ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #36 : Season 2 | Painkiller 11 :: Little Raccoon (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.28K
      220
      4 พ.ค. 60


    ? cactus



     

    Chapter 11

    Little Raccoon

     

     

     

    ชาร์ลทำตามสัญญาจริง ๆ พิสูจน์ได้จากกอดอุ่น ๆ ที่ทำให้แบคฮยอนหลับยาวจนตื่นสาย ถ้าไม่ได้จุนมยอนโทรตามก็คงไปเรียนไม่ทันแน่ เป็นเช้าวันจันทร์ที่เหนื่อยจัง เหนื่อยที่ต้องกลั้นยิ้มตอนเห็นชาร์ลงอแงอยากนอนกอดกันต่อแทนที่จะลุกไปไหน

    เหนื่อยจริง ๆ นะ... ทั้งตัวแล้วก็หัวใจเลย

    เรียนไม่รู้เรื่อง... เป็นเพราะชาร์ลเอาแต่นอนซบแก้มกับโต๊ะแล้วจ้องหน้าเขาตลอดทั้งช่วงเช้า ยิ้มบ้าง ยักคิ้วบ้าง แต่ที่ร้ายแรงที่สุดก็คงเป็นตอนทำปากจุ๊บใส่ ตอนนั้นแบคฮยอนกลัวเหลือเกินว่าจะมีใครหันมาเห็นเข้า เขาจินตนาการออกเลยว่าจะถูกแซวอย่างไร คงไม่วายหาว่าเป็นคู่รักสวีทกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา

    คาบบ่ายนักเรียนต้องขยับโต๊ะออกจากกันเพราะอาจารย์ให้ทำข้อสอบย่อย ได้ยินเพื่อนคุยกันว่าอาจารย์ท่านนี้ค่อนข้างดุ แต่ก็ใจดีมากพอที่จะเอาคะแนนส่วนนี้ไปบวกกับปลายภาคเพื่อให้นักเรียนได้เกรดเฉลี่ยที่ดีขึ้น

    ...

    เด็กหนุ่มลูกครึ่งมองความวินาศสันตะโรบนกระดาษข้อสอบ ชาร์ลี ฮอปส์รู้สึกเหมือนจะตายเพราะบทกวีที่ให้อ่านวนกี่แสนล้านรอบก็คงเข้าไม่ถึงความโรแมนติกของคนเกาหลีสมัยก่อน คำถามแรกในหัวคือทำไมเด็กรุ่นนี้ต้องมาเรียนอะไรที่น้ำเน่าและเอามาปรับใช้จริงในชีวิตไม่ได้อย่างนี้

    ชาร์ลกุมขมับพลางขมวดคิ้ว อยากจะเหลาคำตอบสั่ว ๆ ให้มันจบไปแต่ก็ไม่อยากสอบตกจนได้รับบทลงโทษโง่ ๆ ที่ทางหอพักพึงจะมีให้ ขอลอกโมจิก็ไม่ได้เพราะอาจารย์ให้นั่งเรียงตามลำดับเลขที่ เด็กหนุ่มหันซ้ายขวาอยู่ในที สุดท้ายโลกหม่น ๆ ซึ่งถูกล้อมไปด้วยโจทย์บทกวีน้ำเน่าก็มีแสงสว่างส่องขึ้นมา เมื่อชาร์ลี ฮอปส์หันไปเห็นว่าคิมจุนมยอนนั่งอยู่ฝั่งขวามือ

    ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความโง่ของชาร์ล และภาพตอนไอ้หมอนั่นปฏิเสธเรื่องจ้างทำการบ้านให้วันนั้นก็ผุดเข้ามาในหัวทันทีเมื่อเขาคิดอยากได้ความช่วยเหลือจากมัน คิ้วที่ขมวดมุ่นค่อย ๆ คลายออกหวังให้หน้าตาลูกครึ่งฝรั่งดูเป็นผู้เป็นมิตรในสายตาไอ้คนใจร้ายขึ้นมาบ้าง ชาร์ลี ฮอปส์ไม่สามารถเข้าถึงบทกวีบ้า ๆ นี่ได้ ดังนั้นเขาจึงอยากลองเสี่ยงดูสักครั้งด้วยการชูนิ้วชี้ขึ้นมาเป็นการบอกว่า ขอคำตอบข้อหนึ่งหน่อย

    จุนมยอนลดระดับสายตาลงมองนิ้วอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความเงียบในห้องซึ่งมีอาจารย์สุดโหดเดินวนทุกซอกทางเดิน และในระหว่างที่ชาร์ลี ฮอปส์กำลังลุ้นว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นมิตรภาพชั่วข้ามคืนที่นอนคุยกันเป็นชั่วโมงได้หรือไม่ สุดท้ายไอ้หมอนั่นก็หันกลับไปให้ความสนใจข้อสอบตัวเองเสียอย่างนั้น!!!

    “Asshole... เขาขยับปากด่าแบบไม่มีเสียงพลางกลอกสายตามองหาความช่วยเหลืออื่น แต่ก็ไม่มีใครหันมาบอกว่าถามสิ ฉันตอบได้หมดเลย เพราะตอนนี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่ดวงตาที่ฉายแต่แววขอความช่วยเหลือทั้งนั้น

    เอาสิ ขนาดเลือดเกาหลีร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างพวกนั้นยังตอบไม่ได้ คงไม่ต้องพูดถึงชาร์ลี ฮอปส์

    ...

    ชาร์ลหันไปสะดุดตากับจุนมยอนอีกครั้ง และคราวนี้หมอนั่นชูสามนิ้วขึ้นมาเป็นสัญญาณบอกว่าโจทย์กำลังจะได้รับคำตอบที่ถูกต้อง ไม่สิ... เขาไม่รู้หรอกว่ามันถูกหรือไม่ แต่อย่างน้อยคำตอบที่ได้จากไอ้หมอนั่นมันต้องดีกว่าการเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเองเป็นไหน ๆ

    ดวงตาสีน้ำตาลเทามองไปยังเพื่อนตัวขาวอีกครั้ง คราวนี้จุนมยอนหันซ้ายขวาดูลาดเลาก่อนจะรัวการใบ้นิ้วให้เพื่อนลูกครึ่งที่ส่งสัญญาณมือถาม ชาร์ลรีบขยี้ปลายดินสอลงบนกระดาษคำตอบด้วยความเร็วทั้งหมดที่เขามี และพอกลุ่มจองแจวอนเห็นจึงถลึงตาเป็นเชิงขู่ปนขอความช่วยเหลือ แต่ระยะจากหมอนั่นห่างจากจุนมยอนพอสมควร คนซวยจึงกลายเป็นชาร์ลี ฮอปส์ที่ถูกไอ้หมอนั่นมองกดดัน

    เด็กหนุ่มลูกครึ่งใบ้คำตอบที่ได้จากจุนมยอนให้แจวอน คนที่อยู่รอบข้างก็พลอยได้รับผลบุญนี้ไปด้วย สถานการณ์รอบข้างเริ่มกดดันขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้องคอยระวังอาจารย์หันมาเห็น แต่อีกแค่สองข้อเท่านั้นความทรมานก็จะสิ้นสุดลง และตำแหน่ง Loser  ก็ต้องตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่เขา!!!

    แต่ฝันทั้งหมดก็ถูกดับลง ด้วยมือสุดแสนร้อนระอุของอาจารย์ป้าหงำเหงือกที่วางลงบนท้ายทอยเขา...

    เพลินเลยนะมิสเตอร์ชาร์ลี

    ...

    ชาร์ลเงยหน้ามองเจ้าของเสียงเย็นยะเยือก มองรอยยิ้มพิฆาตของเจ้าหล่อนที่ส่งมายังเขาก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปทางคิมจุนมยอน ไอ้เตี้ยตัวขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกคว้าท้ายทอยไว้เช่นกัน ขณะที่พวกโกงความตายอย่างจองแจวอนและผองเพื่อนกำลังค่อย ๆ เนียนหันไปให้ความสนใจกับกระดาษคำตอบของตนเอง

    แบคฮยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีที่เห็นเพื่อนใหม่และเพื่อนวัยเด็กกำลังเจอปัญหา ชาร์ลและจุนมยอนจำต้องลุกขึ้นตามแรงของอาจารย์ป้าเมื่อเธอบีบบังคับ ท่ามกลางสายตาเพื่อนร่วมห้องที่มองอย่างเวทนาก่อนจะพยักหน้าราวกับจะบอกให้ทั้งคู่เตรียมพร้อมรับชะตากรรม

    ออกไปคุกเข่าข้างนอก!!!”

     

     

    *

     


    เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ่อยไหม?

    ไม่หรอก เพราะไม่ค่อยมีใครกล้าหือกับเธอ

    ทำไมป้าถึงโหดขนาดนั้น แล้วเมื่อไหร่มันจะสิ้นสุดลง?

    จนกว่าจะหมดคาบ

    “Jesus Christ”

    ชาร์ลสบถเบา ๆ พลางหันกลับเข้าไปในห้องเรียนที่อาจารย์ป้ายังคงพร่ำสอนบทกวีน้ำเน่าอย่างออกรส สิบห้านาทีแล้วที่เขากับจุนมยอนชูแขนขึ้นเหนือศีรษะขณะนั่งคุกเข่าอยู่หน้าประตู อย่างน้อยอาจารย์ก็ยังมีน้ำอกน้ำใจให้เราได้เรียนด้วยแม้จะอยู่ในช่วงเวลาทำโทษ

    เด็กหนุ่มตัวสูงขยับตัวยุกยิกอย่างอึดอัด เขานั่งท่านี้มานานเกินไปและคาดว่าอีกไม่นานตะคริวคงเข้ายึดครองพื้นที่บนร่างกายจนชาไปหมดแน่ ที่ไมอามี่อย่างมากก็แค่ถูกเอาหนังสือฟาดหัวจนสั่น แต่มันก็จบเพียงเท่านั้นไม่ได้ยาวนานขนาดนี้

    ชาร์ลชำเลืองมองคนข้าง ๆ ซึ่งไม่ได้ปริปากบ่นสักคำทั้งที่ตัวเองก็ต้องซวยเพราะเขา สีหน้าจุนมยอนตอนนี้ยังคงเรียบเฉย ดวงตาทอดมองไปยังหน้าต่างตรงทางเดิน ดูเหมือนว่าหมอนี่กำลังตั้งใจฟังอาจารย์สอนอยู่

    ไม่หงุดหงิดที่ฉันเป็นคนทำให้นายอดคะแนนส่วนนี้หรือไง? อดไม่ได้ที่จะถาม ปกติพวกเนิร์ด ๆ ต้องจริงจังกับเรื่องคะแนน ซึ่งมันแปลกเกินไปที่จุนมยอนจะนิ่งเฉย แต่เจ้าของผิวขาวกลับส่ายศีรษะปฏิเสธ ชาร์ลจึงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าทำไม?

    วันนี้เราไม่ได้คะแนนก็จริง แต่ที่สำคัญคืออะไรรู้ไหม? จุนมยอนหันมายิ้มเล็ก ๆ ซึ่งชาร์ลก็ให้ความเงียบเป็นคำตอบว่าเขากำลังรอฟังอยู่ สิ่งสำคัญคืออาจารย์ไม่ได้หักคะแนนทั้งที่เราลอกข้อสอบกันไงล่ะ

    เด็กหนุ่มคิดตามพลางหันกลับเข้าไปในห้องเรียน มองหน้าดุ ๆ ของอาจารย์ป้าซึ่งยังคงจริงจังกับการสอน เสียงแหลม ๆ ที่เปล่งออกมาดูเหมือนคนใจร้ายขณะถ่ายทอดความรู้ผ่านชอล์กบนกระดาน

    ภายนอกดูโหด ใคร ๆ ก็กลัว แต่ความจริงเธอไม่ใช่คนใจร้ายหรอก

    นายรู้ได้ไง บางทีเธออาจจะไปหักทีหลังก็ได้

    ปีก่อนฉันเรียนกับเธอ มันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กับฉันหรอกนะ อาจารย์ก็แค่อยากให้นักเรียนซื่อสัตย์กับตัวเอง ไม่ทุจริต เธอก็เลยแสดงออกแบบนั้น จุนมยอนยิ้ม ถ้าได้อยู่กับใครในช่วงเวลาหนึ่ง เราก็จะค่อย ๆ ได้เรียนรู้ว่าคน ๆ นั้นเป็นคนยังไง

    ...

    แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่ใจเขามากน้อยแค่ไหนน่ะนะ

    ชาร์ลมองเสี้ยวหน้าคนพูดพร้อมคิดตาม มันรวมถึงเขาด้วยหรือเปล่าที่ไอ้หมอนี่พยายามสังเกตเพื่อจับจุดว่าชาร์ลี ฮอปส์เป็นคนอย่างไร เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนได้เห็นมุมมองใหม่ทุกครั้งที่ได้คุยกับคิมจุนมยอน แต่ต่างกันตรงที่ชาร์ลี ฮอปส์ไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้างถึงขนาดนี้

    ขอบใจที่ให้ลอก

    ตั้งใจเรียนสิ คราวหน้าฉันจะได้เป็นฝ่ายขอลอกบ้าง

    ตลกเหรอ ให้ฉันเก่งเรื่องบทกวีน้ำเน่าแบบนี้สู้ให้เอาแปรงลบกระดานมาหวีผมดีกว่า

     

    ตุบ!

     

    ...

    ...

    แบคฮยอนเม้มปากกลั้นขำเมื่ออาจารย์เอาแปรงลบกระดานฟาดลงกลางศีรษะชาร์ลที่เผลอพูดเสียงดังเกินไปหน่อย เพื่อนทั้งห้องจึงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งตอนอาจารย์ขยี้จนผมสีน้ำตาลเทากลายเป็นสีขาวเพราะเศษชอล์กก็ยิ่งขำกันไปใหญ่จนเด็กห้องอื่นชะโงกหน้าออกมาดู

    ชาร์ลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพยายามสงบสติอารมณ์เพราะไม่รู้จะหาเหตุผลไหนไปตอบโต้กับอาจารย์ป้าที่ชนะเขาได้ทุกหนทาง ไอ้คนข้าง ๆ ที่รอดตัวจากแปรงลบกระดานก็แอบกลั้นยิ้มอยู่เงียบ ๆ จนน่าหงุดหงิด ชาร์ลหันหลังไปทางน้องน้อยเพราะอยากรู้ว่าคนเดียวที่ไว้ใจจะหักหลังเขาหรือไม่ และสุดท้ายชาร์ลี ฮอปส์ก็ได้คำตอบเป็นความนุ่มนิ่มที่กำลังเอามือปิดปากทั้งที่ดวงตาคู่นั้นกำลังหยีลง

     

    เดี๋ยวเถอะโมจิ คืนนี้จะขยี้ให้แหลกเลย

     

     

     

    *

     

     

    นายมันตัวดี ความจริงก็สะใจที่ฉันโดนทำโทษใช่ไหมล่ะ?

    ไม่จริง ชาร์ลใส่ร้ายเรา

    เสียงของทั้งคู่สะท้อนอยู่ในห้องน้ำแคบ ๆ แบคฮยอนเอาแต่อมยิ้มขณะก้มลงพับขากางเกงขึ้นเพื่อช่วยสระผมให้เขา ชาร์ลนอนในอ่างไม่มีน้ำทั้งชุดนักเรียน เขาเงยหน้าขึ้นพาดต้นคอกับขอบอ่างพลางสบตากับคนตัวเล็ก

    นายหัวเราะ ฉันเห็น

    ก็ตอนชาร์ลโดนตีหัวมันตลกจริง ๆ นี่

    เห็นไหม สุดท้ายนายก็ยอมรับ น้องน้อยยิ้มตาหยีพลางเปิดฝักบัวล้างฝุ่นชอล์กออกจากผมเขา ชาร์ลี ฮอปส์จำต้องทนหัวขาวโดนเพื่อนล้อจนถึงเลิกเรียน ไอ้พวกนั้นน่าฆ่าให้ตายซะให้หมด พรุ่งนี้จะไปทำขนมกี่โมง?

    อาบน้ำเสร็จก็ไปเลย น่าจะสักสองทุ่ม

    อืม

    ทำไมเหรอ? แบคฮยอนฉายแววตาสงสัย บีบแชมพูลงบนมือพร้อมขยี้ลงบนผมสีอ่อนของอีกคน

    จะได้ไปพร้อมกัน

    พร้อมเรา?มือนุ่มนิ่มหยุดชะงัก ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบ ตอนนั้นชาร์ลี ฮอปส์ถึงได้รู้ว่าไม่ควรพูดมันออกมาเพราะความหัวร้อนสุมอยู่ในใจ

    เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะตอนเย็นเขาเห็นโมจิยืนคุยกับคิมไคเรื่องทำขนมบ้าไรนั่น ด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่แรกชาร์ลี ฮอปส์ก็ไม่ได้มีความพิศวาสคิดอยากทำด้วยอยู่แล้ว แต่ที่รับปากไปก็เพราะไม่อยากให้คิมไคมันมายุ่งกับคนของเขา และที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ก็เป็นเพราะเหตุผลเดียวกัน

    ทำไม ไม่ได้หรือไง?

    ตอนหัดทำชาร์ลยังไม่เห็นจะสนใจ เราก็เลยงงอะ ถึงจะมองกลับหัว แต่เขาก็เห็นความน่ารักน่าหยิกของน้องน้อยได้ชัดเจนดี เด็กหนุ่มขมวดคิ้วพลางกลอกตา ทำไมเขาต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้ทั้งที่อยากฝังมันไว้ในใจด้วย

    ขี้สงสัยจริง ฉันว่างมาก โอเคไหม?

    ว่างหรือไม่อยากให้เราอยู่กับคิมไคกันแน่

    อะไร? ดูสีหน้าขึงขังเหมือนรวบรวมความกล้ามาอย่างดีก่อนถามนั่นสิ ให้ตายเหอะว่ะ โมจิมันกล้า

    พูดมาสิ พูดออกมาเลย

    พูดบ้าไรล่ะ มีหน้าที่สระผมก็สระไป เซ้าซี้อยู่ได้ ชาร์ลขมวดคิ้วถลึงตาขู่ แต่แบคฮยอนกลับอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีเสียอย่างนั้น เดี๋ยวก็ทำให้ร้องไห้ซะหรอก

    งั้นชาร์ลก็ล้างผมเองไปเลย ก้มหน้าลง แล้วก็ฉีดฝักบัวใส่ให้เลือดไหลลงหัวจนตายอะ น้องน้อยย่นจมูกทำท่าจะลุกขึ้นยืน เขาจึงรีบคว้าข้อมือเล็กไว้พร้อมออกแรงดึงจนความนุ่มนิ่มโน้มลงมาใกล้

    กำลังไล่ต้อนฉันเหรอ คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ไม่เคยถูกใครทำแบบนี้ และเด็กหนุ่มไม่เคยคิดว่าคนอย่างปาร์คแบคฮยอนจะมีความกล้ามากขนาดนี้ด้วย เป็นเพราะยอมอ่อนโยนด้วยหรือไง หยุดเลยนะถ้าไม่อยากให้เขากลับไปใจร้าย ชาร์ลี ฮอปส์ไม่ชอบตัวเองเวลารู้สึกแบบนี้

    เราเป็น แบคฮยอนเงียบไปราวกับว่ากำลังรวบรวมความกล้า เรายังคงสบตากันระหว่างที่ชาร์ลี ฮอปส์ต้องการชัยชนะ และเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ ลิตเติ้ลโมจิ... ของชาร์ล... ไง

    ...

    ดวงหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อเพราะคำพูดของตน แบคฮยอนกลอกตาล่อกแล่กหลังจากเห็นสีหน้าของชาร์ลซึ่งคงช็อกอยู่ไม่น้อยที่ได้ยินเรื่องน่าอายแบบนั้นจากปากเขา เพราะอยากเอาชนะงั้นเหรอ ใช่... ลึก ๆ แล้วแบคฮยอนคิดอย่างนั้น แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นอย่างไรเขานึกไม่ออกแล้ว ในหัวมันตื้อไปหมดเลย

    ดวงตาสีน้ำตาลเทาของคนตัวโตกำลังจะละลายแบคฮยอนอยู่แล้ว คนตัวเล็กล้างผมให้เพื่อนขณะให้พื้นกระเบื้องในห้องน้ำเป็นจุดยึดสายตา ลิตเติ้ลโมจิของชาร์ล งั้นเหรอ... พูดออกไปได้ยังไงกันนะแบคฮยอน น่าอายมากเลยอะ

    “Hey”

    ... แบคฮยอนถูกจับคางให้หันกลับมาสบตากัน ตอนนี้สีหน้าของเพื่อนวัยเด็กไม่ได้แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์หรืออยากเอาชนะอีกแล้ว เราเพียงมองกันและกันเหมือนฉากก่อนเริ่มจูบ ซึ่งคราวนี้... มันก็เป็นอย่างเช่นทุกครั้ง

    เมื่อชาร์ลรั้งท้ายทอยเขาลงไปจูบทั้งที่อยู่ในท่าแบบนี้

    มันแปลกไปจากจูบคราวก่อนแต่ก็ยังคงความเขินไว้ได้เป็นอย่างดี วันนี้แบคฮยอนก็ได้เรียนรู้อีกอย่างแล้วว่าพูดจาแบบไหนจะได้รับความน่ารักจากชาร์ลอย่างนี้ ซึ่งเขาคิดว่ามันคุ้มค่ากับความขลาดอายที่ทำลงไปเหลือเกิน

    ริมฝีปากที่ถูกขบเม้มละเลียดจูบ เนิบนาบ เชื่องช้าสู้จังหวะการเต้นของหัวใจไม่ได้ ฝักบัวที่เคยอยู่ในมือตกลงไปบนพื้น ปล่อยให้น้ำเย็นไหลไปตามความรู้สึกของเด็กสองคนที่มีต่อกัน แบคฮยอนเขินจนไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไรแล้ว... ทั้งที่อยู่ในท่าแบบนี้แต่ชาร์ลก็สามารถฆ่าเขาให้ตายได้ด้วยริมฝีปากและลิ้นอุ่น ๆ ที่รู้ดีที่สุดว่าต้องทำอย่างไรกับคนอย่างปาร์คแบคฮยอน

    ทั้งคู่ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง คนตัวเล็กค่อย ๆ ลืมตาขึ้นหลังจากซึมซับความรู้สึกเหล่านี้ไว้ในหัวใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าคนเจ้าเล่ห์ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นยิ่งกว่าเดิม

     

    ถ้าน่ารักแบบนี้จะยอมพูดว่าหึงสักครั้งก็ได้

     

     

     

    50%

     



    คืนวันทำขนมค่อนข้างครึกครื้น เพราะแทอูบังคับให้คนที่ไม่ชอบทำกิจกรรมมานั่งติดแหงกอยู่ด้วยกัน แรก ๆ กลุ่มจองแจวอนดูไม่ค่อยอยู่สุขนัก คนเหล่านั้นทำท่าจะแอบชิ่งออกไปข้างนอกตลอดเวลาแต่ก็ถูกประธานหอขู่ไว้ว่าถ้าปีนี้ใครไม่มีส่วนร่วมจะส่งรายชื่อให้ผู้ดูแลหอทำโทษ

    แบคฮยอนคิดว่าเพื่อน ๆ ค่อนข้างฝืนใจจนแทบสำลักความน่าเบื่อลงบนพื้น แต่พอมีการเล่าเรื่องตลกบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น เสียงหัวเราะของเด็กปีสามดังไปทั่วโรงอาหารจนผู้ดูแลหอออกมาดุถึงสามครั้ง แทอูเคยบอกว่าผู้ชายคนนั้นหลับลึกมาก ถ้าถึงขั้นตื่นได้แสดงว่าเสียงของพวกเราต้องดังน่าดู

    อันที่จริงชาร์ลก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกับแจวอน เพราะอีกฝ่ายแสดงออกให้รู้อย่างชัดเจนว่าเบื่อและทำท่าอยากกลับไปนอนแห้งในห้องมากกว่านั่งแพ็คขนมใส่กล่องเป็นไหน ๆ แต่ก็นั่นแหละ ชาร์ลก็เป็นอีกคนที่ติดหลุมพรางมุกตลกจนได้แม้ว่าบางทีอาจจะงงและไม่เข้าใจก็ตาม

    ลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจมุก แต่ก็ระเบิดหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลังตอนได้รับคำอธิบายจากจุนมยอน หลายคนพากันมองแรง บ้างก็บอกว่าชาร์ลหัวช้า เขาขำไปจนถึงสวรรค์แล้วแต่เพื่อนวัยเด็กของเขาดีเลย์ไปเกือบยี่สิบนาทีถึงเก็ทมุกเหล่านั้น บ้างก็บอกว่าไม่แปลกเพราะชาร์ลเป็นลูกครึ่ง

    ทุกคนมีรอยยิ้มกระทั่งจีซูเล่าเรื่องผี

    คนที่ภาพลักษณ์ภายนอกดูเหมือนจะโหดไม่กลัวอะไรในโลกกำลังนั่งขมวดคิ้ว ใช่ เขาพูดถึงชาร์ลนั่นแหละ แบคฮยอนสะกิดจุนมยอนให้สังเกตคนตัวโตที่รัวมือแพ็คขนมกลบเกลื่อนจนคนมองต้องหลุดขำออกมา

    ชาร์ลกลัวเหรอ...

    อะไร?

    เหงื่อออกด้วย ต้องกลัวมากแน่ ๆ แบคฮยอนเอานิ้วชี้จิ้มสันกรามอีกคนก่อนจะถูกคว้ามือไว้

    เดี๋ยวจะโดนนะโมจิ ใครจะไปกลัวเรื่องเหลวไหลแบบนั้นกัน Bullshit... ชาร์ลถลึงตาคาดโทษน้องน้อยที่นั่งห่อไหล่เอามือป้องปากขำจนตาหยี พอหันไปทางไอ้คิมไคที่นั่งไม่ห่างจากตรงนี้ก็เริ่มจะของขึ้นเพราะมันไม่กลัวเรื่องบ้าบอนั่นอย่างที่เขาเป็นอยู่

    พี่ชายกูเป็นกรรมกรก็ต้องนอนไซต์ก่อสร้างถูกปะ เออ เรื่องมันเกิดขึ้นคืนนั้น

    ไม่มีอะไรให้เล่าแล้วเหรอ พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อกันอยู่ได้ ชาร์ลแทรกขึ้นมา เด็กที่ชอบฟังเรื่องผีเป็นชีวิตจิตใจจึงหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน

    ไรวะชาร์ลี คนกำลังอิน

    มันเป็นเรื่องที่ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ยังจะเชื่อกันอีกคนที่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการเรียนหยิบเรื่องวิชาการขึ้นมาอ้างได้ด้วย แบคฮยอนตกใจมาก ๆ

    กูว่าหรั่งมันกลัวแต่ทำเปงเก๊ก

    โหดมาตั้งแต่วันแรกจะมากลัวผีแค่นี้ได้นะมึง เขินตายห่า

    “Are you fucking kidding me?” เด็กหนุ่มลูกครึ่งแค่นหัวเราะ ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนชะงักไปเมื่อแทอูเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังพร้อมเลื่อนหน้าเข้าใกล้หูของเขา

    งั้นไปพิสูจน์ความกล้ากันหน่อยดีไหมล่ะเพื่อน?

    ...

    ไอ้ยองมินพอจะรู้จักบ้านร้างเด็ด ๆ แถบชานเมืองอยู่ ได้ข่าวว่าเฮี้ยนจนคนละแวกนั้นไม่กล้าออกมาข้างนอกตอนกลางคืนเลย ถ้าใครไม่ได้กลับบ้านคืนวันศุกร์ไปกันดีปะ? ว่าไงวะ? แทอูหันไปถามความเห็นเพื่อนที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เด็กอย่างพวกเขาเป็นวัยกำลังอยากรู้อยากลองอยู่แล้ว บางคนที่ตั้งใจจะกลับเย็นวันศุกร์จึงเปลี่ยนแผนเป็นเช้าวันเสาร์แทน

    เอาดิ ๆ เราไม่ได้ทำเรื่องสนุกแบบนี้กันมาตั้งนานแล้ว

    สนุกกับป้าแกสิวะ!!!

    โหย ไม่เอาได้ปะ กูกลัวผี คร้านจะล้มหัวทิ่มเข่าถลอกปอกเปิกคลานไปขอให้ไอ้จุนมยอนทำแผลให้อีก เด็กคนหนึ่งโพล่งขึ้นมา เมื่อนึกถึงประสบการณ์นรกเมื่อปีก่อนที่เด็กปีสองครึ่งห้องพร้อมใจกันไปล่าท้าผีจนโดนคนกันเองอำจนหกล้มไถลไปกับพื้น

    ชาร์ลรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างออกมาจากหมอนั่น เห็นไหมว่าเขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่เกลียดเรื่องผี

    ว่าไงวะ? แทอูกอดคออีกฝ่ายพร้อมหันไปยักคิ้วกับเพื่อน ๆ ซึ่งกำลังรอความสนุกที่ใกล้จะมาถึง

    “NO... FUCKING... WAY...” ชาร์ลพูดช้า ๆ แต่เน้นพร้อมแกะมือประธานหอออกจากไหล่ เขากอดอกนั่งยืดหลังตรงอย่างคนมีฟอร์ม แต่ใครสองคนที่มองมานั้นคงดูออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่าชาร์ลี ฮอปส์แม่งกลัวผี

    และนั่นก็คือความนุ่มนิ่มและคิมจุนมยอน

    หรือว่านายกลัว... ชาร์ลี? อ้าปากพูดทีก็ไม่เจริญหูเลยนะ ชาร์ลสบตากับคิมไคที่นั่งเงียบมานาน และสายตาของหมอนั่นเหมือนอยากจะทับถมเอาให้เขายอมรับตรงนี้ว่ากลัวผี ซึ่งชาร์ลี ฮอปส์ก็ไม่ได้กลัวจนหลอนขนาดนั้น แต่เวลาฟังแค่คิดภาพตามไปด้วย ภาพมันก็ออกมาเป็นฉาก ๆ ให้ได้กลัวไงวะ แต่พอถูกคิมไคหยามหน้าแบบนี้ก็ดูเหมือนว่าต้องโยนความกลัวที่มีไว้ข้างหลังไปก่อน

    ความรู้ใหม่เว้ย ไอ้หรั่งมันกลัวผี

    ใจปลาซิวค้า

    พวกนายก็พูดเกินไป ใคร ๆ ก็กลัวผีได้ทั้งนั้นแหละน่า หลานสาวฉันก็กลัว ชาร์ลขยับปากด่าแบบไม่มีเสียงหลังจากได้ยินประโยคหลัง สาบานเลยว่าถ้าไอ้คิมไคนั่งอยู่ตรงหน้าเขามันคงได้หงายหลังเพราะปากตัวเองแน่

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ตอนเป็นเด็กชาร์ลเคยเดินเข้าบ้านผีสิงแล้วเดินหาวออกมาเพราะผีในนั้นไม่น่ากลัวเลย เราเห็นกับตาอะ ทุกสายตาหันไปทางความนุ่มนิ่มที่โพล่งขึ้นมาหวังจะปกป้องเพื่อนวัยเด็ก

    ชาร์ลขมวดคิ้วเหล่มองน้องน้อยที่เล่าเรื่องบ้าบอคอแตกซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต บ้านผีสิงงั้นเหรอ สวนสนุกยังไม่เคยไป นับประสาอะไรกับเรื่องพรรค์นั้นกัน

    เหยด มีปกป้อง

    ชั้ลก็รักของชั้ลเข้าใจบ้างไหม

    แบคฮยอนควรนั่งฟังเฉย ๆ นะเอาจริง ไม่หนุกเลยเห็นปะ

    เมื่อกี้ถ้าเป็นคิมไคกูก็จะเจ็บอยู่นิดนึงอะ

    55555555555555555555555555555555555

    ถ้าไม่เชื่อรอดูคืนวันศุกร์ก็ได้ เดี๋ยวเรากับชาร์ลจะเดินเข้าไปในบ้านร้างสองคนแล้วเดินออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้ดู คราวนี้เป็นจุนมยอนที่ชำเลืองมองความเล่นใหญ่ของน้องน้อย ขณะที่เขาชี้หน้าตัวเองเป็นเชิงว่าจะไม่ถามความเห็นกันหน่อยหรือ...

    โมจิเม้มปากพลางพยักหน้าหงึก ราวกับจะบอกว่าชาร์ลไม่ต้องกลัวนะ มีแค่เราคนเดียวเท่านั้นแหละที่จะได้เห็นว่าคนกะโหลกกะลาก็กลัวผีเป็น

    ให้ตายเหอะ บางทีเวรกรรมก็อาจมาในรูปแบบความนุ่มนิ่มอย่างปาร์คแบคฮยอน

     

     

    *

     

     

    เรื่องพิสูจน์ความกล้าที่บ้านร้างอะไรนั่นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ที่ทุกคนต้องสนใจคืองานโรงเรียนซึ่งกลุ่มจองแจวอนก็เข้าร่วมด้วย นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะหน้าตาของคนกลุ่มนั้นสามารถเรียกให้เด็กผู้หญิงมากมายเข้ามาซื้อขนมได้ และนั่นหมายความว่าปีนี้หอแรคคูนจะมีเงินกองกลางมากกว่าปีก่อน

    แบคฮยอนชอบกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยกัน เขาชอบตอนเพื่อนร่วมชั้นนับเงินทอนไม่ถูกจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้าง ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือถามต่อกันเรื่อย ๆ ผ่านไปเป็นนาทีจึงคิดได้ว่าถ้าหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าแอปเครื่องคิดเลขก็คงได้คำตอบ แต่สุดท้ายจุนมยอนก็ให้คำตอบปากเปล่าโดยไม่ต้องนับนิ้วหรือพึ่งเครื่องคิดเลข

    ดูเหมือนว่านายจะไม่กลัวผี

    กว่าจะปลีกตัวจากแฟนคลับที่เข้ามาขอถ่ายรูปได้คิมไคก็ใช้เวลาอยู่กับตรงนั้นไปมากพอสมควร เด็กหนุ่มกระดกน้ำดื่มพร้อมมองมาสคอตแรคคูนหัวโตที่ยืนบิดตัวซ้ายขวาสร้างความน่ารักเรียกความสนใจจากคนในงาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กปีอื่นจากโรงเรียนเดียวกัน หรือคนนอกที่เข้ามาร่วมเป็นประจำเหมือนทุกปี

    เหตุเกิดเพราะปีนี้ไม่มีใครอยากทนอยู่กับความร้อนในชุดมาสคอต แบคฮยอนจึงอาสารับหน้าที่นี้แทน ซึ่งไคคิดว่าลิตเติ้ลบันนี่ในชุดแรคคูนก็น่ารักไปอีกแบบ ทั้งข้างนอกและจิตใจนั่นแหละ คนอะไรน่าบีบจริง ๆ

    ถ้าฉันเป็นชาร์ลีคงตื้นตันใจมากที่เมื่อคืนเพื่อนสนิทถึงกับออกตัวปกป้อง อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นแรคคูนหัวโตชูนิ้วหัวแม่มือพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย เรายังคงคุยกันโดยที่เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียว ฉันก็กลัวผีเหมือนกัน แต่เพื่อนนั่งอยู่เยอะแบบนั้นถ้าพูดไปตรง ๆ คงเสียฟอร์มแย่เลยว่าไหม?

    แม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ไคก็รู้ว่าแรคคูนตัวน้อยกำลังหัวเราะจนไหล่สั่น เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มผิวแทนเลือกโกหกเพื่อทำให้บทสนทนาไปในทางเดียวที่เขาวางไว้ จะหาว่าเจ้าเล่ห์ก็ได้ แต่แบคฮยอนไม่ใช่คนที่น่าพูดความจริงด้วยไปเสียทุกเรื่องหรอก

    เด็กผู้ชายคนหนึ่งเคยเลี้ยงกระต่ายหูตกอยู่สองตัว เป็นคู่รักกันและเขาคิดว่าอีกไม่นานมันคงคลอดความรักออกมาให้ได้เชยชม แต่วันหนึ่งตัวเมียก็ตายไปด้วยเหตุผลบางอย่างซึ่งเด็กชายคนนั้นไม่สามารถทำความเข้าใจได้ เขาร้องห่มร้องไห้ขณะมองไปยังตัวผู้ แววตาคู่นั้นยังคงทอประกายอย่างไร้เดียงสา แต่เด็กชายคิดว่าหัวใจของมันคงแหลกสลายไปแล้ว

    พอเวลาผ่านไปกระต่ายตัวผู้ก็เริ่มตัวโตขึ้น เด็กชายคนนั้นนั่งจ้องหน้ามัน เกลี่ยนิ้วชี้ไปตามขนนุ่มพร้อมมองความน่ารักระหว่างใช้ฟันข้างหน้ากัดแครอท เขาชอบความรู้สึกแบบนั้นจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าได้ลองทำกับแบคฮยอนดูสักครั้งคงจะรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย

    ดูเหมือนว่าวันนี้ชาร์ลีจะฮอตนะ มาสคอตแรคคูนหันไปตามที่ไคพูด ก่อนจะพบเพื่อนวัยเด็กที่ยืนทำหน้ากระอักกระอ่วนใจตอนมีผู้หญิงรายล้อมพร้อมถามว่า

    พี่ชายอยู่หอไหนคะ?

    พี่อยู่หออะไร?

    มีแฟนหรือยังคะ?

    ประโยคเหล่านั้นน่ะ แบคฮยอนได้ยินชัดเลย

    น่าสนุกดี คิมไคยิ้มทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากเด็กลูกครึ่งซึ่งพยายามจะแทรกตัวออกมาจากตรงนั้น แต่ก็ถูกเรียกไปถ่ายรูปอีกอยู่ดี คาดว่าไม่เกินเย็นนี้ชาร์ลี ฮอปส์คงกลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียลแน่

    ขอโทษนะ อยู่หอแรคคูนใช่ไหม... พอจะเห็นจุนมยอนหรือเปล่าคะ?

    ทั้งคู่หันไปตามเสียง ก่อนจะพบเด็กสาวผมสั้นตาโตในชุดโรงเรียนสตรีล้วน สีหน้าของเธอดูประหม่าและไม่ค่อยชอบบรรยากาศตอนนี้ แต่เธอกลับมาคนเดียวผิดกับคนอื่นที่มาพร้อมเพื่อนฝูง

    เหมือนจะไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้นะ แต่เดี๋ยวคงกลับมาประจำบูธแล้วล่ะ ผมไปตามให้เอาไหม?

    ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเดิน ๆ รอแถวนี้ เธอยิ้มตามมารยาทพลางชะโงกหน้ามอง

    คยองมิน?

    นั่นไง มาพอดีเลย คิมไคพยักหน้าไปทางคนผิวขาวซึ่งถือกล่องลังขนมอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังให้ความสนใจกับบูธต่าง ๆ ที่ทางหอแรคคูน หอสิงโต หออินทรี และหอเสือโคร่งจัดเรียงเป็นทางยาวทั้งสนาม

    แบคฮยอนประหลาดใจอยู่นิดหน่อยที่เห็นสีหน้าตื่นตระหนกของจุนมยอนเมื่อเห็นเธอคนนี้ เอาจริง ๆ เขาก็ไม่ใช่คนถนัดเรื่องความรักเลยสักนิด แต่บรรยากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ทำให้คิดว่าต้องใช่แน่ ๆ ทั้งความประหม่า สายตาที่เดี๋ยวมองเดี๋ยวหลบของทั้งคู่น่ะ นั่นแฟนจุนมยอนเหรอ?!!!

    ฉันโทรมาแล้วแต่คิดว่านายคงยุ่งอยู่เลยไม่ได้รับ

    อ๋อ ตอนนั้นฉันขายของอยู่น่ะก็เลยไม่ได้ดูโทรศัพท์เลย ว่าแต่... เธอมานานแล้วเหรอ? ถ้าไม่ติดว่าใส่หมวกมาสคอตอยู่ตอนนี้ แบคฮยอนจะยิ้มให้กว้างแล้วมองจุนมยอนเอาให้เขินตายไปเลย ดูท่าทางตอนยิ้มเจื่อน ๆ เพราะพยายามทำให้ทุกอย่างดูปกตินั่นสิ น่ารักชะมัด

    เปล่าเลย ๆ อันที่จริงฉันเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง

    หิวไหม คอแห้งหรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำให้ จุนมยอนที่เคยนิ่งเฉยมาตลอดกลายเป็นอีกคนไปแล้ว

    คิมไคกับมาสคอตแรคคูนหันมามองหน้าอย่างรู้กัน คนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทอนเงินมาตั้งแต่ช่วงเช้าโดยไม่ยอมให้เพื่อนผลัดคิวเพราะกลัวทอนเงินผิดกำลังจะไปซื้อน้ำให้เด็กผู้หญิงล่ะ!!!

    จุนมยอนควรทำอะไรสักอย่างแล้ว ปีนี้มันต่างจากปีก่อนตรงที่มีคนสนใจว่าเขากำลังยืนคุยกับใคร ผิดกับปีที่แล้วซึ่งไม่มีใครมองมาด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มผิวขาวพยักหน้าเพื่อเรียกให้เด็กสาวโรงเรียนสตรีล้วนเดินไปด้วยกัน ท่ามกลางผู้คนที่มีทั้งคนนอกคนในปะปนอยู่มากมาย

    เด็กสาวนิ่วหน้าเพราะถูกเบียด จุนมยอนหันกลับไปอีกครั้งราวกับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาให้เกียรติโดคยองมินมาตลอดสองปีที่รู้จักกัน แต่วินาทีนั้นเด็กหนุ่มเลือกยื่นมือไปจับข้อมืออีกฝ่ายและนั่นเป็นความกล้าทั้งหมดที่คนอย่างคิมจุนมยอนพึงจะมี

    เด็กสาวก้มหน้าลงอย่างขลาดอาย แม้ว่าสีหน้าของเราทั้งคู่จะเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร แต่หัวใจที่อยู่ตรงหน้าอกข้างซ้ายกลับเต้นถี่รัวและมีเพียงตัวเองเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงมัน

    อย่าลืมเก็บไปแซวนะ

    มาสคอตแรคคูนพยักหน้ารัว ๆ อย่างเห็นด้วยกับคำพูดของคิมไค แบคฮยอนกำลังสับสนว่าที่ร้อนไปทั้งหน้าแบบนี้เป็นเพราะหัวแรคคูนหรือจุนมยอนกับเด็กผู้หญิงคนนั้นกันแน่

    ฉันต้องไปแล้วล่ะ ไว้เจอกันตอนเย็นนะลิตเติ้ลบันนี่คิมไควางมือลงบนศีรษะแรคคูนตัวน้อยอย่างเอ็นดู ก่อนจะถูกลากไปถ่ายรูปอีกครั้ง เขายังคงยิ้ม แค่คิดว่าบางทีเพื่อนสนิทอาจจะกำลังมีความรัก หัวใจก็พองโตเฉยเลย ขี้ตื่นเต้นจริง ๆ แบคฮยอน

    เฮ้

    ...!!!” คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความคิดสะดุ้งสุดตัวเพียงเพราะใครบางคนโผล่มาตรงหน้า ชาร์ลคว้าเอวอ้วน ๆ ของเจ้าแรคคูนเอาไว้เพื่อไม่ให้หงายหลังไป ก่อนจะช่วยถอดหัวมาสคอตออกให้น้องน้อยจนเห็นหน้าแดง ๆ และกลุ่มผมซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อตกใจหมดเลยอะ

    ทีงี้ทำขวัญอ่อน ตอนไอ้คิมไคมายืนจิ๊จ๊ะด้วยเห็นยืนบิดไปบิดมา คนเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดมองคาดโทษ

    เราบิดตั้งแต่เช้าแล้วไม่ได้เพิ่งบิดตอนคิมไคมายืนด้วยสักหน่อย

    อย่ามาอ้าง ผิดก็คือผิด

    ผิดที่ยืนบิดเหรอ อย่างนั้นก็ได้ ชาร์ลหรี่ตามองคนตัวเล็กที่อ้าปากเถียงไม่หยุด บอกว่าผิดก็คือผิดสิทำไมต้องเถียงอยู่เรื่อย

    เออ แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกัน

    คุยเรื่องสนุก มองหน้าดื้อ ๆ ที่เข้ากับผมเปียกเหงื่อนั่นตอนพูดจาไม่น่ารักกับเขาสิ คนกำลังเหนื่อย ๆ ควรได้ยินอะไรแบบนี้เหรอ กว่าจะหนีจากดงผู้หญิงนั่นได้คิดว่าง่ายใช่ไหม เดี๋ยวจะโดน

    สงสัยอยากโดนทำให้อายตรงนี้

    ล้อเล่น เมื่อกี้เราคุยเรื่องนั้นอยู่ แบคฮยอนชี้ไปทางหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ยืนคุยกันด้วยสีหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความประหม่า ชาร์ลเลิกคิ้วมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก ชื่อคยองมิน เราได้ยิน

    ลิลลี่ต่างหาก

    เราได้ยินกับหูชาร์ลยังจะเถียงอีกเหรอ ตัวเองก็ยืนอยู่ตรงนั้นจะได้ยินได้ไงอะ อื้อ!” ชาร์ลบีบปากคนตัวเล็กที่เอาแต่เถียงไม่หยุด

    เห็นแล้วอิจฉาเพื่อนล่ะสิ? แบคฮยอนไม่ได้ส่งเสียงขานตอบในลำคอหรือส่ายศีรษะปฏิเสธ โมจินุ่มนิ่มเอาแต่จ้อง เขาจึงก้มลงไปใกล้ ๆ อยากมีแฟนหรือไงโมจิ?

    ...

    น้องน้อยแกะมือเขาออกก่อนจะแกล้งมองไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม จุนมยอนไม่เห็นเคยเล่าให้เราฟังเลย จะใช่แฟนจริง ๆ หรือเปล่านะ

    คนไม่สำคัญก็งี้แหละโมจิ

    โห พูดงี้เอาน้ำสาดหน้าเราเลยดีกว่าอะ จากที่เคยหันหน้าหนีไม่ยอมสบตา วินาทีนี้ความนุ่มนิ่มถึงกลับหันมาถลึงตามอง ก่อนจะหลับตาปี๋เพราะเขาบีบน้ำจากขวดจนพุ่งใส่หน้าแบคฮยอนจริง ๆ ชาร์ลอะ มันเข้าจมูกเรานะ แค่ก

    เด็กหนุ่มลูกครึ่งพยายามกลั้นขำ เขาใช้สองมือโอบใบหน้าขาวขึ้นมาจ้องใกล้ ๆ ทั้งที่ยังถือขวดน้ำอยู่ อีกฝ่ายยังคงสำลักอย่างน่าเอ็นดู และเขารู้ว่าแบคฮยอนไม่มีทางโกรธจริง ๆ พอสาดแล้วก็บ่น ไม่เห็นจะเก่งเลย

    เอามาให้เราบีบคืนมั่ง คนตัวเล็กพยายามจะใช้มือแรคคูนแย่งขวดน้ำจากเขาไป และชาร์ลี ฮอปส์รู้ดีว่าจะปราบพยศน้องน้อยอย่างไรให้ยอมอยู่นิ่ง ๆ ซึ่งนั่นก็คือการจับศีรษะทุยกดลงกับอกตัวเอง

    แบคฮยอนค้างอยู่ท่านั้น เขารู้สึกเหมือนร่างกายมันขยับไม่ได้เหมือนกับทุกครั้งที่ถูกชาร์ลแตะต้องตัว

    ให้ยืมเช็ดหน้า

    ...

    ซักให้ด้วยล่ะ

    ชาร์ลกดศีรษะแรคคูนตัวน้อยจนแทบจมกับอกตัวเอง คนตัวเล็กไม่ได้ยื้อหรือผลักออกเพราะตอนนี้คนรอบข้างกำลังมองมาอย่างสนใจ เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งกระทั่งน้องน้อยเอาหน้าถูกับแผงอกแกร่ง ริมฝีปากที่เคยพูดจากวนประสาทถึงยิ้มออกมา

    สระผมหรือเปล่าเนี่ย หัวเหม็น

    จริงเหรอ? แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นถามอย่างตกใจ ก่อนจะเอาอุ้งมือแรคคูนจับศีรษะตัวเอง ชาร์ลยังคงแกล้งคนตัวเล็กอย่างนึกสนุก เขาขมวดคิ้วปิดจมูกจนน้องน้อยหน้าเสีย เมื่อเช้าเราสระผมแล้วนะ แต่คงเพราะอยู่ในชุดมาสคอตนานเกินไปมันเลยเหม็น

    เสียงซื่อ ๆ พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ ชาร์ลเป็นคนเก็บอาการเก่งแต่เขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับความน่ารักนาน ๆ อย่างไร เพราะสุดท้ายเขาก็หลุดยิ้มออกมาอยู่ดี

    ไหนลองอีกที เด็กหนุ่มตัวสูงจับปอยผมสีเข้มขึ้นมาดม ตอนนั้นแบคฮยอนถึงได้รู้ว่ามีคนกำลังมองอยู่ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มเด็กผู้หญิงห้าคนที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดและรัวถ่ายรูปไม่หยุด อีกทั้งยังตะโกนว่า หอมแก้มกันเลย จูบกัน ๆ จนเขาต้องรีบผละตัวออกมาสร้างระยะห่างกับเพื่อนวัยเด็ก

    ยัยพวกสาววายนั่น ชาร์ลจิ๊ปาก เขาจำเรื่องที่เด็กผู้หญิงคนนั้นคุยกันระหว่างถ่ายรูปได้ว่าวันนี้จะเก็บภาพคู่วายหล่อ ๆ ไปลงในทวิตเตอร์ให้หมด

    เพราะชาร์ลนั่นแหละ เห็นไหมโดนถ่ายรูปเลย

    ทำไม? กลัวหรือไง?

    เราหมายถึงชาร์ลต่างหาก ถ้ามีคนเอารูปไปลงเดี๋ยวก็หงุดหงิดอีก ทำมาเป็นรู้ใจ เดี๋ยวก็หอมแก้มโชว์เอาให้สาววายตายคาที่ตรงนี้ซะหรอก

    มันก็จริง เด็กหนุ่มไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ แต่ถ้าเป็นรูปคู่กับนายฉันจะยอมให้เป็นกรณียกเว้นก็ได้

    โห... คนถูกแอทแท็คถึงกับพูดไม่ออก ชาร์ลนี่ยังไงกันอะ ชอบเซอร์ไพรส์แบบไม่ให้ได้ตั้งตัวอีกแล้ว

    น้ำเหลือ ดื่มซะสิ แบคฮยอนมองขวดน้ำที่อีกคนยื่นให้ แต่พอจะรับเอาไว้ก็ถูกแย่งกลับไปเสียก่อน ฉันจะป้อนให้แล้วกัน เพราะแรคคูนอย่างนายคงดื่มเองไม่ได้

    คนปากแข็งยังคงทำให้ใจเต้นแรง แบคฮยอนย่นจมูกใส่ก่อนจะอ้าปากงับหลอดที่เขาไม่คิดว่าชาร์ลจะเอามาเพื่อใช้ดื่มเอง นอกจากความสนุกของงานโรงเรียนแล้ว... เขายังชอบบรรยากาศแบบนี้อีกด้วย อันที่จริงแบคฮยอนไม่ได้คาดหวังว่าชาร์ลจะหยิบยื่นน้ำใจให้หรอก แค่เดินมาคุยด้วยคนที่ยืนเป็นมาสคอตตลอดทั้งวันก็ชื่นใจแล้ว


    แต่พอชาร์ลป้อนน้ำและเสยผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อให้อย่างนี้

    แรคคูนตัวเล็ก ๆ ก็มีกำลังใจยืนต่อไปได้จนถึงหัวค่ำเลย


    ต้องเอาชุดไปเก็บกี่โมง?

    หกโมง ทำไมเหรอ?

    งั้นเสร็จแล้วรอฉันอยู่ตรงนี้ ชาร์ลเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งพร้อมเช็ดน้ำออกจากมุมปากสีเชอร์รี่ให้ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลึงเบา ๆ พร้อมแววตาที่แบคฮยอนคงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวจะพาไปเปลี่ยนชุด

     

     


    TBC




    จิง ๆ ว่าจะคัทตอนนี้แล้ว แต่มันตรงกับพาร์ดี้ย์วันเกิดน้องน้อย ชั้นเรยปล่อยให้เค้าผุดผ่องก่อนที่จะเขียนปู้ยี้ปู้ยำน้อง แต่แบบ คัทก็ไม่ใช่ประเดนสำคันหรอกเอาจิง ถ้าใจเรากาม เราก็ไม่จำเปนต้องมีคัทมาหล่อเลี้ยง ว่าแต่ชุดแรคคูนนี่ถอดยากปะ 


    แล้วถ้าแรคคูน ใครจะหาร

     





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×