คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นางฟ้าเส้นผมสีซากุระ
มาต่อตอนที่สองแล้วค่าทำไมมีคนเม้นต์คนเดียวเองง่าช่างเถอะก็ยังดีขอขอบพระคุณที่มาเม้นต์นะคะ ส่วนรูปนี่ไว้จะทำเป็นลิ้งมาให้นะคะ
Phase 2 นางฟ้าเส้นผมสีซากุระ
ในเช้าวันใหม่ชายหนุ่มเส้นผมสีน้ำตาลเงาลุกขึ้นจากเตียงอันแสนอ่อนนุ่มแล้วเดินไปเปิดม่าน ภาพยามเช้าของเมืองนี้ทำให้เขาเบิกบานใจไม่น้อยเมืองสีขาวนวลที่ถูกฉาบไปด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้ากับเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ดังก้องไปทั่วราวกับนาฬิกาบิ๊กเบน เขายืนมองภาพนี้ซักครู่แล้วจึงหันหลังกลับไปทำกิจวัตรประจำวัน ไม่นานเขาก็เดินออกไปข้างนอกห้อง ที่ข้างนอกเขาได้เจอกับเพื่อนผมสีครามเดินมาที่หน้าห้องน้องสาวเขา
"อ้าวอัสรัน อรุณสวัสดิ์"เขาทักเพื่อนอย่างสดชื่น
"อืม อรุณสวัสดิ์"เพื่อนของเขาก็ตอบกลับด้วยใบหน้าที่สดชื่นเช่นเดียวกับเขา
"จะไปปลุกคางาริเหรอ"
"เอ่อ..ใช่ ดูสิยังไม่ตื่นเลย"เขาตอบอย่างเซ็งๆ
"จริงด้วย สงสัยต้องใช้ไม้เดิมฝากด้วยนะอัสรัน"คิระยิ้มเล็กๆแล้วเดินไปที่ห้องรวม
"อืม"อัสรันตอบแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องพลางเดินเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ
ขณะที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเดินไปที่ห้องรวมเขาก็พบกับมิลิอาเรียกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่
"อ้ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านคิระ"เธอทักเขาด้วยรอยยิ้ม
"อืม อรุณสวัสดิ์"แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าเธอมองไปทางขวาทีซ้ายที
"เอ่อ..แล้วท่านอัสรันกับท่านคางาริล่ะคะ"เธอถามทันทีเมื่อไม่เห็นแขกอีกสองคน
"อ๋อ อัสรันเขากำลังไปปลุกคางา..."คิระยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงดังลั่นมาจากห้องของคางาริ
"อัสรัน!!!!!! นี่นายอีกแล้วเหรอ!"สิ้นเสียงไม่นานประตูห้องของน้องสาวฝาแฝดของเขาก็เปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มเพื่อนสนิทของเขาก้าวออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ทะเล้น
"ฮะๆๆ...ว่าไงอัสรันวันนี้ก็เหมือนเดิมสินะ"คิระบอกพลางหัวเราะออกมา
"เอ่อ ก็นะ"อัสรันตอบพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย
"นี่มัน..เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ.."สาวน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนถามแบบงงๆ
-----------------------------------
ย้อนกลับไปตอนที่อัสรันเข้ามาในห้องของคางาริ
ชายหนุ่มก้าวเดินมาที่เตียงใหญ่สีขาวบริสุทธิ์อย่างเงียบๆแล้วเดินไปเปิดผ้าม่านออก ทำให้มีแสงส่องเข้ามาในห้องทำให้เห็นว่าบนเตียงมีสาวน้อยผมทองในชุดกระโปรงสีขาวนอนหลับอย่างมีความสุข เส้นผมสีทองที่ปล่อยสยายที่ส่องประกายรับแสงแดดยามเช้าและใบหน้ายามหลับของสาวน้อยจอมแก่นทำให้ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ เขาค่อยๆขึ้นไปบนเตียงอย่างเบาๆแล้วใช้มือของเขาลูบไล้ไปบนเส้นผมสีทองของเธอก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงไปถึงใบหน้าอันสวยน่ารักของเธอ เธอขยับตัวเล็กน้อยราวกับรู้สึกถึงการสัมผัสของเขา แต่สาวน้อยกลับยังไม่ยอมลืมตาตื่น
'คงยังไม่ยอมตื่นสินะ'เขามองหน้าเธอพลางคิด
ไม่รอช้าชายหนุ่มอุ้มร่างของสาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงขึ้นมาเป็นจังหวะพอดีที่เธอพลิกตัวทำให้ใบหน้าของเธอมาประจันหน้ากับเขาใบหน้าของเขาและเธอห่างกันไม่กี่คืบ
"อืม.."ริมฝีปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย จนทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงนี้อดใจไม่ไหวก้มหน้าลงไปใกล้ๆเธอ แต่ทว่าตอนนั้นเอง
ฟึ่บ!
คงเพราะความไออุ่นจากตัวเขาทำให้เธอตื่นขึ้น เธอจ้องหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้ริมฝีปากห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
"อ.อรุณสวัสดิ์คางาริ"ชายหนุ่มกล่าวพร้อมยิ้มแห้งๆ
"อัสรัน!!!!!! นี่นายอีกแล้วเหรอ!"คางาริตะโกนพร้อมกับผลักอัสรันออกไป
"นายคิดจะทำอะไรน่ะ!"เธอถามอย่างหัวเสียปนเขิน
"ก..ก็ปลุกเธอไง..อุ๊บ!"เธอปาหมอนใส่เขาเต็มแรงจนเขาเซไปเลย
"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะออกไปเลย!"แฟนสาวไล่ให้ชายหนุ่มออกไป
"โธ่..คางาริอย่าใจร้ายอย่างนั้นสิ แค่จะปลุกเองรึว่าอยากให้ทำอย่างอื่น"ชายหนุ่มไม่วายแหย่สาวน้อยเล่นพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ออกไป๊!"เธอปาหมอนใส่เขาอีกใบแต่คราวนี้ชายหนุ่มหลบพ้น
"จ้าไปแล้วจ้า คุณหญิงคางาริ ซาล่า"เขาพูดพร้อมทั้งเปิดประตูโดยมีเสียงของคางาริตะโกนตามหลัง
"อ.อ้าสร๊าน!!!!!!!!"เธอตะโกนอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับนั่งหน้าแดงพลางหอบอยู่นานจนพอตั้งสติได้แล้วจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว
-------------------------------------------------
เมื่อประตูห้องของสาวน้อยเปิดออกสาวน้อยผมสีทานตะวันได้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงจนพี่ชายของเธอแทบจะไม่กล้าทัก
"อ.อรุณสวัสดิ์ คางาริ"
"อรุณสวัสดิ์!"เธอตอบห้วนๆพร้อมส่งสายตาที่บอกว่าโมโหสุดๆออกไป
"ค..คางาริ"ชายหนุ่มเรียกชื่อแฟนสาวอย่างเกรงๆ
"อะไร!"เธอหันควับไปหาอัสรันด้วยสายตาที่น่ากลัวกว่าเดิม
"คือว่า..อย่าโกรธเลยนะ"
"ไม่ได้โกรธ!"ถึงคำพูดจะบอกว่าไม่ได้โกรธแต่สายตากับน้ำเสียงของเธอไม่ได้บอกอย่างนั้นเลย
"อย่าไปโกรธอัสรันเลยน่า"คิระที่สงสารอัสรันช่วยปรามคางาริแต่ท่าทางชายหนุ่มจะคิดผิดซะแล้ว
"ก็บอกว่าไม่ได้โกรธ!"เสียงของเธอยิ่งฟังดูน่ากลัวมากขึ้น
'ก็โกรธอยู่นี่ไง'ชายหนุ่มทั้ง 2 คิด อัสรันนิ่งไปซักพักก็ทำท่าเหมือนจะนึกอะไรออก ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคางาริที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอย่างอารมณ์เสีย
"คางาริ"
"อะไร..!"แล้วสาวน้อยก็ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อชายหนุ่มได้ก้มหน้าลงมาหอมแก้มเนียนของเธอ ไม่เพียงทำให้คางาริตกใจเท่านั้นมิลี่กับคิระเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
"อ..อัสรัน"สาวน้อยผมทานตะวันพูดด้วยใบหน้าที่แดงจัด ชายหนุ่มได้จ้องมองลึกลงไปในเนตรสีอำพันของเธอจนเธอต้องหลบตาด้วยความเขิน
"อย่าโกรธเลยนะคางาริ"เจ้าของเนตรสีมรกตส่งสายตาอ้อนวอนไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้หันกลับมาสบตากับเขาแล้ว
"ก.ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ"เสียงของคางารินุ่มลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างสบายใจ ทั้ง 2 มองตากันหวาดหยดจนกระทั่งชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้อีกคนเริ่มทนไม่ได้
"อะแฮ่ม!"คิระกระแอมออกมาเสียงดังจนคู่หนุ่มสาวทั้ง 2 สะดุ้งสุดตัว
"ถึงจะเป็นคู่หมั้นกันแต่ก็ไม่ควรจะทำอะไรเกินเลยนะ"
'นั่นไงออกมาแล้วคิระเวอร์ชั่นหวงน้องสาว'ทั้ง 2 คนคิดพลางมองหน้าชายหนุ่มที่มาขัดความหวานของพวกตนไว้
".รู้แล้วน่า"น้องสาวตอบอย่างเขินๆ
"งั้นไปกินข้าวเช้ากันเถอะ"อัสรันบอกพลางเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร
---------------------------------------------------------
"นี่คิระแน่ใจนะว่าจะไม่ไปด้วยกันน่ะ"น้องสาวหันมาถามพี่ชายฝาแฝดของเธอ
"อืมก็เมื่อวานชั้นไปมาแล้วนี่นาวันนี้เธอไปกับอัสรันละกัน"พี่ชายตอบ
"อืมงั้นไปแล้วนะ"น้องสาวบอกพลางเดินออกจากประตูไปพร้อมกับแฟนหนุ่ม
ชายหนุ่มเส้นผมสีน้ำตาลเงานั่งอยู่ในห้องได้ซักพักก็ลุกขึ้นพร้อมกับบอกว่า
"เมื่อวานไปดูเมืองมาแล้ว วันนี้ก็ลองเดินดูในคฤหาสน์มั่งดีกว่า"ว่าแล้วมือก็หยิบเสื้อนอกสีดำขึ้นมาสวมแล้วเดินออกไปจากห้อง
ทางเดินที่เขาเดินอยู่ในคฤหาสน์นั้นถูกปูด้วยพรมสีแดงตลอดทางผนังสีครีมนวลดูเข้ากับพรมสีแดงและบนผนังยังคงมีโคมไฟดวงเล็กๆที่ไม่ได้ถูกจุดติดเอาไว้ บนฝ้าเพดานก็มีลวดลายคล้ายๆตัวโน๊ตสีดำประดับเอาไว้ทั่ว เขาเดินไปเรื่อยๆจนพบกับห้องโถงใหญ่ที่กว้างพอสมควร ที่นี่เองก็ถูกปูด้วยพรมสีแดงทั่วไปหมดเพียงแต่บนพรมนั้นมีลายดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ ฝาผนังเองก็มีสีขาวปนส้มมากกว่าสีครีมบนเพดานเป็นกระจกแก้วใส โดยตรงกึ่งกลางเพดานนั้นมีภาพของดวงตะวันสีทองอยู่ ชายหนุ่มเพ่งมองที่ภาพนั้นแล้วก็รู้สึกว่ามีภาพอะไรบางอย่างซ้อนอยู่ในภาพของดวงตะวันนั้นเพียงแต่เขากลับไม่สามารถมองดูมันได้เพราะแสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาในดวงตาของเขาทำให้เขามองดูภาพนั้นพร่ามัว
ในขณะที่เขาพยายามมองดูภาพนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเพลงอันแสนหวานลอยมากระทบกับโสตประสาทของเขา เขายืนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปตามต้นเสียงที่เขาได้ยิน เสียงเพลงนั้นลอยมาจากเส้นทางที่เปิดโล่งออกไปข้างนอก เขาเดินออกไปอย่างช้าๆภายนอกนั้นเป็นสวนดอกไม้เล็กๆที่มีโต๊ะกลมสีขาวอมชมพูตั้งอยู่ และที่เก้าอี๊ตัวหนึ่งหญิงสาวเส้นผมสีซากุระกำลังขับขานบทเพลงอันอ่อนหวานอยู่
" รอยยิ้มของเธอที่อบอุ่นดั่งดวงตะวัน
ในตอนนี้อยู่ที่ใดกันนะ
เธอยังคงได้ยินเสียงของชั้นอยู่ใช่ไหม
ยังคงคิดถึงชั้นอยู่ใช่ไหม...
หากแม้นเมื่อคราที่เธอจากไป
อยากจะแผ่สยายปีกอันบริสุทธิ์
แล้วโบยบินสู่ท้องนภาเพื่อพบเธอ
อยากโผเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของเธอ
แต่ปีกของชั้นมันได้มลายสิ้นไปแล้ว
แต่ชั้นยังคงเหลือสิ่งนั้นอยู่
ความรักที่มีให้เธอมันยังคงอยู่
หากเวลานั้นมาถึงชั้นจะสร้างปีกขึ้นมาใหม่
แล้วโบยบินไปหาเธออีกครั้งแน่นอน..."
ในเวลานั้นเองชายหนุ่มได้รู้สึกว่าเขาได้เห็นปีกสีขาวบริสุทธิ์บนแผ่นหลังของเธอและในขณะเดียวกันเธอก็หันมาหาเขาราวกับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้พร้อมกล่าวทักทายเขาด้วยถ้อยคำอันแสนไพเราะ
"สวัสดีค่ะท่านยามาโตะ ไม่สิคงต้องเรียกว่าท่านคิระสินะคะ"เธอยิ้มหวานจนเขาเกือบจะลืมตอบกลับไป
"เอ่อ..ครับสวัสดีครับท่านลักซ์"
"วันนี้ท่านมิได้ออกไปชมเมืองกับพวกท่านอัสรันหรอกหรือคะ"
"คือเมื่อวานผมให้เฟรย์พาไปมาแล้วน่ะครับ"
"งั้นเหรอคะ"ชั่วแว่บหนึ่งเขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของเหรอเศร้าลงแต่แล้วเธอก็ยิ้มออกมา
"ท่านคิระเป็นคนที่ไหนเหรอคะ"เธอถามเขา
"อ๋อ ผมเกิดที่เมืองเฮลิโอโปลิสน่ะครับ"
"เฮลิโอโปลิส?"เธอทวน
"ใช่ครับคางาริก็ด้วยส่วนอัสรันเค้าเกิดที่ซาฟท์แต่มาโตที่เฮลิโอโปลิสน่ะครับ"คิระเริ่มเล่าเรื่องของเขาและพวกของเขาให้เธอฟัง โดยทางเจ้าหญิงผมสีซากุระก็ดูมีความสุขมาก
"ว่าแต่คุณเกิดที่นี่เหรอครับ"ชายหนุ่มลองถามเธอบ้าง
"ค่ะ ข้าน่ะเกิดและโตที่นี่ค่ะ"เธอบอกอย่างเรียบๆ
"แล้วไม่เคยออกจากที่นี่เลยเหรอครับ"
"..ค่ะ"เขาสังเกตว่าน้ำเสียงของเธอเจือไปด้วยความเศร้า
"ทำไมล่ะครับ"เขาถามต่อ
"คือว่า..."เธอรู้สึกลังเลที่จะตอบแต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้น
"ท่านลักซ์คะได้เวลาแล้วค่ะ"มีเด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวเดินมาเรียกเธอไป
"งั้นหรือ ขอบใจนะเจสสิก้าข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ"ร่างบางในชุดสีขาวลุกขึ้นจากเก้าอี้สีขาวอมชมพู
"ข้าขอตัวก่อนนะคะ เชิญท่านเดินดูคฤหาสน์นี้ตามสบายนะคะ"เธอบอกแล้วเดินจากไป
ตัวชายหนุ่มมองทางไปมาไม่นานเขาก็เห็นเส้นทางที่เดินออกไปจากที่นี่เท้าของชายหนุ่มได้นำพาเขาไปทางนั้นทันที สถานที่ที่ประตูนั้นเชื่อมไปก็คือเส้นทางในเมืองทรงยุโรปที่แสนงดงาม แม้จะมีรอยแตกร้าวอยู่ตามตึกก็ตาม
"เป็นเมืองที่เงียบจริงๆ..."ขณะที่เนตรสีแอมทิมิสต์มองไปรอบๆนั่นเอง พลันนั้นสายตาของเขาก็สังเกตเห็นรอยแตกขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลังของตึก
"หืม?...มีรอยใหญ่ขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย"ชายหนุ่มเดินตรงไปที่ตรงนั้นทันที พอได้มองดูดีๆก็ทำให้ได้รู้ว่ามันใหญ่ขนาดที่เขาสามารถลอดผ่านเข้าไปได้ทีเดียว ชายหนุ่มไม่รอช้าลองลอดเข้าไปทันที เบื้องหลังของรอยแตกนั้นก็คือ...
"นี่มัน..."
-------------------------
"ฮ้า...เหนื่อยจังเล้ย......"เสียงของสาวน้อยเปรยออกมาเมื่อเดินเข้าไปในห้องของตนเอง
"งั้นให้ผมช่วยนะ"เสียงเจ้าเล่ห์อันคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง
"เอ๋?..ว้าย!"เธอร้องอุทานออกมาก็จะไม่ให้ร้องได้ยังไงก็เมื่อมีอันแข็งแรงของแฟนหนุ่มได้โอบอุ้มเธอขึ้นมา
"ไง รู้สึกสบายขึ้นรึยัง"ชายหนุ้มเย้าแหย่หญิงสาว
"นี่ปล่อยชั้นนะ!"แต่สาวน้อยไม่เล่นด้วยพร้อมกับเริ่มโวยวายและดิ้นอยู่ในวงแขนของเขา
"นี่อย่าดิ้นสิเดี๋ยวก็..."
โครม!
ไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มพูดจบทั้ง 2 ก็ลงไปกองกับพื้นซะแล้ว
"อะ อูย"สาวน้อยส่งเสียงด้วยความมึน
"ไม่เป็นไรนะ"เสียงของชายหนุ่มถาม
"อ อืม..เอ้ะ!"เธอเริ่มสงสัยว่าทำไมเสียงมันดังมาจากข้างล่าง พอดูดีๆตอนนี้เธอล้มทับอยู่บนตัวชายหนุ่มซะแล้วแถมชายหนุ่มยังมือไวคว้าเธอไปกอดอีกต่างหาก
"นี่ปล่อยสิ"เธอส่งเสียงบอก แต่คำตอบที่ได้คือ
"ไม่ปล่อย"ชัดเจนมากชัดเจนจนเธอเริ่มโมโห
"ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ"เธอเริ่มขึ้นเสียงจนชายหนุ่มต้องยอม
"..ก็ได้"มือที่กอดเธออยู่คลายออกเธอค่อยๆลุกขึ้นยืนแต่พอเธอลุกขึ้นได้ไม่นานขาเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดกับเก้าอี้อีก คราวนี้เธอเกือบจะล้มลงไปแล้วดีที่ชายหนุ่มลุกขึ้นรับไว้ได้ทัน
"ไหนว่าให้ปล่อยไง"ชายหนุ่มกระเซ้าเย้าแหย่เธอ
"งั้นรับไว้ทำไมล่ะ"สาวน้อยกล่าวด้วยเสียงงอนเล็กๆที่แฟนหนุ่มเอาแต่แหย่เธอ
"โอ๋..อย่าโกรธสิครับก็ผมจะปล่อยให้สุดที่รักของผมมีบาดแผลได้ยังไงกัน"ชายหนุ่มป้อนคำหวานจนสาวน้อยหน้าแดง
"บ.บ้าน่ะ พูดอะไรน่ะ"เธอเบือนหน้าหนีด้วยความเขิน ชายหนุ่มอมยิ้มแล้วเคลื่อนใบหน้าไปข้างหูของสาวน้อย
"นี่คางาริขอต่อจากเมื่อเช้าได้มั้ย"แค่คำเดียวความแดงก็เลยขึ้นไปถึงใบหูของเจ้าหล่อน
"คนบ้า.."
"แล้วไม่ได้เหรอ.."ชายหนุ่มส่งเสียงอ้อนหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดแล้วจับเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา
"ก.ก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ว่าชั้นเขินนะ"เธอพยายามหลบเนตรสีมรกตคู่งามที่ทำให้เธอถึงกับอ่อนไหว
"งั้นก็หลับตาสิ"ชายหนุ่มเสนอ สาวน้อยผนักหน้าเบาๆแล้วเงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้าของตนเองเข้าไปใกล้กับหญิงสาวจนทั้ง 2 รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกันซึ่งทำให้ใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้น ตอนนี้ริมฝีปากของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่กี่เซนเท่านั้น ทว่าในขณะนั้นเอง...
"ขอโทษนะ ไม่ทราบว่ากำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ"เสียงของมารผจญที่เข้ามาขัดความสุขของทั้ง 2 ไม่ใช่ใครอื่น คิระนั่นเอง
"ค.คิ..คิระ.."คู่หนุ่มสาวที่โดนขัดโดยคนที่คาดไม่ถึงทำเอาแทบพูดไม่ออกทีเดียว ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย ดวงเนตรอันสุกสว่างของเขายังคงจ้องมองทั้งคู่อยู่
"แล้วจะอยู่ในท่านั้นอีกนานไหม"เสียงของเขาดุดันขึ้นเล็กน้อย จนทั้งคู่ต้องรีบผละออกจากันโดยเร็ว
"เอ่อ..งั้นชั้นไปก่อนนะคางาริ"ชายหนุ่มผมสีครามรีบเดินออกจากห้องไปก่อนที่พี่ชายของแฟนสาวจะออกอาการ"หวงน้องสาว"มากกว่านี้ สาวน้อยผมสีทานตะวันก็พยักหน้าพอเห็นเพื่อนสนิทออกไปพี่ชายฝาแฝดของสาวน้อยจึงออกไปบ้าง เมื่อประตูห้องปิดลงอัสรันก็โวยเพื่อนรักทันที
"โธ่...คิระนายไม่น่ามาขัดเลย"อัสรันบอกอย่างเสียดาย
"แล้วถ้าชึ้นไม่เข้าไปขัดพวกนายจะทำอะไรกันต่อล่ะ"เพื่อนสนิทตอกกลับไป(เน้นนะว่า ตอก)
".............."ไร้เสียงตอบกลับจากอัสรัน
"แล้วถ้าเกิดคุณพ่อคุณแม่กับคุณลุงแพทริกรู้เข้าจะทำยังไงแล้วยังมีป้ารีนัวร์อีก"คิระเล่นเอาญาติโกโหติกามาอ้างจนเพื่อนผมสีครามนิ่งไปเลย
"...ก.ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ยังไงคางาริก็เป็นคู่หมั้นชั้นนะ"เมื่อได้สติชายหนุ่มก็ตอบเพื่อนรักกลับไป
'ก็จริงนะ..เฮ้อช่วยไม่ได้'คิระบ่นอยู่ในใจ
"งั้นคราวนี้ชั้นจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นละกัน เอาล่ะชั้นไปนอนแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์"คิระบอกพลางหันไปเปิดประตูห้องของตนเอง
"อืม ราตรีสวัสดิ์"ขณะที่อัสรันกำลังจะก้าวขานั่นเอง
"นี่อัสรันนายอย่าได้คิดจะแอบเข้าไปในห้องคางาริเชียวนะ"คิระส่งสายตาประมาณว่า ถ้าแอบเข้าไปได้มีเรื่องแน่ๆมาให้
"ร.รู้แล้วน่า"ชายหนุ่มเมื่อได้ฟังก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจที่เพื่อนสนิทดันรู้ทันความคิดของตน พอคิระปิดประตูไปอัสรันก็พูดขึ้นมาแทบจะทันทีว่า
"เอาเถอะไว้คราวหน้าค่อยไปหาคางาริก็ได้"แล้วเขาก็เดินเข้าห้องของตนไปอีกคน
#############################
ความคิดเห็น