คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เทพีแห่งการนำทาง
สัวสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่านและขอบคุณล่วงหน้าเลยที่มาอ่านฟิคของข้าพเจ้าเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องที่สามของข้าพเจ้าส่วนฟิคเรื่องแรกนั้นเมอาต้องขอไปปรับปรุงใหม่ก่อนนะคะแล้วจะนำมาลงให้ส่วนเรื่องที่สองเป็นเรื่องสั้นค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะนำมาลงเช่นกัน ส่วนเรื่องหน้าตาตัวละครนั้นไว้ว่างๆจะนำมาลงให้เช่นกันค่ะเพราะวาดไว้แล้ว
เทพีแห่งความรักผู้โดดเดี่ยว
Phase 1 เทพีแห่งการนำทาง
"เทพีแห่งการนำทางผู้เฝ้ารอคอยคนรักที่ไม่มีวันกลับมาอย่างโดดเดี่ยว รอยยิ้มที่เธอเคยมีอยู่บนใบหน้ายามอยู่กับชายคนรักได้จางหาย ดวงตาสีเงินที่แสนเศร้าถูกพันธนาการไว้ด้วยคำว่าสัญญา หากทำได้ผมก็อยากจะปลดพันธนาการของเธอเพื่อให้เธอได้มีรอยยิ้มที่แท้จริง"
************************************
......................
..................
................
นักเดินทางหนุ่มผมสีน้ำตาลเงางาม ดวงตาสีแอมทิมิสต์ที่สุกสว่างนาม คิระ ยามาโตะกับเหล่าผู้ร่วมเดินทางอีก2คนคือ อัสรัน ซาล่าที่เป็นเพื่อนสนิทกับแฟนสาวของอัสรันคางาริ ยูระ อัสฮา น้องสาวฝาแฝดผู้แก่นแก้วของเขานั่นเอง
พวกเขาทั้ง2คนเดินทางไปเรื่อยโดยไม่มีจุดหมายจนกระทั่งวันหนึ่ง อัสรันกับคางาริได้ไปเจอแผนที่อันหนึ่งเข้าในระหว่างที่นั่งพักอยู่ในร้านอาหาร
"คิระดูสิ นี่มันแผนที่ของนครแพล้นท์ที่เป็นนครมายานี่"คางาริบอกผู้เป็นพี่ชายด้วยความตื่นเต้น
"งั้นเดี๋ยวเตรียมของได้เลย"คิระพูดขณะที่กางแผนที่ดู
"นี่คิระจะว่าไปนายคิดจะเดินทางไปอย่างนี้เรื่อยๆเหรอ"หนุ่มผมสีน้ำเงินถามเพื่อนรัก
"ทำไมเหรอ อัสรัน"
"ก็แบบว่า...นายไม่คิดจะหาใครมาอยู่เคียงข้างบ้างเหรอ"
"อ้าว ก็มีนายกับคางาริแล้วไง"
".................."อัสรันกับคางารินิ่งสนิทกับความซื่อบื้อของผู้นำที่เป็นทั้งพี่ชายและเพื่อน
"โธ่ คิระอัสรันเค้าหมายความว่านายไม่คิดจะหาแฟนรึไงต่างหาก"คางาริบอกอย่างเหลืออด
"ก็ชั้นยังไม่เจอใครที่ถูกใจนี่นา"
".............."เข้าสู่โหมดหยุดนิ่งรอบสอง แล้วคางาริกับอัสรันก็ถอนหายใจกับคำตอบที่แสนจะตรงของคิระ
"เฮ้อ.....ช่างเถอะ เรารีบเดินทางกันเถอะ"อัสรันบอกสาวน้อยผมทองพลางหันไปหยิบกระเป๋า
"อืม....โทรี่มานี่เร็ว!"คิระหันไปเรียกโทรี่นกตัวเล็กสีเขียวน่ารักที่อัสรันให้มา โทรี่บินมาเกาะเจ้านายของมันแล้วเอียงคออย่างน่ารัก
"เอาล่ะ ออกเดินทางได้"
--------------------------------
หลังจากที่เดินทางไปได้ค่อนวันก็เข้าสู่เขตป่า
"นี่คิระใช่ทางนี้แน่นะ"คางาริถามหลังจากที่เดินเข้าเขตป่าได้ไม่นาน
"ถ้าแผนที่อัสรันให้มาถูกอีกซักชั่วโมงก็คงจะถึงนะ"คิระกล่าวพลางมองแผนที่
"ถ้าไปแล้วไม่เจอเมืองนายต้องรับผิดชอบนะอัสรัน"คางาริหันไปโวยแฟนหนุ่ม
"อ้าว ไหงมาลงที่ชั้นล่ะ คางาริ"อัสรันบ่นออกมา
พอเดินไปได้อีกชั่วโมงก็ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายของทั้ง3คนที่เดินออกจากป่าได้แต่กลับมาเจอทางที่วกวนไปมา
"นี่มันอะไรกันเนี่ย! พอออกจากป่าได้ก็มาเจอทางวกไปวนมาอีก"สาวน้อยผมทองผู้ใจร้อนเริ่มโวยวายหลังจากเดินวนมานาน
"ใจเย็นๆก่อนน่า คางาริเดี๋ยวก็เจอทางออกเองแหละ"อัสรันรีบปรามแฟนสาวก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา
"แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะอีกกี่ชั่วโมง กี่นาที กี่วันหรือกี่ปี!"คางาริตะโกนใส่แฟนหนุ่มอย่างหงุดหงิด
อัสรันเห็นท่าไม่ดีจึงปล่อยไม้ตายออกไป
"อาจจะจนกว่าชั้นกับเธอจะแต่งงานกันจนมีลูกกันละมั้ง"
เท่านั้นคางาริก็หน้าแดงเหมือนลูกตำลึงจนพูดไม่ออกได้แต่เดินตามไปเงียบๆจนคิระอดขำไม่ได้กับความขี้อายของน้องสาว
ทั้ง3คนเดินต่อไปจนกระทั่งอยู่ๆโทรี่ที่เกาะไหล่ของคิระอยู่บินออกไป
"โทรี่!จะไปไหนน่ะ กลับมาเร็ว"คิระเรียกแต่โทรี่ก็ยังคงบินต่อไป คิระ อัสรันและคางาริจึงต้องวิ่งตามไป
ขณะที่เขากำลังวิ่งตามโทรี่อยู่นั้นก็มีเสียงเพลงลอยมา
"นี่มันเสียงฮาร์พนี่นา"คิระพูดพลางวิ่งตามโทรี่และเขาก็สังเกตว่าโทรี่บินตามเสียงเพลงไปนั่นเอง จนในที่สุดทั้ง3คนก็หลุดออกมาจากทางที่วกวนได้
เบื้องหน้าของพวกเขาคือเนินที่มีหญ้าสีเขียวชอุ่มปกคลุมอยู่ ดอกไม้หลากสีสันต่างบานสะพรั่ง ตรงกลางเนินนั้นมีคนๆหนึ่งนั่งเล่นฮาร์พอยู่ โทรี่ที่บินออกมาบินไปเกาะไหล่ของเธอคนนั้น
เธอหันหน้ามาทางพวกคิระช้าๆ เธอคนนั้นมีเส้นผมสีแดงเพลิง ดวงตาสีเงินของเธอส่องประกาย ริมฝีปากที่สวยได้รูปถูกแต่งแต้มด้วยสีของดอกกุหลาบ ที่เส้นผมมีดอกไม้กลีบสีเหลืองนวลประดับอยู่ ชุดกระโปรงยาวของเธอก็มีสีเหลืองนวลรับกับเส้นผมสีเพลิง
คิระไม่อาจละสายตาจากเธอได้เขาไม่เคยพบใครที่งดงามเช่นเธอมาก่อน เธอมองคิระพลางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยว่า
"ข้าคือเทพีแห่งการนำทาง นามของข้าคือเฟรย์ อัลสตาร์ ขอต้อนรับพวกท่านสู่นครแพล้นท์"แม้เธอจะกล่าวว่ายินดีต้อนรับพวกเขาแต่ใบหน้าของเธอยังคงนิ่งเฉยไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย
"พวกท่านทั้ง3มีนามว่าอะไร"เสียงของเธอทำให้คิระหลุดจากภวังค์
"อ..เอ่อผมชื่อคิระ ยามาโตะ นี่เพื่อนของผมอัสรัน ซาล่ากับน้องสาวของผมคางาริ ยูระ อัสฮา"คิระตอบแบบอึกอักเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
"ในเมื่อทราบนามของพวกท่านแล้วข้าก็จะขอนำทางท่านสู่นครแพล้นท์"
"แล้วนครแพล้นท์อยู่ที่ไหนเหรอครับ"คิระถามเธอ เธอเดินหลบออกมาทางซ้ายเล็กน้อยแล้วผายมือไปทางข้างหลังที่เธอยืนอยู่
"นครแพล้นท์นั้นได้อยู่เบื้องหน้าท่านทั้ง3แล้ว"
เบื้องล่างของเนินที่สูงชันนี้มีบันไดทอดยาวลงไปถึงเมืองที่อยู่ข้างล่าง เมืองข้างล่างเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายเมืองแบบยุโรป บ้านเมืองที่เรียงรายอยู่ข้างล่างอย่างเป็นระเบียบกับนาฬิกาใหญ่ที่อยู่กลางเมืองนั้นทำให้ทั้ง3คนรู้สึกตื่นตากับภาพที่ได้เห็นมาก
"โปรดตามข้ามา"เธอนำทางพวกเขาไปเรื่อยๆจนถึงเมืองที่อยู้ข้างล่าง ในขณะที่เดินผ่านไปคิระก็สังเกตว่า
'เมืองที่ดูยิ่งใหญ่และสวยงามขนาดนี้ทำไมถึงได้ดูเงียบเหงาเช่นนี้'
"ทำไมในเมืองถึงได้มีคนน้อยนักล่ะ"คางาริถามขึ้นมา
"เมืองของเรานั้นได้ตัดขาดจากโลกภายนอกมาตั้งแต่โบราณแล้ว ผู้คนในนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปผู้คนเริ่มไม่พอใจที่จะอยู่แต่เพียงที่นี้จึงได้พากันออกไปสู่โลกภายนอกและไม่ได้หวนกลับมาที่นี่อีกเลย"
เธอตอบด้วยท่าทางธรรมดาราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่ผู้คนทิ้งบ้านเกิดของตนเองไป
"แล้วเราจะไปที่ไหนเหรอ ท่านเฟรย์"คิระถามเธอหลังจากเดินมานาน
"ข้าจะนำทางท่านไปยังที่พำนักของท่านลักซ์ ไคลน์เจ้าหญิงของเมืองนี้ แล้วก็โปรดเรียกข้าว่าเฟรย์เฉยๆดีกว่า เพราะข้าเป็นเพียงผู้นำทางเท่านั้นมิได้ยิ่งใหญ่เช่นท่านลักซ์"
"...งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว"คิระตอบอย่างว่าง่าย และหลังจากนั้นทั้ง4คนก็ไม่ได้พูดกันอีกตลอดทางจนถึงที่พำนักของลักซ์
"ถึงแล้วค่ะท่านยามาโตะ ท่านซาล่า ท่านอัสฮา ที่นี่คือที่พำนักของท่านลักซ์ ไคลน์ ชื่อของมันคือWHITE SYMPHONY"
เธอเดินนำพวกเขาไปจนถึงประตูใหญ่ที่สลักไปด้วยลวดลายของดอกกุหลาบพันไปมาแล้วพูดว่า
"ท่านลักซ์ ข้าได้นำทางนักเดินทางทั้ง3มาพบค่ะ"
"เชิญเข้ามาสิ"มีเสียงหวานใสตอบกลับมา
"ค่ะท่านลักซ์"เฟรย์เดินไปที่ประตูแล้วยื่นมือไปแตะลูกแก้วที่อยู่ตรงประตู ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ก็เปิดออก
เบื้องหลังของประตูบานใหญ่บานนั้นคือห้องที่กว้างใหญ่ บนผนังถูกประดับด้วยลวดลายที่สวยงามดูแล้วลวดลายเหล่านั้นเหมือนกับโน๊ตเพลงไม่มีผิดพื้นห้องทำด้วยหินอ่อนสีครีมตัดกับพรมสีแดงที่ปูยาวไปจนถึงบัลลังก์สีทองซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่
เธอคนนั้นสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวนวลเส้นผมสีซากุระถูกรวบไว้แล้วประดับด้วยมงกุฏสีเงินเงา เนตรสีครามของเธอส่องประกายงดงาม ริมฝีปากสีชมพูเช่นเดียวกับเรือนผมของเธอ กิริยาท่าทางของเธอดูสง่ามาก
"ยินดีต้อนรับเหล่านักเดินทางทั้ง3 ข้าคือเจ้าหญิงของนครแพล้นท์มีนามว่า ลักซ์ ไคลน์" ทั้ง3คนยืนนิ่งเพราะเสียงของเธอช่างไพเราะจับใจและหวานใสราวกับเสียงของนกสวรรค์ไนติงเกลไม่มีผิด
"ขอให้พวกท่านพักให้สบายเถิด พวกเรามิได้ต้อนรับนักเดินทางเช่นพวกท่านมานานหลายคราแล้ว"เธอยิ้มหวานให้กับพวกคิระ
"ข้าขอทราบนามของพวกท่านได้ไหม"
"เอ่อ.ครับผมชื่อคิระ ยามาโตะ"
"อ..อัสรัน ซาล่าครับ"
"ค..คางาริ ยูระ อัสฮา"
ทั้ง3คนตอบแบบกระอักกระอ่วน
"งั้นหรือ ท่านทั้ง3จะพักที่นี่นานเท่าไรก็ได้ตามแต่ที่พวกท่านต้องการมิลิอาเลีย เฟรย์พาท่านยามาโตะ ท่านซาล่า ท่านอัสฮาไปพักซิ"เธอยิ้มแล้วเรียกใครบางคนออกมา
มีเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีฟ้าเดินออกมาเธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงยาวสีขาวครีมคล้ายๆกับเฟรย์ ที่เส้นผมของเธอเองก็มีดอกไม้ประดับอยู่แต่เป็นดอกไม้คนละอย่างกับเฟรย์ของเธอเป็นดอกไม้ที่คล้ายกับกางเขนสีออกเหลืองนวล
"ข้าเป็นข้ารับใช้ของท่านลักซ์ นามของข้าคือ มิลิอาเลีย ฮาวล์ค่ะ ขอเชิญท่านทั้ง3ไปยังที่พักนะคะ"เธอยิ้มให้ทั้ง3คนอย่างสดใสผิดกับเฟรย์ที่ยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย
แล้วเฟรย์กับมิลิอาเลียก็พาทั้ง3คนมายังห้องที่หรูหราห้องหนึ่ง
"หวังว่าคงจะถูกใจนะคะท่านอัสฮา ส่วนห้องของท่านยามาโตะกับท่านซาล่าจะอยู่ถัดไปนะคะ"
คางาริลองนั่งที่เตียงดูมันนุ่มฟูถูกใจเธอ
"ชอบมากเลยล่ะ ขอบใจนะมิลิอาเลีย"คางาริพูดขอบใจเธอ
"งั้นก็ดีแล้วค่ะ"มิลิอาเลียยิ้มให้คางาริอีกครั้ง
"ถ้าเช่นนั้นแล้วข้าขอตัวก่อนนะคะ"เฟรย์บอกพลางหันหลังกลับไป ขณะที่เธอกำลังจะก้าวออกจากห้องนั้น
"เอ่อ..เฟรย์ไม่อยู่คุยกันก่อนเหรอ"คิระถามพลางเดินไปหาเธอ
"หมดหน้าที่ของข้าแล้ว ข้าขอกลับไปเฝ้าทางเข้าตามเดิมขออภัยที่มิอาจอยู่คุยด้วยได้"แล้วเฟรย์ก็เดินออกไป คิระมองตามเธอไปจนเธอลับสายตาเขาไปแล้ว
"ผมไปทำอะไรให้เธอเกลียดรึเปล่านะ"คิระพูดเปรยๆออกไปซึ่งสาวน้อยที่รินน้ำชาให้อยู่บังเอิญได้ยินเข้า
"ไม่หรอกค่ะ เฟรย์น่ะไม่ว่ากับใครก็มีท่าทางเช่นนั้นตลอดล่ะค่ะยกเว้นกับ......"เมื่อถึงตรงนี้มิลิอาเลียก็ชะงักไป
"กับใครเหรอครับ คุณมิลิอาเลีย"คิระถามเธอ
"เอ่อ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะท่านคิระแล้วก็เรียกข้าว่ามิลี่เฉยๆก็ได้ค่ะ ท่ายามาโตะ"
"งั้นมิลี่เธอกับลักซ์เองก็ต้องเรียกชื่อของพวกเราเหมือนกันนะ"สาวน้อยผมทองเสนอ
"ค่ะ ท่านคางาริ"
"ว้า...อย่ามีท่านสิมิลี่เรียกว่าคางาริก็พอ"
"ไม่ได้หรอกค่ะเพราะว่ามันเป็นกฎ"
"งั้นเหรอ แย่จังเลยนะ"คางาริทำท่าทางเห็นใจมิลี่
"ข้าไม่เป็นไรหรอกค่ะ"มิลี่บอกแล้วยิ้มให้คางาริอีกครั้ง
จากนั้นมิลี่ก็ยกน้ำชามาเสริฟ์ให้กับทั้ง3คน ในขณะที่เธอยื่นชาให้กับอัสรันนั้นคิระที่ดื่มชาเสร็จแล้วก็พูดว่า
"ขอผมออกไปข้างนอกได้มั้ย"
"เชิญตามสบายค่ะท่านคิระ ทางออกจะอยู่ทางด้านซ้ายนะคะ"
เขาพยักหน้าให้เธอเป็นเชิงขอบคุณแล้วเดินออกไป
-------------------------------------------------
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินออกไปจากที่พำนักของลักซ์แล้วตรงไปยังเนินที่เขาได้พบกับสาวผมสีเพลิงนามเฟรย์ครั้งแรก ซึ่งเขาก็พบเธอ เธอคนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและเล่นฮาร์พอยู่
"ทำไมเพลงที่ไพเราะเช่นนี้กลับให้ความรู้สึกที่เศร้าขนาดนี้นะ"
เขาสังเกตเห็นหยดน้ำใสไหลอยู่บนแก้มเนียนละเอียดของเธอ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้เธอทำให้เธอรู้สึกตัว
"ใครน่ะ!"เธอหันมามองทางที่ได้ยินเสียง
"เอ่อ..คือผมเอง"คิระตอบ
"ท่านยามาโตะ..มีธุระอันใดกับข้าหรือ"เธอถามเขาพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"คือแบบว่า..."
"คะ"
"เอ่อ..ช่วยพาผมชมเมืองหน่อยได้มั้ยครับ"ชายหนุ่มถามด้วยท่าทางที่เคอะเขิน
"...ได้ค่ะเชิญทางนี้"เธอเดินนำเขาไปพร้อมๆกับแนะนำสถานที่ต่างๆในเมือง
"ที่นั่นคือโบสถ์ประจำเมืองนี้ค่ะ เมื่อก่อนที่นี่จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานสมรสเสมอแต่เดี๋ยวนี้ผู้คนเริ่มน้อยลงโบสถ์นี้จึงไม่ค่อยมีคนมาใช้แล้วล่ะค่ะ"
"งั้นเหรอครับ"
เธอพาเขาเดินต่อไปอีกจนกึงสวนที่มีดอกไม้นานาพันธุ์
"ที่นี่คืออุทยานของเมืองนี้ค่ะ และตรงนั้นก็คือ..."
หลังจากนั้นเธอก็พาเขาเดินจนเกือบทั่วเมืองและพระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ
"ท่านยามาโตะคะตอนนี้ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว เพราะงั้นข้าจะขอนำท่านกลับที่พักนะคะ"
"อืม ขอบคุณมากนะ เอ่อแล้วก็..."เขาพูด
"อะไรเหรอคะ"
"ช่วยเรียกผมว่าคิระดีกว่านะครับ" เธอมองหน้าเขาเล็กน้อยแล้วตอบว่า
"ค่ะ ท่านคิระ"แล้วเธอก็พาเขากลับไปที่WHITE SYMPHONY
------------------------------------
"วันนี้ขอบคุณมากนะ เฟรย์"เขากล่าวขอบคุณเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของข้า เมื่อหมดหน้าที่แล้วข้าก้ขอตัวค่ะ"เธอพูดด้วยท่าทีเช่นเดิม ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับไปนั่นเอง
"เอ่อ...เดี๋ยวเฟรย์"อยู่ๆเขาก็ร้องเรียกเธอ
"คะ?"
"เอ่อ..คือ.."เขาอึกอักเล็กน้อย
"มีอะไรเหรอคะ"
"เปล่าแบบว่า ราตรีสวัสดิ์นะ"เขาตอบเธอ พริบตานั้นเขารู้สึกว่าเธอแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย
"..ค่ะ ราตรีสัวสดิ์ค่ะท่านยามาโตะ"เธอโค้งให้เขาแล้วเดินจากไป สายตาของเขายังคงมองตามเธอไปจนลับสายตา
"เฟรย์..."เขารำพึงชื่อของเธออกมาโดยไม่รู้ตัว
"คิระ มายืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้น่ะ"มีเสียงเรียกจากข้างหลังซึ่งไม่ใช่ใครอื่น
"! อ.อัสรัน"เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย
"นี่นายเป็นอะไรของนายน่ะ"ชายผมสีครามมองตาเพื่อนที่พึ่งยืนเหม่อลอยแล้วอยู่ๆก็ตกใจที่เห็นเขา
"ม.ไม่มีอะไร"คิระตอบแบบขอไปที
"แน่นะ"อัสรันมองอย่างไม่ค่อยเชื่อพลางจ้องตาเพื่อน
"น..แน่สิ"คิระเริ่มตอบไม่ถูก เพราะตั้งแต่คบกันมาตั้งแต่เด็กคิระไม่เคยโกหกอัสรันได้เลยซักครั้ง
"งั้นชั้นไปนอนก่อนล่ะ"อัสรันพูดจบก็เดินเข้าห้องไป
"เฮ้อ...."คิระถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"เราเองก็ไปนอนมั่งดีกว่า"คิระเดินเข้าไปในห้องของเขาที่ถูกเตรียมไว้ ภายในห้องนั้นมีเตียงใหญ่เตียงหนึ่งกับโต็ะกลมสีขาวตั้งอยู่กลางห้อง คิระถอดเสื้อนอกออกแล้วโยนมันลงไปบนเตียง ขณะนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นดอกกุหลาบแดงที่ถูกปักไว้ในแจกันสวยหรูบนโต๊ะ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาพร้อมเอ่ยออกมาเบาๆ
"ดอกกุหลาบแดงเหรอช่างเหมือนกับเฟรย์เลยแฮะ"เขามองมันอย่างอ่อนโยน
"แต่ว่า....ทำไมดวงตาของเธอถึงได้เศร้าจังนะ"เขายืนมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางมันกลับลงไปในแจกันพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
#############################
ความคิดเห็น