ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTO] Beast Tamer Online โลกจินตนาการแห่งสรรพสัตว์

    ลำดับตอนที่ #12 : Ep.11 สหพันธ์ทั้ง 8 (V.3)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 56


         - Ep.11 สหพันธ์ทั้ง 8 -


         หลังจากลองใช้สกิลใหม่อยู่หลายต่อหลายครั้ง ผลที่ออกมาก็ยังคงเป็นภาพของเลทน่าและสตีลที่กำลังกัดกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนต้องคอยจับแยกอยู่ทุกครั้งไป ครั้นพอลองเปลี่ยนเอาสองตัวนี้ไปคู่กับสนอร์ที่นอนบนหัวก็จะได้ภาพจิ้งจอกน้อยแทะปีกมังกรดำหรือภาพของลิงแดงซึ่งกำลังควบหลังของสนอร์ที่นอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น

         ... ไหนที่ลองอ่านๆมาทางระบบบอกว่าสกิลและทักษะระดับ Rank A เป็นทักษะชั้นเลิศที่หาได้ยากและหลายๆคนอยากได้มาครอบครองไง? แล้วไอ้สกิลนี้มันเป็นสกิล Rank S ได้ยังไงกันในเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากทำให้สัตว์ของผมกัดกันเองน่ะ!!!



    -----
     

         # เมืองเริ่มต้น : ตลาดนัด


         [ จ๊อกแจ้กๆ ]
         [ ฮะๆๆๆ~* ]
         [ เร่เข้ามาๆ~!!! ]


         เหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างตะโกนเรียกลูกค้าให้เดินมาดูแผงของตน ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังเดินดูสินค้าตามแผงพลางหัวร่อต่อกระซิกกับเพื่อนข้างกายคลอไปกับเสียงพูดคุยของผู้เล่นที่กำลังมองหาไอเทมที่ตนต้องการ

         แม้ที่นี่จะเป็นเมืองเริ่มต้นที่มีผู้เล่นระดับต่ำอยู่เป็นจำนวนมาก แต่สภาพภายในตลาดกลับคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเมื่อสินค้าแปลกตาจำนวนมากตั้งเรียงรายอยู่ตามแผงต่างๆ บางร้านมีสัตว์เลี้ยงกำลังโชว์ทักษะการต่อสู้ตามที่เจ้าของสั่งเพื่อให้ผู้เล่นอื่นๆเกิดความสนใจที่จะซื้อมันไปเลี้ยง และเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่ตะโกนเรียกลูกค้าให้มาชมสินค้าของตนอย่างเต็มความสามารถ

         "เร่เข้ามาๆ~!!! มาดูธนูยาวที่ถูกประดิษฐ์โดย Crafting Tamer ระดับสูงพร้อมความสามารถในการแปรสภาพเป็นกำไลข้อมือที่ดู สวย เก๋ พกพาสะดวก พร้อมพลังโจมตีที่รุนแรงเหมาะสำหรับมือใหม่อย่างยิ่งครับ~!!!"

         "อาหารสัตว์เลี้ยงชั้นสูงปรุงโดยทักษะ Craft ระดับสูง!!! ถูกปากสัตว์เลี้ยงของท่าน เพิ่มพูนระดับความเชื่อง อิ่ม อร่อย ราคาไม่แพงค่า~!!!"

         "มาดูสัตว์เลี้ยงระดับสูง เลี้ยงเชื่องง่าย เก่งในการต่อสู้ประชิดตัว กินไม่จุ ที่สำคัญราคาไม่แพง!!! เข้ามาพูดคุยตกลงราคากันได้เลยจ้า"


         แผงลอยต่างๆทำการงัดของดีออกมาขายกันเต็มสองข้างทาง ขณะที่คิระจ้องมองสินค้าต่างๆตาเป็นประกายแต่ไม่มีปัญญาเดินเข้าไปดูสินค้าในร้านใดๆเพระาตอนนี้เขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักแดงเดียว

         หลังจากทดลองใช้สกิลที่ได้มาอยู่หลายต่อหลายครั้งในตอนเช้าจนพวกรินตื่นนอน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งว่าบริเวณโดยรอบเมืองเริ่มต้นนั้นปลอดภัยไม่มีวี่แววของกลุ่มชายชุดดำแต่อย่างใดและอนุญาตให้กลุ่มของคิระออกไปจากตัวห้องได้ คิระซึ่งเห็นว่าพวกตนใช้เวลาในห้องพักนั้นคุ้มดีแล้วจึงไม่ได้กล่าวขัดอะไรมากนัก

         แม้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่จะอยากสอบถามข้อมูลกับมีนะเพิ่มเติม แต่เมื่อเจ้าตัวปิดปากเงียบและไม่คิดจะตอบคำถามใดๆ เหล่าเจ้าหน้าที่จึงไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอและปล่อยให้เธอเดินทางไปกับคิระและกำชับกับพวกเขาว่าถ้าเจอกับชายชุดดำกลุ่มนั้นอีกหรือมีข้อมูลอะไรจะแจ้งเพิ่มเติมให้ติดต่อกับศูนย์รับแจ้งเรื่องที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว

         ในตอนแรกกลุ่มของคิระยังไม่มีเป้าหมายกันว่าจะทำอะไร แต่พอได้ยินว่าคิระไม่มีเงินติดตัวสักแดงแถมไอเทมเริ่มต้นที่มีก็ดันเอาไปใช้รักษาราชาไบซันหมดแล้ว ซ้ำร้ายเขายังไม่รู้วิธีหาเงินในเกมนี้อีกด้วย!!! มีนะและรินจึงได้แต่กุมขมับและตัดสินใจพาคิระมาซื้อไอเทมพื้นฐานสำหรับพัฒนาระดับและหาเงินในตลาด ก่อนจะพาเขาออกไปนอกเมืองเพื่อล่าสัตว์อสูรต่อในลำดับต่อไป ทว่าแทนที่พวกเขาจะได้รีบซี้ของและออกเดินทางแต่พระเอกของเรากลับจ้องมองร้านนั้นร้านี้ตาเป็นประกายซะจนเพื่อนๆไม่กล้าออกปากเร่งเขากันเลยทีเดียว

         "โห... ทุกคนที่กำลังขายของกันอยู่ที่นี่มีอาชีพพ่อค้ากันทั้งนั้นเลยเหรอครับ?"

         "ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกค่ะ เพราะอาชีพอื่นๆเองก็สามารถทำการซื้อขายไอเทมด้วยตัวเองโดยใช้แผงลอยได้เหมือนกันนะคะ"


         "อ้าว? แต่เท่าที่ผมอ่านมาจากระบบมีแต่อาชีพพ่อค้าเท่านั้นที่สามารถตั้งร้านขายของได้นี่ครับ? ถ้าอาชีพอื่นๆตั้งร้านขายของได้เหมือนกันแล้วแบบนี้อาชีพพ่อค้าจะแตกต่างจากอาชีพอื่นยังไงละครับ?"

         "อืม... คุณคิระลองดูร้านที่กำลังตะโกนขายธนูนั่นแล้วสังเกตบริเวณหน้าร้านดูดีๆสิคะ แล้วบอกชั้นทีว่าคุณเห็นอะไร?"

         "หืม?"


         เมื่อมองตามที่มือของมีนะชี้ไปยังร้านค้าร้านหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านยังคงอวดสรรพคุณของธนูสุดเริ่ดในมืออย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคิระไปก็คือสัญลักษณ์ูรูปสัตว์ประหลาดหน้าเขียวที่กำลังคาบถุงเงินเอาไว้ในปากซึ่งตามร้านต่างๆส่วนใหญ่ก็จะมีสัญลักษณ์นี้ตั้งอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งของร้านค้าเช่นกัน

         "สัญลักษณ์น่าเกลียดนั่นคืออะไรเหรอครับ?"

         "มันเป็นสัญลักษณ์ของ 1 ใน 8 สมาพันธ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า Greed Goblin ครับพี่คิระ สมาพันธ์นี้โดยรวมมีอาชีพพ่อค้ามากที่สุดในเกม Beast Tamer นี้และถือเป็นสหพันธ์ที่สร้างรายได้ต่อเดือนได้มากที่สุดอีกด้วยครับ"

         "....."


         รินเป็นฝ่ายชิงตอบคำถามขึ้นมาท่ามกลางสายตาของมีนะที่จ้องมองเด็กชายอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรก่อนที่คิระจะถามต่อไปว่า

         "แล้วสหพันธ์มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องแผงลอยนี่ได้ละครับริน?"

         "ครับ เพราะสหพันธ์ Greed Goblin มีจำนวนพ่อค้ามากและยังเป็นสหพันธ์ที่รวยที่สุด ดังนั้นทางสหพันธ์จึงใช้เงินที่มีเพื่อซื้อที่ดินและให้พ่อค้าของตนไปตั้งร้านค้าเอาไว้ตามที่เหล่านั้น เมื่อรวมกับกฏของเกมที่มีแต่อาชีพพ่อค้าเท่านั้นที่ตั้งร้านค้าได้ทำให้ทางสมาพันธ์สั่งให้พ่อค้าในสังกัดไปตั้งร้านค้าไว้ตามสถานที่ต่างๆแล้วปล่อยให้เช่ายังไงละครับ"


         แม้จะโง่ขนาดไหนคิระก็ยังพอจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่รินพูดได้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจออกมาอีกครั้งว่า

         "เอ๋ แต่เมื่อกี้นี่มีนะบอกว่าอาชีพอื่นๆก็ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้นี่ครับ? แล้วแบบนี้การซื้อที่ตั้งแผงลอยมันจะมีประโยชน์อะไรกันล่ะครับ???"

         "งั้นคิระลองดูร้านสองร้านนั้นที่ขายของเหมือนกันแล้วบอกชั้นทีสิคะว่าคุณคิระอยากซื้อของจากร้านไหนมากกว่ากันคะ?"


         คราวนี้เป็นมีนะที่ขัดการตอบของริน ซึ่งนั่นทำให้เด็กชายจ้องหญิงสาวตาขวางพลางจ้องไปยังทิศทางเดียวกับที่หญิงสาวชี้ไป

         ภาพที่คิระเห็นคือร้านขายขวดน้ำยาหลากสีสองร้าน ร้านแรกตั้งบนผืนผ้าที่ดูมอซอไร้การตกแต่งใดๆ ส่วนอีกร้านหนึ่งตั้งอยู่บนแผงสีสันสดใสพร้อมมีออฟชั่นเสริมด้วยการแช่ยาทั้งหมดอยู่ในน้ำแข็งเย็นฉ่ำดูน่าดื่มกว่ากันแบบเห็นๆ ที่สำคัญราคาของร้านทั้งสองนั้นเหมือนกันทุกชนิดทุกยี่ห้อกันเลยทีเดียว

         "เอ่อ... ผมคงเลือกซื้อร้านที่อยู่ในแผงมากกว่าครับ"

         "นั่นสินะครับ!!! ราคาก็เท่ากันแต่ร้านสวยกว่าแถมมีการแช่เย็นให้อีกยังไงก็ต้องเลือกซื้อร้านขายยาเย็นๆอยู่แล้วจริงมั้ยละครับ"

         "ทีนี้เห็นความแตกต่างของอาชีพพ่อค้ากับอาชีพอื่นๆรึยังละคะคุณคิระ นอกจากตั้งแผงลอยได้แล้วถ้าพ่อค้าคนนั้นมีเงินมากพอก็จะสามารถซื้อตึกหรือพื้นที่ในอาคารเพื่อเปิดร้านค้าของตัวเองเพื่อตกแต่งร้านตามที่ชอบและขายของได้มากเท่าที่ต้องการอีกด้วยค่ะ"


         เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วในหัวของคิระก็พลันบังเกิดภาพตัวเขาในชุดสูทผูกเน็คไทใส่แว่นดำนั่งอยู่บนชั้นสูงสุดของอาคารหรูและคอยนับเงินจากร้านค้าต่างๆที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกไปด้วยความเพลิดเพลิน ขณะที่แม่ของเขากำลังสนุกสนานกับการท่องเที่ยวรอบโลกอยู่ครู่ใหญ่จนรินและมีนะต้องตะโกนเรียกอยู่หลายต่อหลายครั้งกว่าที่ชายหนุ่มจะรุ้สึกตัว

         "แหม... ถ้าผมเล่นอาชีพพ่อค้าบ้างก็คงรวยได้ง่ายๆสินะครับ?"

         "ตายจริง~* คุณคิระอยากเล่นเป็นอาชีพพ่อค้าเหรอคะ?"

         ".....?"


         น้ำเสียงหวานที่ฟังเสนาะหูดังขึ้นจากด้านหลังของพวกคิระ ทำให้ชายหนุ่มต้องหันกลับมามองและก็พบกับใบหน้าหวานที่ประดับด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตอันคุ้นเคย

         "สวัสดีครับคุณแอมมี่"

         "แหม เรียกแอมมี่เฉยๆก็ได้ค่ะ มีคำว่าคุณแล้วมันดูห่างเหินกันเกินไปหน่อยนะคะ"

         "เอ่อ... งั้น... แอมมี่ครับ"

         "ขา~♥"

         "..... / ....."


         น้ำเสียงที่หญิงสาวตอบกลับมาพลอยทำให้หางคิ้วของรินและมีนะกระตุกแปลกๆ... ก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าวต่อไปเพื่อไขข้องสงสัยของตนว่า

         "ที่ว่าจะช่วยให้ผมเป็นพ่อค้านี้หมายความว่ายังไงเหรอครับ?"

         "ถ้าจะเอาสั้นๆง่าย ชั้นก็จะใช้ชื่อเสียงของสหพันธ์ช่วยส่งคุณเข้าไปอยู่ในสหพันธ์ Greed Goblin ที่มีอาชีพพ่อค้าเป็นหลัก ซึ่งนั่นจะช่วยให้คุณกลายเป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งได้ง่ายๆยังไงละคะ"

         "งั้นไม่ละครับ ขอบคุณมาก"

         "เอ๋???"


         คำตอบของชายหนุ่มทำให้แอมมี่คิ้วขมวดไปเล็กน้อย โดยไม่มีใครทันสังเกตมุมปากของมีนะและรินที่แอบยิ้มด้วยความสะใจที่แอมมี่ถูกปฏิเสธอยู่เงียบๆ

         "เอ่อ... ขอทราบเหตุผลได้มั้ยคะว่าทำไม?"

         "เพราะผมไม่อยากเข้าร่วมกับสมาพันธ์ที่เห็นแกตัวโดยการกว้านซื้อที่เพื่อตั้งร้านค้าแล้วรีดไถเงินจากเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ครับ ถ้าเป็นผมละก็ผมจะตั้งร้านค้าแต่ไม่เก็บเงินเพื่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้ใช้ร้านค้าเพื่อหาเงินฟรีๆครับ"

         [ วูบ... ]
         [ เอ๋? เอ๋??? ]
         [ ว้าย!?! / เฮ้ย!!! / .....!!! ]



         ร่างของคิระลอยสูงขึ้นจากตัวพื้นด้วยแรงยกประหลาดท่ามกลางอาการตื่นตกใจของมีนะและริน รวมไปถึงแอมมี่ที่กำลังขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนยกคิระขึ้นไปในอากาศ

         "แกว่าสหพันธ์ของใครเห็นแก่ตัวหาไอ้หนู?"

         "ง่ะ... ช้างพูดได้"

         "แกว่าใครเป็นช้างพูดได้นะ!?!"


         ผู้มาใหม่เป็นชายร่างสูงกว่า 2.5 เมตร สวมชุดสไตล์อาหรับเต็มขั้น ผ้าโพกหัวที่พันรอบศัรษะอย่างแน่นหนา เสื้อแขนยาวสวมทับด้วยเสื้อกั๊กบางๆ กางเกงหลวมๆที่คาดด้วยผ้าผืนยาว รองเท้าขนาดเล็กที่ดัดปลายให้โค้งขึ้นมาเล็กน้อย ชุดเหล่านี้ช่างดูแปลกตาในเมืองเริ่มต้นที่ทุกๆคนใส่ชุดแนวอัศวินฝึกหัดที่ใส่เกราัะอกและเกราะไหล่รวมไปถึงปลอกแขนและถุงมือ ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาของชายตรงหน้านั้นไม่ใช่ชุดแต่เป็นหุ่นที่บวมเป่งเหมือนช้างและใบหน้าที่บวมอืดราวกับยัดซาลาเปาเอาไว้ยังไงอย่างงั้น

         "ราชิต!!! ปล่อยคิระคุงลงมาเดี๋ยวนี้นะ!!!"

         "โอ๊ว~♥ แอมมี่ที่รักจ๋า อะไรพาเธอมาที่นี่ได้จ๊ะเนี่ยยอดรัก~♥♥♥"


         แววตาของราชิตเปลี่ยนเป็นรูปหัวใจในทันทีที่เห็นแอมมี่ยืนตะโกนใส่หน้าเขา ขณะที่หญิงสาวตะโกนด้วยความเดือดดาลอย่างที่ชายร่างยักษ์ไม่เคยเห็นมาก่อน

         "ชั้นขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะราชิต ปล่อยคิระคุงเดี๋ยวนี้!!!"

         "... แล้วถ้าชั้นไม่ปล่อยเธอจะทำอะไรชั้นได้ล่ะจ้ะแอมมี่ที่รัก?"

         [ ..... ]
         [ ควับๆ!!! ]



         เครื่อง CT สีฟ้า-ขาวถูกชูขึ้นใส่ราชิตในระยะใกล้พร้อมแววตาที่แข็งกร้าวของหญิงสาวที่แสดงให้เห็นว่าเธอเอาจริง...

         "ถ้านายไม่ยอมปล่อยคิระคุงละก็เราจะได้เห็นดีกันราชิต!!!"

         "โอ๊~* โฮะๆๆๆๆ!!! ถ้าเธอและชั้นซึ่งเป็นหัวหน้าสมาพันธ์ต่อสู้กันที่นี่อาจจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามระหว่างสมาพันธ์ได้นะแอมมี่น้อย... เธอแน่ใจแล้วเหรอที่จะทำแบบนี้น่ะ?"

         "....."


         คิระไม่รู้ว่าระหว่างราชิตและแอมมี่มีความสัมพันธ์กันแบบใด ทว่าสิ่งที่สัญชาติญาณของเขาร้องเตือนก็คือเขากำลังจะโดนดึงเข้าไปพัวพันกับเรื่องใหญ่โตอีกแหงๆ คิดได้ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงรีบคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า แต่ดูเหมือนชะตากรรมจะไม่ปล่อยให้เขารอดพ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้ง่ายๆ เมื่อวัตถุบางอย่างพุ่งแหวกอากาศเข้ามาใกล้เขาอย่างไวว่อง

         [ ฟ้าว... ฉึก!!! ]
         [ โอ๊ย!?! ]


         - 413 Damage  -


         ลูกธนูแสงปักใส่ฝ่ามือของราชิตอย่างแม่นยำโดยไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ทำให้ชายร่างยักษ์ต้องสะบัดมือด้วยความเจ็บปวดและส่งร่างบางๆของคิระให้ลอยคว้างไปในอากาศอย่างเสียการควบคุม

         [ อุ กรี้ดดด~!!! ]
         [ แผละ!!! / แอ้ก... ]
         [ คุณคิระ!!! / พี่คิระ!!! ]


         - 41 Damage : คงเหลือ 459 / 500 -


         แอมมี่ มีนะและรินรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของชายหนุ่มที่ร่อนลงพื้นในท่าจิ้งจกตกหลังคาอย่างงามสง่าเป็นครั้งที่สองในชีวิต ขณะที่ราชิตเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของลูกธนูแสงที่บัดนี้สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยและทิ้งรูขนาดเล็กเอาไว้หลังฝ่ามือของเขา ขณะที่ร่างของใครคนหนึ่งส่งยิ้มเยาะมาให้เขาจากบนหลังคา

         "เรเวน่า รองผู้นำสหพันธ์ Elvern Blood... หล่อนยิงชั้นแบบนี้นี่ตั้งใจจะหาเรื่องกันรึยังไง!?!"

         "อาร๊า~* บังเอิญชั้นทนเห็นนายรังแกพ่อหนุ่มน่ารักคนนี้ไม่ได้ก็แค่นั้นเอง~♥"

         [ ฟิ้ว... ตุบ!!! ]


         หญิงสาวนามเรเวน่ากระโดดลงมาจากหลังคาของอาคารสูง 2 ชั้นได้ด้วยท่าทีสบายๆพร้อมคันธนูขนาดใหญ่บนมือก่อนที่เธอจะหันมายิ้มให้กับแอมมี่และขยิบตาให้อย่างเป็นมิตรพลางขังคันธนูเล็งไปยังราชิตอย่างเอาเรื่อง

         เรเวน่าเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ผมสีทองประกายปล่อยยาวสยายจนถึงหลางหลัง นัยน์ตาสีมรกตนั้นช่างดูงดงามราบกับภูติพราย ชุดที่เธอแต่งอยู่นั้นเป็นชุดเดรสกระโปรงกว้างสีขาว-เขียวที่บริเวณด้านหน้าถูกคว้นให้โค้งซึ่งสะดวกต่อการวิ่ง รองเท้าบู๊ตเนื้อบางที่ยาวขึ้นมาปกปิดต้นขานั้นทำให้ขาอ่อนที่โผล่ออกมาน้อยๆและหัวไหล่ที่เปิดกว้างรวมกับใบหูที่เรียวแหลมเหมือนเผ่าเอลฟ์นั้นทำให้เธอดูเป็นภูติสาวที่งามสง่าหาใครเทียมเลยทีเดียว

         "ที่เด็กคนนี้บอกว่าสมาพันธ์ของนายเห็นแก่ตัวน่ะชั้นขอขยี้ Like! ให้เลยละ!!! เกาะเริ่มต้นที่น่าจะให้เด็กใหม่เล่นกันอย่างสนุกสนานกลับโดนสหพันธ์ของนายตักตวงผลประโยชน์แบบนี้มันน่าขยะแขยงสิ้นดี"

         "หนอยแน่!!!"


         ราชิตตั้งใจจะก้าวเขอาไปเอาเรื่องกับหญิงสาวกลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อเสียงของใครอีกคนหนึ่งดังลอดออกมาจากท่ามกลางฝูงชน

         "ข้าขอวิงวอนต่อจิตวิญญาณแห่งเหมันต์ พลังท่านคือพลังของข้า พลังของข้าหยิบยืมจากท่าน..."

         [ Ice Lance!!! ]
         [ ฟ้าว... เปรี้ยง!!! ]
         [ เฮ้ย!?! ]



         หอกน้ำแข็งเล่มโตพุ่งลงมาปักลงบนพื้นเบื้องหน้าชายร่างยักษ์ ซึ่งคมน้ำแข็งนั้นเฉียดผ่านใบหน้าของเขาไปพียงไม่กี่มิลเท่านั้น

         "คิกๆๆ... ชั้นทักทายนายแรงไปหน่อยรึเปล่าราชิต?"

         "ราชินีน้ำแข็ง เบลดีน่า หนึ่งในสามผู้นำแห่งสหพันธ์ Wise Magic!?!"


         หญิงสาวนามเบลดีน่าก้าวออกมาจากฝูงชนพร้อมไม้เท้ายาวรูปจันทร์เสี้ยวประดิบคริสตัลเม็ดโตเอาไว้บนยอดไม้เท้า เรื่องร่างของเธอดูเพรียวระหงด้วยชุดเดรสสีน้ำเงินยาวที่ผ่าบริเวณด้านข้างจนเผยให้เห็นวงขาเนียนไร้ตำหนิ ขณะที่ไหล่ของเธอนั้นสวมทับด้วยชุดคลุมยาวซึ่งตกแต่งด้วยขนสัตว์สีขาวดูนุ่มฟูและสวมหมวดทรงแหลมสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของแม่มด... หากเรเวน่าเป็นภูติสาวผู้งามสง่าแล่ว เบลดีน่าก็คงเปรียบได้ดั่งแม่มดผู้เลอโฉมนั่นเอง

         [ ควับ... กึก!!! ]
         [ เฮือก!?! ]



         ใบมีดอันคมกริบถูกทาบลงบนลำคออย่างเงียบเชียบเมื่อร่งของใครบางคนโอบรัดลำคอของราชิตจากด้านหลังพลางจ่อปลายมีดลงบนแผงคอหนานั้นโดยไม่มีใครมองทัน

         "มะ... มาริน่า... นักฆ่าเงาแห่งสหพันธ์ Shadow Blade..."

         "....."


         ร่างของราชิตได้แต่ยืนนิ่งๆโดยไม่กล้าแม้แต่กระดิกนิ้วเมื่อนักฆ่าผู้มีชื่อเสียงกำลังจ่อมีดลงบนลำคอของเขา พลางนึกสงสัยเพราะเหตุใดบรรดาผู้นำของสหพันธ์อื่นๆถึงมาปรากฏตัว ณ สถานที่แห่งนี้ได้?

         มาริน่าแต่งกายด้วยชุดนินจาสีดำสนิทและคาดผ้าปิดปากบดบังใบหน้าเอาไว้หลายส่วน ทว่ารูปร่างที่โค้งเว้าได้สัดส่วนบวกกับชุดนินจาที่รัดรูปเพื่อเน้นความกระชับช่วยให้รูปร่างของเธอเผยออกมาอย่างชัดเจน ยิ่งนับรวมกับแววตาสีม่วงที่ทอประกายคมกล้าและผมสีดำที่รวบเอาไว้อย่างงดงามแล้วทำให้เธอดูเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากอีกคนหนึ่ง


         'ทำไมคนพวกนี้ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้? หรือว่าข่าวที่เราทุ่มเงินซื้อมานั่นจะรั่วไหลออกไป!?!' ราชิตซึ่งตอนนี้ขยับตัวไม่ได้ทำได้เพียงกลอกตาไปมาและขบคิดอยู่เงียบๆภายในใจ ขณะที่รินจ้องมองกลุ่มคนตรงหน้าด้วยอาการตะลึงอ้าปากค้างอยู่พักใหญ่

         "Iron Heart / Greed Goblin / Elvern Blood / Wise Magic / Shadow Blade... นี่ถ้ามีคนของสหพันธ์ Dragon Fang / Heaven Corps และ Demon Oath อยู่ด้วยที่นี่ก็จะมีคนของ 8 สหพันธ์ใหญ่มารวมกันจนครบเลยนะครับเนี่ย..."

         "....."


         รินรำพึงออกมาด้วยความปลาบปลื้มที่ได้เห็นบุคคลชั้นแนวหน้าของเกมอย่างพร้อมเพรียงกันเช่นนี้ ขณะที่มีนะเองก็มีอาการไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ต่างกับแอมมี่ที่จ้องมองกลุ่มคนโดยรอบพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัยและคิระที่นั่งเอ๋ออยู่บนตัวพื้นและเอียงคอสงสัยว่าคนพวกนี้มันเป็นใครกันหว่า?

         "ฮ่าๆๆๆ!!! วันนี้เป็นวันรวมญาติรึไงวะถึงได้เห็นพวกแกมาออกันพร้อมหน้าแบบนี้น่ะ?"

         "คนเยอะ... หนวกหู... วุ่นวาย... น่ารำคาญ..."

         "ยะ... อย่ามีเรื่องกันเลยนะครับ!!! คุณมาริน่าเองก็ลดมีดลงก่อนเถอะนะครับ"

         "....."


         เสียงพูดคุยดังมาจากด้านหลังพร้อมการปรากฏตัวของคนกลุ่มหนึ่ง... ชายที่เปล่งเสียงหัวเราะเป็นชายหนุ่มรูปงาม ไว้ผมสีทองยาวประบ้าและสวมชุดเกราะสีแดงเพลิงสลักลวดลายสีทองตามจุดต่างๆ ขณะที่ข้างกายของเขาขนาบด้วยชายผมเงินที่แต่งกายเซอร์ๆด้วยชุดที่เต็มไปด้วยรอยกรีดด้วยของมีคมแต่ดูดีอย่างน่าประหลาดเมื่อเขาเป็นผู้สวมใส่ และชายผมทองหน้าตาบ้องแบ้วที่แต่งกายด้วยชุดนักบวชเต็มยศ

         [ กึก วูบ... ]
         [ ..... ]



         มาริน่าเก็บมีดของตนและผละออกจากร่างของราชิตไปอย่างว่องไว ทว่าก่อนที่ใครจะได้ทันสังเกตเห็นร่างของเธอก็หายไปในอากาศธาตุเสียแล้ว

         "ซิกฟรีด เบลดีส ฮาวี่... นี่กระทั่งพวกแกก็มาที่เกาะเริ่มต้นด้วยเหรอเนี่ย!?!"

         "ว้าว~* แบบนี้ก็ครบ 8 สมาพันธ์แล้วสินะ?"

         ราชิตครางออกมาอย่างเหลืออดในขณะที่เบลดีน่าปรบมืออย่างถูกอกถูกใจที่ได้เห็นเพื่อนเก่ามาอยู่รวมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี ทว่าในความรู้สึกของคิระเขาสัมผัสได้ว่าความซวยชนิดไดโนเสาร์เรียกพ่อกำลังจะบังเกิดในอนาคตอันใกล้นี้

         "ว่าแต่เขา แล้วนายล่ะมาทำอะไรที่นี่ราชิต? ได้ข่าวมาว่านายกำลังเดินทางไปเจรจาเพื่อทำธุรกิจที่เมือง (*)ฟาเออเรีย (Faeria) ไม่ใช่เรอะ?"

         "อึก... เรื่องนั้นมัน"

         (* ฟาเออเรีย - หนึ่งใน 8 เมืองหลวงในทวีปใหญ่ นครที่ได้ชื่อว่า "เมืองแห่งเพลิงผลาญ" เนื่องจากในอาณาเขตของเมืองนี้ร้อนระอุไปด้วยภูเขาไฟที่ปะทุตลิดทั้งปี ทำให้มันเต็มไปด้วยเหมืองเพชรแชะแร่ธาตุหายากจำนวนมาก อนึ่งสัตว์อสูรหลักๆในเมืองนี้มักจะเป้นธาตุไฟและแซมด้วยธาตุอื่นๆเล็กน้อย)

         หนุ่มในชุดเกราะนามซิกฟรีดกล่าวสวนกลับไปจนใบหน้าของราชิตเริ่มขาวซีดลงอย่างช้าๆ เพราะตามจริงแล้วเขาแกล้งปล่อยข่าวลวงออกไปว่าตัวเขากำลังเดินทางไปเพื่อเจรจาทางด้านธุรกิจในทวีปใหญ่ หากแต่ความจริงแล้วตัวเขามีสิ่งอื่นที่อยากจะทำเสียมากยิ่งกว่า

         "เอ่อ..."

         ".....?"


         น้ำเสียงหงอๆของคิระดังขัดขึ้นท่ามกลางวงสนทนา ทำให้เหล่าผู้นำของสหพันธ์ต่างๆหันกลับมาจ้องเขาเป็นตาเดียวจนชายหนุ่มรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงทรวงใน ทว่าคิระก็ยังสามารถเอ่ยคำพูดของตนออกไปได้อย่างยากเย็นว่า

         "ดูเหมือนนี่จะเป็นเรื่องใหญ่... ดังนั้นผมและเพื่อนที่เป็นคนนอกคงต้องขอตัวก่อน... ลาละครับ!!!"

         [ กึก... หมับ!!! ]
         [ แง้ก!!! ]



         คิระที่ตั้งใจจะหนีออกจากบทสนทนานี้พร้อมรินและมีนะต้องชะงักเท้าเมื่อซิกฟรีดคว้าหมับลงบนไหล่ของชายหนุ่มพลางออกแรงบีบอย่างแรงจนคิระแสดงสีหน้าเหยเกออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะแรงบีบของซีกฟรีดนั้นแทบจะป่นกระดูกของเขาจนเละคามืออยู่แล้ว!!!

         - Damage 142 :
    คงเหลือ 317 / 500 -

         "อยู่นี่ก่อนน้องชาย... พวกพี่พูดอีกนิดก็น่าจะจบแล้วละทนรอนิดนะ"

         "ครับ... (เจ็บโว้ยยย~!!!)"


         ชายหนุ่มได้แต่กัดฟันสะกดความเจ็บเพราะตนเองคงไม่มีปัญญาไปสู้กับคนระดับสูงแบบนี้ได้ ก่อนที่ซิกฟรีดจะรีบพูดธุระของตนต่อไปอย่างไม่รีบร้อนอะไรนัก

         "เอาล่ะเรามากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า... ชั้นคิดว่าพวกเราทุกคนในที่นี้มารวมกันที่นี่เพราะข่าวลือแปลกๆเรื่องหนึ่ง... ข่าวลือที่ว่ามีคนพบเห็นสัตว์อสูร Rank S ที่เกาะเริ่มต้นแห่งนี้"

         ".....!!!"

         [ แซ่ดๆๆๆ... ]


         บรรดาผู้เล่นที่มุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างส่งเสียงพูดคุยกันอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินสิ่งที่ซิกฟรีดพูด ซึ่งต่างกับราชิตที่บัดนี้ใบหน้าซีดขาวยิ่งกว่าใช้ผงซักฟอกสูครโคตรขาวผ่อง เมื่อข่าวที่เขาทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อมากลับรู้ไปถึงสมาพันธ์อื่นจนครบเช่นนี้

         "เรื่องสัตว์อสูรนั่นจะมีจริงหรือไม่จริงนั่นชั้นไม่ค่อยจะสนเท่าไหร่หรอก... เพราะมีข่าวอื่นที่น่าสนใจกว่าข่าวที่ว่านั่นจนทำให้ชั้นต้องรีบรุดมาที่นี่ยังไงล่ะ"

         "ขะ... ข่าวอะไร!?!"


         น้ำเสียงของราชิตสั่นเครืออย่างรุนแรงเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายยังมีข่าวอื่นที่เขายังไม่รู้อยู่อีก ซึ่งซิกฟรีดก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายรอเก้อและเปล่งเสียงตะโกนให้ทุกคนได้ยินโดยทั่วกันว่า

         "อีกเหตุผลและเป็นเหตุผลหลังที่ทำให้เราซิกฟรีตเดินทางมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาเชิญให้เด็กใหม่ที่ล้มเจ้าบ้าเรดินาสลงได้ให้มาเข้าสมาพันธ์ของชั้น... ใช้แล้ว!!! เรามาเพื่อเชิญให้พ่อหนุ่มคนนี้และเพื่อนๆเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์ Draon Fang อันยิ่งใหญ่ของเรานั่นเอง!!!"

         "..... / ..... / ....."


         ซีกฟรีดสวมกอดเข้าใส่คิระจนผู้คนโดยรอบต่างตะลึงอ้าปกค้างและพูดอะไรไม่ออกไปอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งพ่อตัวดีของพวกเราซึ่งแสดงท่าทีหน้านิ่วคิ้วขมวดจะตั้งสติได้และเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นคนแรก

         [ เอ๊ะ... เอ๋~~~!!!!! ]


         คิระรู้สึกหน้ามืดตาลายขึ้นมากะทันหันเมื่อนึกย้อนกลับไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเริ่มเล่นเกม Beast Tamer Online... ร่วงลงมาจากท้องฟ้า โดยฝูงไบซันไล่ขวิด มีเรื่องวิวาทกับผู้เล่นระดับสูง เข้าไปพัวพันกับเหตุลักพาตัว แล้วมาตอนนี้เขายังตกเป็นเป้าเชิญชวนขอหนึ่งในสหพันธ์ใหญ่ทั้ง 8 อีก!!!

         นี่เขาจะมีชีวิตเล่นเกมแบบชาวบ้านธรรมดาๆเขาไม่ได้จริงๆใช่ม้าย~!!!!!


     
    -----
     


    [ โปรดติดตามตอนต่อไป ]

    -----


    เพิ่มเติมจากนักเขียน

     
         เนื่องจาก Writer เรียนจบปริญญาตรีเริ่มทำงานแล้วจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างเขียนเหมือนเดิม แต่ทาง Writer จะพยายามหาเวลาว่างมาเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ทุกๆคนอ่านอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นขอให้ทุกๆคนติดตามและเม้นเป็นกำลังใจให้นักเขียนตาดำๆคนนี้ด้วย

     
    ด้วยรักจากนักเขียน

    Lunaze       

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×