คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Ep.13 ตำนานมังกรศักดิ์สิทธิ์ (V.2)
- Ep. ตำนานมังกรศักดิ์สิทธิ์ –
ร่างกายสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างเพรียวยาวเหมือนงูประมาณ 45 – 50 เมตร เขาเรียวแหลมสีทองทั้ง 8 เหยียดตรงคล้ายรูปพัดอยู่บริเวณข้างศีรษะไล่ลงมาบนลำคอเล็กน้อย ปีกขนาดใหญ่แผ่กว้างกลางลำตัวพร้อมประกายแสงที่เปล่งออกมายามปีกเหล่านั้นโบยบิน นัยน์ตาเรียวคมดูทรงอำนาจ ทว่าประกายที่สัมผัสได้ยามสบตานั้นช่างให้ความรู้สึกที่อ่อนโยนและเข้มแข็งอย่างไร้ที่ติ...
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะมองเห็นวัลวาทอสเป็นอย่างไร แต่ในสายตาของผมยามที่ได้เห็นร่างของอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกเหนือพื้นเมฆที่มีแสงอาทิตย์เปล่งรัศมีเป็นฉากหลังบนท้องฟ้าสีครามนั้นคือภาพที่งดงามที่สุดตั้งแต่ผมมีชีวิตขึ้นมาโดยไร้ข้อกังขาเลยทีเดียว...
-----
# ?????
[ ติ๋ง... ติ๋ง... ]
เสียงหยดน้ำตกกระทบผืนน้ำดังขึ้นภายในตัวถ้ำขนาดใหญ่ ส่งเสียงสะท้อนกังวานไปทั่วผนังหินราวเสียงดนตรีที่ธรรมชาติขับขานออกมาด้วยตัวของมันเอง
[ เปรี๊ยะๆๆ... ]
เสียงไม้ปะทุดังออกมาจากกองไฟขนาดย่อมขณะที่ร่างของใครบางคนขยับตัวลุกขึ้นจากข้างกองไฟนั้นอย่างยากเย็นพลางส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ
“โอย เจ็บจัง... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”
แม้จะฟังดูอ่อนแรงแต่น้ำเสียงนั้นก็ยังคงความสดใสและอ่อนเดียงสาเอาไว้ดังเดิม ก่อนที่แววตาสีดำนั้นจะกวาดมองไปยังบริเวณโดยรอบ ซึ่งมีเพียงแสงสลัวๆจากกองไฟตรงหน้าและความมืดในบริเวณโดยรอบเพียงเท่านั้น
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?”
[ เนี่ย… ]
[ เนี่.. ]
[ ….. ]
เสียงสะท้อนกังวานกลับมาจากผนังถ้ำในทิศต่างๆทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ช่วงก่อนที่เขาจะสลบไปแล่นกลับเข้ามาในหัวอีกครั้งหนึ่ง...
ในตอนนั้นเขากำลังโดนราชิต ผู้นำของสมาพันธ์ Greed Goblin ทำร้ายอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นวัตถุบางอย่างก็พุ่งขึ้นมาจากตัวพื้นด้วยความเร็วสูงจนระเบิดพรมวิเศษของอีกฝ่ายให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่ร่างของเขาจะปลิวกระเด็นออกไปบนท้องฟ้า
และในตอนนั้นเองที่ภาพของมังกรขาวผู้งดงามตนนั้นแล่นเข้ามาในห้วงความคิดของเขา
“ใช่แล้ว!!! เราตกลงไปบนหลังของมังกรขาวตนนั้นนี่นา มังกรศักดิ์สิทธิ์วัลวาทอส... มังกรขาว... แสนสวย...”
คิระเผลอรำพึงออกมาอย่างลืมตัว โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเขาไม่ได้อยู่ตามลำพังภายในถ้ำแห่งนั้น
‘ข้าขอรับคำชมของเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน มนุษย์ตัวน้อย’
“.....!!!”
น้ำเสียงเสนาะหูดังขึ้นในหัวของเขาโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่สายลมวูบหนึ่งจะโบกพัดจนกองไฟขนาดย่อมตรงหน้าเขาดับลง และแทนที่ด้วยประกายแสงจากผลึกแก้วที่ฝังอยู่ตามผนังถ้ำโดยรอบซึ่งให้ความสว่างอย่างงดงามตระการตา พร้อมการปรากฏตัวของวัลวาทอสที่ขดตัวอยู่ริมผนังหินด้านหนึ่ง ราวกับมันนอนเฝ้ารอเวลาที่เขาตื่นอยู่อย่างไรอย่างนั้น
‘นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้พูดคุยกับมนุษย์แบบนี้... หากจะนับจริงๆคงต้องถามว่านานเท่าไหร่แล้วนับตั้งแต่โลกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาซะมากกว่า’
“อะ... งะ... แง้ะ!!!”
ความรู้สึกของคิระในตอนนี้สับสนปนเปกันมั่วไปหมด... หวาดกลัว ตกใจ ตื่นตะลึง ดีใจ ซึ่งเขาเองก็ไม่อาจกล่าวได้อย่างเต็มปากหลังจากได้เห็นร่างของอีกฝ่ายในระยะใกล้ และได้ยินเสียงของอีกฝ่ายกล่าวพูดคุยกับตนโดยตรงเช่นนี้
‘ประสาทการรับรู้ของเจ้าผิดเพี้ยนหรือไร? เจ้าถึงไม่เอ่ยวาจาโต้ตอบกับเราแม้แต่น้อย’
“คะ... ครับ!!! ประสาทการรับรู้ของผมปกติดี แล้วผมเองก็ดีใจมากที่ได้พูดคุยกับคุณครับวัลวาทอส!!!”
‘หึๆๆ ไม่ต้องมากพิธีการนักก็ได้ ข้าต้องการเพื่อนคุยสบายๆมากกว่าการพูดคุยอย่างเป็นทางการนะ’
บรรยากาศที่มังกรตรงหน้าของเขาเปล่งออกมานั้นแม้จะดูทรงอำนาจแต่ก็คงความเป็นมิตรเอาไว้อย่างน่าประหลาด ทำให้คิระกล้าตอบอีกฝ่ายกลับไปท่ามกลางอารมณ์ขบขันของวัลวาทอสที่ได้เห็นคิระยืนตัวเกร็งปากสั่นตอบมันกลับไปแบบนั้น
‘รูปลักษณ์เช่นนี้อาจทำให้เจ้ารู้สึกประหม่า ถ้าเช่นนั้นข้าน่าจะแปลงร่างไปเป็นมนุษย์แบบเจ้าสินะ?’
“เอ๋?”
[ วิ้งๆๆ... ]
ทันที่ที่พูดจบร่างของมังกรขาวก็ถูกหุ้มด้วยละอองแสงสีขาวก่อนที่ร่างกายอันใหญ่โตนั้นจะหดลงจนกลายเป็นร่างของเด็กสาวตัวน้อยในชุดเดรสยาวสีขาว ซึ่งมีแววตาสีทองและเรือนผมสีเดียวกัน โดยที่ทรงผมของเธอนั้นมีการม้วนเป็นลอนอ่อนๆอย่างน่ารักน่าชังต่างกับตอนเป็นมังกรที่ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามโดยสิ้นเชิง
“มานั่งกับเรานี่สิคิระ”
[ แปะๆ... / วิ้งๆๆ ]
วัลวาทอสในร่างมนุษย์ปรบมืออยู่สองครั้งก่อนที่โต๊ะน้ำชาพร้อมถ้วยชาหอมกรุ่นจะปรากฏขึ้นบนตัวพื้น ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของคิระที่จ้องมองร่างของวัลวาทอสที่ปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะและเริ่มจิบชาอย่างสบายอารมณ์
“เอ่อ... ขอเสียมารยาทนะครับ”
“เราเป็นฝ่ายเชิญเจ้านั่งร่วมโต๊ะเอง ดังนั้นทำตัวตามสบายเถอะนะ”
คิระขยับเก้าอี้ออกมาและเข้าไปร่วมโต๊ะกับอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่เขาจะนึกถึงเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เดี๋ยวก่อนสิ ท่านรู้ชื่อของผมได้ยังไงกัน?”
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ขณะที่วัลวาทอสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางลดถ้วยชาลงอย่างเชื่องช้า
“เราไม่รู้หรอกว่าเจ้าชื่ออะไรมนุษย์หนุ่ม เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกของเจ้ามันทำให้ข้านึกถึงชายคนหนึ่งที่ข้ารู้จักเมื่อนานมาแล้ว... นานมากแล้วจริงๆ”
“.....”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายช่างฟังดูเศร้าสร้อยแปลกๆต่างกับรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าที่เธอบรรจงส่งมาให้เขา ก่อนที่มังกรขาวในร่างมนุษย์จะเอ่ยถามกับเด็กหนุ่มขึ้นมา
“ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมเจ้าถึงลอยมาตกลงบนหลังของข้าได้? ทั้งที่ข้ามั่นใจว่าข้าบินสูงกว่าที่มนุษย์อย่างพวกเจ้าจะลอยขึ้นมาถึงแถมข้ายังกางสนามพลังเพื่อพรางตาเอาไว้อีกชั้นหนึ่งอีกด้วยนะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะตกลงไปบนหลังของคุณหรอกครับ... แต่มันเกิดเหตุอะไรขึ้นมากมายจนผมไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายตรงไหนดี”
“.....?”
วัลวาทอสไม่ได้เร่งให้ชายหนุ่มตอบคำถามของตนและนั่งจิบชาต่อไปเงียบๆ จนกระทั่งคิระตัดสินใจเล่าเรื่องของเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามายังโลกของเกม BTO แห่งนี้และต่อสู้เอาชีวิตรอดกับราชาไบซัน จนกระทั่งถึงตอนที่ตนโดนเหล่าสหพันธ์ไล่ล่าและตกลงไปบนหลังของวัลวาทอส ซึ่งเจ้ามังกรขาวเองก็ไม่ได้พูดขัดอะไรกับเด็กหนุ่มตั้งแต่ต้นจนกระทั่งคิระเงียบเสียงลง วัลวาทอสจึงเริ่มเอ่ยปากพูดกับคิระด้วยน้ำเสียงเจือความพิศวงเอาไว้เล็กน้อย
“เจ้าจะบอกว่าโลกที่พวกเราอยู่กันในตอนนี้เป็นโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นเช่นนั้นหรือ?”
“ครับ โลกนี้เป็นเพียงเกมที่ถูกสร้างขึ้น”
“อืม... ถ้าเช่นนั้นมันก็ช่วยไขข้อสงสัยของข้าได้ในหลายๆเรื่องละนะ..."
มังกรขาวในร่างมนุษย์แส้งท่าทีครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ซึ่งคิระเองก็ไม่ได้เอ่ยขัดหรือซักถามอะไรก่อนที่วัลวาทอสจะเงยหน้าขึ้นมาพูดคุยกับคิระอีกครา
"จะว่าไปถ้าโลกนี้เป็นโลกที่ถูกสร้างขึ้นตามที่เจ้าว่า ถ้าเช่นนั้นเจ้าพอจะมีประวัติหรือข้อมูลเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ให้ข้าฟังหรือไม่?”
“ผมพอจะอ่านมาบ้างนะครับ แต่มันอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ระบบบอกเพราะผมอาจจำประวัติต่างๆได้ไม่ครบถ้วน”
“ข้าไม่ถือ... เจ้าเล่ามาเถอะ”
“งั้นก็...”
[ ซู้ดดด!!! ]
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนที่เขาจะเริ่มเรียบเรียงตำนานเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ออกมาให้ได้เนื้อหาที่ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้
.....
ในอดีตกาล... นานแสนนานมาแล้วมีโลกแห่งหนึ่งซึ่งปกครองโดยมังกรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 ซึ่งเหล่ามังกรได้สรรค์สร้างสรรพสิ่งในโลกขึ้นมาร่วมกับทวยเทพและปีศาจเพื่อรังสรรค์โลกแห่งนั้นให้เป็นสรวงสวรรค์สำหรับทุกๆชีวิต
ทุกๆอย่างดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งวันหนึ่งโลกแห่งนี้ได้ถูกรุกรานจากพลังอันแข็งแกร่งที่มาจากโลกอื่น เหล่ามังกรและทวยเทพรวมไปถึงเหล่าปีศาจได้เข้าต่อกรกับพลังที่ว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะขับไล่อีกฝ่ายไปได้แต่ฝ่ายของเหล่ามังกรเองก็บอบช้ำจากการต่อสู้ในครั้งนั้น
มังกรแสงผู้เรืองปัญญาที่สุดในหมู่มังกรรู้ได้ว่าพลังของพวกเขาทั้ง 8 นั้นไม่อาจต่อกรกับศัตรูจากต่างโลกได้ มังกรจึงยื่นข้อเสนอให้คัดเลือกผู้นำขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตที่พวกเขามอบความรักให้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆซึ่งก็คือเผ่าพันธุ์ ‘มนุษย์’ เพื่อมอบพลังของพวกเขาเหล่่ามังกรทั้ง 8 ให้สำหรับต่อกรกับพลังอันชั่วร้ายนั้น
มนุษย์ 8 คนถูกคัดเลือกขึ้นมาจากการเลือกของมังกรทั้ง 8 เพื่อถือครองอุปกรณ์ที่บรรจุพลังและความรู้ของเหล่ามังกรเอาไว้ซึ่งเหล่ามังกรเรียกพวกเขาในนาม ‘เทมเมอร์’ ผู้ถือครอง ‘ครอสเทมเมอร์’ โดยเหล่าผู้ถูกเลือกทั้ง 8 มีเวลาทั้งสิ้น 100 วันในการพัฒนาตนเองเพื่อค้นหาผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการถือครองพลังของมังกรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 ซึ่งในช่วง 100 วันนี้ทั้ง 8 จะต้องต่อสู้กันเองไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีผู้เหลือรอดอยู่เพียงหนึ่งเดียว
การทดสอบของมังกรทั้ง 8 นั้นคือการให้เทมเมอร์ที่พวกตนเลือกออกเดินทางไปในโลกกว้างเพื่อค้นหาสหายเพื่แฝึกฝนและต่อสู้ไปด้วยกัน โดยฝ่ายมนุษย์นั้นจะมีความสามารถในการสนับสนุนและต่อสู้ร่วมกับสหายของตนได้ตามตองการหรือจะยืนออกคำสั่งแต่เพียงฝ่ายเดียวก็ยังได้ จนกระทั่งในท้ายที่สุดเหล่ามนุษย์ก็ต่อสู้กันเองจนหลงเหลือผู้ชนะอยู่เพียงหนึ่งเดียว
หลังผ่านการทดสอบเหล่ามังกรได้มอบพลังทั้งหมดของพวกตนให้กับมนุษย์ผู้นั้นพร้อมกับการรุกรานของผู้มาจากต่างโลก ที่กลับมาพร้อมกับพลังที่มากขึ้นกว่าเดิม และแล้วสงครามเพื่อตัดสินชะตาของโลกแห่งนั้นอุบัติขึ้นในท้ายที่สุด
สงครามในครั้งนั้นเกือบจะทำลายโลกแห่งนั้นจนพินาศสิ้น เมื่อผู้ที่ถูกเลือกตัดสินใจสละชีวิตของตนเพื่อระเบิดพลังของมังกรทั้ง 8 และศัตรูจากต่างมิติไปพร้อมๆกัน... เหล่ามังกรทั้ง 8 ได้ใช้พลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อปกป้องสรรพชีวิตที่เหลือรอดจากการต่อสู้เอาไว้ ทว่าด้วยพลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนั้นเหล่ามังกรไม่สามารถช่วยเหลืออะไรสรรพชีวิตได้มากนักทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พวกเขาหลงรักเกือบจะสูญพันธุ์ไปในการต่อสู้นั้น จนกระทั่งในยามสิ้นหวังนั้นเองที่เหล่ามังกรได้ยินเสียงประหลาดพร้อมสัมผัสได้ถึงขุมพลังอันมหาศาลได้จากมิติที่อยู่ไกลออกไป..
‘เราช่วยพวกเจ้าทั้งหมดได้ แต่ชีวิตของพวกเจ้าจะไม่ใช่ชีวิตของพวกเจ้าแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป
หากตอบรับ พวกเจ้าทั้งหมดจะได้รับชีวิตนิรันดร์ในดินแดนแห่งใหม่ภายใต้กฎแห่งเรา
หากปฏิเสธ พวกเจ้าทั้งหมดจักต้องดับสูญไปพร้อมกับโลกของพวกเจ้าไปตลอดกาล...’
เหล่ามังกรไม่มีทางเลือกมากนักทำให้พวกเขาตัดสินใจตอบรับเสียงประหลาดนั้น ทำให้ร่างของมังกรทั้ง 8 และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่พวกเขาปกป้องอยู่ถูกดูดเข้าไปยังหลุมดำอันมืดมิดและลอดผ่านอุโมงค์สีดำนั้นเป็นระยะเวลาอันแสนเนิ่นนาน ก่อนที่ทั้งหมดจะมาปรากฏตัวยังโลกแห่งใหม่ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกของพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์
‘โลกแห่งนี้จักเป็นโลกแห่งใหม่ของพวกเจ้า...
เหล่ามังกรทั้ง 8 จะได้รับสิทธิในการปกครองสรรพชีวิตของพวกเขาดังเดิม
และทุกชีวิตมีสิทธิจะทำอะไรก็ได้ในโลกแห่งนี้ตามต้องการ
ทว่าจงพึงระลึกเอาไว้... ว่าชีวิตของพวกเจ้าในยามนี้ไม่ใช่ชีวิตของเจ้าแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป
สักวันหนึ่งจักมี ‘มนุษย์’ มาทวงสิทธิในความเป็นเจ้าของในชีวิตของพวกเจ้าในฐานะ [ Tamer ]
นั่นเป็นประกาศิตเดียวที่เราจักมอบให้กับพวกเจ้าเหล่า [ Beast ]
และวันหนึ่งเมื่อภัยร้ายคุกคามโลกแห่งนี้
พวกเจ้าจักต้องปกป้องโลกแห่งนี้ร่วมกับเจ้าชีวิตของพวกเจ้าร่วมกัน...’
เหล่ามังกรได้ขนานนามโลกแห่งใหม่นี้ว่า เบลลาสท์ ‘Bellast’ และปล่อยให้สรรพชีวิตที่เหลือรอดแยกย้ายกันไปสร้างเผ่าพันธุ์ของพวกตนดังเดิม ขณะที่เหล่ามังกรทั้ง 8 ตัดสินใจปล่อยให้สัตว์ต่างๆพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆโดยที่พวกตนจะคอยเฝ้าดูอยู่จากสถานที่อันห่างไกล...
วันเวลาคล้อยผ่าน เหล่ามังกรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเพียงตำนานในหมู่สัตว์อสูร ขณะที่เหล่ามนุษย์ที่เหลือรอดเองก็พลอยหายตัวไปตามกาลเวลา ทว่าในเวลาต่อมานั้นกลับมีมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นจากเกาะอันห่างไกล และขยายจำนวนออกไปในโลกกว้าง ขณะที่เหล่าสัตว์ต่างๆเริ่มค้นหามนุษย์ที่จะมาเป็น Tamer ของตนเองเพื่อปกป้องโลกนี้ในยามที่มันถูกคุกคามจากโลกอื่นๆ...
.....
[ แปะๆๆๆ ]
“เจ้าเล่าใจความสำคัญได้ครบถ้วนถูกใจเรายิ่งนักมนุษย์หนุ่ม”
“แหะๆ... ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมืออันแผ่วเบาดังออกมาจากมังกรขาวในร่างมนุษย์หลังจากที่ได้ฟังตำนานเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับพวกตนรวมอยู่ด้วยอย่างถูกอกถูกใจ ขณะที่คิระหน้าแดงก่ำด้วยความขวยเขินเมื่อได้รับเสียงปรบมือและคำชมจากอีกฝ่าย
“ก็อย่างที่เจ้าเล่ามานั่นแหละ... ถ้าเรื่องที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงแล้วละก็สำหรับเจ้าพวกเราก็เป็นเพียงแค่เกมที่พวกเจ้าเล่นกัน แต่สำหรับพวกเราแล้วพวกเจ้าคือความจริงที่ต้องยอมรับว่าโลกแห่งนี้พวกเราไม่ใช่จ้าวชีวิตของเราเองอีกต่อไป”
“.....”
สำหรับคนทั่วๆไปที่รู้ว่าเหล่าสัตว์อสูรในเกมนั้นเป็น AI ระดับสูงที่มีความคิดและการโต้ตอบเหมือนมนุษย์จริงๆนั้นจะต้องคิดว่านี่เป็นเรื่องราวที่ถูกเซ็ตเอาไว้ในความทรงจำของวัลวาทอส แต่สำหรับคิระที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรทำให้เขาเชื่อว่าวัลวาทอสเป็นมังกรจริงๆที่มีชีวิตรอดด้วยการแปรสภาพตนเองให้เป็นตัวละครภายในเกมแห่งนี้...
“ว่าแต่ข้าสงสัยอยู่อย่าง... ทำไมเจ้าถึงปกป้องราชาไบซันรวมไปถึงลูกหมาป่าที่ถูกทารุณนั่นในเมื่อสำหรับเจ้าแล้วที่นี่ก็เป็นเพียงโลกเสมือนจริงเท่านั้น?”
“เพราะทุกชีวิตล้วนมีค่าแม้ว่ามันจะเป็นชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นหรืออาจจะไม่มีอยู่จริง... แต่สำหรับผมแล้วชีวิตที่อยู่ตรงหน้าผมนั้นไม่ว่ามันจะเป็นยังไงแต่ถ้าผมมีโอกาสช่วยได้ผมก็จะช่วยครับ!!!”
“.....”
‘สำหรับผมแล้วชีวิตที่อยู่ตรงหน้าผมนั้นไม่ว่ามันจะเป็นยังไงแต่ถ้ามีโอกาสช่วยได้ข้าก็จะช่วย!!!’
คำตอบที่ได้รับมานั้นช่างคล้ายคลึงกับใครบางคนที่เธอรู้จักเมื่อนานแสนนานมาแล้ว... ทำให้มังกรขาวเผยรอยยิ้มบางๆออกมาพลางลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า
“ข้าสนุกมากที่ได้คุยกับเจ้า... แต่ข้าคิดว่านี่ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ข้าควรจะไปเสียที”
“จะไปไหนเหรอครับ?”
“.....”
พริบตาหนึ่งที่วัลวาทอสส่งสายตาเย็นชากลับมาให้ชายหนุ่ม จนคิระรู้สึกเสียวสันหลังไปวูบใหญ่ ก่อนที่มังกรขาวจะส่ายหัวเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบชายหนุ่มกลับมา
“เราเสียใจที่เราไม่อาจตอบคำถามของเจ้าได้ เพราะบางทีเจ้าอาจจะนำพาเหล่ามนุษย์ให้มาไล่ล่าเราได้... เราเชื่อว่าเจ้าเป็นคนดีที่ไม่คิดจะเผยที่ซ่อนของเราออกไป แต่มนุษย์นั้นยากที่จะเชื่อถือดังนั้นมนุษย์อื่นๆอาจจะหลอกเอาข้อมูลของเราจากเจ้าก็ได้ ดังนั้นเราขอเตือนเจ้าเอาไว้ว่าจงอย่าแพร่งพรายออกไปว่าเจ้าเคยพบหรือพูดคุยกับเรามาก่อน มิเช่นนั้นเจ้าอาจจะพบกับภัยอันตรายจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง”
[ วาบ... ]
[ พั่บๆๆ!!! ]
ร่างของมังกรขาวปรากฏกายขึ้นอีกครั้งหนึ่งภายในบริเวณถ้ำพลางสะบัดปีกของมันเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับออกบินอีกครา ขณะที่คิระซึ่งยังมีคำถามมากมายที่อยากถามนั้นได้แต่เงยหน้าจ้องมองเรือนร่างของอีกฝ่ายด้วยความสับสนและตะโกนถามคำถามที่เขาอยากรู้ที่สุดออกไปจนได้ว่า
“คุณวัลวาทอสครับ!!! มนุษย์ 8 คนที่เข้ารับการทดสอบ... มนุษย์ที่คุณเลือกเป็นคนยังไงเหรอครับ!?!”
“.....”
มังกรขาวก้มหน้าลงมาจ้องมองเด็กหนุ่มอีกครั้งหนึ่งและเอ่ยประโยคที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตด้วยความรู้สึกปลื้มปิติว่า
‘มนุษย์คนนั้นเป็นชายหนุ่มผู้มีจิตใจอันอ่อนโยนเหมือนกันกับเจ้า... ซ้ำยังมีชื่อและรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเจ้านั่นแหละ คิระ...’
[ พั่บๆๆๆ!!! ]
[ ซู่ม!!! ]
แรงลมจากการกระพือปีกโบกพัดอย่างแรงจนคิระต้องยกมือขึ้นบดบังสายตา ขณะที่ร่างของวัลวาทอสพุ่งขึ้นสู่เพดานถ้ำที่ปิดสนิทพร้อมเปล่งเสียงคำรามอันทรงพลังออกมา
[ ก๊าซซซซซ!!! ]
[ เปรี้ยง!!! แกร๊กๆๆๆ... ]
เพดานถ้ำถูกระเบิดเป็นรูขนาดใหญ่พร้อมร่างของมังกรขาวที่ทะยานขึ้นสู่ผืนฟ้า ขณะที่คิระจ้องมองผลึกแก้วที่เปล่งประกายอยู่ในอากาศโดยมีร่างของมังกรขาวบนผืนฟ้าเป็นฉากหลัง... ชายหนุ่มสาบานกับตนเองว่าเขาจะไม่มีวันเบื่อการมองภาพของวัลวาทอสเป็นอันขาด ในเมื่ออีกฝ่ายช่างงดงามเหลือคณาซะขนาดนั้น!!!
[ โครม!!! ]
[ แง๊ก~!?! ]
ทว่าในตอนนั้นเองที่ภาพตรงหน้ามลายหายใปจากสายตาของชายหนุ่ม เมื่อผลึกแก้วขนาดใหญ่ตกใส่ศีรษะของคิระและกำลังกระชากสติของเขาไปอีกครา...
“ละ... ลืมถามไป... ว่า!!!”
[ ตุบ... ]
ร่างของคิระล้มลงไปนอนแผ่อยู่บนตัวพื้นในสภาพตาเหลือกค้างพร้อมห้วยความคิดสุดท้ายที่แล่นเข้ามาในหัว...
‘ที่นี่.... ที่ไหน..? แหง่ก!!!’
-----
[ โปรดติดตามตอนต่อไป ]
-----
ความในใจนักเขียน
ตอนนี้เรียกได้ว่าเรื่องมากพอสมควรเพราะ Writer ประสบปัญหากับการเขียนจนเขียน Ep.13 ออกมาถึง 3 รส 3 สไตล์ โดยรสที่ 1 คือรสที่ทุกๆคนเพิ่งจะอ่านๆ รสที่สองคือรสแอมมี่หลังจากที่เธอเพิ่งจะสอยคิระร่วงจากฟ้า และรสที่ 3 เป้นรสมีนะผสมริน ซึ่งทาง Writer จะขออุบเอาไว้ให้ทายกันแล่นว่ารูทที่เหลือรสชาติเป็นยังไง
ส่วนตัวตอนนี้เป็นตอนที่ Copr - Paste มาจาก MS Word ทำให้การจัดหน้าดูแปลกๆไปนิด ไว้ทาง Writer จะมานั่งแก้ไขให้เข้าที่เข้าทางทีหลังนะจ้ะ
ปล. ในตอนหน้า Writer ยังนั่งคิดไม่ออกเลยว่าจะให้คิระไปลงเอยที่ไหนดี แต่เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเดาได้ละว่าชายหนุ่มของเราต้องไปโผล่ในที่ๆไม่ธรรมดาแน่ๆ ส่วนคนที่เดาไม่ออกก็นั่งลุ้นกันไปนะจ้ะ
ด้วยรักจากผู้เขียน
Lunaze S. Shine
ความคิดเห็น