คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Ep.18 สัตว์อสูรที่ต้องหนีและบุรุษปริศนา ( V.2 200%)
- Ep.18 สัตว์อสูรที่ต้องหนีและบุรุษปริศนา –
ไม่คิดเลยว่าชาตินี้ผมจะดีใจที่ได้เจอเจ้าตุ่นที่ขุดดินขึ้นมาสวัสดีสัตว์เลี้ยงของผมถึงขนาดนี้!!!
โมลขุดดินขนาดใหญ่เป็นโพรงให้พวกเรามุดลงไปจากนั้นก็ใช้ดินที่เหลืออยู่โบกปิดเส้นทางที่พวกเรามุดลงมาอย่างแน่นหนา ทำให้ฝูงสัตว์อสูรไม่สามารถตามพวกเราลงมาได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมากกว่าก็คือดินที่โมลขุดออกมานั้นดันมีสภาพกลายเป็นลูกบาศก์สี่เหลี่ยมขนาด 1x1 ฟุตที่สามารถเก็บเข้าไปในเครื่อง CT ได้... พอผมลองเอาดินพวกนั้นไปทาบกับกำแพงมันก็ติดหนึบกลายเป็นบล็อกบนกำแพงได้ด้วย
จำได้รางๆว่าในห้องฝึกฝนผมเคยอ่านเกี่ยวกับอาชีพสายนักประดิษฐ์ว่าพวกเขาสามารถนำวัตถุทุกชนิดทุกประเภทมาสร้างเป็นของอื่นๆได้ เห็นทีดินก้อนที่ผมได้มานี้ก็คงเป็นหนึ่งในของที่สามารถนำมาสร้างเป็นของอื่นๆได้ด้วยละมั้ง?
-----
#ถ้ำแก้วผลึก
[ กรรร... / แฮ่ซ์... ]
ฝูงสัตว์อสูรกรูกันเข้าไปยืนดูตัวพื้นที่ปิดสนิทดังเดิมอย่าโกรธแค้นเมื่อศัตรูที่พวกมันต้อนให้จนมุมกลับขุดดินหนีไปซะดื้อๆ ซึ่งนั่นสร้างความขุ่นเคืองให้กับพวกมันมากพอสมควร
[ กริ๊งๆ... ]
[ กี๊ซ? ]
เสียงโลหะกระทบกันเบาๆก้องกังวานภายในโพรงถ้ำอันมืดมิด พร้อมแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาจากบริเวณปากถ้ำที่ฝูงสัตว์อสูรกำลังออกันอยู่พร้อมการปรากฏกายของใครบางคนที่กำลังแสยะยิ้มบางๆหลังเห็นฝูงสัตว์อสูรจำนวนมากตรงหน้าเขา
“โอ๊ะโอ... ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอสัตว์อสูรเยอะแยะแบบนี้ในที่แบบนี้ได้”
‘รีบๆฆ่ามันแล้วไปกันต่อได้แล้ว เราไม่ชอบเลยนะที่ต้องมาอยู่ในที่มืดๆทึบๆแบบนี้น่ะ!!!’
น้ำเสียงราวกับได้ของเล่นที่ถูกใจของเด็กชายโดนแย้งด้วยเสียงเล็กๆที่ฟังดูขัดใจของเด็กสาว ก่อนที่เงาร่างนั้นจะชัดอาวุธข้างเอวขึ้นมาถือเอาไว้อย่างหลวมๆ
“ช่วยไม่ได้... งั้นลุยกันเถอะ!!!”
[ วาบ... เคร๊ง!!! ]
[ กรรรร!!! ]
มีดขนาดเล็กแปรสภาพกลายสภาพเป็นดาบญี่ปุ่นเล่มยาว ซึ่งนั่นเป็นการกระตุ้นให้ฝูงสัตว์อสูรพุ่งเข้าหาศัตรูใหม่ที่หาญกล้ามาสู้กับพวกมันเพียงลำพัง ซึ่งนับเป็นการกระทำที่โง่เขาเสียนี่กระไร...
“หึๆๆ... เพราะโง่แบบนี้ยังไงล่ะสัตว์อสูรอย่างพวกคุณถึงโดนไล่ฆ่าเพื่อเพิ่มระดับแบบนี้น่ะ”
[ วาบ!!! ]
[ …..!?! ]
แสงสว่างสาดส่องอยู่เพียงครู่ ก่อนที่บริเวณดังกล่าวจะเหลือเพียงความเงียบงันและความมืดมิดดังเดิมก่อนที่เหล่าสัตว์อสูรจะปรากฏตัวขึ้นมา...
.....
[ ฟู่ววว~… ]
[ ครึ่กๆๆๆๆ!!! ]
เสียงไอพ่นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมเสียงกรงเล็บตะกุยพื้นอย่างรวดเร็วของเจ้าตุ่นตัวเล็กที่จุดไอพ่นบนปีกของมันเพื่อบินวนเป็นวงกลมบนตัวกำแพงพลางตะกุยเล็บเพื่อขุดกำแพงเป็นโพรงขนาดใหญ่พอที่ชายหนุ่มและสัตว์เลี้ยงทั้งสามจะสามารถเดินเล่นได้อย่างสบายโดยไม่ต้องระวังว่าจะเปื้อนคราบโคลนหรือรอยเปื้อนดินแม้แต่น้อย เพราะเจ้าตุ่นตรงหน้าขัดพื้นและเพดานจนเรียบสนิทเพื่อเอาใจจิ้งจอกน้อยที่กำลังเอ่ยปากชมมันอย่างไม่หยุดหย่อนอยู่นั้นเอง
‘โมลสู้ๆ โมลสู้ๆ โมลเก่งที่สุดเลย เลทน่าชอบตุ่นเก่งๆแบบโมลนี่ละ~♥’
‘วะฮ่าๆๆๆ~* ด้วยความสามารถในการขุดระดับเทพของผม รับรองได้ว่ารอยขุดของผมจะไม่ทำให้ขนสวยๆของคุณเลทน่าต้องมีรอยเปื้อนอย่างแน่นอนครับผม~♥’
เมื่อได้ยินเสียงชมจากจิ้งจอกสาวเจ้าตุ่นจึงเร่งมือขุดจนบล็อกดินกระเด็นออกมาไม่หยุดหย่อนทว่าตัวพื้นและกำแพงกลับมีความเนี้ยบมากขึ้นชนิดที่เวลาเดินเหยียบดินพวกนี้ยังไม่เกิดรอยเท้าให้เห็นเลยเอ้า!!!
(ไอ้ตุ่นนี่ท่าจะหลงเลทน่าจริงๆว่ามะเจ้านาย?)
(อะ ฮะๆๆ...)
สตีลส่งกระแสจิตพูดคุยกับคิระพลางกระโดดแปะคบไฟที่ได้จากหีบสมบัติไปตามกำแพงขณะที่คิระส่งเสียงหัวเราะตอบเบาๆพลางไล่เก็บบล๊อกดินที่หล่นเกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้นอยู่เงียบๆเผื่อเขาจะได้มีโอกาสใช้มันในวันข้างหนา
'โอ๊ะ... สัมผัสแบบนี้แปลว่าเราใกล้จะถึงทางออกแล้วละครับ'
"ว้าวดีเลย!!! ผมชักเริ่มเบื่อกับการเดินในอุโมงแคบๆแบบนี้แล้วละครับ"
คิระรีบส่งเสียงร้องอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินคำว่าทางออก ทว่าโมลกลับส่งเสียงขัดขึ้นมาซะก่อน
'ถึงจะบอกว่าเป็นทางออกแต่เราก็ยังต้องเดินในอุโมงแคบๆอยู่ดีนั่นแหละลูกพี่ เพราะผมคงขุดขุ้นไปจนถึงพื้นโลกไม่ไหวหรอกนะครับเหนื่อยตายพอดี'
'งั้นไว้ตอนเราออกไปข้างนอกเราจะให้โมลมานอนพักในหางของเราละกันนะ'
'โอ้ว ขอบคุณมากครับเลทน่า~♥'
เจ้าตุ่นเร่งมือขุดต่อไปเพราะมันเองก็เริ่มเหนื่อยกับการจุดไอพ่นเพื่อเร่งความเร็วในการขุดและการตกแต่งพื้นรวมไปถึงตัวกำแพงไม่ให้มีฝุ่นนั้นก็ยิ่งทำให้มันเหนื่อยมากขึ้นไปอีก แต่เพื่อจิ้งจอกสาวที่กำลังส่งเสียงเชียร์มันอยู่ข้างหลังมันจึงต้องกัดฟันทนต่อไป
ทางด้านเลทน่าเองก้รุ้ว่าเจ้าตุ่นคงพยายามฝืนร่างกายเพื่อเอาใจเธอ แม้เธอจะตั้งใจหลอกอีกฝ่ายให้ช่วยเหลือเจ้านาย แต่ลึกๆแล้วเธอเองก็ไม่อยากจะทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเหนื่อยเธอจึงไม่ลังเลที่จะขอให้เจ้าตุ่นพักสักเล็กน้อยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเจ้าตุ่นจะได้ช่วยขุดดินพาพวกเธอหนีได้
[ ครึ่กๆๆๆ... กึ้ง!!! ]
[ แกร่กๆๆ ]
เสียงกำแพงหินพังทลายเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้พวกเขาทะลุออกมายังเส้นทางที่ต่างไปจากเดิม โพรงถ้ำกว้างขวางที่เต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิวเบาๆอันเป็นสัญญาณว่าถ้ำแห่งนี้มีลมพัดผ่านอันเป็นสัญญาณแสดงถึงทางออกไปจากถ้ำแห่งนี้นั่นเอง
"โอ้~!!! ใต้ดินมีโพรงใหญ่ๆแบบนี้จริงๆด้วยเหรอเนี่ย!?! นึกว่ามีจริงๆแต่ในทีวีซะอีก!!!"
คิระที่ได้ห็นโพรงถ้ำมืดๆใหญ่ๆก็อดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นไม่ได้ เพราะเขาเคยได้ยินมาจากสารคดีว่ามีโพรงถ้ำใต้ดินแบบนี้ไม่ใช่จะพบเจอกันได้ง่ายๆ ดังนั้นการที่เขาได้มาเห็นมันด้วยตาของตัวเองแบบนี้จึงถือเป็นเรื่องดีสำหรับชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย
'จากตรงนี้ถ้าผเดินตามทางไปเรื่อยๆผมจำได้ว่าจะเจอผรางรถไฟที่พาพวกลูกพี่กลับขึ้นไปเจอกับรางรถไฟได้... แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยมากขอพักสักนิดก็แล้วกันนะครับ'
'งั้นเดี๋ยวเราอุ้มโมลไปเอง'
[ หมับ!!! / อะจ๊าย~!?! ]
ร่างของเจ้าตุ่นถูกหางทั้ง 9 ของเลทน่ายกขึ้นจากพื้นและพันยึดร่างของมันเอาไว้กับปุยหางนุ่มๆเหล่านั้น ทำให้โมลรู้สึกทั้งเสียวทั้งนุ่มสบายไปในเวลาเดียวกัน
'คะ คุ คุณเลทน่าคร้าบ ปล่อยผมลงเถอะนั่งพักแปบเดียวเดี๋ยวผมก็ลุกได้แล้ว~!!!'
'เราบอกแล้วไงว่าถ้าขุดออกมาได้จะให้โมลนอนพักในหางเราน่ะ ยังไงตอนนี้ก็นอนไปก่อนเถอะน้า'
แม้จะรู้สึกอายที่โดนสาวที่ชอบจับอุ้ม แต่เจ้าตุ่นเองก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะขัดขืนมันจึงยอมนอนหางฟูๆนุ่มๆของเลทน่าพลางบอกทางให้กับคิระที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเป็นระยะๆไป...
.....
( 10 นาทีผ่านไป )
[ แฮ่กๆๆ... ]
ร่างของชายหนุ่มที่กำลังนอนหมดสภาพอยู่บนตัวพื้นทำให้สัตว์ทั้งสี่ที่จ้องมองอยู่รอบๆต้องส่ายหน้าด้วยความระอาเมื่อคิระที่ปีนป่ายไปตามพื้นขรุขระกลับนอนหมดสภาพเอาง่ายๆต่างกับตอนที่วิ่งหนีราชาไบซันที่ไม่ว่าเขาจะวิ่งหนีเป็นระยะเวลานานก้ยังไม่มีความรู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
"แฮ่กๆๆ... แปลกจัง... ที่ตอนวิ่งหนีราชาไบซันเรายังไม่รู้สึกเหนื่อยขนาดนี้เลยนี่หว่า..."
'... ไหงเจ้านายตูถึงดูน่าสมเพชอย่างงี้ว้า'
'เงียบปากไปเลยไอ้ลิงปากเสีย!!! เจ้านายขาถ้าเหนื่อยก็พักก่อนนะคะเดี๋ยวหนูลาดตระเวนแถวนี้รอเจ้านายหายเหนื่อยก็ได้ ดีมั้ยคะ?'
'มีผมไปกับเลทน่าด้วยลูกพี่ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าฉุกเฉินเดี๋ยวผมขุดดินพาคุณเลทน่าหนีให้เอง'
'Zzzz~*'
เลทน่าและโมลเสนอตัวจะไปเดินสำรวจบริเวณรอบๆให้ แต่คิระไม่อยากปล่อยให้จิ้งจอกน้อยและเจ้าตุ่นอยู่ห่างกาย ชายหนุ่มจึงสั่งให้ทั้งคู่อยู่ข้างๆร่างของตนและนั่งพักเหนื่อยสักพักจนหายเหนื่อย ก่อนที่คิระจะลุกขึ้นยืนผเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อ ทว่าในตอนนั้นเองที่เสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากในเงามืดพร้อมกับสนอร์ที่ยกหัวขึ้นและจ้องไปยังแหล่งกำเนิดเสียงด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น
[ ครืดๆๆ... ]
[ ..... ]
เสียงเหมือนวัตถุบางอย่างลากมาตามตัวพื้นทำให้พวกคิระต้องหันกลับไปมองยังต้นกำเนิดเสียงพลางส่องไฟฉายไปยังทิศทางดังกล่า วก่อนที่ภาพของสัตว์อสูรที่มีร่างกายสีเขียวสดจะปรากฏกายขึ้นพร้อมสีหน้าที่ซีดเผือดของโมล
- สัตว์อสูรทั่วไป ครีปเปอร์ Lv. 37 Rank C เตรียมจู่โจม -
สัตว์อสูรที่ชื่อครีปเปอร์นั้นมีรุปร่างคล้ายกับเหล่าสัตว์อสูรบล๊อกที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ ทว่าทั่วทั้งร่างของมันนั้นกลับมีสีเขียวทั่วทั้งตัว ขาสั้นๆทั้ง 4 กำลังค่อยๆขยับลากร่างกายที่ดูไม่สมส่วนนั้นเข้ามาใกล้ๆร่างของพวกคิระด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกซึ่งไม่ชวนให้ศัตรูของมันสัมผัสถึงภัยอันตรายเลยแม้แต่น้อย
"สัตว์อสูรเหรอ? สนอร์ เลทน่า สตีลช่วยดูรอบๆให้ทีครับว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นอีกรึเปล่า? ถ้ามันมาตัวเดียวเดี๋ยวพวกเราช่วยกันจัดการมันเอาประสบการณ์กันดีกว่านะครับ"
คิระที่รู้สึกเสียดายเพราะสัตว์อสูรบล๊อกซอมบี้ที่เขาสู้ด้วยก่อนหน้านี้น่าจะให้ค่าประสบการณ์ไม่น้อย แต่ชายหนุ่มก็ต้องทิ้งการต่อสู้ออกมากลางคันเพราะศัตรูดันมีกำลังเสริมมาช่วย ดังนั้นถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะเก็บค่าประสบการรืให้ตัวเองสักหน่อย ไม่งั้นระดับของเขาคงได้ค้างอยู่ที่ระดับ 1 ไปตลอดแหงๆ...
'ดูรอบๆแล้วไม่เห็นสัตว์อสูรอื่นว่ะเจ้านาย แต่...'
'เราไม่ได้ยินเสียงสัตว์อสูรอื่นๆเลยนะ แต่ว่า...'
'ไม่รู้สิ... ข้าสัมผัสได้ว่าไอ้เขียวนี่มันอันตรายพิกล...'
"หา?"
คิระสัมผัสได้ว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงของเขามีท่าทางหวาดกลัวเจ้าตัวสีเขียวที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างชัดเจน ก่อนที่โมลจะโผล่หัวออกมาจากหางของเลทน่าอย่างร้อนรนและตะโกนใส่ชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองสัตว์อสูรสีเขียวตรงหน้าด้วยความสับสน
'ลูกพี่!!! รีบหนีไปเร็วเขาลุกพี่จะสู้กับไอ้ตัวนี้ไม่ได้นะ!!!'
"เอ๋? ทำไมละครับ?"
'ครีบเปอร์น่ะเป็นสัตว์อสูรที่ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าสู้กับมันเพระามันมีทักษะระเบิดตัวเองน่ะสิ!!!'
"ถ้าแค่ระเบิดตัวเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ? ถ้าเรามีโล่ดีๆเอาไว้ป้องกันตอนมันระเบิดตัวเองก็น่าจะช่วยได้อยู่นะผมว่า"
คิระกล่าวแย้งกะบเจ้าตุ่นพลายหยิบโล่เหล็กที่เขาใช้สู้กับบล๊อกซอมบี้ขึ้นมาดู เพราะเมื่อครู่นี้เขาสามารถใช้โล่รับการโจตีของอีกฝ่ายเอาไว้ได้โดยไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อยทำให้เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของโล่ในมืออยู่พอสมควร แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าและตะโกนตอ่ไปอย่างร้อนรน
'ครีปเปอร์เวลาระเบิดตัวเองจะเปลี่ยนพลังชีวิตของตัวเองให้กลายเป็นพลังโจมตี โดยจะคำนวนที่พลังชีวิตสูงสุด X3 ดังนั้นต่อให้ลุกพี่มีโล่ดีแต่ลูกพี่คงทนรับ Damage 10000+ ไม่ได้หรอกเชื่อผมเถอะ!!!'
"หา!?! ว่ายังไงนะครับ!!!"
คราวนี้เป้นทีของคิระที่แสดงสีหน้าซีดเซียวออมาซะเอง เพราะต่อให้โล่ของเขามีพลังป้องกันดีเลิศยังไงก็คงไม่อาจทนรับพลังโจมตี 10000+ ได้อย่างแน่นอน แถมพลังชีวิตจริงๆของเขายังมีแค่ 500 ซะด้วย!!!
"มีคำแนะนำในการสู้กับไอ้ตัวนี้รึเปล่าครับโมล?"
'ชั้นเคยเห็นมนุษย์สู้กับไอ้ตัวนี้แค่ไม่กี่ครั้งนะ เพราะส่วนมากใครเห็นเจ้านี่ก็วิ่งหนีป่าราบกันหมด...'
"แหงะ... แล้วคนที่สู้เค้าทำยังไงกันละครับ?"
'ส่วนมากถ้าไม่วางกับดักให้มันติดอยู่กับที่ก็ใช้การโจมตีระยะไกล หรือไม่ก็โจมตีมันให้ตายเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อะนะ เพราะถ้าเข้าไปใกล้ๆมันเกิน 3 วินาทีมันจะระเบิดตัวเอง ซึ่งความแรงของมันแรงแค่ไหนชั้นไม่รุ้เพราะชั้นมุดดินหนีตลอด...
"....."
คำตอบของโมลทำเอาคิระถึงกับเครียดจัดกันเลยทีเดียว... แล้วไอ้คนเลเวล 1 แบบเขาจะไปมีปัญญาฆ่าอีกฝ่ายใน 3 วิได้ยังไง!?! เรื่องโจมตีไกลก็ไม่ต้องพูดถึงเพราัะเขาไม่มีอาวุธอะไรเลยนอกจากของที่เปิดได้จากหีบสมบัติเมื่อตะกี้นี้!!!
"ดูๆไปแล้วอีกฝ่ายก้ไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ ถ้ายังไงเรารีบหนีกันดีกว่านะครับ"
คิระเก็บโล่เข้าไปในเครื่องและเตรียมเดินหนีเจ้าตัวประหลาดสีเขียวนั่น ทว่าเสียงร้องตะโกนของสตีลกลับทำให้เขาแทบสะดุดก้อนหินแถวนั้นจนหัวทิ่มพื้น
'หนีให้โง่เดะ!!! ได้ยินแบบนี้แปลว่าการโจมตีระยะไกลใช้ได้ผลงั้นตูขอสักทีเถอะ!!!'
'งั้นเราเอาด้วยคน!!!'
'ข้าด้วย...'
"ไหงจู่ๆถึงคึกอยากจะสุ้ขึ้นมาพร้อมๆกันซะอย่างงันละคร้าบ~!?!"
เป็นเพราะสัญชาติญาณระวังภัยหรืออะไรก็ไม่รู้ทำให้สัตว์เลี้ยงทั้ง 3 ของคิระเกิดบ้าอยากสู้ขึ้นมาซะดื้อๆจนเจ้าของอย่างเขาปรับอารมณ์ตามไม่ทัน ขณะที่จิ้งจอกน้อย ลิงเกรียน และมังกรขี้เซา กระจายตัวเข้าโอบล้อมสัตว์อสูรครีปเปอร์เอาไว้จากทั้ง 3 ทิศในเวลาอันสั้น
[ กิ๊ซ? ]
เมื่อโดนล้อม เจ้าสัตว์ประหลาดเขียวจึงหันซ้ายหันขวาไปมองศัตรูของมันด้วยความสับสน ก่อนที่สตีลจะเปิดฉากโจมตีก่อนใครเพื่อน!!!
[ ป๊อก!!! ]
- Damage 12 -
[ ..... / ..... ]
ก้อนหินขนาดเล็กลอยเข้ากระทบศีรษะของครีปเปอร์เสียงดังฟังชัดพร้อมตัวเลขความเสียหายอันน้อยนิดจนคิระได้แต่ยืนจ้องตัวเลขนั้นกระเด้งไปกับพื้นเล้กน้อยก่อนจะจางหายไป ขณะที่เจ้าจ๋อเกาหัวตัวเองแก้เขิน...
'ก็ข้ายังไม่มีท่าโจมตีระยะไกลนี่หว่า... จ้องกันแบบนั้นข้าเขินนะเฟ้ย...'
"....."
'ไม่มีแล้วจะไปโจมตีมันหาพระแสงอะไรละ(โว้ย)...' ชายหนุ่มได้แต่แอบคิดอยู่ภายในใจขณะที่ครีปเปอร์หันไปมองเจ้าจ๋อด้วยแววตากลวงๆของมันและย่างสุขุมเข้าไปหาศัตรูของมันอย่างช้าๆ
'มัวแต่สนใจลิงจนเมินมังกรอย่างข้ารึ? โอหัง!!!'
[ Fire Breath!!! ]
[ ฟู่ววว!!! ]
มังกรตัวน้อยพ่นเปลวไฟขนาดใหญ่ที่ผิดกับขนาดตัวออกมาจนตัวถ้ำสว่างจ้าขึ้นมาในชั่วพริบตา ก่อนที่ตัวเลขความเสียหายอันเหลือเชื่อจะพุ่งออกมาจากร่างของสัตว์อสูรสีเขียวตรงหน้า
- Damage 344 (Element Critical) -
[ กี๊ซซซ!!! ]
[ เงอะ!?! ]
ตัวเลขความเสียหายพุ่งขึ้นมาท่ามกลางเสียงกรีดร้องของอีกฝ่ายเมื่อเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นบนร่างของศัตรู ทว่าเลทน่าที่รอท่าอยู่ก่อนแล้วก็รีบกระโจนออกไปโจมตีใส่อีกฝ่ายเพือ่ไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนๆของเธอเช่นกัน
'ร้องตอนนี้ยังเร็วเกินไป ลองชิมท่านี้ของชั้นดูหน่อยเถอะ!!! เกาอัสนีกัมปนาท!!!'
'อัสนีเหรอ!?! หยุดก่อนครับคุณเลทน่า!!!'
เจ้าตุ่นที่มุดอยู่ในหางของจิ้งจอกสาวรีบส่งเสียงร้องห้าม ทว่าสายฟาทั้ง 9 สายนั้นพุ่งออกไปจากปลายหางทั้ง 9 ของเลทน่าเสียก่อนแล้ว
[ Shock Spark (X9)!!! ]
[ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆ~!!! ]
เสียงสายฟ้าฟาดใส่ร่างของครีปเปอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 9 ครั้งท่ามกลางสีหน้าที่ซีดเผือดของโมลที่คิระไม่เข้าใจว่านั่นหมายถึงอะไร... จนกระทั่งเสียงจากระบบช่วยไขข้อข้องใจให้กับคิระและฝูงสัตว์อสูรของเขาจนเสียวสันหลังไปตามๆกัน
[ Evolution!!! ]
- สัตว์อสูร ครีปเปอร์ (Creeper) บรรลุเงื่อนไขในการพัฒนาร่างจึงพัฒนากลายเป็น ครีปเปอร์แห่งธาตุ (Elemental Creeper) ความสามารถในการระเบิดตัวเองพัฒนาจาก 3 เท่าของพลังชีวิตสูงสุดกลายเป้น 10 เท่าของพลังชีวิตสูงสุด และขยายรัศมีการระเบิดจาก 3 เมตร รอบตัวเป็น 10 เมตร รอบตัวค่ะ -
[ ..... / ..... / ..... ]
ร่างของสัตว์อสูรครีปเปอร์ดูตัีวเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อยทว่าในตอนนี้รอบๆร่างของมันกลับมีออร่าสีฟ้าแปลกๆห่อหุ้มอยู่รวมไปถึงประกายไฟฟ้าบางๆที่แล่นผ่านสนามพลังเหล่านั้น ซึ่งไม่ต้องบอกพวกคิระก็คิดได้เพียงคำเดียวว่า... "งานเข้า..."
[ กี๊ซซซ!!! ]
[ ฟ้าวๆๆ!!! ]
หนึ่งคนสี่สัตว์ต่างโกยหน้าตั้งเพื่อเอาชีวิตรอดในทันทีที่เสียงจากระบบสิ้นสุดลง... ขนาดหลังระเบิด 3 เท่ายังมีพลังทำลายถึง 10000+ แล้ว 10 เท่า... ไม่ต้องคิดสู้แล้วหนีดีกว่า!!!
"ทำไมไม่เตือนกันก่อนละครับว่าไอ้หมอนี่มันชอบไฟฟ้า~!!!"
'ก็ผมไม่คิดนี่น่าว่าการโจมตีของคุณเลทน่ามันจะเป็นไฟฟ้าน่ะ!!!'
'ไม่ต้องมาโบ้ยกันเลยนะโมล เค้าโกรธโมลแล้วนะ ฮึ...'
'แต่ถ้ามันยังคลานช้าๆอยู่แบบนั้นยังไงเราก็คง... เฮ้ย!!!'
[ ครืดดดด!!! ]
สตีลที่คิดว่าครีปเปอร์คงตามพวกเขาไม่ทันต้องสำลักอากาศออกมาเฮือกใหญ่เมื่อครีปเปอร์ที่พัฒนาร่างแล้วสามารถคลานได้ด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อจนเกือบจะตามพวกคิระที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดทันอยู่มะรอมมะร่อ จนชายหนุ่มต้องเร่งฝีเท้าขึ้นไปจนถึงขีดสุด!!!
"พัฒนาร่างแล้วไวขึ้นขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย!?!"
'ไม่ต้องห่วง!!! จุดอ่อนของครีปเปอร์คือมันไม่สามารถกระโดดไกลๆได้ ชั้นจำได้ว่าข้างหน้ามีเหวลึกอยู่ลูกพี่รีบวิ่งแล้วโดดข้ามเหวไปเลยก็น่าจะรอดนะ'
"โดดข้ามเหวเนี่ยนะ? แล้วเหวนั่นกว้างประมานเท่าไหร่ครับ?"
'ราวๆ 5 เมตรได้มั้งครับ...'
"ใครมันจะไปโดดได้ไกลขนาดนั้นละ (โว้ย!!!)"
'เลี้ยวซ้ายแยกหน้าก็ถึงเหวแล้วลูกพี่'
"เฮ้ย จะไม่ให้เวลาเตรียมใจกันเลยเรอะ!?!"
เมื่อถึงทางแยก คิระจึงได้เห็นหุบเหวลึกคั่นกลางระหว่างตัวถ้ำฝั่งนี้และฝั่งนั้นเอาไว้เป็นทางยาวเกือบๆ 5 เมตรอย่างที่โมลว่า... ทำให้ชายหนุ่มรีบรวบสัตว์เลี้ยงของเขารวมไปถึงเจ้าตุ่นขึ้นมากอดเอาไว้แนบอกและเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อเตรียมกระโดดข้ามหุบเหวไป
[ ย๊ากกกกก!!! ]
'เราจะต้องรอด... เราจะต้องรอด..! เราจะต้องรอด!!!' ชายหนุ่มพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจเพื่อเรียกความมั่นใจ พร้อมแววตาที่ฉายแววมุ่งมั่นออกมาอย่างแรงกล้าจนเหล่าสัตว์เลี้ยงที่จ้องมองเจ้านายของตนอยุ่ในอ้อมกอดนั้นสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของคิระได้อย่างชัดเจน
[ โอ๊วววว~!!! ]
[ ฟุ่บ... / กี๊ซ!?! ]
ร่างของคิระลอยคว้างอยู่ในอากาศเผยให้เห็นหุบเหวลึกที่มองไม่เห็นว่ามันทอยยาวลึกลงไปจนถึงที่ใด ขณะที่ดวงจันทร์กลมโตฉายแสงอยู่ ณ ท้องฟ้าเบื้องบนจากรอยแยกของหุบเหวที่เชื่อมต่อขึ้นไปจนถึงพื้นโลกดั่งรอยบากที่ใครบางคนกรีดผิวโลกจนเกิดหุวเหวแห่งนี้ขึ้นมา ทว่าชายหนุ่มกล้บไม่มีเวลาคิดอะไรมากนักเมื่อความเร็วในการพุ่งของเขาและระยะห่างเริ่มลดลงเรื่อยๆ...
'ไม่ได้... ความเร็วระดับนี้เราไปไม่ถึงแน่ๆ' ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าหากปล่อยเอาไว้ทั้งเขาและสัตว์เลี้ยงคงไม่แคล้วได้ร่วงลงเหวไปด้วยกันทั้งหมดแน่ๆ...
"ไม่ยอมแพ้หรอกน่้า!!! ย้ากกก~!!!"
[ ควับ!!! ]
[ กิ๊ว!?! / เจี๊ยก!!! / กรร!!?!? / กี๊!!!!! ]
ร่างของเลทน่า รวมไปถึงสัตว์ตัวอื่นๆถูกเขวี้ยงข้ามไปยังโพรงถ้ำฝั่งตรงข้ามและร่วงลงไปบนตัวพื้นอย่างปลอดภัย ขณะที่คิระเหยียดแขนของเขาขึ้นจนสุดหมายจะคว้าปากเหวเอาไว้เพื่อปีนขึ้นไปในภายหลัง
[ หมับ!!! กึก... ]
[ ฮู่ว... ]
มือของชายหนุ่มคว้าจับของเหวเอาไว้ได้อย่างทันท่วงทีทำให้คิระถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทว่าในตอนนั้นเอง...
[ เปรี๊ยะ... กร๊อบ!!! ]
[ .....!?! ]
ขอบผาที่คิระคว้าเอาไว้ไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของชายหนุ่มเอาไ้ว้ ทำให้ขอบเหวบริเวณนั้นเกิดรอยแตกร้าวและหลุดออกมาจากผนังหินพร้อมแววตาที่เบิกกว้างของชายหนุ่ม
'เอาน่า... อย่างน้อยพวกเลทน่าก็ปลอดภัยละนะ...' คิระหลับตาลงด้วยสีหน้าโล่งอกเมื่อคิดได้ว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงของเขาข้ามผ่านตัวเหวไปได้อย่าปลอดภัย ทำให้ชายหนุ่มไม่มีความกังวลอะไรหากต้องตายลงในที่แบบนี้... อย่างน้อยเขาจะได้ลองสัมผัสดูว่าการตกเหวตายมันรู้สึกยังไงละนะ
[ หมับ!!! / ...เอ๋? ]
มือของใครบางคนเอื้อมลงมาคว้าข้อมือของคิระเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่แววตาของเด็กหนุ่มจะสบตากับอีกฝ่ายที่กำลังส่งยิ้มกลับมาให้เขาอย่างเป็นมิตร
"เกือบไปแล้ว... โชคดีนะครับที่ผมผ่านมาเห็นคุณเข้าพอดี"
"อะ... เอ่อ..."
คิระไม่รุ้ว่าตนควรจะพูดอะไรดี... ก่อนที่อีกฝ่ายจะช่วยดึงร่างของเขากลับขึ้นไปบนปากเหวอย่างเชื่องช้าพลางเอ่ยทักทายกับเขาอย่างเป็นมิตรว่า
"ผมชื่อฟรีโอ้ครับยินดีที่ได้รู่จัก... แล้วคุณละครับ?"
เด็กหนุ่มที่ชื่อฟรีโอ้ยื่นมือให้กับคิระก่อนที่ชายหนุ่มจะยกมือสวนกลับไปพลางกล่าวตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเก้ๆกังๆว่า
"คิระ... ผมชื่อคิระครับ"
ฟรีโอ้ยิ้มกว้างและจับมือกับคิระอย่างเป็นมิตรท่ามกลางความสับสนของเด็กหนุ่มว่าตนควรจะทำเช่นไรดี...
-----
[ โปรดติดตามตอนต่อไป ]
-----
ยิ่งอยากเขียนมากเท่าไหร่งานที่เจ้านายมาเทให้ก็ยิ่งเยอะขึ้นๆ... วันนี้ก็เลยถือโอกาสเขียนให้หายอยากออกมา 200% ซะเลย!!!
(ไว้ว่างๆ Writer จะมานั่งแก้คำผิดและปรับปรุงจุดต่างๆให้ทีหลังน่ะ วันนี้รีบนอนเดะไปทำงานพรุ่งนี้สาย T^T)
ความคิดเห็น