ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic G Seed&Destiny]เทพีแห่งความรักผู้โดดเดี่ยว

    ลำดับตอนที่ #1 : เทพีแห่งการนำทาง

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 49


    สัวสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่านและขอบคุณล่วงหน้าเลยที่มาอ่านฟิคของข้าพเจ้าเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องที่สามของข้าพเจ้าส่วนฟิคเรื่องแรกนั้นเมอาต้องขอไปปรับปรุงใหม่ก่อนนะคะแล้วจะนำมาลงให้ส่วนเรื่องที่สองเป็นเรื่องสั้นค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะนำมาลงเช่นกัน ส่วนเรื่องหน้าตาตัวละครนั้นไว้ว่างๆจะนำมาลงให้เช่นกันค่ะเพราะวาดไว้แล้ว

    เทพีแห่งความรักผู้โดดเดี่ยว

    Phase 1 เทพีแห่งการนำทาง

    "เทพีแห่งการนำทางผู้เฝ้ารอคอยคนรักที่ไม่มีวันกลับมาอย่างโดดเดี่ยว รอยยิ้มที่เธอเคยมีอยู่บนใบหน้ายามอยู่กับชายคนรักได้จางหาย ดวงตาสีเงินที่แสนเศร้าถูกพันธนาการไว้ด้วยคำว่าสัญญา หากทำได้ผมก็อยากจะปลดพันธนาการของเธอเพื่อให้เธอได้มีรอยยิ้มที่แท้จริง"

    ************************************
    ......................
    ..................
    ................

    นักเดินทางหนุ่มผมสีน้ำตาลเงางาม ดวงตาสีแอมทิมิสต์ที่สุกสว่างนาม คิระ ยามาโตะกับเหล่าผู้ร่วมเดินทางอีก2คนคือ อัสรัน ซาล่าที่เป็นเพื่อนสนิทกับแฟนสาวของอัสรันคางาริ ยูระ อัสฮา น้องสาวฝาแฝดผู้แก่นแก้วของเขานั่นเอง

    พวกเขาทั้ง2คนเดินทางไปเรื่อยโดยไม่มีจุดหมายจนกระทั่งวันหนึ่ง อัสรันกับคางาริได้ไปเจอแผนที่อันหนึ่งเข้าในระหว่างที่นั่งพักอยู่ในร้านอาหาร

    "คิระดูสิ นี่มันแผนที่ของนครแพล้นท์ที่เป็นนครมายานี่"คางาริบอกผู้เป็นพี่ชายด้วยความตื่นเต้น

    "งั้นเดี๋ยวเตรียมของได้เลย"คิระพูดขณะที่กางแผนที่ดู

    "นี่คิระจะว่าไปนายคิดจะเดินทางไปอย่างนี้เรื่อยๆเหรอ"หนุ่มผมสีน้ำเงินถามเพื่อนรัก

    "ทำไมเหรอ อัสรัน"

    "ก็แบบว่า...นายไม่คิดจะหาใครมาอยู่เคียงข้างบ้างเหรอ"

    "อ้าว ก็มีนายกับคางาริแล้วไง"

    ".................."อัสรันกับคางารินิ่งสนิทกับความซื่อบื้อของผู้นำที่เป็นทั้งพี่ชายและเพื่อน

    "โธ่ คิระอัสรันเค้าหมายความว่านายไม่คิดจะหาแฟนรึไงต่างหาก"คางาริบอกอย่างเหลืออด

    "ก็ชั้นยังไม่เจอใครที่ถูกใจนี่นา"

    ".............."เข้าสู่โหมดหยุดนิ่งรอบสอง แล้วคางาริกับอัสรันก็ถอนหายใจกับคำตอบที่แสนจะตรงของคิระ

    "เฮ้อ.....ช่างเถอะ เรารีบเดินทางกันเถอะ"อัสรันบอกสาวน้อยผมทองพลางหันไปหยิบกระเป๋า

    "อืม....โทรี่มานี่เร็ว!"คิระหันไปเรียกโทรี่นกตัวเล็กสีเขียวน่ารักที่อัสรันให้มา โทรี่บินมาเกาะเจ้านายของมันแล้วเอียงคออย่างน่ารัก

    "เอาล่ะ ออกเดินทางได้"
    --------------------------------
    หลังจากที่เดินทางไปได้ค่อนวันก็เข้าสู่เขตป่า

    "นี่คิระใช่ทางนี้แน่นะ"คางาริถามหลังจากที่เดินเข้าเขตป่าได้ไม่นาน

    "ถ้าแผนที่อัสรันให้มาถูกอีกซักชั่วโมงก็คงจะถึงนะ"คิระกล่าวพลางมองแผนที่

    "ถ้าไปแล้วไม่เจอเมืองนายต้องรับผิดชอบนะอัสรัน"คางาริหันไปโวยแฟนหนุ่ม

    "อ้าว ไหงมาลงที่ชั้นล่ะ คางาริ"อัสรันบ่นออกมา

    พอเดินไปได้อีกชั่วโมงก็ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายของทั้ง3คนที่เดินออกจากป่าได้แต่กลับมาเจอทางที่วกวนไปมา

    "นี่มันอะไรกันเนี่ย! พอออกจากป่าได้ก็มาเจอทางวกไปวนมาอีก"สาวน้อยผมทองผู้ใจร้อนเริ่มโวยวายหลังจากเดินวนมานาน

    "ใจเย็นๆก่อนน่า คางาริเดี๋ยวก็เจอทางออกเองแหละ"อัสรันรีบปรามแฟนสาวก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

    "แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะอีกกี่ชั่วโมง กี่นาที กี่วันหรือกี่ปี!"คางาริตะโกนใส่แฟนหนุ่มอย่างหงุดหงิด

    อัสรันเห็นท่าไม่ดีจึงปล่อยไม้ตายออกไป

    "อาจจะจนกว่าชั้นกับเธอจะแต่งงานกันจนมีลูกกันละมั้ง"

    เท่านั้นคางาริก็หน้าแดงเหมือนลูกตำลึงจนพูดไม่ออกได้แต่เดินตามไปเงียบๆจนคิระอดขำไม่ได้กับความขี้อายของน้องสาว

    ทั้ง3คนเดินต่อไปจนกระทั่งอยู่ๆโทรี่ที่เกาะไหล่ของคิระอยู่บินออกไป

    "โทรี่!จะไปไหนน่ะ กลับมาเร็ว"คิระเรียกแต่โทรี่ก็ยังคงบินต่อไป คิระ อัสรันและคางาริจึงต้องวิ่งตามไป

    ขณะที่เขากำลังวิ่งตามโทรี่อยู่นั้นก็มีเสียงเพลงลอยมา

    "นี่มันเสียงฮาร์พนี่นา"คิระพูดพลางวิ่งตามโทรี่และเขาก็สังเกตว่าโทรี่บินตามเสียงเพลงไปนั่นเอง จนในที่สุดทั้ง3คนก็หลุดออกมาจากทางที่วกวนได้

    เบื้องหน้าของพวกเขาคือเนินที่มีหญ้าสีเขียวชอุ่มปกคลุมอยู่ ดอกไม้หลากสีสันต่างบานสะพรั่ง ตรงกลางเนินนั้นมีคนๆหนึ่งนั่งเล่นฮาร์พอยู่ โทรี่ที่บินออกมาบินไปเกาะไหล่ของเธอคนนั้น

    เธอหันหน้ามาทางพวกคิระช้าๆ เธอคนนั้นมีเส้นผมสีแดงเพลิง ดวงตาสีเงินของเธอส่องประกาย ริมฝีปากที่สวยได้รูปถูกแต่งแต้มด้วยสีของดอกกุหลาบ ที่เส้นผมมีดอกไม้กลีบสีเหลืองนวลประดับอยู่ ชุดกระโปรงยาวของเธอก็มีสีเหลืองนวลรับกับเส้นผมสีเพลิง

    คิระไม่อาจละสายตาจากเธอได้เขาไม่เคยพบใครที่งดงามเช่นเธอมาก่อน เธอมองคิระพลางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยว่า

    "ข้าคือเทพีแห่งการนำทาง นามของข้าคือเฟรย์ อัลสตาร์ ขอต้อนรับพวกท่านสู่นครแพล้นท์"แม้เธอจะกล่าวว่ายินดีต้อนรับพวกเขาแต่ใบหน้าของเธอยังคงนิ่งเฉยไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย

    "พวกท่านทั้ง3มีนามว่าอะไร"เสียงของเธอทำให้คิระหลุดจากภวังค์

    "อ..เอ่อผมชื่อคิระ ยามาโตะ นี่เพื่อนของผมอัสรัน ซาล่ากับน้องสาวของผมคางาริ ยูระ อัสฮา"คิระตอบแบบอึกอักเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

    "ในเมื่อทราบนามของพวกท่านแล้วข้าก็จะขอนำทางท่านสู่นครแพล้นท์"

    "แล้วนครแพล้นท์อยู่ที่ไหนเหรอครับ"คิระถามเธอ เธอเดินหลบออกมาทางซ้ายเล็กน้อยแล้วผายมือไปทางข้างหลังที่เธอยืนอยู่

    "นครแพล้นท์นั้นได้อยู่เบื้องหน้าท่านทั้ง3แล้ว"

    เบื้องล่างของเนินที่สูงชันนี้มีบันไดทอดยาวลงไปถึงเมืองที่อยู่ข้างล่าง เมืองข้างล่างเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายเมืองแบบยุโรป บ้านเมืองที่เรียงรายอยู่ข้างล่างอย่างเป็นระเบียบกับนาฬิกาใหญ่ที่อยู่กลางเมืองนั้นทำให้ทั้ง3คนรู้สึกตื่นตากับภาพที่ได้เห็นมาก

    "โปรดตามข้ามา"เธอนำทางพวกเขาไปเรื่อยๆจนถึงเมืองที่อยู้ข้างล่าง ในขณะที่เดินผ่านไปคิระก็สังเกตว่า

    'เมืองที่ดูยิ่งใหญ่และสวยงามขนาดนี้ทำไมถึงได้ดูเงียบเหงาเช่นนี้'

    "ทำไมในเมืองถึงได้มีคนน้อยนักล่ะ"คางาริถามขึ้นมา

    "เมืองของเรานั้นได้ตัดขาดจากโลกภายนอกมาตั้งแต่โบราณแล้ว ผู้คนในนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปผู้คนเริ่มไม่พอใจที่จะอยู่แต่เพียงที่นี้จึงได้พากันออกไปสู่โลกภายนอกและไม่ได้หวนกลับมาที่นี่อีกเลย"

    เธอตอบด้วยท่าทางธรรมดาราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่ผู้คนทิ้งบ้านเกิดของตนเองไป

    "แล้วเราจะไปที่ไหนเหรอ ท่านเฟรย์"คิระถามเธอหลังจากเดินมานาน

    "ข้าจะนำทางท่านไปยังที่พำนักของท่านลักซ์ ไคลน์เจ้าหญิงของเมืองนี้ แล้วก็โปรดเรียกข้าว่าเฟรย์เฉยๆดีกว่า เพราะข้าเป็นเพียงผู้นำทางเท่านั้นมิได้ยิ่งใหญ่เช่นท่านลักซ์"

    "...งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว"คิระตอบอย่างว่าง่าย และหลังจากนั้นทั้ง4คนก็ไม่ได้พูดกันอีกตลอดทางจนถึงที่พำนักของลักซ์

    "ถึงแล้วค่ะท่านยามาโตะ ท่านซาล่า ท่านอัสฮา ที่นี่คือที่พำนักของท่านลักซ์ ไคลน์ ชื่อของมันคือWHITE SYMPHONY"

    เธอเดินนำพวกเขาไปจนถึงประตูใหญ่ที่สลักไปด้วยลวดลายของดอกกุหลาบพันไปมาแล้วพูดว่า

    "ท่านลักซ์ ข้าได้นำทางนักเดินทางทั้ง3มาพบค่ะ"

    "เชิญเข้ามาสิ"มีเสียงหวานใสตอบกลับมา

    "ค่ะท่านลักซ์"เฟรย์เดินไปที่ประตูแล้วยื่นมือไปแตะลูกแก้วที่อยู่ตรงประตู ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ก็เปิดออก

    เบื้องหลังของประตูบานใหญ่บานนั้นคือห้องที่กว้างใหญ่ บนผนังถูกประดับด้วยลวดลายที่สวยงามดูแล้วลวดลายเหล่านั้นเหมือนกับโน๊ตเพลงไม่มีผิดพื้นห้องทำด้วยหินอ่อนสีครีมตัดกับพรมสีแดงที่ปูยาวไปจนถึงบัลลังก์สีทองซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่

    เธอคนนั้นสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวนวลเส้นผมสีซากุระถูกรวบไว้แล้วประดับด้วยมงกุฏสีเงินเงา เนตรสีครามของเธอส่องประกายงดงาม ริมฝีปากสีชมพูเช่นเดียวกับเรือนผมของเธอ กิริยาท่าทางของเธอดูสง่ามาก

    "ยินดีต้อนรับเหล่านักเดินทางทั้ง3 ข้าคือเจ้าหญิงของนครแพล้นท์มีนามว่า ลักซ์ ไคลน์" ทั้ง3คนยืนนิ่งเพราะเสียงของเธอช่างไพเราะจับใจและหวานใสราวกับเสียงของนกสวรรค์ไนติงเกลไม่มีผิด

    "ขอให้พวกท่านพักให้สบายเถิด พวกเรามิได้ต้อนรับนักเดินทางเช่นพวกท่านมานานหลายคราแล้ว"เธอยิ้มหวานให้กับพวกคิระ

    "ข้าขอทราบนามของพวกท่านได้ไหม"

    "เอ่อ.ครับผมชื่อคิระ ยามาโตะ"

    "อ..อัสรัน ซาล่าครับ"

    "ค..คางาริ ยูระ อัสฮา"

    ทั้ง3คนตอบแบบกระอักกระอ่วน

    "งั้นหรือ ท่านทั้ง3จะพักที่นี่นานเท่าไรก็ได้ตามแต่ที่พวกท่านต้องการมิลิอาเลีย เฟรย์พาท่านยามาโตะ ท่านซาล่า ท่านอัสฮาไปพักซิ"เธอยิ้มแล้วเรียกใครบางคนออกมา

    มีเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีฟ้าเดินออกมาเธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงยาวสีขาวครีมคล้ายๆกับเฟรย์ ที่เส้นผมของเธอเองก็มีดอกไม้ประดับอยู่แต่เป็นดอกไม้คนละอย่างกับเฟรย์ของเธอเป็นดอกไม้ที่คล้ายกับกางเขนสีออกเหลืองนวล

    "ข้าเป็นข้ารับใช้ของท่านลักซ์ นามของข้าคือ มิลิอาเลีย ฮาวล์ค่ะ ขอเชิญท่านทั้ง3ไปยังที่พักนะคะ"เธอยิ้มให้ทั้ง3คนอย่างสดใสผิดกับเฟรย์ที่ยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย

    แล้วเฟรย์กับมิลิอาเลียก็พาทั้ง3คนมายังห้องที่หรูหราห้องหนึ่ง

    "หวังว่าคงจะถูกใจนะคะท่านอัสฮา ส่วนห้องของท่านยามาโตะกับท่านซาล่าจะอยู่ถัดไปนะคะ"

    คางาริลองนั่งที่เตียงดูมันนุ่มฟูถูกใจเธอ

    "ชอบมากเลยล่ะ ขอบใจนะมิลิอาเลีย"คางาริพูดขอบใจเธอ

    "งั้นก็ดีแล้วค่ะ"มิลิอาเลียยิ้มให้คางาริอีกครั้ง

    "ถ้าเช่นนั้นแล้วข้าขอตัวก่อนนะคะ"เฟรย์บอกพลางหันหลังกลับไป ขณะที่เธอกำลังจะก้าวออกจากห้องนั้น

    "เอ่อ..เฟรย์ไม่อยู่คุยกันก่อนเหรอ"คิระถามพลางเดินไปหาเธอ

    "หมดหน้าที่ของข้าแล้ว ข้าขอกลับไปเฝ้าทางเข้าตามเดิมขออภัยที่มิอาจอยู่คุยด้วยได้"แล้วเฟรย์ก็เดินออกไป คิระมองตามเธอไปจนเธอลับสายตาเขาไปแล้ว

    "ผมไปทำอะไรให้เธอเกลียดรึเปล่านะ"คิระพูดเปรยๆออกไปซึ่งสาวน้อยที่รินน้ำชาให้อยู่บังเอิญได้ยินเข้า

    "ไม่หรอกค่ะ เฟรย์น่ะไม่ว่ากับใครก็มีท่าทางเช่นนั้นตลอดล่ะค่ะยกเว้นกับ......"เมื่อถึงตรงนี้มิลิอาเลียก็ชะงักไป

    "กับใครเหรอครับ คุณมิลิอาเลีย"คิระถามเธอ

    "เอ่อ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะท่านคิระแล้วก็เรียกข้าว่ามิลี่เฉยๆก็ได้ค่ะ ท่ายามาโตะ"

    "งั้นมิลี่เธอกับลักซ์เองก็ต้องเรียกชื่อของพวกเราเหมือนกันนะ"สาวน้อยผมทองเสนอ

    "ค่ะ ท่านคางาริ"

    "ว้า...อย่ามีท่านสิมิลี่เรียกว่าคางาริก็พอ"

    "ไม่ได้หรอกค่ะเพราะว่ามันเป็นกฎ"

    "งั้นเหรอ แย่จังเลยนะ"คางาริทำท่าทางเห็นใจมิลี่

    "ข้าไม่เป็นไรหรอกค่ะ"มิลี่บอกแล้วยิ้มให้คางาริอีกครั้ง

    จากนั้นมิลี่ก็ยกน้ำชามาเสริฟ์ให้กับทั้ง3คน ในขณะที่เธอยื่นชาให้กับอัสรันนั้นคิระที่ดื่มชาเสร็จแล้วก็พูดว่า

    "ขอผมออกไปข้างนอกได้มั้ย"

    "เชิญตามสบายค่ะท่านคิระ ทางออกจะอยู่ทางด้านซ้ายนะคะ"

    เขาพยักหน้าให้เธอเป็นเชิงขอบคุณแล้วเดินออกไป

    -------------------------------------------------

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินออกไปจากที่พำนักของลักซ์แล้วตรงไปยังเนินที่เขาได้พบกับสาวผมสีเพลิงนามเฟรย์ครั้งแรก ซึ่งเขาก็พบเธอ เธอคนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและเล่นฮาร์พอยู่

    "ทำไมเพลงที่ไพเราะเช่นนี้กลับให้ความรู้สึกที่เศร้าขนาดนี้นะ"

    เขาสังเกตเห็นหยดน้ำใสไหลอยู่บนแก้มเนียนละเอียดของเธอ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้เธอทำให้เธอรู้สึกตัว

    "ใครน่ะ!"เธอหันมามองทางที่ได้ยินเสียง

    "เอ่อ..คือผมเอง"คิระตอบ

    "ท่านยามาโตะ..มีธุระอันใดกับข้าหรือ"เธอถามเขาพร้อมกับลุกขึ้นยืน

    "คือแบบว่า..."

    "คะ"

    "เอ่อ..ช่วยพาผมชมเมืองหน่อยได้มั้ยครับ"ชายหนุ่มถามด้วยท่าทางที่เคอะเขิน

    "...ได้ค่ะเชิญทางนี้"เธอเดินนำเขาไปพร้อมๆกับแนะนำสถานที่ต่างๆในเมือง

    "ที่นั่นคือโบสถ์ประจำเมืองนี้ค่ะ เมื่อก่อนที่นี่จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานสมรสเสมอแต่เดี๋ยวนี้ผู้คนเริ่มน้อยลงโบสถ์นี้จึงไม่ค่อยมีคนมาใช้แล้วล่ะค่ะ"

    "งั้นเหรอครับ"

    เธอพาเขาเดินต่อไปอีกจนกึงสวนที่มีดอกไม้นานาพันธุ์

    "ที่นี่คืออุทยานของเมืองนี้ค่ะ และตรงนั้นก็คือ..."

    หลังจากนั้นเธอก็พาเขาเดินจนเกือบทั่วเมืองและพระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ

    "ท่านยามาโตะคะตอนนี้ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว เพราะงั้นข้าจะขอนำท่านกลับที่พักนะคะ"

    "อืม ขอบคุณมากนะ เอ่อแล้วก็..."เขาพูด

    "อะไรเหรอคะ"

    "ช่วยเรียกผมว่าคิระดีกว่านะครับ" เธอมองหน้าเขาเล็กน้อยแล้วตอบว่า

    "ค่ะ ท่านคิระ"แล้วเธอก็พาเขากลับไปที่WHITE SYMPHONY

    ------------------------------------

    "วันนี้ขอบคุณมากนะ เฟรย์"เขากล่าวขอบคุณเธอ

    "ไม่เป็นไรค่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของข้า เมื่อหมดหน้าที่แล้วข้าก้ขอตัวค่ะ"เธอพูดด้วยท่าทีเช่นเดิม ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับไปนั่นเอง

    "เอ่อ...เดี๋ยวเฟรย์"อยู่ๆเขาก็ร้องเรียกเธอ

    "คะ?"

    "เอ่อ..คือ.."เขาอึกอักเล็กน้อย

    "มีอะไรเหรอคะ"

    "เปล่าแบบว่า ราตรีสวัสดิ์นะ"เขาตอบเธอ พริบตานั้นเขารู้สึกว่าเธอแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย

    "..ค่ะ ราตรีสัวสดิ์ค่ะท่านยามาโตะ"เธอโค้งให้เขาแล้วเดินจากไป สายตาของเขายังคงมองตามเธอไปจนลับสายตา

    "เฟรย์..."เขารำพึงชื่อของเธออกมาโดยไม่รู้ตัว

    "คิระ มายืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้น่ะ"มีเสียงเรียกจากข้างหลังซึ่งไม่ใช่ใครอื่น

    "! อ.อัสรัน"เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย

    "นี่นายเป็นอะไรของนายน่ะ"ชายผมสีครามมองตาเพื่อนที่พึ่งยืนเหม่อลอยแล้วอยู่ๆก็ตกใจที่เห็นเขา

    "ม.ไม่มีอะไร"คิระตอบแบบขอไปที

    "แน่นะ"อัสรันมองอย่างไม่ค่อยเชื่อพลางจ้องตาเพื่อน

    "น..แน่สิ"คิระเริ่มตอบไม่ถูก เพราะตั้งแต่คบกันมาตั้งแต่เด็กคิระไม่เคยโกหกอัสรันได้เลยซักครั้ง

    "งั้นชั้นไปนอนก่อนล่ะ"อัสรันพูดจบก็เดินเข้าห้องไป

    "เฮ้อ...."คิระถอนหายใจด้วยความโล่งอก

    "เราเองก็ไปนอนมั่งดีกว่า"คิระเดินเข้าไปในห้องของเขาที่ถูกเตรียมไว้ ภายในห้องนั้นมีเตียงใหญ่เตียงหนึ่งกับโต็ะกลมสีขาวตั้งอยู่กลางห้อง คิระถอดเสื้อนอกออกแล้วโยนมันลงไปบนเตียง ขณะนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นดอกกุหลาบแดงที่ถูกปักไว้ในแจกันสวยหรูบนโต๊ะ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาพร้อมเอ่ยออกมาเบาๆ

    "ดอกกุหลาบแดงเหรอช่างเหมือนกับเฟรย์เลยแฮะ"เขามองมันอย่างอ่อนโยน

    "แต่ว่า....ทำไมดวงตาของเธอถึงได้เศร้าจังนะ"เขายืนมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางมันกลับลงไปในแจกันพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง

    #############################

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×