ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 08 :: Teach me how to be your girlfriend. (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.41K
      292
      20 ธ.ค. 59

     

    Chapter 8

    Teach me how to be your girlfriend

     

     

     

    แบคฮีไม่ชอบโกหก แต่การตอบเซฮุนตรง ๆ ก็ดูจะเป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเองเปล่า ๆ ปวดหัว ไปนอนห้องพยาบาลมาจึงเป็นคำตอบที่ทำปลอดภัยมากที่สุด  

    ทีแรกเธอคิดว่าการชวนเดทวันเสาร์คงเป็นแค่คำพูดปิดท้ายก่อนเราจะแยกย้ายกันไปใส่เสื้อผ้า แต่พอเห็นว่ามีข้อความเข้าจากเบอร์ 1234 ความรู้สึกดี ๆ ก็ก่อตัวขึ้นอย่างไม่อยากยอมรับ

     

     

    ผมพูดจริง เสาร์นี้ห้ามเบี้ยวนัดนะครับ

     

     

    ประโยคขอร้องกึ่งบังคับทำให้บยอนแบคฮีรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กมอต้นที่ถนัดเรื่องเพ้อฝัน แม้ตอนนี้สีหน้าของเธอจะเรียบเฉยเหมือนคนไร้ความรู้สึก แต่ในใจกลับเต้นตุบตับอย่างไม่สามารถหยุดตัวเองได้

    อันตราย... อันตรายต่อใจอะไรขนาดนี้...

    ผู้ชายคนนั้นทำอะไรเหนือความคาดหมายบ่อยเกินไป ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจับทางถูกแล้ว แต่พอเจอความธรรมดา ความใจดีเข้าไปหน่อยก็หวั่นไหว แต่ก็ยังดีที่อาจารย์ยังแสดงมุมหื่นเหมือนผู้ชายทั่วไป เธอจะได้ไม่ปักใจง่าย ๆ ว่าอาจารย์เป็นคนดีจนไม่ลังเลที่จะรัก

    แต่เรื่องขโมยล่ะ... อาจารย์รู้ได้ยังไง?

    มันเป็นความคาใจที่ลึก ๆ อยากรู้ว่าใครทำ และอาจารย์เป็นเหตุทำให้ได้ของคืนจริงหรือเปล่า หรือแค่ทำเป็นเออออพูดอ้อมโลกไปอย่างนั้นเพื่อให้ได้ฟันเธอ แต่คนอย่างอาจารย์ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องโกหกเพื่อเหตุผลนั้น

    มีอะไรอีก?

    ขอคืนเถอะนะ

    อะไร?

    แฟลชไดร์ฟงานของฉัน... นะจูอึน... เสียงของเด็กสาวเจ้าเนื้อเบาหวิว แต่เพื่อนร่วมห้องก็พยายามตั้งใจฟังจนรับรู้ว่าวันนี้คิมมินซอกถูกแกล้งอีกแล้ว

    ใบหน้าของเธอซีดเผือด โทรมเพราะไม่ดูแลตัวเองและป่วยติดกันมาหลายวัน แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มจูอึนก็ไม่คิดที่จะหยุด การแกล้งมินซอกกลายเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว หากไม่พอใจใครก็มาลงกับเธอ หรือถ้าอารมณ์ดีก็คงไม่รอดเหมือนกัน

    นี่หล่อนอาบน้ำมาหรือเปล่า ตัวเหม็นอย่างกับหมูเน่า

    เอาน่าจูอึน คนอ้วนก็ต้องมีกลิ่นตัวเป็นธรรมดา นางอาจจะอาบน้ำมา แต่น้ำที่บ้านดันสกปรกก็ได้

    หน้าเป็นสิวขนาดนี้ใช้น้ำล้างจานล้างหน้าหรือไง?

    ฮ่า ๆ

    มินซอกกำหมัดแน่น กี่ครั้งแล้วที่ต้องทนฟังพวกสวะเหล่านี้ดูถูก เธอก้มหน้านิ่งเมื่อจูอึนยืนขึ้น สองขาเรียวก้าวเข้ามาทางนี้พร้อมตบแก้มเธอเบา ๆ

    อะไร จะเอาเหรอ ฮะ?

    เด็กสาวเจ้าเนื้อเดินถอยหลังทีละก้าวจนชนกับโต๊ะว่างที่เจ้าของยังไม่มา แบคฮีเห็นว่ามินซอกเกือบล้มเพราะไม่สามารถพยุงตัวเองไว้ได้ สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นแย่ลงเข้าไปทุกที แต่ก็ไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วย

    กำมือทำไม?

    ...

    ตอบสิ เก่งไม่ใช่เหรอ? จูอึนตบแก้มคนตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนข้อมือเล็กจะถูกคว้าไว้กลางอากาศโดยใครอีกคน

    มินซอกมองใบหน้าหล่อที่ใครหลายคนหลงใหล โอเซฮุนสบตากับจูอึนราวกับจะบอกให้หยุดโดยไม่ต้องพูด ซึ่งเด็กสาวก็ไม่กล้าขัดขืนเพียงเพราะอีกฝ่ายคือคนที่เพื่อนชอบ

    พอได้ยัง?

    ... จูอึนหันไปสบตากับเพื่อนสนิทหวังขอความช่วยเหลือ ซึ่งดาซมก็ลังเลว่าควรทำอย่างไร เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าเซฮุนไม่เคยฟังคำพูดของเธอเลยสักนิด แต่เด็กสาวก็ไม่อยากห้ามสิ่งที่จูอึนทำ

    มินซอกกล่าวหาพวกเราก่อนนะ

    เรื่องอะไร? เซฮุนถามเสียงแข็ง ดาซมมองตัดพ้อเด็กหนุ่มที่เธอชอบ ก่อนจะหันไปทางอีอ้วนที่ยืนก้มหน้าอยู่ข้างหลังคนตัวสูง

    นางหาว่าฉันขโมยแฟลชไดร์ฟนางไป จูอึนตอบ เธอจะไม่ยอมให้เซฮุนเข้าใจดาซมผิดเด็ดขาด

    แล้วได้เอาไปไหม?

    ไม่แน่นอน

    ถ้าไม่ได้เอาไปก็ปฏิเสธตรง ๆ ดิ เรื่องง่ายแค่นี้ทำไมไม่ทำ

    แต่ฉัน --

    พอได้หรือยังดาซม?

    กลุ่มเด็กผู้ชายต่างส่งเสียงฮือฮา กับความใจเด็ดของเซฮุนที่ไม่คิดว่าจะกล้าพูดกับสาวสวยประจำห้อง เป็นอีกครั้งที่ดาซมรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ เธอหงุดหงิด หัวเสีย และน้อยใจจนอยากกรี๊ดดัง ๆ กับเรื่องที่ไม่ได้ทำแต่ก็ถูกเข้าใจผิดไปแล้ว

    เศร้าเวอร์... คือฉันไม่เห็นดาซมทำอะไรเลยนะวันนี้แชรอนจิ๊ปากเบา ๆ ขณะมองฉากร้อนเป็นไฟของคนกลุ่มนั้น

    ก็ใช่น่ะสิ นางแค่นั่งเฉย ๆ แต่คงเป็นเพราะออกตัวปกป้องจูอึนเลยโดนเข้าใจว่ามีส่วนร่วมด้วยมั้ง

    ป่านนี้อีอ้วนคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในใจแล้ว มีผู้ชายหล่อ ๆ เข้ามาช่วย

    แรดเงียบ ทำเป็นสำออยไม่สบาย ในใจลึก ๆ ก็คงอยากให้เซฮุนอุ้มไปห้องพยาบาล

    ถ้าไม่นับเรื่องความอิจฉาของเพื่อนในกลุ่มที่กำลังซุบซิบนินทาอยู่ตอนนี้ ความกล้าของโอเซฮุนก็คงนำเด่นจนเรียกรอยยิ้มจากเธอได้ แบคฮีเท้าคางมองความเท่ที่น้อยครั้งจะได้เห็นจากหมอนั่น นอกจากหื่นก็หล่อเป็นเหมือนกันนี่

    คนตัวเล็กหุบยิ้มลงเมื่อเห็นแววตาของเด็กสาวร่างท้วมซึ่งมองมาทางนี้ แต่แค่ครู่เดียวเท่านั้นมินซอกก็เดินออกไปโดยไม่สนใจว่าใครจะยินดียินร้ายอีก

    เป็นฉันคงลาออกไปแล้ว ทนอยู่ให้โดนแกล้งแบบนี้ทุกวันไม่ไหวหรอก แชรอนส่ายศีรษะ

    แล้วจูอึนเอาแฟลชไดร์ฟงานมินซอกไปจริงหรือเปล่า? แบคฮีละความสนใจจากฝั่งนั้นและหันเข้าหาเพื่อนในกลุ่ม

    พลาดได้เหรอ เอาไปซ่อน ที่ไหนนะพาดา? ทั้งสามคนหันไปทางเด็กสาวที่นั่งนิ่งอยู่เงียบ ๆ ซึ่งผิดปกติสำหรับคนที่ไม่เคยพลาดเรื่องนินทาคนอื่น

    ...ว่าไงนะ?

    ที่เธอเล่าว่าเจอจูอึนในห้องน้ำเลยเอาแฟลชไดร์ฟมินซอกไปซ่อนด้วยกันไง แล้วมันที่ไหนอะ? แชรอนเลิกคิ้วถามอย่างใคร่รู้

    ฉันไม่เกี่ยว!”

    ...

    ทุกคนหันมาทางกลุ่มเด็กสาวสี่คนเป็นตาเดียวกัน เมื่ออยู่ ๆ คิมพาดาก็ลุกพรวดพร้อมตะโกนปฏิเสธกับสิ่งที่ไม่มีใครยัดเยียดความผิดให้ เด็กสาวไม่สามารถตั้งสติได้ สายตาของทุกคนตอนนี้ราวกับรู้หมดแล้วว่าคิมพาดาทำอะไรลงไป

    หล่อนเป็นอะไร?

    ...

    ผีเข้าเหรอ?

    รู้สึกเหมือนมีใครเอามีดมาจ่อคอให้สารภาพว่าเธอคือนังหัวขโมย และมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องแฟลชไดร์ฟของคิมมินซอก มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ สั่นเทาเหมือนตอนที่ถูกอาจารย์ชานยอลจับได้ ความรู้สึกนั้นยังตามหลอกหลอนมาจนถึงวินาทีนี้

    ฉันเห็นจูอึนเอาไปซ่อนในพงหญ้าหลังตึก แค่นั้น ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันไม่เกี่ยว

    ทั้งสามคนมองตามแผ่นหลังอีกคนที่เดินออกไปจากห้องโดยไม่ชวนใครออกไปด้วยเหมือนอย่างเคย ท่ามกลางความประหลาดใจของทั้งสามคนที่แม้แต่ยูจินยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนสนิท

    พาดากำมือแน่น กลอกตาลอกแล่กกับเสียงในหัวที่ทั้งบอกว่า เธอไม่ผิด และ แกมันเลว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้ มันนับไม่ถ้วนแล้วกับการปลอบใจตัวเองว่าที่ทำไปมันไม่ใช่เรื่องผิด ตั้งแต่สมัยประถมที่เธอหัดลักเล็กขโมยน้อย เริ่มต้นจากอยากได้ของสิ่งนั้น กระทั่งสิ่งที่ทำมันหล่อหลอมให้คิมพาดาขโมยเพราะแค่รู้สึกว่าอยากขโมย

    ในลิ้นชักของเธอเต็มไปด้วยสิ่งของมากมายตั้งแต่ปากกา สีไม้ กล่องดินสอ สร้อย ต่างหู ของเพื่อนสมัยประถมถึงมัธยมต้น แต่ก็หยุดช่วงมอปลายเพราะไม่กล้าขโมยของเพื่อน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่จริงใจกับเธอมากที่สุดตั้งแต่เคยคบเพื่อนมา

    แต่ที่ตัดสินใจขโมยของของแบคฮี ก็เพราะผู้หญิงคนนั้นยังไม่เข้าใกล้คำว่าเพื่อน บวกกับฐานะที่ทำให้พาดาล้างสมองตัวเองว่าต่อให้หายไปกี่ร้อยชิ้น อีกฝ่ายก็หามันใหม่ได้โดยไม่ลำบากอยู่ดี

    ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้นอกจากอาจารย์ชานยอล แต่เธอก็ไม่สามารถวางใจได้ว่าอีกฝ่ายจะเก็บความลับไว้ได้ ความกลัว ความกังวล ยังคงหลอกหลอนทุกวินาที ถึงแม้ว่าทุกคนจะทำตัวเหมือนปกติ แต่สายตาของคนเดียวที่รู้ความจริงยังคงจดจำอยู่ในความรู้สึก

    สายตาและคำพูดของอาจารย์ชานยอลในวันนั้น มันยังคงตอกหน้าผู้หญิงอย่างเธอมาจนถึงวันนี้

     

     

    คุณหลอกคนอื่นได้ แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็หนีความจริงไม่พ้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกสิ่งที่คุณตัดสินใจทำลงไป ไม่ว่าจะเพราะความชั่ววูบหรือตั้งใจ ความรู้สึกเหล่านั้นจะตามคุณไปในทุก ๆ ที่

     

     

    *

     

     

    แบคฮีไม่ได้คิดจะเป็นฮีโร่ แต่เพราะพรุ่งนี้ต้องส่งงานชิ้นใหญ่และมินซอกยังหาแฟลชไดร์ฟไม่เจอ เธอถึงได้มาแถวหลังตึกเพื่อคุ้ยพงหญ้าหา อย่างน้อยการแอบเอาไปคืนมันก็น่าจะช่วยยัยนั่นได้บ้าง เห็นหน้าซีด ๆ คงบั่นทำงานใหม่ทั้งคืนไม่ไหวแน่

    เด็กสาวใช้เวลาช่วงหลังเลิกเรียนอยู่เกือบชั่วโมง สุดท้ายก็เห็นแฟลชไดร์ฟเจ้าปัญหาที่ปั่นป่วนเด็กเรียนดีเด่นอย่างคิมมินซอกตลอดทั้งวัน แบคฮีเป่าฝุ่นออกพร้อมเอาชายกระโปรงเช็ดให้ ภายนอกดูมอมแมมไปหน่อย แต่ส่วนที่ใช้เสียบกับคอมยังปกติดีไม่มีปัญหา

    คนตัวเล็กเดินขึ้นบันไดไปจนถึงทางเลี้ยว สองขาหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อเห็นว่าเด็กสาวร่างท้วมเดินร้องไห้ออกมาจากห้องศิลปะ ผู้หญิงคนนั้นยังคงตามหาของอย่างไร้จุดหมาย

    มินซอกกระแอมไอ เธอหยุดฝีเท้าทันทีที่เห็นในมืออีกคนมีสิ่งของที่เธอตามหามาตลอดทั้งวัน เด็กสาวทั้งสองคนสบตากันท่ามกลางแสงสีส้มยามเย็นที่กำลังจะลับหายไปเพื่อต้อนรับความมืด สีหน้าและแววตาของบยอนแบคฮียังคงหยิ่งจองหองเหมือนทุกครั้ง ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ

    นี่ของเธอใช่ไหม?

    ...

    มินซอกไม่แน่ใจว่าคำถามนั้นมาจากความไม่รู้หรือแค่จะลองเชิงก่อนหาทางแกล้งเธอเหมือนคนอื่น เธอเคยคิดว่าบยอนแบคฮีเป็นคนดีเพราะเคยช่วยเอาขยะไปทิ้งในวันนั้น แต่มันก็แค่ครั้งเดียว ถ้าเทียบกับสายตาเวทนาตลอดเวลาที่เธอถูกแกล้งและสิ่งที่อยู่ในมือตอนนี้

     

     

    บยอนแบคฮีก็อาจจะไม่ได้ต่างจากคนอื่นนักหรอก

     

     

    จูอึนสั่งให้เธอทำ หรือว่าเธอทำเอง

    ฮะ? คนตัวเล็กขมวดคิ้ว มือของเธอยังคงยื่นแฟลชไดร์ฟไปข้างหน้า ทั้งคู่สบตากันซึ่งแบคฮีพอจะรู้แล้วว่าในหัวของผู้หญิงฉลาดเรื่องการเรียนกำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่

    สนุกมากใช่ไหม?

    ...

    รู้หรือเปล่าว่าฉันเรียนไม่รู้เรื่องทั้งวันเพราะไม่รู้ว่าจะหามันเจอจากที่ไหน

    แล้วฉันจะไปรู้กับเธอหรือไง? แบคฮีพูดเสียงลอดไรฟัน เมื่อความหวังดีของเธอกลายเป็นพิษเสียแล้ว

    อยากให้ฉันเกรดตกมากนักใช่ไหม เอาเลยสิ เผางานฉัน ทำให้ฉันเรียนแย่ลง พวกเธอจะได้ดูฉลาดขึ้นไง สนุกมากเลยสิ ดูถูกหน้าตาฉัน สัดส่วนบนร่างกายฉัน ทำให้ฉันเป็นตัวตลก

    ...

    สะใจมากใช่ไหมกับการพังชีวิตคนอื่น ฉันเคยคิดว่าเธอจะต่างจากคนพวกนั้น แต่มันไม่ใช่เลย เธอเอากระเป๋าฉันไปซ่อน หัวเราะเยาะลับหลังตอนฉันถูกคนพวกนั้นแกล้ง โกรธที่เซฮุนเข้ามาช่วยฉันใช่ไหมล่ะ เธอมันก็ร้ายเงียบอย่างที่คนอื่นพูดไม่มีผิด

    เด็กสาวร่างท้วมหน้าหันทันทีที่ถูกตบอย่างแรง แก้มขาวร้อนผ่าวขนขึ้นริ้วแดง เพียงครู่เดียวความชาก็แล่นปราดไปทั้งใบหน้า อาจจะสักสิบวินาทีที่คิมมินซอกได้ใช้เวลาอยู่กับความคิดตนเอง เมื่อได้เข้าใจแล้วว่าตบเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะความสะใจ แต่เป็นตบเพื่อสั่งให้เธอหยุด

    คิดว่าถูกทำร้ายอยู่คนเดียวหรือไง?

    ...

    ไม่ใช่เพราะเธอเป็นแบบนี้เหรอถึงได้ถูกคนพวกนั้นรังแกไม่หยุด

    ...

    เอาแต่ร้องไห้ ทำตัวน่าสงสาร รอให้คนอื่นมาปกป้อง เคยคิดที่จะแข็งข้อบ้างไหม ยอมให้คนอื่นกดหัวอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะหายใจได้อย่างมีความสุข

    ...

    พวกนั้นมีสิบมือเหรอ ก็ไม่ ก็เห็นว่ามีมือมีเท้าเท่ากัน

    ...

    ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบตรงระเบียงทางเดิน เด็กสาวร่างท้วมน้ำตาคลอกับความจริงจากปากอีกฝ่ายที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ มันไม่มีอะไรจริงไปกว่านั้นอีกแล้ว คิมมินซอกเป็นผู้หญิงอ้วนที่อ่อนแอ ไม่กล้ามีปากเสียงกับใคร ไม่กล้าอยู่ในจุดยืนของตนเอง ในใจของเธอเพียงแต่ภาวนาขอให้กลุ่มของจูอึนเลิกแกล้งเธอ หรือไม่ก็มีใครสักคนกล้าหยุดคนพวกนั้นอย่างที่โอเซฮุนทำ

    ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะยื่นขาเข้ามายุ่งเรื่องของเธอ อยากโทษทุกคนในโลกมากนักก็เชิญตามสบาย

    มินซอกสะอื้นน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอลดระดับสายตามองอีกคนที่วางแฟลชไดร์ฟลงบนพื้นโดยไม่ปามันใส่หน้าเธออย่างที่ควรทำ ตอนนั้นเด็กสาวถึงได้เห็นว่ากระโปรงของแบคฮีเลอะโคลนดิน

    เด็กสาวร่างท้วมมองตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่มีพร้อมทุกอย่างจนน่าอิจฉา บยอนแบคฮีตัวก็แค่นั้น แต่กลับมีความกล้าเผชิญหน้ากับกลุ่มดาซมมากกว่าเธอเสียอีก มินซอกกำลังรู้สึกผิดกับความเก็บกดในใจที่สาดใส่อีกฝ่าย ซึ่งถ้าคิดดูดี ๆ ก็จะเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าบยอนแบคฮีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลยสักนิด

     

     

    ไม่เลย...

     

     

    ขอโทษ!!!”

    ...

    ฉันขอโทษนะ... ขอโทษที่พูดไม่ดี!!!” มินซอกตะโกนไล่หลังคนตัวเล็ก เสียงของเธอกำลังสั่นและน่าสมเพช เด็กสาวร่างท้วมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากได้ยินคำนี้หรือไม่ แต่มันคงดีกว่าการปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ

    ขอโทษที่ไม่เอาไหน ขอโทษที่เลือกมองแบคฮีผิด ๆ คิมมินซอกอ่อนแอเอง ถึงได้พาลว่าทุกคนในโลกรุมทำร้ายเธอ ปิดหูปิดตาตัวเองจนไม่ยอมมองเห็นความดีของใครทั้งนั้น

    แบคฮีหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ร้องไห้ฟูมฟายราวกับความอึดอัดใจในรูปแบบความเศร้ามันถูกระเบิดออกมา คนตัวเล็กไม่ชอบเห็นใครร้องไห้เลย มันทำให้คนหยาบกระด้างอย่างเธอใจอ่อนจนลืมความโกรธเคืองเรื่องเมื่อครู่ไปโดยปลิดทิ้ง

    เวลามีคนเอาของมาให้ต้องพูดว่าขอบคุณไม่ใช่หรือไง โง่จริง

    น้ำตายังคงไหล แต่น่าแปลกเหลือเกินที่คนฟังกำลังรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพียงเพราะประโยคเมื่อครู่และรอยยิ้มเล็ก ๆ จากคนฟอร์มจัด แบคฮีไม่ได้พูดอะไรอีก ผู้หญิงคนนั้นเพียงชี้นิ้วไปยังแฟลชไดร์ฟบนพื้น ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้ และเหลือทิ้งไว้เพียงแสงแดดอุ่น ๆ ยามเย็นที่ทำให้เด็กผู้หญิงที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ

     

     

    *

     

     

    ( คิดไว้หรือยังครับว่าพรุ่งนี้จะใส่ชุดไหนไปเดทกับผม? )

    แบคฮีแกล้งไม่สนใจเสียงคนที่เปิดกล้องคุยกันอยู่ เธอนั่งลงบนโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมชำเลืองมองใบหน้าของอาจารย์หนุ่มในจอขณะเช็ดผมให้แห้งหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผู้ชายคนนั้นกำลังออกกำลังกายด้วยเครื่องอะไรสักอย่างที่มันค่อนข้างหนัก เหงื่อที่ไหลโทรมกายทำเสื้อสีเทาเปียกรอบคอเสื้อ เธอหัวเสียจริง ๆ กับความเซ็กซี่ที่ไม่ได้ตั้งใจของอาจารย์

    หนูต้องคิดด้วยเหรอ ก็แค่เดทธรรมดา

    ( ไม่เคยมีคำว่าธรรมดากับคนพิเศษหรอกนะครับ )

    จะเข้าข้างว่าตัวเองเป็นคนพิเศษหรือไงคะ? แบคฮีเลิกคิ้วมองค้อนคนในสายที่เอาแต่ยิ้มขำขณะดันเครื่องออกกำลังกายขึ้นเหนือศีรษะ หนูก็แค่ว่างเลยหาเรื่องกินอาจารย์อีกครั้ง

    ( ตรงไปตรงมาจังครับ ผมเขินเลย เห็นทีว่าต้องเตรียมกางเกงในตัวเก่งซะแล้ว สีเทาหรือสีดำดีนะ )

    ... เด็กสาวหรี่ตามองคนในจอมือถืออย่างหัวเสีย กับท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แกล้งทำเป็นเขินทั้ง ๆ ที่อาจารย์เจนโลกยิ่งกว่าเธอเป็นไหน ๆ ยังมาแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา

    ( คิวผมไม่ได้ชนกับเซฮุนใช่ไหม? )

    ถามทำไมคะ อยากให้เขาไปด้วยเหรอ?

    ( ก็ได้นะครับ ถ้าคุณอยากเห็นคนหึงลมออกหู พอถึงตอนนั้นคนที่เดือดร้อนท่าทางจะไม่ใช่ผมซะด้วยสิ )

    อะไรที่ทำให้มั่นใจขนาดนั้น เซฮุนหมัดหนักนะคะ ตอนต่อยพวกปากเสียจนเลือดกบปากน่ะเท่อย่าบอกใครเลย แบคฮีเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าพร้อมหยิบกางเกงในออกมาแกว่งโชว์หน้ากล้องโทรศัพท์

    ชานยอลมองเด็กตัวแสบที่กระตุ้นด้วยเรื่องโอเซฮุนอีกครั้งพร้อมยั่วเขาไปด้วย ชายหนุ่มปล่อยมือจากเครื่องออกกำลังกายพร้อมคว้าขวดน้ำเปล่าขึ้นมายก ทั้งที่สายตายังคงไม่ละจากชุดคลุมอาบน้ำสีขาวที่ผูกอย่างหมิ่นเหม่จนทำให้มองเห็นหน้าอกกลม ๆ เมื่อเด็กสาวก้มตัวลงไปใส่กางเกงใน

    ( งั้นก็ชวนเขาสิครับ เที่ยวกันสามคนไม่น่าจะเสียหายอะไร )

     

     

    จะได้รู้กันไปว่าใครจะเป็นฝ่ายอยู่ไม่ได้ระหว่างโอเซฮุนหรือเด็กจอมยั่ว

     

     

    คงไม่ได้คิดเรื่องลามกประหลาด ๆ อยู่ใช่ไหม หนูไม่ชอบทำกับผู้ชายสองคนพร้อมกันนะ

    ( คิดไปโน่นเลย ผมแค่พูดถึงเรื่องไปเที่ยวพร้อมกันสามคนครับ )

    ใครจะรู้ ในหัวอาจารย์ก็คิดแต่เรื่องแบบนั้นกับหนูไม่ใช่หรือไง?

    ( ครับ )

    เอ๊ะ?

    ( ผมล้อเล่น )

    แบคฮีมองค้อนคนทะเล้นที่เอาแต่ยิ้มอยู่ได้ อาจารย์เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมยกกล้องขึ้นสูงกว่าระดับใบหน้า เราสบตากันผ่านกล้องมือถือโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก เราไม่ได้คุยกันอย่างถูกคอ เราก็แค่หลงใหลในตัวกันและกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าแบคฮีชอบที่จะมีอาจารย์อยู่ในสาย

    ( ชักอยากรู้แล้วสิว่าแป้งบนตัวคุณจะหอมแค่ไหน )

    ถ้าหนูท้าให้พิสูจน์เอง อาจารย์จะมาไหม? คนตัวเล็กถามอย่างหยั่งเชิง เลิกคิ้วมองใบหน้าหล่อในกล้องที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ

    ( อืม... มันขึ้นอยู่กับว่ารางวัลหลังเสี่ยงลูกปืนจะคุ้มค่าหรือเปล่าน่ะครับ )

     

     

    CUT

    (WELCOME TO MALINWORLD)

    อัสคาบันสาขาสอง เชิน #ผายมือ

     

     

    50%

     

     

     

     

    หลังจากทำเรื่องหน้าไม่อายจนเสร็จ เราทั้งคู่ก็ยังกล้าเฟสไทม์กันต่อโดยไม่รู้สึกขลาดอายใด ๆ ราวกับเรื่องแบบนั้นมันช่างปกติและจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แบคฮีไม่คุ้นกับการเปิดกล้องคุยกับใครนาน ๆ แบบนี้เลย นอกจากจงแดแล้วอาจารย์ก็เป็นผู้ชายอีกคนที่เธอยอมคุยด้วยแม้ว่าอีกฝ่ายกำลังอาบน้ำอยู่

    เด็กสาวมองเห็นเพียงเพดาน และได้ยินเสียงน้ำที่ไหลออกมาชะล้างเหงื่อออกจากร่างกายกำยำซึ่งเคยตรึงสายตาเธอไว้ได้ทุกครั้ง น่าตลกดีที่วูบหนึ่งแบคฮีคิดว่าเราเหมือนคู่รักใหม่ที่กำลังเห่อกันสุด ๆ จนไม่อยากวางสายไปสักวินาทีเดียว

    เธอเบื่อความหล่อของอาจารย์ โดยเฉพาะรอยยิ้มตอนหันมามองกล้องแล้วบอกว่าหน้าสดของเธอน่ารักกว่าตอนแต่งหน้าจัด ๆ เสียอีก ผู้ชายก็อย่างนี้ ทำเป็นพูดดีว่าชอบหน้าตาแบบธรรมชาติแต่สุดท้ายก็มองผู้หญิงสวยเพราะแต่งหน้าอยู่ดี

    เราคุยกันจนต้องชาร์จแบตรอบสอง ถึงจะกลัวระเบิดเหมือนในข่าวแต่ถ้าให้วางสายเพื่อรอแบตเต็ม แบคฮีก็อยากลองเสี่ยงกับระเบิดดูสักครั้ง เรานอนคุยกันเรื่องไร้สาระ อาจารย์เล่าตั้งแต่เรื่องสมัยเด็ก จบจากโรงเรียนไหน มีเพื่อนสนิทกี่คน และอะไรที่ทำให้ยังคบอู๋อี้ฝานเป็นเพื่อนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอถึงคราวที่ต้องเล่าบ้างในหัวของเธอก็ตันไปหมด บยอนแบคฮีแทบไม่มีความทรงจำดี ๆ กับเพื่อนที่โรงเรียนเลย เธอจึงเล่าเรื่องความใจดีของจงแดให้ฟัง และเป็นอีกครั้งที่คำพูดของอาจารย์ทำให้เด็กผู้หญิงแข็งกระด้างคนนี้กลายเป็นคนจิตใจบอบบาง

     

     

    ผมอยากให้คุณเห็นตัวเองเวลาพูดถึงจงแด

    ทั้งสีหน้าและแววตา ความสุขที่ได้พูดถึงเพื่อนสนิททำให้คุณไม่หลงเหลือภาพลักษณ์เด็กแก่แดดอยู่เลยสักนิด

    ถ้าคุณบอกว่าโลกนี้เป็นสีดำ งั้นจงแดก็คงเป็นแสงสว่างที่จะตามคุณไปในทุก ๆ ที่ รู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่าครับ?

     

     

    เรื่องแบบนั้นแบคฮีรู้สึกได้เองมาตั้งนานแล้ว แต่พออาจารย์ย้ำอีกครั้งเธอจึงยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าที่พูดมาทั้งหมดไม่มีข้อไหนผิดเลย คิมจงแดจะเป็นเพื่อนรักของบยอนแบคฮีตลอดไป และหวังว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบนี้เช่นกัน

    จากที่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร แต่ทั้งคู่ก็ต่อบทสนทนากันมาได้จนถึงตีหนึ่ง สุดท้ายอาจารย์ก็ขอวางสายเพราะอยากให้แบคฮีพักผ่อนเพื่อเดทสำหรับพรุ่งนี้ แต่คนอย่างปาร์คชานยอลน่ะหรือจะยอมวางไปเฉย ๆ

     

     

    ไหน ๆ ก็จะไปเดทกันแล้ว มันจะเป็นไรไหมครับถ้าหากว่าเราจะเป็นแฟนกันจริง ๆ จัง ๆ สักวันนึง?

     

     

    แทนที่จะได้นอน บยอนแบคฮีก็ต้องแขนก่ายหน้าผากมองเพดานเพราะคำพูดทีเล่นทีจริงของอาจารย์อีกแล้ว

     

     

    *

     

     

     

    นิ้วเรียวยาวเคาะกับพวงมาลัยตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ในรถ วันนี้อากาศดีจนชายหนุ่มไม่ได้สนใจว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ นานแค่ไหนแล้วที่ปาร์คชานยอลไม่ได้ขับรถมารับใครสักคนออกไปเดทกัน มันคงนานมากเสียจนจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อก่อนเคยตื่นเต้นกับการแต่งตัวของผู้หญิงคนหนึ่งได้เท่าวันนี้หรือเปล่า

    เด็กสาวเดรสสีฟ้ากระโปรงบานเลยเข่าขึ้นมาเพียงเล็กน้อยกำลังเดินมาทางนี้ เสื้อแขนยาวคอปกน่ารักแบบเด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไปสร้างความประหลาดใจให้ชายหนุ่มจนต้องเปิดประตูรถออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

    ส้นสูงสีขาวทำให้แบคฮีสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แก้มสีชมพูระเรื่อกับต่างหูเล็ก ๆ ค่อนข้างเหนือความคาดหมายไปพอสมควรเลยทีเดียว อันที่จริงชานยอลคิดไว้ว่าแบคฮีคงแต่งตัวเจ็บ ๆ แสบ ๆ เพื่อหาเรื่องยั่วให้เขาตบะแตกตอนขับรถ แต่พอเห็นแบบนี้แล้วก็อดยิ้มไม่ได้

    หนูสวยล่ะสิ

    ให้มากสุดได้แค่น่ารักครับ

    โกหก เมื่อกี้ตาอาจารย์มองหนูตาไม่กระพริบเลย แบคฮีจะไม่ยอมแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็นเด็ดขาดว่าเธอกำลังเขิน กับการแต่งตัวที่ดูเหมือนแฟนหนุ่มทั่วไปไม่หลงเหลือคราบอาจารย์สอนพละ และสายตาที่มองมาโดยไม่มีความทะลึ่งตึงตังแฝงอยู่

    ไม่ให้มองแฟนแล้วจะให้มองใครครับ?

    ทั้งที่เพิ่งเจอกันแท้ ๆ แต่อาจารย์ก็ฮุคหมัดตรงใส่หน้าแบคฮีจนแทบหงายเพราะคำพูดประโยคเดียว เด็กสาวกลอกตาลอกแล่ก ก่อนจะก้มลงมองข้อมือตนเองซึ่งกำลังถูกจูงให้เดินอ้อมไปอีกฝั่ง คนตัวเล็กช้อนตามองคนตรงหน้าที่เปิดประตูรถให้ สุดท้ายรอยยิ้มอ่อนโยนของผู้ชายที่บอกว่าวันนี้เราจะเป็นแฟนกันหนึ่งวันก็ทำคนปากแข็งอย่างเธอหลุดยิ้มออกมาจนได้

    เราจะไปไหนกัน?

    คุณอยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?

    อาจารย์ไม่ได้คิดมาก่อนเหรอว่าอยากพาหนูไปไหน? แบคฮีคาดเข็มขัดพลางหันไปมองคนข้างตัว

    ไม่ครับ มีแต่เด็กเท่านั้นแหละที่วางแผนก่อนออกเดทกับผู้หญิง

    แหม... เด็กสาวจิ๊ปาก ก่อนจะเบิกตากว้างเพราะถูกอาจารย์บีบปากจนเหมือนเป็ดอื้อ!”

    น่ารัก

    เดี๋ยวลิปสติกหนูหลุด นั่นไง เห็นไหม พูดไม่ทันขาดคำ สมน้ำหน้า เลอะมือไปเลย แบคฮีจับมือที่เลอะลิปสติกสีพีชก่อนจะตีไปแรง ๆ แต่อาจารย์กลับอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี พร้อมจับมือเธอวางลงไปวางบนหน้าขาแกร่ง แล้วค่อย ๆ สอดประสานเรียวนิ้วกันจนไม่เหลือช่องว่างให้อากาศวิ่งผ่าน

    จับไว้เลยครับ ชอบตีดีนัก

    เพราะอาจารย์นั่นแหละ

    เพราะผมก็ได้

    หนูน่าจะตีให้แรงกว่านี้ เด็กสาวพึมพำ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ปล่อยให้ความอบอุ่นจากฝ่ามืออีกฝ่ายจัดการมือซน ๆ ของเธอโดยไม่ชักกลับ

    เป็นแฟนกันหนึ่งวัน งั้นเหรอ...

    แบคฮีรู้สึกเหมือนระเบิดในตัวมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเพราะการกระทำของอีกฝ่าย เธอไม่อยากคิดว่าเพราะเรากำลังเล่นกันอาจารย์ถึงได้ทำให้ใจเต้นไม่หยุดแบบนี้ เราสองคนก็แค่เหงาและยังตื่นเต้น แต่บยอนแบคฮีก็รู้สึกดีจนต้องปลดสายเข็มขัดเพื่อเอนศีรษะลงไปซบกับไหล่กว้างของคนตัวโตกว่า

    หลังจากผ่านคืนนี้ไป อาจารย์ห้ามเอาเรื่องวันนี้มาแซวหนูนะ

    ครับ ผมจะไม่พูดถึง

    นิดเดียวก็ห้าม เกี่ยวก้อยสัญญากับหนู แบคฮีช้อนตามองหนุ่มแว่นที่กำลังอมยิ้มกับความเป็นเด็กของเธอ ก่อนจะก้มลงมองมือของเราที่สอดประสานกัน นิ้วก้อยของอาจารย์ที่ชี้ออกมานั้นเพิ่มความน่ารักให้กับผู้ชายลามกที่อยู่ในโหมดอบอุ่นจริง ๆ

    ถ้าเรียกโอป้าแล้วจะยอมทุกอย่างเลยครับ

    แบคฮีตอนนี้เหมือนเด็กห้าขวบขี้อายที่ถูกบอกให้ออกไปเต้นหน้าห้องจริง ๆ สายตาลอกแล่กฉายความขลาดอายแบบคนฟอร์มจัดทำให้เขาอยากแกล้งหนัก ๆ เสียจริง เจ้าตัวจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าเวลาไม่ต้องฝืนตัวเองเพื่อเอาชนะมันน่ารักมากสักเท่าไหร่

     

     

    *

     

     

    เป็นเพราะไม่มีการวางแผนล่วงหน้าและยังไม่มีใครหิว ชานยอลจึงพาแฟนสาวของเขาขับรถออกไปแถบชานเมืองเพื่อเดทเงียบ ๆ ในที่ ๆ ไม่มีใครรู้จัก เพราะมันคงไม่ดีนักถ้าหากมีนักเรียนหรืออาจารย์สักคนเห็นเข้าว่าเราไปไหนมาไหนด้วยกัน ซึ่งแบคฮีก็ตกลงอย่างว่าง่ายโดยไม่แสดงอาการน้อยใจเลยสักนิด เด็กผู้หญิงคนนี้ฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าการเดทในละแวกนั้นมันเสี่ยงกับความเดือดร้อน

    ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนติดกับทุ่งดอกทานตะวันคือจุดพักกินอาหารเช้าควบเที่ยง ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อคนตัวเล็กเลือกย้ายมานั่งเก้าอี้ยาวตัวเดียวกันแทนที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามอย่างคู่รักโต๊ะอื่น

    เด็กผู้หญิงที่เคยแสดงออกแต่มุมแก่แดดกำลังเผยความน่ารักออกมาทีละนิด ตั้งแต่ชวนถ่ายเซลฟี่ด้วยกันแล้วอ้างว่าจะลบทิ้งหลังจากหมดวันนี้ไปจนถึงคำว่า 'โอป้า' ที่ทำให้เขารู้สึกดีจนต้องเบือนหน้าหลบไปอีกทาง

    ข้าง ๆ มีร้านขายของที่ระลึกด้วย

    อยากเข้าไปดูไหมครับ?

    เด็กสาวพยักหน้า เขาจึงโอบไหล่เธอให้เข้าไปข้างในร้านซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ แบคฮีกำลังให้ความสนใจกับกล่องเล็ก ๆ ที่ผู้หญิงน่าจะเอาไว้เก็บเครื่องประดับ เป็นอีกครั้งที่ชานยอลแอบถ่ายรูปเธอในจังหวะทีเผลอ รูปที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่มีการปรุงแต่ง

    ผ่านไปสิบนาทีแบคฮีก็เดินออกมาพร้อมของในถุง เด็กสาวเก็บมันไว้ในกระโปรงหลังรถแล้วเดินไปหาชายหนุ่มที่ยื่นมือมาระหว่างอยู่ตรงทางเข้าทุ่งดอกทานตะวัน เราจับมือกันอีกครั้งจนกลายเป็นความเคยชินในช่วงเวลาสั้น ๆ ผลัดกันถ่ายรูปกับความสวยงามซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นเหตุผลที่ทำให้ดอกทานตะวันสดใส รวมถึงรอยยิ้มของบยอนแบคฮีด้วยเช่นกัน เด็กผู้หญิงคนนั้นเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าการซ่อนความในใจไว้ใต้ใบหน้าเรียบเฉย 

    ตอนมีแฟนอาจารย์พาเธอไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?

    อืม... อันที่จริงเราไม่ค่อยได้ไปไหนกันบ่อย ๆ เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเรียนด้วย ก็เลยมีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนมากเราจะออกไปกินข้าว เดินเล่นกันเสียมากกว่า

    เคยอยู่ด้วยกันไหมคะ?

    ครับ หึงไหม? ชายหนุ่มโน้มหน้าเข้าหาคนตัวเล็ก สบตากันท่ามกลางดอกทานตะวันที่โอบล้อมเราเอาไว้จนไม่มีใครมองเห็น

    หึง

    งั้นทำยังไงดีครับ? ชานยอลอมยิ้มกับสีหน้าของเด็กสาวที่แสดงออกให้รู้ว่าไม่ได้โกหก มันอาจจะไม่ต่างกันนักถ้าให้เทียบกับตอนที่เขาได้ยินเรื่องของโอเซฮุน

    หนูจะทำทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยทำกับอาจารย์ไง วันนี้อาจารย์เป็นแฟนหนูนะ ดูคำพูดคำจาน่ารักนั่นสิ น่ามันเขี้ยวน้อยเสียที่ไหน

    ชานยอลโน้มลงไปจูบแก้มอมชมพูค้างไว้แล้วผละออกมาเล็กน้อย สบตากับเด็กสาวที่เกี่ยวนิ้วก้อยของเขาเอาไว้หลวม ๆ ก่อนเปลือกตาคู่สวยจะปิดลงรับจูบท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ในทุ่งดอกทานตะวัน

    ต่อให้ทำซ้ำกับคนอื่นอีกสักกี่เรื่อง แต่ถ้าปัจจุบันหนูเป็นคนพิเศษ ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็กลายเป็นความพิเศษสำหรับพี่อยู่ดีค่ะไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มต่ำตอนแทนตัวเองว่าพี่หรือประโยคหวาน ๆ ที่ทำให้ใจเต้นแรงมากกว่ากัน

    เด็กสาวไม่ต้องพยายามกักกั้นความรู้สึกใด ๆ เอาไว้อีกแล้วเมื่อวันนี้มีคำว่าแฟนหนึ่งวัน เป็นข้ออ้างให้บยอนแบคฮีทำตามใจอย่างไรก็ได้เท่าที่ต้องการ คนตัวเล็กวางสองมือลงบนไหล่กว้างพร้อมเขย่งขาหอมแก้มคนตรงหน้าแช่ไว้โดยไม่ยอมผละออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจุ๊บซ้ำ ๆ จนเจ้าตัวต้องผละออกมาทำตาโตเพราะเห็นว่าแก้มเขามีรอยลิปสติก

    ชานยอลยิ้มขำกับความขี้อ้อนแบบแฟนสาวที่คงไม่ได้เห็นอย่างนี้บ่อย ๆ แบคฮีกำลังเอามือนิ่ม ๆ เช็ดแก้มเขาพร้อมพึมพำอยู่ในลำคอ เขาจึงย่อเข่าลงเล็กน้อยแล้วตวัดกอดเอวคอดอุ้มขึ้นจนร่างผอมบางลอยจากพื้น

    วันนึงกินอะไรบ้างครับ

    กินทุกอย่างยกเว้นผัก

    กินเยอะกว่านี้อีกนิดนึงสิ จะได้มีเนื้อมีหนังบ้าง หนูผอมเกินไปแล้วนะ

    งั้นหนูกินอาจารย์ได้ไหม... เด็กสาวก้มลงไปกระซิบ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ กับความขี้เล่นที่เราต่างรู้ดีว่าตอนนี้ความอบอุ่นใจมันนำหน้ามาก่อนความต้องการเรื่องอย่างว่า วันนี้อาจารย์น่ารักจัง

    เรียกพี่ชานยอลอีกสิครับ

    ชอบให้เรียกแบบนั้นเหรอคะ?

    อืม... แต่ชอบน้อยกว่าหนูนิดนึงนะ

    แบคฮีก้มหน้าลงไปจุ๊บคนปากหวานโดยไม่สนใจว่าปากอาจารย์จะติดลิปสติกเธอหรือไม่ สองมือโอบใบหน้าหล่อไว้ขณะสบตากัน ก่อนจะตวัดกอดรอบคอแกร่งแล้วซบแก้มลงไปรับความอบอุ่นทั้งหมดที่วันนี้บยอนแบคฮีมีสิทธิ์ได้รับเพียงผู้เดียว

    ชายหนุ่มเกลี่ยผมดำขลับออกพร้อมหอมซอกคอขาว ท่ามกลางความเงียบงันที่มีเพียงสองเรา ปาร์คชานยอลอยากปกป้องรอยยิ้มของเด็กผู้หญิงคนนี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด แม้ว่าระยะเวลาทั้งหมดจะมีเพียงหนึ่งวันเท่านั้น

     

     

     

    *

     

     

     

    ขออนุญาตที่บ้านแล้วแน่นะ?

    หนูไม่โกหกหรอกน่า หนูจะเซอร์วิสเป็นแฟนอาจารย์ไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้เลย

    แบมือมาครับ

    คะ?

    แบมือแบคฮีเลิกคิ้วมองคนข้างตัวที่มองหน้าเธอสลับกับถนนเบื้องหน้า แม้จะงงว่าอาจารย์จะทำอะไร แต่เด็กสาวก็แบมือออกไป แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเพราะถูกตี

    อะไรเนี่ย!”

    ข้อหาทำเสียบรรยากาศ

    หนูเนี่ยนะทำ? คนตัวเล็กขมวดคิ้ว หันไปตีหน้าขาแกร่งก่อนจะถลึงตาสู้แฟนหนุ่มหนึ่งวันที่ถลึงตาใส่เธอ

    ที่อยู่ด้วยกันมาครึ่งวันคือการเซอร์วิสเหรอครับ?

    หรืออาจารย์จะบอกว่าทำเพราะรู้สึกจริง ๆ ล่ะ? คำถามเสี่ยงชะมัด ถ้าตอบไม่ตรงกับที่ใจอยากฟังเธอคงชักสีหน้าไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ ๆ

    เพราะใครล่ะที่ทำเสียบรรยากาศ ไม่ใช่อาจารย์หรอกเหรอที่รับโทรศัพท์ผู้หญิงในรถวันนั้นแล้วคุยกันตั้งนานสองนาน อีกทั้งยังไม่ยอมเล่าด้วยว่าคุยอะไรกัน พอกลับมาก็ดูมึน ๆ ตึง ๆ ไป ไม่อยากน้อยใจหรอกนะ แต่ในเมื่อเล่นเป็นแฟนกันหนึ่งวันบยอนแบคฮีก็ต้องมีสิทธิ์ทำตัวไม่น่ารักได้เหมือนกัน

    เฮ้อ พูดจาไม่น่ารักแบบนี้แยกกันเที่ยวดีกว่าครับ

    อะไร จะไปไหนน่ะ? เธอมองตามอีกคนที่เปิดประตูลงจากรถเมื่อเรามาถึงโรงแรมแถบชานเมือง แบคฮีรีบตามออกไปแต่อาจารย์ก็เดินตัวเบาไม่สนใจเธอเลยสักนิด อาจารย์! ย๊า!!!”

    ตะโกนใส่ขนาดนี้แล้วยังทำเป็นไม่ได้ยิน อาจารย์มีสิทธิ์งอนเธอด้วยหรือไง ไม่รู้ตัวเลยสักนิดสินะว่าทำอะไรเอาไว้ วันนี้เธอยังไม่ได้พูดถึงเซฮุนเลยสักคำถือว่าให้เกียรติการเป็นแฟนกันหนึ่งวันมากแค่ไหนลองคิดดู อาจารย์ควรสำนึกบ้างว่าไม่ควรทำให้เธอไม่พอใจ เห็นพูดจาน่ารักบ่อยหน่อยเลยเหลิงสินะ ได้ แยกกันเที่ยวก็ได้ เดี๋ยวจะเปิดห้องนอนแยกให้ดู ถ้ามาเคาะกลางดึกก็จะไม่เปิดประตูให้ด้วย

    แบคฮี!”

    ...

    ไม่ใช่แค่เจ้าของชื่อที่หยุดฝีเท้า ชานยอลหันหลังกลับไปตามต้นเสียงก่อนจะเห็นว่ามีใครคนหนึ่งในชุดเสื้อวอร์มสีน้ำเงินขาวยืนอยู่ไม่ห่างจากรถบัสซึ่งมีชายหนุ่มอีกนับสิบที่แต่งตัวเหมือนกันกำลังทยอยลงมาทีละคน

    เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้ทักผิดคนชายหนุ่มผิวสีแทนก็วิ่งตรงมาหาเธอพร้อมรอยยิ้ม แบคฮีไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองนักว่าจะบังเอิญได้เจอแฟนเก่าหลังจากห่างหายกันไปนานหลายปี

    ใช่เราจริง ๆ ด้วย

    พี่จงอินมาทำอะไรที่นี่คะ?

    มาแข่งกับมหาลัยอันดงน่ะ ก็เลยค้างโรงแรมหนึ่งคืน หนุ่มนักฟุตบอลทีมมหาลัยเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง พลางกวาดสายตามองความเปลี่ยนแปลงของเด็กสาวตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูง หน้าตาและรูปร่างที่สมส่วนขึ้นเมื่อโตเป็นสาว ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

    อ่า นั่นสิคะ คนตัวเล็กยิ้มเจื่อน กับความกระอักกระอ่วนที่บอกตัวเองว่าควรรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด

    ตั้งแต่เราเปลี่ยนเบอร์ ลบเฟสบุ๊กกับไลน์ไปพี่ก็ไม่รู้เลยว่าจะติดต่อยังไง อ่า... หมายถึงว่าหลังจากลบไปแล้วพี่ก็ไม่รู้ว่าเราเป็นอยู่ยังไงบ้างน่ะ

    อ๋อ หนูซื้อโทรศัพท์ใหม่ก็เลยเปลี่ยนเบอร์กับไลน์ด้วย ส่วนเฟสบุ๊กไม่รู้เป็นอะไรเข้าไม่ได้ ก็เลยปล่อยตามเลย แบคฮีโกหกคำโต อันที่จริงมันเป็นเพราะเธอทนเห็นจงอินมีแฟนใหม่ไม่ได้จึงลบทุกอย่างทิ้งไปเพื่อตัดช่องทรมานของตนเอง

    สบายดีใช่ไหม?

    ค่ะ พี่ก็เหมือนกันใช่ไหม?

    พี่ก็เรื่อย ๆ ซ้อมฟุตบอลจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เขาพูดกลั้วหัวเราะ

    คุยกับใครเหรอครับ? คนตัวเล็กหันไปสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มต่ำที่เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ โดยไม่สนใจแล้วว่ากำลังงอนเธออยู่

    อ่า คุณคนนี้คือ...? จงอินยิ้มเจื่อน มองเด็กสาวตรงหน้าสลับกับชายหนุ่มตัวสูงซึ่งคงต้องการคำตอบจากปากเธอเช่นกัน

    รอยยิ้มของคนไม่รู้ความผิดตัวเองคงเรียกคำตอบน่ารักจากปากบยอนแบคฮีไม่ได้ คนตัวเล็กชำเลืองมองแฟนหนุ่มหนึ่งวันที่กดดันทางสายตากราย ๆ ว่าให้ตอบในสิ่งที่เขาอยากได้ยิน และแน่นอนว่าแบคฮีจะไม่ยอมง่าย ๆ อย่างนั้น

    อ๋อ รุ่นพี่ค่ะ

    ครับ? <- แฟนวันนี้

    อ่า? <- แฟนเก่า

    อือ รุ่นพี่ ต้องขอบคุณอาจารย์ที่เข้ามาได้ถูกจังหวะ เพราะตอนนี้แบคฮีอยากเอาคืนคนนิสัยไม่ดีมากกว่าต้องฝืนยิ้มต่อหน้าแฟนเก่าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร

    สวัสดีครับ ผมปาร์คชานยอล เป็นรุ่นพี่ของแบคฮีครับเน้นประโยคหลังไม่พอ ยังหันมายิ้มถลึงตาใส่อีก แล้วไง เธอทำได้มากกว่านี้อีกถ้าอาจารย์อยากลอง

    ผมจงอินครับ คิมจงอิน

    เพื่อนหนูเหรอครับ? คนที่ปากบอกว่าเป็นรุ่นพี่โอบไหล่เด็กตัวแสบไว้พร้อมหันไปสบตากับคนผิวแทนที่ดูกระอักกระอ่วนกับมือเขาอยู่ไม่น้อย

    ...

    หืม?

    อ๋อ เรา จงอินเกาท้ายทอย ไม่แน่ใจว่าควรระบุสถานะระหว่างเขาและเธออย่างไร เพราะไม่ว่ารุ่นพี่ หรือแฟนเก่า มันก็คงใจร้ายเกินไปสำหรับความรู้สึกเราทั้งคู่ แม้คำพูดในการจบความสัมพันธ์วันนั้นจะทำให้เขาคิดเอาเองไปว่าเราเลิกกันด้วยดี แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย

    จงอินรู้ตัวดีว่าการขอลดสถานะเป็นพี่น้องมันคือวิธีของคนเห็นแก่ตัวซึ่งจะไม่มีใครเป็นคนผิด และที่คิดว่าเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันได้ก็คือก็คงมีแค่คนที่อยากเลิก ซึ่งเขารู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้กับความอึดอัดในช่วงเวลานั้นที่ส่งผลถึงความคิดถึงระยะยาว

    พี่จงอินเป็นแฟนเก่าหนูเอง

    ผู้ชายคนนั้นไม่แสดงท่าทีอย่างที่จงอินกังวลนัก ดวงตาคมที่อ่านความคิดยากลดระดับลงมองตรามหาลัยบนเสื้อวอร์มของเขาก่อนจะยิ้มบาง ๆจงอินเป็นนักฟุตบอลของยอนเซเหรอครับ?

    ครับ ชายหนุ่มผิวแทนยังคงเป็นคนนอบน้อม สุภาพกับทุกคนเสมอไม่ว่าจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่า เรื่องนี้แบคฮีรู้ดี

    ผมเองก็เรียนจบจากที่นั่น บังเอิญเหมือนกันนะครับที่ได้เจอรุ่นน้องร่วมสถาบันที่นี่

    อ่า จริงเหรอครับ งั้นผมต้องเรียกว่ารุ่นพี่ชานยอลซะแล้ว

    อาจารย์ยิ้มโดยไม่แสดงทีท่าแฟนหนุ่มขี้หึงหลังจากได้ยินคำว่าแฟนเก่า อย่างที่เธอคาดหวังไว้ แบคฮีค่อนข้างผิดหวัง แต่ก็พอจะเข้าใจว่าผู้ชายที่ขอคบแค่วันเดียวคงไม่มีทางรู้สึกอย่างนั้น

    คะแนนกำลังมาแรงเลยใช่ไหมครับช่วงนี้ โค้ชจองคงเข้มกับพวกคุณน่าดู

    รุ่นพี่ทราบด้วยเหรอครับ?

    ผมพอจะตามข่าวกีฬาของมหาลัยอยู่บ้าง แต่ไม่มีเวลาตามไปติดถึงขอบสนามสักที ส่วนโค้ชจองก็เคยไปนั่งดื่มด้วยกันสองสามครั้งตอนที่เขานึกอยากจะเมาน่ะครับ

    ได้ไง... แบคฮีได้แต่กลอกตามองทั้งคู่สลับกัน จากทีแรกเหมือนบรรยากาศจะแปลก ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันยืนทำความรู้จักกันอย่างถูกคอเสียอย่างนั้น

    วันนี้โค้ชก็มานะครับ เขาอยู่ตรงล็อบบี้

    งั้นเดินเข้าไปพร้อมกันเลยดีไหม ผมกับแบคฮีก็กำลังจะเปิดห้องอยู่เหมือนกัน จงอินยิ้มค้าง เขาได้แต่มองคนตัวเล็กเพื่อให้ช่วยขยายคำพูดประโยคหลังซึ่งมันดูแปลก ๆ ไปสักหน่อยสำหรับคนที่ปากบอกว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน

    เขาแทบลืมคิดไปว่าการที่ผู้ชายกับผู้หญิงมาโรงแรมด้วยกันด้วยสถานะรุ่นพี่รุ่นน้องมันก็ดูแปลกเกินไปสักหน่อย จะหาว่ามองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่จงอินไม่อยากให้มันเป็นอย่างที่ความคิดในหัวกำลังบอกเลย

    ครับ

     

     

    *

     

     

     

    ไม่ใช่แค่รุ่นพี่รุ่นน้องใช่ไหม?

    คะ?

    ขอโทษนะ พี่ไม่ควรถามแบบนี้เลย จงอินพูดกลั้วหัวเราะ เขามองไปทางรุ่นพี่หน้าหล่อที่กำลังนั่งคุยกับโค้ชจองอย่างออกรสอยู่บนโซฟาหน้าล็อบบี้ ส่วนเขาและเธอนั่งอยู่โซนกาแฟเล็ก ๆ ซึ่งไม่ห่างจากตรงนั้นมากนัก

     ใช่ค่ะ เราไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องกัน แต่ก็ไม่ใช่แฟน

    ยิ่งได้ยินคำตอบ จงอินก็ยิ่งอยากรู้มากยิ่งขึ้น ความรู้สึกเดิม ๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกผิด ความคิดถึงที่พยายามเก็บไว้ในใจมาตลอด ในวินาทีนี้มันชัดเจนเสียจนไม่อยากลุกไปไหน เขาอยากคุยกับแบคฮีให้มากกว่านี้ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ คุยเรื่องไร้สาระเพื่อให้รู้ว่าทุกวันนี้เธอเป็นอยู่อย่างไร มีความสุขหรือไม่ ยังชอบกินของโปรดเดิม ๆ อยู่ไหม แต่คิมจงอินก็ทำได้แค่ค่อย ๆ ปล่อยออกไปทีละคำถามเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กรู้สึกอึดอัด

     

     

    คนที่บอกเลิกไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร เขาได้แต่บอกตัวเองอย่างนี้

     

     

    พี่ยังคบกับแฟนคนนั้นอยู่หรือเปล่า?

    ซึลกิเหรอ เลิกไปตั้งนานแล้วล่ะ ยิ่งคุยกันก็ยิ่งกระอักกระอ่วน แต่ชายหนุ่มผิวแทนก็ไม่สามารถหยุดบทสนทนาระหว่างเราได้เลย

    พี่จงอิน

    หืม?

    มองหน้าหนู

    ... ชายหนุ่มมองมือเล็กที่วางลงบนหน้าขาของเขา แววตาของเธอในตอนนี้ต่างจากเมื่อสามปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ทั้งคำพูดคำจาและน้ำเสียง แบคฮีได้เปลี่ยนไปแล้ว

    ถ้าจะคุยกัน ก็อย่าทำเหมือนว่ารู้สึกผิด

    ...

    ดูสิ คิ้วจะผูกกันเป็นโบว์อยู่แล้ว เครียดอะไรขนาดนั้นคะเด็กสาวยิ้มขำ ดึงแก้มชายหนุ่มที่เป็นรักแรกเบา ๆ ก่อนมือของเธอจะถูกคว้าเอาไว้ทั้งที่ยังสบตากันอยู่

    งั้นก็อย่าหลบหน้าพี่อีก ได้ไหม?

    ...

    พี่รู้ว่ามันฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันแย่มากที่พี่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเราเลย

    จงอินรู้ดีว่ากำลังทำเรื่องโง่ ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถยิ้มแล้วปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเหมือนที่เคยทำ ในหัวมีความย้อนแย้ง ที่บอกว่าควรปล่อยเธอไป แต่อีกใจก็อยากคว้าโอกาสนี้เอาไว้ และคิดว่าบางทีเราอาจจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้

    ให้พี่กลับไปอยู่ในโลกของเราอีกครั้งได้ไหม?

    ...

    เอ่อ ไม่ใช่แบบที่คิดนะ พี่หมายความว่าเราน่าจะคุยกันบ้าง ไม่ใช่หายจากกันไปเลย

    แววตาจริงจังและน้ำเสียงที่หนักแน่นนั้นแบคฮีสัมผัสได้ เด็กสาวรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางหลอกเธอ แต่คิมจงอินคงไม่รู้ว่าไม่มีบยอนแบคฮีโลกใบนั้นแล้ว เพราะตอนนี้เหลือเพียงเธอคนนี้

    คุยกันเหรอคะ เรื่องไหนดีล่ะ? ผู้ชายใจดีกำลังทำอะไรไม่ถูกเพียงเพราะคนตัวเล็กขยับกายเข้ามาใกล้

    อะไรก็ได้ อย่างเช่นเรื่องที่เราชอบ

    อืม... เรื่องอะไรดีนะ คนตัวเล็กขยับเข้าไปเล็กน้อยพร้อมยกมือขึ้นป้องปากกระซิบข้างหู เรื่องโลกของหนูที่ตอนนี้มีผู้ชายอาศัยอยู่สองคนดีไหม?

     

     

    บยอนแบคฮีน่ะ... ใจร้ายที่สุดเลย

     

     

    คนนึงเป็นเพื่อนในห้อง หัวร้อน ขี้หึง ส่วนอีกคน... ก็รุ่นพี่ร่วมสถาบันของพี่

    จงอินรู้สึกชาไปทั้งตัว ภาพเด็กสาวขี้อายที่เคยยิ้มและหัวเราะด้วยกันฉายเข้ามาในหัวราวกับม้วนหนังสลับกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้าในเวลานี้ เขามองไปทางโซฟาหน้าล็อบบี้ สายตาของรุ่นพี่ที่มองเราทั้งคู่มันต่างจากตอนทำความรู้จักกันเป็นไหน ๆ

    ทำไมถึงพูดแบบนั้นนะ เราไม่เห็นต้องพูดแบบนี้เลย

    หนูแค่อยากให้พี่รู้ ว่าตอนนี้หนูเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแล้ว

    ทำไมล่ะแบคฮี เพราะพี่เหรอ? ชายหนุ่มถามอย่างรู้สึกผิด ถ้าหากคิมจงอินเป็นต้นเหตุของทุกอย่าง เขาจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองเลย

    เพราะตัวหนูเอง อย่าหาคนผิดเลยค่ะ เด็กสาวเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง กลับไปอยู่โลกของพี่เถอะ โลกของหนูมันสกปรกเกินไป

    แบคฮีคิดว่าเธอทำถูกแล้ว และคงไม่มีวิธีไหนเหมาะกับความรู้สึกของเราที่มันยังค้างคาใจแม้ว่าจะผ่านไปนานแล้วถึงสามปี คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกแฟนเก่าคว้าข้อมือไว้ สายตาของเขาหยุดอยู่กับแก้วกาแฟโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยสักนิด

    เราไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก

    ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?

    ที่พูดไปทั้งหมดก็เพราะไม่อยากให้พี่กลับเข้ามาในชีวิตเรา... ใช่ไหม? ประโยคนี้มีผลต่อใจคนฟังอยู่ไม่น้อย แบคฮีสบตากับคนที่เคยทิ้งเธอไป ผู้ชายคนนี้กำลังท้าทายให้เธอพูดคำร้าย ๆ ออกมาเพื่อยืนยันว่าที่เห็นอยู่ในตอนนี้คือความจริง

    เห็นไหม เรากลับมาคุยกันไม่ได้หรอก แค่ตอนนี้ยังไม่รอดเลย เด็กสาวยิ้มพร้อมโน้มใบหน้าลงไปใกล้ไม่มีใครเหมือนเดิมตลอดไปหรอกค่ะ พี่ก็เหมือนกัน

     

     
     

    *

     

     

    เป็นยังไงครับ คุยกับแฟนเก่าสนุกไหม?

    แค่คุยกันเฉย ๆ จะสนุกได้ไง

    คนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา อีกคนนั่งไขว่ห้างอยู่ปลายเตียง สบตากันอย่างหยั่งเชิงหลังจากขึ้นมาบนห้อง ไม่มีใครหลงเหลือความรู้สึกดี ๆ เมื่อตอนกลางวันอยู่อีกเพราะถูกความหึงหวงเล่นงาน

    อะไรที่ทำให้แตะต้องตัวผู้ชายอื่นต่อหน้าผมได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยครับ?

    ทีอาจารย์ยังไปคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงอื่นแล้วทิ้งหนูไว้ในรถเลย

    แต่มันไม่เหมือนกัน

    ไม่เหมือนยังไง?

    แน่นอนว่าไม่

    ก็เล่ามาสิ หนูอยากรู้ ไม่ชอบเวลาตัวเองงี่เง่าเลย แต่แบคฮีก็ทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ทั้งเรื่องอาจารย์และเรื่องแฟนเก่าที่กลับมากระตุ้นให้รู้สึกแย่อีกครั้ง เธออยากเอาแต่ใจบ้าง เพราะวันนี้มันใกล้จะหมดเวลาของเราแล้ว

    ผมจะเล่าหลังจากที่คุณเล่าเรื่องจงอินจบแล้วชายหนุ่มเอนหลังพิงกับพนักโซฟาเดี่ยว คว้ากระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มพลางมองหน้างอ ๆ ของเด็กสาวที่ทำให้เขาหัวเสียเป็นชั่วโมง

    หนูลบทุกอย่างเกี่ยวกับพี่จงอินทิ้งตั้งแต่ตอนเห็นว่าเขามีแฟนใหม่ หนูรู้ว่ามันเป็นวิธีแบบเด็ก ๆ แต่หนูไม่อยากเห็นอะไรอีก แล้ววันนี้เขาก็บอกว่าอยากกลับมาคุยกัน

    แล้วคุณตอบไปว่าไงครับ

    หนูยั่วเขา

    หืม? ชานยอลขมวดคิ้วกับคำตอบซื่อ ๆ แต่ก็ร้ายกาจไม่ใช่เล่น

    หนูอยากให้พี่จงอินเห็นว่าหนูเป็นเด็กนิสัยไม่ดี เขาจะได้เลิกคิดสักทีว่าหนูไร้เดียงสา

    เด็กน้อย ชายหนุ่มส่ายศีรษะ คนฟังจึงหัวร้อนรีบลุกจากเตียงไปนั่งคร่อมร่างคนที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมโอบใบหน้าให้เงยขึ้นรับจูบจากเด็ก อย่างเธอ

    ชานยอลจูบตอบ ตวัดดูดลิ้นเล็กที่พยายามไล่ต้อนให้เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หากแต่มือแกร่งไม่ได้สอดเข้าไปใต้เดรสสีฟ้าหรือขยำหน้าอกอย่างที่เคยทำเหมือนทุกครั้ง เขาเพียงกอดร่างของเด็กตัวแสบไว้ก่อนจะถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง

    มีวิธีอีกเป็นร้อยที่เอาไว้ปฏิเสธแฟนเก่า หนึ่งในนั้นคือการเรียกผม

    หนูไม่เรียกคนที่ทำได้ดีแค่นั่งมองหนูคุยกับคนอื่นหรอก น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจทำให้เด็กสาวน่าเอ็นดูจนต้องเกลี่ยปอยผมพร้อมลูบแก้มปลอบใจ

    ถ้าคุณตอบเขาไปแต่แรกว่าเราเป็นแฟนกัน ผมคงเดินไปตรงนั้นได้โดยไม่ต้องหาข้ออ้าง แต่เพราะคุณบอกว่าเราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ผมเลยคิดว่าคุณคงต้องการเวลาอยู่กับเขา

    ไม่ต้องตามใจหนูทุกเรื่องก็ได้ แสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าเขาสิ ทำให้ทุกคนบนโลกรู้ว่าไปเลยว่าอาจารย์หึงมากแค่ไหน วันนี้หนูเป็นแฟนอาจารย์นะ ชานยอลใช้นิ้วหัวแม่มือไล้น้ำตาออกจากดวงหน้าหวาน ถึงขั้นร้องไห้แบบนี้แสดงว่าแบคฮีคงรู้สึกแย่มากจริง ๆ

    ไม่ร้องนะครับเด็กดี ชู่ว์... ชายหนุ่มจูบหน้าผากมนพร้อมยิ้มบาง ๆ ขณะโอ๋เด็กขี้แยที่ปล่อยน้ำตาออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ผมขอโทษ

    ถ้าผู้หญิงคนนั้นสำคัญมาก ทำไมไม่ชวนเธอแทนล่ะ ชวนหนูทำไมคนบนตักซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ตวัดแขนกอดรอบคอแกร่งร้องไห้จนแจ็คเกตตัวนอกของชายหนุ่มเปียกเป็นดวง ชานยอลจึงปลอบใจโดยการลูบศีรษะเธอเบา ๆ

    ผู้หญิงคนนั้นโทรมาย้ำว่าอีกสองวันคือวันครบวันตายน้องสาวผม

    ...

    เธอเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะครับ ชานยอลยิ้ม เมื่อนึกถึงเด็กผู้หญิงสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน

    แบคฮีผละออกจากอ้อมกอดสบตากับอาจารย์หนุ่มซึ่งไม่มีทีท่าว่าสิ่งที่พูดออกมาจะเป็นเรื่องล้อเล่น เธอนั่งนิ่ง ๆ บนตักเพื่อรอคำอธิบาย สีหน้าของอาจารย์ยังคงเหมือนเดิม แต่ต่างไปตรงที่ดวงตาคู่นี้เศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

    เธอจมน้ำตายตอนไปเข้าค่ายในปีที่ผมเพิ่งได้บรรจุเป็นครู

    ...

    มันยากสำหรับผมมากที่ต้องเปิดผ้าขาวออกเพื่อให้เห็นกับตาว่ามันเป็นเรื่องจริง ตอนนั้นในหัวมันมีแต่คำว่าถ้า อยู่เต็มไปหมด ถ้าผมได้ไปค่ายด้วย ถ้าผมไม่ตามใจเธอเกินไป ผมคงบังคับให้เธอหัดว่ายน้ำได้ และถ้าผมอยู่ตรงนั้น --”

    แบคฮีกำลังรู้สึกผิดที่อยากฟังคำตอบที่ส่งผลกระทบทางจิตใจคนพูด เด็กสาวมองดวงตาคู่นั้นที่เคยแพรวพราว เจ้าเล่ห์ แต่ตอนนี้กลับแดงก่ำและคลอไปด้วยน้ำตา

    มันเป็นเหตุผลที่อาจารย์อยากสอนหนูว่ายน้ำหรือเปล่าคะ?

    ... ชานยอลเงยหน้าขึ้นสบตากับเด็กสาว ก่อนจะผงกศีรษะเป็นคำตอบ

     

     

    อาจารย์มีพี่น้องไหม?’

    ผมมีน้องสาวหนึ่งคน แล้วคุณล่ะ?’

     

     

    คนตัวเล็กโอบใบหน้าอีกคนไว้ ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายเช็ดน้ำตาให้ผู้ชายที่คิดมาตลอดว่าเข้มแข็งและคงไม่มีจุดอ่อนใด ๆ แบคฮีรั้งคนตรงหน้าเข้ามากอดพร้อมเกยคางลงบนศีรษะ เราต่างกระชับกอดกันแน่นยิ่งขึ้นเพื่อขับไล่ความเศร้าในใจที่คงตามหลอกหลอนอาจารย์ทุกครั้งที่นึกถึง

    หนูขอโทษนะ

    แบคฮีไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายพยักหน้าหรือพูดอะไรสักอย่างเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น เด็กสาวยังคงช็อกกับเรื่องที่ได้ฟัง มันทำให้นึกย้อนไปถึงช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน ตอนถูกผลักตกลงน้ำ และสีหน้าตอนอธิบายว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น ทุกอย่างมันมีเหตุผลทั้งหมด

     

     

    อาจารย์จะรู้สึกอย่างไรตอนเห็นน้ำ?

     

     

    มันเป็นสิ่งที่เขาชอบและคงเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงน้องสาวทุกครั้ง แต่อาจารย์ก็ซ่อนความรู้สึกเอาไว้มาจนถึงตอนนี้ บยอนแบคฮีจึงตระหนักได้ว่าเราต่างก็รู้จักกันและกันน้อยเกินไป น้อยจนอยากรู้อะไรให้มากกว่านี้

    ขอโทษเหมือนกันนะครับ ผมทำเดทวันนี้พังไม่เป็นท่าเลย ชานยอลผละออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวเล็กที่ไม่หลงเหลือความขี้งอน น้อยใจ แก่แดดอยู่เลยสักนิด

    ยังไม่หมดวันสักหน่อย เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมง

    เบื่ออยู่กับผู้ชายอย่างผมไหมครับ? น่าตลกดี ที่คนซ่อนความรู้สึกเก่งกำลังเช็ดน้ำตาให้กันและกัน แบคฮีส่ายศีรษะเป็นคำตอบพร้อมโน้มลงไปจูบหน้าผากคนอายุมากกว่า ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบ ก่อนร่างของเด็กสาวจะถูกอุ้มขึ้นไปบนเตียง

    ชายหนุ่มขึ้นคร่อมร่างผอมบาง สบตากันโดยไม่มีการยั่วยวนจากคนตัวเล็ก แบคฮีเอาแต่มองเขาราวกับอยากพูดว่าขอโทษอีกครั้ง ซึ่งชานยอลรู้สึกดีเหลือเกินที่เด็กคนนี้ยอมแสดงมุมอ่อนโยนออกมาให้ได้เห็น

    วันนี้หนูหึงเหมือนหมาบ้าเลย

    งั้นตรงนี้ก็คงมีหมาบ้าสองตัว

    ดูโง่ด้วย

    รู้สึกเหมือนกันเลยครับ

    หนูรู้สึกผิดที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นจนทำให้อาจารย์นึกถึงน้องสาว

    ไม่หรอกครับ การนึกถึงเธอมันไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับผม อย่าคิดมากเลย ชานยอลเกลี่ยปอยผมออกจากแก้มเนียน เขาไม่อยากให้แบคฮีโทษตัวเองกับความจริงที่ต้องอยู่กับมันให้ได้

    หนูจะเชื่อฟังอาจารย์ไปจนถึงพรุ่งนี้ จะไม่งี่เง่าอีก สัญญา เด็กสาวชูนิ้วก้อยขึ้นมาก่อนจะถูกงับไว้เบา ๆ

    คนที่บอกให้ไปใส่กางเกงในยังไม่อยากใส่เนี่ยนะครับจะเชื่อฟังผมชานยอลยิ้มขำเมื่อนึกถึงความแก่นแก้วของคนตัวเล็ก

    นี่กางเกงในของคุณครับแบคฮี แบบนั้นคือประโยคคำสั่งเหรอ หนูนึกว่าอาจารย์บอกเฉย ๆ แต่จะใส่ไม่ใส่ก็ได้

    ที่บอกก็เพราะอยากให้ใส่ ทำไมต้องให้แปลความหมายทุกคำพูดเลยครับเด็กดื้อ

    ที่ไม่ใส่ก็เพราะหนูรู้ไงว่าอาจารย์ต้องถอดมันอีกรอบ...แบคฮีแตะนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากหยัก ชานยอลจึงหลุดขำแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบของที่วางอยู่บนโต๊ะเมินหนูแบบนี้คืออะไร?

    เป็นลูกแมวได้ไม่ถึงสิบนาทีก็กลับไปเป็นแม่เสือสาวอีกแล้ว เขากลับมาพร้อมกล่องกระดาษสีน้ำตาล แบคฮีจึงเบ้ปากใส่คนตัวโตที่ไม่สนใจการยั่วยวนของเธอเลยสักนิด

    คะ?

    ผมให้ คนตัวเล็กชี้หน้าตัวเอง พลางมองกล่องดนตรีม้าหมุนสีขาวขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือที่อาจารย์ยื่นให้ ตอนอยู่ร้านขายของที่ระลึก ผมเห็นว่ามันน่ารักดีก็เลยคิดว่ามันอาจช่วยอาการนอนไม่หลับของคุณได้

    นึกอยากเซอร์ไพรส์หรือไง?

    ผู้หญิงดูชอบอะไรแบบนี้นี่ครับ เขายิ้มพลางมองความน่ารักของเด็กสาวที่กำลังพลิกมันไปมาอย่างสนใจก่อนจะช้อนตามองไม่ชอบเหรอ?

    อือ

    อ่า...

    อาจารย์ไม่ควรซื้ออะไรให้หนู ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่สายตาของแบคฮีก็ยังไม่ยอมละออกจากของขวัญที่แฟนหนุ่มหนึ่งวันซื้อให้เพราะมันจะทำให้หนูนึกถึงอาจารย์ทุกครั้งที่เห็นมัน

    มันแย่สำหรับคุณเหรอครับ? ทันทีที่ได้ยินคำถาม แบคฮีจึงพยักหน้า

    หลังจากวันนี้ถ้าหนูเห็นนาฬิกายาง กล่องดนตรี หรือทุ่งดอกทานตะวัน คนแรกที่หนูจะนึกถึงก็คืออาจารย์ แล้วมันคงแย่มากถ้าหากว่าตรงนั้นมีแค่หนูยืนอยู่คนเดียว

    ...

    เราควรไปกินข้าว นอนด้วยกัน แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนปกติ หนูจะได้ไม่ต้องจดจำอะไรมากนัก

    คนที่รู้สึกมากกว่าย่อมเจ็บมากกว่า แม้จะบอกตัวเองว่าวันนี้ก็แค่เดทขำ ๆ หนึ่งวัน แต่มันก็เป็นเพียงการปลอบใจโง่ ๆ เท่านั้น บยอนแบคฮีรู้ดีแก่ใจว่าลึก ๆ แล้วเธอจริงจังกับวันนี้มากแค่ไหน ผู้หญิงที่กลัวการจริงจังกับความรักได้พลาดตกลงไปในหลุมนั้นแล้ว ถึงจะพยายามฉุดตัวเองไว้ตลอด แต่ใจที่แสนบอบบางของบยอนแบคฮีก็ไม่สามารถต้านทานความเป็นอาจารย์ได้เลย

    ให้ผมเป็นกรณียกเว้นไม่ได้เหรอครับ?

    ... เด็กสาวช้อนตามองคนตรงหน้า มองแววตาจริงจังคู่นั้นในวินาทีที่เธอตกอยู่ในความกลัว

    จดจำผมในแบบที่จะทำให้คุณไม่เจ็บ เพราะผมเองก็จดจำทุกอย่างที่เป็นคุณ

    แต่อาจารย์ไม่ได้ชอบหนู

    รู้ได้ยังไงครับ คุณเองก็ไม่ได้เข้ามานั่งอยู่ในใจผม

    ไม่มีใครชอบผู้หญิงที่นอนกับผู้ชายหลายคนหรอก อาจารย์ก็แค่พูดให้มันคลุมเครือเหมือนทุกครั้ง สุดท้ายเราก็จบลงแค่การนอนด้วยกัน

    เกือบจะดีอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแบคฮีก็ปล่อยความกลัวออกมาเล่นงานตัวเองอีกจนได้ ชานยอลเอากล่องดนตรีจากมือเล็กไปวางข้างโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะดันร่างผอมบางให้นอนราบลงกับฟูกนุ่ม สอดประสานเรียวนิ้วกับเธอ และปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่ครู่หนึ่ง

    ถูกครับ ผมไม่ชอบให้คุณนอนกับคนอื่น แต่การที่ผู้ชายคนนึงจะไม่พอใจเรื่องนี้ มันไม่ได้หมายความว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าคู่นอนเหรอครับ?

    ...

    การที่อาจารย์คนหนึ่งชวนนักเรียนของเขาออกเดท และใช้ข้ออ้างเรื่องเป็นแฟนหนึ่งวันเพราะอยากแสดงออกให้มากกว่าที่เคย นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาพยายามจีบเธออยู่เหรอครับ?

    ...

    ต้องบอกไหมครับว่าผมหงุดหงิดจนแทบอยู่ไม่ได้แค่ไหนตอนจินตนาการว่าคุณนอนบนเตียงเซฮุนโดยไม่ใส่เสื้อผ้า ต้องบอกหรือเปล่าว่าผมมองคุณจากดาดฟ้าทุกวัน มองตั้งแต่ความรู้สึกผมเริ่มต้นจากศูนย์ จนตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันเกินร้อยไปแล้วหรือยัง

    ...

    เพราะผมเป็นผู้ใหญ่เหรอครับ คุณถึงคิดว่าเด็กเท่านั้นที่จะจริงจังได้มากกว่า

    หัวใจเต้นตึกตักไปกว่าทุกครั้งเพราะคำพูดและสายตาของอาจารย์ในตอนนี้ แบคฮีไม่รู้จะพูดอย่างไรดีกับสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าอาจารย์จะคิดกับเธอมากถึงขนาดนี้

    ถ้าความรู้สึกของเราคือเกม ตอนนี้คงมีคนแพ้แล้วครับ

    เด็กสาวเพียงนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียง มองอีกคนที่จูบหลังมือเธออย่างแผ่วเบาราวกับว่าบยอนแบคฮีเป็นเจ้าหญิงที่น่าทะนุถนอม อาจารย์จับมือเธอกอดรอบคอก่อนจะเลื่อนขึ้นมาคลอเคลียริมฝีปาก จูบเบา ๆ แล้วผละออกมาสบตากัน ทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ โดยไม่มีการล่วงล้ำเข้าไปในกระโปรง

    และคน ๆ นั้นคือผมเอง

     

     

    กำแพงสูงของบยอนแบคฮีถูกพังทลายด้วยความชัดเจนของอาจารย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

     

     

     

     

    TBC

     

    มีคนรีเคว้ดมาว่า พี่คะ ขอแบบหวาน ๆ หน่อยได้มะ แบบหวานเฉย ๆ ไม่ต้องตรั่บ ๆ กันอะคร๊
    ชั้นก็เรยจัดให้เค้า เพราะชั้นคิดว่าผู้หญิงคนนึงน่าจะเปงคนดีสักตอนได้

    มันคงน่าเกลียดเกินไปถ้าชั้นจะเขียนฉากตรั่บสองคัทในตอนเดียวเหมือนชาปเท่อที่แล้ว

    พอมานั่งทบทวนตัวเองประมาณสามวิชั้นก็รู้สึกไม่ดี ชั้นก็เลยตัดไปไว้ครึ่งแรกตอนหน้าแทน

    #อิเวง

      หากพีเพิ่วมีกัลยาณมิตร ชั้นก็คงเป็นกามละยาณมิตรของเทอ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×