสุเกะนั่งบนโซฟาโดยยูโตะนั่งพิงไหล่อยู่ข้างๆ เรียวสุเกะเช็ดคราบเลือดและหยาดเหงื่อบนใบหน้าของคนรักออกอย่างเบามือ พลางนึกเป็นห่วงถึงคู่กรณีที่กลับไปก่อนหน้านี้ เขามองหน้ายูโตะที่ขมวดคิ้วจนจะเป็นปม อีกฝ่ายเองก็จ้องกลับโดยไม่พูดอะไร เรียวสุเกะคิดว่าเจ้าตัวอาจจะกำลังโกรธอยู่จริงและพูดขอโทษออกมาอีกครั้ง แต่ยูโตะกลับใช้ริมฝีปากบดเบียดเข้ามา
ไม่ใช่การจูบที่ลึกซึ้งหรือเร่าร้อน แค่การสัมผัสริมฝีปากของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถมอบความรักความรู้สึกที่ดีๆต่อกันได้มากมาย เรียวสุเกะรีบผละออกมาจากอ้อมกอด ยูโตะมองใบหน้าหวานด้วยความเศร้าปนรู้สึกผิด
“ เป็นอะไรไปหรือเปล่า ” เรียวสุเกะถามด้วยความห่วงใย “ เจ็บมากสินะ... ” ยูโตะส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับลุกขึ้นก่อนที่จะรีบเดินออกไปก่อนพูดทิ้งท้ายว่าให้ไปเจอกันที่ใต้ต้นซากุระที่เคยนัดเจอกันในวันพรุ่งนี้
เรียวสุเกะดีใจที่ยูโตะยังไม่ลืมสถานที่อยู่ในความทรงจำครั้งแรกของทั้งสองคน แต่กลับสงสัยสายตาที่มองมายังตนราวกับชั่งใจอะไรบางอย่างอยู่
...ขอบคุณที่นายยังมองกลับมา...
ซากุระค่อยๆร่วงโรยจากต้น ภาพตรงหน้าเรียวสุเกะราวกับพื้นถูกปูด้วยพรมสีชมพูหวาน ตัดด้วยท้องฟ้าโปร่งสีคราม เมฆสีขาวลอยละล่องวนเวียนไปมา ถึงแม้ในวันนี้จะเป็นเป็นวันอาทิตย์แต่ทว่าผู้คนกลับเดินไปมาบางตา และอีกทั้งยังเป็นวันเกิดของเรียวสุเกะ มีอีเมล์จากครอบครัวและเพื่อนๆส่งมามากมายทั้งเคย์โตะ ไดกิ และยูริ มีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ส่งมานั่นคือ ยูโตะ เขาน้อยใจอย่างมาก เพราะปกติทุกปีอีเมล์ของคนรักจะถูกส่งมาก่อนเป็นคนแรก แต่ในปีนี้ไม่มีแม้แต่คำอวยพร
ร่างสูงที่แสนคุ้นเคยค่อยๆเดินใกล้เข้ามา เรียวสุเกะยิ้มโบกมือตอบรับอย่างดีใจที่ในที่สุดยูโตะก็มาถึง เพราะเขาตื่นเต้นจนต้องรีบมาก่อนเวลานัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยกับเขา ยูโตะโบกมือตอบเช่นกัน แต่ไร้รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นที่เคยมอบให้ มีเพียงสีหน้าไร้ความรู้สึกคงไว้ที่ใบหน้า
“ ฉันสายสินะ ” ยูโตะเอ่ยขึ้นเรียบๆพลางจ้องมองนาฬิกาข้อมูลของตน เรียวสุเกะยิ้มบางๆให้อภัยกับสิ่งที่พูด เนื่องจากทุกครั้งที่นัดเจอกัน ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เรียวสุเกะจะต้องรอยูโตะ อีกฝ่ายมักจะมาก่อนเวลานัดนานมาก เพราะให้ความสำคัญกับคนที่เขารักมากที่สุด
ยูโตะกอดเรียวสุเกะแน่น น้ำตาไหลเป็นสายข้างแก้มค่อยๆซึมบนไหล่ของเขา “ เป็นอะไรไปยูโตะ ”
“ ฉันรักเรียวสุเกะนะ... ” ยูโตะพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ เรียวสุเกะคุ้นเคยกับการบอกรักเช่นนี้บ่อยครั้ง จนรู้สึกชิน แต่ก็ยังอดรู้สึกเขินไม่ได้ ร่างสูงจูบหน้าผากสวยอย่างแผ่วเบา หยาดน้ำตาบางหยดหล่นเผาะบนในหน้ากลม ยูโตะกลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ กลั้นใจพูดบางสิ่งออกมา “ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่... ” และหลบสายตาที่เหมือนจะอ้อนวอนของเขา ดวงตาที่ยูโตะเคยชมว่าทั้งหวานและกลมใสคู่นั้น แต่ในตอนนี้ดูเหมือนยูโตะอยากจะหลีกเลี่ยงอย่างมาก
เรียวสุเกะเหม่อมองยูโตะอย่างงุนงง สายตาที่เคยมีแต่ความดีใจแปรเปลี่ยนเป็นความโศกเศร้าในทันที ถ้าสิ่งที่ยูโตะพูดเป็นความจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านๆมาก็คือคำโกหกสำหรับเขาทั้งหมด คำหลอกลวง การกระทำที่เสแสร้งไร้ความจริงใจ รอยยิ้มที่เคยอบอุ่นกลายเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเย็นชา
“ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ” ทว่าเขารักยูโตะมากเกินที่จะยื้อต่อไป ความรักที่เขาอยากจะมอบให้ไม่ใช่การผูกมัด
ทำไมเขาไม่หลงรักเคย์โตะหรือไดกิ ที่ทั้งคู่เองก็รักเขามากเช่นเดียวกัน เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดเวลาที่คนรักเลิกรักตัวเอง แต่เพราะยูโตะคือยูโตะ เรียวสุเกะถึงได้รักยูโตะอย่างหมดหัวใจ ทั้งรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นยามที่เขาเศร้า คำพูดแสนหวานที่ฟังแล้วชื่นใจ ทุกๆสิ่งที่มอบให้ล้วนมาจากใจของอีกฝ่าย
จู่ๆน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตา...
...ยูโตะพยายามจะเอื้อมเช็ด
ดวงตากลมมองภาพพร่ามัว...
...ปล่อยมือเรียวสุเกะก่อนที่จะหันหลังให้
ร่างเล็กหลับตาเพื่อที่ได้มองไม่เห็นคนสำคัญที่กำลังจากไป...
...คนสูงกว่ากลับมามองดูอดีตคนรัก
เรียวสุเกะพยายามส่งรอยยิ้มที่ดูอ่อนระโหยให้...
...เจ็บปวดหัวใจจนอยากจะกรีดร้องออกมา
ร้องไห้จนน้ำตาจะเหือดแห้ง...
...ทุกๆความคิดพร่ำบอกแต่คำขอโทษ
“ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน --ฉันก็จะรักยูโตะตลอดไป ”
การ์ดสีครีมใบหนึ่งซึ่งถูกสอดในกระเป๋ากางเกงของเรียวสุเกะ เขารู้สึกได้ถึงแรงเสียดทานระหว่างกางเกงกับกระดาษซึ่งยับยู่ยี่ใบนั้น เขาดึงมันออกมาคลี่ดู
บนการ์ดถูกเขียนด้วยน้ำหมึกสีชมพู ด้วยลายมือสวยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยูโตะ
' สุขสันต์วันเกิดนะ... ยามาดะ '
เรียวสุเกะทรุดลงร้องไห้ น้ำตาพรั่งพรูลงบนการ์ด จนตัวหนังสือเกือบจะจางหายไป
fin
ความคิดเห็น