ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Ep.19 ที่นี่คือ... (V.2 100%)
Ep.19 ที่นี่คือ...
โชคดีจัง หลังจากต้องผ่านเหตุเฉียดตายมาหลายต่อหลายครั้งในที่สุดผมก็ได้เจอคนในถ้ำมืดๆแห่งนี้ซะที
แต่ว่าก็ว่าเถอะ เมื่อตะกี้นี้ผมนึกว่าตัวเองจะต้องตายซะแล้วสิ!!! หลังจากหันกลับไปมองอีกรอบผมก็ได้เห็นเหวลึกอันดำมืดที่ทอดยาวไปตลอดแนว และภาพของครีปเปอร์ที่ชะโงกหน้าลงไปมองตัวเหวสลับกับพวกผมนั้นช่างช่วยให้รู้สึกอุ่นใจนัก เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สามารถกระโดดข้ามมาได้ตามที่โมลบอกเอาไว้
หลังจากตรวจเช็คดูแล้วว่า่าทุกอย่างเรียบร้อยดีผมและกลุ่มสัตว์เลี้ยงจึงเริ่มเดินทางต่อโดยมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน... ฟรีโอ้ เด็กหนุ่มปริศนาที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้เมื่อสักครู่นี้...
#ถ้ำใต้ดิน
[ กึกๆๆ... ]
เสียงก้าวเดินดังสะท้อนไปมาภายในโพรงถ้ำแคบๆจนฟังดุเหมือนเสียงฝีเท้าของคนนับสิบ หากแต่ความจริงแล้วเสียงฝีเท้านั้นเป็นของคนเพียงสองคนที่กำลังเดินลึกลงไปภายในพื้นโลกตามทางเดินที่ถ้ำแห่งนี้จะพาไป
"แหม... ดูจากแรงกระโดดเมื่อตะกี้นี้ไม่บอกผมคงไม่เชื่อหรอกนะครับว่าคุณน่ะมี Lv. แค่ 1 น่ะ"
"แหะๆๆ เหรอครับ?"
"ครับ ถ้าจะโดให้ได้ไกลขนาดนั้นอย่างน้อยคงต้องมีระดับ 30+ หรือมีไอเทมที่ช่วยในการเพิ่มระยะกระโดดถึงจะทำได้ ในกรณีของคุณคงมีไอเทมที่ช่วยเพิ่มระยะกละโดดสินะ?"
"เอ่อ..."
ประโยคของฟรีโอ้ทำให้คิระค่อนข้างคิดหนัก เพราะเขาดันมีความสามารถเกินตัวจากพลังของตัวเขาอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อคิดๆดูแล้วเรื่องของตัวเขาจากอีกโลกหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาพูดกันง่ายๆ อีกทั้งความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นบ่งบอกกับเขาว่าเขาไม่ควรเผยความลับของตนออกมาให้มากเกินควร คิระจึงเลือกที่จะเงียบแทนการเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟังเหมือนที่เคยทำ
"จะว่าไป คุณลงมาทำอะไรที่นี่เหรอครับคิระ? ที่นี่ใช่ว่าจะได้เข้ามากันง่ายๆหรอกนะครับ"
"เอ่อ... ถ้าผมจะบอกว่าผมหลงทางเข้ามาที่นี่คุณจะเชื่อมั้ยละครับฟรีโอ้"
"เชื่อสิครับ!!! บ่อยครั้งไปที่ผู้เล่นจะหลงเข้ามาในนี้และหาทางกลับออกไปไม่ได้น่ะ"
"พูดเหมือนคุณเข้าออกที่นี่จนชินแล้วอย่างงั้นแหละ?"
"ฮะๆๆ จะว่าอย่างงั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ..."
เหมือนฟรีโอ้จะไม่ค่อยแปลกใจกับคำตอบของชายหนุ่มมากนักเพราะเขาเดินทางเข้าออกสถานที่แห่งนี้มาหลายต่อหลายครั้งจนรู้สึกคุ้นเคยกับมันแล้ว ทว่าเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจถึงเส้นทางต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลาของสถานที่แห่งนี้ได้
"จะว่าไปที่นี่คือที่ไหนกันแน่ครับ? ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำใต้ดินธรรมดาๆอย่างงั้นเหรอ?"
คำถามของชายหนุ่มทำให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทีประหลาดใจ ก่อนที่ฟรีโอ้จะเอ่ยตอบคำถามของคิระด้วยท่าทีเรียบง่ายแต่ชัดเจนจนน่าเหลือเชื่อ
"ที่นี่คือ [ เขามงกตมายา ] ที่ตั้งอยู่ในทวีปใหญ่ ทางเข้ามาสู่ที่นี่นั้นไม่แน่นอนเพราะทางวงกตจะเปลี่ยนแปลงตัวมันเองไปเรื่อยๆทำให้ไม่มีใครจดจำเส้นทางทีแน่นอนในการออกไปจากที่นี่ได้ เชื่อกันว่าทางวงกตนี้สามารถพานายไปได้ทุกๆที่ในโลก BTO แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดๆก็ตาม... ชั้นหมายถึงอย่างนั้นจริงๆนะ"
คำตอบของฟรีโอ้ช่วยไขความกระจ่างและข้อสงสัยให้กับคิระในเวลาเดียวกัน ที่ว่าทางเข้าไม่แน่นอนเพราะมันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นเขาพอจะเข้าใจได้ และที่หาทางออกกันไม่ได้เพราะเขาวงกตนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นเขาก็พอจะรับได้ ไปได้ทุกที่ในโลกของเกม BTO อันนี้ก็พอจะเข้าใจ แต่ทำไมต้องเน้นว่า 'ชั้นหมายถึงอย่างนั้นจริงๆนะ' ด้วยล่ะ? เอ๊ะเดี๋ยว... เหมือนเขาจะตกหล่นเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป...
"... นายบอกว่าที่นี่คือทวีปใหญ่อย่างงั้นเหรอ!!?!?"
"อืม ทำไมเหรอ?"
ยังจะมาทำไมอีก!!! ก็ตามจริงแล้วเขาน่าจะอยู่ที่เกาะเริ่มต้นนี่นา... แล้วไหงนอนอีกตื่นนึงมาโผล่บนทวีปใหญ่ได้ละโว้ยยยย~!!!
"ไหงนั่งบนหลังวัลวาทอสมาแค่ตื่นเดียวถึงมาโผล่ที่ทวีปใหญ่ได้ละเนี่ย... โอ้ย ชีวิตตุทำไมมันถึงผิดแผกแปลกแยกไปจากชาวบ้านเขาแบบนี้!!!"
"วัลวาทอสที่ว่านี่คือ 1 ใน 8 มังกรศักดิ์สิทธิ์ ใช่มั้ย?"
"อุ๊บ..."
คิระพลั้งปากหลุดชื่อของวัลวาทอสออกไป ทำให้ฟรีโอ้จ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาแปลกๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะยิ้มพลางดีดนิ้วเสียงดัลและชี้คิระพน้อมกับพูดในสิ่งที่ชายหนุ่มไม่อยากได้ยินมากที่สุดออกมา
"นายนี่เอง ชายที่ชื่อคิระในช่องข่าวที่สมาพันธ์ทั้ง 8 แย่งชิงกันที่เมืองเริ่มต้น และหายไปกลางท้องฟ้าท่ามกลางการปรากฏตัวของมังกรศักดิ์สิทธิ์ วัลวาทอส..."
ฟรีโอ้รับรู้ถึงตัวจริงและอดีตที่คิระจากมาได้เพราะชื่อของมังกรศักดิ์สิทธิ์เพียงคำเดียว ซึ่งนั่นทำให้คิระเกิดความระแวงว่าอีกฝ่ายอาจหมายจะจับตัวเขาเข้าสมาพันธ์เช้นเดียวกัน ซึ่งฟรีโอ้เองก็คาดเดาความคิดของอีกฝ่ายออกเขาจึงรีบโบกมือเป็นพัลวันพลางกล่าวต่อไปว่า
"เฮ้ๆ... ชั้นไม่ได้คิดจะเอานายเข้าสมาพันธ์หรอกน่า แล้วอีกอย่างชั้นเองก็โดนพวกสมาพันธ์ตามล่าอยู่เหมือนกัน"
"...ถูกตามล่า?"
[ กร้วม!!! / หงับ!! ]
[ กรี้ดดด~!!! / จ๊ากกก~!!! ]
เสียงกรี้ดอันคุ้นเคยของคิระดังก้องไปทั่วทั้งโพรงถ้ำจากสัมผัสของคมเขี้ยวที่งับเข้าที่ท่อนขา เคล้าด้วยเสียงร้องของฟรีโอ้ที่ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นพร้อมการปรากฏตัวของตัวอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเสื้อของอีกฝ่ายมาตั้งแต่ต้น
'เจ้านายไปหลุดเรื่องของท่านวัลวาทอสให้คนนอกรู้ได้ยังไง!?!'
'นายไปเล่าเรื่องที่กำลังโดนสมาพันธ์ ดิวอยด์ (The Void) ตามล่าให้คนนอกฟังได้ยังไงกัน!?!'
"ผมขอโทษ!!! แต่ช่วยเลิกงับขาผมก่อนได้มั้ยเลทน่า~!!!"
"ชั้นแค่บอกว่าโดนตามล่าแต่ยังไม่ได้บอกว่าโดนสมาพันธ์ไหนตามล่านะ อาร์โน่ (Arno)!!! โอ๊ย เลิกขย้ำชั้นสักทีจะได้มั้ย!!!"
คิระก้มหน้าลงพลางพยายามแงะเลทน่าออกจากท่อนขา ขณะที่ฟรีโอ้สาละวนอยู่กับการแงะสัตว์เลี้ยงนามอาร์โน่ที่ขบเคี้ยวฟันลงบนสีข้างของเขาอย่างมันเขี้ยวจนกระทั่งทั้งคู่จัดแจงแงะสัตว์เลี้ยงของพวกตนออกจากร่างกายได้เป็นผลสำเร็จ
"ไหนสัญญาว่าถ้าปล่อยออกมาเล่นแล้วจะเลิกงับผมยังไงล่ะ!?!"
'ก็ครั้งนี้เจ้านายพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดนี่นา!!!'
คิระส่งเสียงดุจิ้งจอกน้อยที่กำลังจ้องเขาตาแป๋วอย่างแน่แน่ว... หลังจากที่คิระถูกฟรีโอ้ดึงขึ้นมาจากตัวเหว สนอร์ สตีล ก็ขอกลับเข้าไปในเครื่อง CT เพราะรู้ซึ้งถึงความผิดที่พวกตนดันซ่าเข้าไปสู้กับครีปเปอร์เมื่อสักครู่นี้จนเกือบทำให้คิระต้องมาทิ้งชีวิตลง ณ หุบเหวใต้ดินแห่งนี้ ขณะที่โมลเองก็รู้ถึงความผิดของตนมันจึงเดินตามพวกคิระอยู่ห่างๆโดยไม่ปริปากบ่นอะไรทั้งสิ้น
"นี่ดีนะที่คิระเขาฟังเสียงของเธอไม่ออกน่ะ... ไม่งั้นเขาคงโดนพวกนั้นตามล่าด้วยอีกคนนึงแน่ๆ"
'เชอะ!!! ใช่ว่ามนุษย์จะมีความสามารถในการสื่อสารกับพวกเราได้ง่ายๆอย่างนั้นแหละ? ยิ่งเป็นเด็กน้อยที่มี Lv. แค่ 1 ด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางได้ยินสิ่งที่เราพูดหรอกน่า'
ฟรีโอ้แงะร่างของตัวอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายงูสีขาวยาวๆที่มีปีกขนาดใหญ่ 2 ข้างบริเวณกลางลำตัวและกรงเล็บทั้ง 4 คล้ายมังกรจีน ที่กำลังบ่นกระปอดกระแปดหลังจากโดนแงะออกมาจากร่างของฟรีโอ้อย่างไม่หยุดหย่อน
"แหม... จริงอยู่ที่เขาคงจะฟังที่คุณพูดไม่รุ้เรื่องแต่เล่นพูดออกมาตรงๆแบบนี้มันก็เกินไปหน่อยนะครับ"
'เป็นแค่มนุษย์อย่ามาทำกร่างสั่งมังกรอย่างข้านะ!!! แค่ข้าต้องลดตัวลงมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้านี่มันก็มากเกินพอแล้ว แล้วเจ้ายังบังอาจมาเสนอความคิดเห็นให้ข้าฟังอีกอย่างนั้นเหรอ!?!'
"วี หวี่ วี้ วี หวี่~*"
'อย่ามาทำท่าทีแบบนั้นใส่ข้านะ~!!!'
มังกรขาวตวาดเสียงแหวจนฟรีโอ้ต้องทำท่าอุดหูและผิวปากเป็นเชิงล้อเลียน ซึ่งนั่นกลับเป็นการกระตุ้นให้อาร์โน่ตรวดเสียงแหวหนักยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่เสียงของคิระจะดังขึ้นขัดบทสนทนาของทั้งคู่ขึ้นเสียก่อน
"เอ่อ บังเอิญผมเข้าใจที่เธอพูดทุกคำเลยละครับ... ว่าแต่ ดิวอยด์ ที่พวกคุณพูดถึงมันคืออะไรเหรอครับ?"
"... หา?"
[ ..... ]
บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบสงัดขึ้นมาในบัดดลเมื่อคิระดันเผยความลับเรื่องที่เขาสามารถคุยกับสัตว์อสูรได้ออกไป ทำให้ฟรีโอ้และอาร์โน่ค่อยๆหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่ค่อยเชื่อก่อนที่เสียงพูดคุยของใครบางคนขะดังขึ้นมาจากเงามืดในบริเวณโดยรอบราวกับเสียงของภูติพรายแห่งความมืด
"ว้า... พวกเราอุตส่าไม่ลงมือเพราะไม่อยากให้ความลับแพร่งพรายแล้วแท้ๆ"
"คิกๆๆ... แบบนี้พวกเราก็ลงมือได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรแล้วสินะ"
[ วูบๆๆๆ... ]
[ .....!?! ]
ร่างของกลุ่มคนจำนวนมกปรากฏขึ้นจากเงามืดในบริเวณโดยรอบและเข้าโอบล้อมร่างของฟรีโอ้และคิระเอาไว้อย่างเงียบเชียบ
"พวกเราดิวอยด์ ขอเชิญชวนพวกเจ้าไปสู่ความว่างเปล่าอันเป็นนิรันดร์..."
"พวกเจ้าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา... หรือยอมโดนกลืนกินสู่ความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้งกันหนอ?"
แว่วเสียงอันเงียบงันแต่เย็นเฉียบดั่งราตรีกาลและคมกริบยิ่งกว่าใบมีดดังขึ้นพร่อมการค้อมกายของกลุ่มคนจำนวนมากที่คิระไม่รู้สึกถึงความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ขณะที่ฟรีโอ้ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเครียดที่กลุ่มคนตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานี้...
"เรื่องนี้คิระไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นช่วยปล่อยเขาไปจะได้มั้ย?"
"คงไม่ได้หรอก เพราะเขารู้ถึงการคงอยู่ของพวกเราแล้ว"
"พวกนายเหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นคือเข้าร่วมกับพวกเรา... หรือยอมตายซะที่นี่เท่านั้น"
"....."
ฟรีโอ้ขยับกายเข้ามาบังร่างของคิระเอาไว้พลางแสดงทีท่าเป็นศัตรูกับกลุ่มคนชุดดำย่างชัดเจน ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย ขัดกับคิระที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเครียดพลางกุมศีรษะอย่างปลงตกในชีวิต
(นี่งานเข้าตูอีกแล้วใช่มั้ย...)
โชคดีจัง หลังจากต้องผ่านเหตุเฉียดตายมาหลายต่อหลายครั้งในที่สุดผมก็ได้เจอคนในถ้ำมืดๆแห่งนี้ซะที
แต่ว่าก็ว่าเถอะ เมื่อตะกี้นี้ผมนึกว่าตัวเองจะต้องตายซะแล้วสิ!!! หลังจากหันกลับไปมองอีกรอบผมก็ได้เห็นเหวลึกอันดำมืดที่ทอดยาวไปตลอดแนว และภาพของครีปเปอร์ที่ชะโงกหน้าลงไปมองตัวเหวสลับกับพวกผมนั้นช่างช่วยให้รู้สึกอุ่นใจนัก เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สามารถกระโดดข้ามมาได้ตามที่โมลบอกเอาไว้
หลังจากตรวจเช็คดูแล้วว่า่าทุกอย่างเรียบร้อยดีผมและกลุ่มสัตว์เลี้ยงจึงเริ่มเดินทางต่อโดยมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน... ฟรีโอ้ เด็กหนุ่มปริศนาที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้เมื่อสักครู่นี้...
-----
#ถ้ำใต้ดิน
[ กึกๆๆ... ]
เสียงก้าวเดินดังสะท้อนไปมาภายในโพรงถ้ำแคบๆจนฟังดุเหมือนเสียงฝีเท้าของคนนับสิบ หากแต่ความจริงแล้วเสียงฝีเท้านั้นเป็นของคนเพียงสองคนที่กำลังเดินลึกลงไปภายในพื้นโลกตามทางเดินที่ถ้ำแห่งนี้จะพาไป
"แหม... ดูจากแรงกระโดดเมื่อตะกี้นี้ไม่บอกผมคงไม่เชื่อหรอกนะครับว่าคุณน่ะมี Lv. แค่ 1 น่ะ"
"แหะๆๆ เหรอครับ?"
"ครับ ถ้าจะโดให้ได้ไกลขนาดนั้นอย่างน้อยคงต้องมีระดับ 30+ หรือมีไอเทมที่ช่วยในการเพิ่มระยะกระโดดถึงจะทำได้ ในกรณีของคุณคงมีไอเทมที่ช่วยเพิ่มระยะกละโดดสินะ?"
"เอ่อ..."
ประโยคของฟรีโอ้ทำให้คิระค่อนข้างคิดหนัก เพราะเขาดันมีความสามารถเกินตัวจากพลังของตัวเขาอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อคิดๆดูแล้วเรื่องของตัวเขาจากอีกโลกหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาพูดกันง่ายๆ อีกทั้งความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นบ่งบอกกับเขาว่าเขาไม่ควรเผยความลับของตนออกมาให้มากเกินควร คิระจึงเลือกที่จะเงียบแทนการเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟังเหมือนที่เคยทำ
"จะว่าไป คุณลงมาทำอะไรที่นี่เหรอครับคิระ? ที่นี่ใช่ว่าจะได้เข้ามากันง่ายๆหรอกนะครับ"
"เอ่อ... ถ้าผมจะบอกว่าผมหลงทางเข้ามาที่นี่คุณจะเชื่อมั้ยละครับฟรีโอ้"
"เชื่อสิครับ!!! บ่อยครั้งไปที่ผู้เล่นจะหลงเข้ามาในนี้และหาทางกลับออกไปไม่ได้น่ะ"
"พูดเหมือนคุณเข้าออกที่นี่จนชินแล้วอย่างงั้นแหละ?"
"ฮะๆๆ จะว่าอย่างงั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ..."
เหมือนฟรีโอ้จะไม่ค่อยแปลกใจกับคำตอบของชายหนุ่มมากนักเพราะเขาเดินทางเข้าออกสถานที่แห่งนี้มาหลายต่อหลายครั้งจนรู้สึกคุ้นเคยกับมันแล้ว ทว่าเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจถึงเส้นทางต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลาของสถานที่แห่งนี้ได้
"จะว่าไปที่นี่คือที่ไหนกันแน่ครับ? ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำใต้ดินธรรมดาๆอย่างงั้นเหรอ?"
คำถามของชายหนุ่มทำให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทีประหลาดใจ ก่อนที่ฟรีโอ้จะเอ่ยตอบคำถามของคิระด้วยท่าทีเรียบง่ายแต่ชัดเจนจนน่าเหลือเชื่อ
"ที่นี่คือ [ เขามงกตมายา ] ที่ตั้งอยู่ในทวีปใหญ่ ทางเข้ามาสู่ที่นี่นั้นไม่แน่นอนเพราะทางวงกตจะเปลี่ยนแปลงตัวมันเองไปเรื่อยๆทำให้ไม่มีใครจดจำเส้นทางทีแน่นอนในการออกไปจากที่นี่ได้ เชื่อกันว่าทางวงกตนี้สามารถพานายไปได้ทุกๆที่ในโลก BTO แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดๆก็ตาม... ชั้นหมายถึงอย่างนั้นจริงๆนะ"
คำตอบของฟรีโอ้ช่วยไขความกระจ่างและข้อสงสัยให้กับคิระในเวลาเดียวกัน ที่ว่าทางเข้าไม่แน่นอนเพราะมันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นเขาพอจะเข้าใจได้ และที่หาทางออกกันไม่ได้เพราะเขาวงกตนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้นเขาก็พอจะรับได้ ไปได้ทุกที่ในโลกของเกม BTO อันนี้ก็พอจะเข้าใจ แต่ทำไมต้องเน้นว่า 'ชั้นหมายถึงอย่างนั้นจริงๆนะ' ด้วยล่ะ? เอ๊ะเดี๋ยว... เหมือนเขาจะตกหล่นเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป...
"... นายบอกว่าที่นี่คือทวีปใหญ่อย่างงั้นเหรอ!!?!?"
"อืม ทำไมเหรอ?"
ยังจะมาทำไมอีก!!! ก็ตามจริงแล้วเขาน่าจะอยู่ที่เกาะเริ่มต้นนี่นา... แล้วไหงนอนอีกตื่นนึงมาโผล่บนทวีปใหญ่ได้ละโว้ยยยย~!!!
"ไหงนั่งบนหลังวัลวาทอสมาแค่ตื่นเดียวถึงมาโผล่ที่ทวีปใหญ่ได้ละเนี่ย... โอ้ย ชีวิตตุทำไมมันถึงผิดแผกแปลกแยกไปจากชาวบ้านเขาแบบนี้!!!"
"วัลวาทอสที่ว่านี่คือ 1 ใน 8 มังกรศักดิ์สิทธิ์ ใช่มั้ย?"
"อุ๊บ..."
คิระพลั้งปากหลุดชื่อของวัลวาทอสออกไป ทำให้ฟรีโอ้จ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาแปลกๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะยิ้มพลางดีดนิ้วเสียงดัลและชี้คิระพน้อมกับพูดในสิ่งที่ชายหนุ่มไม่อยากได้ยินมากที่สุดออกมา
"นายนี่เอง ชายที่ชื่อคิระในช่องข่าวที่สมาพันธ์ทั้ง 8 แย่งชิงกันที่เมืองเริ่มต้น และหายไปกลางท้องฟ้าท่ามกลางการปรากฏตัวของมังกรศักดิ์สิทธิ์ วัลวาทอส..."
ฟรีโอ้รับรู้ถึงตัวจริงและอดีตที่คิระจากมาได้เพราะชื่อของมังกรศักดิ์สิทธิ์เพียงคำเดียว ซึ่งนั่นทำให้คิระเกิดความระแวงว่าอีกฝ่ายอาจหมายจะจับตัวเขาเข้าสมาพันธ์เช้นเดียวกัน ซึ่งฟรีโอ้เองก็คาดเดาความคิดของอีกฝ่ายออกเขาจึงรีบโบกมือเป็นพัลวันพลางกล่าวต่อไปว่า
"เฮ้ๆ... ชั้นไม่ได้คิดจะเอานายเข้าสมาพันธ์หรอกน่า แล้วอีกอย่างชั้นเองก็โดนพวกสมาพันธ์ตามล่าอยู่เหมือนกัน"
"...ถูกตามล่า?"
[ กร้วม!!! / หงับ!! ]
[ กรี้ดดด~!!! / จ๊ากกก~!!! ]
เสียงกรี้ดอันคุ้นเคยของคิระดังก้องไปทั่วทั้งโพรงถ้ำจากสัมผัสของคมเขี้ยวที่งับเข้าที่ท่อนขา เคล้าด้วยเสียงร้องของฟรีโอ้ที่ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นพร้อมการปรากฏตัวของตัวอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเสื้อของอีกฝ่ายมาตั้งแต่ต้น
'เจ้านายไปหลุดเรื่องของท่านวัลวาทอสให้คนนอกรู้ได้ยังไง!?!'
'นายไปเล่าเรื่องที่กำลังโดนสมาพันธ์ ดิวอยด์ (The Void) ตามล่าให้คนนอกฟังได้ยังไงกัน!?!'
"ผมขอโทษ!!! แต่ช่วยเลิกงับขาผมก่อนได้มั้ยเลทน่า~!!!"
"ชั้นแค่บอกว่าโดนตามล่าแต่ยังไม่ได้บอกว่าโดนสมาพันธ์ไหนตามล่านะ อาร์โน่ (Arno)!!! โอ๊ย เลิกขย้ำชั้นสักทีจะได้มั้ย!!!"
คิระก้มหน้าลงพลางพยายามแงะเลทน่าออกจากท่อนขา ขณะที่ฟรีโอ้สาละวนอยู่กับการแงะสัตว์เลี้ยงนามอาร์โน่ที่ขบเคี้ยวฟันลงบนสีข้างของเขาอย่างมันเขี้ยวจนกระทั่งทั้งคู่จัดแจงแงะสัตว์เลี้ยงของพวกตนออกจากร่างกายได้เป็นผลสำเร็จ
"ไหนสัญญาว่าถ้าปล่อยออกมาเล่นแล้วจะเลิกงับผมยังไงล่ะ!?!"
'ก็ครั้งนี้เจ้านายพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดนี่นา!!!'
คิระส่งเสียงดุจิ้งจอกน้อยที่กำลังจ้องเขาตาแป๋วอย่างแน่แน่ว... หลังจากที่คิระถูกฟรีโอ้ดึงขึ้นมาจากตัวเหว สนอร์ สตีล ก็ขอกลับเข้าไปในเครื่อง CT เพราะรู้ซึ้งถึงความผิดที่พวกตนดันซ่าเข้าไปสู้กับครีปเปอร์เมื่อสักครู่นี้จนเกือบทำให้คิระต้องมาทิ้งชีวิตลง ณ หุบเหวใต้ดินแห่งนี้ ขณะที่โมลเองก็รู้ถึงความผิดของตนมันจึงเดินตามพวกคิระอยู่ห่างๆโดยไม่ปริปากบ่นอะไรทั้งสิ้น
"นี่ดีนะที่คิระเขาฟังเสียงของเธอไม่ออกน่ะ... ไม่งั้นเขาคงโดนพวกนั้นตามล่าด้วยอีกคนนึงแน่ๆ"
'เชอะ!!! ใช่ว่ามนุษย์จะมีความสามารถในการสื่อสารกับพวกเราได้ง่ายๆอย่างนั้นแหละ? ยิ่งเป็นเด็กน้อยที่มี Lv. แค่ 1 ด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางได้ยินสิ่งที่เราพูดหรอกน่า'
ฟรีโอ้แงะร่างของตัวอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายงูสีขาวยาวๆที่มีปีกขนาดใหญ่ 2 ข้างบริเวณกลางลำตัวและกรงเล็บทั้ง 4 คล้ายมังกรจีน ที่กำลังบ่นกระปอดกระแปดหลังจากโดนแงะออกมาจากร่างของฟรีโอ้อย่างไม่หยุดหย่อน
"แหม... จริงอยู่ที่เขาคงจะฟังที่คุณพูดไม่รุ้เรื่องแต่เล่นพูดออกมาตรงๆแบบนี้มันก็เกินไปหน่อยนะครับ"
'เป็นแค่มนุษย์อย่ามาทำกร่างสั่งมังกรอย่างข้านะ!!! แค่ข้าต้องลดตัวลงมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้านี่มันก็มากเกินพอแล้ว แล้วเจ้ายังบังอาจมาเสนอความคิดเห็นให้ข้าฟังอีกอย่างนั้นเหรอ!?!'
"วี หวี่ วี้ วี หวี่~*"
'อย่ามาทำท่าทีแบบนั้นใส่ข้านะ~!!!'
มังกรขาวตวาดเสียงแหวจนฟรีโอ้ต้องทำท่าอุดหูและผิวปากเป็นเชิงล้อเลียน ซึ่งนั่นกลับเป็นการกระตุ้นให้อาร์โน่ตรวดเสียงแหวหนักยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่เสียงของคิระจะดังขึ้นขัดบทสนทนาของทั้งคู่ขึ้นเสียก่อน
"เอ่อ บังเอิญผมเข้าใจที่เธอพูดทุกคำเลยละครับ... ว่าแต่ ดิวอยด์ ที่พวกคุณพูดถึงมันคืออะไรเหรอครับ?"
"... หา?"
[ ..... ]
บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบสงัดขึ้นมาในบัดดลเมื่อคิระดันเผยความลับเรื่องที่เขาสามารถคุยกับสัตว์อสูรได้ออกไป ทำให้ฟรีโอ้และอาร์โน่ค่อยๆหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่ค่อยเชื่อก่อนที่เสียงพูดคุยของใครบางคนขะดังขึ้นมาจากเงามืดในบริเวณโดยรอบราวกับเสียงของภูติพรายแห่งความมืด
"ว้า... พวกเราอุตส่าไม่ลงมือเพราะไม่อยากให้ความลับแพร่งพรายแล้วแท้ๆ"
"คิกๆๆ... แบบนี้พวกเราก็ลงมือได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรแล้วสินะ"
[ วูบๆๆๆ... ]
[ .....!?! ]
ร่างของกลุ่มคนจำนวนมกปรากฏขึ้นจากเงามืดในบริเวณโดยรอบและเข้าโอบล้อมร่างของฟรีโอ้และคิระเอาไว้อย่างเงียบเชียบ
"พวกเราดิวอยด์ ขอเชิญชวนพวกเจ้าไปสู่ความว่างเปล่าอันเป็นนิรันดร์..."
"พวกเจ้าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา... หรือยอมโดนกลืนกินสู่ความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้งกันหนอ?"
แว่วเสียงอันเงียบงันแต่เย็นเฉียบดั่งราตรีกาลและคมกริบยิ่งกว่าใบมีดดังขึ้นพร่อมการค้อมกายของกลุ่มคนจำนวนมากที่คิระไม่รู้สึกถึงความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ขณะที่ฟรีโอ้ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเครียดที่กลุ่มคนตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานี้...
"เรื่องนี้คิระไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นช่วยปล่อยเขาไปจะได้มั้ย?"
"คงไม่ได้หรอก เพราะเขารู้ถึงการคงอยู่ของพวกเราแล้ว"
"พวกนายเหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นคือเข้าร่วมกับพวกเรา... หรือยอมตายซะที่นี่เท่านั้น"
"....."
ฟรีโอ้ขยับกายเข้ามาบังร่างของคิระเอาไว้พลางแสดงทีท่าเป็นศัตรูกับกลุ่มคนชุดดำย่างชัดเจน ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย ขัดกับคิระที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเครียดพลางกุมศีรษะอย่างปลงตกในชีวิต
(นี่งานเข้าตูอีกแล้วใช่มั้ย...)
-----
[ โปรดติดตามตอนต่อไป ]
-----
[ โปรดติดตามตอนต่อไป ]
-----
ยิ่งอยากเขียนยิ่งหาเวลาเขียนยาก งานของ Writer ก็มากขึ้นทุกวี่ทุกวันทำให้หาเวลาเขียนได้ยากขึ้นไปอีก แถมตอนนี้ Writer ก็ง่วนกับนิยายเรื่องใหม่ในสังกัดด้วย
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมทั้งๆที่ Writer เองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเขียนถึงหันไปเปิดเรื่องใหม่? นั่นเป้นเพราะ Writer มีความเครียดสะสมจากที่ทำงานมากจึกอยากลองเขียนอะไรหวานๆออกมาปลอบประโลมจิตใจของตัวเองและละลายความเครียดลงไปกับการเขียน ดังนั้นถ้านิยาย BTO จะออกช้าบ้างก็ขอให้เข้าใจกันสักนิด
ช่วงนี้งานของ Writer เริ่มจะเข้าที่แล้วดังนั้นใน 1 อาทิตย์ Wriyer จะพยายามเขียนให้ได้อย่างน้อย 2 ตัน อาจจะเรื่องละ 2 ตอนหรือเรื่องละตอนตามแต่สะดวกแต่ writer จะเขียนให้ได้ 2 ตอนต่ออาทิตย์ ขอสัญญาด้วยเกียรติของนักเขียนเลย!!!
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมทั้งๆที่ Writer เองก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเขียนถึงหันไปเปิดเรื่องใหม่? นั่นเป้นเพราะ Writer มีความเครียดสะสมจากที่ทำงานมากจึกอยากลองเขียนอะไรหวานๆออกมาปลอบประโลมจิตใจของตัวเองและละลายความเครียดลงไปกับการเขียน ดังนั้นถ้านิยาย BTO จะออกช้าบ้างก็ขอให้เข้าใจกันสักนิด
ช่วงนี้งานของ Writer เริ่มจะเข้าที่แล้วดังนั้นใน 1 อาทิตย์ Wriyer จะพยายามเขียนให้ได้อย่างน้อย 2 ตัน อาจจะเรื่องละ 2 ตอนหรือเรื่องละตอนตามแต่สะดวกแต่ writer จะเขียนให้ได้ 2 ตอนต่ออาทิตย์ ขอสัญญาด้วยเกียรติของนักเขียนเลย!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น