ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 :: Teach me how to live.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.5K
      294
      6 ธ.ค. 59


    ? cactus



     

    Chapter 04

    Teach me how to live

     

     

     

     

     

    ทุกช่วงวัยมีสังคมที่แตกต่างกันไป วัยประถมมีกลุ่มเพื่อนที่เอาไว้เล่นสนุกในสนามเด็กเล่น วัยทำงานคบไว้นัดสังสรรค์ พูดคุยเติมแต่งสีสันให้ชีวิตที่ต้องสู้เพื่อเงิน รวมถึงคบไว้เพราะความจำเป็น และวัยมัธยมก็เป็นสังคมที่แตกต่างจากวัยอื่น ๆ

     

    เด็กผู้ชายแยกได้ประมาณสามประเภท หนึ่งคือพวกง่าย ๆ เพื่อนชวนไปไหนไปกัน สนุกกับชีวิตและเติบโตไปตามลำดับ สองคือพวกแก่เรียน มีทั้งประเภทที่สำอางรักสะอาดสุดกู่และปล่อยตัวไม่ดูแลภาพลักษณ์ภายนอก สามคือพวกนักเลง ชอบมีเรื่องกับคนอื่นไปทั่วเพราะความมั่นใจโง่ ๆ ว่าตัวเองเจ๋งเสียเต็มประดา

    ในสังคมของเด็กผู้หญิงก็มีแบบนั้นเช่นกัน แต่ต่างแค่ว่าข้อสามในสังคมผู้หญิงมักจะขับเคลื่อนโดยคน ๆ หนึ่งที่มีอิทธิพลในกลุ่ม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าหัวหน้ากลุ่มซึ่งทุกคนล้วนเกรงใจและพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ขุ่นเคือง

    แต่ถ้าไม่พอใจเมื่อไหร่ เพื่อนคนอื่น ๆ ก็พร้อมจะคล้อยตามโดยไม่คำนึงถึงผิดถูก แม้แต่การเกลียดใครสักคน ถ้าหากหัวหน้ากลุ่มเกลียด คนอื่น ๆ ก็จะเกลียดตามโดยไร้เหตุผล ดูเหมือนไร้ความคิด แต่ความจริงคนเหล่านั้นก็แค่ไม่อยากให้คนสำคัญในกลุ่มต้องโกรธถ้าหากไม่ยอมคล้อยตาม

    บางคนต้องการเป็นเพื่อนสนิทกับหัวหน้ากลุ่ม ถึงได้คอยเอาอกเอาใจอยู่ตลอดแม้จะโดนต่อว่าด้วยคำพูดแรง ๆ อยู่บ่อยครั้ง น่าแปลก... ทั้งที่เป็นคนเหมือนกัน มีสองมือสองเท้าเหมือนกัน แต่พวกเธอกลับกลัวคน ๆ เดียวที่ทำตามใจตัวเองโดยไม่แคร์คนที่เรียกว่า ‘เพื่อน

     

     

     

     

    เพราะไม่เคยมีความเสมอภาคในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง

     

     

    และตอนนี้ก็เช่นกัน บรรยากาศในกลุ่มอึมครึมราวกับมีก้อนเมฆสีเทาของฤดูฝนลอยอยู่เหนือศีรษะในห้องนอนสีชมพูช่วงสาย ๆ วันเสาร์เกิดขึ้นเพราะคิมดาซมกำลังอารมณ์ไม่ดี ตั้งแต่เมื่อวานที่เด็กสาวตีอกชกหมอนร้องไห้อย่างเจ็บใจหลังจากตามเซฮุนกับบยอนแบคฮีไปจนถึงสระว่ายน้ำในโรงแรม

    จูอึนเดือดเนื้อร้อนใจทนเห็นเพื่อนสนิทเจ็บเพราะศัตรูไม่ไหวจึงจับเข่าคุยอย่างจริงจัง ถ้าดาซมพูดมาคำเดียวเธอจะยอมออกตัวมีเรื่องกับนังนั่นเอง แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธเพียงเพราะไม่อยากเป็นคนไม่ดีในสายตาเซฮุน

    บยอนแบคฮีชักจะอวดดีเกินไปแล้ว พอไม่ถูกรังแกก็เลยคิดว่าจะลอยหน้าลอยตายังไงก็ได้สินะ ใช่ว่าคิมจูอึนอยากระรานไปทั่ว แต่สำหรับคนที่มีบารมีพ่อคุ้มหัวแต่ไม่รู้ว่าต้องวางตัวยังไงก็ต้องสั่งสอนให้รู้เสียบ้าง

     

     

    แล้วจะได้รู้ว่าใครแน่กว่ากัน...

     

     

     

    *

     

     
     

    อะไรนะ เมื่อวานอีอ้วนโดนฉีกสมุดการบ้านเหรอ อิ๊ น่าสงสารจัง คงนั่งทำใหม่จนมือหงิก

    ฉันเพิ่งรู้มาว่าคิมจูอึนสั่งให้อีอ้วนทำการบ้านให้ทุกวิชาด้วย ขี้ข้าที่แท้จริง

    ขนาดนางยอมสารภาพแล้วนะว่าชอบอาจารย์ชานยอล แต่ปรากฏว่าโดนเล่นหนักกว่าเดิมจ้า

    อนาถเวอร์ เป็นการโดนแกล้งที่ยาวนานมาก สามอาทิตย์ติดแบบนี้ชัดเลยว่าจูอึนเหม็นนางจากใจ

    เหมือนทุกวันที่ทั้งสามคนต้องนินทาคนอื่นเอาสนุกปาก แบคฮีอยู่ในห้องเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมเรียนว่ายน้ำ พร้อมฟังเสียงคนเหล่านั้นพูดถึงความซวยซ้ำซากของคิมมินซอกซึ่งโดนแกล้งมาอย่างต่อเนื่อง

    ไม่รู้ว่ายัยนั่นชอบอาจารย์จริงหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ใช่... การสารภาพเพื่อยอมให้จบ ๆ ไปมันก็เป็นวิธีขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ ไม่มีทางที่คิมจูอึนกับเพื่อนจะยอมปล่อยไปเพียงเพราะคำสารภาพว่า ฉันชอบอาจารย์

     

     

    คนเหล่านั้นก็แค่อยากบังคับให้พูด เพื่อที่จะได้แกล้งเอาสะใจให้หนักกว่าเดิม

     

     

    วันนี้อาจารย์ชานยอลเข้าช้า แต่งหน้าปัง ๆ แล้วเซลฟี่ชุดว่ายน้ำกันเถอะ

    เอาสิ งั้นฉันเข้าไปใส่ยกทรงแป๊บ จะได้ดันขึ้นมาหน่อย

    รีบไปค่ะนังนมเล็ก

    แบคฮี เธอเปลี่ยนชุดหรือผูกคอตายในนั้นเหรอ นานเวอร์

    เสร็จแล้ว เจ้าของชื่อเดินออกมาในชุดว่ายน้ำพร้อมรวบผมขึ้นใส่หมวก สะพายกระเป๋าเป้เดินไปหยุดอยู่หน้าล็อกเกอร์แล้วเก็บของทั้งหมดใส่เข้าไปในนั้น

    เด็กนักเรียนชายหญิงแบ่งกันออกเป็นสองฝั่ง ด้านนึงกระโดดน้ำเล่นอย่างสนุกสนานแม้ว่าท้องฟ้าจะมืดครึ้มคล้ายฝนจะตก ส่วนอีกด้านจับกลุ่มนั่งคุยกันและถ่ายรูปอัพลงโซเชียล แบคฮีนั่งแช่ขาเล่นโทรศัพท์ขอบสระพลางช้อนตามองใครคนหนึ่งที่ดำน้ำมาจับขาเธอไว้ ก่อนจะโผล่พ้นขึ้นมาเหนือผืนน้ำพร้อมรอยยิ้ม

    ถ้ามือถือฉันตกลงไปนายตายแน่

    ใจคอก็จะขู่ฆ่ากันตลอด คนสวยใจร้ายจังเลยค่ะ

    ก็อย่าเล่นพิเรนทร์สิ เด็กสาวมองพร้อมกระตุกขา แต่เซฮุนก็ไม่ยอมปล่อยมือออก

    เอามือถือไปเก็บแล้วลงมาด้วยกันเถอะ

    ไม่เอา หนาว

    เดี๋ยวกอด

    เหรอ? เด็กสาวยกเท้าอีกข้างขึ้นทาบแผงอกแกร่งของคนที่อยู่ในน้ำ เซฮุนก้มลงมองเรียวขาขาวไล่ขึ้นไปจนถึงหน้าอกกลม ๆ ซึ่งซ่อนอยู่ใต้ชุดว่ายน้ำ ก่อนจะอมยิ้มอย่างชอบใจ

    น่าจับฟัดจริง ๆ

    บอกแล้วไงว่าอย่าเยอะในโรงเรียน โดยเฉพาะต่อหน้าดาซม

    อะไรกัน ยัยนั่นก็ไม่ได้มอง... เราอยู่... สัก...

     

     

    อุ่ย... จ้องตาเขียวเลย... 

     

     

    แต่ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน เราแค่คุยกัน ไม่ได้กอดรัดฟัดจูบสักหน่อย

    อย่าซื่อบื้อได้ไหม ถ้าเกิดนายเห็นนัมจูฮยอกว่ายน้ำมาคลอเคลียขาฉันจะรู้สึกยังไง?

    ต่อยแม่งดิ ปล่อยไว้ทำไม

    นั่นคือความรู้สึกของคิมดาซมที่มีต่อฉัน แต่เปลี่ยนจากต่อยเป็นตบแทน แบคฮีทำมือปัด ๆ เป็นท่าประกอบ เซฮุนจึงถอนหายใจฮึดฮัดแล้วยอมถอยออกห่างเด็กสาวเล็กน้อย

    กว่าอาจารย์ชานยอลจะมาถึงก็เกือบหมดคาบเพราะติดประชุม ผู้ชายคนนั้นจึงสั่งงานให้ทำส่งอาทิตย์หน้า เขาเล่าเรื่องความยุ่งเหยิงของวันนี้ให้นักเรียนราวกับเป็นเรื่องตลก แต่คนฟังอย่างเธอกลับรู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ ในความเอาแต่ใจของอาจารย์หัวหน้าหมวดวิชาพละ

    ผู้ชายคนนั้นคนเล่าเรื่องเก่งจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่อินจนเก็บมาคิดทั้งที่ปกติมักจะปล่อยผ่านเรื่องคนอื่นอยู่ตลอด

    พอหมดคาบเด็กนักเรียนชายหญิงก็แยกกันไปอาบน้ำ กลิ่นสบู่และแชมพูอบอวลไปทั่วห้องเปลี่ยนชุด พื้นกระเบื้องเปียกชุ่มไปน้ำจากรอยเท้า เด็กสาวที่ห่อร่างกายผ้าขนหนูผืนเดียวเกล้าผมขึ้นม้วนผ้าผืนเล็กยืนหน้าล็อกเกอร์ของตนเองซึ่งมีรอยงัดจนทำให้ปิดไม่สนิท

    ท่ามกลางเสียงพูดคุยของคนรอบข้างที่ไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด แบคฮียังคงนิ่งแม้จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เธอเอายกทรงและกางเกงในออกมาสวมเป็นอย่างแรก ตามด้วยชุดนักเรียนก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ออกมาสะพาย และก็ได้พบว่านาฬิกาข้อมือหายไป

    ในใจร้อนรุ่มตั้งแต่รู้ว่าล็อกเกอร์โดนงัด แต่แบคฮีก็ยังคงเก็บอาการไว้ใต้สีหน้าได้เป็นอย่างดี เด็กสาวรูดซิปหาในกระเป๋าแต่ก็ไม่พบ จึงย่อตัวนั่งลงยอง ๆ เอาของใช้ออกมาวางข้างนอก ค้นแม้แต่ในกล่องปากกาที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงเสียเธอก็ไม่มีทางละเมอเก็บมันไว้ในนั้น

     

     

    หาเพื่อให้รู้จะไม่เจอ

     

     

    หาอะไรอยู่? ยูจินถามคนข้างตัว ท่ามกลางเพื่อนร่วมห้องนับสิบที่กำลังเปลี่ยนชุด

    นาฬิกาน่ะ

    “DKNK เรือนใหม่ที่เพิ่งซื้อมาน่ะเหรอ?

    อืม มันหายไป

    ตอนมาสระว่ายน้ำฉันยังเห็นเธอใส่อยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ปาร์คแชรอน เพื่อนคนที่สามในกลุ่มขมวดคิ้วพร้อมนั่งลงยอง ๆ กางสมุดทำการบ้านของเธอออกพร้อมเขย่าทั้งที่น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าถ้ามีนาฬิกาซ่อนอยู่เล่มมันก็ต้องนูนขึ้นมาบ้าง

    เวรแล้วสิ แพงซะด้วย ยูจินยืนกอดอกมอง ก่อนจะหันไปรอบ ๆ ห้องนี่ มีใครเห็นนาฬิกาของแบคฮีบ้างไหม?

    เพื่อนร่วมห้องที่กำลังง่วนอยู่กับการเปลี่ยนชุดหันมาส่ายหน้าปฏิเสธ รวมถึงกลุ่มของคิมดาซมที่มองมาอย่างเหยียด ๆ และเบ้ปากราวกับจะสมน้ำหน้า

    หรือว่าแบคฮีจะโดนกลุ่มนั้นเล่นซะแล้ว พาดาพูดเสียงเบาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สี่คน ท่ามกลางความนิ่งเฉยของแบคฮีขณะสบตากับตัวแม่กลุ่มนั้น

    เออ น่าคิดนะ เพราะวันนี้ฉันเห็นดาซมมองเธอตลอดเลย แชรอนเสริม

    ก่อนหน้านี้อีอ้วนโดนไปเยอะ คราวนี้คงถึงตาเธอแล้วล่ะแบคฮี ยูจินชำเลืองมองคนข้าง ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจะขุ่นเคืองใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เธอได้แต่ลุ้นในใจว่าเมื่อไหร่บยอนแบคฮีจะฟิวส์ขาดเข้าไปตบกับกลุ่มนั้นให้เป็นเรื่องน่าสนุกเสียที

    เธอเห็นหน้าฬิกาฉันหรือเปล่าดาซม? คนตัวเล็กถามด้วยแววตาเรียบเฉย บทสนทนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบ เด็กกลุ่มอื่นจึงรีบเก็บของออกไปจากตรงนั้นจนเหลือเพียงเด็กสาวสองกลุ่ม

    หืม? นาฬิกาเหรอ? 

    เด็กสาวหน้าสวยแสร้งไร้เดียงสาก่อนจะยิ้มเย้ยยั่วโมโห กลุ่มเด็กแรงที่ยืนสนับสนุนอยู่ข้างหลังมองเธอเป็นตาเดียวกัน มองอย่างพวกไม่มีความคิดที่ดีแต่ทำตามคำสั่งผู้หญิงเพียงคนเดียว

    หน้าตาฬิกาของเธอเป็นยังไงล่ะ พอดีว่าฉันไม่ได้ใส่ใจตัวเธอขนาดที่จะจำได้

    ใช้เรือนที่เผลอเหยียบแตกบนถนนหรือเปล่าน้า

    อย่ามาเล่นลิ้น ฉันไม่มีเวลาเล่นกับพวกเธอ แบคฮีกล่าวอย่างไม่กลัว

    ไม่มีใครมีเวลาเล่นกับเธอเหมือนกันแหละแบคฮี ดาซมแค่นหัวเราะเธอนี่... ตลกได้เสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ นะ

    เอาคืนมา

    เอาอะไรล่ะ อยากได้ก็เข้ามาหาเองสิเด็กสาวหน้าสวยยิ้มอย่างท้าทาย

    ไปสิแบคฮี อย่ายอม ยูจินกระซิบ มองมือคนข้าง ๆ ที่กำหมัดแน่นคล้ายว่าจะทนไม่ไหวแล้ว แต่เพียงสามก้าวเท่านั้นที่คนตัวเล็กเดินเข้าหา แขนของเธอก็ถูกคว้าไว้โดยใครคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง

    อย่า

    ไม่แน่ใจว่าเสียงทุ้มต่ำกำลังดุเธออยู่หรือเปล่า แต่ดวงตาคู่นั้นของอาจารย์ชานยอลกลับบอกให้แบคฮีรู้สึกได้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงมองว่าเธอเป็นคนผิดที่เดินเข้าไปหาเรื่องดาซม เพื่อนสามคนถอยหลังออกเพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าไม่มีใครพร้อมแก้ตัวให้เธอ

    อาจารย์คะ ช่วยด้วยค่ะ อยู่ดี ๆ แบคฮีก็จะเข้ามาตบดาซม!” จูอึนโอบไหล่เพื่อนสนิทไว้พร้อมดักโอกาสพูดของฝั่งตรงข้าม คนตัวเล็กหันไปมองความร้ายกาจของเด็กผู้หญิงกลุ่มนั้นขมวดคิ้วกัดฟันแน่นอย่างเหลืออด

    ใช่ค่ะ อยู่ดี ๆ แบคฮีก็ใส่ร้ายว่าดาซมขโมยนาฬิกาของเธอ

     

    ภายใต้ดวงตาของอาจารย์กำลังคิดอะไรอยู่เด็กสาวไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มันคงไม่ส่งไปในทางที่ดี เพราะผู้ชายคนนี้คงมองเห็นบยอนแบคฮีเป็นเด็กนิสัยเสียที่พร้อมจะพาลใส่ทุกคน เพราะภาพลักษณ์ภายนอกของเธอเป็นอย่างนั้นมาตลอด

    เกิดอะไรขึ้น? ชานยอลคลายมือออกจากแขนคนตัวเล็กเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายกว่าที่เป็นอยู่ เขาสบตากับคนตรงหน้าเพื่อรอคำตอบ และเธอไม่ได้หลบสายตาไปไหน

    ล็อกเกอร์หนูโดนงัด

    ขอผมดูหน่อย แบคฮีชี้ไปยังช่องสี่เหลี่ยมที่ยังเปิดอ้าไว้ ก่อนขายาวจะตรงเข้าไปเช็ก เพียงครู่เดียวอาจารย์หนุ่มก็เดินกลับมายืนอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองฝั่ง

    ถูกงัดด้วยของแข็ง แต่ไม่มีหลักฐานทิ้งไว้เลย เพราะฉะนั้นคงจับมือดมไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร คำตอบของชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มจากทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ยกเว้นแบคฮี คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถูกกลืนไปด้วยความมืดและเหลือเธออยู่ตามลำพังในหลุมดำ ขณะที่ทุกคนยืนอยู่ข้างบนนั้นเพื่อรอดูบยอนแบคฮีตาย

    แต่ดาซม --

    ฉันทำไมเหรอ?

    ...

    พูดมาสิ ฉันทำไม? ดวงตาแข็งเกร็งมองศัตรูหัวใจพร้อมรอยยิ้ม

    เธอพูดเหมือนเป็นคนเอามันไป

     

    แต่ฉันไม่ได้เอาไปนี่ ดาซมเลิกคิ้วปั้นหน้าตาย คนที่ยืนอยู่ข้างหลังต่างหัวเราะคิกคักสะใจที่เห็นว่าบยอนแบคฮีกำลังจนมุม

    คุณจะกล่าวหาเพื่อนโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้นะแบคฮี

    งั้นอาจารย์ก็ค้นกระเป๋าของคนพวกนั้นสิ

    ท่ามกลางบรรยากาศกดดัน อาจารย์หนุ่มต้องมอบความเป็นธรรมให้กับทุกคนจึงหันไปทางเด็กสาวอีกกลุ่ม ซึ่งทุกคนก็ยื่นกระเป๋าออกมาโดยไม่อิดออด แบคฮีรีบตรงเข้าไปค้นของดาซมเป็นใบแรก ส่วนชานยอลค้นกระเป๋าของจูอึน ผ่านไปราว ๆ ห้านาทีก็ได้คำตอบเป็นความว่างเปล่า คนตัวเล็กหน้าเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อไม่เป็นอย่างที่คาดไว้

    แบบนี้เรียกว่าถูกใส่ร้ายได้ใช่ไหมคะอาจารย์? ถามชายหนุ่มแต่สายตากลับจ้องคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่อง แบคฮีกับดาซมสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนชานยอลจะหันไปข้างหลัง

    ผมขอค้นกระเป๋าของคุณสามคนด้วยครับ

    คะ?ยูจินเลิกคิ้วพร้อมชี้หน้าตัวเอง เธอหันไปมองเพื่อนสองคนข้างตัวก่อนจะแค่นหัวเราะแล้วยื่นกระเป๋าให้อย่างเต็มใจ

    แบคฮีมองอย่างหวาด ๆ ถ้าหากว่าใครสักคนในนั้นเป็นคนเอาไป เธอคงไม่รู้ว่าต้องทำหน้าแบบไหนเวลาเจอกันหลังจากนี้ อาจารย์หนุ่มค้นกระเป๋าสามใบอย่างละเอียด สักชั่วอึดใจเลยทีเดียวจึงหันกลับมาสบตากับเด็กสาว พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่เจอ

    อย่าพาลไปทั่วสิ ใช่ว่าทุกคนที่อยากได้นาฬิกาของเธอหรือเปล่า บางทีเธออาจจะทำตกหายที่อื่นแต่ไม่รู้ตัวก็ได้ จูอึนกระแนะกระแหน

    แล้วเรื่องงัดล็อกเกอร์ล่ะ เธอจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง? แบคฮีถาม เธอยังไม่เลิกถอดใจว่าจะเป็นคนกลุ่มนั้น

    ใจเย็นก่อนแบคฮี

    เป็นอีกครั้งที่อาจารย์ห้ามให้เธอหยุด แต่กลับปล่อยให้คนพวกนั้นพูดโง่ ๆ ออกมานับไม่ถ้วน คนตัวเล็กมองอีกกลุ่มที่กำลังยิ้มเยาะเย้ยความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของเธอ แววตาของคิมดาซมและคิมจูอึนนั้นกำลังประกาศให้รู้ว่าสงครามระหว่างเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมันจะไม่จบง่าย ๆ แน่

     

     

     

    *

     

     

     

    เหม่อตั้งแต่หัวค่ำแล้วนะมึง เป็นไรวะ? อี้ฝานมองเพื่อนสนิทที่ถือแก้วแชมเปญไว้ในมือโดยไม่ยกขึ้นจิบ เหม่อลอยอยู่กับความคิดทั้งที่คนอื่น ๆ ในงานเลี้ยงรุ่นต่างกำลังสนุกสนานกัน

    พอถึงเวลางานจริง ๆ ทั้งสองคนก็ได้แต่แยกตัวออกมายืนเงียบ ๆ เพราะไม่มีสาวคนไหนสวยพอให้หลี ถ้าไม่มีลูกมีผัวแล้วก็เป็นนังหน้าสวยขี้เมาท์ คนที่เคยสวยปังเมื่อสมัยเรียนก็อ้วนฉุจนจำหน้าเก่าแทบไม่ได้

     

     

    อู๋อี้ฝานแต่งสูทหล่อมาทำไม... เสียใจยิ่งนัก

     

     

    เขาทั้งคู่กำลังเผาลมหายใจไปกับความเบื่อหน่ายและอาจจะตายได้ถ้าหากทนอยู่จนจบงาน วันนี้ชานยอลสวมสูทเทาทับเชิ้ตขาวด้านใน ไอ้หมอนี่ยังคงเก่งเรื่องแย่งซีนแต่ก็ถือว่ายังดีที่วันนี้ไม่มีคนสวย

    กูรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจ

    ตีนเหรอ

    กำปั้นกูนี่ไงเพื่อน อี้ฝานระเบิดหัวเราะกับหมัดของเพื่อนที่กำขึ้นมาให้ดูประกอบเพื่อบอกว่ามันพร้อมจะงัดหน้าเขาได้ทุกเมื่อถ้าหากกวนตีนไม่ดูเวลา

    อะไรวะ เมื่อวานไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย เซ็งเรื่องหัวหน้าหมวดเหรอ?

    เปล่า เรื่องนักเรียน

    คราวนี้โดนอ่อยด้วยวิธีไหนมาอีกล่ะ เล่าให้พ่อฟังซิลูก อี้ฟานเท้าแขนลงบนไหล่กว้างของเพื่อนสนิท ยิ่งเห็นชานยอลถอนหายใจเรื่องนี้ก็ยิ่งน่าเสือกมากขึ้นเท่านั้น

    วันนี้นาฬิกาของเด็กในคาบเรียนกูหายเพราะถูกงัดล็อกเกอร์ เธอคิดว่าเพื่อนเอาไปก็เลยเกือบมีเรื่องกัน กูไปถึงก็รีบห้ามไว้ ชายหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งมึงพอนึกออกไหมว่าไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ไม่มีหลักฐาน จะโทษคนอื่นก็ไม่ได้

    มึงเลยเฟลที่จับโจรไม่ได้งี้เหรอ โธ่เพื่อน เรื่องจับโจรให้เป็นหน้าที่ของตำรวจกับโคนันก็พอไหม

    อี้ฝาน มึงดูหน้ากูตอนนี้

    อืม ดู

    กูตลกเหมือนหน้าพ่อมึงไหม? ชานยอลชี้หน้าตัวเองพร้อมเลิกคิ้วถาม คนกวนตีนถึงกับหน้าแห้งไป

    โห ล่อถึงบุพการีเลยทีเดียว ไม่เรียกอากงอาม่ากูมาด้วยเลยล่ะ จะได้ชวนมาปาร์ตี้เลี้ยงรุ่นหอกนี่ให้เมาแอ้กันไปข้างอี้ฝานยิ้มสู้ความเย็นยะเยือกของอีกฝ่าย ทิ้งจังหวะความจริงจังของเพื่อนสนิทไปราว ๆ สามวิก่อนจะกอดคอมัน แต่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ปะวะ ไอ้ขโมยของเนี่ยโคตรปกติ กูหมายถึงว่ามันเกิดขึ้นในโรงเรียนทุกยุคสมัย ว่าแต่หลังจากนั้นมึงทำไงต่อ?

    เด็กคนนั้นเดินหนีออกไปเลย คงน้อยใจกู

    เพื่อน มึงต้องเข้าใจฟีลเด็กผู้หญิง บางทีเค้าไม่ได้ต้องการความถูกต้องหรอก เค้าแค่ต้องการคนเข้าข้าง คนที่พร้อมจะพยักหน้าแล้วบอกว่า อา... ผมเข้าใจคุณนะ แค่นั้นเว้ย แต่ในใจมึงจะด่าอีดอกอีผียังไงก็ได้ แต่มือมึงต้องวางอยู่บนบ่าเค้าอย่างนี้ แล้วยิ้มแบบให้รู้ว่า บนโลกมีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจหัวอกคุณ’”

    กูเป็นครู การแสดงออกในสถานการณ์แบบนั้นต้องเป็นกลาง กูจะเลือกปฏิบัติกับใครไม่ได้

    เพราะงั้นนักเรียนคนนั้นถึงได้เดินหนีมึงไง เพื่อน ล็อกเกอร์โดนงัด ของโดนขโมยว่าเจ็บใจแล้ว อาจารย์เสือกทำได้แค่ยืนหล่อ เป็นกูกูก็เซ็ง

    แต่คนเราจะชี้หน้าว่าอีกฝ่ายผิดเพราะเชื่อความรู้สึกมันก็ไม่ถูก ชานยอลมองไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย สีหน้าผิดหวังของเด็กผู้หญิงคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจ แม้จะอยากแก้ไขเรื่องนี้แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น

     

     

     

    *

     

     
     

    เป็นปาร์ตี้สากกะเบือที่ลดอายุไขมากที่สุดตั้งแต่กูใช้ชีวิตบนจักรวาลนี้มา

    อี้ฝานบ่นกระปอดกระแปดหลังแยกตัวออกมาจากงานเลี้ยงรุ่นในเวลาสี่ทุ่มเศษ ๆ ไม่คิดเลยว่าจะต้องบินมาไกลเพื่อพบความป่วยทางอารมณ์แบบนี้ เขาอยากได้ความบันเทิง เพื่อนที่เคยเตะบอลด้วยกันสมัยเรียนก็เสือกอยู่เลี้ยงลูกอ่อนที่บ้าน กลัวเมียมากจนไม่กล้าออกมาเมา เจริญเถอะมึง

    จะไปต่อหรือกลับ

    ต่อดิครับ กูแต่งหล่อมาขนาดนี้จะให้กลับไปนอนแห้งที่บ้านมึงก็จะยังไงอยู่ อี้ฝานเลิกคิ้วมองเพื่อนสนิทที่ยืนเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน แต่เมื่อถึงล็อบบี้ก็หยุดฝีเท้าเมื่อเจอคน ๆ หนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนรู้จักหรือเปล่า

    เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาจิ้มลิ้มเกล้าผมทรงดังโงะ สวมยีนส์ขายาว ฮู้ดสีชมพูและผ้าใบสีขาว เธอกำลังโทรหาใครสักคนและจนถึงตอนนี้ไอ้ชานยอลก็ยังมองอย่างไม่ละสายตา

     

    เดี๋ยวกูมา ยังไม่ทันอ้าปากถามไอ้เพื่อนเวรก็เดินไปเสียแล้ว อี้ฝานเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพลางมองตามแผ่นหลังเพื่อนสนิทซึ่งตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาวคนนั้น มันรู้จักหรือว่าจะไปแอบขอเบอร์โทรวะ ตัดหน้ากันชัด ๆ

    เลือกโรงแรมหรูเลยเหรอครับวันนี้?

    ... แบคฮีเงยหน้ามองอาจารย์หนุ่มที่หล่อตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะการแต่งตัวภูมิฐานและผมซึ่งเซ็ทปัดเป็นทรงคอมม่าแล้วอาจารย์ล่ะ ใส่สูทเต็มยศแบบนี้รับจ็อบพิเศษเป็นไซด์ไลน์เหรอ -- อ๊ะ!”

    เด็กสาวหลับตาแน่นก่อนจะกุมหน้าผากตนเองหลังจากถูกคนตรงหน้าดีดเหม่งซะเต็มแรง ชานยอลล้วงสองมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง มองมือเล็กที่ถูกแขนเสื้อสีชมพูกลืนไปครึ่งหนึ่ง กล้าต่อปากต่อคำแบบนี้ค่อยน่าโล่งใจขึ้นมาหน่อย

    วันนี้แต่งตัวมิดชิดแปลก ๆ นะครับ สายตาอาจารย์เหมือนจะโลมเลียแต่ก็เหมือนจะสื่อว่าโถ เด็กน้อย ยังไงอย่างนั้น แบคฮีมองอีกฝ่ายตาขวาง เธอไม่อยากคุยกับอาจารย์ อย่างน้อยก็ตอนนี้

    ยุ่งจัง

    หงุดหงิดผมหรือคู่ขาที่ปล่อยให้รอเหรอครับ?

     

    ไม่ใช่เรื่องของอาจารย์ หนูไม่จำเป็นต้องตอบ ดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้นมองมาเพื่อบอกให้ปาร์คชานยอลรู้ว่าเธอยังคงโกรธเขาอยู่ ชานยอลมองแมวน้อยที่กำลังขู่ฟ่อ ๆ จนน่ายื่นมือไปเกาคางให้เสียจริง

    กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง

    หนูกลับเองได้ อาจารย์มีอะไรจะทำก็ไปทำเถอะค่ะ

    มันดึกแล้ว แบคฮี ชายหนุ่มละทิ้งความขี้เล่นและแทนที่ด้วยความจริงจัง หากเป็นก่อนหน้านี้เขาอาจจะปล่อยผ่านให้เด็กคนนี้ทำตามใจตัวเอง แต่เป็นเพราะเรื่องเมื่อตอนเย็นที่ทำให้รู้สึกผิดในใจ จึงไม่อยากให้เด็กสาวระบายความหงุดหงิดด้วยวิธีนี้

    แบคฮี!”

    ทั้งคู่หันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะพบกับชายร่างผอมดูภูมิฐานในชุดสูทสีเทาเข้ม ซึ่งเดินมาพร้อมการ์ดร่างใหญ่ในชุดสูทดำอีกสองคน เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ชานยอลเห็นว่าสีหน้าของแบคฮีนั้นเรียบเฉย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มและตามด้วยการโค้งศีรษะทำความเคารพผู้มาใหม่

    ขอโทษที่ให้รอนานนะ พอดีลุงมีแขกที่ต้องอยู่ดูแลเลยเพิ่งมีเวลาปลีกตัวออกมา เขากล่าวอย่างเกรงใจเด็กสาวตรงหน้า ก่อนจะยื่นสินค้าแบรนด์เนมให้สองถุงอันนี้ของลุง ส่วนอันนี้ของคุณแม่หนู สุขสันต์วันเกิดนะแบคฮี

    ชานยอลหันไปมองเสี้ยวหน้าคนตัวเล็กที่ยังคงมีรอยยิ้ม หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับว่างเปล่าไร้ความรู้สึก แบคฮีรับของขวัญวันเกิดมาถือไว้พร้อมโค้งศีรษะ

    ขอบคุณค่ะ

    ว่าแต่คุณคนนี้...

    อ้อ กลายเป็นเขาเสียได้ที่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กสาวเลือนหายไปอาจารย์ที่โรงเรียนหนูเองค่ะ เราบังเอิญเจอกันเมื่อกี้นี้

    สวัสดีครับ ชายหนุ่มโค้งศีรษะ ซึ่งคนตรงหน้าก็ตอบรับด้วยรอยยิ้มเช่นในทีแรก

    เป็นอาจารย์ของแบคฮีนี่เอง อ่า สักครู่นะครับ ชายวัยห้าสิบกว่า ๆ หันไปพยักหน้าบอกการ์ดที่อยู่ด้านหลัง ก่อนชายร่างใหญ่จะเดินมาหาเขาพร้อมยื่นนามบัตรให้ ชานยอลถึงได้รู้ว่าคน ๆ นี้เป็นเจ้าของโรงแรม และไม่ได้ใช้นามสกุลบยอน ยื่นบัตรนี้ได้ทุกเมื่อที่คุณมาที่นี่นะครับ ทางโรงแรมยินดีบริการฟรีให้อาจารย์ของแบคฮีเสมอ

    สิ้นสุดประโยค ชายวัยห้าสิบก็ยิ้มให้กับเด็กสาวอย่างเอาใจ แม้ว่าจะกระอักกระอ่วนที่จะรับไว้ แต่ชานยอลก็เก็บนามบัตรใส่ในกระเป๋าสูทด้านใน อ่า... ขอบคุณมากครับ

    หลังจากเปิดของขวัญแล้ววิดีโอคอลบอกคุณแม่ด้วยนะว่าหนูชอบมันหรือเปล่า แม้จะรับรู้ถึงความฝืนทน แต่ชายคนนั้นก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวังดีให้กับเด็กผู้หญิงคนนี้

    หนูต้องชอบแน่นอนอยู่แล้วค่ะ คุณลุงกับแม่เป็นคนเลือกให้ทั้งที แบคฮียิ้มกว้าง ก่อนจะโค้งศีรษะขอบคุณอีกครั้งแล้วกอดถุงของขวัญแนบอกให้เห็นว่าเธอชอบมันแค่ไหนทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดดู งั้นหนูกลับก่อนนะคะ

    เดี๋ยวลุงให้คนไปส่ง ดึกแล้วกลับเองมันอันตราย

    ไม่เป็นไรค่ะ แค่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง หนูนั่งแท็กซี่กลับได้

    ผมจะไปส่งแบคฮีเองครับ

    ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครยัดเยียดความต้องการของตัวเองได้สมเหตุสมผลที่สุดเท่ากับปาร์คชานยอลอีกแล้ว เด็กสาวช้อนตามองอาจารย์ซึ่งกำลังโค้งศีรษะตัดบทว่าทางเลือกของเขานั้นปลอดภัยทางความรู้สึกของแบคฮีมากที่สุด แม้เธอจะไม่เต็มใจก็ตาม

    งั้นฝากแบคฮีด้วยนะครับ

     

     

     

    *

     
     

     

    เพื่อนอาจารย์พูดมากจัง

    มันไม่ค่อยเต็มน่ะ อย่าถือสาเลย

    หลังจากบอกให้อู๋อี้ฟานออกไปต่อสู้กับโลกภายนอกตามลำพังโดยไม่มีปาร์คชานยอลเป็นคู่หูดูโอ้ อาจารย์และลูกศิษย์ของเขาก็เดินไปตามฟุตปาธในเวลาค่ำคืน ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางหันไปมองเด็กสาวข้างตัวเป็นระยะ นึกรู้สึกผิดอยู่ในใจไม่น้อยที่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะเปิดห้องนอนกับผู้ชายในโรงแรม ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่มาเอาของขวัญวันเกิด

    ตอนนี้คุณคงคิดว่าผมเป็นเนื้อร้ายที่ทำให้วันเกิดของคุณต้องกร่อย

    ยิ่งกว่านั้นอีก

    แค่พูดเล่นต้องเออออจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอครับ ปฏิเสธผมบ้างก็ได้ ชายหนุ่มโคลงศีรษะกลมอย่างมันเขี้ยว แต่งตัวน่ารัก ๆ ก็เป็นนี่

    หลังจากชมหนูแล้วมันต้องมีคำว่า แต่ ออกมาจากปากอาจารย์แน่ ๆ

    คิดแง่ร้ายเกินไปแล้ว ชานยอลยิ้มขำ เขามองความซนจากปากยื่น ๆ ที่หมดคราบผู้หญิงช่างยั่วอย่างปลิดทิ้ง ขอโทษที่คิดว่าคุณนัดเจอผู้ชายในโรงแรมนะครับ

    แบคฮีไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากอาจารย์ เด็กสาวชำเลืองมองอย่างหวาด ๆ ก่อนจะเงียบไปเพราะไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรกับความจริงจังที่อยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นระหว่างเรา ภาพลักษณ์หนูเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่แปลกหรอกถ้าอาจารย์จะมองว่าหนูเป็นเด็กใจแตกที่นัดผู้ชายไปนอนด้วยทุกวัน

    มันดีแล้วเหรอครับที่ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจอย่างนั้น? ชายหนุ่มมองคนตัวเล็กที่ทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า

    เพราะหนูบังคับความคิดคนอื่นไม่ได้ ก็เลยปล่อยให้ทุกคนคิดตามที่ใจต้องการ

    แล้วคุณเป็นแบบที่คนเหล่านั้นคิดหรือเปล่าครับ?

    แบบไหนล่ะ หนูไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนมองยังไงบ้าง ก็มีแค่บางคนที่ทำให้รู้ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะหนูไม่อยากเก็บมาใส่ใจ เด็กสาวกล่าวด้วยท่าทีสบาย ๆ โดยไม่รู้ตัวว่าทุกคำพูดและการแสดงออกทุกอย่างอยู่ในสายตาของอาจารย์หนุ่ม

    การคิดน้อยเป็นเรื่องที่ดี แต่คิดบ้างก็ไม่แย่หรอกนะ ชานยอลเว้นจังหวะการพูดเพื่อรอดูท่าทีของคนข้างตัว แบคฮีไม่ได้เถียงหรือทำหน้าหน้าเหมือนว่าไม่อยากฟัง คนตัวเล็กเพียงใช้ดวงตาคู่นั้นมองเขา อย่างน้อยเราก็ได้ทบทวนว่าเรื่องนั้นเป็นยังไง จะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยครับ

    แล้วอาจารย์รู้จักตัวเองแล้วหรือยังคะ?

    ประมาณหนึ่งครับ แต่ก็ยังต้องศึกษาอยู่เรื่อย ๆ ชานยอลยิ้มขณะสบตากับลูกศิษย์ของเขา จนกว่าจะตาย มนุษย์ทุกคนก็ต้องเรียนรู้ไปจนถึงตอนนั้น ทั้งกับตัวเองและสิ่งรอบตัว

    อาจารย์มีพี่น้องไหม?

    ผมมีน้องสาวหนึ่งคน แล้วคุณล่ะ?

     

    แบคฮีส่ายหน้า “หนูเป็นลูกคนเดียว ก็เลยเอาแต่ใจแบบนี้ไง

    ไม่หรอกครับ คุณก็แค่เหงา ก็เลยทำทุกอย่างเพื่อเติมเต็มให้ตัวเอง

    ...

    รู้สึกเหมือนถูกอาจารย์ควักหัวใจออกไปจากอกทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น แบคฮีรู้สึกชาวาบกับความย้อนแย้งที่ว่าเธอเป็นอย่างนั้นจริงแต่ก็ผลักไสความรักออกไปอยู่เสมอ

    มันไม่แย่หรอก หลายคนก็เป็นแบบนั้น เพียงแต่ใช้วิธีที่ต่างกันไป

    อาจารย์เคยเป็นหรือไงคะถึงได้รู้?

    ครับ กว่าจะโตก็ต้องเป็นเด็กมาก่อนทั้งนั้น เขายิ้ม ก่อนบรรยากาศระหว่างเขาและเธอจะเงียบไปสักพักใหญ่ ๆ

    หนูไม่ได้ชอบของแพง แต่ทุกคนก็ซื้อมันให้หนูเพื่อแสดงความรักชานยอลเลือกฟังอย่างตั้งใจมากกว่าจะถามว่า ทำไม? เพราะเขาอยากให้เด็กคนนี้ได้พูดออกมาโดยไม่รู้สึกว่ากำลังมีใครคาดคั้น แม่ไปลอนดอนก็เลยฝากของขวัญชิ้นนี้ไว้กับคุณลุง หนูไม่เห็นอยากได้เลย หนูน่ะ --

    เด็กสาวชะงักหลังจากรู้ตัวว่ากำลังพ่นเรื่องบ้า ๆ ออกมาอย่างคนโง่ พร้อมถามตัวเองว่าจะมีใครเข้าใจความรู้สึกของบยอนแบคฮีด้วยหรือไง คนตัวเล็กอยากตีตัวเองเหลือเกินที่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้เห็นความอ่อนแอจนได้

    ไม่เป็นไรนะ

     

    หัวใจวูบไหวเมื่อรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ซึ่งวางลงบนศีรษะของเธอ อาจารย์ไม่ได้โคลงไปมาเพื่อหยอกล้อหรือเขกศีรษะเพื่อบอกให้รู้ตัวว่าบยอนแบคฮีกำลังซึมเศร้าจนทำให้บรรยากาศโดยรอบน่าเบื่อจนน่าหงุดหงิด ผู้ชายคนนี้เพียงวางมือลงและเคาะนิ้วชี้บนผมเธอเบา ๆ เท่านั้น

     

     

    ทุกอย่างเบาหวิวจนเหมือนหัวใจจะร้องไห้ออกมา

     

     

    พ่อก็ไม่ว่าง และถึงว่างก็คงไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าของขวัญที่ซื้อด้วยเงินจำนวนหลายหลัก และความรักของพ่อวัดจากความแพงของมัน แบคฮีหันออกไปนอกถนน แสร้งทำเป็นกระแอมไอก่อนจะใช้จังหวะนั้นเช็ดความอ่อนแอที่ไหลออกมาโดยไม่ให้อีกคนรู้

    ดูนั่นสิเธอชำเลืองมองคนตัวโตกว่าที่กำลังชี้ให้ดูว่าฝั่งตรงข้ามมีร้านหมูย่างอยู่ ตกแต่งมีสไตล์ดีนะครับว่าไหม?

    ...

    ปกติผมไม่กินมื้อดึก แต่แวะด้วยกันไหมครับ หารสอง

    ว่าไงนะ? เด็กสาวขมวดคิ้วจนลืมความเศร้าเมื่อครู่เป็นปลิดทิ้งเพราะถูกดับอารมณ์โดยคำว่า หารสอง

    ครับ ตามที่พูดเลย

    อ๊า! เชื่อเค้าเลย แบคฮีมองอีกฝ่ายด้วยหางตา เป็นถึงอาจารย์แต่กลับชวนนักเรียนหารค่าหมูย่าง นี่เหรอคนที่นักเรียนหญิงอยากได้ทั้งโรงเรียน

    ผมไม่ใช่เศรษฐีนี่ แต่ถ้าไม่พอจ่ายจริง ๆ คุณก็เอาของขวัญวันเกิดมัดจำไว้ก่อนก็น่าจะได้นะครับ

    ไม่ต้อง! หนูเลี้ยงอาจารย์ก็ได้!” เด็กสาวเงยหน้ามองความหล่อของอีกฝ่ายที่ไม่ได้มาพร้อมนิสัย บ้าเอ๊ย อาจารย์คงเอาแต่คิดเรื่องกินมาตลอดทางเลยใช่ไหม แต่ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะใส่ใจกับเรื่องเหล่านั้นที่เผลอเล่าออกไป

     

    แบคฮีขยับปากบ่นแบบไม่มีเสียงแล้วก้าวลงจากฟุตปาธ ก่อนจะก้มลงมองแขนตนเองที่ถูกคว้าไว้ พอเลื่อนระดับสายตาขึ้นก็พบว่าอาจารย์กำลังมองรถซึ่งขับมาโดยไม่ลดละความเร็ว เด็กสาวรู้สึกเหมือนตัวของเธอเล็กลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเด็กห้าขวบที่ต้องให้ผู้ใหญ่พาข้ามถนน

    แม้สัมผัสจะหละหลวม แต่ความใส่ใจแบบธรรมชาติของอาจารย์ก็ได้ก่อความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจแบบที่ไม่อยากให้เป็น ช่วงเวลาถูกพาข้ามถนนช่างยาวนานจนเหมือนว่าร้านหมูย่างอยู่ห่างไปเป็นกิโล แบคฮีไม่ได้ยินแม้แต่เสียงรถ บรรยากาศโดยรอบช่างเงียบงันราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง

    ทันทีที่ข้ามถึงฝั่งอาจารย์ก็คลายมือออก ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติและเรื่องเมื่อครู่นี้คงไม่แปลกนักสำหรับผู้ใหญ่ที่หวังดีไม่อยากให้นักเรียนทะเล่อทะล่าข้ามถนนจนถูกรถชนตาย

    ทั้งคู่เข้าไปกินหมูย่างโดยไม่พูดถึงเรื่องของขวัญวันเกิดหรือเรื่องใด ๆ ที่จะทำให้รู้สึกแย่จนเกิดสงครามลับฝีปากอีก แบคฮีมองความเป็นผู้ใหญ่แบบแปลก ๆ ของอาจารย์ชานยอล ที่ตักนู่นนี่นั่นให้เธอโดยไม่พูด ผิดกับโอเซฮุนที่มักจะบอกก่อนเสมอว่า ฉันทำให้ เพื่อย้ำว่าเขาดูแลแบคฮีดีแค่ไหน

    สุดท้ายเด็กสาวก็ไม่ได้จ่ายเงินสักวอนเดียว อาจารย์อ้างว่าไม่ได้กดเงินออกมาจึงต้องรูดบัตร พอจะเอาเงินให้ก็แกล้งทำเป็นโทรหาเพื่อน คนอะไรเข้าใจยากจริงเชียว

    ห้าทุ่มสี่สิบห้าแล้ว ง่วงหรือยังครับ?

    ง่วงสิ หนูตื่นตีห้าทุกวัน เด็กสาวเดินตาปรือบนฟุตปาธ

     

    ผมสงสัยมานานแล้วว่าทำไมคุณมาโรงเรียนแต่เช้า ไม่ง่วงหรือไงครับ?

    มันตื่นเอง บางวันก็นอนตีหนึ่ง บางวันก็ตีสอง วันไหนเมาก็จะหลับง่ายหน่อย แถมนอนได้นานด้วย

    คุณก็เลยชอบดื่ม ชานยอลหยุดฝีเท้าก่อนจะชี้ไปยังร้านสะดวกซื้อ รอแป๊บนึงครับ ผมขอแวะซื้อหมากฝรั่งหน่อย

    ถุงยางเหรอ?

    แก่แดด เขาดีดหน้าผากคนตัวเล็กที่ถามราวกับเป็นเรื่องปกติ หมากฝรั่งก็คือหมากฝรั่งสิ

    หนูจะได้บอกอาจารย์ว่าหนูจะกลับบ้าน ไม่ได้จะไปนอนด้วย

    อา หลงตัวเองจริง ๆ แค่ได้กลิ่นหมูย่างบนหัวคุณผมก็หมดอารมณ์แล้ว แบคฮีจับศีรษะตนเองพลางมองอาจารย์หนุ่มที่ส่ายหน้ากับความคิดของเธอซึ่งไม่รู้ว่าผิดตรงไหน

    ย๊า! สูทอาจารย์ก็เหม็นหมูย่างเหมือนกันนั่นแหละ!” เด็กสาวตะโกนไล่หลังคนขี้เก๊กที่ไขว้แขนกันเป็นรูปกากบาทพร้อมเบ้ปากส่ายหน้า

    แบคฮีนั่งลงบนขั้นบันไดพร้อมมองกระเป๋าแบรนด์เนมสองใบในถุง นอกจากพ่อแม่ที่ให้แค่ของขวัญ ก็คงมีโอเซฮุนคนเดียวที่ตื่นเต้นกับวันเกิดของเธอจนเรียกร้องประหนึ่งเป็นวันของตัวเอง หมอนั่นขอจองตัวเธอเสาร์นี้เพื่อที่จะพาไปเที่ยวสวนสนุกกันสองคน และแบคฮีไม่ได้ปฏิเสธ

     

     

    ตอนนี้เป็นเวลา --

     

     

    คนตัวเล็กชะงักไปเมื่อถลกแขนเสื้อขึ้นแต่กลับไม่พบนาฬิกาเรือนใหม่ที่ซื้อมาได้ไม่นาน น่าหัวเสียชะมัดที่เธอทำอะไรกับการหายไปของมันไม่ได้เลย ถ้ากลุ่มดาซมไม่ได้ทำแล้วใครจะเอาไป แต่เรื่องค้างคาใจก็จางหายไปเมื่ออยู่ ๆ ก็มีนาฬิกายางของเล่นเด็กสีขาวทาบลงบนข้อมือเธอ

    อาจารย์?

    มองจากมุมนี้ ปาร์คชานยอลเหมือนเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่อาจารย์สอนว่ายน้ำที่มีนิสัยพูดจากวนประสาทและเข้าใจยาก เด็กสาวนั่งนิ่ง มองตามใบหน้าหล่อซึ่งขยับลงมานั่งบนขั้นบันไดข้างเธอพร้อมสวมนาฬิกาของเล่นเด็กให้

    “เดสสีแดงเหมาะกับคุณ แต่สิ่งที่เป็นสีขาวก็เหมาะเหมือนกัน

    ...

    ท่ามกลางเสียงรถที่ยังคงขับเคลื่อนอยู่บนถนนในเวลานี้ เวลาห้าทุ่มห้าสิบแปดนาทีที่บยอนแบคฮีนั่งจ้องหน้าชายหนุ่มที่จับข้อมือเธอพลิกไปมาเพื่อดูว่านาฬิกาของเล่นเด็กเรือนนี้มันเข้ากับข้อมือเล็ก ๆ ของเธอมากแค่ไหน

    รอยยิ้มของผู้ชายเข้าใจยากอย่างอาจารย์ชานยอลกำลังทำให้เธอรู้สึกตกอยู่ในอันตราย เด็กสาวจึงพยายามบอกตัวเองว่าที่อีกฝ่ายแสดงออกแบบนี้ก็คงเพราะอยากปลอบใจเรื่องนาฬิกาที่หายไป และสงสารบยอนแบคฮีที่ไม่มีใครในวินาทีสุดท้ายของวันคล้ายวันเกิด

    สุขสันต์วันเกิดนะ แบคฮี

     

     

    ติ๊ดติ๊ด...

    00:00 am

     

     

     

    TBC

     

     
     

    มีคนบ่น ๆ ว่า พี่คะ ลงฟิคในธัญวาลัยได้ปะ คือหนูไม่อยากเปิดไปเปิดมาสลับหน้าจอเข้ามลินเวิวอะคร๊ แบบว่าเข้เกด ก็เรยอยากให้ไปทันวารัย แต่ทีนี้ เราเปงทาสเว็บเด็กดีงัย ชั่ปเต้อสี่ก็เรย ไม่ต้องตัดไปไหน อยู่ในนี้ด้วยกันในห้องขังรวม นั่งล้อมวงกันเปงวงกลม ก่อกองไฟเทียม ร้องเพลงโอ้เมื่อมีไฟไฟไฟลุกขึ้นแจ่มจ้า

    คือชั้นไม่ได้อยากจะแกล้งมะ แต่ตอนนี้มันก็ 6432 คำแร้ว มันยาวแร้ว พอชั้นลงคัททุกตอน เด็กสาวผู้ไร้เดียงสาก็เขินอ่อนพร้อมถามว่า อีกแร้วหลอ ไรเงี้ย

    สปอยล์ตอนหน้านิดนึงก็ได้ว่าต้องเหนื่อยกันอีกครั้งกับการสลับเข้ามลินเวิว

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×