ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -[FIC IKON DoubleB♡] Summer Hot!-

    ลำดับตอนที่ #2 : Part1 "อีหนูขาวอึ๋ม"

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 58


     
                                     "อีหนูขาวอึ๋ม"

     
     
     
    [Bobby Part]
     
    [New York]
     
     
     
    "อื้อออ๊ะบ๊อบบี้ขา..."
     
     
    "ว่าไงครับเเม่ดอกเดซี่ของผม..."
     
     
    ผมตอบเสียงเครือในขณะที่ริมฝีปากร้อนยังคลอเคลียอยู่บริเวณต้นคอขาวหลังจากที่ไปหิ้วอีหนูขาวอึ๋มมาได้จากผับ ก็หล่อนเล่นยั่วผมซะขนาดนั้นจะให้วัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่านอย่างผมทนได้อย่างไง
     
     
    "บ๊อบบี้อย่าเเกล้งเดซี่สิคะอะอื้อออ"
     
     
    สาวๆอเมริกานี้ร้อนเเรงสมคำร่ำรือจริงๆ...
     
     
    ติ๊ด!~~~
     
     
    ในขณะที่ผมกับอีหนูขาวอึ๋มกำลังเข้าได้เข้าเข็มกันพอดิบพอดี เสียงโทรศัพท์เครื่องใหญ่บนหัวเตียงกลับดังขึ้นมาส่งผลให้การกระทำหยุดลงอย่างหน้าเสียดาย
     
     
    "เเป๊ปนึงนะครับ"
     
     
     
    ผมก้มลงจูบลงไปยังซอกคอขาวเนียนอย่างเสียดายก่อนที่จะผละออกมาจากร่างเซ็กซี่เย้ายวน 
     
     
    ใครเเม่งโทรมาตอนนี้วะ
     
     
    ผมเพ่งสายตาไปยังโทรศัพท์เครื่องใหญ่ เเต่เเล้วก็ต้องตกใจจนเกือบทำโทรศัพท์ตกลงบนพื้นเมื่อรายชื่อของผู้โทรเข้าปรากฏณ์เด่นตระง่าอยู่บนหน้าจอ
     
     
    'MOM'
     
     
     
    เชี้ยเเม่โทรมา!!!
     
     
    ผมสูดอากาศเข้าออกเเรงๆสองสามทีเรียกความกล้ากลับคืนมา ก่อนที่มือสั่นจะลื่นหน้าจอเพื่อรับสายอย่างมีสติ
     
     
    "ครับเเม่"
     
     
    "ทำไมรับสายเเม่ช้า? เเอบลากสาวมาคั่วที่คอนโดอีกเเล้วใช่ไหม?"
     
     
    ผมลอบเเอบกลืนน้ำลายเหนียวในลำคออย่างลำบากเพราะคงต้องจำใจโกหกเพื่อเอาตัวรอดตามเคย
     
     
    "ป่าวครับเเม่อ่านหนังสืออยู่..."
     
     
    ยมบาลยกโทษให้กูด้วย...
     
     
    "งั้นก็ดี...ตอนนี้เเม่กำลังไปถึงคอนโดลูกเเล้วจะได้รู้กันว่าอ่านหนังสือหรือเเอบคั่วสาวๆอยู่กันเเน่..."
     
     
    ตู้ด....
     
     
     
    ".........."
     
     
    ชิปหายเเล้วชิปหายของจริง!!!
     
     
    "เดซี่ออกไปได้เเล้ว พรุ่งนี้ผมจะโอนเช็คไปให้"
     
    "ทำไมคะบ๊อบบี้ เดซี่ยังค้างอยู่เลยนะ..."
     
     
    "ผมบอกให้คุณออกไปจากห้องผมเดียวนี้"
     
     
    ผมกดเสียงต่ำอย่างเอาจริง ทุกคนรู้ดีว่าเวลาผมเล่นกับเวลาผมเอาจริงมันเเตกต่างกันเเค่ไหน
     
     
    เเม่ดอกเดซี่รีบวิ่งจ้าเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายไปตามพื้นก่อนที่จะวิ่งออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว
     
     
    ผมไม่รอช้ารีบจัดการเตียงนอนสภาพยับยู่ยี้จากสงครามรักบนเตียงให้กลับมาเรียบไม่ผิดสังเกตุ ขายาวก้าวไปยังตู้หนังสือฝุ่นเครอะเพราะไม่เคยคิดจะเปิดมาอ่าน จัดการเลือกหยิบขึ้นมาสองสามเล่มเเล้วทำการจัดฉากวางไว้บนโต๊ะอย่างเเนบเนียน
     
     
    รอดเเล้วกู....
     
     
     
     
     
     
     
    ตึ๊ง~~~
     
     
    เสียงอ๊อดดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้เป็นมารดาของผมได้มาเยือนถึงถิ่นเเล้ว มือหนายกขึ้นเช็ดเหงื่อกาฬที่ไหลออกมาตามใบหน้า
     
     
    ขายาวก้าวออกไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะหมุนลูกบิดเปิดออกต้อนรับผู้เป็นมารดาให้เข้ามายังห้อง
     
     
    "สวัสดีครับเเม่..."
     
     
    "กลับมาบ้านทั้งทีทำไมไม่ไปหาเเม่ มาคลุกที่คอนโดอย่างนี้ต้องมีอะไรเเน่ๆ..."
     
     
    ร่างสูงดูดีของมารดาเดินเข้ามาสำรวจไปตามห้องเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติ เเม้ว่าอายุจะปาเข้าไปถึงเลข4เเล้วเเต่ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆอาจจะคิดว่าเเม่ผมพึ่งจะ20ต้นๆก็ได้นะ
     
     
    "เเดดที่อเมริการุนเเรงเเค่ไหนเเม่ก็รู้นี้ครับสู้อ่านหนังสืออยู่ในห้องสบายกว่าอีก..."
     
     
    ขอโทษที่ต้องโกหกนะครับ ผมรักเเม่มากนะ...
     
     
    "ลูกบอกว่าอ่านหนังสือใช่ไหม?"
     
     
    อยู่ดีๆเเม่กลับหยุดการเคลื่อนไหวอยู่บริเวณซอกข้างเตียงสร้างความสงสัยให้ผมเดินเข้าไป
     
     
    "เเล้วนี้คืออะไรคิมจีวอน..."
     
     
     
    เเพนตี้ลูกไม้สีเเดงสดถูกหยิบขึ้นมาโชว์ตระง่าอยู่บนใบหน้าของผม  ของกำนัลที่เเม่สาวร้อนรักฝากเอาไว้ให้ผมดูต่างหน้าบัดนี้กลับกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าผมเเอบนอนคั่วอีหนูขาวอึ๋มมาจริงๆ เเละตอนนี้หลักฐานตกมาอยู่ในมือมารดาเรียบร้อยเสร็จสรรพ
     
     
     
    ซวยเเล้วไงกู....
     
     
     
     "โถ่เเม่ครับผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ผู้หญิงเค้าให้ท่าเองอะ"
     
     
     
    ผมบอกเสียงอ่อนขอความเห็นใจหลังจากถูกคุณเเม่สุดที่รักเทศนานานนับชั่วโมงเรื่องหิ้วผู้หญิงมาคั่วบนห้อง
     
     
     
    "ไม่ต้องเลยคิมจีวอนเเม่จะไม่ยกโทษให้ลูกอีกเเล้ว ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เเม่จะปล่อยเลยตามเลย ถ้าเเม่จับได้ว่าเราเเอบหิ้วผู้หญิงเข้าห้องอีกเเม่จะทำเรื่องย้ายลูกมาอยู่โรงเรียนประจำที่นี้!"
     
     
    เสียงของมารดาที่เคยนุ่มนวลยามได้ฟังตอนนี้กลับกลายเป็นเสียงเเข็งอย่างเอาจริง เเล้วลูกชายตัวเล็กๆอย่างผมจะทำอะไรได้นอกจากนั่งก้มคอตกอย่างยอมรับผิด
     
     
     
    ยิ่งเรื่องโรงเรียนประจำนี้ยิ่งเเล้วไปใหญ่ เเค่โรงเรียนประจำที่ผมอยู่ที่เกาหลีก็เเทบบ้าเเล้ว กว่าจะถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่โรงเรียนปล่อยให้ออกไปเที่ยวข้างนอกได้นี้รอจนเเทบน้ำตาเล็ด
     
     
    "ไม่นะครับเเม่คิมจีวอนยอมรับผิดเเล้วววว"
     
     
    เมื่อถึงคราวตาจนก็คงต้องใช้ลูกไม้ออดอ้อนเข้าหาพร้อมกับอ้อนมารดาด้วยการหอมเเก้มซ้ายขวาหลายๆที
     
     
    "จริงๆเลยเจ้าลูกชายกระล่อนเมื่อไหรจะโตสักทีห๊ะเรา สัญญากับเเม่ได้ไหมว่าจะไม่ไปหิ้วสาวมากระทำชำเราในห้องอีก?"
     
     
    "สัญญาครับสัญญา~"
     
     
    จะไม่ทำที่ห้องเพราะจะไปทำที่อื่นเเทน...
     
     
    "ถึงเเม่จะปล่อยเเต่อย่าคิดว่าจะรอดนะ เดือนนี้เเม่ขอยึดเครดิตเป็นการลงโทษ"
     
     
    คำพูดประกาศิตของมารดาเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจ บัตรเครดิตที่เป็นเหมือนเครื่องช่วยชีวิตยามนึกสนุกเเต่ตอนนี้เเม่กลับยึดมันไปจากอก
     
     
    คำว่ายึดพูดเบาๆก็เจ็บ...
     
     
     
     
     
    "ขอให้มีความสุขนะเจ้าลูกชาย~"
     
     
    เสียงหวานสบายอารมณ์ของมารดาที่กำลังเดินออกจากห้องพร้อมกับบัตรเครดิตสีทองนับสิบใบเป็นการตอกย้ำผมให้มองตามตาละห้อย จบกันชีวิตสวยหรู
     
     
    เดือนนี้กูคงได้เเดกมาม่าจนขี้ออกมาเป็นเส้น...
     
     
    คิดเเล้วมันก็ปวดหัวเลยต้องโทรไปปรับทุกข์กับเพื่อนสนิทที่เกาหลี
     
     
    ขายาวก้าวไปยังเตียงใหญ่พร้อมกับทิ้งตัวนอนลงนอนเเผ่อย่างไม่สบอารมณ์ตามประสาชายโสด เมื่อคิดได้จึงหยิบโทรศัพท์เครื่องใหญ่ออกมากดเบอร์โทรหาเพื่อนซี้รู้ใจนามว่ากูจุนฮเว
     
     
     
    "ฮัลโหลมึง"
     
     
    "อ้าวไปเหยินโทรมามีไร"
     
     
    "มึงว่างปะกูเหงาอยากคุยด้วย"
     
     
    "ไม่ค่อยว่างว๊ะ"
     
     
    "ทำไรวะ"
     
    "........."
     
    ".........?"
     
     
    "อื้ออ๊ะจุนฮเวทำอะไรอยู่... อือออ"
     
     
    เสียงหวานเล็ดลอดเข้ามายังบทสนทนา ฟังรอบเเรกก็รู้ว่าไม่ใช่ใครที่ไหนก็คงเป็นคิมจินฮวานพี่รหัสเมียคนสวยของมัน
     
     
    ".............."
     
     
    "อื้อออะจะจุนฮเวเร็วๆอีก...."
     
     
     
    ครับไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกันทุกคำ...
     
     
    "เออ มึงคงรู้เเล้วใช่ไหม"
     
     
    ครางลั่นซะขนาดนั้นถ้าไม่ได้ยินกูควรไปเปลื่ยนหูใหม่เเล้วละ
     
     
    "ขยันเอากันจริงนะมึง ปิดเทอมนี้ได้ใจเอากันสามเวลาเช้าสายบ่ายเย็นเลยสินะ"
     
     
    "ช่วยไม่ได้เมียกูลีลาเด็ดชิปหาย  เเค่นี้ก่อนนะมึงเมียกูไม่ไหวละ"
     
     
    ตู๊ด....
     
     
     
    เสียงตัดสายอย่างไร้เยื่อใยจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้คงกำลังเผด็จศึกกับเมียบนเตียงอย่างเมามันส์ เหลือเพียงผมชายโสดไกล้ขึ้นคานนิเวศ ไม่รู้เมื่อไหรจะมีเมียเเบบคนอื่นเขาสักที
     
     
    ชาติหน้าขอให้กูเกิดมามีเมียเจ็ดวันเจ็ดคน! 
     
     
     
    [Hanbin Part]
     
     
    ภายในผับที่เต็มไปด้วยเเสงสีเร้าอารมณ์ สาวน้อยสาวใหญ่รวมไปถึงบุรุษเพศกำลังหลงระเริงไปกับความบ้าคลั่ง เสียงดนตรีดังก้องสลับเปลื่ยนเพลงไปมาเป็นเสหมือนตัวปลุกเร้าอารมณ์ให้หึกเหิม ผีเสื้อราตรีนับสิบกำลังเต้นส่ายสะโพกไปมาบนเฟอร์อย่างเย้ายวนชายหนุ่มด้วยความสนุกเร้าใจ
     
     
    เเต่ผมมาที่นี้เพราะต้องการลืมใครบางคน...
     
     
    ปัง!
     
     
    "เอาเหล้ามาอีกเเก้ว!"
     
     
    เสียงของเเข็งกระเเทกลงกับโต๊ะอย่างรุนเเรง เเก้วสีใสบรรจุน้ำสีอัมพันภ์นับสิบเรียงรายอยู่บริเวณหน้าเลาว์บาร์ 
     
     
    "คุณดื่มเยอะเกินไปเเล้วนะครับ"
     
     
    เสียงของเด็กเสริฟหนุ่มดังขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ  ผมเงยหน้าขึ้นหันไปจ้องหน้าคนที่กล้ามาออกคำสั่งกับผมด้วยสายตาเเข็งกร้าว
     
     
    "กูจะกินอีกสักร้อยเเก้วเเล้วไปหนักหัวมึงหรือไง กูมีตังจ่ายอย่าเสือก!"
     
     
    "ขอโทษครับๆ..."
     
     
    เด็กเสริฟตอบออกมาด้วยท่าทีหวาดกลัว พร้อมกับเสริฟเครื่องดื่มสีอำพันภ์ที่ผมต้องการมาไว้ตรงหน้า
     
     
    มือหนาไม่รีรอจัดการจับเเก้วสีใสกระดกของเหลวรสร้อนลงไปยังลำคอทันที สัมผัสร้อนเเรงจากของเหลวรสขมกำลังบาดไปตามลำคอจนรู้สึกร้อนไปทั้งตัว
     
     
    ชีวิตที่ผ่านมาหลายเดือนที่ผ่านมาของผมเรียกได้ว่า'เละเทะ'ทั้งเข้าผับมีเรื่องเเตะต่อยคั่วหญิงนับไม่ถ้วน ภาพพนจ์เด็กนักเรียนดีเด่นตอนนี้ไม่เหลือเเล้วทุกอย่าในชีวิตของผมเหมือนกำลังนับศูนย์ใหม่
     
     
    ป่านนี้คนตัวเล็กที่เกาหลีคงลืมเรื่องผมไปเเล้วเเละคงกำลังมีความสุขกับคนที่เขาได้เลือก ผมพยายามทำใจยอมรับเเละพยายามยินดีที่เขาพบคนที่ใช่จริงๆ เเต่หลายเดือนที่ผ่านมามันก็เเสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเเค่ไหนผมก็ไม่สามรถลืมคนคนนั้นได้
     
     
    ทุกครั้งที่เขาโทรมาผมต้องกลั้นใจคุยออกไปด้วยน้ำเสียงมีความสุข ต้องทำเหมือนว่าทุกอย่างมันโอเคทั้งที่ในใจมันกลับอยากจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง
     
     
    ผมเชื่อเเล้วละว่าคนที่ดีก็ชนะได้เเค่ใจ เเต่ยังไงก็เเพ้คนที่ใช่ที่ชนะทั้งใจเเละความรู้สึก
     
     
    "นั่งคนเดียวไม่เหงาหรอคะสุดหล่อ คืนนี้สนใจมาสนุกกันไหมคะ?..."
     
     
    ผมหลุดออกมาจากภวังค์ทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้หญิงผมทองสุดเซ็กซี่เย้ายวน หล่อนกำลังไล้นิ้วไปตามใบหน้าได้รูปของผมอย่างเชิญชวณ
     
     
    ผมกระตุกยิ้มร้ายให้เเม่เสือสาวเเล้วจัดการจับเอวบางให้มานั่งบนตักผม 
     
     
    เป็นคนดีเเล้วมันไม่เคยได้ดีงั้นก็เลวให้มันสุดเลยเป็นไง!
     
     
    ในขณะที่ริมฝีปากร้อนของผมกำลังดูดดื่มนัวเนียกับเเม่สาวผมทองอย่างเร้าร้อน กลับมีเสียงของพวกนักเลงกลุ่มหนึ่งดังเข้ามาไกล้ผมเรื่อยๆ จนผมต้องหยุดการกระทำลงเเล้วหันไปมองตามเสียงที่กำลังดังขึ้นเข้ามาไกล้ๆ
     
     
    "กระทืบมันให้เดินกลับออกไปไม่ได้!!!"
     
     
    ผมลุกขึ้นทันทีที่กลุ่มนักเลงนับสิบคนกำลังถืออาวุธมุ่งเข้ามาทางผม เมื่อพิจรณาใบหน้าของหัวโจกที่กำลังมุ่งเขัามาปะทุร้ายผมจึงนึกได้ว่ามันเป็นคนเดียวกับที่ผมเคยมีเรื่องชกต่อยด้วย เเต่ครั้งนี้ไม่ได้มาเดี่ยวเเม่งยกมาเป็นฝูงเลย!
     
     
    เมื่อเห็นท่าจะไม่ดีขายาวของผมรีบวิ่งออกไปจากทางหลังร้านจุดหมายคือคอนโดหรูที่อยู่ออกห่างไปไม่ไกล ขายาวรีบสาวเท้าอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อเห็นว่ากลุ่มนักเลงนับสิบคนยังวิ่งตามหลังมาติดๆ
     
     
     
     
     
    ผมวิ่งจนมาถึงจุดหมาย มือหนาจัดการเปิดประตูห้องออกอย่างรวดเร็วเเล้วปิดประตูลงล็อคกลอนเรียบร้อยเสร็จสรรพทันเวลาก่อนที่พวกกลุ่มนักเลงมาถึงพอดี
     
     
    "ไอฮันบินมึงเปิดประตูออกมาเดียวนี้!!!"
     
     
    ปัง!!!!
     
     
    "FUCK! WTF!"
     
     
    ผมสถบคำหยาบออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าประตูที่เป็นเกาะกำบังเดียวกำลังโดนทุบอย่างเเรงเเละกำลังจะพังลงในอีกไม่ช้า
     
     
    เเม่งเอ้ย!!!
     
     
    ตอนนี้ผมเหมือนมืดเเปดด้านไม่มีที่ผมจะสามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไปมีทางหนีทางเดียวเดียวคือกระโดดลงไปข้างล่างของตึกซึ่งจากนั้นผมก็คงไปเฝ้ายมบาลเป็นที่เรียบร้อย ขายาววิ่งวนไปมาในห้องเป็นหนูติดจั่นจนเดินไปเดินมาเหลือบไปเห็นระเบียงห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน
     
     
     
    เดียวนะมันยังมีอีกทาง...
     
     
    จู่ๆผมกลับคิดหาทางหนีรอดได้ มันคงเป็นหนทางสุดท้ายเเละเป็นหนทางที่เสี่ยงอันตรายสุดๆ เเต่ถ้าไม่ทำก็คงโดนกระทืบอยู่ดีสู้ออกไปหาทางรอดดีกว่า
     
     
    ร่างสูงไม่รอช้าวิ่งไปยังระเบียงพร้อมกับใช้ทักษะทางการปืนไต่ตามเเนวระเบียงเพื่อข้ามไปยังอีกฝากหนึ่ง
     
     
     
    สำเร็จ!
     
     
    ผมรีบวิ่งไปเเอบอยู่ยังซอกมุมมืดทันทีที่ได้ยินเสียงพังประตูเสียงดังพร้อมกับเสียงของพวกนักเลงกำลังวุ่นกับการตามหาตัวผม
     
     
     
    "ไอเชี้ยคิมฮันบินมึงออกมาเดียวนี้คิดว่าจะหลบกูได้หรอ!"
     
     
    ออกไปให้มึงกระทืบกูคงโง่ละ...
     
     
     
    "หลบได้หลบไปนะมึง ฝากไว้ก่อนเถอะเเล้วกูจะกลับมาใหม่!"
     
     
    ผมนั่งนิ่งอยู่บนบริเวณระเบียงของเพื่อนบ้านจนเเน่ใจว่าพวกนักเลงได้กลับออกไปเเล้ว ร่างสูงยันกายลุกขึ้นเตรียมพร้อมที่จะปืนกลับไปยังห้อง เเต่ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาสยบทุกความเคลื่ยนไหวของผมให้กลับมาสนใจ
     
     
    "มึงเป็นใคร!"



    ผมสะดุ้งตัวโยนทันทีที่เสียงดุกร้าวของบุคลปริศนาดังลั่นเข้าสู่โสตประสาท 

     
    ขายาวที่กำลังปืนป่ายอยู่บนระเบียงต้องหยุดชะงักกระทันหันเมื่อรับรู้ได้ถีงบุคคลปริศนาที่กำลังเดินเข้ามาไกล้เรื่อยๆ

     
    "มึงเข้ามาห้องกูได้ยังไง..."
     
    "......"

     
    วัสถุเย็นเชียบปริศนากำลังจ่ออยู่บริเวณต้นคอของผม หัวใจของผมเต้นระรัวด้วยความตกใจทันทีที่ประสาทสัมผัสมันบอกว่าวัสถุนั้นคืออะไร
     
     
    ปืน...
     
     
    "อย่าขยับถ้ามึงยังไม่อยากไปหายมบาล..."
     
     
    เสียงทุ้มเยือกเย็นดังจากข้างหลังในขณะที่มือปริศนาก็ยังคงจ่อปลายปืนมายังต้นคอของผม
     
     
    หนีตีนเสือกมาเจอปืน ชีวิตดีจริงๆเลยกู...
     
     
    เเขนยาวของผมค่อยๆยกขึ้นอย่างผู้ยอมเเพ้ก่อนที่จะอธิบายความจริงออกไป
     
     
    "กูหนีพวกนักเลงมา..."
     
     
    เเกร๊ก...
     
     
    ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมอธิบายไปจะไม่เข้าหูของมันสักเท่าไหร เสียงกดเปิดเซฟปืนข้างหูกำลังทำให้ผมกลัว
     
     
    "มึงเป็นโจรใช่ไหม..."
     
    "ปะ ปะ ปล่าวกูอยู่ห้องข้างมึงนี้เอง"
     
     
    ผมยกเเขนสั่นชี้นิ้วเรียวออกไปยังบริเวณระเบียงอีกฝากนึง

     
    "ถ้ามึงโกหกกูจะฝังลูกตะกั่วไว้บนหัวมึง"
     
     
    สัมผัสเยือกเย็นหายออกไปจากลำคอของผม บุคคลปริศนาจัดการรวบเเขนทั้งสองข้างของผมมาไว้ข้างหลังโดยไม่ให้ผมได้ตั้งตัวส่งผลให้ความเจ็บปวดเเล่นเข้ามาทันที
     
     
    "โอ้ย!เชี้ยกูเจ็บนะ!"
     
    "หุบปากเเล้วตามกูมา"
     
     
    ผมกำลังจะเเหกปากด่ามันอยู่เเล้วเเต่ก็ต้องกลั้นใจหยุดลงไปก่อน สายตาคมของผมไล้พริจรณาโครงหน้าของเจ้าของห้องสุดโฉดคนที่เอาปืนมาจ่อคอผม 
     
     
    อืม หน้าตาก็ใช้ได้นั เเต่เสียที่ฟันของมันนั้นละทำให้ความโหดเเบดหายไปในพริบตา เหยินเเค่ฟันเเต่พาเหี้ยทั้งหน้า....
     
     
    เเล้วกูจะประเมิณสภาพความเหี้ยของใบหน้ามันไมวะ?
     
     
    "มึงเป็นคนเกาหลีหรอ?"


    หรือมันมาจากเกาหลีเหนือวะ เจอหน้ากันชักปืนขึ้นมาทักทายกันเเบบนั้น

     
     
    ผมต้องหาทางรอดโดยการตีสนิทไอหมอนี่  เเต่จะว่าไปมองหน้ามันดีๆเเล้วคุ้นๆยังไงไม่รู้วะ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนเเต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก...
     
     
    "เเล้วมึงได้ยินกูพูดภาษาเขมรหรือไง"
     
     
    ไอโหดคลายข้อมือหนาของผมทันทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องสุดหรู
     
     
    ห้องกูกับมึงก็ติดกัน เเต่ทำไมกูถึงได้รู้สึกถึงความเเตกต่างระหว่างชนชั้น...
     
     
    "กูจะบอกว่ากูเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมึงควรปล่อยกูไปถือซะว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติ..."
     
    "กูจะเเน่ใจได้ไงว่ามึงไม่ใช่โจรมาขโมยของห้องกู มาให้กูค้นตัวก่อน"
     
     
    ผมไม่ขัดขืนปล่อยให้ไอหน้าโหดฟันเหยินค้นตัวไปมาจนมันเเน่ใจ เเต่ทว่ากลับมีเสียงของพวกนักเลงกลุ่มเก่าดังขึ้นมาเสียก่อน
     
     
    "กุว่ามันต้องเเอบไปซ่อนที่ไหนนี้เเหละค้นเเม่งให้ทั่วทุกห้องกูต้องอัดมันให้หนำใจก่อนจะกลับ!"
     
     
    เชี้ยเเล้วไง!
     
     
    ผมหันไปสบตาเจ้าของห้องอย่างเว้าวอนขอที่หลบภัย ร่างสูงถอนหายใจเบาๆอย่างเบื่อหน่าย
     
     
    "ไปหลบใต้ผ้าห่ม..."
     
     
    เเววตาผมเป่งประกายไปด้วยความหวังก่อนที่จะรีบวิ่งไปบนเตียงเเละนำผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมอำพางตัว
     
     
    ผมนอนคดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพื้นใหญ่ อุณหภูมิเย็นเชียบในห้องไม่สามารถดับความร้อนรุ่มกังวลภายในใจได้ อัตราการเต้นหัวใจยิ่งเต้นระรัวเมื่อได้ยินเสียงเสียงของพวกกลุ่มนักเลงกำลังสนทนากับของห้องนี้

     
     
     
     
    "ลุกออกมาจากเตียงกูได้ละ"
     
     
    ไม่นานหลังจากนั้นเสียงทุ้มดุดันก็ดังขึ้นพร้อมกับตวัดผ้าคลุมที่คลุมกายของผมไว้อย่างรุนเเรง
     
     
    "ขอบคุณนะมึงกูคิดว่าจะไม่รอดเเลัว..."
     
     
    ผมลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับบอกขอบคุณเพื่อนข้างห้อง ขายาวก้าวออกจากห้องเตรียมที่จะกลับเข้าห้องของตัวเอง เเต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อพบว่าประตูที่เคยตั้งอยู่ในสภาพดีตอนนี้หลุดออกหมดจนไม่เหลือเค้าของประตูอีกต่อไป

     
    จบกันชีวิตกู....

     
    ในขณะที่ผมกำลังยืนคอตกมองสภาพประตูเเละห้องที่เละจนดูไม่ไดั กลับมีเสียงนึงดังขึ้นราวกลับเสียงที่สวรรค์ประทานมาให้ผม

     
    "มาอยู่ห้องกูก่อนไหม...."
     
     
     
     
     
     
     
    -------------------------------Talk-----------------------------
     
    100% จบกันไปเเล้วพาทเเรกบ๊อบบินเจอกันก็ชักปืนจอค่อกันซะเเล้วหาความโรเเมนติกไม่เจอจริงๆ5555อย่าลืมมาเม้นคุยกันน้าไรท์รอส่องเม้นส่องเเทกอยู่ อย่าลืมติดเเฮทเเทค #ดบบสายเหลือง ในทวิตนะคะรอส่องอยู่มาเม้ามอยคุยกันได้ในเเอคทวิตไรท์  Chen_meiji  คือเป็นอซอด้วย5555
    ไรท์อาจจะใช้ภาษาไม่ค่อยสวยนะคะขอโทษด้วยจะปรับปรุง♡
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×