ตอนที่ 1 : Chapter 01 :: Who the hell are you?!
N a u g h t y L o l i t a
#ยัยน้องโบยอน
พ่อจ๋าดีที่สุด แต่นั่นก็ก่อนที่น้องจะได้เจอเขา
( กี่ครั้งแล้วที่คุณเป็นแบบนี้ ฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ ทำไมถึงทำเหมือนฉันไม่มีค่า )
“ผมทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นเหรอ คิดว่าคุณเป็นด้วยตัวเองเสียอีก”
( ให้ตายเถอะเซฮุน คุณมันโคตรเฮงซวย คุณกำลังจะบอกว่าฉันมันร่านที่วิ่งไล่ตามคุณเองสินะ )
“อ่า ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมถึงพ่นคำหยาบแบบนั้นด่าตัวเองล่ะ ไม่ไหวเลย”
( โอเซฮุน! )
( ทำไมทำแบบนี้ ไหนบอกว่าฉันไม่เหมือนคนอื่นไง )
“ก็ตอนนั้นคุณไม่เหมือนจริง ๆ นี่ ให้ตาย”
( ฉันจริงจังนะ คุณบอกว่ารักฉัน จูบฉัน )
“ตอนกำลังจะมีเซ็กส์ไม่ให้จูบกับบอกรักจะให้ผมลุกขึ้นมานั่งสวดมนต์ขอพรจากพระเจ้าก่อนขึ้นสังเวียนเหรอ ไม่เอาน่า อย่าทำให้ผมหัวเราะสิ ตรงนี้คนอยู่เยอะแยะ”
( ฉันอายุสามสิบสามแล้ว ฉันอยากแต่งงาน คุณเข้าใจไหม? )
( โอเค ฉันผิดเอง ฉันขอโทษที่ไปอาละวาดในสตูดิโอวันนี้ ขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก นะคะเซฮุน )
“ต่อให้ไม่สัญญาคุณก็ทำแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะโซรา เพราะถ้ามีคราวหน้าอีกผมจะเรียกตำรวจ”
( นี่คุณขู่ฉันเหรอ? )
“ผมพูดจริง ผมจะล้อเล่นก็แค่ตอนอินเลิฟเท่านั้นคุณก็น่าจะรู้นี่ที่รัก”
( ที่รัก? คำพูดคำจาของคุณมันสวนทางกับคำสิ่งที่ทำเกินไปหรือเปล่า? ที่เคยบอกว่าอยากแต่งงานกับฉันน่ะลืมไปแล้วใช่ไหม? )
“อ่า เรื่องนั้น... ผมไม่ได้ลืมหรอก”
( แล้วมันคืออะไร?! )
“ก็ผมพูดแบบนั้นกับผู้หญิงทุกคน”
ชายวัยกลางคนกดตัดสายพร้อมผิวปาก ก่อนจะเปิดโหมดเครื่องบินเพื่อปิดการติดต่อจากโลกภายนอก บุหรี่ร้อนถูกกะเทาะออกจากซองก่อนจะคาบไว้ สายตาจับจ้องอยู่กับหน้าจอพลางขมวดคิ้วกับเรื่องปวดตับที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางแบบสาวที่เพิ่งตัดสายไปคงเดินเคาะปลายส้นสูงอยู่ในคอนโดของเขาอย่างคนพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ
“ให้ตาย... น่าจะเปลี่ยนรหัสประตูก่อนออกมา นี่เพิ่งสี่สิบต้น ๆ เองนะ อะไรจะเลอะเลือนขนาดนี้” เซฮุนส่ายศีรษะหน่าย ๆ แม้จะเคยเปลี่ยนรหัสประตูมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยภาระการงานที่จ่อคอตั้งแต่เช้าจนถึงฟ้ามืดก็ทำให้แทบไม่มีเวลาหายใจจนลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้ง่าย ๆ
ช่างภาพวัยเลขสี่ไม่ได้แก่ไปตามคนรุ่นราวคราวเดียวเดียวกัน โอเซฮุนเพิ่งได้ลงปกนิตยสารชื่อดังในหัวข้อ ‘ชายผู้ประสบความสำเร็จทางการงานและร่างกายที่ดูดี’ พร้อมคอลัมน์สองหน้าที่เป็นการถามตอบว่าเขาใช้ชีวิตมาอย่างไรจนถึงตอนนี้
ซึ่งเนื้อ ๆ ก็ไม่พ้นการพูดถึงเรื่องออกท่องเที่ยว ถ่ายรูปวิวธรรมชาติในประเทศที่ไม่เคยไป หรือจุดดี ๆ ที่ไม่มีใครนึกถึงแต่เขากลับถ่ายภาพนั้นออกมาได้น่าสนใจ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพที่ทำให้ถูกเรียกว่า ‘กงยูเบอร์สอง’ ซึ่งถามว่าเขาเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ โอเซฮุนก็คือโอเซฮุนสิวะ ไม่มีกงยูเบอร์สองอะไรทั้งนั้นเพราะโลกใบนี้มีเขาแค่คนเดียว
เซฮุนลงขายรูปในเว็บทั่วไปและถ่ายให้นิตยสารท่องเที่ยว แต่ก็มีบ้างที่หันไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการถ่ายแบบขาวดำ ก็ผู้หญิงสวย ๆ ในวงการมีเยอะ และหุ่นของพวกเธอก็น่ามองใกล้ ๆ มากกว่าจะให้อยู่ในกล้อง เพราะบางครั้งความสวยของธรรมชาติก็ไม่ได้ตอบโจทย์ให้ชีวิตในบางเวลา
ควันสีหม่นลอยไปตามลมเย็นยามค่ำคืน เซฮุนกึ่งนั่งกึ่งยืนบนอิฐปูนแดงซึ่งด้านหลังมีดอกไม้หลากสีที่ปลูกตามฤดูกาลคอยประดับให้ความสวยงามข้างทาง รถรายังคงวิ่งบนถนนจนรอบข้างไม่เงียบจนเกินไป ไฟสีส้มกระพริบวาบเผาไหม้เข้าหามวนบุหรี่เมื่อถูกสูบอัดเข้าปอดอีกครั้ง นัยน์ตาคมปิดลงพลางคิดไปว่าคืนนี้ควรจะจบลงที่ไหนในเมื่อกลับคอนโดยังไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ เขาจะไม่เลือกทางที่ต้องแก้ผ้าทำเรื่องน่าเบื่อกับผู้หญิงเอาแต่ใจคนเดิมเด็ดขาด
โทรหานางแบบที่เคยกุ๊กกิ๊กด้วยสิ... ไม่ดีกว่า โคตรไม่เข้าท่า โอเซฮุนไม่ใช่คนเรื่องมากชนิดว่าเลือกไม่กินของเก่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงแต่ละคนที่อ้าขาให้ก็มีแต่ประเภทวี้ดว้ายกระตู้วู้น่ารำคาญจนไม่อยากเห็นหน้าซ้ำอีก
ไปนั่งดื่มเงียบ ๆ แล้วชวนบาร์เทนเดอร์คุย... ก็ไม่มีทอปิกน่าสนใจอีก ให้ตาย... ช่วงเวลาเบื่อทุกสิ่งทุกอย่างกำลังกลับมาอีกแล้วหรือไง เขาไม่อยากจมอยู่กับความน่าเบื่อหน่ายนาน ๆ เกินสิบนาทีจริง ๆ
เวลาผ่านไปตามไฟที่เริ่มเผาบุหรี่เข้ามาเรื่อย ๆ และโอเซฮุนก็ให้คำตอบตัวเองด้วยการเดินตรงไปหยุดอยู่หน้ามินิมาร์ทพร้อมขยี้ก้นบุหรี่ลงกับถังขยะ สายตาทอดมองเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมสว่างจ้าซึ่งมีคนประเภทเดียวกับเขานั่งสูดรามยอนอยู่บนบาร์ติดกระจก และมีแผงสินค้าประดับเป็นแบล็กกราวด์อยู่ด้านหลัง
ถ้าไปนั่งกินด้วยกันคงเขินแปลก ๆ ชายวัยกลางคนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแจ็คเก็ตดำพลางเดินเข้าไปใน GS25 เพื่อซื้อเบียร์เอาไปดื่มกับเพื่อนสนิทซึ่งคาดว่าตอนนี้คงยังไม่นอน ไอ้ครั้นจะโทรหาตอนนี้เพื่อเช็กเอาให้ชัวร์ก็คงไม่ดี โอเซฮุนเชื่อว่ายุนโซราคงรัวกดโทรหาอย่างไม่ยอมแพ้ ดังนั้นเขาจะปล่อยไปอีกสักห้านาทีแล้วค่อยปิดโหมดเครื่องบินเพื่อโทรหาเพื่อน
เบียร์สามกระป๋องถูกถือด้วยมือเดียว ระหว่างนั้นก็กวาดสายตามองดูเครื่องดื่มอื่น ๆ ซึ่งโซจูคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสำหรับค่ำคืนนี้ ขายาวตรงไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ วางของมึนเมาทั้งหมดลงแล้วล้วงกระเป๋าเงินออกมาพร้อมปิดโหมดเครื่องบินโทรออกหาเพื่อน
โชคดีเหลือทนที่ยุนโซราไม่โผล่มาเซอร์ไพรส์ด้วยการสั่นสะเทือนของมือถือ ชายวัยกลางคนผิวปากหวิวอย่างโล่งอกแล้วกดโทรออก เพียงชั่วอึดใจเดียวเพื่อนสนิทที่นิสัยต่างกันราวกับฟ้าและเหวก็รับสาย
“ไง เดี๋ยวฉันเข้าไปหานะ จะเอาอะไรหรือเปล่าฉันอยู่จีเอสทะเวนตี้ไฟฟ์ อืม... ตอนนี้มีเบียร์สามกระป๋อง ฉันรู้น่าว่าห้องแกต้องมีแช่ไว้อยู่แล้ว เห็นไหม? พ่อแกเคยเดาผิดที่ไหน”
เซฮุนหัวเราะพลางเอาหูแนบโทรศัพท์กับหัวไหล่ระหว่างควักเงินจ่าย เล่นหูเล่นตาอยู่ในทีจนแคชเชียร์สาวหน้าขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะขยับปากบอกให้เธอหยิบบุหรี่ด้านหลังให้หนึ่งซอง ระหว่างนั้นคนปลายสายก็หัวเราะร่วนพร้อมยิงธนูปักอกกันด้วยคำว่า ‘สภาพแบบนี้คงหนีผู้หญิงอีกแล้วสินะ’ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ขอบคุณนะครับ วันนี้คิ้วคุณสวยมาก” แคชเชียร์สาวยกมือขึ้นทาบแก้มพลางมองตามแผ่นหลังผู้ชายปากหวานที่แอบขยิบตาส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไป
ขายาวก้าวไปตามฟุตปาธยามค่ำคืนอย่างไม่เร่งรีบพร้อมถุงหิ้วสีดำพลางระลึกชาติว่าเดินออกมาไกลจากรถที่จอดทิ้งมากแค่ไหน พอรู้จุดหมายว่าจะไปคอนโดเพื่อน อยู่ ๆ การเดินกลับไปหารถก็เป็นเรื่องชวนเหนื่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ลุง”
ว่าไงนะ?
คนถูกเรียกอย่างหยาบคายขมวดคิ้วพลางหันไปมองเจ้าของเสียงเพื่อยืนยันให้รู้ว่า ‘ลุง’ ที่เรียกเมื่อครู่ยังห่างไกลกับหน้าตาเขามากนัก เซฮุนขมวดคิ้วเมื่อพบเพียงความว่างเปล่า แต่พอลดระดับสายตาลงก็พบเด็กผู้หญิงหุ่นอวบ ๆ คนหนึ่งซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเธอคงอ้วนเป็นหมูถ้ามือยังถือไอติมในเวลาแบบนี้
“อย่าเพิ่งไป เอาของให้หนูก่อน”
“ของอะไร?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วเข้าไปอีก หรี่ตามองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อเช็กดูความปลอดภัยให้ตนเอง “เธอคงไม่ใช่พวกรีดไถใช่ไหม บอกไว้เลยนะว่าฉันมีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่หลายคนที่สามารถจับเธอเข้าตารางได้”
“โหยไม่ใช่” เด็กสาวถอนหายใจพลางแบมือซ้ายออกมา “โซจูของหนู”
ถ้าคิ้วเป็นเชือก มันก็คงผูกเข้าหากันเป็นปมแน่นจนคลายไม่ออกแน่ ๆ เซฮุนยังคงงงและไม่เข้าใจ เด็กผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไร ในเมื่อสิ่งที่เขาซื้อเมื่อครู่ก็มีแค่บุหรี่กับเบียร์สามกระป๋อง “จะให้ฉันเสกอะไรออกมาเหรอ โทษทีนะ พอดีว่าไม่ได้มีอาชีพเป็นนักมายากล”
“อือหนูรู้ แต่ในถุงนั่นอะ” เจ้าของผมตรงยาวก้มหน้าก้มตาควักกระเป๋าเงินเล็ก ๆ ลายโพนี่สีชมพูออกมารูดซิปพร้อมควักเงินจำนวนหนึ่ง ขยำจนยับเหมือนเด็กขโมยเงินพ่อแม่มาและยื่นให้กับเขา “เงินค่าโซจูค่ะ”
“พี่ไม่รู้นะว่าหนู --”
“อย่าพี่สิ ลุงน่าจะแก่กว่าหนูสักสองรอบได้”
“ย่าห์ ฉันมั่นใจว่าเด็กกว่าพ่อแม่เธอแล้วกัน อย่ามาเรียกกันด้วยคำหยาบคายอย่างนี้นะฉันไม่ชอบทะเลาะกับเด็ก” เขาชี้หน้าเด็กสาวอย่างเอาเรื่องพร้อมถลึงตาขู่อย่างไม่ห่วงเรื่องหล่ออย่างที่เคยเป็น
“พ่อหนูยังหนุ่มอยู่”
“แล้ว? แม่เธอคลอดลูกตั้งแต่อายุสิบห้าหรือไงไหนบอกมาซิ?” นอกจากนางแบบเรื่องมากแล้ว ก็คงเป็นเด็กผู้หญิงคนนี้ที่ทำให้โอเซฮุนหัวร้อนได้ และมันไม่ตลก!
“พ่อจ๋ายังหนุ่มยังแน่น แถมหล่อด้วย ส่วนแม่มีพี่แบคฮยอนตอนยี่สิบห้า ลุงไม่ต้องห่วงหรอก”
“ใครเป็นห่วงไม่ทราบ” เขาแค่นหัวเราะกับเรื่องตลกในค่ำคืนนี้ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างตกใจเมื่ออยู่ ๆ ยัยเด็กเตี้ยก็พุ่งเข้ามาคว้าเอาถุงดำไปเสียอย่างนั้น “นี่!”
บ้าไปแล้ว ทำไมมีโซจูอยู่ในถุง?
“คุณลุ -- คุณอาเอาเงินไป ส่วนหนู” ยัยเด็กพูดมากคว้าเอาขวดโซจูรสผลไม้ไปกอดแนบอกพร้อมช้อนมองตาแป๋ว “เอานี่มา”
“มันอยู่ในถุงของฉันได้ยังไง ฉันให้เวลาเธออธิบายสามนาทีก่อนจะโทรแจ้งตำรวจ” คนแปลกหน้าทำตาโต เธอเม้มริมฝีปากกลอกตาลอกแล่กเหมือนกำลังคิดคำโกหกซึ่งคนอาบน้ำร้อนมาก่อนเป็นล้านครั้งอย่างเขาน่ะหรือจะดูไม่ออก “ไม่พูดสินะ ได้”
“เอาคืนมานะ!” เซฮุนชูขวดโซจูขึ้นเหนือศีรษะ ลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่สนใจขณะที่อีกฝ่ายกระโดดเหยง ๆ เหมือนลูกหมาอยากได้บอลจากเจ้านาย
“ถ้าไม่พูดก็กระโดดมันอย่างนี้ทั้งคืนแหละ เอาสิ”
“อะไร หนูก็ให้เงินคุณอาแล้วไง”
“กระโดดต่อไป” เขาชูสูงขึ้นอีก และมันไกลเกินเอื้อมสำหรับเด็กผู้หญิงสูงร้อยห้าสิบกว่า ๆ
“ก็ได้!” เธอหายใจฮึดฮัด ขมวดคิ้วมองมาราวกับอยากบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธซึ่งโอเซฮุนไม่แคร์ “หนูเนียนวางบนเคาน์เตอร์ตอนคุณอาคุยโทรศัพท์อยู่อะ”
“นิสัย พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง?”
“ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็ยังไม่สอนหรอก”
“ฉันกำลังด่า จะทำหน้าคิดตามทำไม?” จะเป็นบ้าตาย ยัยเด็กนี่เป็นคนประเภทไหนกัน
เด็กน้อยทำปากยื่น คิ้วตกเป็นลูกหมาที่พยายามเรียกร้องความสงสารอย่างถึงขีดสุด สาบานได้เลยว่าโอเซฮุนไม่ชอบรังแกเด็ก เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ใช่คนรักเด็กเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าจะได้ความเอ็นดูจากผู้ชายคนนี้ไป
“ให้หนูเถอะนะ วันนี้หนูต้องเมาจริง ๆ”
“เมา? เธออายุเท่าไหร่แล้ว?”
“...”
“ฉัน – ถาม – ว่า – เธอ – อายุ – เท่าไหร่ – แล้ว?” เซฮุนย้ำ อันที่จริงเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะสวมบทผู้ปกครองสายโหดอะไร แต่ในเมื่อยัยเด็กนี่ทำตัวเลียนแบบเขาในวัยเด็ก เห็นทีว่าต้องสั่งสอนกันสักหน่อย
“ส... สิบแปด”
“อยู่มอปลายปีสอง?”
“อื้อ...”
“ให้ตาย ถ้าฉันเป็นพ่อแม่เธอคงจับกักบริเวณ โทษฐานทำตัวแก่แดดเกินวัย” เขาส่ายศีรษะอย่างหน่าย ๆ ก่อนจะลดระดับสายตามองมือที่ยื่นออกมาหวังจะขอโซจูขวดนี้ “ทำไมต้องกินเหล้า อกหักหรือไง?”
“ทำไมรู้!” เด็กน้อยทำตาโตเป็นประกาย สายตาที่มองมาเหมือนเห็นว่าโอเซฮุนคนนี้เป็นผู้วิเศษที่สามารถอ่านใจคนออกได้แม้ไม่พูดออกมา
“ฉันเกิดก่อนเธอตั้งกี่ปี เรื่องแบบนี้ฉันเคยผ่านมาแล้วนักต่อนัก”
“แล้วคุณอาก็ดื่มเหล้าเมาดิ้นเหมือนหนูเลยใช่ไหม”
“เออ” พูดแล้วเจ็บใจแปลก ๆ เหมือนยัยเด็กนี่เกิดมาเพื่อขยี้แผลในใจเขา
“แล้วบ่นหนูทำไมอะ”
“ก็ตอนนี้ฉันรู้แล้วไงว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะดูงี่เง่าตอนมองย้อนกลับไป” เขาค้อนเด็กสาวอีกครั้งพร้อมยัดโซจูใส่ถุงดำแล้วเอาเบียร์สามกระป๋องออกมาถือไว้ ก่อนจะยื่นถุงที่มองไม่เห็นสิ่งของด้านในให้พร้อมพยักหน้าส่ง ๆ “หาที่ซ่อนมันดี ๆ แล้วรีบกลับบ้าน อย่าทำเก่งกินข้างนอก มันจะลำบากคนอื่น”
“กลัวหนูโดนลากไปข่มขืนสินะคะ คุณอาเริ่มหล่อขึ้นมาแล้วรู้ตัวไหม?” เด็กแก่แดดปรือตามองแปลก ๆ และเขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว
“ฉันกลัวมีคนฉุดเธอไปฆ่าแล้วไม่ข่มขืนไง ช่วยดูสภาพตัวเองก่อนจินตนาการได้ไหม ให้ตาย” เซฮุนปรายตามองอีกคนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอีกครั้ง และเธอก็ทำตาม
“หนูรู้ตัวว่าหนูสวย พ่อจ๋าบอกทุกวัน”
“พระเจ้า ฉันไม่สงสัยแล้วที่เธอเป็นเด็กแบบนี้ ก็เพราะเติบโตมาในครอบครัวแปลก ๆ ที่พูดจาเป่าหูหลอกลูกสาวไปวัน ๆ นี่เอง”
“โกรธอะไรใครมาเปล่าอะ ทำไมหนูรู้สึกเหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์คุณอาแปลก ๆ” เด็กสาวหรี่ตามอง “หรือว่าจะเป็นอาการของวัยทอง”
“เดี๋ยวตัดปากทิ้ง” เซฮุนทำได้แค่ยึกยักอย่างหัวเสีย ถ้าอีกฝ่ายเป็นเด็กผู้ชายคงเคาะกะโหลกง่ายกว่านี้ ชายวัยกลางคนหายใจฮึดฮัด สบถคำหยาบแบบไม่มีเสียงแล้วเอี้ยวตัวหันหลังเดินต่อโดยไม่สนใจคนแปลกหน้าอีก อยากเมาก็เมาไปเหอะว่ะ
“ตอนนั้นอาดื่มไปเท่าไหร่ถึงเมา”
“ไม่รู้ จำไม่ได้” สายตายังคงมองไปข้างหน้า และเขารู้ว่าตอนนี้มีก้อนกลม ๆ กำลังพยายามเดินประกบข้างเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น
“แล้วอาพอจะรู้ไหมว่าต้องดื่มเยอะแค่ไหนถึงจะเมาแต่ก็ยังมีสติอยู่ แบบ... มีสติมากพอที่จะรู้ว่ากำลังทำอะไร แต่ให้คนฟังรู้ว่าเรากำลังเมาอยู่นะ” เสียงงุ้งงิ้งข้างตัวทำคนมากประสบการณ์ถอนหายใจกับวิธีเรียกร้องความสนใจแบบเด็ก ๆ
“ฟังนะ” เซฮุนหันหน้าเข้าหาเด็กน้อย ลดระดับสายตาลงมองเจ้าของดวงตาสวยขัดกับร่างท้วม ๆ ที่พอมองดี ๆ ก็พอเห็นเค้าความน่ารักอยู่บ้างถ้าหากลดน้ำหนักลงสักหน่อย
“หนูชื่อโบยอน”
“ช่างชื่อเธอสิ ฉันไม่ได้สนใจ”
“คุณอาชื่ออะไร”
“ถ้าใครสักคนทำให้เธอเสียใจถึงขั้นคิดที่จะพึ่งเหล้า ก็จงสำเหนียกไว้เลยว่าเขาไม่ได้เห็นคุณค่าในตัวเธอเลยสักนิด”
“หนูนามสกุลปาร์ค มีพี่ชายสองคน”
“ฉันบอกว่าไม่ได้สนใจไง หูแตกเหรอ?!”
โอย... ไม่เกรนจะกิน นอกจากจะไม่เจ็บปวดกับคำพูดแรง ๆ ทั้งหมดที่มอบให้แล้วยัยเด็กนี่ยังมองอย่างมุ่งมั่นเหมือนว่าถ้าไม่ได้รู้ชื่อเขาวันนี้คงต้องมีใครตายไปข้าง
“โอเซฮุน พอใจไหม?”
“พอใจมาก คุณคุณอาพูดต่อได้”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเด็กอย่างเธอแล้ว ลาก่อน” มือข้างที่ว่างอยู่ปาดลงตรงกลางอากาศเพื่อบอกให้รู้ว่าระยะห่างระหว่างเราทั้งคู่ได้เกิดขึ้นแล้ว
“จะทิ้งหนูไว้กับโซจูขวดนี้จริง ๆ เหรอ?”
“แล้วมันเรื่องที่ฉันต้องใส่ใจหรือไง รู้จักกัน?” เขาเลิกคิ้วถามประชดประชัน ก่อนเจ้าของแก้มยุ้ย ๆ จะกระพริบตาปริบ ๆ
“ถ้าคุยกันเดี๋ยวก็สนิทเองค่ะ”
“โทษทีนะ พอดีว่าฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับเด็กอย่างเธอ” หนีบกระป๋องเบียร์ทั้งสองไว้กับท่อนแขนแล้วเปิดอีกกระป๋องยกดื่ม ถ้าไม่ได้อะไรเย็น ๆ ไปหล่อเลี้ยงสมองตอนนี้เขาต้องเป็นบ้าตายแน่
“ไปโรงแรมกันกันนะคะ”
พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!
“อี๋ว สกปรกจัง ดีนะหนูหลบทัน”
“เธอจะบ้าเรอะ?!” หันไปตะคอกอย่างไม่แคร์สายตาคนรอบข้างที่เดินผ่าน เซฮุนใช้หลังมือเช็ดเบียร์ออกจากปากพลางเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะพยายามสงบสติอารมณ์ “ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่จะนอนกับใครก็ได้นะ อย่างน้อยฉันก็เลือก”
“หนูอยู่ตรงนี้แล้วค่ะ เหยื่ออารมณ์ของคุณอาในค่ำคืนนี้”
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“ฉันไม่มีรสนิยมกินเด็ก นี่ฟังนะปาร์คโยยอน”
“โบยอนค่ะ แต่ถ้าจำไม่ได้จะเรียกว่าน้องจ๋าก็ได้ ที่บ้านก็เรียกแบบนี้ค่ะ”
“ฉันไม่สน โอเคไหม?” เซฮุนก้มหน้าลงสบตากับอีกฝ่ายใกล้ ๆ พลางกดเสียงลงต่ำ “ผู้หญิงสวย มีหุ่นสไตล์นางแบบ ใส่ส้นสูงกับเสื้อผ้ารัดรูป นั่นแหละคนที่ฉันจะนอนด้วย”
“หนูยังนางแบบไม่พออีกเหรอ พ่อจ๋าบอกว่าถ้าหนูขึ้นประกวดงานไหนคู่แข่งต้องตายเรียบ”
“เพราะโดนเธอทับล่ะสิไม่ว่า เลิกเชื่อฟังคำพูดของพ่อจ๋าของเธอได้แล้ว พ่อแม่รังแกฉันชัด ๆ เป็นคนประเภทไหนวะ หลอกลูกสาวให้หลงเพ้อพกไปวัน ๆ ไม่ดูความจริง”
“ทำไมต้องพาลล่ะคะ พ่อแม่หนูมาเดินเล่นกับอาเซฮุนตรงนี้เหรอ” เด็กสาวขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ เขาจึงเลือกเดินหนีแต่อีกฝ่ายกลับวิ่งเข้ามากอดแขนเอาไว้ “อย่าไปนะ ถ้าคุณอาทิ้งหนูไว้ตรงนี้หนูคงจมกองน้ำตาตายแน่ ๆ”
“ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อยไงยัยบอลลูนลม” เซฮุนพยายามดันศีรษะเธอออกแต่ยิ่งดันเท่าไหร่ ก้อนกลม ๆ ก็ยิ่งพยายามบดเบียดเข้ามามากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ต้องเล่นจ้ำจี้กันก็ได้ คุณอาอยู่เป็นเพื่อนหนูก่อนนะ พอหมดขวดนี้แล้วหนูจะกลับบ้านทันทีเลย”
เด็กสาวช้อนตามองหวังหาที่พึ่ง และคนที่ถูกยื้อดึงเอาไว้ก็พ่ายแพ้น้ำตาซึ่งรู้ดีว่าจงใจบีบออกมาอย่างหลอก ๆ ให้ตายเหอะว่ะ ยัยเด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากไหนกัน ทำไมถึงมารยาสาไถยเก่งขนาดนี้!
TBC
นังทรัวเดรจูเนียร์มันร้ายนัก วันแรกก็ชวนพุชายเข้าโรงแรมแร้ว
แต่เซร้าหน่อยนะ ทิพุชายเค้าไม่ง่าย
ปล. ตอนแรกตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาโบยอนหรือชานอีก่อน
สรุปจะมาเขียนต่อพร้อม ๆ กันตอนทีมคุก 2 จบเด้อ
แต่ของชานอีจะยังอยู่ในบทความทีมคุกเดิมเพราะเปงชานแบค
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งือ ชอบคู่นี้ค่ะ พี่ชานบอลต้องตกใจกับลูกเขยในอนาคตตต55555555 น้องโบยอนแสบกว่าแม่นะเนี่ย
ชวนคุณอาเข้าโรงแรมเฉยเลย
แล้วเพื่อนที่เซฮุนบอกว่าจะไปหาคือใครกันนะ..
พี่เซฮุนที่ลุ้นมาตั้งแต่ภาคแรกก็ได้เป็นพระเอกแร้วว
เยสสสสสสส !!
นังทรัวเดสู้เค้านะลูกกกกกกก