คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Ep.12 ศึกชิงตัวคิระครั้งที่1!!! (จะมี 2 อีกเหรอ!?!) : (V.3)
- Ep.12 ศึกชิงตัวคิระครั้งที่1!!! (จะมี 2 อีกเหรอ!?!) –
นะๆๆ... นี่มันเรื่องอะไรก๊านนน~!!?!?
จู่ๆอัศวินแดงที่ชื่อซิกฟรีดก็ประกาศว่าเขาเดินทางมาที่เกาะเริ่มต้นนี้เพื่อเชิญผมเข้าสมาพันธ์โดยเฉพาะ... ผมไม่ใช่คนเก่งหรือมีอะไรดีๆให้เขาชวนซะหน่อย!!!
หลังจากนั้นสหพันธ์อื่นๆก็เริ่มแสดงจนว่าพวกตนมาที่นี่เพราะรู้สึกสนใจในตัวผมเช่นกัน ซึ่งในตอนนั้นเองที่แอมมี่ช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้ว่าผมยังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่มีความสนใจในสหพันธ์ใดๆ ทว่าซิกฟรีดกลับสวนขึ้นมาว่าคุณแอมมี่ตั้งใจจะฮุบผมเอาไว้เพื่อเกลี้ยกล่อมโดยลำพัง ทำให้สมาพันธ์อื่นๆกลับมาเริ่มหว่านล้อมให้ผม รินและมีนะเข้าร่วมสมาพันธ์ของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
ขอละครับพระเจ้าผู้สถิตอยู่ ณ ฟ้าเบื้องบน... ให้ผมได้มีชีวิตในเกมออนไลน์แบบชาวบ้านปกติธรรมดาๆเขาสักวันจะได้มั้ยครับ!!! อย่าให้มันหวือหวาตื่นเต้นเร้าใจกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าเลย!!!
( Lunaze : แหม... นี่ยังแค่เริ่มต้นนะจ๊ะ ของจริงน่ะเหนือชั้นกว่านี้อีกเยอะ )
( คิระ : นี่ยังแค่เริ่มต้นเหรอครับ!!?!? )
-----
# เมืองเริ่มต้น : บนหลังคา (...หา???)
[ ฟ้าววว... ]
[ ฮว๊ากกกซ์~!!! ]
เงาร่างสีดำพุ่งผ่านท้องฟ้าเหนืออาคารบ้านเรือนภายในเมืองเริ่มต้นพร้อมเสียงแผดร้องที่แล่นตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
[ ตูมๆๆๆๆ!!! ]
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในชั่วพริบตาที่เงาดำเหล่านั้นเคลื่อนผ่านไป ก่อนที่ร่างของเหล่าผู้นำสหพันธ์รวมไปถึงสัตว์อสูรของพวกเขาจะพุ่งตามเงาดำสายนั้นไปอย่างกระชั้นชิด
“ร้องมากๆระวังกัดลิ้นตัวเองเข้าหรอกเจ้าหนู...”
“งั้นก็ช่วยปล่อยผมลงพื้นที่เถอะครับผมขอร้อง อะ... จ๊ากกก~!?!”
[ บรึ้มมม!!! ]
ร่างของชายหนุ่มถูกกระชากหลบบอลเพลิงลูกโตด้วยฝีมือของนินจาสาวที่กำลังวิ่งกึ่งลากคิระไปตามหลังคาของอาคารต่างๆพลางกระโดดหลบการโจมตีจากด้านหลังอย่างแคล่วคล่อง
มาริน่าฉวยโอกาสที่สมาพันธ์อื่นๆกำลังถกเถียงเรื่องสิทธิในการเชิญชวนคิระและกลุ่มเพื่อน ใช้วิชาลับของนักพรางกายออกมาจากเงาของเขาและฉกตัวเขาไปจากวงสนทนาเอาเสียดื้อๆ ทำให้สมาพันธ์ต่างๆต้องรีบไล่ตามตัวเขากลับไปเพื่อกู้หน้าของสมาพันธ์อย่างเร่งด่วนอันเป็นเหตุให้ร่างของคิระถูกหิ้วหลบซ้ายเบี่ยงขวาไปมาอยู่บนหลังคาอยู่เช่นนี้
“ส่งตัวเด็กคนนั้นคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ มาริน่า!!!”
“.....!!!”
[ ควับ / เปรี้ยง!!! ]
กรงเล็บมังกรบดขยี้หลังคาบ้านในตำแหน่งที่มาริน่าวิ่งอยู่เมื่อครู่นี้จนแหลกชนิดหาเค้าเดิมไม่เจอ ขณะที่ซิกฟรีดควบคุมบังเหียนสั่งให้มังกรคู่ใจตนบินไล่หญิงสาวเข้ามาอย่างกระชั้นชิด
“... ชั้นไม่คิดจะชวนเด็กคนนี้เข้าสมาพันธ์ Shadow Bladeหรอกนะซิกฟรีด”
“ไม่ชวนแล้วหล่อนจะชิงตัวเจ้าหนูนี่มาทำซากอะไรวะ!?!”
“ในเมื่อเค้าไม่อยากเข้าร่วมสมาพันธ์ชั้นก็จะพาเค้าหนีจากพวกคลั่งการล่าสมาชิกแบบนายยังไงล่ะ”
“... เอ๋?”
คิระจ้องหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัยระคนแปลกใจจนมาริน่าสังเกตเห็นและหันมากระซิบตอบกับชายหนุ่ม
“สมัยก่อนชั้นก็เคยปฏิเสธสมาพันธ์ต่างๆแบบเธอนั่นแหละ แต่ความสามารถของชั้นดันไปเข้าตาสมาพันธ์ Shadow Blade เข้าทำให้พวกนั้นส่งคนมาหว่านล้อมและข่มขู่ชั้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งท้ายที่สุดพวกมันก็จับน้องของชั้นเป็นตัวประกันและเอาชั้นเข้าสมาพันธ์จนได้ ดังนั้นเมื่อเห็นเธอโดนซิกฟรีดสนใจร่างกายชั้นมันก็ขยับไปเองก่อนที่ชั้นจะรู้ตัวซะอีก...”
“คุณมาริน่า...”
เมื่อได้ยินว่ามาริน่ามีความหลังที่เลวร้ายกับสมาพันธ์ของตนคิระก็เกิดความรู้สึกสงสารหญิงสาวขึ้นมาจับใจ ทว่าซิกฟรีดที่กำลังบินไล่ทั้งคู่อยู่นั้นกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับอดีตอันขมขื่นนั้นและชักบังเหียนสั่งให้มังกรของตนโฉบลงมาหมายจัดการกับมาริน่าให้สิ้นซาก
“ครั้งนี้เธอไม่รอดแน่ มาริน่า~!!!”
".....!!!"
ร่างของมังกรเผือกสีขาวโฉบเข้าใส่หญิงสาวโดยไม่ให้ตั้งตัวทำให้มาริน่าเตรียมรับแรงปะทะและใช้ร่างของตนเป็นโล่ให้กับคิระ ทว่าในตอนนั้นเองที่ใครบางคนหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับนินจาสาวได้อย่างทันท่วงที
[ Chain Stinger!!! ]
[ เปรี้ยงๆๆ!!! ]
[ ก๊าซซซ!!! / อุ๊บ~!?! ]
ศรแสงจำนวนสามดอกพุ่งเข้าปะทะหน้าท้องของเจ้ามังกรอย่างจังจนร่างของมันเซถลาออกนอกทางเดิม ทำให้ซิกฟรีดที่นั่งอยู่บนหลังของมันรีบสั่งให้มันบินสูงขึ้นไปอีกระดับเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับอาคารโดยรอบ
“ลูกศรนี่มันสกิลของอาชีพนักซุ่มยิง... เรเวน่า!!!”
“ปิ๊งป่อง~♥”
[ ตึกๆๆๆ!!! ]
ร่างของเอลฟ์สาววิ่งขึ้นมาตีคู่ไปกับมาริน่าด้วยทักษะพิเศษของพลซุ่มยิงที่ช่วยเพิ่มความเร็วของตนได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง พร้อมคันธนูที่ถูกขึงสายในท่าเตรียมพร้อม ทว่าสายและลูกธนูเหล่านั้นกลับเปล่งประกายแสงสุกใสออกมาซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนูที่เธอใช้นั้นเป็นธนูเวทมนตร์ที่พบหาได้ยากยิ่ง
“ถ้านายไม่กลัวโดนยิงร่วงแน่จริงก็โฉบลงมาอีกสิซิกฟรีด~*”
“นี่เธอก็คิดจะชิงตัวเด็กคนนี้ไปเหมือนกันเรอะ?”
ซิกฟรีดตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย เพราะสัตว์อสูรประเภทบินทุกชนิดนั้นหากถูกโจมตีด้วยอาวุธประเภทธนูหรืออาวุธยิงขณะบินอยู่จะได้รับความเสียหายมากกว่าปกติถึง 3 เท่า ดังนั้นการสู้กับเรเวน่าที่เป็นนักซุ่มยิงระดับสูงในขณะที่เขากำลังบินอยู่นั้นจึงถือเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อมนั่นเอง
“บู่ว... ชั้นตั้งใจจะช่วยคิระคุงต่างหาก!!! เพราะแอมมี่กับมาริน่าเป็นเพื่อนของชั้นดังนั้นความปรารถนาของพวกเธอก็คือความปรารถนาของชั้น ดังนั้นนายอย่าหวังจะได้ตัวเด็กคนนี้ไปเลยน่า!!! แต่จะว่าไป... เด็กคนนี้ก็หน้าตาน่ารักใช่เล่นนะเนี่ย สนใจไปดื่มชากับพี่สาวสักครั้งหลังจบเรื่องมั้ยจ้ะ?”
“แง้ะ...”
เมื่อถูกเชิญชวนโดยไม่ได้ตั้งตัวทำให้คิระแสดงท่าทีเหลอหลาออกมาจนเรเวน่าอดยิ้มให้กับท่าทีน่ารักน่าชังนั้นไม่ได้ ซึ่งนั่นช่วยให้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมแอมมี่เพื่อนรักของเธอถึงรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้นัก ทว่ารอยิ้มของเธอก็ต้องมลายหายไปเมื่อเสียงร่ายเวทมนตร์ดังลงมาจากท้องฟ้าเหนือร่างของพวกเธอ
“ไอเย็นแห่งท้องนภา จงรวมกายเป็นหยาดพิรุณเยือกแข็ง เพื่อพิฆาตอริแห่งข้าให้ด่าวดิ้น ในนามของผู้ถือครองพลังของเทพเหมันต์ ข้าขอบัญชา!!!”
[ Blizzard Shower!!! ]
[ ฟ้าวๆๆๆ!!! ]
วงเวทย์ขนาดย่อมปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าก่อนที่ก้อนนำแข็งจำนวนมากจะพุ่งลงมาใส่พวกคิระที่กำลังไล่ล่ากันอยู่บนพื้นเบื้องล่าง ทำให้เหล่าผู้นำสหพันธ์ทั้ง 3 ต่างเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึงและเคลื่อนตัวหลบการเวทมนตร์บทนั้นอย่างเร่งด่วน
[ เปรี้ยงๆๆๆๆ!!! ]
[ เหวอ!!! / กรี๊ดดด!!! ]
มาริน่า เรเวน่า และซีกฟรีดสามารถหลบก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นได้อย่างฉิวเฉียด ทว่าก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นกลับโจมตีโดนผู้เล่นเบื้องล้างและอาคารในบริเวณโดยรอบจนบริเวณดังกล่าวถูกแช่แข็งเป็นหย่อมๆไปในวงกว้าง
“มาริน่า~!!! นี่เธอคิดจะโจมตีใครกันแน่ยะยัยจอมเวทเพี้ยน!!!”
“ชั้นกะเล่นพวกเธอทั้งหมดนั้นแหละยัยเอลฟ์พันธุ์โคนม!!! ตอนนี้มันเป็นเหมือนเกมแย่งชิงเด็กคนนั้นแล้วละ เพราะสมาพันธ์ไหนที่ได้ตัวเด็กคนนั้นไปท่ามกลางผู้นำระดับสูงของสมาพันธ์ทั้ง 8 ก็เปรียบได้กับสมาพันธ์ที่แกร่งที่สุด!!! ดังนั้นเลิกพูดมากและส่งตัวเด็กคนนั้นมาซะดีๆ!!!”
ร่างของราชินีน้ำแข็งปรากฏตัวขึ้นกลางฟ้าในสภาพนั่งอยู่บนไม้เท้าและเปิดหนังสือเพื่อใช้เป็นสื่อในการร่ายเวทมนตร์แทน โดยเหตุผลที่เธอเลือกจะแช่แข็งพื้นที่ในวงกว้างก็เพื่อปิดผนึกความเร็วใจการวิ่งของมาริน่าและเรเวน่าไปด้วยกันนั่นเอง
“เรเวน่า รับเด็กคนนี้ไป!!!”
[ กึก... ฟ้าววว!!! ]
[ กรี๊ดดด~!!! ]
คิระหลุดเสียงกรี้ดออกมาเมื่อมาริน่าจับเขาเขวี้ยงข้ามไหล่จนลอยไปในอากาศ ก่อนที่นักฆ่าสาวจะคว้าอาวุธลับของตนออกมาถือเอาไว้จนเต็มมือ
“วิชานินจา... พันคมมีดกรีดนภา!!!”
[ Endless Kunai Dart!!! ]
[ ควับๆๆ!!! ]
มีดคุไน (มีดปลายแหลมของนินจา) ถูกเขวี้ยงขึ้นไปในอากาศถึง 3 กำก่อนที่ใบมีดทั้งหมดจะเรืองแสงและระเบิดออกเป็นใบมีดจำนวนนับไม่ถ้วนจนเต็มท้องฟ้า
“กรี้ดดด~!!! นี่เธอกะฆ่ากันเลยรึยังไงยัยนักฆ่าวิปริต!!!”
มาริน่ากรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อคมมีดจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาร่างของตนจนเธอต้องสร้างกำแพงเวทมนตร์ขึ้นมาป้องกันตัวเองพลางควบคุมไม้เท้าให้บินหลบคมมีดเหล่านั้นด้วยความร้อนรน ขณะที่ซิกฟรีดฉวยโอกาสนี้โฉบลงไปหวังชิงตัวคิระที่กำลังลอยค้างอยู่กลางอากาศ
“เสร็จชั้นละ!!!”
“ฝันไปก่อนซิกฟรีด!!! สกิลเฉพาะตัว : หนึ่งศรพิชิตฟ้า!!!”
[ Personal Skill : One Arrow Through the Sky!!! ]
[ วาบ... ฟ้าววว!!! ]
[ เฮ้ย ฉิบหายแล้ว!!! ]
หนึ่งศรพิชิตฟ้า เป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเรเวน่าที่คิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยการโจมตีนี้จะเป็นการรวมรวมพลังเวทมนตร์ที่เหลือยู่ทั้งหมดให้กลายเป็นลูกศรหนึ่งดอกเพื่อยิงใส่เป้าหมายในครั้งเดียว ซึ่งข้อดีของทักษะนี้ก็คือมันไม่มีวันพลาดเป้าหมายตราบเท่าที่ผู้ใช้ยังเห็นเป้าหมายอยู่ในสายตา ซึ่งนั่นทำให้ซิกฟรีดที่กำลังพุ่งเข้าไปหาร่างของคิระถึงกับหน้าซีดกันเลยทีเดียว!!!
[ Upload : Wyvern!!! & Equip : Titanium Shield!!! ]
[ วาบๆ... เปรี้ยงงงง!!! ]
[ อ๊ากกกก~!!!!! ]
- Damage 13,579 -
ซิกฟรีดตัดสินใจเก็บมังกรของตนเข้าไปในเครื่อง CT สีแดงเพลิงของเขาและเรียกโล่ขนาดยักษ์ออกมาถือเพื่อป้องกันการจู่โจมของเอลฟ์สาว ทว่าแรงปะทะนั้นก็ยังรุนแรงมากพอที่จะส่งร่างของเขาให้ปลิวกระเด็นออกไปอีกไกลพอสมควร
“อาวละ พุ่งเข้ามาสู่อ้อมอกของพี่สาวดีๆนะจ๊ะคิระคุง~♥”
“เง้ววว~!!!”
เสียงร้องไม่เป็นภาษาของเด็กหนุ่มดังออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อร่างของเขากำลังหมุนควงสว่านตรงไปยังเรเวน่าซึ่งกำลังอ้าแขนระรับร่างของเขาอย่างเบิกบาน ทว่า...
[ กึก... เปรี๊ยะๆๆๆๆ!!! ]
[ กรี๊ดดดด!!! ]
- Damage 427 -
- ผู้เล่นเรเวน่าติดสถานะ Paralyze (เหน็บชา) ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติเป็นระยะเวลา 1 นาที-
ขณะที่เอลฟ์สาวกำลังเดินหาจุดที่คิระจะตกลงมานั้นเองที่เท้าของเธอก้าวเข้าไปสู่กับดักที่ใครบางคนวางเอาไว้ ก่อนทีร่างของชายหนุ่มชุดดำจากสมาพันธ์ Demon Oath นามเบลดีสจะกระโดดขึ้นมายืนข้างๆร่างของเอลฟ์สาวอย่างผู้มีชัย
“ฮี่ๆๆ... กับดักสายฟ้า Spark Trap EX ของชั้น... ซี้ดถึงทรวงเธอมั้ยล่ะเรเวน่า?”
“อึก... หงึก...”
เอลฟ์สาวนอนกระตุกอยู่บนตัวพื้นเพราผลจากกระแสไฟฟ้าขณะที่เบลดีสก้มหน้าลงไปจ้องมองเรือนร่างของเธออย่างคะนึงหา
“แหม่... หุ่นของเธอนี่มองกี่ทีก็กระชากใจชั้นได้ทุกทีเลยนะเรเวน่า หน้าอกใหญ่ๆของเธอนั่นก็ช่างน่าจับซะเหลือเกิ๊น~* ว่าแล้วชั้นก็ขอจับดูซักทีเลยก็แล้วกันนะ”
“ยะ... อย่านะ...”
เรเวน่าพลายามเปล่งเสียงห้ามอย่างอ่อนแรงทว่าร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับได้ดังใจ ทำให้เธอไม่สามารถขัดขืนอะไรชายหนุ่มชุดดำตรงหน้าได้เลย ทว่าในตอนนั้นเองที่น้ำเสียงของใครคนหนึ่งดังแหวกอากาศเข้ามาดึงความสนใจของเบลดีสไปได้
“อะโช๊ว~!!!”
“อะไรวะ?”
[ เปรี้ยงงง!!! ]
[ อ๊อก!!?!? ]
- Damage 464 –
- ผู้เล่นเบลดีสหมดสติจากการกระแทกอย่างรุนแรงด้วยฝีมือของผู้เล่นคิระ ทำให้ผู้เล่นคิระได้แต้มความโหดร้ายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 3 แต้ม ส่วนผู้เล่นเบลดีสต้องรอการฟื้นสติเป็นเวลา 3 นาทีค่ะ -
ฝ่าเท้าของคิระพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเบลดีสในท่าลูกเตะควงสว่าน (ผลกระทบจากการถูกเขวี้ยงมา) ทำให้ร่างของทั้งคู่ปลิวไปในอากาศพร้อมๆกันอีกเล็กน้อยๆ ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะร่วงลงไปบนพื้นอย่างหมดท่า
[ โครมๆ!!! ]
[ แหง่กๆๆๆ... ]
ร่างของคิระและเบลดีสร่วงลงมาจากหลังคาและนอนตาเหลือกอยู่บนตัวพื้นขณะที่ชายหนุ่มในชุดนักบวชรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของทั้งคู่ รวมไปถึงเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่ถูกแช่แข็งอยู่ในบริเวณโดยรอบอย่างร้อนรน
“หวาาา... ทำไมคนพวกนี้ถึงชอบการต่อสู้กันนักนะ? แบบนี้ต้องรีบรักษาซะแล้วสิ!!! ในนามข้องผู้รับใช้เทพแห่งแสงสว่าง ขอพรแห่งดวงดาวโปรดจงรักษาเหล่าผู้ทนทุกข์เหล่านี้ด้วยเทอญ...”
[ Stardust Ray!!! ]
[ วาบ... ]
ลูกบอลแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือร่างของฮาวี่ สมาชิกของสหพันธ์ Heaven Corps ก่อนที่ลูกบอลนั้นจะระเบิดออกเป็นประกายแสงตกลงบนร่างของทุกๆคนในบริเวณดังกล่าว ทำให้ร่างของผู้คนที่โดนแช่แข็งกลับเป็นเหมือนเดิมพร้อมทั้งรักษาผู้เล่นทั้งหมดในบริเวณที่ละอองแสงกระจายไปถึงอีกด้วย
- ด้วยผลของสกิล Stardust Ray ผู้เล่นทั้งหมดในรัศมี 150 เมตรจากตัวผู้ร่ายได้รับการฟื้นฟู HP 10% และรักษาจากอาการผิดปกติขั้นต้นค่ะ -
เมื่อได้รับผลของสกิล คิระและเบลดีสที่ร่างลงมาจากหลังคาเมื่อครู่นี้จึงได้สติและลุกขึ้นมาจากตัวพื้น ก่อนที่เบลดีสซึ่งโดนขัดจังหวะในช่วงเวลาสำคัญจะคว้าเครื่อง CT สีดำของตนขึ้นมาด้วยความเดือดดาล
“แสบนักนะไอ้หนู ดันมาขัดช่วงเวลาแสนสุขของชั้นซะได้!!!”
“งั้นชั้นส่งนายไปใช้ช่วงเวลาแสนสุขต่อในนรกเองไอ้โรคจิตเบลดีส!!!”
เรเวน่าซึ่งฟื้นจากอาการเหน็บชาชะโงกหน้าออกมาจากบนหลังคาพร้อมง้างศรเตรียมเอาคืนกับเบลดีสที่เผ่นแน่บไปตั้งแต่ได้ยินเสียงของหญิงสาวแล้ว
“ชิ... ไอ้ผู้ชายไม่ได้เรื่อง!!!”
“.....”
เอลฟ์สาวสบถคำด่าออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะเก็บคันธนูของเธอกลับไปไว้กลางหลังและกระโดดลงมาจากยอดหลังคาอย่างรวดเร็ว
“ขอบใจนายมากนะฮาวี่ ไม่งั้นคิระคุงคงเสร็จไอ้โรคจิตนั่นไปแล้วละ”
“แหม ผมก็แค่เกลียดการทะเลาะวิวาทเท่านั้นเองครับ ถ้ายังไงผมว่าเราออกไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่า”
จากที่สังเกตดู คิระคาดว่าชายหน้าตาน่ารักในชุดนักบวชนี้น่าจะเป็นคนดี ดูจากที่เขาช่วยรักษาผู้คนโดยรอบด้วยใจจริงและกำลังเข้าไปช่วยดูอาการเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่ล้มระเนระนาดอยู่เกลื่อนถนน
“สมาพันธ์เองก็มีทั้งดีและไม่ดีสินะครับ...”
“ฮุๆๆ แล้วคิระคุงสนใจจะมาเข้าสมาพันธ์ของพี่สาวมั้ยละจ้ะ?”
“เง้อ ไม่ดีกว่าครับ!!!”
แม่อีกฝ่ายจะเอ่ยเชิญชวนเขาอย่างสุภาพ แต่ความรู้สึกลึกๆของเขาร้องเตือนว่าเขาคงไม่ปลอดภัยในอุ้งมือของเอลฟ์สาวตรงหน้า และอีกอย่างถ้าเขาตกลงเข้าร่วมกับสมาพันธ์ใดสมาพันธ์หนึ่งแล้วละก็เกรงว่าสหพันธ์อื่นๆที่เหลือคงไม่ยอมอยู่เฉยๆเป็นแน่
และในขณะที่คิระกำลังคิดหาวิธีปฏิเสธแบบสุภาพอยู่นั้นเองที่เงาร่างขนาดใหญ่โฉบลงมาจากบนท้องฟ้าและคว้าร่างของคิระไปกับมันโดยที่เรเวน่าไม่ทันได้ตั้งตัว
“จ๊ากกก!!! เอาอีกแว้ววว~!!!”
“วะฮ่าๆๆๆ~* ขอตัวไอ้หนูนี่ไปก่อนละนะเรเวน่า”
“ราชิต!?!”
ผู้ที่คว้าตัวคิระไปคือผู้นี่มีร่างกายอันใหญ่โตซึ่งอยู่ห่างไกลจากคำว่า ‘บิน’ อย่างราชิตที่ตอนนี้กำลังเปล่งเสียงหัวเราะร่วนอยู่บนพรมวิเศษผืนโตที่ทะยานหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไวว่อง
“ฮ่าๆๆ!!! เธอไม่เหลือพลังเวทย์ที่จะยิงศรมนตรา ส่วนไอ้บ้าซิกฟรีดก็ร่วงไปแล้ว เบลดีน่าก็กำลังติดพันอยู่กับมาริน่า จะมีใครหน้าไหนมาขวางชั้นได้อีก? ก๊าก ฮ่าๆๆๆๆ~*”
เสียงหัวเราะอันน่าสะอิดสะเอียนของราชิตทำให้เรเวน่าทำได้เพียงกัดฟันด้วยความโกรธขณะที่อีกฝ่ายกำลังบินห่างออกไปเรื่อยๆ... ก่อนที่ร่างของหญิงสาวนางหนึ่งจะเดินออกมาจากฝูงชนพร้อมใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มอันเย็นเยียบพร้อมเครื่อง CT สีฟ้า-ขาวที่เปล่งแสงอยู่ในมือของเธอ
“เรเวน่า... ถ้าชั้นพลั้งมือฆ่าราชิตขึ้นมาจนชั้นต้องไปแก้ตัวกับพวกผู้เฒ่าประจำสมาพันธ์ละก็ เธอช่วยไปเป็นพยานว่าเจ้าหมอนั่นมันกวนโทสะชั้นก่อนก็แล้วกันนะจ้ะ”
“เอ่อ... เธอเอาจริงเหรอแอมมี่?”
“หน้าชั้นเหมือนคนล้อเล่นรึยังไงกันละจ้ะ?”
“.....”
รังสีอำมหิตที่เปล่งออกมานั้นทำให้ปลายเส้นผมของเธอลอยขึ้นมาเล็กน้อย จนเอลฟ์สาวได้แต่กลืนน้ำลายและพยักหน้าตอบเธอไปอย่างกล้าๆกลัวๆ... เพราะน้อยครั้งนักที่เรเวน่าจะได้เห็นเพื่อนตัวเล็กของเธอฟิวส์ขาดแบบนี้...
[ Release : Mialy!!! ]
[ อึบ... ฮ้า~* ]
ประกายแสงจากเครื่อง CT ก่อร่างขึ้นเป็นหญิงสาวในชุดรัดรูปสีดำซึ่งมีเรือนผมสีแดงที่มัดเป็นทรงทวินเทลอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แววตาเรียวคมแบบแมวซุกซนนั้นดูไม่เข้ากันเลยกับหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอที่ชูเด่นอยู่ด้านหน้าและปืนใหญ่จำนวน 2 กระบอกที่พับเก็บอยู่บนเอวทั้งสองข้างของเธอ… ถ้าไม่มีใครบอกคนทัวไปคงไม่รู้ว่าหญิงสาวที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมานี้คือหนึ่งในสัตว์อสูร Rank S ในครอบครองของผู้นำสมาพันธ์ Iron Heart!!!
“นานแล้วนะที่แอมมี่ไม่ได้ปล่อยชั้นออกมาอาละวาดในตัวเมืองแบบนี้น่ะ~♥ ว่าแต่ครั้งนี้จะให้ชั้นทำอะไรดีเอ่ย?”
“ไมลี่... สอยไอ้ช้างน้ำบินได้นั่นลงมาโดยด่วนเลย!!! นี่เป็นคำสั่ง!!!”
“จัดให้จ้า~*”
[ วืด... กึงๆ!!! ]
[ ปิ๊บๆๆๆ... ]
ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกบนเอวของไมลี่ขยับขึ้นมาประกอบกันในสภาพพร้อมยิง ก่อนที่กระแสไฟฟ้าจะแล่นผ่านบริเวณปากกระบอกปืนเพื่อชาร์จพลังให้พร้อมสำหรับลั่นกระสุนสังหาร ขณะที่ไมลี่คว้าแว่นตาขาเดียวซึ่งมีโปรแกรมช่วยการคำนวณขึ้นมาสวมเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิง จนกระทั่งสัตว์อสูรสาวตรวจพบร่างของราชิตที่ซ่อนตัวอยู่เหนือกลีบเมฆได้ในที่สุด
“ล๊อคเป้าหมายเรียบร้อย... ว่าแต่จะให้ชั้นยิงอะไรดีล่ะแอมมี่? พรมเช็ดเท้า? ช้างบินได้? หรือเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่กำลังโดนช้างบีบคอ?”
“ยิงไอ้ช้างยักษ์นั่นกับพรมวิเศษของมันให้ตาย... แต่กับเด็กชายคนนั้นพยายามลดความเสียหายให้น้อยที่สุดทีนะ”
“สั่งงานยากๆให้ชั้นอีกแล้ว... ถ้าจบงานนี้ชั้นขอรางวัลเป็นเค้กก้อนโตๆโดยไม่ต้องแบ่งให้โรเซ่นะ~♥”
[ Twin Rail Gun… Fire!!! ]
[ เปรี๊ยะๆๆ... ฟ้าววว!!! ]
กระสุนแม่เหล็กไฟฟ้าจำนวน 2 นัดพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเร็วสูง ขณะที่บนท้องฟ้านั้นราชิตกำลังออกแรงบีบคอคิระอย่างเมามันเพื่อแก้แค้นที่เขาดันเป็นที่ถูกใจของแอมมี่ หญิงสาวที่เขาแอบรักข้างเดียวมาเนิ่นนาน…
“ฮี่ๆๆๆ... ทรมานใช่ปะไอ้หนู? แต่รู้เอาไว้ว่าชั้นน่ะทรมานกว่าแกหลานเท่านัก!!! ชั้นตามจีบแอมมี่มาตั้งหลายต่อหลายปีแล้วแกเป็นใครมาชุบมือเปิดแย่งสาวที่ข้าชอบไปซะง่ายๆน่ะ หา!?!”
“อะ... อ๊อก...”
แม้จะเป็นในเกมแต่การโดนบีบคอนั้นก็ยังส่งผลให้ตัวผู้เล่นขาดอากาศหายใจได้เหมือนจริง ทำให้ในตอนนี้คิระกำลังแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาเพราะออกซิเจนไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าบวมๆของราชิตยิ้มกว้างออกมาจนแก้มแทบปริ
“วางใจได้ ชั้นจะไม่ฆ่าแกง่ายๆหรอก!!! แต่ชั้นจะจับแกไปเฆี่ยน ไปทรมาน ใช้แรงงานเยี่ยงทาสจนพอใจก่อนแล้วค่อยเอาแกไปประมูลขายให้กับพวกสหพันธ์พวกนั้นอีกทอดหนึ่ง... ได้ทั้งความสะใจและเงินแบบนี้แกนี่มันตัวนำโชคของชั้นจริงๆเล้ย ฮ่าๆๆๆ!!!”
พุงของราชิตกระเพื่อมตามเสียงหัวเราะอยู่ได้เพียงครู่ก่อนที่ฝันของชายร่างท้วมจะสลายไปด้วยกระสุนสังหารที่ไมลี่ยิงขึ้นมาจากบนตัวพื้น
[ ฟ้าววว ตูม!!! ]
[ เฮ้ย อะไรวะ!?! ]
ร่างของราชิตและคิระปลิวกระเด็นไปคนละทางอย่างเสียการควบคุมเมื่อกระสุนของไมลี่ระเบิดทำลายพรมวิเศษของราชิตจนไหม้เป็นจุลในพริบตาทำให้ร่างของคนทั้งคู่ร่วงลงไปยังตัวพื้นเพราะไม่มีพรมคอยรับทั้งคู่อีกต่อไปแล้ว
“หนอย~!!! อย่านึกว่ามันจะจบแค่นี้นะไอ้หนู!!! แล้วชั้นจะมาเอาคืนกับแกอย่างแน่นอน!!!”
“.....”
ร่างของราชิตร่วงลงไปใต้กลีบเมฆอย่างรวดเร็วทว่าร่างของคิระกลับลอบสูงขึ้นไปเพราแรงส่งจากการระเบิดพร้อมสติที่รางเลือนลงทุกขณะ...
‘อา... ครั้งก่อนเราร่วงจากท้องฟ้าใกล้ๆกับบริเวณยอดเขาเลยรอดมาได้... แต่ถ้าร่วงจากความสูงเหนือเมฆแบบนี้ลงไปบนตัวเมืองเราจะรอดมั้ยนะ?’
ชายหนุ่มปล่อยความคิดให้ไหลไปอย่างเรื่อยเปื่อย... พร้อมแอบภาวนาอยู่ลึกๆภายในใจว่าหลังจากที่เขาร่วงลงไปนั้นบางทีชีวิตในการเล่นเกมของเขาอาจจะกลับเข้าที่เข้าที่เข้าทางเหมือนผู้เล่นปกติทั่วๆไปก็เป็นได้
[ พรึ่บๆๆ... ]
[ ตุบ... / อา...? ]
เสียงกระพือปีกดังขึ้นมาครู่หนึ่งก่อนที่ร่างของเขาจะสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย... ก่อนที่แววตาของคิระจะสบเข้ากับนัยน์ตาสีทองขนาดยักษ์ที่หันกลับมามองผู้ที่ร่วงลงมาตกบนหลังของมันด้วยความประหลาดใจ
‘มนุษย์? ทำไมมนุษย์ถึงขึ้นมาบนหลังของข้าได้?’
“.....”
น้ำเสียงเสนาะหูที่ฟังดูทรงอำนาจและภูมิปัญญาดังขึ้นในหัวของคิระโดยตรงก่อนที่เสียงจากระบบจะดังขึ้นภายในหัวของเขาในลำดับต่อมา
- ผู้เล่นคิระค้นพบสัตว์อสูรระดับตำนาน (Legend) มังกรศักดิสิทธิ์วัลวาทอส (Valvathos The Sacred Dragon) ระดับไม่สามารถประเมินได้ Rank S ( Special ) ผู้เล่นที่ถูกสังหารจะต้องรอเวลาเกิดใหม่เป็นเวลา 12 ชั่วโมงและสูญเสียเงินหรือไอเทมทั้งหมดหรือทั้งสองอย่างค่ะ... -
[ ….. ]
คิระจ้องตอบแววตาของวัลวาทอสพร้อมความปรารถนาเบื้องในจิตใจที่อยากจะใช้ชีวิตธรรมดาๆในฐานะคนเล่นเกมคนหนึ่งโดยไม่มีเรื่องของสมาพันธ์ต่างๆเข้ามาข้องเกี่ยว ก่อนที่สติของเขาจะขาดสะบั้นลงไปท่ามกลางสัมผัสอันอ่อนโยนของปุยเมฆและสัมผัสจากร่างกายของวัลวาทอสนั่นเอง...
-----
[ โปรดติดตามตอนต่อไป ]
ความคิดเห็น