ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สิ่งที่น้องควรมีก่อนการฝึกวาดรูป
1. ทัศนคติ “ฉันทำได้”
เป็นขั้นแรกของการวาดรูปเลยนะคะ ก่อนอื่น น้องจะต้องมี “ทัศนคติบวก” ต่อการวาดรูปก่อน เพราะหลายๆคนที่ไม่เก่งขึ้น เป็นเพราะน้องยัง ”ขาดความมั่นใจในการวาด” เพราะน้องยังคิดว่า คนนั้นเก่ง คนนี้เก่งเขาเลยทำได้ จริงๆไม่ใช่นะคะ เพราะว่า พรสวรรค์นั้น 1% เท่านั้น อีก 99% คือการฝึกฝนค่ะ วิธีนี้น้องลองคิดว่าน้องกลายเป็นอาจารย์ที่น้องชอบดู น้องต้องคิดว่า ตอนนี้เราวาดรูปเก่งมากนะคะ อาจจะส่องกระจกแล้วพูดกับตัวเองก็ได้ว่าเราวาดรูปเก่งมาก อาจจะเป็นวิธีที่ดูเพี้ยน แต่พี่อยากจะบอกว่ามันได้ผล เพราะว่ามันคือการฝังความคิดลงไปในจิตใต้สำนึกของเรานะคะ แล้วเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นจริงๆ แรกๆอาจจะดูฝืนๆหน่อย เทคนิคนี้ทอม ฮอฟกินส์เรียกว่า “fake it until you get it” ค่ะ เหมือนเวลาที่น้องคิดว่าน้องเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง การกระทำของน้องก็จะเป็นไปตามนั้นใช่ไหมคะ? คือน้องจะตั้งใจอ่านหนังสือสอบ เพราะคิดว่าตัวเองทำได้ การวาดรูปก็ต้องคิดแบบเดียวกันค่ะ เริ่มจากคิดว่าเราเก่งเราทำได้ก่อนนะคะ ถ้าอาจารย์ที่น้องชอบทำได้ น้องก็คิดว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน เพราะน้องกับอาจารย์ไม่มีอะไรต่างกัน เราเป็นคนเหมือนกัน มี 2 มือเหมือนกันค่ะ เทคนิคนี้น้องเอาไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ทุกเรื่องนะคะ ไม่ใช่เฉพาะการวาดรูป
2.การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อทัศนคติน้องผ่านแล้วก็มาถึงการฝึกฝนนะคะ การฝึกฝนนั้น ให้น้องคิดว่า เหมือนกับการวางกระดาษเป็นแผ่นๆนะคะ ลงไปบนพื้น ซึ่งกระดาษนั้นมันบางมาก มองด้านข้างเราอาจจะมองไม่เห็นอะไรเลยใช่ไหมคะ ก็เหมือนกับการฝึกวาด ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่เห็นผลมากเท่าไร เพราะมันคือกระดาษ 1 แผ่นที่น้องวางลงไป แต่ถ้าน้องวางกระดาษอย่างสม่ำเสมอทุกวัน 1 แผ่นก็จะกลายเป็น 1 ตั้ง ซึ่งตอนนี้มันจะหนามากนะคะ การฝึกฝนนั้นต้องการ ”ความสม่ำเสมอ”ค่ะ เพราะฉะนั้นน้องเริ่มจากฝึกวาด ”อะไรก็ได้” อย่างสม่ำเสมอนะคะ เริ่มจากสิ่งรอบๆตัวน้อง สิ่งที่น้องเห็น อะไรก็ได้ที่น้องชอบวาดและอยากวาด วันละ 1 รูปก็ได้ ในขั้นนี้น้องอาจจะยังไม่รู้ว่าสิ่งที่น้องชอบคืออะไร น้องรู้แต่เพียงว่าน้องชอบวาดรูปมากเท่านั้น ดังนั้น ในขั้นนี้ให้น้องฝึกสังเกตุให้มากๆ และสนใจในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือรสนิยมของตัวเอง เพราะมันจะนำไปสู่สไตล์ของน้องในที่สุดนะคะ
3.สะสมแรงบันดาลใจ
น้องเริ่มเปิด internet อ่านการ์ตูน เจออาจารย์ที่น้องชอบ น้องเปิดนิตยสารแฟชัน เจอภาพที่น้องชอบ น้องสะสมไว้นะคะ น้องแต่ละคนควรจะมีแฟ้มของตัวเอง ให้น้องๆตัดนิตยสารที่น้องชอบเก็บ (ถ้าน้องไม่อยากตัดก็แสกนแล้วปรินท์ออกมา) ปรินท์ภาพที่ชอบออกมาเก็บไว้ หรือถ้าใครไม่อยากปรินท์ ก็เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์นะคะ ในโฟลเดอร์ที่เราหาง่ายๆ เวลาเราขาดแรงบันดาลใจเราจะได้เปิดดู ให้เราดูสิ่งที่หลากหลายเข้าไว้ไม่ว่าจะเป็นงาน graphic,fashion,รูปถ่ายสวยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่สไตล์ของน้องได้ในที่สุดนะคะ เพราะว่าสไตล์ของน้องจะมาจากทักษะ+สิ่งที่น้องชอบ+สิ่งที่น้องเป็น นั่นก็คือสิ่งทีน้องมีอยู่ในคลังข้อมูลของสมองน้องนั่นเอง เพราะฉะนั้นใครที่มีคลังข้อมูลใหญ่ ก็จะสามารถสร้างงานที่แตกต่างจากคนอื่นได้ง่ายด้วยนะคะ
ที่มา
http://www.illustcourse.com/
เป็นขั้นแรกของการวาดรูปเลยนะคะ ก่อนอื่น น้องจะต้องมี “ทัศนคติบวก” ต่อการวาดรูปก่อน เพราะหลายๆคนที่ไม่เก่งขึ้น เป็นเพราะน้องยัง ”ขาดความมั่นใจในการวาด” เพราะน้องยังคิดว่า คนนั้นเก่ง คนนี้เก่งเขาเลยทำได้ จริงๆไม่ใช่นะคะ เพราะว่า พรสวรรค์นั้น 1% เท่านั้น อีก 99% คือการฝึกฝนค่ะ วิธีนี้น้องลองคิดว่าน้องกลายเป็นอาจารย์ที่น้องชอบดู น้องต้องคิดว่า ตอนนี้เราวาดรูปเก่งมากนะคะ อาจจะส่องกระจกแล้วพูดกับตัวเองก็ได้ว่าเราวาดรูปเก่งมาก อาจจะเป็นวิธีที่ดูเพี้ยน แต่พี่อยากจะบอกว่ามันได้ผล เพราะว่ามันคือการฝังความคิดลงไปในจิตใต้สำนึกของเรานะคะ แล้วเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นจริงๆ แรกๆอาจจะดูฝืนๆหน่อย เทคนิคนี้ทอม ฮอฟกินส์เรียกว่า “fake it until you get it” ค่ะ เหมือนเวลาที่น้องคิดว่าน้องเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง การกระทำของน้องก็จะเป็นไปตามนั้นใช่ไหมคะ? คือน้องจะตั้งใจอ่านหนังสือสอบ เพราะคิดว่าตัวเองทำได้ การวาดรูปก็ต้องคิดแบบเดียวกันค่ะ เริ่มจากคิดว่าเราเก่งเราทำได้ก่อนนะคะ ถ้าอาจารย์ที่น้องชอบทำได้ น้องก็คิดว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน เพราะน้องกับอาจารย์ไม่มีอะไรต่างกัน เราเป็นคนเหมือนกัน มี 2 มือเหมือนกันค่ะ เทคนิคนี้น้องเอาไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ทุกเรื่องนะคะ ไม่ใช่เฉพาะการวาดรูป
2.การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อทัศนคติน้องผ่านแล้วก็มาถึงการฝึกฝนนะคะ การฝึกฝนนั้น ให้น้องคิดว่า เหมือนกับการวางกระดาษเป็นแผ่นๆนะคะ ลงไปบนพื้น ซึ่งกระดาษนั้นมันบางมาก มองด้านข้างเราอาจจะมองไม่เห็นอะไรเลยใช่ไหมคะ ก็เหมือนกับการฝึกวาด ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่เห็นผลมากเท่าไร เพราะมันคือกระดาษ 1 แผ่นที่น้องวางลงไป แต่ถ้าน้องวางกระดาษอย่างสม่ำเสมอทุกวัน 1 แผ่นก็จะกลายเป็น 1 ตั้ง ซึ่งตอนนี้มันจะหนามากนะคะ การฝึกฝนนั้นต้องการ ”ความสม่ำเสมอ”ค่ะ เพราะฉะนั้นน้องเริ่มจากฝึกวาด ”อะไรก็ได้” อย่างสม่ำเสมอนะคะ เริ่มจากสิ่งรอบๆตัวน้อง สิ่งที่น้องเห็น อะไรก็ได้ที่น้องชอบวาดและอยากวาด วันละ 1 รูปก็ได้ ในขั้นนี้น้องอาจจะยังไม่รู้ว่าสิ่งที่น้องชอบคืออะไร น้องรู้แต่เพียงว่าน้องชอบวาดรูปมากเท่านั้น ดังนั้น ในขั้นนี้ให้น้องฝึกสังเกตุให้มากๆ และสนใจในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือรสนิยมของตัวเอง เพราะมันจะนำไปสู่สไตล์ของน้องในที่สุดนะคะ
3.สะสมแรงบันดาลใจ
น้องเริ่มเปิด internet อ่านการ์ตูน เจออาจารย์ที่น้องชอบ น้องเปิดนิตยสารแฟชัน เจอภาพที่น้องชอบ น้องสะสมไว้นะคะ น้องแต่ละคนควรจะมีแฟ้มของตัวเอง ให้น้องๆตัดนิตยสารที่น้องชอบเก็บ (ถ้าน้องไม่อยากตัดก็แสกนแล้วปรินท์ออกมา) ปรินท์ภาพที่ชอบออกมาเก็บไว้ หรือถ้าใครไม่อยากปรินท์ ก็เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์นะคะ ในโฟลเดอร์ที่เราหาง่ายๆ เวลาเราขาดแรงบันดาลใจเราจะได้เปิดดู ให้เราดูสิ่งที่หลากหลายเข้าไว้ไม่ว่าจะเป็นงาน graphic,fashion,รูปถ่ายสวยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่สไตล์ของน้องได้ในที่สุดนะคะ เพราะว่าสไตล์ของน้องจะมาจากทักษะ+สิ่งที่น้องชอบ+สิ่งที่น้องเป็น นั่นก็คือสิ่งทีน้องมีอยู่ในคลังข้อมูลของสมองน้องนั่นเอง เพราะฉะนั้นใครที่มีคลังข้อมูลใหญ่ ก็จะสามารถสร้างงานที่แตกต่างจากคนอื่นได้ง่ายด้วยนะคะ
ที่มา
http://www.illustcourse.com/
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น